แรงผลักของเลโอทำให้ไทเกอร์เสียหลักล้มลงบนเตียงขนาดใหญ่ที่อยู่กลางห้อง VIP ไฟในห้องสลัวแสงสีแดงอมม่วง เสียงเพลงจากชั้นล่างดังแผ่วๆ ลอดเข้ามา สร้างบรรยากาศที่ทั้งลึกลับและร้อนแรง"เลโอ! เดี๋ยวก่อน!" ไทเกอร์พยายามลุกขึ้น แต่เลโอก้าวเข้ามาทันที ยันไหล่เขาให้นอนลงบนเตียงอีกครั้ง"มึงเคยรู้ไหมว่าที่กูอยู่ใต้มึงกูแค่ยอมมึงเท่านั้นเอง " เลโอกระซิบ ใบหน้าเขาเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าว"เลโอ มึงเมา..." ไทเกอร์พยายามพูด เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจของเลโอ แต่ดวงตาของเขากลับคมชัดและรู้ตัวเต็มที่"กูไม่ได้เมา" เลโอพูดเสียงต่ำ มือขวาจับใบหน้าของไทเกอร์ไว้แน่น "กูรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไร" ไม่รอให้ไทเกอร์ตอบ เลโอประกบริมฝีปากลงบนริมฝีปากของไทเกอร์อย่างรุนแรง จูบของเขาร้อนแรงและเร่าร้อน แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา ที่เขามักจะเป็นฝ่ายยอมให้ไทเกอร์นำครั้งนี้เลโอเป็นฝ่ายบดขยี้ริมฝีปาก ลิ้นของเขาบุกรุกเข้าไปในปากของไทเกอร์อย่างไร้ความปราณี ดูดดื่มรสชาติทุกอณูในโพรงปาก ไทเกอร์ตกใจกับความเปลี่ยนแปลงของเลโอ พยายามผลักออก แต่เลโอจับข้อมือทั้งสองข้างของเขาไว้เหนือศีรษะ"มึงทำอะไรวะ?" ไทเก
สามสัปดาห์ผ่านไปหลังจากคืนนั้น ชีวิตของไทเกอร์เหมือนตกอยู่ในห้วงความมืด เขาเดินกลับเข้าเพนท์เฮาส์ที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความอบอุ่น แต่ตอนนี้กลับเงียบสงัดจนน่ากลัว"กลับมาแล้ว..." เขาพูดกับตัวเอง ไม่มีใครตอบรับ ไม่มีเสียงเลโอที่เคยถามว่าวันนี้เป็นอย่างไร ไม่มีกลิ่นอาหารที่เลโอมักจะทำไว้รอเขา มีเพียงความว่างเปล่าและความเงียบงันไทเกอร์วางกระเป๋าลงและทรุดตัวลงบนโซฟา โซฟาตัวเดิมที่พวกเขาเคยนั่งดูหนังด้วยกัน เคยหัวเราะด้วยกัน เคยนอนหนุนตักกันในยามอ่านหนังสือ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และเหมือนทุกวันที่ผ่านมา เขากดหาชื่อเลโอในรายชื่อผู้ติดต่อ นิ้วลังเลอยู่เหนือปุ่มโทร แต่สุดท้ายก็วางลง"มึงโทรไปก็เหมือนเดิม" มาร์คพูดขึ้น เพื่อนสนิทของเขานั่งลงข้างๆ โซฟา "มันไม่รับสาย ไม่ตอบข้อความ ตอนนี้มันคงไม่อยากยุ่งกับมึงแล้ว""กูทำพลาดไปแล้ว มาร์ค... กูไม่น่าพูดแบบนั้น" ไทเกอร์ถอนหายใจ"มึงเรียนรู้แล้ว ทุกคำพูดมีน้ำหนัก โดยเฉพาะคำพูดที่ทำร้ายคนที่รักมึง" มาร์คตบบ่าเพื่อน "แต่ตอนนี้ต้องให้เวลาเขา มึงขอโทษไปจนครบร้อยครั้งแล้ว ถ้าเขาพร้อมจะคุยกับมึง เขาจะกลับมาเอง""แต่กูคิดถึงเลโอ..." ไทเกอร์
