สุดท้ายเธอก็หนีนัดของแม่ไม่พ้น เพราะเมื่อกลับมาถึงคอนโดก็เจอกับแม่นั่งรออยู่ที่ห้อง แถมยังบังคับให้เธอไปตามนัดตอนเย็น นอกจากนั้นยังต่อว่าเรื่องที่เธอเมาแล้วไม่กลับห้อง ทำให้ตอนนี้เธอต้องมานั่งหน้าเมื่อยอยู่กับผู้ชายชื่อธันย์ที่แม่นัดให้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
"น้องลินสวยมากเลยนะครับ สวยกว่าในรูปที่คุณน้าส่งให้พี่อีก"ธันย์เอ่ยอย่างยินดี เขารู้สึกถูกตาต้องใจลินดาตั้งแต่แม่เธอส่งรูปไปให้ดู เลยตกลงนัดเธอออกมาทานข้าวเพื่อทำความรู้จักทันที "ค่ะ"ถามคำตอบคำไม่เกินจริง แค่ต้องมานั่งตรงนี้ก็ถือว่าดีแค่ไหน ยังต้องมาฟังผู้ชายคนนี้พูดจาหวานหูจนขนลุกขนพองไปหมด แต่ละคนที่แม่หาให้ ไม่เคยมีคนไหนปกติสักคน เมื่ออาหารที่สั่งไว้มาเสิร์ฟ ธันย์ก็บริการตักใส่จานให้เธออย่างเอาใจ ถึงเธอจะถามไม่ค่อยพูดเขาก็ยังจะรุก คิดว่ายังไงต้องได้สานต่อกับเธอแน่นอน เพราะแม่ของเธอเองก็เชียร์เขาเต็มที่ "ทานเยอะ ๆ นะครับ พี่อยากให้น้องลินอ้วนขึ้นกว่านี้อีกหน่อย" "ค่ะ"อยากจะหายไปจากตรงนี้เหลือเกิน อาหารตรงหน้าไม่ได้ทำให้เธออยากแตะมันสักนิด ถึงวันนี้จะไม่ได้กินข้าวเลยสักมื้อ แต่ก็รู้สึกพะอืดพะอม จนไม่อยากกินอะไร ด้านพายุเองก็จำใจมากินข้าวกับอันนา คนที่พ่อเขาบอกว่าคือคู่หมั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปหมั้นกับเธอตอนไหน เจอกันกี่ครั้งก็เหมือนเดิม ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นได้เลย ถึงผู้หญิงตรงหน้าจะสวยแค่ไหน แต่ไม่ใช่สเป็กของเขาอยู่ดี "พี่พายุค่ะ วันนี้อันไม่รีบกลับ อยากไปนั่งดื่มที่ผับพี่ได้หรือเปล่าคะ" เสียงหวานของอันนาที่พยายามปรุงแต่งให้ดูเป็นผู้หญิงไร้เดียงสา แต่ทว่าเขาเห็นผู้หญิงแบบนี้มานักต่อนัก มันดูปลอมไปเสียหมด แต่ในเมื่อเธอแสดงออกมาแล้ว เขาจะแกล้งทำเป็นไม่รู้แล้วกัน อยากรู้เหมือนกันผู้หญิงแบบนี้จะไปสุดที่ตรงไหน "ได้สิครับ กินข้าวเสร็จแล้วพี่พาไป" เมื่อกินเสร็จพายุมองหาบริกรมาเช็คบิล แต่ทว่าเมื่อเขาหันไปด้านหลัง กลับเห็นลินดามานั่งกินข้าวอยู่ร้านเดียวกับเขาอย่างบังเอิญ หึ...เมื่อเช้ายังเสนอตัวตอบแทนให้เขาอยู่เลย ตอนนี้มานั่งกินข้าวกับผู้ชายอีกคน "ใครคะ? พี่พายุรู้จักเหรอคะ"อันนาที่เห็นพายุหันไปมองโต๊ะด้านหลังห่างจากโต๊ะเธอไปประมาณสามโต๊ะ เป็นชายหญิงคู่หนึ่งนั่งกินข้าวกันอยู่ มองจากตรงนี้อันนายังเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นสวยมาก ขนาดนั่งหน้าบึ้ง ยังดูสวยจนเธออิจฉา "ครับ แต่ไม่ได้สนิท เราไปกันดีกว่านะ พี่มีงานต้องเคลียร์ด้วย" ระหว่างกำลังเดินออกจากร้าน ซึ่งต้องผ่านโต๊ะที่ลินดานั่งอยู่ พายุก็หันไปสบตากับเธออย่างจงใจก่อนจะมองเลยไปยังผู้ชายที่เธอมาด้วย ลินดาแสดงสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเขาอยู่ในร้านเดียวกับเธอ ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจ หันไปบอกธันย์ว่าเธออยากกลับแล้ว ซึ่งธันย์เองก็ไม่ขัดข้องเรียกบริกรมาเช็คบิลทันที ขนาดว่าอยู่ในรถธันย์ก็ยังพูดไม่หยุด ลินดาเกลียดผู้ชายประเภทนี้ที่สุด เมื่อไหร่จะถึงสักทีก็ไม่รู้ เธออยากกลับไปพักผ่อนเต็มทนแล้ว "ไว้พี่จะโทรหานะครับ" ลินดากรอกตามองบน ไม่ตอบอะไร รีบเปิดประตูลงจากรถทันที และสัญญากับตัวเองว่าครั้งนี้คือครั้งสุดท้ายที่เธอจะมาตามนัดที่แม่นัดให้ หลังจากนี้หากแม่จะตัดขาดจากเธอก็คงต้องยอม เธอเองก็เหนื่อยที่ต้องยอมทำตามแม่ทุกอย่าง "กูเบื่อ...ยิ่งปิดเทอมแบบนี้กูยิ่งเบื่อ"ลินดาโทรปรึกษาขวัญตาทันทีที่ถึงห้อง (ถ้ามึงไม่อยากให้แม่มึงทำแบบนี้ ก็หาแฟนสักคนสิ ถ้ามึงมีกูว่าแม่มึงคงไม่บังคับแล้วนะ) "หาง่ายมากเลยมั้ง ผู้ชายดี ๆ หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร มึงโชคดี อีปิ่นโชคดี ก็อย่าคิดว่ากูจะโชคดีอย่างพวกมึง" (แล้วให้ทำไง หรือจะหาแฟนหลอก ๆ ดีไหม จ้างใครสักคนเป็นแฟนมึงสิ) "แนะนำเป็นละครเลยมึงอีขวัญ ใครเขาจะรับจ้างเป็นแฟนเด็กมหาลัยว่ะ ใช่เรื่องไหม" (มีนะ...กูเคยเห็นแวบ ๆ ในเฟซนี่แหละ เป็นการรับจ้างเป็นแฟนแบบประมาณชวนไปนู่นไปนี่อ่ะ แต่กรณีของมึงไม่รู้เขารับไหมนะ ให้กูหาแล้วส่งลิ้งค์ไปให้เอาไหม) "ล้อกูเล่นหรือเปล่า"ลินดาเอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อว่าจะมีอาชีพแบบนี้จริงๆ (จริง) "งั้นมึงหาแล้วส่งมาที" หลังวางสายไม่นาน ขวัญตาก็ส่งลิ้งค์เฟซบุ๊คของคนที่รับจ้างเป็นแฟนมาให้เธอจริง ๆ ตอนแรกไม่เชื่อคิดว่าเพื่อนพูดเล่น แต่พอได้เข้าไปส่องมากลับพบว่ามันมีอาชีพนี้อยู่จริง ๆ และเป็นเด็กมหาลัยด้วยที่ทำ นิ้วเรียวกดส่งข้อความไปหาเฟซต้นเรื่อง ซึ่งเจ้าของเฟซก็ตอบกลับมาแทบจะทันที ไม่ถึงหนึ่งนาทีเลยด้วยซ้ำ ลินดา:ไม่ทราบว่ารับจ้างเป็นแฟนแบบไหนคะ ช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยค่ะ คราม:ครับรับจ้างจริง แต่ไม่ใช่จ้างประจำนะครับ เป็นการจ้างวันต่อวัน เช่นถ้าคุณอยากหาเพื่อนเที่ยว เพื่อนไปช็อปปิ้ง เพื่อนไปดูหนัง ประมาณนี้นะครับ มีเรทราคาอยู่ เดี๋ยวผมส่งให้นะครับ ลินดา:แล้วถ้าฉันต้องการจ้างให้หลอกแม่ว่ามีแฟนแล้วแบบนี้รับหรือเปล่า น่าจะไปเจอแค่ไม่กี่ครั้งหรอก แค่พอให้ท่านเชื่อว่าฉันมีแฟนแล้ว คราม:อ่า...