Share

บทที่ 10

Author: อู่เย่ซิงคง
last update Last Updated: 2024-12-10 14:48:12
ไม่นาน พวกหลี่หยางทั้งสามคนก็มาพบกับจ้าวลี่ที่เดินมาพร้อมกับบอดี้การ์ด

เมื่อเห็นว่าจ้าวลี่เป็นชายวัยกลางคนที่มีพลังและกระฉับกระเฉง อีกทั้งยังดูมีเสน่ห์อยู่บ้าง ดวงตาของเจี่ยงหงก็เป็นประกายขึ้นมาทันที

เธอรีบจัดทรงผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยและจัดเสื้อผ้าให้ดูเรียบร้อย ทั้งยังสวมท่าทางของสตรีวัยกลางคนที่อ่อนโยนและมีคุณสมบัติเป็นภรรยาที่ดี

เธอเป็นม่ายมานานหลายปี และตอนนี้เธอรู้สึกว่าเธอต้องการผู้ชาย

ถ้าเธอสามารถดึงดูดความสนใจจากจ้าวลี่ที่อยู่ข้างๆ จ้าวเมิ่งซินได้ล่ะก็ นั่นจะถือว่าเธอโชคดีมาก

ชีวิตหลังจากนี้จะได้สุขสบาย

หลี่หยางก็แสดงสีหน้าฉายแววคาดหวังเช่นกัน ราวกับว่าได้เห็นแล้วว่าหลังจากที่ทำงานสำเร็จ จ้าวเมิ่งซินจะมอบรางวัลใหญ่ให้เขา

ไม่นานหลังจากนั้น จ้าวลี่ก็หยุดอยู่ตรงหน้าทั้งสามคน

เจี่ยงหงรีบส่งสายตาหวานเยิ้มใส่เขาทันที

จ้าวลี่ทำเป็นมองไม่เห็น ก่อนจะจ้องไปที่หลี่หยาง

“นายมาหาคุณหนูใหญ่เหรอ?”

“ใช่ครับๆ” หลี่หยางรีบพยักหน้า

“คุณเป็นผู้ดูแลใกล้ชิดของคุณหนูใหญ่จ้าวใช่ไหมครับ? ผมมีเรื่องสำคัญและเร่งด่วนจะรายงาน คุณต้องพาผมไปพบคุณหนูใหญ่จ้าวเดี๋ยวนี้เลย”

“หึๆ...” จ้าวลี่หัวเราะเยาะ ไม่สนใจในสิ่งที่เขาพูดเลยแม้แต่น้อย

“คุณหนูใหญ่จ้าวน่ะ พวกนายเจอไม่ได้หรอก เพราะว่าเธอให้ฉันจัดการพวกนายให้ดี แล้วไล่พวกนายออกไป!”

“อะไรนะ?!” หลี่หยางตกตะลึงจนใบหน้าซีดเผือดทันที

“ทำไมล่ะ? พวก...พวกเราไม่ได้ไปล่วงเกินอะไรคุณหนูใหญ่จ้าวเลยนะ หัวใจที่คุณหนูใหญ่จ้าวต้องการปลูกถ่าย ผมเองก็เป็นคนออกกำลังคนและคิดแผนการ ทำเพื่อคุณหนูจ้าวทั้งนั้น!”

สองแม่ลูกฉินลี่หย่าก็งุนงง

สถานการณ์นี้มันต่างจากที่พวกเธอสองคนคิดเอาไว้

ยังไม่ได้พูดอะไรเลย กลับบอกว่าจะจัดการพวกเธอแล้ว...

เจี่ยงหงก็ยังไม่ล้มเลิกความคิดยั่วยวนจ้าวลี่

“ล่วงเกินคุณหนูใหญ่หรือเปล่า พวกนายเองอาจคิดไม่ถึง แต่ที่แน่ๆ คุณหนูจ้าวรู้ทุกอย่างชัดเจน” จ้าวลี่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

หลี่หยางหน้าเสียจนผิวหน้าเป็นสีขาว

ถ้าหากถูกคุณหนูใหญ่ตระกูลจ้าวเกลียดล่ะก็ คงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แน่

แม้แต่หวงเปียวหู่ก็ยังไม่กล้ามาปกป้องเขา

“เข้าใจผิดแล้ว! ต้องเข้าใจผิดแน่ๆ!” เขารีบแก้ตัวอย่างร้อนรน

“ตอนนี้คุณหนูใหญ่จ้าวคงยังไม่ได้ปลูกถ่ายหัวใจใช่ไหม?”

จ้าวลี่ตาเป็นประกาย

“นายรู้ได้ยังไง?”

“ก็เพราะว่าเราเจอเย่หมิงไอ้คนไร้ประโยชน์นั่น อุ้มน้าของมันหนีไปจากโรงพยาบาลยังไงล่ะ เพราะยังไม่มีหัวใจที่เหมาะสมพอจะใช้ได้ ตอนนี้พวกคุณก็เลยตามหาพวกเขาให้ทั่วอยู่ใช่ไหม?” หลี่หยางพูดอย่างตื่นเต้น

จ้าวลี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก

เขาคิดว่าข่าวเรื่องที่เย่หมิงช่วยรักษาอาการป่วยของจ้าวเมิ่งซินจะหลุดไปแล้ว จนแม้แต่หมาแมวอย่างพวกหลี่หยางพวกนี้ก็รู้

แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย

“อีกอย่าง เย่หมิงไอ้คนไร้ประโยชน์นั่นยังขโมยกุญแจบ้านพักตากอากาศหมายเลขหนึ่งของซินเทียนเซี่ย ที่บริษัทเสียงอวิ๋นกรุ๊ปมอบให้คุณหนูใหญ่จ้าวไปด้วยใช่ไหม?” หลี่หยางพูดต่อไป

“คุณไม่ต้องถามหรอกว่าผมรู้เรื่องนี้ได้ยังไง ก็เพราะว่าพวกเราเจอไอ้คนไร้ประโยชน์สองคนนั่นอยู่ที่บ้านพักตากอากาศซินเทียนเซี่ย พวกเขาเอาแต่บอกว่าบ้านพักตากอากาศนั่นเป็นของขวัญจากคุณหนูใหญ่จ้าว และต่อไปก็จะเป็นของพวกเขาแล้ว นี่มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน บ้านนั้นมีมูลค่าหลายพันล้าน พวกเขาที่เป็นแค่ไอ้คนไร้ประโยชน์ไม่คู่ควรที่จะได้รับด้วยซ้ำ!”

