แชร์

บทที่ 0279

ผู้เขียน: อันอี่หราน
ซ่งชิงเหยียนจึงตอบไปตามความจริง “ทูลฝ่าบาท หากบอกว่าไม่คับแค้นใจ นั่นเป็นเรื่องโกหก เมื่อพระสนมเต๋อเฟยอยู่ในตําแหน่งก็สร้างปัญหาให้หม่อมฉันไม่น้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าหวานหว่านเกือบถูกนางทําร้ายตอนคลอดแล้ว”

พูดถึงตรงนี้ซ่งชิงเหยียนก็ส่ายหน้า หัวเราะเบาๆ “แต่ตอนนี้หวานหว่านก็คลอดออกมาอย่างดีแล้ว หม่อมฉันก็สบายดี ฝ่าบาทวางใจเถิดเพคะ หม่อมฉันไม่มีความคิดที่จะแก้แค้น”

เมื่อเห็นนางเปิดเผยตรงไปตรงมาเช่นนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับรู้สึกลังเลเล็กน้อย “ทางฮองเฮาบอกว่า...”

หลังจากพูดจบ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็มองไปที่ซ่งชิงเหยียน แต่กลับเห็นดวงตาของนางกําลังจ้องมองมาที่ตนเอง ภายใต้แสงเทียนที่สาดส่องลงมา ทําให้นางดูน่าประทับใจมากยิ่งขึ้น

“วันที่พระสนมเต๋อเฟยถูกทําร้าย คนข้างกายของสนมหลินผินเคยไปหาฟางกุ้ยเหริน และสนมหลินผินก็มาหาเจ้าในภายหลัง”

ซ่งชิงเหยียนเข้าใจทันทีว่านี่เป็นแผนของฮองเฮา

เพียงแต่แผนนี้ดูไม่มีระดับเอาซะเลย

พูดถึงตรงนี้ ซ่งชิงเหยียนก็ลุกขึ้นแล้วย่อกายลง เอ่ยปากว่า “คําพูดของฮองเฮาเป็นความจริงเพคะ หม่อมฉันปิดบังฝ่าบาทจริงๆ”

ฮ่องเต้ต้าฉู่เห็นดังนั้นก็เรียกนางให้นั่งลง ซ่งชิงเหยียนจึงเอ่ยปาก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0280

    ฮ่องเต้ต้าฉู่ออกจากตําหนักชิงอวิ๋น ก็มุ่งตรงไปยังตําหนักเหวินอิงของสนมหลินผินแต่เดินไปได้ครึ่งทาง จู่ๆ ก็สั่งว่า “เมิ่งเฉวียนเต๋อ กลับวังหลงเซิงเถอะ”ตัวเองเดินไปมาในตําหนักหลังดึกดื่นเช่นนี้ ไม่ใช่ทําให้ตําหนักหลังไม่สงบหรอกหรือ ช่างเถอะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่เถอะทางด้านสนมหลินผิน แน่นอนว่าได้รับเรื่องที่ฝ่าบาทกําลังเสด็จมาที่ตําหนักเหวินอิง จากนั้นก็หันตัวกลับตําหนักหลงเซิง แน่นอนว่าย่อมรู้ว่าฝ่าบาทเสด็จมาจากตําหนักชิงอวิ๋นด้วยความกังวล สนมหลินผินจึงนอนไม่หลับทั้งคืนคนที่เฝ้ายามคืนนี้คือนางกํานัลคนสนิทของนาง เห็นนางเป็นเช่นนี้ ก็เข้าไปปลอบ “พระสนมอย่าตื่นตระหนกเลยเพคะ หากฝ่าบาทคิดจะลงโทษพระสนม ก็คงจะไม่รอหลังจากคืนนี้หรอกเพคะ”“ยิ่งไปกว่านั้นในเมื่อทางหวงกุ้ยเฟยไม่มีคําพูดใดส่งมาเลย ก็น่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น”สนมหลินผินเพียงแค่ส่ายหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ในใจกลับยากที่จะสงบลงได้ต่อหน้าทุกคนต่างก็คิดว่าตนเองเป็นคนของหวงกุ้ยเฟย หวงกุ้ยเฟยย่อมพิจารณาสถานการณ์ของตนเอง แต่ในใจนางรู้ดี หวงกุ้ยเฟยไม่สนใจการกระทําเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้นิสัยนางเป็นคนที่ชอบใครก็คบด้วยมาโดยตลอด