ไทเกอร์ยืนมองท้องฟ้าสีเทาผ่านกระจกของเพนท์เฮาส์หรูที่ครั้งหนึ่งเคยมีเสียงหัวเราะของสองคน ฝนเริ่มโปรยปรายเม็ดเล็กๆ เหมือนฟ้ากำลังร้องไห้แทนหัวใจของเขา สามสัปดาห์แล้วที่เลโอหายไป ไทเกอร์ส่งข้อความหาเขาวันละหลายครั้ง โทรจนสายเกือบขาด แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ"ไอ้ห่า...ไอ้โง่" ไทเกอร์สบถตัวเองเบาๆ ก่อนจะยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มอึกใหญ่ความเงียบที่แผ่ซ่านไปทั่วห้องทำให้จิตใจของเขาเหมือนถูกบีบรัด แม้เพนท์เฮาส์จะกว้างใหญ่และหรูหรา แต่ทุกซอกทุกมุมล้วนมีเงาของเลโอซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นโซฟาตัวโปรดที่เลโอชอบนั่งอ่านหนังสือ โต๊ะทำงานที่พวกเขาเคยมีความสัมพันธ์อันเร่าร้อน หรือแม้แต่ถ้วยกาแฟที่เลโอใช้เป็นประจำซึ่งยังวางอยู่บนชั้นในครัว ราวกับรอให้เจ้าของกลับมามาร์คพยายามชวนเขาออกไปเที่ยว พยายามปลอบใจว่าเขาควรปล่อยวาง แต่ไทเกอร์ไม่ฟัง เขายังคงยึดติดกับความทรงจำและหวังว่าวันหนึ่งเลโอจะกลับมา หรืออย่างน้อยก็ให้โอกาสเขาได้พูดคำว่า "ขอโทษ" แค่ครั้งเดียวไทเกอร์หมุนสร้อยคอรูปเสือที่เลโอเคยให้เป็นของขวัญวันเกิดไปมาระหว่างนิ้ว คำว่า "Forever Yours" ที่สลักอยู่ด้านหลังเหมือนเป็นการเยาะเย้ยความรู้สึกของเขาในตอนนี้ ช
สองปีผ่านไปอย่างรวดเร็วไทเกอร์นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในออฟฟิศส่วนตัวที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ภูริกรุ๊ป กองเอกสารวางอยู่เรียบร้อยตรงหน้า เขาเพิ่งเสร็จสิ้นการประชุมกับทีมการตลาดซึ่งเขาเป็นผู้จัดการฝ่าย แม้เพิ่งจบการศึกษามาได้เพียงปีเดียว ด้วยความสามารถและชื่อเสียงของครอบครัว เขาก็ได้รับตำแหน่งสำคัญในบริษัทอย่างรวดเร็วเมื่อทุกคนออกจากห้องหมดแล้ว ไทเกอร์ถอนหายใจยาว ถอดเนคไทสีแดงเลือดนกออกและวางลงบนโต๊ะ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูปฏิทินวันที่ 5 ตุลาคม...วันที่เขาและเลโอเคยไปดูหนังด้วยกันเป็นครั้งแรก สองปีผ่านไปแล้ว แต่ความทรงจำยังคงชัดเจนเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานไทเกอร์ล้วงกระเป๋าสตางค์ออกมา แง้มมันเปิดดูภาพถ่ายเก่าๆและแบงค์พันสามใบนั้น ที่เขาเก็บซ่อนไว้ในช่องลับ ภาพที่เขาและเลโอถ่ายด้วยกันในห้องโฟโต้บูธหลังจากดูหนังเสร็จ ทั้งคู่ยิ้มอย่างมีความสุข เลโอสวมแว่นตากรอบสี่เหลี่ยม ไทเกอร์สวมหมวก ช่วงเวลาที่พวกเขาเคยมีความสุขด้วยกัน ช่วงเวลาที่ไม่อาจหวนกลับ"พี่ไทเกอร์คะ ยังไม่กลับเหรอคะ" เสียงของสาวน้อยจากแผนกประชาสัมพันธ์ดังขึ้นจากประตูที่เปิดแง้ม"อืม กำลังจะกลับแล้ว" ไทเกอร์รีบเก็บรูปแ