“น่าสมเพช” จ้าวลี่หัวเราะเยาะ

“ใครว่าไม่น่าสมเพชล่ะครับ” หลี่หยางรีบพูดตอบ

“เพราะฉะนั้น พวกเราก็เลยรีบมารายงานทันที นี่แหละครับคือเรื่องสำคัญที่ผมบอกไปเมื่อสักครู่นี้ พวกเราน่ะ มาเพื่อช่วยจับขโมยให้คุณหนูใหญ่จ้าว และเอาหัวใจที่ต้องการกลับคืนมาใหม่อีกครั้ง รอให้คุณหนูใหญ่จ้าวเปลี่ยนถ่ายหัวใจเสร็จแล้ว ต้องขอบคุณพวกเราสิครับ แล้วจะพูดว่าล่วงเกินกันได้ยังไง?”

“ใช่ค่ะ พวกเรารีบมาที่นี่โดยไม่หยุดพักเลยแม้แต่วินาทีเดียว กลัวว่าหัวใจดวงนั้นจะหนีไป ทำให้คุณหนูใหญ่จ้าวไม่มีหัวใจใช้ กลัวว่าจะล่าช้าต่ออาการป่วย” ฉินลี่หย่าพูดเสริม

“หลังจากนี้คุณหนูใหญ่จ้าวจะต้องขอบคุณพวกเรานะครับ”

“หึ!” จ้าวลี่เหยียดแค่นเสียงเย็นชา

“ฉันบอกว่าคนที่น่าสมเพชคือพวกนาย!”

“อะไรนะ?!” หลี่หยางทั้งสามคนพากันเบิกตากว้าง

“จัดการพวกมัน!” จ้าวลี่สั่งเสียงกร้าวให้กับบอดี้การ์ดที่เขาพามาด้วย รวมถึงบอดี้การ์ดอื่นๆ ที่ยืนอยู่ข้างๆ

บอดี้การ์ดเหล่านี้เริ่มเคลื่อนไหวทันที

“อ๊าก!”

ฉินลี่หย่าและเจี่ยงหงร้องเสียงดังพร้อมๆ กัน ขยับไปหลบหลังหลี่หยาง

หลี่หยางเองก็หน้าเสียไม่ต่างกัน

“คุณจะทำแบบนี้กับพวกเราไม่ได้นะ พวกเราเรามาช่วยคุณหนูใหญ่จ้าว พาพวกเราไปพบคุณหนูใหญ่จ้าวเดี๋ยวนี้ หากทำให้เรื่องชักช้า คุณจะรับผิดชอบไม่ไหวนะ...โอ๊ย!”

ยังพูดไม่ทันจบ บอดี้การ์ดก็ชกเข้าที่หน้าเขาเต็มแรง

บอดี้การ์ดคนอื่นๆ ก็รุมกันเตะและต่อยอย่างไม่ยั้ง

ในพริบตา ทั้งสามคนก็นอนกลิ้งอยู่บนพื้น กรีดร้องอย่างเจ็บปวด

“พี่หยาง พี่...โอ๊ย! ช่วยคิดหาทางออกสิ ฉัน...โอ๊ย!”

“แล้วฉันจะมีทางออกได้ยังไง ฉันไม่มีโว้ย อ๊าก!”

......

“หยุด!” หลังจากผ่านไปสักพัก จ้าวลี่จึงตะโกนเสียงดัง

บอดี้การ์ดทั้งหมดก็หยุดมือแล้วถอยออกไป

หลี่หยางทั้งสามคนตอนนี้หน้าตาบวมช้ำ เสื้อผ้ายุ่งเหยิง สภาพดูน่าสมเพชมาก

“ฮือๆ... ทำไมต้องทำกับพวกเราขนาดนี้กัน... ฮือๆ...” ฉินลี่หย่าปิดหน้าแล้วร้องไห้อย่างหนัก

“ถ้าร้องอีก ฉันจะตัดลิ้นเธอซะ!” จ้าวลี่ดุเสียงเย็น

ฉินลี่หย่าตกใจ รีบหยุดร้องทันที

คนจากตระกูลจ้าวโหดเหี้ยมจริงๆ

“พวกนายทั้งสามคนต้องคุกเข่าออกไปจากโรงพยาบาลนี้” จ้าวลี่พูดเสียงเย็น

“อะไรนะ! จะทำแบบนี้ได้ยังไง!” เจี่ยงหงตกใจ

“ถ้ายังพูดมากอีก ฉันจะสั่งให้ตีพวกนายต่อ!” จ้าวลี่ตำหนิ

“อย่า... อย่าตีเลย” หลี่หยางกลัวจนรีบอ้อนวอน

จากนั้นก็รีบคุกเข่าลงไป แล้วคลานออกไปข้างนอก

ฉินลี่หย่ากับเจี่ยงหงมองหน้ากัน

เรื่องอัปยศแบบนี้ พวกเธอจะทำได้ยังไง?

“พวกเธอจะชักช้าอยู่ทำไม?” จ้าวลี่ตะคอกเสียงดัง

ฉินลี่หย่ากับเจี่ยงหงกัดฟันแล้วคุกเข่าตามหลี่หยางไป

ฉากเช่นนี้ถูกผู้คนในโรงพยาบาลหลายคนเห็น และชี้นิ้วหัวเราะเยาะพวกเขา

“พวกเขาสามคนทำอะไรกันน่ะ? บ้าไปแล้วหรือว่ากำลังแสดงความสามารถพิเศษอยู่?”

“ถ้าบ้าก็คงถูกส่งไปโรงพยาบาลจิตเวชแล้วมั้ง น่าจะเป็นการแสดงความสามารถพิเศษมากกว่า ฮ่าๆ ๆ...”

“ฮ่าๆ ๆ... น่าขำจริงๆ ฉันจะถ่ายคลิปไว้โพสต์ลงออนไลน์”

“ฉันก็จะถ่ายด้วย”

......

หลี่หยางทั้งสามคนรู้สึกอัปยศอย่างถึงที่สุด พวกเขาเอามือปิดหน้า ไม่กล้ายกหัวขึ้น

จนกระทั่งพวกเขาคุกเข่าจนเดินออกจากลานโรงพยาบาล ถึงได้ลุกขึ้นยืนแล้วรีบวิ่งเข้าไปในป่าเล็กข้างๆ โรงพยาบาลเพื่อหลบซ่อนตัว

“ไอ้สารเลวเอ๊ย!” หลี่หยางกำหมัดชกไปที่ต้นไม้หนึ่งครั้งแล้วตะโกนด้วยความโกรธ

เขาไม่เคยได้รับความอัปยศขนาดนี้มาก่อน!