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0281

    รอจนซ่งชิงเหยียนกลับตำหนักชิงอวิ๋นไปแล้ว จิ่นซิ่นและเผยฉู่เยี่ยนจึงได้จัดเก็บข้าวของเรียบร้อย รอให้พระสนมกลับมาเพื่อจะได้ออกเดินทาง“ไทเฮารับสั่ง ให้เราอยู่ต่ออีกสองวัน ควรเอาเสื้อผ้าไปผลัดเปลี่ยนมากหน่อย” ซ่งชิงเหยียนออกจากตำหนัก พร้อมกำชับจิ่นซินโดยธรรมเนียมแล้ว บรรดาเหล่าสนมกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดจะไม่อาจค้างคืนได้ พวกนางจึงต้องตื่นแต่เช้า รีบเก็บข้าวของเพื่อหวังให้พระสนมของกลับไปบ้านได้พูดคุยกับนายท่านและฮูหยินให้นานที่สุด โดยไม่นึกว่าไทเฮาจะมีพระเมตตาเช่นนี้“ไปเถิด อย่ามัวยืนเฉย” จิ่นซินผลักจิ่นอวี้ที่อยู่ข้างกาย “ดีใจจนตาค้างหรืออย่างไร”จิ่นซิ่นจึงได้สติกลับมาพร้อมยิ้มแย้ม “บ่าวดีใจมากจริงๆ เพคะ”ว่าแล้วก็รีบไปเตรียมตัวพร้อมจิ่นอวี้ด้วยความดีใจ ซ่งชิงเหยียนมองดูเผยฉู่เยี่ยนที่อยู่ด้านข้าง “เจ้าก็ตามข้าไปอยู่หลายวันเถิดนะ”“หม่อมฉันย่อมต้องคอยดูแลองค์หญิงหย่งอันใกล้ชิด” เผยฉู่เยี่ยนคารวะต่อซ่งชิงเหยียน[หัวโบราณนัก]ลู่ซิงหว่านอดไม่ได้ที่จะแอบบ่นทางนี้ซ่งชิงเหยียนพาคนออกจากวังด้วยความดีใจ ส่วนทางตำหนักจิ่นซิ่ว เสิ่นหนิงกำลังหัวหมุนอยู่กับการเตรียมงานฉลองวันคล้ายวันประส

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0282

    หลานชายคนโตของติ้งกั๋วโหวนามว่าซ่งจั๋วนั้น ปีนี้อายุครบยี่สิบพอดี และหลายวันนี้ ทั้งฮูหยินโหวและสะใภ้คนโตก็กำลังมองหาคู่ครองให้เขาอยู่แน่นอนว่าหากบ้านใดต้องการให้บุตรสาวแต่งเข้าจวนโหวก็จะส่งพ่อบ้านให้มาเจรจาทาบทามว่าไปถ้าพูดถึงในเมืองหลวง จวนติ้งกั๋วโหวก็นับเป็นตระกูลผู้ดีมีศักดิ์สูงแล้วตัวท่านติ้งกั๋วโหวเองก็เป็นถึงแม่ทัพปกป้องชายแดน ตำแหน่งโหวนี้ได้มาด้วยความสามารถในตนเองล้วนๆบัดนี้ยังเป็นถึงท่านตาของรัชทายาท และรัชทายาทก็เป็นคนโปรดของฮ่องเต้ ผู้คนทั่วเมืองหลวงต่างก็รู้ดียิ่งอย่าว่าแต่ บุตรสาวของท่านติ้งกั๋วโหว ปัจจุบันก็คือพระสนมหวงกุ้ยเฟย ซึ่งฮ่องเต้เคยมีรับสั่ง ว่าเป็นฐานะที่เทียบเท่าฮองเฮาก็ว่าได้ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ตระกูลซ่งของท่านติ้งกั๋วโหว ไม่เคยมีการรับอนุภรรยามาแต่ไหนแต่ไรตัวท่านติ้งกั๋วโหวเองก็ไม่มีอนุ และบุตรชายทั้งสามของเขา ต่างก็เข้าสู่วัยกลางคนแล้ว ล้วนมีแต่ภรรยาเอกเพียงคนเดียวหากได้แต่งเข้าในครอบครัวเช่นนี้ เชื่อว่าลูกสาวจะไม่ถูกรังแกแน่นอนเป็นการดองญาติในอุดมคติโดยแท้ด้วยเหตุนี้ฮูหยินหลินจึงต้องมาออกหน้าแทนบุตรสาวสักครั้ง ฐานะของครอบครัวตนแม้จะด

