หลังจากทานข้าวเสร็จพราวฟ้าก็กลับขึ้นมาบนห้อง สู่โลกส่วนตัวของตัวเอง เปิดซีรีส์เรื่องโปรดดูตามสไตล์สาวเพ้อฝันที่อยากจะได้ผู้ชายดีๆ เหมือนโอปป้าในซีรีส์เธอชอบดูมาเป็นคู่ชีวิต แต่ในชีวิตจริงมันยากเหลือเกินที่จะหาผู้ชายแบบนั้น
ถึงพราวฟ้าจะเป็นลูกสาวมหาเศรษฐี แต่เธอก็ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่ฟุ่มเฟือยและเป็นเด็กดีมาตลอด ซึ่งบางครั้งก็หัวอ่อนไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคน จนคนใกล้ตัวอดที่จะเป็นห่วงเธอไม่ได้
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาจากหน้าห้อง ทำให้เจ้าของห้องละสายตาจากหน้าจอไปมองที่ประตูพร้อมกับเอ่ยอนุญาตเสียงหวาน
“เข้ามาเลยค่ะ ประตูไม่ได้ล็อก”
หลังจากเอ่ยอนุญาตไปประตูก็เปิดออกแล้วปรากฏร่างบางที่เหมือนเจ้าของห้องอย่างกับคนคนเดียวกัน จะแตกต่างกันก็ตรงการแต่งตัวเท่านั้น
“พี่ทำอะไรอยู่เหรอคะ?”
พิมพ์ดาวถามพี่สาวฝาแฝดขณะที่ก้าวเข้ามาในห้องหรูที่เหมือนกับห้องของเธอ จะแตกต่างกันก็ต่างกันตรงการตกแต่งและโทนสีเท่านั้น
“พี่ดูซีรีส์น่ะ พิมพ์มีอะไรหรือเปล่าจ้ะ?” พราวฟ้าพูดออกไปด้วยท่าทางใจดี
“พี่ชอบดูหนังพวกนี้เหรอ?”
พิมพ์ดาวไม่สนใจในคำถามของพี่สาวฝาแฝด แต่เลือกที่จะสนใจในสิ่งที่พี่สาวชอบ ซึ่งมันแตกต่างกับสิ่งที่เธอชอบมากๆ
“จ้ะ” พราวฟ้าตอบพร้อมรอยยิ้ม
“พิมพ์เข้าเรื่องเลยละกันนะ จะได้ไม่เสียเวลาดูซีรีส์ของพี่”
พิมพ์ดาวนั่งลงที่ปลายเตียงแล้วมองหน้าพี่สาวด้วยแววตาอ้อน เหมือนที่ชอบทำเวลาอยากได้อะไรจากหนุ่มๆ แต่เธอคิดว่ามันน่าจะใช้ได้ผลกับพี่สาวหัวอ่อนของเธอ
“มีอะไรหรือเปล่า?” พราวฟ้าถามออกไป เมื่อเห็นท่าทางแปลกๆ ของน้องสาว
“คือว่า... เอ่อ... พิมพ์...”
พิมพ์ดาวทำท่าทางกระอึกกระอัก เหมือนไม่กล้าพูด จนพราวฟ้าต้องถามขึ้นมาอีกครั้ง
“พิมพ์มีอะไรให้พี่ช่วยพูดมาเถอะจ้ะ เราสองคนก็เหมือนคนคนเดียวกัน”
“พิมพ์มีเรื่องรบกวนพี่พราว เรื่องสำคัญมากเลยค่ะ พี่พราวคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยพิมพ์ได้”
พิมพ์ดาวพูดออกมาด้วยท่าทางลำบากใจ แล้วลุกขึ้นขยับมานั่งข้างๆ พี่สาว
“ถ้าพี่ช่วยได้ พี่ก็เต็มใจจะช่วย”
พราวฟ้ายื่นมือไปกุมมือของน้องสาวเมื่อเห็นท่าทางลำบากใจของน้อง แล้วยังรู้สึกสงสารเพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของน้องสาว ที่ต้องดิ้นรนทำงานทุกอย่างเพื่อเลี้ยงตัวเองกับแม่ ต่างจากเธอที่สุขสบายอยู่บนกองเงินกองทอง เอาเปรียบน้องสาวสุดๆ
“พี่พราวพูดแล้วนะ”
พิมพ์ดาวยิ้มกว้างด้วยท่าทางดีใจ จนพี่สาวอดยิ้มตามไม่ได้ แล้วพยักหน้าแทนคำตอบ ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพิมพ์ดาวจะให้ช่วยอะไร
“พี่พราวต้องสัญญากับพิมพ์ก่อนว่าพี่พราวจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกแม่”
พิมพ์ดาวพยายามอ้อนสุดกำลัง มารยามีเท่าไหร่ใส่ออกไปจนหมด จนพี่สาวคล้อยตาม
“ถ้าพิมพ์ไม่อยากให้บอก พี่ก็จะไม่บอก”
พราวฟ้ายอมทำตามความต้องการของพิมพ์ดาว เพราะเธอเชื่อว่าพิมพ์ดาวต้องมีเหตุผลที่ทำแบบนั้น
“คือว่า... ตอนที่พิมพ์กับแม่ยังไม่เจอพี่พราว เราสองคนลำบากมาก งานพิมพ์ก็ไม่ค่อยมี เพราะแม่บังคับให้พิมพ์คบกับผู้ชายคนหนึ่ง...”
