“ไม่งั้นอะไร” ริมฝีปากกลิ่นมินต์ขยับเข้าใกล้ริมฝีปากของเธออย่างจงใจแกล้ง ซึ่งมันได้ผล ใจเธอเต้นระส่ำจนกายสั่นไปหมดแล้ว “ขวัญ...ชี...วา!”
“หา!” เธอตกใจไม่น้อยที่เขารู้ชื่อเธอ “คุณ...รู้?”
เขาจ้องหน้าเธอนิ่ง แต่แววตาตื่นเต้นลนลานเหมือนคนที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย ยัยมอมแมม!”
เธอตาเหลือก อ้าปากหวอ เขารู้ฉายาของเธอด้วยงั้นเหรอ “นายหัวภู ทำไม?”
“คิดถึงนะ”
“อะไรนะคะ” เธอต้องหูฝาดไปแน่ ๆ
“ฉันคิดถึงเธอนะขวัญ ได้ยินมั้ย”
“โกหก” แต่ใจเธอระทวยไปแล้ว “นายหัวภูเลิกล้อเล่นแล้วปล่อยขวัญได้แล้วค่ะ”
“ไม่ปล่อย”
“นายหัว”
แววตาคู่คมร้อนแรงกว่าเดิมยามจดจ้องดวงตาใสสวยไร้เดียงสา “รู้รึเปล่าว่าฉันกลับมาแล้ว”
เธอหลบสายตาเขา “รู้ค่ะ”
“แล้วทำไมไม่เห็นไปหาเลย”
“ก็...ขวัญ...ทำไมขวัญต้องไปหา”
“เมื่อก่อนใครกันนะที่คอยตามไปทั่ว ใครกันที่แอบมองกันตลอด ไม่ได้ชอบเหรอ นึกว่าชอบเสียอีก”
เขาจู่โจมแบบไม่ให้เธอได้ทันตั้งตัวเลยล่ะ ผู้ชายกรุงเทพฯ น่ากลัวชะมัด !
“ไม่เห็นแปลกเลยนี่คะ เด็กทุกคนในเหมืองก็...วิ่งตามนายหัวกันทั้งนั้นนี่คะ”
“ไม่ยอมรับเหรอ”
ริมฝีปากสวยเม้มแน่น “นายหัวภูต้องการอะไรจากขวัญคะ ถามอะไรก็ไม่รู้”
“งั้นแค่ตอบมาว่าคิดถึงรึเปล่า”
ใบหน้าสวยร้อนวูบ “ก็...คิดถึงสิคะ ใคร ๆ ก็คิดถึงนายหัวภูกันทั้งนั้น พอใจรึยังคะ ถ้าพอใจแล้วก็ปล่อยขวัญเดี๋ยวนี้เลย ขวัญโป๊อยู่นะ”
เขายิ้มกริ่ม กระชับลำตัวนุ่มแน่นกว่าเดิม จนทำให้เธออึดอัด ดิ้นลำบาก
“นายหัวภู!”
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ”
ประโยคนั้นเองที่ทำให้เธอชะงัก หัวใจยิ่งดิ้นหนักเมื่อรู้ว่าเขาจำวันเกิดเธอได้
“อะ...” ริมฝีปากอุ่นประกบลงบนเรียวปากนุ่มแล้วบดจูบอย่างเว้าวอนโหยหา เพราะห้ามใจและแรงปรารถนาไม่ไหว เขาจึงปลดปล่อยไปตามสันชาติญาณ ตักตวงความหวานจากริมฝีปากของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างเร่าร้อน รุนแรง
“อื้อ!” เธอตกใจแทบช็อคที่โดนเขาขโมยจูบไปหน้าตาเฉย เมื่อตั้งสติได้ก็รีบผละปากหนี สองฝ่ามือพยายามดันหน้าอกเขาออก “คุณภู!”