“ฮือๆ...” ฉินลี่หย่าร้องไห้อีกครั้งด้วยความเจ็บปวด

“อาหยาง นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเรามารายงานเรื่องสำคัญแท้ๆ แต่กลับถูกปฏิบัติด้วยแบบนี้?” เจี่ยงหงกัดฟันถาม

“เธอมาถามฉัน แล้วฉันจะไปถามใคร? คุณหนูใหญ่จ้าวคนนี้คงจะกินยาผิดหรือไม่ก็มีอาการผิดปกติทางจิต จับใครได้ก็ชอบเหยียดหยามรังแก!” หลี่หยางด่า

พอได้ยินคำนี้ ฉินลี่หย่าก็หยุดร้องไห้ทันที

“ถ้าเป็นอย่างนั้น เย่หมิงคนไร้ประโยชน์นั่นคงต้องโดนหนักกว่าพวกเรา”

“หืม?” หลี่หยางงุนงง

“พี่ลองคิดดูสิ พวกเรามารายงานยังถูกทำจนสภาพเป็นแบบนี้ แล้วคนไร้ประโยชน์อย่างเย่หมิงที่ขโมยกุญแจบ้านพักตากอากาศของคุณหนูใหญ่จ้าวไป แถมยังหนีไปพร้อมหัวใจที่ต้องปลูกถ่าย ถ้าคุณหนูใหญ่จ้าวจับได้ คงโดนลงโทษหนักจนตายทั้งเป็นแน่ๆ!” ฉินลี่หย่าพูดด้วยเสียงเย็นชา

“นี่...จริงด้วย” หลี่หยางตาเป็นประกาย

“ลี่หย่าฉลาดจริงๆ พวกเราลำบากขนาดนี้ ไอ้คนไร้ประโยชน์นั่นก็อย่าหวังว่าจะรอด” เจี่ยงหงพูดเสริม

ทั้งสามคนมองหน้ากัน แล้วต่างพากันหัวเราะด้วยความสะใจ

“เสียดายจริง ๆ ที่ครั้งนี้ไม่ได้อะไรเลย ยังสร้างความอับอายให้ตัวเองอีก” หลี่หยางย้อนกลับมาที่เรื่องนี้

“ไม่เป็นไร” ฉินลี่หย่าเข้ามาใกล้ แล้วคล้องแขนเขาไว้ด้วยท่าทางที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ

“ไว้พวกเรากลับไป พี่ก็เชิญระบายใส่ตัวฉันได้เต็มที่เลย”

“หึๆ... สาวน้อยยั่วยวนอย่างเธอนี่ช่างรู้งานจริงๆ” หลี่หยางยิ้มเจ้าเล่ห์

“นี่... แม่ฉันยังอยู่ข้างๆ นะ คุณนี่ร้ายจริงๆ”

......

Related chapters

  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 11

    จ้าวลี่กลับมาที่ห้องพักผู้ป่วย และกล่าวรายงานต่อจ้าวเมิ่งซิน“คุณหนูใหญ่ครับ ผมสั่งให้คนรุมทำร้ายพวกเขาทั้งสามคนอย่างหนักแล้ว อีกทั้ง…ยังสั่งให้พวกเขาคลานออกไปจากโรงพยาบาลและมีคนเห็นพวกเขาเยอะทีเดียวครับ”มุมปากของจ้าวเมิ่งซินยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางเบา“ทำได้ดีมาก”เมื่อเห็นดังนั้น ยิ่งทำให้จ้าวลี่รู้สึกว่าจ้าวเมิ่งซินสนใจในตัวเย่หมิงเข้าแล้วจริง ๆ แค่สั่งสอนคนไม่กี่คนเพราะเย่หมิง แต่กลับทำให้จ้าวเมิ่งซินที่เย็นชาดั่งน้ำแข็งมาตลอดหลุดยิ้มออกมาได้ ราวกับได้ช่วยแก้แค้นอย่างเกรี้ยวกราดเพื่อเย่หมิงอย่างไรอย่างนั้นเขาอดที่จะอิจฉาเย่หมิงไม่ได้จ้าวเมิ่งซินไม่ได้มีเพียงรูปลักษณ์ที่สวยงามน่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังมีอำนาจของตระกูลจ้าวที่กุมเอาไว้ในกำมือ“ลุงลี่ ประกาศออกไป...” จ้าวเมิ่งลี่เปลี่ยนเรื่องกะทันหัน“ประกาศออกไป ว่าตระกูลจ้าวของเรากำลังเตรียมตั้งบริษัทในเครือที่ต้องใช้เงินลงทุนอย่างน้อยนับแสนล้าน ทางเราจะจัดงานเลี้ยงทางธุรกิจในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้าพร้อมเชิญนักธุรกิจทั่วทุกมุมโลกมาร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้”จ้าวลี่ตกตะลึงไปชั่วขณะ“คุณหนูใหญ่ครับ ธุรกิจของตระกูลจ้าวล้วนมีครบในทุ

    Last Updated : 2024-12-10
  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 12

    หลังจากนั้นไม่นาน ขั้นตอนการฝังเข็มก็เสร็จสิ้นลงหลังจากรอผ่านไปเพียงครู่ เขาก็ถอนเข็มเงินทั้งหมดออกและห่มผ้าห่มให้เนี่ยชิงชิง“คุณน้าครับ ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างครับ?” เย่หมิงเอ่ยถามด้วยเสียงด้วยเสียงแผ่วเบา“รู้สึก…สบายตัวขึ้นมาก แล้วก็รู้สึกเหมือน…จะง่วงนอนมากด้วย” เนี่ยชิงชิงพูดด้วยความมึนเบลอ“นี่เป็นเรื่องปกติครับ คุณน้านอนพักผ่อนสบาย ๆ สักงีบเถอะนะครับ” เย่หมิงกล่าวหลังกล่าวจบ เขาก็ลุกขึ้นยืน“ผมออกไปก่อนนะครับ ถ้ามีเรื่องอะไรคุณน้าเรียกผมได้ตลอดเลย”เนี่ยชิงชิงพยักหน้าเย่หมิงเดินออกจากห้อง และมายังห้องถัดไปที่อยู่ข้างกันเขานั่งขัดสมาธิบนเตียง ก่อนจะหลับตาพร้อมเริ่มบำเพ็ญฝึกฝนสิ่งที่เขาได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษของตระกูลเย่คือการฝึกพลังที่เรียกว่า เคล็ดพลังปราณรวมศูนย์ทันทีที่เริ่มการฝึกพลัง เจินชี่ของเส้นลมปราณในร่างกายก็เริ่มขยับขยายเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วร่างกายที่ผอมเพรียวของเขาเองก็ค่อย ๆ เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละน้อย…ด้วยประการฉะนี้ เวลาจึงผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัวเมื่อเย่หมิงลืมตาขึ้นก็เป็นเวลาย่ำรุ่งสางของวันที่สองแล้วแสงประกายวาบปรากฏ

