สถานที่: สวนดอกไม้ในบ้านของเคนชิโร่แสงแดดอ่อนๆ ของยามสายทอประกายผ่านใบไม้ ดอกไฮเดรนเยียที่ปลูกเรียงรายในสวนดูสดชื่นจากน้ำค้างในยามเช้า กลิ่นหอมอ่อนๆ จากดอกไม้ในสวนผสมกับลมทะเลทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความสงบมิเอโกะเดินเล่นอยู่ในสวน สวมชุดกระโปรงยาวสีฟ้าอ่อน มือของเธอสัมผัสกลีบดอกไม้เบาๆ ราวกับจะเก็บความทรงจำไว้ในทุกสัมผัส ขณะที่เคนชิโร่เดินตามหลังเธออย่างเงียบๆ มือของเขาถือร่มกันแดดคันเล็กไว้เพื่อบังแสงแดดที่เริ่มแรงขึ้น“สวนนี้สวยมากเลยค่ะ” มิเอโกะหันมาพูดพร้อมรอยยิ้ม “คุณปลูกเองหรือเปล่าคะ?”เคนชิโร่หัวเราะเบาๆ “ผมช่วยปลูกบางส่วนครับ แต่ส่วนใหญ่เป็นฝีมือของคนดูแลสวน พวกเขาทำได้ดีกว่าผมมาก”“คุณไม่เคยลองปลูกเองบ้างเหรอคะ?”“เคยครับ แต่ผลออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่” เขายิ้มเจื่อนๆ “ครั้งหนึ่งผมปลูกต้นกุหลาบ แต่มันไม่ยอมออกดอกเลย คุณมีเคล็ดลับอะไรบ้างไหมครับ?”“ฉันคิดว่าคุณอาจรดน้ำมากไปหรือเปล่าคะ?” เธอหัวเราะ “ต้นไม้ก็เหมือนคน บางครั้งต้องการเวลาของตัวเอง”เคนชิโร่พยักหน้า “คุณพูดถูกครับ ผมคงต้องเรียนรู้เรื่องความอดทนอีกเยอะ”ทั้งสองเดินมาหยุดที่ศาลากลางสวนที่ปกคลุมด้วยเถาวัลย์สีเขียว เงาไ
สถานที่: บ้านพักของเคนชิโร่ในเกียวโตมิเอโกะและเคนชิโร่ออกจากร้านกาแฟ เดินเข้าไปยังรถของเคนชิโร่ บรรยากาศในวันนี้เต็มไปด้วยความเงียบสงบ เสียงเครื่องยนต์ของรถหรูที่ขับเคลื่อนไปอย่างราบรื่นในยามเย็นสะท้อนอยู่ในใจของมิเอโกะ บ้านพักของเคนชิโร่ในเกียวโตตั้งอยู่ในย่านที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยธรรมชาติที่เขียวขจี มันเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยราวกับว่าโลกนี้ยังคงมีความสงบและความรักที่แท้จริงมิเอโกะนั่งข้างๆ เคนชิโร่ในรถหรู สองมือของเธอวางอยู่บนตัก ดวงตาของเธอมองออกไปข้างนอกผ่านกระจก บรรยากาศภายนอกสงบเงียบ และแสงสีทองจากพระอาทิตย์ตกดินทอแสงผ่านต้นไม้ที่ร่มรื่น“คุณเคนชิโร่...” มิเอโกะเริ่มพูดเบาๆ ขัดกับความเงียบที่ปกคลุมทั่วทั้งรถ “คุณคิดว่า เราจะทำงานในมูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidan ได้ดีแค่ไหนคะ?”เคนชิโร่หันมามองเธอและยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะตอบเสียงเบา “ผมเชื่อว่า เราสามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากมายครับ ที่มูลนิธินี้เราจะทำงานเป็นทีม และทุกคนจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากคดีอาชกรรมและยาเสพติด”มิเอโกะพยักหน้าเบาๆ แล้วหันกลับไปมองด้านนอกอีกครั้ง เธอรู้สึกได้ถึ
