“น้องแพรวนี่ปากโคตรร้ายอะ แต่น้องมันรู้ได้ไงวะ ว่าพวกเราแอบฟังอยู่ ทั้ง ๆ ที่น้องมันก็ไม่ได้หันมามองสักหน่อย”“นั่นสิ ถูกของไอ้เลโอ ทำอย่างกับรู้ตัวตลอดเวลาว่าโดนพวกเราจับตาดูอยู่”ผมคิดตามคำพูดของไอ้เลโอและไอ้เมฆ คิด ๆ ดูแล้วมันก็จริงอย่างที่เพื่อนผมว่า เธอไม่แม้แต่จะหันมาดูด้านหลังด้วยซ้ำ แต่ทำเหมือนกับรู้ว่าพวกผมแอบฟังอยู่ การทำตัวแบบนี้ผมว่ามันเกินที่เด็กวัยรุ่นทั่วไปจะจับพิรุธรอบตัวได้ เธอจะต้องมีอะไรมากกว่าที่ผมคิดจริง ๆ แล้วล่ะ“ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ กูอยากรู้ว่าน้องแพรวยัดอะไรใส่หัวแฟนกู มึงดูสิเมื่อวานยังเศร้าอยู่เลย แล้วมึงดูวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น ยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างกับว่าเรื่องเมื่อวานไม่มีผลกระทบใด ๆ กับน้องมันอย่างนั้นแหละ”“จริงของมึงไอ้เมฆ แล้วเวลาพูดถึงมึงนะ น้ำเสียงก็ดูสดใสไม่เศร้า ไม่อะไรเลย ต่างกับมึงมากที่ตอนนี้นอกจากหน้าตาจะเป็นหมาหงอยแล้ว น้ำเสียงของมึงยังอนาถสุด ๆ เลยว่ะเพื่อน”โป๊ก“โอ๊ย!!!”“ไอ้เมฆ นี่มึงเอากูไปเทียบกับหมาเหรอ ไอ้เพื่อนเวร แทนที่จะปลอบกู เสือกซ้ำเติมกูซะงั้น” พอไอ้เลโอพูดจบไอ้เมฆก็ตบลงกลางหัวเลโอทันที“มึงก็ตบลงมาเน้น ๆ เลยนะไอ้เมฆ เชี่ย!! เจ็
“แพรว พอหรือยัง พวกฉันเหนื่อยแล้วนะ ไม่ได้อึดเหมือนแกนะเว้ย” ฉันฟังเสียงบ่นของยัยรันมาไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง มันเริ่มบ่นตั้งแต่ยี่สิบนาทีแรก จนตอนนี้ก็ยังไม่เลิกบ่น“บ่นไรนักหนาอะไอ้รัน!”“ว้าย ตบปากเดี๋ยวนี้นะชะนีแพรว รันนี่ย่ะ รันนี่”“แต่เหนื่อยจริง ๆ นะแพรว” ฟ้าพูด“ใช่ หวานก็เหนื่อยแล้ว”“เห็นกระสอบทรายนั่นไหม ไปเตะและต่อย คนละครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยเลิก”“โธ่!!!” เพื่อนฉันประสานเสียงพูดออกมา“ไป”ฉันพูดและใช้สายตากดดันพวกมัน ก่อนที่มันจะรีบเดินไปที่กระสอบทรายที่ฉันให้คนมาเตรียมไว้ให้เห็นสภาพร่างกายพวกมันแล้วก็สงสารอยู่หรอก แต่ทำไงได้ ต้องรีบปรับสภาพร่างกายของพวกมันให้แข็งแรงเร็วที่สุด และต้องฝึกพวกมันให้ป้องกันตัวเองให้เร็วที่สุดด้วย พักนี้ฉันรู้สึกเหมือนถูกจับตามองมากพิเศษ ไม่ใช่จากไอ้พวกพี่มาร์คัส แต่จากพวกอื่นมากกว่าเรื่องวันนี้ก็เหมือนกัน จริงอยู่ที่ฉันไม่ได้หันไปมอง แต่ฉันรู้ว่าพวกพี่มาร์คัสมันแอบฟังอยู่ ฉันเห็นพวกพี่มันตั้งแต่เดินเข้ามาในโรงอาหารแล้ว แต่ไม่ได้สนใจ ส่วนที่ฉันบอกว่ามีคนแอบฟังไร้มารยาทแบบนั้น ยอมรับว่าหมายถึงพวกพี่มัน แต่อีกนัยก็หมายถึงคนที่ฉันยังไม่รู้ว่าเป็นใ