พราวฟ้าตั้งใจฟังที่พิมพ์ดาวเล่าอย่างตั้งใจ เพราะเธอก็อยากจะรู้เรื่องของแม่กับน้องให้มากกว่านี้เหมือนกัน
แล้วเธอก็ได้รู้ว่าน้องสาวของเธอรักผู้ชายคนนั้นมาก เพราะเขาคอยช่วยเหลือน้องสาวกับแม่ของเธอมาตลอด ซึ่งเธอก็พลอยดีใจไปด้วย แต่ที่เธอสงสัยก็คือเรื่องที่พิมพ์ดาวจะให้เธอช่วย
“พรุ่งนี้เช้าพิมพ์ต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด เพราะมีถ่ายแบบช่วงเย็นค่ะ แต่พิมพ์ดันลืมไปว่าพรุ่งนี้มีนัดกับพี่วิน”
พิมพ์ดาวพูดออกมาด้วยท่าทางคิดหนัก เพื่อให้พราวฟ้าเชื่อในสิ่งที่เธอแสดงออกมา
“แล้วยังไงจ้ะ?”
พราวฟ้าถามออกไปด้วยความสงสัย พิมพ์ดาวมีนัดกับแฟน… แล้วว่ามันเกี่ยวอะไรกับเธอ
“พิมพ์อยากจะให้พี่ช่วยไปทานข้าวแทนพิมพ์หน่อยได้ไหมคะ”
พราวฟ้าเบิกตากว้างไม่อยากจะเชื่อว่าน้องสาวจะให้เธอไปกับแฟนของตัวเอง ซึ่งมันดูไม่เหมาะเอาเสียเลย
“พี่ว่าพิมพ์โทรไปยกเลิกนัดกับแฟนดีไหม อธิบายให้เขาเข้าใจ”
พราวฟ้าลองเสนอดูแต่พิมพ์ดาวกลับส่ายหน้าไปมา
“พิมพ์ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ เพราะพิมพ์ผิดนัดมาหลายครั้งแล้ว ถ้าพิมพ์เลื่อนนัดอีกมีหวังพี่วินคงต้องบอกเลิกพิมพ์แน่ๆ”
พิมพ์ดาวพยายามอ้อนสุดฤทธิ์ จนพราวฟ้าเริ่มคล้อยตาม แต่ก็เหมือนจะติดอะไรบางอย่าง
“นะคะพี่พราว ช่วยน้องสักครั้งนะคะ แค่ไปทานข้าวจริงๆ แล้วที่สำคัญพี่วินเป็นสุภาพบุรุษมาก ตั้งแต่คบกันมาพี่วินไม่เคยล่วงเกินพิมพ์เลย พี่พราวสบายใจได้”
พราวฟ้าคิดหนักไม่รู้จะทำยังไงดี ถ้าเธอไม่ช่วยก็กลัวพิมพ์ดาวจะหาว่าแล้งน้ำใจ
“ก็ได้จ้ะ พี่จะช่วยพิมพ์”
“ขอบคุณมากนะคะ รักพี่พราวที่สุดเลย”
พิมพ์ดาวสวมกอดพี่สาวฝาแฝดด้วยท่าทางดีใจ ก่อนที่จะออดอ้อนยืมรถสักคัน โดยอ้างว่าจะขับไปทำงานเองทั้งๆ ที่จริงเธอมีนัดกับผู้ชายอีกคน...
..
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
ส่วนน้องสาวนี่ก็แสบไม่เบาเลยจริงๆ
บริษัทพีเอฟคอนดักชั่นเช้าวันต่อมาภายในบริษัทที่เคยเงียบสงบตอนนี้กลับมีเสียงซุบซิบนินทาตามจุดต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่หน้าห้องทำงานของผู้บริหาร เพราะวันนี้ดารารายตามติดลูกสาวเข้ามาถึงบริษัท แล้วยังวางท่าราวกลับเป็นเจ้าของบริษัทเสียเอง“นี่ห้องทำงานลูกเหรอ?”ดารารายถามลูกสาวด้วยท่าทางตื่นเต้น ขณะที่เดินสำรวจไปรอบๆ ห้องทำงานหรูราวกับในละคร ที่จริงเธอก็รู้ว่าพ่อของลูกรวย แต่ตอนนั้นเธอดันมีคนที่ถูกใจกว่าจึงไม่ได้สนใจนัก กว่าจะรู้ว่ารวยก็ตอนที่สายไปแล้ว แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะรวยขนาดนี้“หนูบริหารเองทุกอย่างเลยเหรอลูก?”ตอนนี้ในหัวของผู้หญิงเห็นแก่เงินคิดคำนวณรายได้เป็นที่เรียบร้อย ดูจากความหรูหราของบริษัทและพนักงานหลายร้อยคน บริษัทนี้คงทำเงินได้จำนวนมหาศาลแน่ๆ“ไม่ใช่หรอกค่ะ หนูมีคุณชานนท์เป็นคนช่วยดูแลและจัดการเรื่องต่างๆ ให้ค่ะ”พราวฟ้าบอกไปตามตรงแล้วหันไปมองชานนท์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ตอนนี้เธอรู้สึกเกรงใจชานนท์อยู่ไม่น้อย เพราะตอนนี้เธอควรจะเตรียมตัวเข้าประชุม มากกว่ามาเสียเวลาเดินวนไปวนมารอบห้อง เพราะชานนท์ค่อนข้างเป็นคนจริงจังกับเรื่องงาน“ไม่เป็นไรครับ ผมจะเลื่อนประชุมออกไปก่อน”ชานนท์บอกเสียงเรี
อนาวินแอบมองการกระทำของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความแปลกใจ ถ้าเขาไม่รู้จักกับเธอมาก่อนว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียว เขาคงจะคิดว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นพี่น้องฝาแฝดของเธอแน่ๆ เพราะเธอดูแตกต่างไปจากเดิมมากจริงๆ“ตอนนี้ก็ยังไม่ดึกมาก เราไปเดินเล่นกันมั้ยครับ”อนาวินถามขึ้นมาหลังจากทานข้าวเสร็จ สายตาคมมองที่ใบหน้าสวยด้วยสายตาอ้อนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนและอยู่ๆ คำพูดของภควัตก็ผุดขึ้นมาในหัว‘คนเป็นแฟนกัน ต้องเคลียร์กันบนเตียงดิวะ ถึงจะเข้าใจกัน’ตอนแรกเขาก็ตั้งใจจะทำแบบนั้น ถ้าเธอเข้ามากอดเข้ามายั่วเขาเหมือนทุกครั้ง แต่ตอนนี้มันกลับผิดคาดไปหมด เธอดูนิ่งมากจนเขาทำตัวไม่ถูก หรือว่าเธอจะโกรธแล้วถอดใจกับเรื่องของเขาไปแล้ว“นะครับ… รับรองว่าพิมพ์จะชอบ”อนาวินยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้าด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์และพอจะนึกภาพออกว่าเธอจะทำหน้ายังไงตอนเห็นที่ที่เขาพาไปพราวฟ้าได้แต่มองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตานิ่งเรียบ แต่จริงๆ แล้ว… เธอกำลังตกตะลึงกับรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์บนใบหน้าหล่อ เธอยอมรับว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนดูอบอุ่นและจริงใจขนาดนี้มาก่อนเลย ดูจากการวางตัวและคำพูดของเขาที่ได้พูดคุยกันตอนทานข้าว เธอรู้สึก
อนาวินหันไปมองหญิงสาวหลังจากที่จอดรถสนิท เขาลังเลว่าจะปลุกเธอดีหรือเปล่า เพราะดูท่าทางเธอน่าจะเหนื่อยมาก ถึงได้นอนหลับมาตลอดทาง ทั้งๆ ที่เธอไม่เคยหลับอยู่บนรถให้เขาเห็นเลยสักครั้งเมื่อเห็นว่าเธอยังคงหลับสนิทเขาจึงช่วยปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วปรับเบาะให้เธอ จังหวะที่เขากำลังโน้มตัวไปคลำหาปุ่มปรับเบาะ ตากลมโตก็ลืมตาขึ้นมาพอดี ก่อนที่เธอจะเบิกตากว้างเมื่อใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันแค่ไม่กี่เซน แล้วท่าทางของเขายังล่อแหลม หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ...แต่ไม่ใช่แค่เธอหรอกนะที่ตกใจ อนาวินเองก็ตกใจเช่นกัน… ที่ทำให้เธอตื่น แล้วดูท่าทางเธอกำลังเข้าใจผิดว่าเขากำลังจะล่วงเกินเธอแน่ๆพรึบ!!!!ขณะที่ทั้งสองคนกำลังสบตากัน อนาวินสัมผัสไปโดนปุ่มปรับเบาะเข้าพอดี จึงทำให้เขาเสียหลักทาบทับลงไปที่ล่างเล็กม๊วฟ!!!!แล้วก็ไม่ใช่แค่ร่างกายที่สัมผัสกัน ริมฝีปากยังแนบชิดบดเบียดกันจนคนใต้ร่างเบิกตากว้างหัวใจเต้นแรงแทบระเบิด สัมผัสที่ไม่เคยพบเจอทำให้ร่างเล็กเกร็งไปทั่วร่างจนถึงปลายเท้า แล้วเขายังไม่ยอมถอนริมฝีปากออกเสียด้วย จนเธอต้องเป็นฝ่ายดันหน้าอกของเขาออกแทน“ขอโทษครับ พี่แค่จะปรับเบาะให้พิมพ์”อนาวินบอกไปหลังจาก
“อืม~”เสียงครางเบาๆ เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากเล็ก ร่างกายร้อนรุ่มราวกับคนเป็นไข้ ความรู้สึกแปลกใหม่ที่หญิงสาวไม่เคยพบเจอทำให้เธออ่อนระทวยไปทั้งตัว สัมผัสของเขาช่างอบอุ่นและอ่อนโยน เข้ากับกลิ่นกายหอมสะอาดแสนอบอุ่นของเขาผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์เหลือเกิน จนพราวฟ้าไม่อาจต้านทานได้ มันช่างเป็นความรู้สึกที่วิเศษจริงๆ ทั้งบรรยากาศรอบข้างและสัมผัสของชายหนุ่ม หญิงสาวเคลิ้มไปกับสิ่งปลุกเร้า ขณะที่ชายหนุ่มเลื่อนริมฝีปากไปที่ซอกคอขาว ยิ่งให้เสียวซ่านจนขนลุกชัน ส่วนมือของเขาก็เลื่อนลงไปที่หว่างขาเรียว จากนั้นก็ใช้นิ้วแหวกแพนตี้เข้าไปหาความชื้นแฉะอย่างไม่รั้งรอทุกอย่างมันเร็วมากจนหญิงสาวตั้งตัวไม่ทันจริงๆ กว่าจะตั้งสติได้ก็โดนนิ้วร้ายพรากความสาวไปซะแล้ว มือเล็กรีบยกขึ้นมาดันหน้าอกแกร่งทันที“อย่าค่ะ!!”หญิงสาวตาปรือเพราะความเสียวซ่าน อีกทั้งยังรู้สึกทรมาน เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในร่างกาย มันรู้สึกอึดอัด…จนเธอต้องขยิบช่องรักตลอดเวลา แต่เธอหารู้ไม่ว่าการกระทำของเธอ ปลุกเร้าอารมณ์ให้อีกฝ่ายได้เป็นอย่างดีโพรงเนื้อนุ่มแน่นราวกับไม่เคยมีใครสัมผัสมาก่อนทำให้ชายหนุ่มสับสนยิ่งนัก ไม่อยากจะเชื่อว่าพิมพ์ดาวไม่เ