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0283

    “ข้ามารบกวนแล้วจริงๆ” ฮูหยินหลินตกใจยิ่งนัก หากขัดขวางขบวนเดินทางของพระสนมหวงกุ้ยเฟย นั่นอาจเป็นผลร้ายมากกว่า “ข้าไม่รู้ว่าวันนี้หวงกุ้ยเฟยจะกลับมาเยี่ยมครอบครัวน่ะเจ้าค่ะ”เห็นฮูหยินหลินตกใจเช่นนี้ นางเว่ยจึงรีบปลอบโยน “ฮูหยินหลิน อย่าได้เป็นกังวล เราอยู่ต้อนรับพระสนมหวงกุ้ยเฟยพร้อมกันก็ได้ นางเป็นคนไม่ถือตัว”ฮูหยินหลินจึงได้พยักหน้าตกลง พร้อมกล่าวขออภัยอีกครั้งครั้นหันไปมองหน้าลูกสาว ก็เห็นนางแววตาเป็นประกาย คล้ายรอคอยการมาถึงของพระสนมหวงกุ้ยเฟยหลินอิง ก็คือคนที่เคยถูกเสิ่นเป่าเยียนเล่นงานนางสังเกตพระสนมหวงกุ้ยเฟยคล้ายจะพอใจเสิ่นเป่าเยียนมาก แต่ไม่รู้พวกนางไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อใด ภายหลังแอบไปสืบข่าว จึงรู้ว่าพระสนมหวงกุ้ยเฟยผู้นี้นิสัยเป็นคนใจกว้าง มองคนเพียงแค่ถูกชะตาเท่านั้น หากครั้งนี้ตนเป็นที่พอใจของพระสนมผู้นี้บ้าง วันหน้าก็คงไม่ต้องถูกดูต่ำต้อยกว่าเสิ่นเป่าเยียนอีกฮูหยินหลินสองแม่ลูกจึงได้ตามติดครอบครัวติ้งกั๋วโหวไปที่หน้าจวน เพื่อต้อนรับการมาเยือนของพระสนมหวงกุ้ยเฟยซ่งชิงเหยียนไม่เคยยอมให้มารดาแสดงความเคารพตามธรรมเนียม จึงรีบพยุงให้นางยืนขึ้น “ท่านแม่ ข้าเคยบอกก

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0284

    ซ่งชิงเหยียนไม่รู้ว่ามารดากับพี่สะใภ้ทั้งหลายวันนี้จะดูเรื่องคู่ครองให้แก่ซ่งจั๋วจึงได้ถามด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ช่างบังเอิญจริง ฮูหยินหลินก็มาถึงจวนได้”ฮูหยินโหวแอบกระซิบที่ข้างหูซ่งชิงเหยียน “พระสนมกลับมาเยี่ยมบ้านกะทันหัน แต่เทียบของฮูหยินหลินได้ส่งมาก่อนแล้ว เราจะไล่แขกก็กระไรอยู่”ซ่งชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ “ไม่เป็นไร ท่านแม่ก็รู้ว่าข้าชอบความคึกคัก”แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัย ปกติจวนติ้งกั๋วโหวกับตระกูลหลินไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่ แล้วพวกนางจะมาด้วยเรื่องอันใดกันลู่ซิงหว่านดูออกว่าซ่งชิงเหยียนมีข้อกังขาในใจ จึงได้แอบตอบ[ท่านแม่คงไม่รู้ว่าแม่ลูกตระกูลหลินมาทำไม หวานหว่านเดาว่า คงมาเพราะเรื่องแต่งงานของพี่ซ่งจั๋วแน่นอน][ท่านดูอาการเขินอายของหลินอิงสิ สายตาที่จ้องมองพี่จั๋วแฝงไปด้วยความเสน่หาซะขนาดนั้น!][แล้วดูฮูหยินหลิน แววตาที่มองพี่จั๋วก็เต็มไปด้วยความพึงพอใจและชื่นชม][ท่านแม่ลองถามท่านยายกับท่านอาหญิงดูสิ ต้องใช่แน่ๆ]ซ่งชิงเหยียนได้แต่แอบคิดในใจ ลูกน้อยของตนคนนี้ เมื่อก่อนอยู่ในภพแห่งการบำเพ็ญเพียรก็น่าจะสุขสบายอยู่ เด็กที่เฉลียวฉลาดทั้งยังช่างสังเกตถึงเพียงนี้ ยังมีคนมา