แบบนั้นมันเกินขอบเขตไปสักหน่อยนะครับ มันเริ่มมีบุคคลที่สามแบบนี้ผมไม่เคยรับมาก่อน อีกอย่างจะเกิดปัญหาตามมาภายหลังได้นะครับ ลินดา:ฉันให้สามเท่าจากที่คุณทำอยู่เอาหรือเปล่า แค่ไปเจอแม่ฉันครั้งสองครั้งเองนะคะ ใจป้ำเสนอเงินไปให้ก้อนใหญ่ โดยยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรทราคาของเขาเป็นเท่าไหร่กัน แต่ปากไวไปก่อน เพราะเริ่มมองเห็นทางสว่างที่จะทำให้เธอหลุดพ้นจากแม่สักที คราม:ขอนัดเจอได้ไหมครับ จากโปรไฟล์ยังไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ ยิ่งคุณจะให้สามเท่า ผมยิ่งไม่ค่อยเชื่อ เจอหน้าแล้วตกลงกันดีกว่าไหมครับ ลินดา:เอาสิ...ไม่มีอะไรต้องกลัวอยู่แล้วเพราะฉันพูดจริงแน่นอน อยากนัดที่ไหนว่ามาได้เลย คนในแชทที่ชื่อครามแชร์โลเคชั่นมาให้เธอเป็นผับแห่งหนึ่ง แต่ทว่าเมื่อมองดีมๆ มันคือผับของพายุ นี่เธอหนีอีตานั่นไม่พ้นจริง ๆ ใช่ไหม ไปทานข้าวร้านอาหารก็เจอ ร้านในกรุงเทพฯมีเป็นร้อย ๆ ยังมาเจอกันได้อีก เมื่อตกลงกันเสร็จสรรพ ลินดาก็อาบน้ำแต่งตัวไปตามนัด โดยไม่ได้สนใจอะไรอีก ถึงเวลาเธอก็มารอที่หน้าผับตามที่นัดกับอีกฝ่ายไว้ เพราะหากไปรอในผับเลย คนไม่เคยเจอกันมาก่อนจะหากันยากยิ่งกว่าเดิม รอไม่นานก็มีเสียงโทรศัพท์เข้าเป็นการโทรจากแชทเฟซของคนที่ชื่อคราม ลินดาก็รับสายทันที "คุณอยู่ตรงไหนคะ" (คุณใช่คนที่ยืนคุยโทรศัพท์ใส่เสื้อสีดำหรือเปล่า ถ้าใช่หันหลังมาหน่อยครับ) ลินดาหันหลังไปตามที่บอก ก่อนจะเจอกับชายหนุ่มร่างสูง ผิวไม่ขาวมาก หน้าตาคมเข้ม ยืนอยู่ไม่ห่างจากเธอมากนัก "นั่นคุณใช่ไหมคะ"ถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะเดินเข้ามาหาเธอ "สวัสดีครับ ผมชื่อคราม" "ค่ะ ชื่อลินดานะคะ" ดูจากท่าทางการแต่งตัวแล้ว สำหรับเธอจัดว่าเกินความคาดหมายไปมาก "งั้นเราเข้าไปข้างในเลยดีกว่าค่ะ" ครามพยักหน้า ก่อนจะเป็นคนเดินนำคนตัวเล็กเข้าไปข้างใน เขาได้จองโต๊ะไว้แล้ว เมื่อเข้ามานั่งก็ได้สั่งเครื่องดื่มเบา ๆ ให้หญิงสาวตรงหน้า ไม่บ่อยนักที่ครามจะได้เจอผู้หญิงสวยแบบนี้ ส่วนใหญ่แล้วลูกค้ามักเป็นประเภทมีอายุมากกว่าเยอะ หาแฟนไม่ได้ เลยต้องมาจ้างเขา แต่ทว่าตั้งแต่เขาเห็นรูปเธอจากเฟซบุ๊ค ยอมรับตามตรงเขาคิดว่าเป็นรูปหลอก อีกทั้งเหตุผลที่เธอมาจ้างยังดูไม่สมเหตุสมผล เพราะคนหน้าตาแบบเธอหาแฟนได้สบาย ยังคิดว่าเธอโกหกเขาด้วยซ้ำ "ลินดาเรียนปีไหนครับ" "ปีหน้าขึ้นปีสี่ค่ะ แล้วคุณล่ะคะ" "เหมือนกันครับ งั้นเรียกชื่อเฉย ๆ ก็พอนะ จะได้ดูสนิทกันด้วย" "ก็ได้ค่ะ เรามาตกลงเรื่องการจ้างงานกันดีกว่า"เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเอาแต่มองเธอ ลินดาเลยต้องรีบเข้าเรื่องทันที เธอเองก็ไม่อยากนั่งที่นี่นาน ๆ ด้วย กลัวจะอดใจดื่มไม่ไหว วันนี้ตั้งใจแล้วว่าจะไม่เมากลัวจะเกิดเรื่องเหมือนเมื่อคืน "ที่จริงเราไม่รับงานแบบนี้นะ เรารับแค่แบบไปกินข้าว ดูหนัง มีไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้างประปราย แล้วส่วนใหญ่ลูกค้าก็เป็นคนทำงานแล้วทั้งนั้น ลินคนแรกเลยนะที่เป็นเด็กมหาลัยเหมือนกับเรา" "เราก็ไม่เคยจ้างงานประเภทนี้หรอก แต่มีปัญหากับแม่เรื่องนี้จริง ๆ เลยต้องหาเหตุผลไปอ้างนะ ไม่งั้นท่านก็ไม่เลิกจับคู่ให้เราสักที""แบบลินน่าจะหาแฟนจริง ๆ ได้สบายนะ คงมีผู้ชายเข้าหาอยู่ไม่น้อย ที่จริงไม่ต้องมาจ้างเราเลยก็ได้" "ไม่เอาอ่ะ แบบนี้สะดวกใจกว่า แล้วตกลงจะรับไหม เราจ่ายจริงนะ ที่บอกจะให้สามเท่าก็เรื่องจริง" "เราต้องทำอะไรบ้าง?" "ก็แค่ไปเจอแม่เราสักสองสามครั้ง พอให้ท่านเชื่อว่าเรามีแฟนแล้ว" "แต่เราว่าไม่พอหรอกถ้าแค่นั้น"ครามไม่คิดว่าเรื่องมันจะง่ายขนาดนั้น"ถ้าแม่ลินยอมเรื่องแค่นั้น จะหาใครก็ได้ไหม" ลินดาคิดตามที่ครามพูด ก็เริ่มเห็นภาพมากขึ้น ก็จริงอย่างเขาว่า แม่คงไม่เชื่อแค่เพราะเจอกันไม่กี่ครั้งหรอก แล้วแบบนี้เธอไม่ต้องอยู่กินกับเขาหรอกเหรอ "คงไม่ได้หมายถึงเราต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาใช่ไหม แบบนั้นเราว่าไม่ค่อยดี" "เราถึงบอกไง ว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น แต่ไม่มีวิธีไหนแล้วนะ นอกจากวิธีนี้ สมัยนี้คนเป็นแฟนเขาก็อยู่ด้วยกันทั้งนั้นแหละ" ลินดาเม้มปากเข้าหากันแน่น เมื่อเรื่องเริ่มยุ่งยากขึ้นไปอีก ยิ่งเห็นคนตรงหน้าดูจะอยากให้เธอจ้างเขาแบบนั้น ยิ่งคิดหนักว่าไม่รู้ตัวเองคิดผิดหรือถูกที่นัดเจอกับเขาในวันนี้ เห้อออ...อยู่ดีไม่ว่าดี "เอาไงล่ะ เราได้ทั้งนั้นนะ" ครามเร่งคนตรงหน้า แม้จะไม่ได้แสดงออกมากว่าเขาอยา
ลินดาเงยหน้ามองใบหน้าหล่อที่อยู่เกือบชิดหน้าเธอ ผู้ชายคนนี้หน้าไม่เหมือนคนที่เธอนัดด้วยวันนี้เลย พยายามหรี่ตามองว่าเขาคือใคร แต่สุดท้ายก็มองไม่ออก เพราะตามันลายไปหมด"เพ่งอะไรขนาดนั้น ถ้านึกไม่ออกก็ไม่ต้องนึก ครั้งนี้ครั้งที่สองแล้วนะที่ฉันช่วยเธอ ครั้งแรกฉันปล่อยเธอไปแล้ว แต่เธอก็กลับมาอีก แบบนี้มันพรหมลิขิตแล้วชัด