ขณะที่หญิงสาวกำลังตกตลึงในความใหญ่โตของชายหนุ่ม เขาก็ไม่รอช้ารีบพาร่างกำยำลงมาทาบทับร่างเล็กทันที เพราะเขาเองก็ทนความสวยของเธอไม่ไหวแล้วเช่นกันใบหน้าหล่อซุกไปที่เต้าอวบอิ่ม ขณะที่ใช้เข่าดันขาเรียวออกกว้างพอที่เขาจะแทรกตัวเข้าไปได้ เรียกได้ว่าอนาวินรอเวลานี้มานานมาก เพราะที่ผ่านมาเขาต้องอดทนอดกลั้นทำตัวเป็นสุภาพบุรุษและให้เกียรติเธอแต่ต่อจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาก็พร้อมที่จะรับผิดชอบในความรู้สึกและการกระทำของตัวเอง เพราะเขามั่นใจว่าพิมพ์ดาวคือผู้หญิงที่เขารักและอยากจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกับเธอไปตลอดชีวิต“อย่าค่ะ! อ่ะ!!” เสียงครางหวานดังขึ้นมาขณะที่ชายหนุ่มจับท่อนเอ็นไปถูไถกับร่องชื้นแฉะ ความเสียวแผ่ซ่านไปทั่วร่างจนอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงและเป็นเรื่องยากเกินที่จะต้านทาน“อ่าส์!” ร่างกำยำเกร็งเครียดด้วยความทรมานเมื่อร่องรักปิดสนิททำให้เขาเข้าไปได้เพียงแค่ส่วนหัวบานหยักเท่านั้นอารมณ์ความต้องการเพิ่มมากขึ้นทุกวินาทีจนไม่อาจต้านทานและอดทนต่อความรู้สึกที่มีได้ ไม่ว่าหญิงสาวใต้ร่างจะปฏิเสธแต่เขาก็ไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองเอาไว้ได้“อย่าเกร็งสิครับ”น้ำเสียงแหบพล่ากระซิบข้างหูของหญิงสาวที่นอนป
เช้าวันต่อมาอนาวินตื่นเช้าเพื่อเตรียมเสื้อผ้าให้กับหญิงสาวที่เขาคิดว่าเธอคือพิมพ์ดาวแฟนของเขา เรียกได้ว่าดูแลทุกอย่างจนอีกฝ่ายไม่ต้องทำอะไรเลยพราวฟ้าตื่นขึ้นมาเห็นชายหนุ่มนั่งมองเธออยู่ที่ปลายเตียง มือบางรีบดึงผ้าห่มผืนใหญ่มาปกคลุมตัวเองให้เรียบร้อย เพราะตอนนี้ร่างกายของเธอไม่ได้สวมใส่อะไรเลย“พี่เตรียมชุดเอาไว้ให้แล้วนะครับ” อนาวินบอกหญิงสาว ซึ่งเธอดูมีท่าทางที่แปลกไปและดูจะเขินอายไม่เหมือนพิมพ์ดาวคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก“ค่ะ” พราวฟ้าตอบเสียงเบาและยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงไม่กล้าที่จะขยับไปไหน หัวใจดวงน้อยเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“เดี๋ยวพี่ออกไปรอข้างนอกนะครับ” ชายหนุ่มบอกด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ บางทีเธออาจจะรู้สึกอายจึงไม่กล้าลุกจากเตียงในตอนที่เขาอยู่ด้วยก็ได้พราวฟ้ามองตามหลังชายหนุ่มที่เดินออกไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย พร้อมกับถามตัวเองในใจว่าเมื่อคืนเธอทำอะไรลงไปใช้เวลาไม่นานพราวฟ้าก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จและเดินออกไปหาชายหนุ่มที่นั่งรออยู่ด้านนอก บรรยากาศบนเรือตอนเช้ามีแสงแดดอ่อนๆ และมีลมพัดผ่านเย็นสบายทำให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก“หิวไหมครับ”อนาวินเอ่ยถามอย่างเอาใ