    Last Updated : 2024-12-10
  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 13

    ในไม่ช้า เย่หมิงก็อาบน้ำจนสะอาดสะอ้านทันใดนั้นเขาก็คิดได้ว่าเมื่อวานเขารีบมามาก จึงไม่ได้นำเสื้อผ้าสำหรับผลัดเปลี่ยนมาด้วยเลยเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปลือยกายออกมาจากห้องน้ำอีกครั้ง และค้นหาเสื้อผ้าจากตู้เสื้อผ้าในห้องกลับพบว่าในตู้มีเพียงเสื้อผ้าของผู้หญิงเท่านั้น ไม่มีเสื้อผ้าผู้ชายเลยแม้แต่ตัวเดียวแต่ก็นับว่าถูกต้องแล้ว บ้านพักตากอากาศนี้เป็นบ้านที่มอบให้จ้าวเมิ่งซิน ก็ควรแล้วที่บริษัทเสียงอวิ๋นกรุ๊ปจะจัดเตรียมเสื้อผ้าของใช้ผู้หญิงเช่นนี้ในท้ายที่สุด เย่หมิงจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสวมเสื้อคลุมอาบน้ำแบบยูนิเซ็กซ์และเดินออกมาจากห้องเนี่ยชิงชิงที่สวมชุดนอนกระโปรงตัวนั้นกำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัวท่าทางที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของความเป็นผู้ใหญ่ งดงามอ่อนหวานและขยันขันแข็งนั้นช่างดูราวกับแม่ศรีเรือนเย่หมิงอดนึกถึงตอนที่เนี่ยชิงชิงเลี้ยงดูเขา ภาพเขาทั้งสองที่อาศัยอยู่ด้วยกันในอดีตไม่ได้ความอบอุ่นพลันสว่างวาบขึ้นมาในอกเขาอดไม่ได้ที่จะตะโกนเรียก “คุณน้าครับ!”เนี่ยชิงชิงหันขวับกลับมาอย่างรวดเร็วพร้อมรอยยิ้มหวาน “นายนั่งเถอะ อาหารเช้าใกล้เสร็จแล้วล่ะ”เย่หมิงรี

    Last Updated : 2024-12-10
  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 14

    จิตวิญญาณของหยางเทียนเฉินเต็มไปด้วยความฮึกเหิม“ท่านอาจารย์พูดจริงหรือ?”“จริงแท้แน่นอน” เย่หมิงกล่าวด้วยรอยยิ้มมรดกที่เขาได้รับจากบรรพบุรุษไม่ได้มีเพียงเคล็ดลับวิชายุทธ์มากมายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเคล็ดลับทักษะทางการแพทย์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย แค่สอนเคล็ดการฝังเข็มไม่กี่อย่าง ไม่นับเป็นอะไรเลย“อย่างนั้นศิษย์ก็ขอบคุณท่านอาจารย์มาก” ใบหน้าของหยางเทียนเฉินเจือด้วยความตื่นเต้นตำราแพทย์ที่เย่หมิงมอบให้เขาเมื่อวานนี้ช่างน่าอัศจรรย์ หากมอบเทคนิคการฝังเข็มให้เขา แน่นอนว่าสิ่งนั้นย่อมไม่ธรรมดาแน่นอนแล้วเขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร“เอาเถอะครับ คุณก็อายุปูนนี้แล้วไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่รีบเร่งมาที่นี่ รีบกลับไปพักผ่อนเถอะครับ” เย่หมิงกล่าวเปลี่ยนเรื่อง“ได้ครับท่านอาจารย์” หยางเทียนเฉินตอบรับด้วยความเคารพก่อนจะจากไปเย่หมิงปิดประตูแล้วกลับเข้าไปในบ้านเมื่อรับประทานอาหารเช้าพร้อมเนี่ยชิงชิงเรียบร้อยแล้ว เขาก็ก้าวไปยังห้องครัวเพื่อหลอมยาในตอนนี้เขาเองก็ยังไม่มีเตาหลอมยาจึงทำได้เพียงใช้หม้อและเตาไฟในครัวมาทดแทนเท่านั้นและการหลอมยาครั้งนี้ก็กินเวลาไปจนถึงค่ำมืดถึงจะได้พักนี่

    Last Updated : 2024-12-10
  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 15

    เย่หมิงรีบพุ่งตัวเข้าไปในลิฟต์และมุ่งหน้าไปยังชั้นเก้าทันทีเพียงกวาดตามองก็พลันเห็นกลุ่มบอดี้การ์ดกลุ่มใหญ่กำลังอารักขาความปลอดภัยอยู่ที่นี่แต่คนกลุ่มนี้กลับไม่ใช่เหล่าบอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่หน้าห้องพักผู้ป่วยของจ้าวเมิ่งซินเมื่อสองวันมานี้ บอดี้การ์ดบางส่วนก้าวออกมาข้างหน้าและหยุดเย่หมิงไว้ทันที“ชั้นนี้โดนปิดไว้แล้ว ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้ามาทั้งนั้น โปรดออกไปเดี๋ยวนี้ครับ!”“ไม่ว่าอย่างไรคุณหนูจ้าวก็ทำการผ่าตัดไม่ได้เด็ดขาด! ออกไปให้พ้น!”เย่หมิงกล่าวตะโกนเสียงดังสนั่นและล้มบอดี้การ์ดทั้งหมดได้อย่างง่ายดายเมื่อเห็นว่าคนที่มากล้าลงมือ บอดี้การ์ดคนอื่นต่างล้อมรวมตัวเข้ามาทางนี้ในเวลาเดียวกัน ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินมาทางนี้พร้อมกับจ้าวลี่และชายร่างสูงใหญ่สวมเสื้อคลุมหม่ากว้าสีดำอีกสองคนผู้หญิงคนนี้มองดูแล้วราวกับอยู่ในช่วงอายุสี่สิบต้น ๆ บุคลิกสูงส่งสง่างาม รูปร่างเพรียวบาง แต่ส่วนที่ควรมีก็อวบอัดเพราะได้รับการดูแลอย่างดี หางตาไม่มีริ้วรอยเลยแม้สักนิด ผิวกายยิ่งขาวเนียนนวลตารูปร่างหน้าตาของเธอคล้ายคลึงกับจ้าวเมิ่งซินมากกว่าเจ็ดถึงแปดส่วนเห็นได้ชัดว่านี่คือแม่ของจ้าวเมิ่งซินเ