ความพลุกพล่านของคาเฟ่ในย่านธุรกิจกลางกรุงเทพฯ ช่วงบ่ายวันศุกร์ทำให้ไทเกอร์ต้องพยายามหาที่นั่งติดหน้าต่างที่มาร์คบอกว่าจองไว้แล้ว เขามองหารอบๆ จนเห็นมาร์คโบกมือเรียกจากมุมหนึ่งของร้าน ไทเกอร์เดินตรงไปที่โต๊ะ มาร์คลุกขึ้นคว้ามือเขามาจับ แล้วโอบไหล่ทักทาย"สวัสดีไอ้อดีตหนุ่มสุดฮอต ตอนนี้กลายเป็นเจ้าของบริษัทหนุ่มสุดเคร่งเครียดไปแล้ว" มาร์คทักทายเพื่อสนิทแล้วหัวเราะ"กูไม่ได้เครียดขนาดนั้น แล้วมึงล่ะ งานคุณมึงเป็นไงบ้าง? คดีเยอะรึเปล่า?" ไทเกอร์ยิ้มบางๆ เขาทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามเพื่อนสนิท"ก็โอเค" มาร์คยักไหล่ "แต่วันนี้กูไม่อยากคุยเรื่องงาน นานแล้วที่เราไม่ได้คุยกันแบบจริงจัง ยกเว้นในห้องประชุมเรื่องบริษัทมึงจ้างบริษัทกูเป็นที่ปรึกษากฎหมาย"พนักงานเดินมารับออเดอร์ ไทเกอร์สั่งกาแฟดำร้อน ส่วนมาร์คสั่งลาเต้เย็นและเค้กช็อกโกแลต"แล้วนี่มึงนัดกูมาเพื่อ...?" ไทเกอร์ถามเมื่อพนักงานเดินจากไป"คุยเรื่องเก่าๆ บ้าง" มาร์คชะโงกหน้ามาใกล้ขึ้น "กูเพิ่งเจอพีทเมื่อวาน จำได้ใช่มั้ย? เพื่อนร่วมห้องของเลโอไง" ดวงตาของไทเกอร์วาบขึ้นทันที ใบหน้าที่เคยนิ่งเฉยเมื่อครู่ตึงเครียดขึ้นในทันที "อืม... จ
เครื่องบินลงจอดที่สนามบินสุราษฎร์ธานีในเวลาบ่ายสาม ไทเกอร์เดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้า พบคนถือป้ายชื่อของเขาอยู่ เป็นชายหนุ่มในชุดสูททรงดี"คุณภูริ มัตถพานิช ใช่ไหมครับ? ผมพล จากบริษัททวีวงศ์กรุ๊ป ได้รับมอบหมายให้มารับคุณครับ"ไทเกอร์ชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อบริษัท ทวีวงศ์กรุ๊ป ชื่อนี้ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล แต่เขาพยายามสะกดความรู้สึกนั้นไว้ คงเป็นแค่ความบังเอิญ อิงทวีเป็นชื่อที่อาจพบได้ทั่วไป"ครับ ผมเอง" ไทเกอร์ตอบสั้นๆ"เชิญทางนี้ครับ รถรออยู่ด้านนอก ผมจะพาคุณไปที่พักก่อน การประชุมจะเริ่มพรุ่งนี้เช้า 9 โมงครับ"พลนำทางไทเกอร์ไปยังรถเบนซ์สีดำที่จอดรออยู่ ระหว่างทางพลอธิบายกำหนดการทั้งหมด รวมถึงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับผู้ร่วมประชุม แต่ไทเกอร์แทบไม่ได้ฟังอะไรเลย ความคิดของเขาวนเวียนอยู่กับชื่อบริษัทนั่น"ทวีกรุ๊ปเป็นบริษัทเกี่ยวกับอะไรครับ?" ไทเกอร์ถามขึ้นกลางคัน ตัดบทการอธิบายของพล"อ๋อ ทวีวงศ์กรุ๊ปเป็นผู้นำด้านธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทในภาคใต้ครับ เริ่มต้นจากธุรกิจครอบครัว ปัจจุบันขยายไปทั่วภาคใต้และกำลังขยายไปภาคเหนือด้วย ในโปรเจคนี้พวกเขาจะเป็นฝ่ายบริหารรีสอร
ไทเกอร์นั่งจ้องแผนผังโครงการบนโต๊ะทำงานในห้องพักโรงแรม เวลาตีสองของคืนที่สาม แต่เขายังไม่มีทีท่าว่าจะเข้านอน กาแฟแก้วที่สี่วางอยู่ข้างมือ สมองของเขาทำงานไม่หยุด สลับไปมาระหว่างรายละเอียดโปรเจคและภาพใบหน้าของเลโอการประชุมในสองวันที่ผ่านมาไม่ต่างจากวันแรก เลโอยังคงมีท่าทีเย็นชา และแสดงออกอย่างมืออาชีพ ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความเป็นกันเองหรือความคุ้นเคยใดๆ ให้เห็น ทุกครั้งที่ไทเกอร์พยายามจะอยู่ตามลำพังกับเลโอ อีกฝ่ายก็มักจะมีข้ออ้างให้ต้องรีบไปที่อื่นเสมอไทเกอร์ถอนหายใจ หยิบปากกาขึ้นมาวงในแบบแปลนส่วนที่ต้องแก้ไข นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่เขาทบทวนแผนงานทั้งหมด เขาต้องการให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่แค่เพื่อโปรเจคหรือบริษัทของเขา แต่เพื่อพิสูจน์บางอย่างกับเลโอด้วย"พอสักที เดี๋ยวรุ่งเช้าหลับในห้องประชุมหรอก" เขาบอกตัวเอง วางปากกาลง แล้วลูบใบหน้าอย่างเหนื่อยล้าเขาเดินไปที่หน้าต่าง เปิดผ้าม่านออก มองวิวยามค่ำคืนของเมืองสุราษฎร์ฯ เห็นแสงไฟจากตัวเมืองและแสงจันทร์สะท้อนบนผิวน้ำไกลๆ อากาศของเมืองนี้ช่างแตกต่างจากกรุงเทพฯ ทำให้เขานึกถึงช่วงเวลาที่ไปค่ายอาสาสมัยเรียน... ชายหาด ทะเล... แล
ด้วยความระมัดระวัง เลโอเริ่มไต่ลงไปตามทางเดินแคบที่ลื่นเพราะโคลนและน้ำฝน การเคลื่อนตัวช้ามาก เพราะเขาต้องแน่ใจว่าแต่ละก้าวมั่นคง ฝนยังคงตกหนัก ทำให้การมองเห็นแย่ลง แต่เขายังคงมุ่งหน้าต่อไปเมื่อเขาลงมาถึงซอกหินที่ไทเกอร์ติดอยู่ เลโอเห็นสภาพของไทเกอร์อย่างชัดเจน ขาซ้ายของเขาบิดเบี้ยวผิดรูป มีเลือดไหลจากแผลฉีกขาดยาวบนต้นขา และก้อนหินขนาดใหญ่กดทับลำตัวส่วนล่างไว้"เลโอ? ลงมาที่นี่ทำไม?""คุณอย่าพูดมาก" เลโอตอบเสียงเข้ม เขาก้มลงสำรวจสภาพของไทเกอร์ มือสัมผัสขาที่บาดเจ็บอย่างระมัดระวัง"กระดูกน่าจะหัก และแผลนี้ลึก เราต้องรีบพาคุณออกไปจากที่นี่"เลโอเริ่มออกแรงพยายามเคลื่อนก้อนหินที่กดทับไทเกอร์ ใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะสามารถขยับมันออกไปได้"เราไม่มีเวลามาก ผมจะพยายามพาคุณขึ้นไปทางนั้น" เขาชี้ไปที่ทางเดินที่เขาลงมา "แต่คุณต้องช่วยตัวเองด้วย คุณพอไหวไหม?" เลโอพูดขณะที่หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋า พันรอบต้นขาของไทเกอร์แน่นๆ เพื่อห้ามเลือด"กูไหว... ขอบคุณที่มาช่วยกู" ไทเกอร์พยักหน้า แม้ใบหน้าจะซีดเผือดเพราะความเจ็บปวดเลโอไม่ตอบ เขาเพียงสอดแขนเข้าใต้รักแร้ของไทเกอร์ ช่วยพยุงให้ลุกขึ้นยืน ไท
เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกที่ชั้น 37 หัวใจของไทเกอร์เต้นแรงขึ้น เขากำลังกลับบ้านที่มีเลโอรออยู่ ความคิดนั้นทำให้เขารู้สึกตื้นตันจนแทบหายใจไม่ออก เขากดรหัสประตูเพนท์เฮาส์และพบว่าไฟในห้องนั่งเล่นเปิดอยู่ กลิ่นอาหารหอมฟุ้งมาจากห้องครัว"เลโอ?" เขาเรียก"ในครัว!" เสียงตอบกลับมาไทเกอร์เดินเข้าไปในห้องครัว และพบเลโอกำลังยืนหันหลังให้ คนตัวสูงในเสื้อยืดขาวกับกางเกงยีนส์กำลังคนอะไรบางอย่างในหม้อ"มึงทำอาหารเหรอ?" ไทเกอร์ถามพลางวางกระเป๋าเอกสารลงบนเคาน์เตอร์"อืม ระหว่างรอมึงกลับ กูขอรับผิดชอบเรื่องอาหารเย็น มึงติดประชุมนานกว่าที่คิด" เลโอหันมายิ้ม"โทษทีนะ พวกนักลงทุนจีนโทรมาเพิ่มเติม กูเลยต้องคุยกับพวกเขาต่ออีกชั่วโมง""ไม่เป็นไร" เลโอตอบ "กูว่าเอาไว้คุยกันที่โต๊ะอาหารเถอะ อีกห้านาทีก็เสร็จแล้ว" ไทเกอร์มองนาฬิกา เห็นว่าเกือบทุ่มแล้วไทเกอร์ยืนมองเลโอที่กำลังวุ่นอยู่กับการทำอาหาร รู้สึกราวกับกำลังฝัน หลายปีที่ผ่านมา เขานึกภาพเลโอในบ้านของเขาบ่อยครั้ง นึกถึงความรู้สึกที่จะกลับมาเจอเลโอหลังเลิกงาน แต่ไม่คิดว่าจะได้สัมผัสความรู้สึกนั้นจริงๆ เขาเดินเข้าไปหาเลโอ โอบกอดจากด้านหลัง ซุกใบหน้าลงกับต้นคอ
ท้องฟ้าเป็นสีเทาอ่อนในเช้าวันที่ไทเกอร์จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เขาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางอย่างเชื่องช้า เหลือบมองโทรศัพท์เป็นระยะ รอการติดต่อจากเลโอ แต่ไม่มีข้อความหรือสายเรียกเข้าใดๆห้าวันผ่านไปตั้งแต่ค่ำคืนที่เขาไปหาเลโอที่บ้าน ตลอดห้าวันนี้ ไทเกอร์แทบไม่ได้เจอเลโอเลย ได้ยินแต่ข่าวจากทีมงานว่าเลโอติดประชุมต่อเนื่อง และมีธุระสำคัญที่ต้องจัดการ ไทเกอร์ส่งข้อความไปอีกครั้งเมื่อคืนก่อนเดินทางTKPuri: พรุ่งนี้กูบินกลับแล้ว มึงจะมาส่งกูที่สนามบินไหม?"ไม่มีคำตอบกลับจากเลโอไทเกอร์ถอนหายใจยาว เขารู้อยู่แล้วว่าทางเลือกนี้อาจจบลงแบบนี้ การที่เลโอไม่ตอบข้อความบ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่พร้อม ทั้งที่ใจหนึ่งหวังว่าจะได้เห็นหน้าเลโออีกครั้งก่อนจากไป แต่ในอีกใจหนึ่งก็เข้าใจรถของโรงแรมมารับไทเกอร์ตามเวลานัด เขาเหลือบมองโทรศัพท์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋า ระหว่างทางไปสนามบิน เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ของสุราษฎร์ธานีเคลื่อนผ่านไป บางที นี่อาจเป็นจุดจบของเรื่องราวระหว่างเขากับเลโอ บางทีการจากกันครั้งที่สองนี้อาจเป็นการจากกันครั้งสุดท้าย"คุณดูเศร้านะครับ ไม่อยากกลับกรุงเทพฯ
ตืด ตืด เสียงวิทยุติดตามตัวดังขึ้น"ข่าวดีครับ! น้ำลดแล้ว และทีมช่วยเหลือกำลังมาที่นี่ พวกเขาบอกว่าจะถึงภายในชั่วโมงนี้""ดีมาก" ไทเกอร์ตอบกลับคนขับรถ"แล้วเรื่องพื้นที่ก่อสร้างล่ะครับ?" เลโอถาม"ทางสำนักงานบอกว่าให้กลับไปก่อน พวกเขาจะส่งทีมสำรวจมาตรวจสอบความเสียหายก่อน แล้วค่อยนัดวันใหม่" " คนขับรถตอบทั้งไทเกอร์และเลโอพยักหน้า เริ่มเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับ ขณะที่เลโอกำลังพับเสื้อใส่กระเป๋า ไทเกอร์เข้ามาใกล้และกระซิบ"เป็นไงบ้าง? หลับสบายไหม?" ไทเกอร์พยักหน้า แล้วมองไปที่เลโอ"ดีที่สุดในรอบหลายปี" เลโอตอบพร้อมรอยยิ้ม"กูเหมือนกัน" ไทเกอร์ยิ้มตอบ" เมื่อคืนกูนอนฝันดีมาก""ฝันถึงอะไร?" เลโอถาม"ฝันว่าพวกเราได้กลับมาได้รักกัน" ไทเกอร์ตอบพร้อมรอยยิ้ม "นั่นไม่ใช่ความฝันแล้วล่ะ"เลโอยิ้มตอบทั้งสองมองกันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ ไม่มีความเจ็บปวดหลงเหลืออยู่อีกต่อไป มีเพียงความหวังสำหรับอนาคตที่ดีกว่า และโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งคืนแห่งการเปิดใจในบ้านพัก กลางป่า อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ดีกว่าเดิม ไม่ใช่แค่คู่นอน อีกต่อไป แต่อาจเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งและมั่นคงกว่า... สิ่ง