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0285

    [แต่ก็ช่างเถิด คนอย่างคุณชายหาน หลินอิงไม่คู่ควรอยู่แล้ว][ในหนังสือนิทานบอกว่าหลังจากพี่ชายรัชทายาทถูกปองร้าย ติ้งกั๋วโหวตายหมดทั้งบ้านแล้ว ตระกูลหานก็เริ่มตกอับเช่นกัน หลินอิงจึงขอแยกทางกับหานซีสือ และออกจากตระกูลหานไป][แต่พูดก็พูด แม่ของนางถือว่าเป็นคนไม่เลวนัก พยายามเกลี้ยกล่อมให้ลูกสาวกลับไปร่วมทุกข์ร่วมสุขกับสามี แต่นางกลับไม่เชื่อฟังคำเตือนของแม่นาง][ตอนหลังไม่รู้เพราะเหตุใด จู่ๆ ไปมีความสัมพันธ์กับองค์ชายสาม ยังไม่ทันรอให้พี่ชายรองได้ครองอำนาจเลย นางก็ถูกความโรคจิตขององค์ชายสามทรมานจนเสียชีวิตไปแล้ว ก็ถือว่ากรรมตามสนอง]ซ่งชิงเหยียนฟังคำพูดของลู่ซิงหว่านแล้ว ค่อยๆ เบิกตาโพลงขึ้น นางยอมรับว่าไม่ชอบแววตาเจ้าเล่ห์ของหลินอิง แต่ไม่นึกว่าหลินอิงจะเห็นแก่ผลประโยชน์ถึงเพียงนี้เดิมคิดว่าหานซีสือเป็นคนที่นางชื่นชอบมาแต่เล็ก จึงคิดแย่งชิงกับเสิ่นเป่าเยียนให้รู้แล้วรู้รอดซ่งชิงเหยียนยังเคยคิดว่า นางชอบนิสัยทะเยอทะยานของหลิงอิงเสียด้วยซ้ำ แต่คาดไม่ถึงว่า สิ่งที่หลินอิงต้องการไม่ใช่ความรัก หากแต่เป็นอำนาจต่างหากเมื่อนึกถึงตรงนี้ ซ่งชิงเหยียนก็อดมองหลานชายของตนไม่ได้ เขาเป็นคนหนุ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0286

    เยว่หลินพาแม่ลูกตระกูลหลินออกไปไม่นาน ก็เจอเข้ากับฮูหยินรองนามกัวหรูพาหญิงสาวผู้หนึ่งเดินตรงมาติ้งกั๋วโหวยังมีน้องชายต่างมารดาอีกคนหนึ่ง นามว่าซ่งจางอิง ก็คือสามีของกัวหรูผู้นี้ในขณะที่ซ่งจางผิงได้รับยศถาบรรดาศักดิ์เป็นถึงติ้งกั๋วโหว น้องชายผู้นี้กลับไม่ได้แยกบ้านไปอยู่เอง ทั้งสองครอบครัวจึงอยู่บ้านเดียวกันมาโดยตลอด แต่จะว่าไปแล้ว นี่ถือว่าเป็นเรื่องน่าอับอายเรื่องหนึ่งบิดาของติ้งกั๋วโหว ในอดีตเป็นเพียงแม่ทัพเล็กๆ ขั้นสามเท่านั้น แม้ตำแหน่งจะไม่ใหญ่โต แต่มีศรีภรรยาที่ดี ทั้งคู่รักใคร่ปองดอง ชีวิตก็พอมีความสุขบ้างแต่มารดาของติ้งกั๋วโหวคือฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวนั้น กลับมีครอบครัวเดิมที่วุ่นวายนักมีอยู่ปีหนึ่ง ทางบ้านเดิมของฮูหยินผู้เฒ่า หาข้ออ้างให้นางช่วยดูแลน้องสาวซึ่งเป็นอนุภรรยาที่ถูกสามีเก่าทอดทิ้ง พร้อมส่งนางมาอยู่ตระกูลซ่งแทน ติ้งกั๋วโหวในเวลานั้น มีอายุประมาณสิบปีฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนมีเมตตา จึงตั้งใจดูแลน้องสาวในไส้ผู้นี้เป็นอย่างดี โดยหารู้ไม่ว่า แท้จริงแล้วครอบครัวเดิมคิดร้ายต่อนางและสามีต่างหากทางตระกูลจ้าวเสแสร้งบอกว่าที่บ้านเกิดเรื่อง ให้ฮูหยินผู้เฒ่ารีบกลับไปดู