    Last Updated : 2024-12-10
  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 16

    “หยุดเขาไว้ให้ได้ ทุบตีจนกว่ามันจะพิการ ทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่ของมันทำได้แต่นอนหมดสภาพอยู่บนเตียง!”“ครับ!” ชายสองคนในเสื้อคลุมหม่ากว้ารับคำ และพุ่งตัวไปหาเย่หมิงอย่างรวดเร็วความเร็วที่พุ่งเข้ามานั้นช่างฉับพลันและรุนแรง ให้ความรู้สึกเหนือกว่าบอดี้การ์ดเหล่านั้นมากหลายเท่าตัวพวกเขาไล่ตามเย่หมิงทันอย่างรวดเร็วและปล่อยหมัดเข้าใส่ทันทีช่างเป็นสไตล์หมัดมวยที่น่าตื่นตาตื่นใจดวงตาของเย่หมิงเป็นประกายวาววาบ สองฝ่ามือของเขาวาดผ่านเข้าไปโดยตรงเงื้อหมัดและฝ่ามือปะทะสัมผัสกันเสียงกระทบดังสนั่น ชายสองคนในเสื้อคลุมหม่ากว้าลอยถอยไปข้างหนัง กระดูกข้อมือของพวกเขาหลุดออกจากข้อต่อ การหายใจของพวกเขาเริ่มรวนไม่เป็นจังหวะแต่เย่หมิงนั้นกลับไม่ระคายแม้เพียงนิด“เป็นไปได้ยังไง!” ดวงตารูปเมล็ดซิ่งของเซียวเมิ่งฉินเบิกกว้างพร้อมสีหน้าของความตกใจชายสวมเสื้อคลุมหม่ากว้าทั้งสองต่างเป็นคนที่คอยอยู่เคียงข้างและปกป้องเธอจากอันตรายรอบด้านเป็นถึงจอมยุทธ์เชียวนะแม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงจอมยุทธ์ที่เพิ่งก้าวเข้าเขตแดนจอมยุทธ์ฝึกตน แต่ก็ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะเทียบเคียงได้แน่นอนแต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นแม้แต

    Last Updated : 2024-12-10
  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 17

    ภายในห้องผ่าตัด จ้าวเมิ่งซินที่ฉีดยาชาและสลบไปแล้วกำลังนอนอยู่บนเตียงผ่าตัดชายร่างสูงผิวขาววัยกลางคนที่สวมเสื้อกาวน์ยืนอยู่หน้าเตียงผ่าตัดนี่คือทอม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคหัวใจที่เซียวเมิ่งฉินเชิญมาจากต่างประเทศ“คุณทอมคะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะคะ!” ด้านข้างเขา สีหน้าของพยาบาลสาวของโรงพยาบาลที่มาเป็นผู้ช่วยผ่าตัดล้วนดูตื่นตระหนกก่อนจะฉีดยาชา ค่าสัญญาณชีพต่าง ๆ ของร่างกายจ้าวเมิ่งซินล้วนปกติดีแต่หลังจากฉีดยาชา สถานการณ์ก็เลวร้ายลงกะทันหันจ้าวเมิ่งซินกำลังประสบกับภาวะหัวใจหยุดเต้น ไร้ซึ่งชีพจร!ในเวลานี้ ทอมที่กำลังถือมีดผ่าตัดอยู่ก็ทำอะไรไม่ถูก ทั้งยังรู้สึกวิตกกังวลปัง!ในขณะนั้นเอง ประตูห้องผ่าตัดก็ถูกดันให้เปิดออกเย่หมิงพุ่งตัวเข้ามาทันทีทอมและเหล่านางพยาบาลต่างตกใจและหันไปมองอย่างพร้อมเพรียงกัน“หยุดมือเดี๋ยวนี้!”เมื่อเห็นว่าทอมกำลังถือมีดผ่าตัดอยู่ สีหน้าของเย่หมิงพลันเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะรีบก้าวไปคว้ามันไว้และโยนทิ้งลงกับพื้น“กรี๊ด!”“ว้าย!”เหล่านางพยาบาลเข้าใจผิดคิดว่าคนอื่นต่างรู้ถึงสถานการณ์ในห้องผ่าตัดแล้ว จึงทรุดตัวลงนั่งพังพาบกับพื้นด้วยความก

    Last Updated : 2024-12-10
  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 18

    เซียวเมิ่งฉินบ้าคลั่งไปแล้ว ความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกสาวทำให้เธอลืมสิ้นต่อภาพลักษณ์คุณผู้หญิงแห่งตระกูลจ้าว เธอเข้าข่วนทำร้ายเย่หมิงราวกับหญิงเสียสติเย่หมิงขมวดคิ้ว เขาเพิ่มแรงที่มือเล็กน้อยและผลักเซียวเมิ่งฉินลงไปกองกับพื้น“กรี๊ด!”เซียวเมิ่งฉินร้องตะโกน พยายามลุกขึ้นด้วยผมเผ้ายุ่งเหยิงและเข้าไปข่วนทำร้ายเย่หมิงอีกครั้งในเวลาเดียวกัน ทอมก็ไม่ได้จากไปไหนเขายืนอยู่หน้าประตูห้องผ่าตัด มองดูสถานการณ์ตอนนี้ด้วยสีหน้าย่ามใจเขาคิดว่าเซียวเมิ่งฉินนั้นช่างหลอกง่ายเสียจริง เย่หมิงเองก็มีคุณสมบัติเพียบพร้อมพอที่จะเป็นแพะรับบาปยังคิดอยากจะใช้วิธีการฝังเข็มของจีนที่ไม่รู้จะมีประโยชน์จริงหรือไม่มาฝังเข็มให้แก่จ้าวเมิ่งซินที่ตายไปแล้ว แทนที่คิดหวังจะให้จ้าวเมิ่งซินฟื้นจากความตาย ควรจะมาจัดการผลักคุณผู้หญิงอย่างเซียวเมิ่งฉินออกไปเสียยังจะดีกว่าอย่างที่รู้ หัวใจและชีพจรของจ้าวเมิ่งซินหยุดเต้นไปแล้ว ต่อให้พระเจ้าเสด็จลงมาก็ไม่สามารถทวงคืนชีวิตนี้มาได้ส่วนนางพยาบาลเหล่านั้น ทอมไม่ได้กังวลเลยสักนิดว่าพวกเธอจะเปิดเผยสถานการณ์จริงในห้องผ่าตัดออกไปนอกเสียจากว่านางพยาบาลพวกนี้คิดอยากจะรน