ทางด้านอนาวินก็รีบเข้ามาทำงานที่บริษัทแต่เช้า ถึงแม้งานตรงหน้าจะกองเยอะแค่ไหนแต่ในใจเขายังคงคิดถึงแฟนสาวอยู่ตลอดเวลา ยิ่งได้นึกถึงเหตุการณ์บนเรือก็ยิ่งทำให้เขาไม่มีสมาธิที่จะทำงานสุดท้ายชายหนุ่มก็ทนต่อความสงสัยไม่ไหวเพราะพิมพ์ดาวแฟนของเขาเคยผ่านผู้ชายมาแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเป็นเรื่องปกติสำหรับเขาอยู่แล้วแต่เมื่อคืนพิมพ์ดาวที่อยู่กับเขาบนเรือเธอยังบริสุทธิ์และไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน ซึ่งทำให้เขาติดอยู่กับความสงสัยนี้ไม่หาย จนต้องเรียกเลขาคนสนิทให้เข้ามาหาในห้องทำงาน“ไปจ้างนักสืบให้หาข้อมูลครอบครัวของพิมพ์ดาวแบบละเอียดให้ด้วย”“คุณพิมพ์ดาวเป็นแฟนท่านประธานไม่ใช่เหรอครับ” เลขาคนสนิทถามเจ้านายด้วยความสงสัย เพราะเจ้านายกับแฟนสาวก็คบหาดูใจกันมาหลายปีแล้ว ทำไมถึงต้องจ้างนักสืบให้ไปตามสืบอยู่อีก“ไม่ต้องถาม รีบไปทำตามที่สั่งก็พอ”เพราะพิมพ์ดาวเป็นแฟนอนาวิน เขาก็เลยต้องตามสืบประวัติของครอบครัวเธอให้ละเอียดเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้คลายความสงสัยที่ติดอยู่ในใจ ที่ผ่านมาที่เขาไม่ตามสืบเพราะเขารักเธอด้วยใจจริงและไม่เคยคิดว่าเธอต่ำต้อยเลยสักนิด“ขอด่วนที่สุด!” ชายหนุ่มย้ำความต้องการของ
“น้องทำงานอะไรเหรอครับ”“เอ่อ… มานั่งด้วยกันก่อนสิลูก” ดารารายรีบเดินเข้าไปหาลูกสาวอย่างเอาใจ เพื่อที่จะได้มีเวลาคิดหาทางออกให้กับเรื่องนี้ดารารายคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะที่ผ่านมาเธอบอกอนาวินว่าเธอมีลูกสาวคนเดียว นั่นก็คือพิมพ์ดาวที่เป็นแฟนของชายหนุ่ม แต่พอมาถึงตอนนี้มันคงถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องบอกความจริงกับเขาเพราะถึงยังไงคนเป็นแม่ก็อยากจะให้ลูกสาวได้มีผู้ชายดีๆ อยู่ข้างกาย ซึ่งอนาวินคือว่าที่ลูกเขยที่ดารารายพอใจและถูกใจเป็นอย่างมาก จนเธออยากจะฝากชีวิตของพิมพ์ดาวให้เขาดูแล ไม่ว่าฐานะหรือหน้าตาทางสังคมเขาสามารถดูแลพิมพ์ดาวให้อยู่สุขสบายได้อย่างแน่นอนบรรยากาศภายในห้องรับแขกเต็มไปด้วยความเงียบจนน่าอึดอัดเมื่อไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยสักคน ส่วนพราวฟ้าก็นั่งเงียบและทำตัวไม่ถูกที่เธอต้องเจอชายหนุ่มอีกครั้งโดยที่เธอไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ก่อน“คือ… แม่มีเรื่องจะบอกพอดีเลย”“มีเรื่องอะไรเหรอครับ” อนาวินแกล้งถามด้วยความสงสัย พร้อมกับจ้องมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ คุณแม่“คือความจริงแล้วแม่มีลูกสาวสองคนจ้ะ” ดารารายกลั้นใจพูดความจริงออกมาเรื่องนี้จะได้จบๆ ไปสักที“แล้วอี
ร่างหนาเดินออกมาจากห้องน้ำก็ต้องพบกับความเงียบ เมื่อภายในห้องมีเพียงความว่างเปล่าไม่มีใครอยู่เลยสักคนอนาวินมีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่พันรอบเอวอยู่ พอได้อาบน้ำสบายตัวก็คิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนสายตาคมเข้มกวาดมองไปรอบห้องเพื่อที่จะมองหาพราวฟ้า แต่สายตาเขาก็สะดุดไปเห็นเสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นที่แขวนไว้อยู่หน้าตู้เสื้อผ้าที่อยู่ไม่ไกลซึ่งคงจะเป็นเสื้อและกางเกงที่ใหญ่ที่สุดในตู้ของพราวฟ้าและเธอคงจะมั่นใจและคิดว่าเขาคงจะใส่ได้อย่างแน่นอนอนาวินไม่รอช้ารีบใส่เสื้อผ้าและแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะเดินลงไปหาเธอข้างล่าง แน่นอนว่าเธอคงจะทำอาหารอยู่ในห้องครัวเป็นแน่“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอคะ” พราวฟ้าที่กำลังยุ่งอยู่หน้าเตาแก๊สก็เอ่ยถามชายหนุ่มพร้อมรอยยิ้ม“ครับ ทำอะไรอยู่ครับทำไมหอมจังเลย” อนาวินไม่พูดเปล่าขายาวรีบเดินเข้าไปหาหญิงสาวพร้อมกับกอดเธอเอาไว้แน่น“พราวทำข้าวต้มค่ะ พี่วินหิวหรือยังคะ”ใบหน้าสวยตอบพร้อมรอยยิ้ม ถึงแม้จะโดนอีกฝ่ายกอดในขณะที่เธอกำลังทำข้าวต้มอยู่ เธอก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือวุ่นวาย แต่กลับรู้สึกดีและมีความสุขมากๆ อีกด้วย“หิวครับ”“รออีกนิดนะคะข้าวต้ม