ฉันเหยียบคันเร่งเต็มเท้า ออกรถมาด้วยความเร็ว ขับมาถึงบริเวณที่เริ่มไม่มีรถพลุกพล่านพวกมันที่จอดรอท่าอยู่ก็ขับออกจากที่ซุ่ม พร้อมทั้งเริ่มยกปืนยิงเข้าใส่ฉัน ดีนะที่วันนี้เอารถกันกระสุนขับออกมาปัง ปัง ปัง!ฉันเปิดกระจกหน้าต่าง ก่อนที่จะเอี้ยวตัวยิงสวนกลับไปบ้าง ทำให้พวกมันเสียหลักล้มไปหนึ่ง ก่อนที่จะรีบหันกลับมาประคองพวงมาลัยรถไม่ให้เสียหลักปัง ปัง ปัง!เสียงพวกมันยังยิงปืนใส่รถฉันไม่หยุด เล่นเอาฉันหัวเสีย เหอะ ไอ้พวกนี้นี่ สงสัยหาที่ตาย ฉันยิ้มออกมาเมื่อเห็นมีมอเตอร์ไซค์อีกห้าคันขับจี้สองคันที่ไล่ฉันอยู่ นั่นก็ทำให้รู้แล้วว่า รถพวกนั้นคือคนของฉัน!เอี๊ยดดดดดดด!ปัง ปัง ปัง!ฉันจอดรถเข้าข้างทางก่อนที่จะหยิบปืนยิงใส่รถสองคันนั้น โดยใช้ตัวรถของฉันเป็นเกราะกำบัง เรายิงสวนกันประมาณสองนาทีได้ทุกอย่างก็เงียบลง ฉันเปิดประตูลงจากรถ ก่อนจะเดินไปยังศพและรถมอเตอร์ไซค์ที่ล้มอยู่“ขอโทษที่มาช้าครับ”“ไม่เป็นไร” ฉันตอบคนของฉันก่อนที่จะเดินเข้าไปดูศพพวกมันในระยะใกล้ ก่อนที่ฉันจะสังเกตเห็นรอยสักเล็ก ๆ หลังต้นคอ เป็นรอยสักภาษาจีน มีความหมายว่า ฆ่าหมายความว่ายังไง คนพวกนี้เป็นนักฆ่าเหรอ แต่ฝีมืออ่อนเก
“ยัยแพรวเป็นไงบ้าง หัวใจจะวาย”“ไม่ได้เป็นไรสักหน่อยยัยรัน แค่กะว่าจะกลับไปเอาของ แต่ดันเจอลูกหลงของคนที่ยกพวกตีกัน แล้วก็รถล้มตายทั้งคู่ก็เท่านั้นเอง” ฉันพูดเพื่อให้มันเล่นไปตามน้ำ“ก็บอกแล้วว่าเดี๋ยวค่อยกลับไปเอาก็ไม่เชื่อ เห็นมันขับไล่กันเองตั้งแต่ก่อนที่เราจะกลับจากฟิตเนสแล้ว” ฉันหันไปยิ้มให้ยัยฟ้า ที่เล่นตามน้ำฉันได้ไวโดยไม่ต้องให้ฉันได้พูดอะไร ส่วนหวานก็นิ่ง ๆ ไม่พูดอะไร นอกจากก้มหน้าแล้วยิ้มถึงพวกมันจะแสร้งยิ้ม แต่ฉันรู้ว่าในใจของพวกมันตระหนกกันแค่ไหน สงสารเพื่อนเหมือนกันนะ ที่ต้องมาเสี่ยงไปกับฉัน“ขอบคุณนะคะพี่เมฆ ที่มาตามที่แพรวให้ยัยหวานบอก”“เอ่อ ครับ”“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว แพรวกับเพื่อนขอตัวก่อนนะคะ”“เดี๋ยว”“มีอะไรคะ ถ้าไม่มีธุระอะไรที่มันสำคัญ ฉันกับเพื่อนขอตัวก่อนเพราะตอนนี้พวกเราหิวมาก ออกกำลังกายตั้งหลายชั่วโมง”“ใช่ค่ะ หวานหิวมาก”พอฉันพูดจบ ยัยหวานก็รับมุกส่งต่อทันที แต่พวกพี่มันก็ยังไม่ให้พวกฉันกลับขึ้นไปนะ ยังมองด้วยสายตากดดัน“น้องแพรวจะไม่บอกอะไรพวกเราที่มากกว่านี้หน่อยเหรอครับ”“จะให้บอกอะไรล่ะคะพี่เลโอ ในเมื่อแพรวพูดไปหมดแล้ว ส่วนจะเชื่อหรือไม่ ก็สุดแล้วแต่พวกพี
“แพรว”“คะพี่ลิน” ฉันขานรับและมองหน้าพี่ลินว่าพี่ลินจะพูดอะไร“หรือจะเป็นกลุ่มที่เคยทำร้ายแพรวเมื่อหลายปีก่อน”“พี่ลินคะ มันนานแล้วนะคะ ที่สำคัญตอนนั้นแพรวก็มอต้นเอง พวกนั้นจะจำหน้าตาแพรวได้เหรอคะ แพรวเปลี่ยนไปตั้งเยอะ”“แต่แพรวไม่มีศัตรูที่ไหนนะ ไม่ใช่ทายาทนักธุรกิจแบบพวกพี่ด้วย พี่ว่าข้อสันนิษฐานของลินน่าจะใกล้เคียงกับแพรวมากที่สุดนะ” ฉันคิดตามที่พี่ปรางค์พูด ซึ่งมันก็มีความเป็นไปได้สูง“แต่ตอนนั้นข่าวออกว่าแพรวตายไปพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่แล้วนี่คะ”“แล้วถ้ามีคนไม่เชื่อล่ะ ถ้าคนที่พวกพี่และลินจัดการวันนั้นยังไม่หมด มีกลุ่มคนที่คอยแอบซุ่มดูแพรวล่ะ จะว่ายังไง” ฉันฟังที่พี่ปรางค์พูดและคิดตามอย่างหนัก มันเป็นไปได้แทบจะทั้งหมดเลย“แล้วพวกเขาจะต้องการฆ่าแพรวทำไมล่ะคะ”“แพรวมีความสามารถด้านอะไรแพรวก็รู้ ถ้าคนพวกนั้นต้องการกำจัดแพรวจริง ๆ อย่างที่พี่คิด แสดงว่าคนพวกนั้นต้องมีอะไรปิดบังและไม่อยากให้แพรวกลับมามีตัวตนแน่ ๆ หรือถ้าไม่ใช่ประเด็นนี้ก็น่าจะเป็นอย่างอื่น แต่มันจะต้องการฆ่าเด็กคนหนึ่งทำไม พี่ว่ามันต้องมีเหตุผลบางอย่างแน่ ๆ”“พี่ลิน”“ระวังตัวด้วย อีกสักพักพวกพี่ก็จะกลับไปแล้ว ถึงวันนั้
“น้อง ๆ คะ มาครบหมดแล้วนะคะ เดี๋ยวขึ้นรถตามกลุ่มได้เลยนะ” เสียงบรรดาพี่ปีสองตะโกนโหวกเหวกโวยวายเรียกปีหนึ่งขึ้นรถ ถามว่าไปไหน รับน้องจ้า นี่ก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้ว พี่เขาจึงจะพาพวกเราไปรับน้อง“เอาละค่ะ น้อง ๆ ทุกคนคะ พร้อมไปสนุกกันหรือยังคะ”“พร้อมแล้วจ้า”“โอเค งั้นเราไปกันเลยค่ะ”จบคำพี่ปีสองรถทัวร์ก็เดินทางออกจากมหาวิทยาลัย ตลอดระยะเวลาที่นั่งมาบนรถพวกพี่ ๆ ก็พากันร้องเพลงอย่างสนุกสนาน มีแวะปั๊มเพื่อเข้าห้องน้ำบ้าง“แพรว ไม่หิวอะไรหน่อยเหรอวะ”“อยากกินของดองว่ะ พี่เขาบอกจะแวะปั๊มใช่ไหม ก็จะไปซื้อมะกอกดองเซเว่นกิน”ฉันตอบยัยรันนี่ไปตามที่คิด นั่งรถมาร่วมหลายชั่วโมงก็ชักจะเวียนหัว หากได้อะไรที่มันเปรี้ยว ๆ กินบ้างก็คงจะดีฉันกับยัยรันอยู่กลุ่มเดียวกันจึงได้นั่งรถคันเดียวกันและนั่งข้างกันแบบนี้ ส่วนยัยฟ้ากับหวานอยู่อีกกลุ่มจึงได้นั่งรถอีกคัน ตลอดทางคนอื่นร้องเพลงเต้นกันอย่างสนุกสนานส่วนฉัน... หลับค่ะ หลับ!!!ใครมันจะไปมีแรงเต้นวะ เหนื่อย นอนเก็บแรงไว้ดีกว่า ขนาดพี่กอล์ฟแกยังพูดไม่ค่อยเยอะเลยทั้งที่แกเป็นประธาน คนที่ดีดก็เห็นจะมีแต่พวกพี่สันทนาการนี่แหละที่คอยบิวด์ให้เพื่อน ๆ ปีหนึ่งร้
“เฮ้ยท่าน มีคนยิ้มว่ะ”“ไหนใครยิ้ม ลุกขึ้นมา! ลุก! จัดแถวตามกลุ่ม ให้ไว!”“ช้า ช้า ยังช้าอยู่อีก!!”“ห่วย ห่วยหมดทั้งพี่มันน้องมัน ประธานอยู่ไหน ออกมา!!!” เสียงนี้ชัดเลย จะใครล่ะถ้าไม่มีพี่มาร์คัส“ประธาน! เพื่อนผมเรียกคุณไม่ได้ยินเหรอ”“มาแล้วครับ แฮ่ก แฮ่ก”“คุณพาลูกเขามาทำไม คุณเห็นไหมน่ะ ว่าพวกเขาร้องไห้กันนะฮะ!!”“...”“เงียบทำไม! ถามก็ตอบสิ!”