“ฉันคิดถึงเธอมากรู้มั้ยขวัญ” น้ำเสียงกระซิบกระเส่าบ่งบอกถึงแรงปรารถนาจากภายใน ฝ่ามือลูบไล้สำรวจร่างกายสวยอย่างโหยหา “คิดถึงทุกวัน ทุกคืน”“ไม่เชื่อหรอกค่ะ คุณภูหายไปตั้งห้าปี โดยที่ไม่ได้ติดต่อใครเลย ทั้งอุ่น และดิน” เธอหมายถึงลูกคนงานที่เดินตามหลังเขาในสมัยเด็ก เด็กชายสุดทะโมนสองพี่น้องที่เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเขา “พวกนั้นคิดว่านายหัวภูลืมพวกเขาไปแล้ว”“แม่ฉันป่วยหนัก ฉันต้องดูแลแม่ตลอดเวลา ไม่อยากติดต่อใครเพราะไม่อยากให้ใจเตลิด ห้าปีที่ผ่านมา ฉันรู้สึกผิดกับแม่ ที่เอาหัวใจส่วนหนึ่งไปคิดถึงเธอ ทุกปีเวลาถึงวันเกิดของเรา ฉันจะอวยพรเสมอ”“อวยพรอะไรคะ” หัวใจเธอสั่นรัวไปหมดแล้วนะ หากนี่เป็นแค่ความฝัน เธอก็ไม่อยากตื่น“อวยพรให้เธอไม่ลืมฉัน ให้เธอชอบฉันคนเดียว และรอฉันอยู่ที่นี่ ไม่มีทางหนีไปไหนได้”“คุณภู!” หัวใจเธอระทวยจนไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้ว เธอโดนเขาสาปด้วยความยินยอมพร้อมใจ“ฉันไม่แน่ใจว่ามันคือความรักรึเปล่า แต่ใจฉันไม่เคยเต้นหนักเท่าวันนี้มาก่อนเลย ได้ยินมั้ยขวัญ เสียงหัวใจของฉัน มันกำลังพูดอะไรอยู่”“คุณภูกะล่อน”เขายิ้ม ก้มเข้าหาแก้มอุ่นแล้วจูบหอมอย่างเอาแต่ใจ ไม่ยอมฟังเสียงห้ามปรา
ในช่วงเดือนพฤษภาคมเมื่อสิบปีก่อน ถ้ำสวรรค์กลายเป็นดินแดนสวรรค์สำหรับเธอและเขา ความลับที่แสนตราตรึงถูกเก็บซ่อนไว้ที่นั่น การนัดหมายเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยไม่มีใครรู้เวลาเกือบเดือนที่แอบคบหากันฉันท์คนรัก มันเป็นเวลาแห่งความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน“อ่า...” เธอกับเขากอดจูบกันอย่างดื่มด่ำ แม้ไม่เคยก้าวข้ามขอบเขตที่วางไว้ แต่หัวใจก็สั่นไหว โอนอ่อนผ่อนตามแรงปรารถนาจนแทบหยุดไม่ได้ทุกครั้ง “ขวัญจ๋า...ที่รักของเค้า” สองร่างกอดจูบนัวเนียเคล้าคลออยู่กลางสระนางฟ้า ขณะแสงจันทร์อาบคลุมไปทั่วบริเวณ แสงสีทองจากตะเกียงเจ้าพายุส่องให้เห็นความสวยงามของถ้ำสวรรค์ที่ถูกสรรค์สร้างอย่างตระกรานตาจากธรรมาติ “คุณภู” น้ำเสียงออดอ้อนครวญครางเรียกหาเขา กระตุ้นความรู้สึกและอารมณ์ของเขาให้กระเจิงกระจายไปทั่วร่าง กายแกร่งกอดรัดรึงรัน ลำร้อนภายใต้กางเกงขายาวดิ้นเดือด แข็งคัด เจ็บหน่วงเหมือนจะระเบิด“เค้าไม่ไหวแล้วขวัญ...ซี๊ดส์อ่าห์...ไม่ไหว” เสียงกระเส่ากระสันบ่งบอกถึงอารมณ์สุดต้านทาน ก่อนความสุขจะฉีดพล่านออกมาไม่ยั้ง “โอววว...”“อือ...อือ...” เธอจูบแลกลิ้นกับเขาอย่างเมามันส์ ขณะนิ้วแกร่งกดคลึงปุ่มกระสันกลา
“ป่านนี้แล้ว ทำไมพี่กลอยยังไม่กลับบ้านอีกนะ งานก็เลิกตั้งนานแล้วนี่นา” เธอพยายามโทรศัพท์หาพี่สาว แต่เครื่องกลับปิด เมื่อโทรไปที่สำนักงานก็ไม่มีคนรับสาย หากจะออกไปดูที่สำนักงานด้วยตัวเองก็เกรงว่าจะเกิดอันตราย ทั้งสภาพเส้นทางที่เปียกแฉะ สัตว์เลื้อยคลานต่าง ๆ นานา หรือแม้แต่มนุษย์ คนงานเกือบพันคนไม่ได้น่าไว้ใจทุกคน“หรือว่า...ขอให้อุ่นช่วยดีกว่า” ละอุ่นเป็นลูกชายของหัวหน้าคนงาน ซึ่งอยู่บ้านพักใกล้กัน น้องชายของเขาชื่อดินแดน อายุห่างจากพวกเธอสามปี ทั้งคู่เป็นลูกน้องคนสนิทของภูเมฆ นิสัยดีน่ารักทั้งคู่ โดยเฉพาะละอุ่น ที่เรียนห้องเดียวกับเธอมาตลอด เขาจะคอยดูแลและปกป้องเธอเสมือนเธอเป็นน้องสาวของเขาคนหนึ่ง“ขวัญ! มาทำไม ฝนตกแบบนี้!” ทันทีที่ละอุ่นเปิดประตูมาเห็นว่าเธอยืนอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน เขาก็โวยวายใหญ่ ตามนิสัยเป็นห่วงเกินเหตุของเขา“พ่อใหญ่อยู่รึเปล่า” เธอหมายถึงพ่อของละอุ่น ซึ่งเป็นหัวหน้าคนงาน “กลับมาจากสำนักงานรึยัง”“กลับมาตั้งนานแล้วนะ ตอนนี้อาบน้ำอยู่ มีอะไรเหรอ เข้ามาก่อนสิ”“พี่กลอยยังไม่กลับบ้านเลย ไม่รู้ไปติดฝนอยู่ที่ไหน เราเป็นห่วงพี่กลอย โทรไปก็ไม่ติด”“อาจติดฝนอยู่ที่สำนักงาน
จูบแรกของเธอเกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อน...รอยจูบอันแสนเย้ายวนและตราตรึงใจที่สะกดวิญญาณของเธอให้เป็นของเขาชั่วนิรันดร์ตอนนั้นเธออายุได้สิบห้าปี เป็นเด็กสาววัยแรกแย้มแสนสวยที่มีผิวพรรณนวลเนียนงดงามในทุกอณู ดวงตากลมโตสุกสกาวเหมือนแมวน้อย จมูกโด่งรั้นรับกับริมฝีปากอิ่มแดงเรื่อได้อย่างลงตัว ผมดำขลับดุจเส้นไหมยาวสลวยจดแผ่นหลังขวัญชีวาเปรียบดั่งดอกไม้งามกลางป่าเหมืองที่นำความสดชื่นมาสู่เหมืองในทุกฤดูกาล เธอเป็นน้องสาวของกลอยใจซึ่งเป็นเสมียนของเหมืองเพชรธารา เหมืองแร่ดีบุกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองแห่งหนึ่งของจังหวัดพังงา เธอกับพี่สาวอาศัยอยู่ในบ้านพักของเหมืองมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ก็เหมือนกับคนงานอีกเกือบพันที่ปักหลัก สร้างชีวิตอยู่ในอาณาจักรเพชรธารา ซึ่งได้ดำเนินกิจการมากว่า 20ปีแล้วพ่อแม่ของเธอเป็นคนงานในยุคเริ่มแรกของเหมือง แต่เสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่ พี่สาวที่อายุมากกว่าเธอสิบปี จึงกลายเป็นผู้ปกครองของเธอและเลี้ยงดูเธอเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เหมืองเพชรธารากินพื้นที่เกือบพันไร่ กลางขุนเขาใหญ่ที่สลับซับซ้อน ผืนป่าดิบชื้นขนาดกว้างโอบล้อมหมอกหนาขาวโพลนปกคลุมในทุกฤดูกาลเจ้าของเหมืองเพชรธารา เป็นเศร