สถานที่: บ้านพักของเคนชิโร่, เกียวโตความเงียบงันของบ้านพักในเกียวโตถูกทำลายด้วยเสียงที่ชัดเจนจากการประชุมที่กำลังดำเนินอยู่ ห้องทำงานใหญ่ของเคนชิโร่ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของบ้านพัก มีทิวทัศน์ของภูเขาและสวนดอกไม้สวยงามที่มองออกไปจากหน้าต่างบานใหญ่ ทุกคนในห้องนั่งอยู่รอบโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสารแผนงานและรายการที่จะต้องดำเนินการมิเอโกะนั่งอยู่ข้างๆ เคนชิโร่ บนเก้าอี้ไม้เนื้อแข็งที่ดูเข้ากันกับความเป็นธรรมชาติของสถานที่ ชุดทำงานที่เธอสวมใส่ในวันนี้สะท้อนความมั่นคงในบทบาทของเธอในมูลนิธิ“คุณเคนชิโร่ค่ะ,” มิเอโกะเริ่มพูดขึ้นหลังจากที่บอดี้การ์ดทั้ง 5 คนได้เริ่มสรุปแผนการกันไปแล้ว “ฉันคิดว่าเราควรเริ่มจากการทำความเข้าใจในสถานการณ์ของผู้ที่เราต้องการช่วยเหลือให้ดีขึ้นก่อน ไม่ใช่แค่การช่วยในเชิงวัตถุ แต่ยังต้องช่วยในด้านจิตใจด้วย”เคนชิโร่หันมามองเธอด้วยดวงตาที่แสดงถึงความพึงพอใจและความเคารพในความคิดเห็นของเธอ “ผมเห็นด้วยครับ การสร้างความเข้าใจในสภาพจิตใจของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเป็นเรื่องสำคัญ และเราต้องหาวิธีให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขามีคุณค่าอีกครั้ง”มิเอโกะพยักหน้าและยิ้มอย่างอบอุ่น ก่อนจะเปิดแฟ
สถานที่: บ้านพักของเคนชิโร่, เกียวโตแสงแดดยามบ่ายที่อ่อนโยนส่องผ่านหน้าต่างไม้บานใหญ่ของบ้านพักเคนชิโร่ในเกียวโต สะท้อนกับลำแสงที่ทำให้ห้องดูอบอุ่นและน่าอยู่ บนโต๊ะไม้ที่อยู่กลางห้องมีเอกสารและแผนงานสำหรับมูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidan ถูกเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ควันจากแก้วชาของมิเอโกะลอยขึ้นไปในอากาศ เธอนั่งอยู่ข้างๆ เคนชิโร่ที่กำลังพิจารณาเอกสารบนโต๊ะ“คุณเคนชิโร่,” มิเอโกะพูดขณะที่มองไปยังเอกสารที่เคนชิโร่ถืออยู่ “เราควรเริ่มจากการคัดเลือกทีมงานที่จะช่วยเหลือในด้านการให้คำปรึกษาและฟื้นฟูจิตใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอาชญากรรมและยาเสพติด... แต่เราอาจจะต้องมองหาคนที่มีความเข้าใจลึกซึ้งจริงๆ”เคนชิโร่เงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารและหันไปมองมิเอโกะ “ผมเห็นด้วยครับ เราต้องการคนที่ไม่เพียงแค่มีทักษะ แต่มีกระแสจิตใจที่ดีด้วย คนที่สามารถทำให้เหยื่อรู้สึกว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาได้จริงๆ”มิเอโกะยิ้มบางๆ และพยักหน้าหนักแน่น “ฉันคิดว่าผู้คนเหล่านั้นต้องการมากกว่าคำพูด พวกเขาต้องการการสนับสนุนที่จริงใจและไม่ใช่แค่การช่วยเหลือชั่วคราว เราจะต้องคอยอยู่เคียงข้างพวกเขาไปตลอดทาง”เคนชิโร่ยืดตัวเล็กน้