    Last Updated : 2024-12-10

Latest chapter

  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 40

    "เหลวไหล! ช่างเหลวไหลสิ้นดี!" หนิงเทียนหมิงโมโหจนแทบระเบิด ลุกขึ้นยืนทันที“ฉันต้อง...เอ๊ะ! ไม่ถูก!”“มีอะไรเหรอครับ?" หลี่หยางถามด้วยความงุนงง"เรื่องที่คุณหนูใหญ่จ้าวป่วย ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นโรคที่รักษาได้ยากมาก และที่ผ่านมาไม่มีทางรักษาหาย แต่ตอนนี้กลับหายดีแล้ว?" หนิงเทียนหมิงครุ่นคิด"อาการป่วยที่ดีขึ้นกะทันหัน ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้เย่หมิงนี่รักษาแล้วจะเป็นเพราะอะไร อีกอย่างคุณหนูใหญ่จ้าวซึ่งตอนนี้เป็นผู้นำตระกูลจ้าว มีความเด็ดขาดและชาญฉลาดจะโดนหลอกง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?""ถูก" หูเจี้ยนกั๋วที่สวมชุดเครื่องแบบทหารพยักหน้า"ธุรกิจของตระกูลจ้าวมีขนาดใหญ่มาก แต่คุณหนูจ้าวที่ยังอายุน้อยสามารถบริหารได้อย่างดีเยี่ยม แสดงว่ามีความเฉลียวฉลาดมากพอ ไม่น่าจะโดนหลอกง่ายๆ เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหลังที่เราไม่รู้แน่นอน"เมื่อได้ยินดังนี้ ฉินหลี่หย่าก็ร้อนรนขึ้นมาแล้ว รีบพูดแทรก"คุณชายหนิง ท่านนายพลหู ไอ้คนขี้แพ้นี่ไม่มีพ่อมาตั้งแต่เด็ก โตมากับยายและแม่ แต่เมื่อสิบปีก่อนทั้งยายและแม่ของมันเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนตร์ มันถูกน้าที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยต้องลาออกมาดูแล จะไปมีโอกาสเรียนรู้วิชาแพทย์

  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 39

    เจี่ยงหงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ตามไปด้วย"ใช่เลย พวกเรามานั่งดูละครกันเถอะ รอให้เย่หมิงคนไร้ค่าคนนั้นโดนแฉ พอถึงตอนนั้น คุณหนูใหญ่จ้าวก็จะเข้าใจความตั้งใจของพวกเรา ไม่เพียงแต่จะไม่มาสร้างปัญหาให้เราอีกต่อไป แต่อาจจะรู้สึกขอบคุณพวกเราด้วยซ้ำไป"“ถูกต้อง นี่อาจจะเป็นโอกาสให้เราก้าวขึ้นไปอีกขั้น!" หลี่หยางพูดพลางดวงตาเริ่มเปล่งประกายขณะที่ทั้งสามกำลังพูดคุยกัน คุณหนูใหญ่จ้าวเมิ่งซินที่นั่งอยู่แถวหน้าสุดของห้องจัดเลี้ยง ก็สังเกตเห็นการมาถึงของหนิงเทียนหมิงกับหูเจี้ยนกั๋วแล้ว คิ้วเรียวสวยของเธอก็ขมวดเล็กน้อยหนิงเทียนหมิงคนนี้ เธอไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่ส่วนเย่หมิงที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ถามอย่างสงสัย "คุณหนูใหญ่จ้าว เป็นอะไรหรือเปล่า?""เปล่า" จ้าวเมิ่งซินตอบ"คนที่ใส่ชุดเครื่องแบบทหารคนนั้นคือหูเจี้ยนกั๋ว นายพลใหญ่ของกองทัพเจียงหนาน เขาสนิทกับคุณพ่อของฉันมากทีเดียว พอเขามาถึงฉันต้องไปทักทายสักหน่อย คุณรอตรงนี้ก่อนนะ""ได้" เย่หมิงพยักหน้าจ้าวเมิ่งซินลุกขึ้นและเดินตรงไปยังหนิงเทียนหมิงและหูเจี้ยนกั๋วแต่ขณะที่สายตาของเย่หมิงจับจ้องไปที่หูเจี้ยนกั๋ว เขากลับหรี่ตาลงเล็กน้อยสภาพร่างกาย

  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 38

    กลุ่มคนที่มีชื่อเสียงเหล่านี้รู้สึกถูกหลอกลวงอย่างมาก แต่ละคนไม่เพียงเลิกเอาใจหรือประจบเท่านั้น แต่ยังกลับมาเหยียบซ้ำ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ให้ใครเข้าใจผิดว่ามีความเกี่ยวข้องกับพวกหลี่หยางทั้งสามคนจนตัวเองต้องเดือดร้อนไปด้วยสามคนที่เมื่อครู่ยังดูสง่าผ่าเผยอย่างหลี่หยาง ตอนนี้กลับกลายเป็นพวกหน้าแตก หมดท่า หมดศักดิ์ศรี"พี่หยาง ทำคุณหนูใหญ่จ้าวขุ่นเคือง พวกเราจบเห่แล้ว จะทำยังไงดีล่ะ?" ฉินลี่หย่าพูดพลางมองหลี่หยางเหมือนเป็นที่พึ่งสุดท้าย ด้วยความหมดหวังแต่หลี่หยางที่อารมณ์เดือดดาลเต็มที่ กลับระบายความโกรธลงที่เธอด้วยการเตะเธอออกไป"ยังมีหน้ามาถามฉันอีกเหรอ! ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าจะทำยังไง! ที่เป็นแบบนี้มันก็เพราะเธอนั่นแหละ ตอนแรกเป็นเธอที่ดันไปเล็งบ้านเก่าเย่หมิงไว้ แล้วคิดจะหลอกแต่งงาน!""ฉันเล็งที่ไหนกันล่ะ เป็นแกชัดๆ เป็นแกที่ให้ฉันแต่งงานกับเขา แล้วช่วยเล่นละครให้แกต่างหาก ฮือๆ..." ฉินลี่หย่าพูดพลางกุมท้องที่โดนเตะจนปวดไม่หยุดแล้วร้องไห้"หึ! ตอนนี้พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว!" หลี่หยางตะคอกอย่างเย็นชา"แกอยู่กับไอ้เย่หมิงขี้แพ้นั่นมาตั้งสามปี คงรู้จักมันดีสินะ! ฉันถา