‘นายหัวภูคือเจ้านายของพวกเรา’ทว่า ในเวลานั้นเองที่นายหัวภูของทุกคนต้องย้ายตามมารดากลับกรุงเทพฯกะทันหัน เนื่องจากมารดาของเขาเกิดป่วยกระเสาะกระแสะเรื้อรัง จึงต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯนับตั้งแต่นั้น นายหัวภูของทุกคนก็หายลับไม่ยอมกลับมาที่เหมืองอีกเลยเป็นเวลากว่าห้าปี...ห้าปีที่เขาหายไป ราวกับแสงนำทางที่สวยงามค่อยๆริบหรี่จืดจางลง...ภูเมฆเป็นดั่งแสงนำทางของเด็กทุกคนในเหมือง รวมทั้งเธอด้วย เขาเป็นความสวยงาม เป็นความหวังและเป็นความฝันที่เกินเอื้อม“ขวัญคิดถึงคุณทุกวันเลยนะ” เธอกับเขาอายุเท่ากัน เกิดวันเดียวกัน และโตมาด้วยกันในเหมืองแร่ดีบุกแห่งนี้ ตอนยังเด็ก เธออยากมีเค้กวันเกิด อยากเป่าเทียนวันเกิด อยากขอพรจากเทวดานางฟ้า แต่พ่อแม่ไม่มีปัญญาจะหาของแบบนั้นมาให้ เลยทำได้แค่เอาดินเหนียวมาปั้นเป็นรูปเค้ก จุดเทียนสีขาวหนึ่งเล่มแล้วอธิษฐานขอพรจากดวงจันทร์แต่ในวันเกิดปีที่สิบนั่นเอง ที่เธอได้ทำอย่างที่ฝันไว้ เมื่อนายหัวภูเอาเค้กวันเกิดของตัวเองมาให้เธอ และบอกว่าเขาไม่ชอบเค้กรสช็อกโกแล็ต...ทั้งที่ความจริงแล้วมันเป็นรสโปรดของเขา !“ขอบคุณนะคะ” ซึ่งนั่นก็เป็นวันสุดท้ายที่เธอกับเขาได้เ
ลำแสงอันอ่อนโยนของดวงตะวันที่ทอดผ่านต้นสนสูงใหญ่ราวกับเส้นทางสู่สวรรค์ เปิดประตูให้เธอก้าวเข้ามาพบกับสระน้ำสีฟ้าราวกับน้ำทะเลที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาสูงตระหง่าน“ที่นี่ต้องเป็นสวรรค์แน่เลย” สาวน้อยเปลื้องเสื้อผ้าออกจากกาย ร่างระหงเปลือยเปล่าสวยงามก้าวย่างลงไปในสระด้วยความตื่นเต้น กายสวยแหวกว่ายน้ำอุ่นราวกับนางเงือกแสนสวยหรือไม่ก็นางฟ้า ขณะใครอีกคนที่ถูกเลือกให้เจอทางเข้าถ้ำสวรรค์ เขายืนนิ่งอยู่หลังโขดหินใหญ่ใกล้กับสระนางฟ้ามาสักพักแล้ว ดวงตาคู่คมตะลึงกับความงามหยดตรงหน้าราวกับถูกสะกดด้วยเวทมนต์ หัวใจของเด็กหนุ่มดิ้นหนักเหมือนจะทะลุออกจากอกเสียให้ได้“นางฟ้าหรือภูติผีกันแน่” เขารำพึงกับตัวเอง เหมือนคนกำลังพร่ำเพ้อละเมอหา หากไม่ใช่เพราะเสียงฮัมเพลงอย่างมีความสุขดังแว่วมา...“ว๊าวววว ผีเสื้อเต็มเลย” และเสียงตื่นเต้นดีใจของเธอยามที่ผีเสื้อนับร้อยตัวบินมาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ โอว มันช่างเป็นภาพที่ชวนตื่นตาตื่นใจเสียจริง ราวกับเป็นภาพวาดสีน้ำของจิตกรชื่อดัง หัวใจที่เต้นหนักทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่อยู่ สองเท้าคิดจะถอยหลังแต่กลับพลาดเตะก้อนหินขนาดเท่ากำมือล่วงลงน้ำดังจ๋อม“ใครน่ะ!” ใบหน้าสว
ภูเมฆยอมยกสองมือขึ้นเหนือศีรษะแล้วขยับฝีเท้าก้าวออกไปยืนบนลานหิน เพื่อแสดงตัวให้เธอเห็น ทำเหมือนยอมจำนน ทั้งที่ไม่ได้กลัวเกรงอะไรเธอเลยสักนิด แต่เพราะเขาอยากจะเห็นสีหน้าของเธอ ตอนที่เห็นหน้าเขาแบบเต็มตาต่างหาก เขาแค่อยากจะรู้ว่าเธอยังจำเขาได้หรือไม่“อะ!” ขวัญชีวาตกใจไม่น้อยที่เห็นเขายืนอยู่ตรงหน้า เด็กหนุ่มวัยสิบห้าที่มีความสง่างามตั้งแต่หัวจรดเท้า ดวงตาคู่คมดุดันแฝงความเจ้าเล่ห์ลึกเร้น ริมฝีปากรูปกระจับเหยียดยิ้มในอารมณ์แบบคนหยิ่งยโสและมั่นใจในตัวเอง เขาคือนายหัวภูเมฆที่แสนคิดถึง“เธอนั่นแหละคือใคร” น้ำเสียงก้องกังวานของเขากลบทุกสรรพเสียงรอบกายจนหมดสิ้น เธออึ้งจนลืมฟังคำถามของเขา...