หืม นี่ไม่ใช่พี่มาร์คัสที่ฉันเคยรู้จักแล้ว ตะโกนเสียงดังขนาดนี้ ไม่มียิ้ม หน้านิ่งแววตาวาวโรจน์“คิก คิก”“เสียงใคร ผมถามว่าเสียงใคร”พี่เลโอพูด อ้อคนใส่หมวกมีประมาณสิบกว่าคน แต่พี่มาร์คัสกับเพื่อนเขาอีกสองคนไม่ได้ใส่นะคะ“เงียบ ไม่มีคนตอบ ลุก! ลุกขึ้น”“กอดคอ! ลุกนั่งยี่สิบครั้ง!”“ลุกนั่ง..”“ห่วย พูดยังไม่พร้อมกันเลย ลุกนั่งห้าสิบครั้ง”“ห้าสิบครั้ง! หนึ่ง สอง สาม สี่....สามสิบ สะ..”“เอาใหม่ ยี่สิบครั้ง ปฏิบัติ”“หนึ่ง สอง สาม... สิบเก้า ยี่สิบ”เพื่อนและรุ่นพี่ปีสองบางคนเริ่มหอบ ฉันเฉย ๆ ก็ฉันถูกฝึกมาหนักกว่านี้ แค่นี้เบา ๆ“ประธาน มึงไปวิ่งรอบสนามตรงนู้นสิ ห้ารอบ แล้วค่อยกลับมา ท่านไปคุม” พี่มาร์คัส สั่งพี่กอล์ฟประธานหรือพี่ว้ากปีสองไ
“ยัยแพรว ฉันปวดขาปวดน่องมากเลย ฮือ”“ใช่ หวานก็ปวดเหมือนฟ้าเลย จะยืนจะนั่งทีก็สุดจะบรรยาย”“ชะนี ฉันจะร้อง ฉันเหนื่อยมาก”ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดกับยัยฟ้ายัยหวาน เสียงยัยรันนี่ก็แทรกเข้ามา ก่อนที่นางจะมาร่วมกลุ่มนั่งกับพวกฉัน“แกว่าพี่เขาจะว้ากเราต่อไหมวะ”“ไม่รู้อะรัน รอดู” ฉันพูด“เดี๋ยวแพรว แกไม่รู้สึกอะไรหน่อยเหรอวะ แกเห็นไหมเพื่อนเหนื่อยขนาดนี้ แล้วดูเพื่อนในรุ่นบางคนสิจะตายแล้ว แต่แกทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลยเนี่ยนะ”“ยัยรัน แกอย่าลืมว่าฉันเป็นมาเฟีย แค่นี้ไม่กระทบฉันหรอก ฉันฝึกหนักกว่านี้เยอะ ถ้าจะให้รู้สึก อย่างมากก็แค่ตึงๆ ขาเท่านั้นแหละ”“จ้า แม่คนเก่ง แม่หญิงเหล็ก” พอฉันตอบ ยัยรันก็หันมาแขวะฉันแบบไม่จริงจังนัก“พี่มาร์คัสโคตรน่ากลัวเลยเนอะ หน้าโคตรนิ่ง ว้ากทีเสียวไปทั้งตัว ฉันโคตรกลัว”“ใช่ ๆ ยัยหวานพูดถูก คนอะไรน่ากลัวเป็นบ้า”“ยัยฟ้าที่แกกับหวานพูดมันก็ถูก แต่พี่เมฆกับพี่เลโอก็น่ากลัวเหมือนกันนะเว้ย แต่ว่าฉันอยากเห็นหน้าคนที่ใส่หน้ากากใส่หมวกอำพรางใบหน้ามากกว่าอะ ฉันอยากเห็นหน้าพวกเขา”ฉันมองยัยรันปลง ๆ มันไม่ใช่แค่ยัยรันหรอก คนอื่นก็อยากเห็นเหมือนกัน“นี่กี่โมงแล้วนะ เวลาก็ไม
“พี่มาร์คคะ ปล่อยแพรวก่อนดีกว่าไหมคะ”“ปล่อยทำไมล่ะครับ อยู่แบบนี้ดีแล้ว”“คือแพรวร้อนน่ะค่ะ”“ร้อนเหรอครับ ห้องเราเปิดแอร์นะที่รัก เรามาซ้อมเข้าหอกันดีไหม”จบคำพูดพี่มาร์คก็เคลื่อนใบหน้าเข้ามาหาฉันอย่างช้า ๆ จนในที่สุดปากเราสองคนก็สัมผัสกัน พี่มาร์คบรรจงจูบฉันอย่างดูดดื่ม สูบเอาความหอมหวานจากริมฝีปากอิ่มของฉันอย่างตะกละตะกลามรสจูบของเขาลึกล้ำปลุกเร้าให้ฉันเกิดอาการประหลาดจนควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ สมองและการกระทำของร่างกายไม่สัมพันธ์กัน มือของฉันสอดเข้าโอบรอบคอของเขาก่อนจะลูบไล้มือไปยังแผ่นหลังของเขาอย่างแผ่วเบาฉันได้ยินเสียงครางเบา ๆ ออกมาจากลำคอของเขาในขณะที่ปากเราสองคนยังจูบกันอยู่ พี่มาร์คถอนริมฝีปากออกไป