  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 37

    ฉินลี่หยากับลูกสาวถึงกับตกใจจนแทบฉี่ราดพอเห็นหลี่หยางอ้อนวอนขอร้องขนาดนั้น สองแม่ลูกก็ขาอ่อนทรุดฮวบลงไปกับพื้น แล้วคลานเข่าไปขวางหน้าหวงเปียวหู่"ท่านหู่ ท่านปู่ พวกเรามันเข้าใจผิดไปจริงๆ ไม่มีเจตนาจะล่วงเกินคุณหนูใหญ่จ้าวเลย ได้โปรดช่วยพวกเราด้วย ช่วยพูดขอโทษแทนพวกเราสักครั้งเถอะนะคะ!"แต่หวงเปียวหู่กลับมีสีหน้าที่เย็นชาไปกว่าเดิม"ไอ้พวกสารเลว ไสหัวไป!"พูดจบ เขาก็เตะสองแม่ลูกกระเด็นออกไปทันที จากนั้นก็เตรียมจะเดินออกไปหลี่หยางรีบกอดขาหวงเปียวหู่ไว้แน่น"ท่านหู่ อย่าไปเลย อย่าทิ้งผมเลยนะ ท่านลืมไปแล้วเหรอ? ครั้งที่แล้วเรื่องหัวใจ ผมยังทำตามคำสั่งของท่านอย่างสุดกำลังจนหามาได้สำเร็จเลยนะครับ ผมยังมีความดี ผมยังมีประโยชน์กับท่านอยู่"หวงเปียวหู่ได้ยินดังนั้น ถึงกับขมวดคิ้วทันที"เรื่องหัวใจนั่นแกยังมีหน้าพูดออกมาอีกเหรอ! ผู้จัดการจ้าวลี่ที่อยู่ข้างกายคุณหนูโทรมาบอกฉัน ว่าคุณหนูไม่ได้ใช้หัวใจของน้าเย่หมิงเลย! สุดท้ายเป็นเย่หมิงที่ใช้ฝีมือทางการแพทย์รักษาคุณหนูจนหาย! แกทำให้ฉันถูกจ้าวลี่ต่อว่าอย่างหนัก เพราะดันไปเลือกใช้คนอย่างแกที่ใช้วิธีบ้าบอแย่งหัวใจคนเป็นมาทำเรื่องนี้ ไม่เพ

  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 36

    “ท่าน...ท่านหัวหน้าตระกูลหวัง คุณ...อย่ามาล้อเล่นกับผมนะ แบบนี้จะเป็นคุณหนูใหญ่จ้าวได้ยังไง คุณหนูใหญ่จ้าวจะมาคบหากับไอ้ขยะไร้ค่าแบบนี้ได้ยังไง!""ใช่แล้ว ท่านหัวหน้าตระกูลหวัง" ฉินลี่หย่าถึงกับตัวสั่น"เขาเป็นใคร? แค่คนที่ฉันไล่ออกจากบ้าน! แล้วคุณหนูใหญ่จ้าวเป็นใคร? จะเป็นไปได้ยังไงที่จะพาคนแบบนั้นเข้ามาอยู่ด้วยกัน แถมยังดูสนิทสนมกันอีก! ต่อให้ตายก็เป็นไปไม่ได้!"เจี่ยงหงหน้าซีด รีบพูดเสริมทันที"ถูกต้องที่สุด! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดว่าคนคนนั้นจะเป็นคุณหนูใหญ่จ้าว! ถ้าคุณหนูใหญ่จ้าวจะชอบใครสักคน ก็คงไม่มีวันเป็นไอ้ขยะคนนี้แน่ๆ!""หัวหน้าตระกูลหวัง ผมว่าคุณคงจะล้อเล่นกับพวกเรา ตั้งใจจะทำให้เรากลัวใช่ไหม" หลี่หยางยิ่งคิดยิ่งเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ ยิ้มเยาะใส่หัวหน้าตระกูลหวัง"ไสหัวไปให้พ้น!" แต่หัวหน้าตระกูลหวังกลับมีสีหน้าดุดันเหมือนน้ำแข็ง กระทืบหลี่หยางจนล้มลงไปกับพื้น"พวกแกกินขี้จนสมองพังกันไปหมดแล้วหรือไง! โง่สิ้นดี! เตรียมตัวรอถูกจัดการได้เลย!"พูดจบ หัวหน้าตระกูลหวังก็เบือนหน้าหนี มองหลี่หยางกับพวกเหมือนเป็นตัวซวย ไม่กล้าอยู่ใกล้พวกเขา รีบหลบไปทันที กลัวว่าจะถูกเข้าใจผิดว่าร่

  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 35

    ฉินลี่หย่ากับเจียงหงต่างก็อึ้งไปชั่วขณะทันใดนั้น สีหน้าของฉินลี่หย่าก็เปลี่ยนไปทันที รีบวิ่งไปประคองหลี่หยางให้ลุกขึ้น“คนสารเลว ไอ้ขยะไร้ค่าคนนี้ กล้าตบหลี่หยางอย่างนั้นเหรอ!” เจี่ยงหงชี้นิ้วใส่ใบหน้าของเย่หมิงพร้อมด่าทออย่างหยาบคาย“แกไม่รู้หรือไงว่างานเลี้ยงสังสรรค์ธุรกิจครั้งนี้ คุณหนูใหญ่จ้าวจัดขึ้นเพื่อหลี่หยางโดยเฉพาะน่ะ!”สีหน้าของจ้าวเมิ่งซินเปลี่ยนเป็นประหลาดใจในทันทีงานเลี้ยงที่เธอจัดขึ้น กลายเป็นเพื่อหลี่หยางตั้งแต่เมื่อไรกัน?หรือผู้หญิงดุร้ายคนนี้จะเสียสติไปแล้ว?“ถ้าประสาทเสียก็ไปโรงพยาบาลซะ อย่ามาทำให้ขายหน้าที่นี่!” เย่หมิงพูดพร้อมกับสีหน้าเย็นชา หันไปทางเจี่ยงหง“คุณเย่ ไม่ต้องไปสนใจพวกเขาแล้วค่ะ เราไปข้างหน้ากันเถอะ” จ้าวเมิ่งซินพูดขึ้นพูดจบ ก็จับแขนเย่หมิงอย่างสนิทสนมแล้วเดินไปทางด้านหน้ากลุ่มคนที่ก่อนหน้านี้ประจบหลี่หยางรีบเข้ามาหาเขาทันที“พี่หยาง พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”“พวกนั้นเป็นใครกัน? กล้าดียังไงถึงลงมือกับพี่!”“ถุย!” หลี่หยางจับหน้าที่บวมของตัวเองแล้วบ้วนเลือดในปากออกมา“ก็แค่ไอ้ขยะกับนังไร้ค่าราคาถูกสองตัว หมาบ้าไล่กัดคน! แต่ตอนนี้ฉันจะไม