อึ้งที่เห็นเขาที่นี่ อึ้งที่นอกจากเธอแล้วยังมีอีกคนที่หาทางเข้าที่นี่เจอ“ผีหรือคน?” สายตาเจ้าเล่ห์ร้ายและยิ้มมุมปากของเขายามจดจ้องมองเธอ ทำให้เธอเกิดนึกขึ้นมาได้ว่าร่างกายของเธออยู่ในสภาพไหน“ว๊าย!” เธอรีบหยิบเสื้อผ้ามากอดไว้แน่น เพื่อปกป้องหน้าอกคู่โตเอาไว้ จึงทำให้มีดและปืนหลุดมือล่วงลงน้ำไป“เฮ๊ย! ไม่นะ..อยู่ไหนเนี่ย”เขาหัวเราะออกมา เธอเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ เขาเห็นความกลัวของคนอื่นเป็นเรื่อง
“ป่านนี้แล้ว ทำไมพี่กลอยยังไม่กลับบ้านอีกนะ งานก็เลิกตั้งนานแล้วนี่นา” เธอพยายามโทรศัพท์หาพี่สาว แต่เครื่องกลับปิด เมื่อโทรไปที่สำนักงานก็ไม่มีคนรับสาย หากจะออกไปดูที่สำนักงานด้วยตัวเองก็เกรงว่าจะเกิดอันตราย ทั้งสภาพเส้นทางที่เปียกแฉะ สัตว์เลื้อยคลานต่าง ๆ นานา หรือแม้แต่มนุษย์ คนงานเกือบพันคนไม่ได้น่าไว้ใจทุกคน“หรือว่า...ขอให้อุ่นช่วยดีกว่า” ละอุ่นเป็นลูกชายของหัวหน้าคนงาน ซึ่งอยู่บ้านพักใกล้กัน น้องชายของเขาชื่อดินแดน อายุห่างจากพวกเธอสามปี ทั้งคู่เป็นลูกน้องคนสนิทของภูเมฆ นิสัยดีน่ารักทั้งคู่ โดยเฉพาะละอุ่น ที่เรียนห้องเดียวกับเธอมาตลอด เขาจะคอยดูแลและปกป้องเธอเสมือนเธอเป็นน้องสาวของเขาคนหนึ่ง“ขวัญ! มาทำไม ฝนตกแบบนี้!” ทันทีที่ละอุ่นเปิดประตูมาเห็นว่าเธอยืนอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน เขาก็โวยวายใหญ่ ตามนิสัยเป็นห่วงเกินเหตุของเขา“พ่อใหญ่อยู่รึเปล่า” เธอหมายถึงพ่อของละอุ่น ซึ่งเป็นหัวหน้าคนงาน “กลับมาจากสำนักงานรึยัง”“กลับมาตั้งนานแล้วนะ ตอนนี้อาบน้ำอยู่ มีอะไรเหรอ เข้ามาก่อนสิ”“พี่กลอยยังไม่กลับบ้านเลย ไม่รู้ไปติดฝนอยู่ที่ไหน เราเป็นห่วงพี่กลอย โทรไปก็ไม่ติด”“อาจติดฝนอยู่ที่สำนักงาน
ในช่วงเดือนพฤษภาคมเมื่อสิบปีก่อน ถ้ำสวรรค์กลายเป็นดินแดนสวรรค์สำหรับเธอและเขา ความลับที่แสนตราตรึงถูกเก็บซ่อนไว้ที่นั่น การนัดหมายเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยไม่มีใครรู้เวลาเกือบเดือนที่แอบคบหากันฉันท์คนรัก มันเป็นเวลาแห่งความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน“อ่า...” เธอกับเขากอดจูบกันอย่างดื่มด่ำ แม้ไม่เคยก้าวข้ามขอบเขตที่วางไว้ แต่หัวใจก็สั่นไหว โอนอ่อนผ่อนตามแรงปรารถนาจนแทบหยุดไม่ได้ทุกครั้ง “ขวัญจ๋า...ที่รักของเค้า” สองร่างกอดจูบนัวเนียเคล้าคลออยู่กลางสระนางฟ้า ขณะแสงจันทร์อาบคลุมไปทั่วบริเวณ แสงสีทองจากตะเกียงเจ้าพายุส่องให้เห็นความสวยงามของถ้ำสวรรค์ที่ถูกสรรค์สร้างอย่างตระกรานตาจากธรรมาติ “คุณภู” น้ำเสียงออดอ้อนครวญครางเรียกหาเขา กระตุ้นความรู้สึกและอารมณ์ของเขาให้กระเจิงกระจายไปทั่วร่าง กายแกร่งกอดรัดรึงรัน ลำร้อนภายใต้กางเกงขายาวดิ้นเดือด แข็งคัด เจ็บหน่วงเหมือนจะระเบิด“เค้าไม่ไหวแล้วขวัญ...ซี๊ดส์อ่าห์...ไม่ไหว” เสียงกระเส่ากระสันบ่งบอกถึงอารมณ์สุดต้านทาน ก่อนความสุขจะฉีดพล่านออกมาไม่ยั้ง “โอววว...”“อือ...อือ...” เธอจูบแลกลิ้นกับเขาอย่างเมามันส์ ขณะนิ้วแกร่งกดคลึงปุ่มกระสันกลา
“ฉันคิดถึงเธอมากรู้มั้ยขวัญ” น้ำเสียงกระซิบกระเส่าบ่งบอกถึงแรงปรารถนาจากภายใน ฝ่ามือลูบไล้สำรวจร่างกายสวยอย่างโหยหา “คิดถึงทุกวัน ทุกคืน”“ไม่เชื่อหรอกค่ะ คุณภูหายไปตั้งห้าปี โดยที่ไม่ได้ติดต่อใครเลย ทั้งอุ่น และดิน” เธอหมายถึงลูกคนงานที่เดินตามหลังเขาในสมัยเด็ก เด็กชายสุดทะโมนสองพี่น้องที่เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเขา “พวกนั้นคิดว่านายหัวภูลืมพวกเขาไปแล้ว”“แม่ฉันป่วยหนัก ฉันต้องดูแลแม่ตลอดเวลา ไม่อยากติดต่อใครเพราะไม่อยากให้ใจเตลิด ห้าปีที่ผ่านมา ฉันรู้สึกผิดกับแม่ ที่เอาหัวใจส่วนหนึ่งไปคิดถึงเธอ ทุกปีเวลาถึงวันเกิดของเรา ฉันจะอวยพรเสมอ”“อวยพรอะไรคะ” หัวใจเธอสั่นรัวไปหมดแล้วนะ หากนี่เป็นแค่ความฝัน เธอก็ไม่อยากตื่น“อวยพรให้เธอไม่ลืมฉัน ให้เธอชอบฉันคนเดียว และรอฉันอยู่ที่นี่ ไม่มีทางหนีไปไหนได้”“คุณภู!” หัวใจเธอระทวยจนไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้ว เธอโดนเขาสาปด้วยความยินยอมพร้อมใจ“ฉันไม่แน่ใจว่ามันคือความรักรึเปล่า แต่ใจฉันไม่เคยเต้นหนักเท่าวันนี้มาก่อนเลย ได้ยินมั้ยขวัญ เสียงหัวใจของฉัน มันกำลังพูดอะไรอยู่”“คุณภูกะล่อน”เขายิ้ม ก้มเข้าหาแก้มอุ่นแล้วจูบหอมอย่างเอาแต่ใจ ไม่ยอมฟังเสียงห้ามปรา
“ไม่งั้นอะไร” ริมฝีปากกลิ่นมินต์ขยับเข้าใกล้ริมฝีปากของเธออย่างจงใจแกล้ง ซึ่งมันได้ผล ใจเธอเต้นระส่ำจนกายสั่นไปหมดแล้ว “ขวัญ...ชี...วา!”“หา!” เธอตกใจไม่น้อยที่เขารู้ชื่อเธอ “คุณ...รู้?”เขาจ้องหน้าเธอนิ่ง แต่แววตาตื่นเต้นลนลานเหมือนคนที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย ยัยมอมแมม!”เธอตาเหลือก อ้าปากหวอ เขารู้ฉายาของเธอด้วยงั้นเหรอ “นายหัวภู ทำไม?”“คิดถึงนะ”“อะไรนะคะ” เธอต้องหูฝาดไปแน่ ๆ“ฉันคิดถึงเธอนะขวัญ ได้ยินมั้ย”“โกหก” แต่ใจเธอระทวยไปแล้ว “นายหัวภูเลิกล้อเล่นแล้วปล่อยขวัญได้แล้วค่ะ”“ไม่ปล่อย”“นายหัว”แววตาคู่คมร้อนแรงกว่าเดิมยามจดจ้องดวงตาใสสวยไร้เดียงสา “รู้รึเปล่าว่าฉันกลับมาแล้ว”เธอหลบสายตาเขา “รู้ค่ะ”“แล้วทำไมไม่เห็นไปหาเลย”“ก็...ขวัญ...ทำไมขวัญต้องไปหา”“เมื่อก่อนใครกันนะที่คอยตามไปทั่ว ใครกันที่แอบมองกันตลอด ไม่ได้ชอบเหรอ นึกว่าชอบเสียอีก”เขาจู่โจมแบบไม่ให้เธอได้ทันตั้งตัวเลยล่ะ ผู้ชายกรุงเทพฯ น่ากลัวชะมัด !“ไม่เห็นแปลกเลยนี่คะ เด็กทุกคนในเหมืองก็...วิ่งตามนายหัวกันทั้งนั้นนี่คะ”“ไม่ยอมรับเหรอ”ริมฝีปากสวยเม้มแน่น “นายหัวภูต้องการอะไรจากข