หลังจากต่างคนต่างบอกฝันดีซึ่งกันและกันแล้ว ไทเกอร์นอนมองดูแผ่นหลังของเลโอที่นอนตะแคงข้างหันหลังให้เขาอยู่ ไทเกอร์อยากเข้าไปนอนกอดเหลือเกิน เขาจะทำยังไงดีนะคะ และแล้วไทเกอร์ก็ตัดสินใจดันตัวเข้าไปหาเลโอแล้วพลิกอีกคนเข้ามาในอ้อมกอดของเขา เลโอไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดตอนนี้เขาอยาจจะปล่อยไปตามหัวใจตัวเองถึงแต่อยากจะขอเวลาก็ตาม"กูให้เวลามึงเต็มที่เลยแต่คืนนี้กูขอมัดจำก่อนได้ไหม นะครับนะ" เสียงไทเกอร์กระซิบข้างหู ลมหายใจอุ่นปะทะซอกคอ ส่งความร้อนซ่านไปทั่วร่างเลโอชะงัก แขนแข็งค้างอยู่ในอ้อมกอดของไทเกอร์ หัวใจเต้นระรัวขณะที่คำว่า "มัดจำ" ยังก้องในหัว เขาควรปฏิเสธ สมองส่วนที่มีเหตุผลบอกให้หยุด ให้เวลาตัวเองก่อนแต่ร่างกายกลับตอบสนองต่างออกไป"เลโอ.. อย่าให้กูต้องรออีกเลยนะ " ไทเกอร์เรียกชื่อเขาอีกครั้ง ฟังดูอ้อนวอนและเร่งเร้า มือหนารั้งร่างของเลโอให้แนบชิดยิ่งขึ้น"มึง..." เลโอกลืนน้ำลาย พยายามเก็บน้ำเสียงให้มั่นคง"มึงไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะต่อรองนะ""แต่มึงรู้ว่ามึงต้องการกูเหมือนกัน" ไทเกอร์ขยับตัว เบียดร่างเข้าใกล้มากขึ้นให้เลโอได้รู้สึกถึงความรู้สึกของเขาที่เริ่มตื่นตัวเลโอสูดลมหายใจเข้าลึก
สามวันผ่านไปอย่างอึดอัดหลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น เลโอทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ตามลำพังกับไทเกอร์ เขามาถึงที่ประชุมในนาทีสุดท้าย รีบออกทันทีที่ประชุมเสร็จ และอ้างว่ามีงานเร่งด่วนทุกครั้งที่ไทเกอร์พยายามขอคุยเป็นการส่วนตัวไทเกอร์นั่งอยู่ในห้องทำงานชั่วคราวที่บริษัททวีวงศ์กรุ๊ปจัดให้ สายตาจ้องที่เอกสารตรงหน้า แต่ความคิดล่องลอยไปไกล เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ"เข้ามาได้" ไทเกอร์เอ่ย"รบกวนเวลาหน่อยได้ไหม?" คุณประพัฒน์ พ่อของเลโอ เปิดประตูเข้ามา"ได้ครับ" ไทเกอร์รีบลุกขึ้นยืน "มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ?""พรุ่งนี้ต้องการให้คุณไปตรวจพื้นที่ก่อสร้างกับเลโอ พวกวิศวกรรายงานว่ามีปัญหาเรื่องพื้นที่ด้านทิศตะวันออก เราอาจต้องปรับแบบบางส่วน" คุณประพัฒน์พูดพลางเดินมานั่งที่โซฟาในห้อง “ไม่มีปัญหาครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าคุณเลโอจะสะดวก" ไทเกอร์พยักหน้าแต่เขาลังเลเล็กน้อยเพราะกลังว่าเลโอจะไม่อยากไปด้วย"ผมสั่งเขาไปแล้ว เขาต้องไป ไม่มีทางเลือก" คุณประพัฒน์ยิ้มน้อยๆไทเกอร์อึ้งไปเล็กน้อย ดูเหมือนคุณประพัฒน์จะรับรู้ถึงความตึงเครียดระหว่างเขากับเลโอ"ผมจะให้คนขับรถพาพวกคุณไป" คุณประพัฒน์ว่