ปึก! ปึก! ปึก!“อะ! อ๊ะ!”เสียงครางหวานยังคงดังออกมาเป็นระยะ โชคดีที่เป็นห้องเก็บเสียงและวันนี้ก็ไม่มีใครอยู่บ้าน ส่วนแม่บ้านประจำก็ลากลับบ้าน พราวฟ้าอยู่คนเดียวแล้วก็เหงาก็เลยชวนอนาวินมาอยู่เป็นเพื่อนม๊วฟ!“ซี๊ดดด!”ริมฝีปากบางซูดปากครางเสียวร่างสวยเกร็งไปแทบทุกส่วน เมื่อริมฝีปากหนาทั้งดูดทั้งเลียหน้าอกอวบอิ่ม แถมช่วงล่างก็กระแทกสะโพกเข้าออกไม่หยุด เรียกได้ว่าปรนเปรอทั้งช่วงบนช่วงล่างพร้อมกันแบบนี้จะไม่ให้พราวฟ้าเสียวได้ยังไง“อ่าส์!” เสียงคำรามจากร่างหนาก็ดังออกมาเป็นระยะไม่ต่างกัน ยิ่งเขากระแทกและบดขยี้แก่นกายใหญ่ ร่องรักก็ยิ่งรัดแน่นจนอนาวินแทบจะทนไม่ไหวความเสียวที่ถูกปะปนไปด้วยความทรมานแต่ก็ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกดีไม่น้อย ซึ่งมันเป็นความรู้สึกเสียวซ่านจนยากเกินที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้“อึก! อะ! พราวไม่ไหวแล้วค่ะ ซี๊ด!” พราวฟ้าพูดออกมาพร้อมกับความรู้สึกที่แปลกใหม่วิ่งวนอยู่ภายในร่างกาย ซึ่งเธอไม่เคยรู้สึกดีกับความรู้สึกแบบนี้มาก่อน“อ๊าส์! พี่ก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกันครับ” น้ำเสียงที่อบอุ่นปนด้วยความทรมานเอ่ยบอกหญิงสาวที่นอนอยู่ใต้ร่างถึงแม้ว่าปากจะบอกว่าไม่ไหวแต่สะโพกหนาก็ยังคงก
แขนเรียวทั้งสองข้างโอบกอดชายหนุ่มเอาไว้ด้วยความอบอุ่น โดยที่ริมฝีปากของทั้งสองยังคงแนบชิดและบดขยี้กันอย่างดูดดื่ม“อืม…” น้ำเสียงทุ้มต่ำครางเสียงกระเส่าอยู่ข้างใบหูเล็กด้วยความพอใจพราวฟ้าในตอนนี้ราวกับพราวฟ้าคนใหม่ที่ไม่เคยมีใครเห็นเธอในมุมนี้มาก่อน ทั้งท่าทางและน้ำเสียงเธอดูออดอ้อนเพื่อเอาใจอีกฝ่ายอย่างสุดกำลัง ถ้าหากอะไรที่ทำให้ชายหนุ่มมีความสุข เธอก็พร้อมที่จะทำและปรนเปรอเขาทุกอย่างมือบางจัดการถอดเสื้อผ้าชายหนุ่มออกจนหมดถึงแม้พราวฟ้าจะรู้สึกเกร็งๆ อยู่บ้างแต่เธอก็พยายามทำใจให้สบายและผ่อนคลายมากขึ้นพรึบ!ร่างหนาถูกผลักให้นั่งลงอยู่บนเตียงนอนกว้าง ถึงไม่ใช่ครั้งแรกแต่ก็ทำให้อนาวินตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าตื่นเต้นกว่าครั้งแรกเสียอีก“เดี๋ยวพราวทำให้ค่ะ” น้ำเสียงและสายตายั่วยวนมองไปที่ชายหนุ่ม หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ทำอะไรที่แปลกใหม่ ซึ่งเธอเองก็ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มด้วยความพอใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังถอดเสื้อผ้าออกอย่างช้าๆ ต่อหน้าเขา เรือนร่างสวยไร้สิ่งปกปิดทำเอาอนาวินเผลอจ้องมองไม่ยอมละสายตา“มองแบบนี้พราวก็เขินแย่สิคะ” ใบหน้าส
ระหว่างทางที่อยู่บนรถมีเพียงแค่ความเงียบ ซึ่งไม่เคยเป็นแบบนี้เลยสักครั้ง ปกติแล้วอนาวินจะอารมณ์ดีและชวนคุยอยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้พราวฟ้ารับรู้ได้ถึงความผิดปกติลางอย่างขึ้นมาได้อย่างชัดเจนร่างบางนั่งเงียบมองซ้ายมองขวาไม่รู้เลยว่าจะต้องทำตัวยังไง จะต้องถามอะไรถึงจะไม่ทำให้บรรยากาศบนรถนั้นเงียบจนเกินไป“พี่วิน…” พราวฟ้าตัดสินใจเรียกชื่อชายหนุ่มขึ้นมา แต่เธอก็ยังไม่กล้าที่จะพูดหรือถามอะไรในตอนนี้“ครับ” มีเพียงเสียงตอบรับสั้นๆ และสายตานิ่งเรียบที่มองถนนอย่างไม่ยอมละสายตา“พี่วินเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามออกมาตามตรงในขณะที่รถยนต์คันหรูวิ่งเข้ามาจอดภายในบ้านหลังใหญ่“เปล่าครับ” ชายหนุ่มยังคงตอบด้วยน้ำเสียงและท่าทางนิ่งเรียบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“งอนพราวอยู่ใช่ไหมคะ” พราวฟ้าถามต่อเมื่อรถยนต์จอดสนิทที่หน้าบ้าน“เปล่าครับ”“ใช่แน่เลย พี่วินงอนพราวเรื่องอะไรคะ” ในขณะที่ถามพราวฟ้าก็พยายามคิดว่าชายหนุ่มกำลังงอนเธอเรื่องอะไร เขาถึงได้ทำตัวเฉยชากับเธอแบบนี้“นี่ก็ดึกแล้ว พี่ว่าพราวเข้าบ้านไปพักเถอะ”ยิ่งเห็นท่าทางและคำพูดที่เปลี่ยนไปของชายหนุ่มพราวฟ้าก็ยิ่งรู้สึกผิดและอยากจะทำให้ทุกอย่างกลั