สถานที่: สวนหลังบ้านพักของเคนชิโร่, เกียวโตบรรยากาศยามเช้าที่สวนหลังบ้านของเคนชิโร่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกบางๆ แสงแดดที่เพิ่งจะเริ่มทะลุผ่านมุมต้นไม้ใหญ่ทำให้เกิดเงาอ่อนๆ กระจายไปทั่วบริเวณ สวนนี้เต็มไปด้วยพรรณไม้สีเขียวขจีและดอกไม้ที่บานสะพรั่ง มันเงียบสงบจนสามารถได้ยินเสียงนกร้องขับขานเป็นทำนองไพเราะไปพร้อมกับเสียงลมที่พัดผ่านมิเอโกะยืนอยู่ข้างๆ เคนชิโร่ที่ยืนอยู่ใกล้กับมุมหนึ่งของสวนที่มีม้านั่งไม้ วางมือของเธอลงบนไม้พิงข้างๆ ตัว ขณะที่เคนชิโร่ยืนอยู่ข้างๆ หันไปมองเธอด้วยแววตาที่ดูอบอุ่น“คุณเคนชิโร่...” มิเอโกะเริ่มพูดขึ้นเสียงเบา ขณะที่มองออกไปข้างนอก “เราต้องการความช่วยเหลือจากผู้คนที่มีความเข้าใจและพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับงานนี้จริงๆ แต่... เราก็ต้องคำนึงถึงการเลือกคนที่มีใจจริงๆ ด้วยค่ะ”เคนชิโร่พยักหน้าหงึกๆ ขณะที่ยืนมองสวนที่เรียบง่ายแต่สวยงาม "คุณมิเอโกะพูดถูกครับ... ไม่ใช่แค่ทักษะที่จะทำให้ทุกอย่างสำเร็จ แต่ความตั้งใจและความรักในการช่วยเหลือผู้คนต่างหากที่สำคัญที่สุด เราต้องมั่นใจว่าเราคัดเลือกคนที่สามารถไปถึงเป้าหมายนี้ได้จริง"มิเอโกะหันมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคาร
สถานที่: สวนสาธารณะในเมืองเกียวโตท่ามกลางสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้านกาแฟที่พวกเขาเพิ่งไปเยือน บรรยากาศในตอนนี้เต็มไปด้วยความเงียบสงบ เสียงใบไม้ไหวตามลมและเสียงนกร้องเป็นจังหวะระฆังที่ทำให้ทุกอย่างรอบตัวดูเหมือนจะหยุดหมุนไปชั่วขณะหนึ่ง ทั้งสองเดินไปในทางเดินที่เต็มไปด้วยดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิที่กำลังบานอยู่ ทำให้พื้นที่นี้เต็มไปด้วยความสดชื่นและอากาศบริสุทธิ์มิเอโกะเดินเคียงข้างเคนชิโร่ สายตาของเธอมองไปยังท้องฟ้าที่มีเมฆบางๆ ลอยอยู่ สีฟ้าครามของท้องฟ้าทำให้เธอรู้สึกถึงความสงบในใจ“คุณเคนชิโร่...” มิเอโกะพูดขึ้นเสียงเบา แต่เต็มไปด้วยความรู้สึก “วันนี้อากาศดีจังเลยนะคะ”เคนชิโร่หันไปมองเธอ แล้วยิ้มให้เล็กน้อย “ใช่ครับ... อากาศแบบนี้ทำให้รู้สึกเหมือนเราสามารถใช้เวลานี้ให้เต็มที่ได้”มิเอโกะหันมามองเขา ขณะที่ความรู้สึกในใจของเธอเริ่มท่วมท้นขึ้นอีกครั้ง เธอไม่เคยรู้สึกถึงความสงบและความสุขแบบนี้มาก่อน ความรู้สึกที่เคนชิโร่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเธอทำให้ทุกอย่างดูเหมือนจะมีความหมายมากขึ้น“คุณเคนชิโร่... ฉันคิดว่า ฉันคงไม่สามารถกลับไปเหมือนเดิมได้แล้ว” มิเอโกะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เบา แต่มัน
สถานที่: มูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidan – ห้องประชุมใหญ่เช้าวันใหม่ที่สดใส พนักงานในมูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidan กำลังยุ่งเหยิงเตรียมตัวสำหรับการประชุมที่สำคัญ วันนี้พวกเขามีผู้สมัครงานหลายคนที่จะมารายงานตัว และในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและความหวัง เคนชิโร่และมิเอโกะมาถึงมูลนิธิที่ตั้งอยู่ในตึกเก่าแก่ที่ยังคงมีเสน่ห์ในย่านชานเมืองของเกียวโตเคนชิโร่เดินนำหน้าไปที่ห้องประชุมใหญ่ที่มีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง ด้านข้างมีหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงแดดยามเช้าให้ไหลเข้ามา ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและผ่อนคลายมิเอโกะเดินตามเขามาอย่างเงียบๆ สายตาของเธอไม่ละจากการเดินของเคนชิโร่ แต่ในใจของเธอมีความรู้สึกที่ผสมผสานกัน ทั้งความตื่นเต้นและความหวัง"วันนี้เป็นวันสำคัญใช่ไหมคะ?" มิเอโกะถามเบาๆ ขณะที่เธอเดินไปเคียงข้างเคนชิโร่เคนชิโร่ยิ้มให้กับคำถามของเธอ และตอบกลับด้วยเสียงที่มั่นใจ "ใช่ครับ การประชุมครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับมูลนิธิของเราและผู้ที่เราจะช่วยเหลือในอนาคต"ทั้งสองเดินมาถึงห้องประชุม ซึ่งกำลังมีผู้สมัครงาน 10 คนรออยู่ที่นั่งในห้อง ทุกคนต่างดูเป็นมืออาชี
สถานที่: ห้องทำงานของเคนชิโร่ – มูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidanในห้องทำงานที่ตกแต่งด้วยสไตล์ทันสมัยและอบอุ่น มีแสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่ลงมาถึงพื้นไม้สีอ่อน เสียงของนาฬิกาผนังที่เดินไปอย่างมั่นคงเป็นเสียงเดียวที่ดังในห้องนี้ ขณะที่มิเอโกะและเคนชิโร่ยืนอยู่เงียบๆ ใกล้ๆ กัน ทั้งสองยืนหันหน้าเข้าหากัน ความรู้สึกของการเริ่มต้นใหม่ลอยอยู่ในอากาศ พร้อมกับความเชื่อมโยงที่ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นระหว่างพวกเขา“นี่คือการเริ่มต้นใหม่ของเรา...” เคนชิโร่พูดเสียงเบา ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่มิเอโกะอย่างมั่นใจ ท่าทีของเขาแสดงถึงความมั่นใจในอนาคตที่พวกเขากำลังจะร่วมสร้างขึ้นมิเอโกะมองเขา และยิ้มให้กับคำพูดนั้น มือของเธอคลี่ยิ้มบางๆ ท่ามกลางความเงียบ “ใช่ค่ะ การเริ่มต้นที่สำคัญ... ไม่ใช่แค่การเริ่มต้นของมูลนิธิเท่านั้น แต่เป็นการเริ่มต้นของการเดินทางที่ใหม่สำหรับเราทั้งคู่” เสียงของเธออ่อนโยน แต่ก็เต็มไปด้วยความมั่นใจเหมือนกันเคนชิโร่ยิ้มตอบกลับ แต่ความรู้สึกในใจของเขาไม่สามารถปิดบังได้ เขารู้สึกถึงการเชื่อมโยงระหว่างเขากับมิเอโกะที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่แค่การทำงานร่วมกัน แต่เป็นการ
เช้าวันรุ่งขึ้น แสงอาทิตย์อ่อนๆ สาดส่องผ่านหน้าต่างกระจกในคาเฟ่เล็กๆ ใกล้แม่น้ำซุมิดะ ที่นั่งริมหน้าต่างตกแต่งด้วยดอกไม้สีพาสเทลและหมอนอิงลายดอกไม้ มิเอโกะนั่งเท้าคางอยู่กับโต๊ะ มืออีกข้างคนกาแฟในถ้วยเล็กๆ พร้อมกับสายตาที่มองออกไปนอกหน้าต่างเคนชิโร่เดินเข้ามาในร้านในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสแลคเรียบง่าย เขามองไปรอบๆ ก่อนจะเห็นเธอ“ขอโทษที่ให้รอนะครับ” เขากล่าวขณะเดินตรงมาที่โต๊ะมิเอโกะหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มขี้เล่น “คุณนี่ตรงเวลากว่าที่คิดไว้นะคะ ฉันเพิ่งนั่งลงไม่ถึงสิบนาทีเอง”“ถ้าอย่างนั้นผมโชคดีที่มาทันเห็นคุณยิ้ม”เธอหัวเราะเบาๆ พลางโบกมือ “ชมแบบนี้อีกแล้วนะคะ คุณนี่จะทำให้ฉันเขินทุกวันเลยหรือไง?”