แล้วมองฉันด้วยนัยน์ตาหวานฉ่ำ“หวาน พี่จูบเก่งไหมครับ”“คนบ้า”เขาถามฉันด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มหน้าฟัง จนฉันอดที่จะต่อว่าเขาไม่ได้“เอาจูบแบบเมื่อกี้อีกไหมครับ”“พอแล้วค่ะ ปากแพรวช้ำหมดแล้ว”ฉันพูดออกมา เพราะกลัวมันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ ตั้งแต่ที่เราคบกันไม่เชื่อก็ต้องเชื่อที่พี่มาร์คเขาไม่เคยทำอะไรฉันมากไปกว่าการกอดและจูบเลย ซึ่งการที่เขาทำตัวสุภาพบุรุษแบบนี้มันแอบทำให้ฉันกลัวว่
2 เดือนต่อมา“แพรว เรียบร้อยหรือยัง ใกล้ถึงเวลาแล้วนะ”“เสร็จแล้วค่ะพี่ปรางค์ อย่าเร่งสิคะแพรวตื่นเต้นเหมือนกันนะ”“เสร็จแล้วก็ออกมาให้พี่ดูสักทีสิ มัวแต่อยู่ในห้องน้ำอยู่นั่นแหละ”แอ๊ด!“สวยมากเลยแพรว”“น้องสาวพี่สวยที่สุด”“หวานมาก”ฉันเขินไปกับคำชมของพวกพี่ลิน พี่ปรางค์และพี่มีนสงสัยกันล่ะสิว่าทำไมทุกคนต้องมาชมฉัน เรื่องมันเป็นแบบนี้หลังจากที่ฉันและพวกพี่ลินจัดการนายโทมัสและนายริชาร์ดได้ เรื่องทุกอย่างก็จบ วันที่ทุกคนปฏิบัติการฉันแทบไม่ต้องทำอะไรเลย นั่งเจาะข้อมูลบริษัทของนายโทมัสเฉย ๆ ซึ่งก็ได้พี่ลินอีกนั่นแหละที่เอาเครื่องรบกวนสัญญาณไปติดในบริษัทของนายโทมัส ทำให้ฉันสามารถเข้าสู่ระบบและได้ข้อมูลทั้งหมดของบริษัทนั่นมาได้ บอกได้เลยว่าพวกมันโคตรชั่ว ข้อมูลที่ได้มาเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีและหุ้นส่วนทั้งนั้น งานฉันมันก็มีแค่นั้นแหละ ไม่ได้ออกแรงอะไรเลยด้วยซ้ำ ข้อมูลทั้งหมดที่ฉันแฮกมาได้ พี่ลินก็เอาให้ตำรวจสากลไปจัดการต่อ นายโทมัสก็ถูกตำรวจสากลจัดการต่อเช่นกัน เรื่องมันก็มีเท่านี้แหละอ้อ หลังจบเรื่องทุกอย่างพี่ลินจะให้ฉันออกจากองค์กรด้วยนะ เพราะไม่อยากให้ฉันเป็นอันตราย แต่ว่าฉันไม
“ไงเรา เจ็บตัวฟรีเลย”“นั่นสิคะพี่ปรางค์ แต่ก็สงสารนายดราฟนั่นเหมือนกันนะคะ น่าจะช็อกจากเหตุการณ์ที่สูญเสียครอบครัวกะทันหัน เขาเลยเป็นแบบนี้”“ไม่ต้องสงสารคนอื่นเลย รู้ไหมว่าเราน่ะเกือบตาย ตอนส่งข้อความมาบอกพวกพี่แทบจะเป็นลม แล้วก็เสียพ่อและแม่ไปโดยใช่เหตุอีก เฮ้อ!”“จริงครับพี่มีน ไม่รู้จะไปสงสารคนอื่นทำไม เขาเป็นคนทำร้ายตัวเองกับครอบครัวแท้ ๆ”“น้อย ๆ หน่อยไอ้มาร์ค ออกตัวแรงเกินไปแล้ว”“จริงนะครับพี่มาร์ติน พี่ไม่อยู่ในเหตุการณ์ไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นผมรู้สึกยังไง”“อะ ๆ ๆ อย่าเถียงกันเด็ก ๆ เอาเป็นว่าตอนนี้หนูแพรวก็ปลอดภัยแล้ว ก็หมดห่วงกันได้แล้วเนอะ แยกย้ายกันไปพักเถอะ เหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว”“พวกพี่กลับก่อนนะ”“กลับดี ๆ นะครับพี่ ๆ ส่วนแพรวผมไม่ให้กลับนะครับ วันนี้จะให้นอนนี่แหละ”พี่ทุกคนต่างยิ้มขำให้ผม ก่อนจะต่างคนต่างแยกย้ายกันไป“หมดทุกข์หมดโศกสักทีนะลูกนะ”“ค่ะคุณแม่”“ผมขอตัวพาน้องไปพักก่อนนะครับ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไปครับไปห้องพี่กัน” ผมไม่สนใจว่าพ่อกับแม่ผมจะพูดอะไร เลือกที่จะจับจูงมือเล็กของแพรวาขึ้นมาชั้นสองของบ้านทันที“พี่เสียใจเรื่องคุณพ่อคุณแม่ของแพรวด้วยนะครับ ท่านไ