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0287

    ฉะนั้นครั้งนี้กัวหรู จึงพาบุตรสาวคนรองของพี่ชายตนมีนามว่ากัวเยว่เส้ามาด้วยซึ่งบิดาของกัวเยว่เส้า ก็คือราชเลขากรมคลังกัวผิงตั้งแต่เด็กมา กัวเยว่เส้าถูกเลี้ยงดูตามแบบฉบับของการเป็นพระชายาแห่รัชทายาทมาโดยตลอด เป็นความหวังของกัวผิงที่ว่า วันหน้าจะยกให้เป็นชายาขององค์ชายสามเพราะกัวผิงนั้น เป็นศิษย์เอกของอดีตเสนาบดีชุยเหวินด้วยและความคิดของชุยเหวินกับกัวเผิง ไม่ต้องบอกกล่าวก็เป็นที่รู้กัน ว่าใฝ่ฝันต้องการให้องค์ชายสามเป็นรัชทายาทแทนแต่ต่อมาตระกูลชุยต้องโทษทั้งตระกูล กัวผิงจึงไม่ต้องการให้บุตรสาวที่ฟูมฟักมาอย่างดีไปแต่งงานกับองค์ชายสามอีกเพราะรัชทายาทคนปัจจุบันเป็นคนโปรดของฮ่องเต้ องค์ชายสามดูอย่างไรก็เป็นคนไม่เอาไหนการเป็นองค์ชายที่ไม่มีอนาคตนั้น ใครก็ไม่อาจคาดเดาถึงความรุ่งเรืองได้งั้นมิสู้เลือกทายาทขุนนางสักคนยังดีกว่า เพราะด้วยนิสัยของฮ่องเต้ ขอเพียงครอบครัวติ้งกั๋วโหวไม่ทำความผิด อย่างไรก็อยู่สบายไปอีกร้อยปีแน่เดิมทีกัวเยว่เส้าก็แก่กว่าองค์ชายสามถึงสามปีอยู่แล้ว หลายปีนี้เพื่อจะรอองค์ชายสาม เก็บเนื้อเก็บตัวจนเสียเวลาถึงอายุสิบห้าปีในวันนี้ดังนั้นกัวผิงจึงให้กัวหรูช่วย

บทล่าสุด

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0640

    พูดถึงตรงนี้องครักษ์เงามังกรก็ถอนหายใจ “เพียงแต่อีกฝ่ายล้วนเป็นนักรบที่ตายแล้ว ไม่ได้เหลือผู้รอดชีวิตไว้”[แม่เจ้าโว้ย ทหารพลีชีพหนึ่งร้อยคน นี่มันฐานะอะไรเนี่ย][ดูเหมือนว่าชีวิตของเสด็จพ่อมีค่ามากจริงๆ สามารถทําให้อีกฝ่ายส่งทหารพลีชีพได้หนึ่งร้อยคน]เรื่องนี้เป็นไปตามที่คาดไว้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมไม่ตําหนิองครักษ์เงามังกร จึงออกคําสั่งให้คนขับรถม้าเดินทางต่อไป ต้องไปถึงสถานที่ปลอดภัยถึงจะดําเนินการต่อได้ภายในรถม้าก็เงียบกริบเช่นกันในที่สุดสนมเยว่กุ้ยเหรินก็ลองเอ่ยปาก “ฝ่า...นายท่าน ฮูหยิน คือว่า...”ซ่งชิงเหยียนเหมือนเพิ่งนึกถึงสนมเยว่กุ้ยเหรินที่ขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ดึงนางขึ้นมา “วางใจเถอะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ มิน่าเล่าสนมเยว่กุ้ยเหรินถึงอยู่ในวังมาเจ็ดแปดปีก็ไม่มีทายาทสักคน เกรงว่าโอกาสที่ฝ่าบาทจะโปรดปรานนางก็มีน้อยมากในรถม้าคันเดียวมีกันแค่สี่คน ตัวเองยังสามารถลืมนางได้อย่างสนิทใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็จัดเสื้อผ้าให้ตนเอง แล้วอุ้มลู่ซิงหว่านเข้ามาในอ้อมกอดของตน หยอกล้อนางว่า “หวานหว่าน ตกใจหรือเปล่า?”ลู่ซิงหว่านเอื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0639

    เพราะว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก ทุกคนต่างก็เปลี่ยนคําเรียกขานกัน จึงสามารถปกป้องฝ่าบาทได้อย่างทั่วถึง“ปกป้องนายท่าน!” เว่ยเฉิงดึงกระบี่ออกจากฝักกระบี่ของตัวเอง แล้วพูดกับฮ่องเต้ต้าฉู่ที่อยู่บนรถม้า “นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง คนขอวเราข้าล้วนเลือกคนที่มีวรยุทธ์สูงทั้งนั้น ต้องสามารถปกป้องนายท่านและฮูหยินให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอนขอรับ”“ได้” เสียงทุ้มต่ำของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังขึ้น ทําให้เว่ยเฉิงรู้สึกสบายใจขึ้นหลายส่วนซ่งชิงเหยียนก็กุมมือของสนมเยว่กุ้ยเหรินในเวลานี้ และพยักหน้าให้นางเพื่อแสดงให้เห็นว่านางสบายใจได้ลู่ซิงหว่านกลับไม่กลัวอย่างที่สนมเยว่กุ้ยเหรินคิดแม้กระทั่งนางยังตบแขนสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ ปากก็พึมพําว่า “ไม่กลัว”สนมเยว่กุ้ยเหรินรู้สึกอับอายขายหน้าจริงๆ [ว้าว ทําไมมันน่าตื่นเต้นจัง][เสด็จพ่อและท่านแม่ต้องสู้ๆ นะ! เสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฉู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนิทานหรอกหรือ! โชว์ฝีมือให้หวานหว่านดูหน่อย ให้หวานหว่านดูบ้าง!]ซ่งชิงเหยียนกุมหน้าผากอย่างพูดไม่ออกโชคดีที่เป็นเสียงในใจ ฝ่าบาทจึงไม่ได้ยิน หวานหว่านเอ๋ย เจ้ามีกี่หัวให้ถูกตัดกันล่ะเนี่ย!แม้แต่ฮ่องเต้ต้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0638