เขานั่งลงตรงข้ามและหยิบเมนูขึ้นมา “บางทีผมก็อยากเห็นคุณเขินบ้าง”“ถ้างั้นคุณคงต้องรออีกนานเลยค่ะ เพราะฉันไม่เขินง่ายๆ หรอก”บทสนทนาที่เติมเต็มเสียงเพลงเบาๆ ในร้านช่วยเติมเต็มบรรยากาศที่แสนผ่อนคลาย เคนชิโร่วางเมนูลงและหันมามองเธอ“เมื่อคืนคุณนอนหลับสบายไหมครับ?”“ก็ไม่เลวนะคะ” เธอพูดพลางยักไหล่ “แต่บางทีฉันคิดว่าคุณน่าจะทำให้ฉันนอนไม่หลับมากกว่า”เขาหัวเราะออกมาเบาๆ “ผมไม่ได้ตั้งใจทำใ
ในคลับหรูใจกลางชานเมืองโตเกียว แสงไฟหลากสีสาดส่องไปทั่วพื้นที่ เสียงดนตรีจังหวะสนุกเร่งเร้าให้ผู้คนในคลับเคลื่อนไหวไปตามจังหวะ มิเอโกะยืนพิงกำแพงตรงมุมห้องพักศิลปินเล็กๆ ที่จัดไว้สำหรับนักร้องหน้าใหม่ เธอแอบมองลอดม่านบางๆ ออกไปยังพื้นที่หน้าเวที สายตาจับจ้องไปที่ชายหนุ่มในชุดสูทสีเข้มซึ่งกำลังพูดคุยอยู่กับลูกน้องของเขา“คุณคนนั้นใช่ไหม?” เธอพูดกับตัวเองเบาๆ ขณะกัดริมฝีปากล่างเพื่อระงับความตื่นเต้นโทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นเบาๆ มิเอโกะหยิบขึ้นมาอ่านข้อความจากเคนชิโร่:“คุณโอเคไหม?”เธอยิ้มเล็กน้อยแล้วพิมพ์ตอบกลับ:“ฉันโอเคค่ะ คุณไม่ต้องห่วง”ไม่นานนัก โทรศัพท์ก็สั่นอีกครั้ง คราวนี้เป็นสายโทรเข้า“ฮัลโหล?” มิเอโกะรับสายแล้วลดเสียงลง“คุณอยู่ตรงไหน?” เสียงเคนชิโร่ดังมาจากอีกฝั่ง ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง“ฉันอยู่ในห้องพักหลังเวทีค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดี”“ดีครับ แต่จำไว้นะ ถ้าอะไรผิดปกติ รีบส่งสัญญาณมาหาผมทันที”“ค่ะ คุณพูดเหมือนฉันเป็นเด็กไปได้” มิเอโกะหัวเราะเบาๆ“คุณไม่ใช่เด็ก แต่คุณชอบทำให้ผมห่วง”คำพูดนั้นทำให้เธอหยุดนิ่งไปชั่วครู่ ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว “คุณพูดแบบนี้... ฉันต้อง
หลังจากการประชุมที่ห้องของมิเอโกะในมูลนิธิ การตัดสินใจครั้งใหญ่ถูกวางแผนอย่างรอบคอบ เคนชิโร่เรียกบอดี้การ์ดทั้งห้าคนมาที่ห้องประชุมเพื่อวางแผนปฏิบัติการสำคัญ พวกเขาจะต้องเข้าไปในวงการของลูกชายมายาโตะ โคอิจิ เพื่อสืบหาเบาะแสและหลักฐานที่สามารถเอาผิดเขาได้ มิเอโกะนั่งอยู่ข้างๆ เคนชิโร่ รอให้ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น ด้วยท่าทางที่เหมือนจะไม่ค่อยจริงจังนัก แต่ความคมคายในแววตาของเธอนั้นกลับทำให้เคนชิโร่รู้สึกถึงความหนักแน่นที่ซ่อนอยู่"คุณเคนชิโร่ค่ะ" มิเอโกะพูดเสียงหวานแต่ยังคงแฝงความจริงจัง "เราต้องทำให้ทุกอย่างราบรื่น เราจะเริ่มต้นอย่างไรดีคะ?"เคนชิโร่ยิ้มบางๆ แล้วหันไปมองบอดี้การ์ดทั้งห้าคนที่ยืนเรียงรายอยู่ด้านหน้าเขา โดยทุกคนต่างเป็นผู้ชายที่มีท่าทางเข้มแข็ง และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องและช่วยเหลือมิเอโกะ"โอเคครับ ทุกคน เรามีงานที่ต้องทำ" เคนชิโร่เริ่มต้นพูด "แผนของเราคือการแทรกซึมเข้าไปในธุรกิจของลูกชายมายาโตะ โดยการสมัครงานในหลายตำแหน่งที่เขามีส่วนเกี่ยวข้อง"เคนชิโร่หันไปมองมิเอโกะ ก่อนจะพูดต่อไป "ผมคิดว่าเราต้องให้คุณมิเอโกะไปสมัครงานกับลูกชายมายาโตะ เขาจะได้รู้จักกับคนในวงการ
มูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidan ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโตที่เต็มไปด้วยความสงบและสถาปัตยกรรมโบราณ ที่นี่เป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือและสนับสนุนชุมชนที่เดือดร้อน ภายในอาคารที่ตกแต่งด้วยไม้สีน้ำตาลอ่อนและกระจกที่สะท้อนแสงจากพระอาทิตย์ยามเย็น ทุกอย่างดูเงียบสงบและเป็นระเบียบ แต่ในวันนี้ มันกลับไม่สงบเหมือนเคยเสียงเคาะประตูดังขึ้นที่ห้องทำงานของมิเอโกะในมูลนิธิ เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิยืนอยู่ที่หน้าประตูและพูดด้วยน้ำเสียงเร่งด่วน “คุณมิเอโกะค่ะ ขอโทษที่รบกวน แต่มีตัวแทนชาวบ้าน 10 คนจากเกียวโตมาที่นี่ พวกเขาต้องการพูดคุยกับคุณโดยด่วนค่ะ”มิเอโกะที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานหันไปมองเจ้าหน้าที่ด้วยสีหน้าสงบ “เอาเลยค่ะ ให้พวกเขาไปนั่งรอที่ห้องประชุม เดี๋ยวฉันจะเข้าไปค่ะ”เจ้าหน้าที่พยักหน้าก่อนที่จะเดินออกไปไม่นาน มิเอโกะก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินไปยังห้องประชุม พอเปิดประตูเข้าไป เธอก็พบกับตัวแทนชาวบ้าน 10 คนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะประชุม บรรยากาศในห้องดูจริงจังและมีความเครียดปกคลุมมิเอโกะนั่งลงที่เก้าอี้หัวโต๊ะและหันไปยิ้มให้ทุกคน แม้ว่าจะมีความเครียดอยู่ในอากาศ “เกิดอะไรขึ้นค่ะ มีอะไรให้ฉันช่วยเหลือไห
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นด้วยอากาศสดชื่นที่พัดผ่านท้องถนนในเขตชานเมืองของโตเกียว เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในบ้านของมิเอโกะ ขณะที่เธอตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่ตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น เธอลุกขึ้นจากเตียงและยืดตัวเบาๆ ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างบานเล็กเปิดรับแสงแดดที่อ่อนโยนเสียงเครื่องยนต์จากรถยนต์คันหนึ่งดังขึ้นจากนอกบ้าน ก่อนที่เคนชิโร่จะขับรถของเขาเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของมิเอโกะ รอยยิ้มของเขาแสดงให้เห็นถึงความสุขที่ได้มาอยู่ใกล้ๆ เธอในทุกวันมิเอโกะเดินออกมาจากบ้านในชุดทำงานที่ดูสะอาดตาและดูดี พอเห็นเคนชิโร่ยืนรออยู่ที่หน้ารถ เธอไม่ลืมที่จะโบกมือทักทาย พร้อมรอยยิ้มที่ยิ้มกว้าง "สวัสดีค่ะ คุณเคนชิโร่"เคนชิโร่ยิ้มตอบกลับ พร้อมกับเปิดประตูให้มิเอโกะ "สวัสดีครับคุณมิเอโกะ วันนี้คุณพร้อมสำหรับการทำงานที่มูลนิธิแล้วหรือยังครับ?"มิเอโกะเปิดประตูรถและนั่งลงข้างเคนชิโร่ ก่อนที่จะหันมายิ้มให้เขา "พร้อมค่ะ! แค่คำนึงถึงการทำงานที่มูลนิธิก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าไม่มีคุณเคนชิโร่มาเป็นคนขับรถให้ก็คงจะลำบากน่าดูนะคะ"เคนชิโร่หัวเราะเบาๆ พร้อมขับรถออกไป "ผมดีใจที่สามารถช่วยได้ครับคุณมิเอโกะ ถึ