ไทเกอร์หยุดอยู่ที่ประตูห้อง หัวใจของเขาเต้นรัวเร็ว เขายกมือขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเอง ยังรู้สึกถึงรสจูบของเลโอติดอยู่ ส่วนหนึ่งของเขาอยากวิ่งกลับเข้าไปหาเลโอ แต่อีกส่วนรู้ดีว่าสิ่งที่เขาทำเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง"พรุ่งนี้...กูต้องรอพรุ่งนี้" เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะก้าวออกจากห้องไทเกอร์ถูกสวมกอดจากด้านหลังโดยเลโอ ตอนนี้เขาไม่มัวรีรอแล้ว เขาจะทำตามหัวใจตัวเองพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็เป็นเรื่องของพรุ่งนี้ไทเกอร์รั้งร่างของเลโอเข้ามาในอ้อมกอด ลมหายใจร้อนผ่าวปะทะลงบนซอกคอ เลโอสะดุ้ง แต่ไม่ผลักไส ความร้อนจากร่างกายของไทเกอร์แผ่ซ่านผ่านเสื้อผ้า ปลุกความรู้สึกที่ถูกฝังลึกในใจให้ตื่นขึ้น"ไม่ทันได้บอกลากันเลย คิดถึงกูบ้างไหม" ไทเกอร์กระซิบข้างหู ลิ้นร้อนแตะแผ่วเบาที่ติ่งหู"อื้มม...มึง...มึงทำอะไรเนี่ย..."เลโอครางแผ่ว ร่างเขาสั่นสะท้านเมื่อไทเกอร์ดูดติ่งหูไทเกอร์ไม่ตอบ เขาหมุนร่างเลโอให้หันมาเผชิญหน้า ประกบริมฝีปากลงแรงๆ ลิ้นร้อนดุนดันผ่านริมฝีปากที่เผยอ เลโอโอบแขนรอบคอไทเกอร์ทันที ไม่มีความลังเล ไม่มีการผลักไส มีเพียงความกระหายที่ถูกกดทับมานานแสนนาน"กูคิดถึงมึง..." เลโอละริมฝีปากออกพร่ำบอก
แสงแดดสาดส่องผ่านกระจกในห้องประชุมของโรงแรมริมทะเลในสุราษฎร์ธานี ไทเกอร์กำลังนำเสนอความคืบหน้าของโปรเจครีสอร์ทหรูให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติ เขาอธิบายถึงแนวคิดการออกแบบที่ผสมผสานธรรมชาติกับความหรูหราได้อย่างลงตัว พร้อมฉายสไลด์แบบจำลอง 3 มิติที่สวยงาม"และนี่คือแนวคิดห้องพักวิลล่าริมทะเลที่เราวางแผนจะสร้างในเฟสแรก โดยออกแบบให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก และใช้วัสดุท้องถิ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" ไทเกอร์อธิบายอย่างมั่นใจเลโอนั่งเงียบอยู่ที่โต๊ะประชุมด้านขวามือของผู้บริหารทวีวงศ์กรุ๊ป เขามองไทเกอร์อย่างชื่นชมโดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มตรงหน้าช่าง... เปลี่ยนไปจากที่เคยรู้จักเมื่อห้าปีก่อน ไม่มีท่าทีหยิ่งยโส ไม่มีคำพูดเหยียดหยาม มีแต่ความมั่นใจและความเป็นมืออาชีพ"ขอบคุณคุณภูริสำหรับการนำเสนอที่น่าประทับใจ" ประธานบริษัททวีวงศ์กรุ๊ปกล่าว "ตอนนี้ผมคิดว่าพวกเราควรฟังความเห็นจากทีมงานฝ่ายพัฒนาธุรกิจของเราบ้าง คุณกัณต์ดนัย?"เลโอสะดุ้งเล็กน้อย รีบลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ด้านหน้าห้องประชุม เขาและไทเกอร์สบตากันชั่วครู่ ไทเกอร์ยิ้มและพยักหน้าให้เล็กน้อย ก่อนจะเดินไปนั่งในที่ของเลโอ"ขอบคุณครับ" เลโอเปิ