    ฮ่องเต้ต้าฉู่และคณะเดินทางลงใต้ต่อ แล้วเลือกที่พักต่อไปก่อนออกเดินทาง อัครมหาเสนาบดีและคนอื่นๆ ได้กําหนดสถานที่ตั้งหลักสําหรับฝ่าบาทตามทางแล้ว ล้วนเป็นอำเภอที่เจริญรุ่งเรืองแต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้รูปแบบการเดินทางแล้ว ตอนนี้เป็นการเยี่ยมเยือนส่วนตัวแล้วประการที่สองคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในอําเภอไถจินซึ่งจําเป็นต้องป้องกันดังนั้นฮ่องเต้ต้าฉู่จึงปรึกษากับเว่ยเฉิงและซ่งชิงเหยียน เปลี่ยนเส้นทางและเลือกเมืองอื่นๆ เพื่อพักระหว่างทาง เพื่อสํารวจประเพณีท้องถิ่นดูว่าสถานที่อื่นๆ ก็มีพฤติกรรมที่หลอกลวงและปกปิดเช่นเดียวกับอําเภอไถจินหรือไม่ดังที่หวานหว่านกล่าวไว้ อําเภอไถจินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้ยังเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ แล้วอําเภออื่นๆ ล่ะซ่งชิงเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่ซิงหว่านก็พูดก่อน[ได้สิ ๆ ! ออกมาเที่ยวเล่นก็ต้องเที่ยวเล่นไปทั่วอยู่แล้ว ถ้าทุกที่ถูกคนจับตามองอยู่ จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ][ทําไมไม่ให้ผู้บัญชาการเว่ยเลือกสถานที่เล็กๆ หน่อย พวกเราไปเดินเล่นกัน ยังไงก็ต้องรับรองความปลอดภัยของเสด็จพ่อนะ!][ออกมาห้าวันแล้ว แต่ก็ยังปลอดภัยอยู่ เดิมคิดว่าจะถูกลอบสังหารในวันแรกท

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0637

    “ตอนนี้เกรงว่าพระมเหสีคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสส่งองค์หญิงหกออกจากตําหนักจิ่นซิ่ว” สนมหลานพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งพระสนมหลานเฟยพูดได้ไม่ผิด เดิมทีเสิ่นหนิงก็ไม่ยอมรับองค์หญิงหกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นคนออกปากเอง นางจึงปฏิเสธไม่ได้ไม่สู้ครั้งนี้วางแผนซ้อนแผน ส่งองค์หญิงหกออกไปก็แล้วกันพระสนมหลานเฟยพาจิ่นซินไปที่ตําหนักหรงเล่อแม้แต่ไทเฮาที่อาศัยอยู่ในวังหลังมานานขนาดนี้ เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าของจิ่นซิน ก็อดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวน“จิ่นซิน” ไทเฮาจับมือจิ่นซินปลอบ “พระสนมของเจ้าไม่อยู่ มีเรื่องอะไรเจ้าก็บอกแม่นมซูได้เลย ข้าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง”จิ่นซินกลับมีสมองอย่างหาได้ยาก เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ “บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ ไทเฮาเพคะ จิ่นซินเป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้เป็นนายอารมณ์ไม่ดี จะตีจะด่าสักหน่อยก็สมควรแล้วเพคะ”แม้ว่าไทเฮารู้ว่าคําพูดของจิ่นซินเป็นคําพูดที่สุภาพ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของนาง บวกกับบาดแผลบนใบหน้าของนาง ก็เห็นถึงความอดทนและความคับข้องใจอย่างชัดเจนจึงหันไปมองพระสนมหลานเฟย “ในเมื่อชิงเหยียนไม่อยู่ ช่วงนี้ให้จิ่นซินอยู่ในวังของเจ้าเถอะ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0636