แสงไฟจากตึกมูลนิธิส่องสว่างเป็นเงาลางๆ เมื่อเคนชิโร่จับมือมิเอโกะออกมาจากอาคาร ความเย็นของยามค่ำคืนทำให้บรรยากาศดูเงียบสงบ แต่ไม่วายแฝงความอบอุ่นจากไออุ่นมือของทั้งสองที่ประสานกันแน่น"คืนนี้อากาศดีนะครับ" เคนชิโร่พูดพลางเหลือบมองมิเอโกะที่เดินอยู่ข้างๆ ด้วยรอยยิ้ม"ค่ะ ดีจนฉันอยากจะเดินกลับบ้านเลยด้วยซ้ำ" มิเอโกะหันมายิ้มตอบ แต่สายตาก็แฝงความขี้เล่น"ผมคงปล่อยคุณเดินกลับเองไม่ได้หรอกครับ ถ้าคุณล้มระหว่างทาง ใครจะช่วยพยุง?" เคนชิโร่แซวกลับ พร้อมทำสีหน้าเจ้าเล่ห์"โอ๊ะ คุณกำลังบอกว่าฉันซุ่มซ่ามหรือคะ?" มิเอโกะย่นจมูกใส่เขา พลางบีบมือเขาเบาๆ"ผมไม่ได้พูดแบบนั้นนะครับ คุณต่างหากที่คิดไปเอง" เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ขณะเปิดประตูรถหรูสีดำให้เธอ"อืม งั้นฉันจะถือว่าคุณชมว่าฉันน่ารักแล้วกันค่ะ" มิเอโกะยักคิ้วก่อนจะก้าวขึ้นรถ พร้อมเสียงหัวเราะเบาๆรถเคลื่อนตัวออกจากมูลนิธิ มุ่งหน้าสู่บ้านของมิเอโกะ ถนนยามค่ำคืนเงียบสงบ มีเพียงแสงไฟจากข้างทางที่สาดส่องเข้ามาในรถเป็นจังหวะ"คุณเคยบอกว่าผมขับรถพาคุณกลับบ้านจนชินแล้ว คืนนี้ผมจะได้เจอครอบครัวคุณไหมครับ?" เคนชิโร่ถามขณะมองถนน"ค่ะ พ่อกับแม่ฉันอยู่บ้าน แ
บ่ายวันนั้น แสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ของ Mamori no Te Shien Zaidan ดูอบอุ่นเป็นพิเศษ อากาศปลอดโปร่งและเงียบสงบจนเหมือนเวลากำลังเดินช้าลง ห้องทำงานของมิเอโกะจัดแต่งด้วยโทนสีอ่อนที่ช่วยให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย บนโต๊ะทำงานมีเอกสารกองหนึ่งที่เธอจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ แต่สายตาของเธอกลับไม่ได้สนใจเอกสารเหล่านั้นเท่าใดนัก"คุณเคนชิโร่ ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ?" มิเอโกะเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงาน เธอจ้องไปที่ชายหนุ่มที่กำลังนั่งอยู่ตรงโซฟาริมหน้าต่าง เขากำลังเลื่อนดูเอกสารบางอย่างในมือ แต่เมื่อได้ยินเสียงของเธอ เขาก็เงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ"ได้สิครับ มีอะไรหรือเปล่า?" เคนชิโร่ตอบด้วยน้ำเสียงอบอุ่น พร้อมวางเอกสารลงบนโต๊ะข้างตัวมิเอโกะยิ้มมุมปากเล็กๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา "ถ้าคุณไม่ได้อยู่ช่วยงานที่นี่ช่วงนี้ ฉันควรจัดการเอกสารนี้ยังไงดีคะ? ดูเหมือนจะเยอะเกินกว่าที่ฉันจะทำคนเดียวได้นะ"เคนชิโร่หัวเราะเบาๆ พลางเอนตัวไปพิงพนักโซฟา "ผมคิดว่าคุณทำได้อยู่แล้ว คุณเก่งจะตายไปนี่ครับ""พูดแบบนี้แปลว่าคุณจะไม่ช่วยฉันใช่ไหมคะ?" มิเอโกะเอียงคอเล็กน้อย ทำหน้าต