เมื่อพราวฟ้าเข้าห้องประชุมเธอก็ทำหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี ตั้งใจทำงานนั่งรับฟังทุกข้อเสนอและทุกแผนงานของบริษัทเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นการประชุมใหญ่ประจำปีการประชุมในครั้งนี้จึงใช้เวลาประชุมยาวนานกว่าทุกครั้งใช้เวลาในการประชุมเกือบสามชั่วโมงกว่าพราวจะประชุมเสร็จก็แทบจะหมดแรงและใกล้ถึงเวลาเลิกงานแล้ว ร่างบางเดินกลับเข้าห้องทำงานด้วยความเหนื่อยล้าพลังงานที่มีหมดไปกับการประชุมแล้วจริงๆ“พี่วิน…” หญิงสาวเรียกชื่อชายหนุ่มเสียงเบาแต่ก็เต็มไปด้วยความตกใจที่เห็นอนาวินนั่งหลับอยู่ที่โซฟารับรองแขกภายในห้องทำงานของเธอพราวฟ้ามองใบหน้าหล่อด้วยความสงสัยพร้อมกับคำถามมากมายที่วิ่งเข้ามาในหัว เธอเดินเข้าไปดูเขาใกล้ๆ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเขากลับมารับเธอหรือว่าเขานั่งรออยู่ในห้องนี้จนเธอประชุมเสร็จ“ทำไมมานั่งหลับอยู่ตรงนี้คะ”ร่างบางตัดสินใจถามขึ้นมาตามตรง เพราะตอนนี้ก็ถึงเวลาเลิกงานแล้วเธอจะปล่อยให้เขาหลับต่อไปแบบนี้ไม่ได้“อือ… ประชุมเสร็จแล้วเหรอครับ” ร่างหนางัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับคำถาม“เสร็จสักพักแล้วค่ะ”“ทำไมไม่ปลุกพี่ละครับ”“พี่วินได้กลับไปทำงานหรือเปล่าคะ” หญิงสาวเลือกที่จะถามกลับ
หนึ่งเดือนต่อมาหลังจากที่เรื่องราวทุกอย่างผ่านไปพิมพ์ดาวกับคุณแม่ก็ได้เดินทางไปเที่ยวและพักผ่อนที่ต่างประเทศ เพื่อที่จะได้เปลี่ยนบรรยากาศและทำใจให้สบายมากขึ้น ก่อนที่จะกลับมาคลอดและเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าส่วนพราวฟ้าก็ยินดีที่จะออกเงินและดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กับคุณแม่และน้องสาว ซึ่งเธอก็มีอนาวินคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ทำให้ดารารายและพิมพ์ดาวได้ไปเที่ยวแบบสบายใจไม่ต้องคอยเป็นห่วงพราวฟ้า“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ”พราวฟ้าเอ่ยขอบคุณชายหนุ่มพร้อมรอยยิ้ม หลังจากที่คุณแม่กับน้องสาวไปเที่ยว อนาวินก็ทำหน้าที่ดูแลเธอเป็นอย่างดีทุกอย่างไม่มีขาดตกบกพร่องในหน้าที่แฟนเลยสักครั้ง“เดี๋ยวพี่มารับไปทานข้าวเที่ยงนะครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ ตอนบ่ายพราวมีประชุมถ้าออกไปทานข้างนอกคงกลับมาไม่ทันแน่เลยค่ะ” หญิงสาวรีบปฏิเสธเพราะช่วงนี้งานที่บริษัทค่อนข้างเยอะ ทำให้เธอไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะออกไปไหน“งั้นเดี๋ยวพี่ซื้อมาทานด้วยที่บริษัท” อนาวินแทบจะขาดพราวฟ้าไม่ได้ก็อาสาซื้อมาทานด้วยเพื่อเอาใจเธอ“ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ”“ตั้งใจทำงานนะครับ”“พี่วินก็ตั้งใจทำงานเหมือนกันนะคะ”“ครับ แล้วเจอกันนะ”“ค่ะ”