ปัง!“อ๊ากกก ปล่อยกู กูจะฆ่ามัน ปล่อยย ปล่อยกู ปล่อย!”เสียงปืนที่ดังขึ้นลั่นบริเวณ ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเจ็บเลยสักนิด ก่อนจะได้ยินเสียงร้องโวยวายของผู้ชาย หากแต่ผมก็ยังกอดแพรวาไว้แนบอก ไม่ยอมผละห่าง หัวใจเต้นรัวไปหมด ผมไม่ได้กลัวตาย แต่กลัวคนที่อยู่ในอ้อมกอดเป็นอะไรไป คิดได้ดังนั้นผมก็กอดร่างเล็กแน่นขึ้น“อ้าว จะยืนกอดกันอีกนานไหม” น้ำเสียงคุ้นเคยที่พ่นออกมาด้วยความไม่พอใจ ทำให้ผมกับแพรวาผละออกจากกัน“พี่ลิน”แพรวาเอ่ยเรียกคนตรงหน้าก่อนจะเดินเข้าไปกอดพี่ลินช้า ๆ“ปล่อยกู มึงต้องตาย มึงต้องตาย! ฮึก ฮือ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนะครับ มัน มันผิด มันฆ่าครอบครัวผม ฮึก ฮือ ฮือ ฮึก พ่อครับ แม่ครับ ฮือ มันฆ่าครอบครัวผม”“...”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมแก้แค้นให้ครอบครัวเราได้แล้วนะครับ พวกมันตายแล้ว ตายหมดแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไปไหน ไม่ไป ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ปล่อยผม ฮึก ฆ่ามัน ฮึก ฆ่ามัน”ชายคนที่พยายามทำร้ายแพรวาเสียสติไปแล้วเรียบร้อย เดี๋ยวโวยวาย เดี๋ยวหัวเราะและร้องไห้ สลับกันไปส่วนเสียงปืนที่ทุกคนได้ยิน คือเสียงปืนจากตำรวจที่ยิงเข้าที่มือคนร้าย ทำให้ปืนล่วงก่อนที่มันจะลั่นไกล ผมและแพรวาถึงได้ไม่มีใครเจ็บตัวไปมากก
“ตอนแรกฉันจำแกไม่ได้หรอก แต่ว่าฉันมันเป็นคนฉลาดไง และตอนนี้นวัตกรรมของเทคโนโลยีก็ไปไกลมาก ฉันจึงเอารูปแกตอนเด็กไปวิจัยว่าถ้าอีกห้าหรือสิบปีข้างหน้าแกจะหน้าตาเป็นยังไง มันเป็นวิธีเดียวกับที่วงการตำรวจเขาใช้หาตัวคนร้ายนั่นแหละ จนในที่สุดฉันก็ได้ภาพความน่าจะเป็นของแกมา”“...”“อุตส่าห์เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล แล้วไง สุดท้ายฉันก็เจอแกอยู่ดี ออกมาเถอะน่า อย่าทำให้ฉันหงุดหงิดไปมากกว่านี้เลย”“...”