ๆ"พายุเอ่ยอย่างหยอกเย้าคนเมา ก่อนอุ้มร่างบางขึ้น พาเดินไปบนห้องพักชั้นสามห้องเดิมกับเมื่อคืนเมื่อวางร่างเล็กลงบนที่นอน มองดูการแต่งตัวของเธอวันนี้แตกต่างจากเมื่อวานลิบลับ ที่แท้ก็รู้จักปกป้องตัวเองเหมือนกันนี่่หว่า มาพบคนไม่รู้จักพยายามไม่แต่งตัวเซ็กซี่ แต่ทว่าเธอคงลืมไป ว่ามีผู้ชายหลายคนชอบแบบนี้ มันดูน่าค้นหาดีกว่าผู้หญิงที่ชอบเปิดเผยเป็นไหน ๆ และเขาก็เป็นหนึ่งในผู้ชายเหล่านั้นด้วยวันต่อมาลินดาลืมตาตื่นตอนเช้าอีกวัน และสถานที่นี้ที่เธอตื่นก็คือห้องเดิมเหมือนเมื่อวาน อีกทั้งยังรู้สึกสัมผัสหนัก ๆ ที่หน้าท้อง เมื่อหันไปมองก็พบเจ้าของผับนอนกอดเธออยู่น่าแปลกที่ไม่นึกอยากโวยวาย กลับทำได้เพียงสำรวจหน้าตาหล่อเหลาของเจ้าของท่อนแขนแกร่ง คิ้วเข้มดกดำ ขนตางอนยาวอย่างกับผู้หญิง
"ไม่เข้าใจ? ไม่เข้าใจอะไร""คุณเหมือนจะเป็นคนดี บางครั้งก็ดูเป็นคนเลว อารมณ์คุณปกติดีหรือเปล่า"ร่างสูงของพายุลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินตรงมายังเธอ หันหน้าไปบอกให้ราชันย์ออกจากห้องไป ก่อนที่มือหนาจะยกขึ้นมาลูบหน้าเธอ จนลินดาขนลุกขนพองไปหมด"ฟังฉันนะ...ฉันไม่ใช่คนดี นอกจากลูกน้อง หมาแมว ฉันก็ไม่เคยช่วยใครฟรี ๆ เธอเอาตัวมาให้ฉันช่วยโดยไม่คิดตอบแทน แบบนี้ฉันไม่ชอบ อีกอย่างบอกตรง ๆ ฉันอยากได้ร่างกายเธอ แค่ร่างกายนะ อยากจะรู้ว่าเด็กสาวที่ภายนอกดูเซ็กซี่ แต่ยังบริสุทธิ์แบบเธอ เนื้อจะหอมหวานขนาดไหน"คนตัวเล็กยืนเกร็งไปทั้งร่าง แทบไม่กล้าหายใจ เธอไม่ได้แค่กลัวเขาอย่างเดียว แต่ยังรู้สึกเหมือนเขาไม่ปกติ มีอะไรแอบแฝงอยู่ในตัวตนของเขาบางอย่าง"อย่าคิดนานนะ ฉันไม่ชอบ""แล้วที่บอกว่าจะแกล้งเป็นแฟนฉันล่ะ จริงหรือเปล่า คงไม่ได้หลอกกินฉันแล้วจะไม่ทำตามที่พูดใช่ไหม""ฉันเป็นนักธุรกิจนะ ทางไหนที่ได้กำไรฉันก็ทำอยู่แล้ว การได้กินเเธอน่าจะเป็นกำไรของฉัน แค่เรื่องหลอกผู้ใหญ่มันจะไปยากอะไร ยังไงเธอก็ต้องอยู่กับฉันตลอดเวลาอยู่แล้ว จนกว่าฉันจะเบื่อ"ลินดาทำท่าทางคิดหนัก มองดูผู้ชายตรงหน้าก็เป็นคนที่ท่าทางดูดี ถึงจ
หลังจากพายุมาส่งเธอที่ห้องเดิม เขาก็หายออกไปทันที คงจะไปทำงานเพราะเป็นเวลาบ่ายสามแล้ว เธอเองก็เบื่อ ๆ ไม่มีอะไรทำ ได้แต่เปิดทีวีนอนดูซีรีย์ไปมา จนตอนเย็นที่ราชันย์เอาข้าวมาให้เธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีสองจาน ทำให้เธอมองหน้าเขาอย่างงง ๆ "เดี๋ยวเฮียจะมาทานข้าวกับคุณครับ"ลินดาพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนที่ราชันย์จะเดินออกไป แล้วไม่นานพายุก็เดินเข้ามา เขากดล็อคประตูเรียบร้อย จนลินดาที่นั่งรออยู่เริ่มรู้สึกประหม่า ตัวแข็งเกร็งขึ้นมาอีกครั้ง "คุณ...