    เมื่อได้ยินจิ่นซินกล้าที่จะเถียงตนเอง องค์หญิงหกก็โกรธทันที“เจ้าคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” องค์หญิงหกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจิ่นซินย่อมคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย แต่ร่างกายยังคงตั้งตรงตอนนี้นางจึงอยู่ในระดับเดียวกันกับองค์หญิงหกองค์หญิงหกรีบก้าวเท้าไปข้างหน้าและตบหน้าจิ่นซินหนึ่งฉาด “เจ้าบ่าวรับใช้บังอาจนัก แม้แต่นายของเจ้ายังไม่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าเถียงข้าหรือ?”พูดถึงตรงนี้ ราวกับไม่คลายความโกรธ หันไปมองอิงหงที่อยู่ข้างๆ อีกครั้ง “ตบปากนางให้ข้าที!”อิงหงกลับขดตัวไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าถึงอย่างไรจิ่นซินก็เป็นคนข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟย แม้ว่านายของนางจะเป็นองค์หญิงหก แต่ว่า...เมื่อเห็นอิงหงไม่ขยับตัว องค์หญิงหกก็ยื่นขาออกไปเตะที่ขาของนาง “เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ?”อิงหงกัดฟัน ในที่สุดก็เดินมาตรงหน้าจิ่นซินแล้วเริ่มลงมือเมื่อเห็นใบหน้าของจิ่นซินแดงและบวมขึ้นในที่สุด องค์หญิงหกจึงเอ่ยปากให้อิงหงหยุดมือ แต่ยังคงไม่คลายความโกรธ “เจ้าคุกเข่าตรงนี้ให้ข้าสองชั่วยาม หากคุกเข่าไม่ถึงสองชั่วยาม ข้าจะตบเจ้าอีก!”พูดจบก็พาอิงหงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองในเวลานี้อวิ๋นหลานที่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0635

    พูดจบก็ยิ้มให้เสิ่นผิงอีก “การสอบระดับกลางปีหน้า ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่เมืองหลวง”ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ แต่คนนี้ ในเมื่อหวานหว่านบอกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เมื่อพบแล้ว ก็ไม่อาจไม่ยุ่งได้พูดจบก็เดินก้าวยาวๆ ออกไปเสิ่นผิงเพิ่งได้สติหลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่จากไปแล้ว “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ทําเรื่องใหญ่อีกครั้ง ในใจย่อมมีความสุขมากคนทั้งกลุ่มจึงเก็บสัมภาระอีกครั้งและเดินทางต่อฮ่องเต้ต้าฉู่เดินเที่ยวชมวิวตลอดทาง มีความสุขมากแต่หลังจากที่เขาจากไป ในวังก็มีคนก่อความวุ่นวายขึ้นคนแรกที่ก่อความวุ่นวายขึ้นก็คือองค์หญิงหกที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในวังจิ่นซิ่วจิ่นซินอยู่ในตําหนักชิงอวิ๋นเพียงลําพัง ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทํา ทั้งวันจึงไม่มีอะไรทําดังนั้นวันนี้ ตําหนักชิงอวิ๋นกลับมีคนที่จิ่นซินคาดไม่ถึงคนหนึ่งมา อวิ๋นหลานเมื่อเห็นอวิ๋นหลานมา จิ่นซินก็รีบเข้าไปต้อนรับ “พี่หญิงอวิ๋นหลานมาได้อย่างไรกัน?”จะว่าไปตําหนักจิ่นซิ่วกับตําหนักชิงอวิ๋นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งต่อหน้าอะไรกันแต่จิ่นซินและจินอวี้ในตําหนักชิงอวิ๋นต่างก็รู้ว่าเมื่อฮองเฮายังเป็นพ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0634

    เขาเป็นฮ่องเต้และเข้าใจวิธีการใช้คนเป็นอย่างดีคนอย่างเสิ่นผิงเป็นดาบที่แหลมคม ต้องให้ผู้ถือดาบควบคุมให้ดีเรื่องต่อไปนั้นง่ายมากฮ่องเต้ต้าฉู่สั่งให้เว่ยเฉิงออกหน้าเพื่อปลอบขวัญราษฎรทั้งหมด ส่วนตัวเขาเองก็พาเสิ่นผิงกลับไปที่จวนนายอำเภออีกครั้งครั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงตั้งใจพาลู่ซิงหว่านมาอยู่ข้างกายถึงอย่างไรเขาก็มีความคิดแบบนี้มานานแล้ว อยากจะพาลู่ซิงหว่านไปประชุมเช้าด้วยแต่เมื่อนึกถึงคนแก่คร่ำครึกลุ่มนั้น เพื่อลดความยุ่งยากให้กับลู่ซิงหว่านและซ่งชิงเหยียนสองแม่ลูก ในที่สุดเขาก็ยกเลิกความคิดนี้แต่ตอนนี้อยู่ข้างนอกมันไม่เหมือนกันแล้ว สิ่งที่ควรใช้ก็ต้องใช้ให้ดีเมื่อเห็นฮ่องเต้ต้าฉู่กําลังอุ้มเด็กคนหนึ่ง เสิ่นผิงก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นฮ่องเต้ เขาเป็นแค่ข้าน้อยธรรมดาคนหนึ่ง จะกล้าเอ่ยปากได้อย่างไรจนกระทั่งทั้งสองนั่งลง ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงเอ่ยปากถามว่า “คุณชายเสิ่นแม้จะสวมเสื้อผ้าธรรมดา แต่ดูแล้วก็สง่างาม ไม่รู้ว่าพ่อเจ้าเป็นใครกัน”เสิ่นผิงกลับส่ายหน้า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านพ่อเป็นใคร ข้าน้อยอาศัยอยู่กับท่านแม่ที่อําเภอไถจิ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0633