“ออกมาสิโว้ยนังอลิน ไม่สิ ฉันต้องเรียกแกว่าแพรวา ออกมาจบเรื่องทุกอย่างซะ”ฉันมองหน้าพี่มาร์คที่ส่ายหัวห้ามฉันออกไป มาถึงตอนนี้ฉันแทบจะห้ามอารมณ์ความแค้นของตัวเองไว้ไม่ไหว และรู้สึกเจ็บใจที่ทำอะไรคนที่ทำร้ายครอบครัวตัวเองไม่ได้“แพรวพอจะจำเรื่องราวได้หรือยังว่ามันตามฆ่าแพรวทำไม”“ไม่รู้เลยค่ะพี่มาร์ค คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ได้บอกอะไรแพรวเลยค่ะ”“มันต้องมีสาเหตุสิ”ฉันก็พยายามคิดนะ ว่ามันต้องมีสาเหตุอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันถูกมันตามฆ่าแบบนี้ แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ที่สำคัญพ่อกับแม่ไม่เคยพูดหรือบอกอะไรกับฉันเลย วันที่ถูกลอบทำร้ายจนพ่อแม่ตายในวันนั้น พวกท่านบอกแค่ว่า จะพาฉันไปเที่ยวเท่านั้นเอง มาถึงตอนน
“แพรวครับ”“คะ มีอะไรคะ”“แพรวจะไม่เป็นอันตรายใช่ไหม”ฉันยิ้มให้คนที่ถามฉันด้วยความเป็นกังวล“ไม่หรอกค่ะ แพรวมีหน้าที่แค่เจาะข้อมูล เพราะฉะนั้นแพรวไม่มีอันตรายหรอกค่ะ” ฉันพยายามตอบเลี่ยง ๆ เพื่อไม่ให้เขาเป็นห่วง“สัญญากับพี่นะครับ หลังจบเรื่องทุกอย่างเราจะหมั้นกัน”“ค่ะ แพรวสัญญา”หลังได้รับคำตอบที่พอใจแล้ว เราก็เดินทางไปหาอะไรกินที่ห้าง และใช้เวลาว่างที่มีในการเข้าไปดูหนัง และเดินซื้อของเหมือนคู่รักคู่อื่น ๆ “พี่มาร์ครักแพรวไหมคะ” คนตรงหน้าขมวดคิ้วสงสัยในคำถามของฉัน ก่อนที่เขาจะพูดว่า“รักครับ รักมาก”“เขินจังเลยค่ะ”ฉันก็เป็นแบบนี้ ชอบถามคำถามนี้กับเขา ฉันถามเขาบ่อยและเขาก็บอกรักฉันบ่อย แต่บอกเลยว่ามันไม่ชิน ฉันยังเขินทุกครั้งที่เขาบอกรักฉัน แรก ๆ ฉันก็คิดว่าเดี๋ยวก็ชิน แต่ที่ไหนได้มันไม่ชินเลย อีกความรู้สึกหนึ่งนอกจากเขินก็คือการอิ่มเอมใจ และมีความสุขทุกครั้ง ที่เขาพูดว่ารัก“พี่บอกเราทุกวัน ยังไม่ชินอีกเหรอ”“ไม่ค่ะ ก็คนมันเขินนี่”“เด็กน้อย เหนื่อยหรือยังครับ วันนี้ซื้อเสื้อผ้าไปเยอะเลยนะเราอะ กลับหรือยัง”“กลับเลยก็ได้ค่ะ ปะ ไปที่รถกัน”เราทั้งคู่เดินมายังโซนรถที่ได้จอดไว้ ก่อน
ตั้งแต่ที่ฉันกับพี่มาร์คปรับความเข้าใจในวันนั้น ตอนนี้เรา สองคนก็ไม่มีอะไรปิดบังกันอีกแล้วค่า แล้วที่สำคัญพี่มาร์คดูแลฉันดีมาก ๆ ตามใจฉันโคตร ๆ ส่วนความหวานของคู่เราไม่ต้องพูดถึงนะคะ เขาขยันหยอดฉันมากค่ะเรื่องครอบครัวของฉันกับประวัติของฉันก็ถูกคุณพ่อคุณแม่ของพี่มาร์คสอบถามและซักฟอกฉันไปเสียหมดทุกซอกทุกมุม เดิมทีตอนที่ท่านรู้ว่าฉันคืออลินครั้งแรก พวกท่านอยากจัดงานหมั้นให้ฉันกับพี่มาร์คเลย แต่ว่าฉันปฏิเสธไปเพราะยังไม่พร้อม ท่านก็เข้าใจนะคะ ยิ่งตอนนี้แก๊งผีเสื้อยังคงตามฉันอยู่ด้วยก็เลยยิ่งต้องระวัง ทุกอย่างก็ยังคงเป็นความลับเหมือนเดิมระหว่างนี้ฉันกับพี่มาร์คก็แอบไปเยี่ยมพ่อของรันแล้วเรียบร้อย แต่ท่านยังไม่ได้บอกเหตุผลกับฉันนะคะว่าทำไมท่านถึงต้องถูกคนในแก๊งนั้นทำร้าย ซึ่งฉันก็ไม่ได้บังคับให้ท่านพูดอะไร ฉันคิดว่าถ้าท่านสะดวกใจเมื่อไหร่คงพูดเองส่วนตัวแล้วที่ฉันเคยบอกว่าคนในแก๊งผีเสื้อมีสองฝ่าย คือฝ่ายทำร้ายฉันกับฝ่ายที่พยายามปกป้องฉัน ฉันยืนยันคำเดิมว่ารู้สึกแบบนั้นจริง ๆ บางทีฉันคงเป็นคนสำคัญของอีกฝ่ายก็ได้มั้งคะ เลยมีทั้งคนที่ต้องการปกป้องและมีทั้งคนที่พยายามทำลายฉันแบบนี้เอาเถอะ ช่าง