“รับสายหรือยังครับ” อนาวินเอ่ยถามเสียงเรียบในขณะที่สายตาจ้องมองถนน“ยังค่ะ” พราวฟ้ายังคงกดโทรออกย้ำๆ และภาวนาให้พิมพ์ดาวรับสายเธอสักที ในใจก็ร้อนรุ่มและเป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไร“งั้นเราไปดูที่หน้าคอนโดก่อน”“พี่วินรู้จักเหรอคะ”“พี่ก็พอจะรู้บ้างครับ”“งั้นรีบไปกันเลยค่ะ” หญิงสาวไม่รอช้าถ้าหากที่ไหนพอจะทำให้เธอเจอน้องสาว เธอก็พร้อมที่จะไปหาในทันที ดีกว่ารออยู่เฉยๆ ให้เสียเวลาเปล่า“ครับ”“พิมพ์โทรกลับมาแล้วค่ะ” พราวฟ้าบอกชายหนุ่มด้วยความตื่นเต้นและดีใจในเวลาเดียวกันก่อนที่เธอจะกดรับสาย อย่างน้อยพิมพ์ดาวก็โทรกลับมาหาเธอ“พิมพ์อยู่ไหน” หญิงสาวเอ่ยถามคนในสายอย่างไม่รีรอ(พี่พราว… อึก!) พิมพ์ดาวเรียกชื่อพี่สาวเสียงเบาพร้อมกับเสียงสะอื้นซึ่งบ่งบอกได้ว่าเธอผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วง จนไม่สามารถเก็บเสียงสะอื้นเอาไว้ได้“พิมพ์เป็นอะไร อยู่ที่ไหน” พราวฟ้าถามต่อด้วยความเป็นห่วง(พิมพ์… อึก!) พิมพ์ดาวพูดอะไรไม่ออกมีเพียงเสียงสะอื้นแทรกขึ้นมา“พิมพ์เป็นอะไร มีอะไรค่อยๆ พูดนะ” พราวฟ้าที่ใจร้อนก็พยายามพูดอย่างใจเย็นและบอกให้น้องสาวตั้งสติค่อยๆ พูด(อึก!) ทว่ายิ่งบอกให้ใจเย็นพิมพ์ดาวก็เอาแ
หนึ่งเดือนต่อมา“วันนี้มีประชุมตอนเย็นไม่ใช่เหรอคะ”พราวฟ้าที่พึ่งจะประชุมเสร็จก็รีบเดินเข้ามาถามชายหนุ่มที่นั่งรอเธออยู่ในห้องทำงานทันที เพราะก่อนหน้านี้เขาบอกเธอว่าไม่ว่างและติดประชุมที่บริษัท แต่ตอนนี้กลับมานั่งรอเธออยู่ในห้องทำงานแบบสบายใจอีก“เลื่อนไปประชุมวันอื่นแล้วครับ” ใบหน้านิ่งเรียบตอบหญิงสาวราวกับการประชุมเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ได้สำคัญอะไร“ทำไมเหรอคะ” หญิงสาวขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจในคำตอบของชายหนุ่ม ทำไมเขาถึงได้เลื่อนประชุมไปวันอื่นได้ ทั้งๆ ที่บอกกับเธอว่าเป็นประชุมสำคัญ“คิดถึง” อนาวินตอบเพียงสั้นๆ แต่ได้ใจความเต็มๆ“พี่วิน!” ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าคิดถึง แม้ว่าเขาและเธอจะเจอกันทุกวันแถมทั้งแต่เป็นแฟนกันมาแทบจะตัวติดกันตลอดเวลาด้วยซ้ำ“พี่พูดจริงๆ นะ” ร่างหนาเดินเข้าไปโอบกอดหญิงสาวด้วยความคิดถึงเมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องทำงาน“เจอกับทุกชั่วโมงแบบนี้ยังคิดถึงอีกเหรอคะ”“คิดถึงครับ คิดถึงมากด้วย เย็นนี้ไปทานข้าวที่ร้านอาหารกันนะ”“พราวขอคิดดูก่อนนะคะ” พราวฟ้าแกล้งตอบพร้อมกับทำท่าทางใช้ความคิด“ไม่ได้ครับ พี่จองโต๊ะเอาไว
“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ” อนาวินเดินเข้ามาก็เอ่ยถามพร้อมกับอาสาที่จะช่วย เนื่องจากวันนี้เขาพาครอบครัวมาทานข้าวที่บ้านหลังนี้ เขาจึงอยากมีส่วนร่วมในการที่จะทำอะไรบ้าง“เสร็จพอดีเลยจ้ะ”ดารารายหันไปตอบชายหนุ่มก่อนใคร ตั้งแต่อนาวินเดินหน้าจีบพราวฟ้าอย่างจริงจัง ดารารายก็คอยพูดดี ทำดีด้วยตลอด ถ้าหากทั้งสองรักกันเธอก็มีความสุขไปด้วย ส่วนพิมพ์ดาวก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในแบบที่ตัวเองต้องการแล้ว“พี่วินมีอะไรหรือเปล่าคะ” พราวฟ้าสังเกตเห็นอนาวินมีท่าทางอ้ำอึ้งเหมือนกำลังมีบางอย่างอยู่ในใจแต่ไม่กล้าที่จะพูดออกมา เธอจึงถามขึ้นมาเพื่อคลายความสงสัย“คือพี่ว่าจะชวนพราวไปดูดาวตก ไปดูดาวตกด้วยกันไหมครับ” ชายหนุ่มตัดสินใจถามตามตรง จะได้รู้คำตอบไปเลย“วันไหนคะ”“วันนี้ครับ” อนาวินตอบแบบตรงไปตรงมา“แต่ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วนะคะ”“ดาวตกก็ต้องดูตอนดึกสิพี่พราว” พิมพ์ดาวพูดแทรกติดตลกขึ้นมา“ผมขออนุญาตพาน้องไปดูดาวตกได้ไหมครับ” ชายหนุ่มหันหน้าไปถามคุณแม่ของหญิงสาวด้วยความเคารพนับถือ“จะไปดูที่ไหนลูก ว่าแต่ช่วงนี้มีดาวตกด้วยเหรอ แม่ไม่เห็นข่าวประกาศบอกเลย” ดารารายที่ชอบดูข่าวจึงถามขึ้นด้วยความไม่รู้ เพราะปกติเธอชอ