เอ่อ เฮียไม่ไปทำงานแล้วเหรอ" "ผับฉัน จะทำไม่ทำก็ไม่มีใครว่า อีกอย่างลูกน้องฉันไว้ใจได้ทั้งนั้น"เธอรีบตักข้าวเข้าปาก เพื่อลดความเขินอายลงไป แต่ทว่าสายตาคมของเขาก็คอยมองเธอเป็นระยะ ๆ ตลอดการกินข้าว ทำเอาลินดาไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าไหร่ "กินเสร็จแล้วไปอาบน้ำกัน" "อาบน้ำกัน...หมายความว่าไง?" "ก็หมายความว่าอาบน้ำกันสองคน เข้าใจยากตรงไหน เธอจะให้ฉันไปอาบน้ำกับใคร" เธอไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่จะดีเหรอที่เราต้องไปแก้ผ้าอาบน้ำกัน ทั้งที่ไม่ได้สนิทกันหรือทำความคุ้นเคยกันสักนิด แบบนี้เธอก็ประหม่าตายนะสิ ซึ่งอาการหน้าแดงของเธออยู่ในสายตาพายุตลอด เขาแอบยกยิ้
"อ๊าสส~"ลินดากระตุกตัวเกร็งทุกครั้งที่ลิ้นสากกระดกฉกชิมดูดกลืนจุกยอดเข้าปาก เขาขบเม้มแรงจนราวกับจะให้หลุดติดปากออกไป ทำเอาร่างเล็กสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่าน พายุผละออกจากเต้าอวบที่หยอกล้ออยู่นาน ก่อนลากลิ้นเลียลงต่ำเรื่อย ๆ ถึงเนินอวบอิ่มไร้ขน ใช้นิ้วเรียวแหวกกลีบอวบอูมออกจากกัน เผยให้เห็นความชุ่มฉ่ำ และติ่งสีสดที่เชิญชวนให้ลิ้นสากกระดกลงไปฉกชิมความหวานนั้น "อ๊าสสส มันเสียว เฮียแบบนั้นฉันจะตาย" ลิ้นร้อนที่กระดกขึ้นลงรัว ๆ บดบี้ติ่งเสียวอย่างไม่ปราณี ก่อนจะปาดเลียเอาความชุ่มฉ่ำเข้าปาก ห่อลิ้นแหย่เข้าไปในร่องรักที่ปิดสนิท กระดกกวาดชิมความหวานในโพลงแสนคับแคบ ทำเอาลินดาครวญครางเสียงดัง ใช้มือจับหัวเขาให้ปรนเปรอเธอมากยิ่งขึ้นอย่างลืมตัว "มะ ไม่ วะ ไหว แล้ว อร้ายยยย"ก่อนจะทนไม่ไหว ปลดปล่อยของเหลวออกมาเต็มปากคนตัวสูง ซึ่งพายุใช้ลิ้นกวาดชิมจนหมด ก่อนนิ้วเรียวจะสอดลึกเข้าไปในร่องรักเพื่อเปิดทาง ทำเอาลินดาที่นอนหายใจรวยริน จากการเสร็จสมก่อนหน้า กระดกสะโพกขึ้นลงด้วยความเสียวอีกครั้ง "อื้ออ~" จากหนึ่งนิ้ว พายุเพิ่มเป็นสองนิ้ว เพราะร่องรักเธอคับแคบเหลือเกิน เขากลัวว่าท่อนเอ็นของเขาจะเข้าไ