  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 34

    เรื่องนี้ย่อมเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาของพวกเขาในอนาคตในขณะนั้น หลี่หยาง ฉินลี่หย่า และเจี่ยงหง กำลังนั่งอยู่ที่ตำแหน่งกลางของห้องจัดเลี้ยงหลัก บรรดาผู้นำของตระกูลใหญ่และบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างพากันมาประจบ“พี่หยาง คุณหนูใหญ่จ้าวลงทุนตั้งบริษัทย่อยด้วยเงินเป็นแสนล้าน นี่เป็นเพราะอยากช่วยสนับสนุนพี่จริงๆ เหรอ?”“พี่หยาง พี่มีบุญคุณอะไรกับคุณหนูใหญ่จ้าวหรือเปล่า?”……“แน่นอนว่าจริง!” หลี่หยางเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทีภาคภูมิใจ“พวกนายยังกล้าสงสัยฉันอีกเหรอ? ดูสิ บัตรเชิญของพวกเรา เราสามคนได้รับบัตรเชิญสีฟ้า ในขณะที่ของพวกนายเป็นสีทอง แค่สีของบัตรก็แยกความแตกต่างได้ชัดเจนแล้ว”พูดจบ เขากับฉินลี่หย่าแม่ลูกก็ยกบัตรเชิญในมือขึ้นโชว์ทุกคนมองไปแล้วก็เห็นจริงว่าบัตรเชิญของทั้งสามคนเป็นสีฟ้าที่ต่างกันจริงๆทันใดนั้น ทุกคนก็พากันยกยอปอปั้นต่อ“พี่หยาง เมื่อกี้ผมปากพล่อยเอง ไม่น่าสงสัยพี่เลย หลังจากพี่รุ่งเรืองแล้ว อย่าลืมช่วยเหลือพวกเราบ้างนะ”“ใช่ๆ พวกเราก็ถือว่ารู้จักกันมานาน บัตรนี้มีเงินอยู่สามล้านหยวน พี่เอาไปใช้จ่ายสบายๆ ซื้อบุหรี่สักหน่อย”“พี่หยาง นี่เป็นโรเล็กซ์รุ่นลิมิเต็ด ผ

  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 33

    เย่หมิงชะงักไปทันที“คุณหนูใหญ่จ้าว ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”เขามัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝนร่างกายเลยดูรุงรัง ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงเหมือนรังนก ไม่น่าจะเอาไปพบหน้าคนที่เขาแอบชอบได้เลยกลับกันมองไปที่จ้าวเมิ่งซินเธอสวมชุดราตรีที่ประณีตงดงาม ดูน่าหลงใหลราวกับดวงจันทร์บนท้องฟ้านอกจากนี้ เธอยังถือกล่องของขวัญสวยๆ มาหลายกล่องเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ความแตกต่างช่างชัดเจนเหลือเกิน“ช่วงสองวันนี้ผมมัวแต่ยุ่งเรื่องฝึก เลยไม่ได้...ไม่ได้ดูแลตัวเองให้เรียบร้อย” เย่หมิงเกาศีรษะด้วยความลำบากใจ พร้อมพูดด้วยท่าทีเขินอาย“ไม่เป็นไรหรอก ฉันว่าก็ดูเป็นธรรมชาติดีออก” จ้าวเมิ่งซินพูดยิ้มๆ“ว่าแต่คุณจะปล่อยให้ฉันยืนอยู่นี่นานแค่ไหนล่ะ? ฉันเมื่อยมือแล้วนะ”เธอไม่ได้ใช้คำพูดสุภาพกับเย่หมิงอีกต่อไปเย่หมิงรีบเดินไปเปิดประตูเหล็กของลานบ้าน พร้อมรับกล่องของขวัญจากมือของจ้าวเมิ่งซิน“เอาของพวกนี้มาทำไมเหรอ?”“ฉันอยากให้คุณไปงานเลี้ยงกับฉัน เลยเลือกชุดสูทกับรองเท้าหนังมาให้คุณสักสองสามชุด” จ้าวเมิ่งซินพูดยิ้มๆ“หา?” เย่หมิงอึ้งไปเล็กน้อยนอกจากยายกับแม่ที่เสียไปแล้ว และก็ยังมีน้าสาวเนี่ยชิงชิง ก็ไม่

  • เส้นทางสู่ผู้กำชัย   บทที่ 32

    ถึงแม้ว่าเย่หมิงจะเริ่มมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเธอแล้วก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย เพียงเพื่อจะได้แต่งงานกับเธอจ้าวเมิ่งซินเงยหน้าขึ้น มองออกไปยังความมืดมิดนอกหน้าต่างเย่หมิง เขาจะมีท่าทีอย่างไรต่อเธอกันแน่ และเขาจะ... เลือกตัดสินใจอย่างไร?……ในขณะเดียวกันบ้านพักตากอากาศหมายเลขหนึ่งของซินเทียนเซี่ยเนี่ยชิงชิงกำลังเพลิดเพลินกับอาหารที่เย่หมิงซื้อมาฝาก“อาหารจากร้านอวิ๋นติ่งนี่อร่อยจริง ๆ เลย”“ถ้าน้าชอบ คราวหน้าผมจะพาน้าไปทานที่ร้านเอง” เย่หมิงยิ้มตอบ“ไม่ต้องเปลืองเงินขนาดนั้นหรอก เธอไปกับคุณหนูใหญ่จ้าวบ่อย ๆ เถอะ” เนี่ยชิงชิงพูดยิ้ม ๆ“หืม?” เย่หมิงถึงกับชะงักเนี่ยชิงชิงยิ้มเจ้าเล่ห์พลางพูดขึ้นว่า"คุณหนูใหญ่จ้าวเป็นคนที่ดีมากเลยนะ ทั้งมีชาติตระกูลสูงส่ง ท่าทางสง่างาม และยังอ่อนโยนใจดีมากอีกด้วย เธอคงชอบเธอเข้าแล้วใช่ไหม?"เย่หมิงใจเต้นขึ้นมาทันที"คุณน้าอย่าพูดเล่นเลย ผมเป็นแค่ผู้ชายที่เคยหย่ามาแล้ว จะไปคู่ควรกับเขาได้ยังไง"พอได้ยินแบบนี้ เนี่ยชิงชิงถึงกับหมดอารมณ์กิน เธอวางช้อนส้อมลงก่อนจะทำหน้าเคร่งขรึม"เสี่ยวหมิง ที่เธอพูดดูถู

DMCA.com Protection Status