ห้องทำงานของมิเอโกะ ที่มูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidan ยังคงเต็มไปด้วยแสงแดดอ่อนๆ ที่ลอดผ่านกระจกเข้ามาอย่างสวยงาม ท่ามกลางความเงียบสงบที่สะท้อนถึงการทำงานอย่างมืออาชีพของทุกคนในที่นี่ แต่สำหรับมิเอโกะในตอนนี้ ความคิดในหัวของเธอกลับไม่เกี่ยวข้องกับเอกสารหรือเรื่องงานเลยสักนิดมิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง และเธอกำลังพยายามเก็บความรู้สึกของตัวเองให้อยู่ในกรอบ ในขณะที่กำลังคิดถึงเคนชิโร่ที่เพิ่งออกไป แต่บรรยากาศในห้องทำงานก็ไม่อาจทำให้เธอรู้สึกนิ่งสงบได้"เอ๊ะ... คุณเคนชิโร่ไปจัดการเรื่องที่ไนท์คลับแล้วใช่ไหม?" เธอพูดออกมาคนเดียวด้วยน้ำเสียงที่พยายามไม่ให้ฟังดูน่าเศร้าแต่ว่า มือเล็กๆ ของเธอก็หยิบปากกาออกมาเขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดาษ เริ่มขีดๆ เขียนๆ แบบขอไปทีเหมือนจะหาทางทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น "อืม... ถ้าฉันไม่ได้เจอเขานานๆ ก็ต้องทำตัวเองให้ยุ่งๆ แล้วล่ะ" มิเอโกะพูดกับตัวเองอย่างขำๆ และท่าทางนั้นกลับทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อทันใดนั้น เสียงเปิดประตูดังขึ้น และเคนชิโร่ที่เพิ่งออกไปกลับมาอีกครั้ง เขาเดินเข้ามาในห้องทำงานด้วยท่าทางที่เหมือนจะมีอะไรอยากบอก มิเอโกะเงยหน
บรรยากาศในห้องทำงานของ Mamori no Te Shien Zaidan กลับมาสงบลงอีกครั้งหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นไป และตอนนี้มิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง กำลังตรวจสอบเอกสารหลายชุดที่วางอยู่ข้างหน้า ในขณะที่เคนชิโร่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างความเงียบถูกทำลายเมื่อเคนชิโร่เปิดปากขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงความหนักใจ "คุณมิเอโกะครับ" เขาเริ่มต้นด้วยคำเรียกที่คุ้นเคยแต่แฝงไปด้วยความจริงจังมิเอโกะเงยหน้าขึ้นจากเอกสารและมองไปที่เคนชิโร่ รู้สึกถึงความกังวลในสายตาของเขา "มีอะไรคะ คุณเคนชิโร่?" เธอถามอย่างใส่ใจ ท่าทางสงบและเต็มไปด้วยความพร้อมที่จะฟังเคนชิโร่ยืนเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกมา "ผมปล่อยธุรกิจที่ไนท์คลับ Yūgen Club ที่เกียวโตไว้นานแล้ว... ไม่ค่อยได้กลับไปดูแลมันเลยช่วงนี้" เขาพูดออกมาเบาๆ และรู้สึกถึงความหนักใจที่ซ่อนอยู่ในคำพูด "ตอนนี้ผมจะไม่ค่อยได้เข้ามาที่มูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidan สักเท่าไรถ้าไม่มีผมในช่วงนี้... คุณจะทำงานคนเดียวไวไหมครับ?"มิเอโกะมองไปที่เคนชิโร่ ด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเห็นเขารู้สึกผิดไป เธอวางเอกสารลงและลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินเข้าไปใกล้ๆ เขาเพื่อที่จ