    [นี่เป็นขบวนเสด็จของฝ่าบาท พวกเจ้ายังกล้าขัดขวางอีกหรือ?]ส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เปิดม่านรถออกอย่างเงียบๆ และมองออกไปด้านนอกตอนนี้ที่หน้ารถของพวกเขา มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกําลังคุกเข่าอยู่ เป็นธรรมดาที่มีชาวบ้านทยอยกันเดินมาทางนี้ลู่ซิงหว่านตาไว มองปราดเดียวก็เห็นคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุด เป็นชายที่คุยกับพวกเขาเมื่อวาน“เสด็จพ่อ พี่ชาย” ลู่ซิงหว่านชี้นิ้วไปยังคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุดฮ่องเต้ต้าฉู่หันมองลู่ซิงหว่านอย่างสงสัย แล้วมองไปข้างหน้าคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเขาคิดไปคิดมา ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ลุกขึ้นและออกจากรถม้าไป“ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี” ทุกคนคุกเข่าลงและตะโกนถวายบังคมชายที่อยู่ด้านหน้าสุดกลับเอ่ยปากก่อน “ข้าน้อยเสิ่นผิง ถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”พูดจบ เสิ่นผิงก็เงยหน้าขึ้น มองตรงไปที่ฮ่องเต้ต้าฉู่ “ก่อนหน้านี้ที่ฝ่าบาททรงมอบเงินเหล่านั้นให้ข้าน้อย ข้าน้อยก็รู้สึกว่าฝ่าบาทต้องเป็นผู้มีบุญญาธิการแน่นอน นึกไม่ถึงว่าจะเป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน”พูดถึงตรงนี้ เสิ่นผิงก็โขกหัวลงไปอีกครั้ง “ฝ่าบาททรงเมตตากรุณายิ่งนัก เป็นความโชคดีของราษฎรในใต้หล้าเหลือเกินพ่ะย่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0632

    ฮ่องเต้ต้าฉู่จัดการเรื่องนี้เสร็จ ก็เสียเวลาไปบ้าง ได้แต่พักค้างคืนหนึ่งคืนก่อนแล้วค่อยออกเดินทางอีกครั้งในวันถัดไปเท่านั้นค่ำคืนนี้ พวกฮ่องเต้ต้าฉู่กลับไม่ได้ไปพักที่โรงเตี๊ยมหรือเรือนรับรองใดๆ อีก แต่พักอยู่ในที่ว่าการอําเภอโดยตรงตอนนี้ไม่มีงานราชการที่ต้องจัดการ หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว ก็รู้สึกเบื่อมาก“เว่ยเฉิง” ฮ่องเต้ต้าฉู่ชะโงกหน้าไปถาม “ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของอําเภอเทียนจินนี้เป็นอย่างไร?”พูดถึงตรงนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ยืนขึ้น “ไม่สู้เรียกหวงกุ้ยเฟยมาดีกว่า ให้ออกไปเดินเล่นด้วยกัน”บังเอิญจริงๆ ซ่งชิงเหยียนและพรรคพวกก็กําลังเดินมาทางนี้เช่นกัน“นายท่าน” เยวี่ยกุ้ยเหรินเดิมทีก็มีนิสัยร่าเริงอยู่แล้ว เมื่อก่อนอยู่ต่อหน้าฝ่าบาทและพระสนมหวงกุ้ยเฟยยังไม่กล้าปล่อยมากนัก หลายวันมานี้คุ้นเคยกันแล้ว ย่อมมีชีวิตชีวามากขึ้น “พระ...ฮูหยินเรียกข้าออกไปเดินเล่นด้วยกัน นายท่านจะไปด้วยหรือไม่เจ้าคะ?”เมื่อได้ยินสนมเยว่กุ้ยเหรินเรียกซ่งชิงเหยียนแบบนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็อึ้งไปชั่วขณะเขาจับตาซ่งชิงหย่านอย่างว่างเปล่า ราวกับว่าเขาสามารถเห็นใบหน้าของซ่งชิงหย่าผ่านใบหน้าของนางเมื่อฮ่องเต

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status