ภูเมฆยอมยกสองมือขึ้นเหนือศีรษะแล้วขยับฝีเท้าก้าวออกไปยืนบนลานหิน เพื่อแสดงตัวให้เธอเห็น ทำเหมือนยอมจำนน ทั้งที่ไม่ได้กลัวเกรงอะไรเธอเลยสักนิด แต่เพราะเขาอยากจะเห็นสีหน้าของเธอ ตอนที่เห็นหน้าเขาแบบเต็มตาต่างหาก เขาแค่อยากจะรู้ว่าเธอยังจำเขาได้หรือไม่“อะ!” ขวัญชีวาตกใจไม่น้อยที่เห็นเขายืนอยู่ตรงหน้า เด็กหนุ่มวัยสิบห้าที่มีความสง่างามตั้งแต่หัวจรดเท้า ดวงตาคู่คมดุดันแฝงความเจ้าเล่ห์ลึกเร้น ริมฝีปากรูปกระจับเหยียดยิ้มในอารมณ์แบบคนหยิ่งยโสและมั่นใจในตัวเอง เขาคือนายหัวภูเมฆที่แสนคิดถึง“เธอนั่นแหละคือใคร” น้ำเสียงก้องกังวานของเขากลบทุกสรรพเสียงรอบกายจนหมดสิ้น เธออึ้งจนลืมฟังคำถามของเขา...อึ้งที่เห็นเขาที่นี่ อึ้งที่นอกจากเธอแล้วยังมีอีกคนที่หาทางเข้าที่นี่เจอ“ผีหรือคน?” สายตาเจ้าเล่ห์ร้ายและยิ้มมุมปากของเขายามจดจ้องมองเธอ ทำให้เธอเกิดนึกขึ้นมาได้ว่าร่างกายของเธออยู่ในสภาพไหน“ว๊าย!” เธอรีบหยิบเสื้อผ้ามากอดไว้แน่น เพื่อปกป้องหน้าอกคู่โตเอาไว้ จึงทำให้มีดและปืนหลุดมือล่วงลงน้ำไป“เฮ๊ย! ไม่นะ..อยู่ไหนเนี่ย”เขาหัวเราะออกมา เธอเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ เขาเห็นความกลัวของคนอื่นเป็นเรื่อง
ลำแสงอันอ่อนโยนของดวงตะวันที่ทอดผ่านต้นสนสูงใหญ่ราวกับเส้นทางสู่สวรรค์ เปิดประตูให้เธอก้าวเข้ามาพบกับสระน้ำสีฟ้าราวกับน้ำทะเลที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาสูงตระหง่าน“ที่นี่ต้องเป็นสวรรค์แน่เลย” สาวน้อยเปลื้องเสื้อผ้าออกจากกาย ร่างระหงเปลือยเปล่าสวยงามก้าวย่างลงไปในสระด้วยความตื่นเต้น กายสวยแหวกว่ายน้ำอุ่นราวกับนางเงือกแสนสวยหรือไม่ก็นางฟ้า ขณะใครอีกคนที่ถูกเลือกให้เจอทางเข้าถ้ำสวรรค์ เขายืนนิ่งอยู่หลังโขดหินใหญ่ใกล้กับสระนางฟ้ามาสักพักแล้ว ดวงตาคู่คมตะลึงกับความงามหยดตรงหน้าราวกับถูกสะกดด้วยเวทมนต์ หัวใจของเด็กหนุ่มดิ้นหนักเหมือนจะทะลุออกจากอกเสียให้ได้“นางฟ้าหรือภูติผีกันแน่” เขารำพึงกับตัวเอง เหมือนคนกำลังพร่ำเพ้อละเมอหา หากไม่ใช่เพราะเสียงฮัมเพลงอย่างมีความสุขดังแว่วมา...“ว๊าวววว ผีเสื้อเต็มเลย” และเสียงตื่นเต้นดีใจของเธอยามที่ผีเสื้อนับร้อยตัวบินมาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ โอว มันช่างเป็นภาพที่ชวนตื่นตาตื่นใจเสียจริง ราวกับเป็นภาพวาดสีน้ำของจิตกรชื่อดัง หัวใจที่เต้นหนักทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่อยู่ สองเท้าคิดจะถอยหลังแต่กลับพลาดเตะก้อนหินขนาดเท่ากำมือล่วงลงน้ำดังจ๋อม“ใครน่ะ!” ใบหน้าสว