ความเจ็บปวดกลางกายทำเอาลินดาซู้ดปากทุกครั้งที่่ขยับ ดีว่าช่วงนี้ปิดเทอมเลยทำให้เธอไม่ต้องไปเรียนในสภาพแบบนี้ ไม่งั้นเดินขาถ่างไปเรียนคงเป็นภาพไม่ดีแน่ แต่แปลกที่ตื่นมาตอนนี้กลับไม่เจอคนหื่นที่รังแกเธอเมื่อเช้า สงสัยคงไปทำงาน ลินดาเลยลุกขึ้นทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ เมื่อเสร็จท้องก็ร้องหิวขึ้นมา แต่จะให้รอเขาก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ เลยเสี่ยงลงไปห้องครัวด้านล่าง "คุณลินดาจะไปไหนครับ" ลงบันไดมาได้ไม่เท่าไหร่ก็เจอกับราชันย์ที่ยืนอยู่ตรงทางขึ้นพอดี"ฉันหิว เฮียก็ไม่รู้ไปไหน" "น้อง ๆ เฮียมานะครับ เมื่อกี้ก็สั่งไว้อยู่ว่าหากคุณตื่นให้ผมจัดการอาหารให้ ขึ้นไปรอข้างบนจะดีกว่านะครับ" "น้อง ๆ เฮีย ใช่พวกพี่เพลิงหรือเปล่า" "ใช่ครับ แต่คุณเพลิงกับคุณคิณกลับไปแล้ว เหลือแต่คุณเสือ ที่เฮียกำลังนั่งคุยด้วยอยู่ อีกเดี๋ยวเฮียคงตามไปนะครับ"ลินดาพยักหน้าอย่างเข้าใจ เธอเองก็ไม่อยากดื้อรั้น กลัวเจอเข้ากับเสือเหมือนกัน ยังไม่อยากให้ใครรู้เรื่องเธอตอนนี้ เดาว่าหากใครเห็นเธอสภาพนี้คงคิดดีไม่ได้แน่ ก็เธอใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ของเขาลงมา ถึงจะใส่กางเกงขาสั้นไว้ข้างในก็เถอะ เมื่อขึ้นมารอบนห้อง ก็ไม่มีอ
กินข้าวเสร็จลินดาก็ถอดเสื้อผ้าออกตามที่เขาบอก ต่อไปเธอจะทำให้เขาหลงไหลในเซ็กส์ของเธอจะโงหัวไม่ขึ้น ผู้ชายหื่น ร้ายแบบเขาเจอแบบเธอนี่แหละสมน้ำสมเนื้อกันดี เธอขึ้นไปนอนบนตัวเขาอย่างออดอ้อน เอามือลูบไล้แก่นกายภายใต้กางเกงบ็อกเซอร์ตัวบาง สัมผัสได้ถึงความแข็งขืนที่เริ่มตั้งลำเด่นนูนออกมา ใบหน้าสวยก้มลงจูบดูดดื่มกับริมฝีปากหนาที่เผยอรอรับลิ้นเล็กเข้าไปดูดกลืนในโพลงปาก ความเสียวเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย มือหนากอบกุมอกอวบ นวดเฟ้นแรงตามอารมณ์ที่เริ่มจุดติด ริมฝีปากก็หยอกล้อลิ้นเกี่ยวกันไปมา สักพักใบหน้าสวยก็ผละออก ก้มลงซุกไซร้ซอกคอแกร่ง ขบเม้มตามจุดกระสัน จนร่างสูงส่งเสียงซี้ดซ้าด อย่างสุดจะต้านทาน กายแกร่งสะท้านหายใจเข้าออกแรง เมื่อโดนลูบไล้แก่นกายพร้อมกับลิ้นร้อนที่เริ่มปาดเลียความชุ่มฉ่ำลงไปตามอกแกร่งลงไปเรื่อย ๆ จนถึงขอบกางเกงบ็อกเซอร์ ก่อนที่ลินดาจะปลดออกไปตามเรียวขายาว เผยให้เห็นเอ็นร้อนที่ตั้งแข็งขึ้นเป็นลำ ผงกขึ้นลงเชิญชวนเธอให้ใช้มือกอบกุมความแข็งแกร่งไว้ในมือ ส่วนหัวบานที่เริ่มมีน้ำขาวใสปริ่มออกมา นิ้วเรียวเกลี่ยมันเบา ๆ ก่อนก้มลงกระดกลิ้นเลียตรงรูเล็ก จนพายุขบกรามเข้าหากันแน่น