แสงแดดสาดส่องลงมาบนแบบจำลองอาคารขนาดใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะกลางห้องประชุม ทีมงานจากสองบริษัทยืนล้อมรอบโต๊ะ ทุกคนก้มมองแบบจำลองด้วยความตื่นเต้น โปรเจคนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ หลังจากใช้เวลาวางแผนมาสองเดือนเต็ม"ผมคิดว่าถ้าเราเปลี่ยนตำแหน่งสระว่ายน้ำมาตรงนี้" ไทเกอร์ชี้ไปที่ส่วนหนึ่งของแบบจำลอง "จะให้มุมมองที่สวยกว่า และลดผลกระทบต่อต้นไม้ใหญ่ด้วย"ไทเกอร์ยังต้องใช้สายซัพพอร์ตแขน แต่ความเจ็บปวดลดลงมากแล้ว การทำงานช่วงนี้ทำให้เขาไม่มีเวลาคิดถึงความเจ็บ"เป็นความคิดที่ดี การออกแบบแบบนี้ให้ความรู้สึกกลมกลืนกับธรรมชาติมากขึ้น" เลโอพิจารณาแบบจำลองอย่างละเอียด สายตาของทั้งสองสบกันชั่วครู่ ก่อนที่เลโอจะหันไปคุยกับวิศวกรคนอื่นๆ ต่อสามสัปดาห์ผ่านไปนับตั้งแต่ไทเกอร์ออกจากโรงพยาบาล ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเลโอเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังคงห่างเหินและเป็นทางการ แต่ก็ไม่มีความเย็นชาหรือความขัดแย้งเหมือนช่วงแรกอีกต่อไป"มีอะไรอีกไหมครับสำหรับวันนี้?" ไทเกอร์ถามทีมงาน"ผมคิดว่าเรามาถึงจุดที่ต้องเริ่มพูดถึงวัสดุที่จะใช้แล้วครับ" วิศวกรคนหนึ่งเอ่ยขึ้น"เรื่องนี้ทีมอิงทวีกรุ๊ปมีความเชี่ยวช
แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านม่านสีขาวของห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ไทเกอร์นั่งพิงหมอนบนเตียง แขนซ้ายถูกยกสูงด้วยอุปกรณ์พยุง มีเหล็กดามกระดูกพันด้วยผ้าพันแผลสะอาด บนโต๊ะข้างเตียงมีแจกันดอกไม้และผลไม้ที่เพื่อนร่วมงานส่งมาให้ ไทเกอร์วางไอแพดที่กำลังใช้ทำงานลงเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ประตูเปิดออก มาร์คโผล่หน้าเข้ามาก่อน ตามด้วยช่อดอกไม้ใหญ่"เข้ามาได้ครับ" เขาตอบ"ไง ไอ้แขนเดี้ยง ดูท่าจะสบายดีนี่หว่า" มาร์คทัก พลางเดินเข้ามาในห้อง"ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว ยังดีที่แขนขวาใช้งานได้ปกติ" ไทเกอร์ยิ้ม มาร์ควางช่อดอกไม้ลงบนโต๊ะ หย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง"เฮ้ย นี่มึงยังทำงานอีกเหรอ?" เขาชี้ไปที่ไอแพดและเอกสารกองเล็กๆ บนเตียง"ทำไปเรื่อยๆ ดีกว่านอนเฉยๆ" ไทเกอร์ตอบ "โปรเจคยังต้องเดินหน้าต่อ""กูว่าเจ้าคุณมึงน่าจะเข้าใจนะถ้ามึงพักสักหน่อย""พ่อเข้าใจ แต่กูไม่อยากพักยาว" ไทเกอร์เอ่ย ตาจ้องมองไปที่หน้าต่าง "มีอะไรบางอย่างที่กูต้องพิสูจน์""มันเกี่ยวกับเลโอใช่ไหม?" มาร์คมองหน้าเพื่อนอย่างพิจารณาไทเกอร์ไม่ตอบ แต่สีหน้าบอกคำตอบได้ชัดเจน"เลโอช่วยชีวิตมึงเหรอจริงๆ?" มาร์คถาม"อืม" ไทเกอร์พยักหน้า "ถ้าไม่ได้เ