‘นายหัวภูคือเจ้านายของพวกเรา’ทว่า ในเวลานั้นเองที่นายหัวภูของทุกคนต้องย้ายตามมารดากลับกรุงเทพฯกะทันหัน เนื่องจากมารดาของเขาเกิดป่วยกระเสาะกระแสะเรื้อรัง จึงต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯนับตั้งแต่นั้น นายหัวภูของทุกคนก็หายลับไม่ยอมกลับมาที่เหมืองอีกเลยเป็นเวลากว่าห้าปี...ห้าปีที่เขาหายไป ราวกับแสงนำทางที่สวยงามค่อยๆริบหรี่จืดจางลง...ภูเมฆเป็นดั่งแสงนำทางของเด็กทุกคนในเหมือง รวมทั้งเธอด้วย เขาเป็นความสวยงาม เป็นความหวังและเป็นความฝันที่เกินเอื้อม“ขวัญคิดถึงคุณทุกวันเลยนะ” เธอกับเขาอายุเท่ากัน เกิดวันเดียวกัน และโตมาด้วยกันในเหมืองแร่ดีบุกแห่งนี้ ตอนยังเด็ก เธออยากมีเค้กวันเกิด อยากเป่าเทียนวันเกิด อยากขอพรจากเทวดานางฟ้า แต่พ่อแม่ไม่มีปัญญาจะหาของแบบนั้นมาให้ เลยทำได้แค่เอาดินเหนียวมาปั้นเป็นรูปเค้ก จุดเทียนสีขาวหนึ่งเล่มแล้วอธิษฐานขอพรจากดวงจันทร์แต่ในวันเกิดปีที่สิบนั่นเอง ที่เธอได้ทำอย่างที่ฝันไว้ เมื่อนายหัวภูเอาเค้กวันเกิดของตัวเองมาให้เธอ และบอกว่าเขาไม่ชอบเค้กรสช็อกโกแล็ต...ทั้งที่ความจริงแล้วมันเป็นรสโปรดของเขา !“ขอบคุณนะคะ” ซึ่งนั่นก็เป็นวันสุดท้ายที่เธอกับเขาได้เ
จูบแรกของเธอเกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อน...รอยจูบอันแสนเย้ายวนและตราตรึงใจที่สะกดวิญญาณของเธอให้เป็นของเขาชั่วนิรันดร์ตอนนั้นเธออายุได้สิบห้าปี เป็นเด็กสาววัยแรกแย้มแสนสวยที่มีผิวพรรณนวลเนียนงดงามในทุกอณู ดวงตากลมโตสุกสกาวเหมือนแมวน้อย จมูกโด่งรั้นรับกับริมฝีปากอิ่มแดงเรื่อได้อย่างลงตัว ผมดำขลับดุจเส้นไหมยาวสลวยจดแผ่นหลังขวัญชีวาเปรียบดั่งดอกไม้งามกลางป่าเหมืองที่นำความสดชื่นมาสู่เหมืองในทุกฤดูกาล เธอเป็นน้องสาวของกลอยใจซึ่งเป็นเสมียนของเหมืองเพชรธารา เหมืองแร่ดีบุกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองแห่งหนึ่งของจังหวัดพังงา เธอกับพี่สาวอาศัยอยู่ในบ้านพักของเหมืองมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ก็เหมือนกับคนงานอีกเกือบพันที่ปักหลัก สร้างชีวิตอยู่ในอาณาจักรเพชรธารา ซึ่งได้ดำเนินกิจการมากว่า 20ปีแล้วพ่อแม่ของเธอเป็นคนงานในยุคเริ่มแรกของเหมือง แต่เสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่ พี่สาวที่อายุมากกว่าเธอสิบปี จึงกลายเป็นผู้ปกครองของเธอและเลี้ยงดูเธอเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เหมืองเพชรธารากินพื้นที่เกือบพันไร่ กลางขุนเขาใหญ่ที่สลับซับซ้อน ผืนป่าดิบชื้นขนาดกว้างโอบล้อมหมอกหนาขาวโพลนปกคลุมในทุกฤดูกาลเจ้าของเหมืองเพชรธารา เป็นเศร