11:00“รอนานไหมครับ”“ไม่นานค่ะ เราไปกันเลยไหมคะ”“ไปครับ”ตอนนี้ทั้งผมและเธอก็นั่งอยู่ในรถเรียบร้อย ผมขับรถไปยังเส้นทางที่เธอไม่คุ้นเคย ผมเห็นเธอมองข้างทางด้วยความแปลกใจ คงไม่ชินนั่นแหละ จะชินได้ไงผมจะพาเธอไปบ้านนี่เนอะ“พี่มาร์คจะพาแพรวไปกินข้าวที่ไหนคะ ทางนี้แพรวไม่คุ้นเลย”ผมยิ้มก่อนจะตอบไปว่า “พี่จะพาไปบ้านพี่ครับ”“ว่าไงนะคะไปบ้าน ไปทำไมคะ แพรวไม่พร้อม ทำไมไม่บอกก่อน แล้วสภาพนี้เหรอคะ พี่มาร์ค”“อย่ากังวลไปเลยครับ พ่อแม่พี่เขาอยากเจอเรานะ ไปหาพวกท่านกันเถอะครับ อ้อพี่จะบอกเรื่องที่แพรวคืออลินด้วยนะ พี่จำเป็นต้องบอกเพราะพ่อพี่จะได้เป็นหูเป็นตาเรื่องคนที่คอยทำร้ายตัวเราอีกที”“แต่พี่มาร์คก็ควรบอกกันก่อนสักนิด แพรวจะได้เตรียมตัวและเตรียมใจ”“หึหึหึ กลัวแม่สามีเหรอครับ”“บ้า แม่สามีอะไรกันเล่า”“แม่สามีน่ะถูกแล้ว เพราะเรียนจบยังไงแพรวกับพี่ก็ต้องแต่งงานกัน พี่ไม่ปล่อยเราไปไหนหรอกนะ”“พี่มาร์คบ้าชอบเอาแต่ใจอยู่เรื่อยเลย”“พี่ไม่ได้เอาแต่ใจอย่างเดียวนะ อย่างอื่นพี่ก็เอาด้วย”“พี่มาร์ค!”“ไม่แกล้งแล้วครับ ทำหน้าดี ๆ เร็ว ถึงซอยบ้านพี่แล้ว”ผมบอกคนตัวเล็กพร้อมกับยิ้มขำกับอาการร้อนรนของเ
“อื้อ เช้าแล้วเหรอเนี่ย” ผมบิดตัวเพื่อสลัดอาการปวดเมื่อยร่างกายออกไป ก่อนจะก้มหน้าลงไปหอมแก้มคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ ผมด้วยสายตาอ่อนโยนเมื่อวานหลังจากที่เรางอนง้อกัน และเธอตกลงเป็นแฟนผมเป็นที่เรียบร้อย ผมก็กอดจูบลูบคลำตามประสาผู้ชายตอดเล็กตอดน้อยนิดหน่อย แต่ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น ใจก็อยากทำอยู่หรอกแต่ผมว่ามันยังไม่ถึงเวลา อยากให้น้องเป็นแค่แฟนไปก่อน เพราะถ้าเป็นเมียผมคงขังเธอไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันแน่อ้อ เมื่อวานจริง ๆ แล้วผมไม่ได้โกรธจริงจังหรอกนะครับ แค่เหตุการณ์มันพาไป ผมก็เลยปล่อยเลยตามเลยแต่ก็ดีนะ เธอบอกผมซะหมดเปลือกเลย ‘เรามันคนละชั้นกันอีหนู’เขาบอกว่าผู้หญิงซ่อนความเจ้าเล่ห์ไว้มากมาย แต่เชื่อผมสิว่าผู้ชายเจ้าเล่ห์กว่าเยอะ เพราะไอ้เมื่อวานผมแสดงทั้งนั้น สี่วันที่ไม่ได้คุยไม่ได้เจอเธอ บอกเลยว่าโคตรทรมานโคตรอยากกอดอยากหอม แต่ก็นั่นแหละดันไปรู้เรื่องที่เธอคือคนที่ผมตามหาเข้ามันก็เลยต้องสร้างสถานการณ์สักหน่อย ไม่งั้นเธอจะได้ใจที่ผมไม่โกรธหรืออะไรเธอเลย ผมต้องเหนือกว่าเธอสิครับ เธอจะมาเหนือผมมันไม่ได้!ผมจะเล่าย้อนกลับไปวันที่ผมรู้ความจริงให้ฟังนะ วันนั้นผมตื่นขึ้นมาแล้วไม