หลายวันผ่านไป ลินดาอยู่กับพายุุมาได้เกือบสองอาทิตย์แล้ว จนถึงช่วงมหาลัยใกล้เปิดเทอม ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาเริ่มเป็นไปในทางที่ดีมากขึ้น ทุกวันพายุออกไปทำงาน เธอเองก็นอนรอเขาอยู่ในห้อง บางวันเขาก็พาออกไปช็อปปิ้งที่ห้าง ไปกินข้าวข้างนอกบ้าง ไม่ได้ปล่อยให้อยู่แต่ในห้องอย่างเดียว ลูกน้องที่ผับเขาทุกคนก็เริ่มสนิทกับเธอมากขึ้น โดยเฉพาะราชันย์ที่ลินดามักเรียกใช้ให้ทำนู่นทำนี่ให้อยู่บ่อย ๆ "อีกสองวันมหาลัยลินเปิดแล้วนะ" ลินดาบอกคนร่างสูงที่นั่งสูบบุหรี่อยู่ตรงเก้าอี้ประจำของเขา พายุหันมามองเธอแวบหนึ่งก่อนจะลงมือดับบุหรี่ ที่จุดสูบไปได้ไม่เท่าไหร่ แล้วพาร่างขึ้นมานอนกอดกับเธอบนเตียง "ฉันจะไปส่ง ไปรับเธอเอง ไม่ต้องเอารถไป" "เฮียว่างเหรอ ให้พี่ราชันย์ไปส่งก็ได้ ลินไม่อยากรบกวนให้เฮียเสียงาน" "ไปเรียกมันว่าพี่ทำไม เธอสนิทกับมันหรือไง" "แล้วให้ลินเรียกไอ้ราชันย์แบบเฮียเหรอ ไม่เอาหรอก ลินอ่อนกว่าเขาตั้งหลายปี ถ้าลินเรียกไอ้เฮียบ้าง เฮียพอใจไหมคะ?" พายุก้มมองด้วยสายตาขุ่นเคืองเล็กน้อย"เดี๋ยวนี้หัดต่อปากต่อคำ กับฉันต้องบอกให้เรียกเฮีย เธอถึงจะเรียก แต่กับมันทำไมเรียกได้" อ่า...น้อยใ
ลินดาคลอดลูกชายคนแรก พายุเป็นคนตั้งชื่อให้ว่าธันเดอร์ ตอนนี้อายุได้หกเดือนกว่าแล้ว พร้อมกับในท้องลินดาที่มีเจ้าตัวเล็กคนที่สองอาศัยอยู่ได้สองเดือนแล้ว เรียกได้ว่าคลอดปุ๊ป แผลหายปั๊บ พ่อแม่มือใหม่ก็จัดการปั้มลูกกันทันที คนนี้ดีหน่อยเพราะคนแพ้ท้องไม่ใช่ลินดา แต่เป็นพายุที่มีอาการแพ้ท้องแทน จนโดนเพื่อนล้อ ว่ารักเมีย กลัวเมียมาก ถึงขนาดแพ้ท้องแทนเมีย "เฮียไปทำงานไหวหรือเปล่า" ลินดาถามขณะที่มือก็คอยลูบหลังคนตัวสูงที่โก่งคออาเจียนอ้วกตั้งแต่เช้า "ไปไหว วันนี้มีประชุมสำคัญด้วย" พายุที่บอกว่าไม่ชอบธุรกิจของครอบครัว ตอนนี้เรียกได้ว่าเข้ามาบริหารบริษัทแทบจะเต็มตัวแล้ว ส่วนคนเป็นพ่อ ก็ได้วางมือพักผ่อนเลี้ยงหลานอยู่บ้านบ้าง ลูกชายคนนี้เรียกได้ว่าอยู่กับลินดาน้อยมาก เพราะคนเป็นปู่กับย่าเอาไปเลี้ยงเองตลอดเวลา มีแค่ช่วงเพิ่งคลอดเท่านั้นที่ลินดาให้นมลูกจากเต้า แต่พอเริ่มปั้มนม นันทวัฒน์กับจันจิราก็พาไปนอนด้วยทันที นี่คือเหตุผลที่น้ำยาของพายุแสดงผลเร็ว เพราะมีเวลาทำการบ้านทุกวัน ยังคงเป็นคนกินดุ เหมือนเดิม และลินดาเองก็ยังคงเป็นคนตอบรับเขาอย่างเต็มใจ "แต่ลินว่าเฮียไม่ไหวนะ ที่ผับวันนี้ก็บอกให้
สองเดือนผ่านไป เสียงเพลงหวานคลอเคล้า พร้อมบรรยากาศแห่งความชื่นมื่นของครอบครัวทั้งฝั่งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว พายุและลินดาที่ยังคงยืนถ่ายรูปกับแขกเหรื่อในงาน ถึงแม้เจ้าสาวจะยังไม่หายแพ้ท้อง แต่อาการก็ดีขึ้นมาก อีกทั้งเจ้าบ่าวยังคอยถามไถ่อยู่อาการอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสองทุ่ม พิธีแต่งงานของพายุกับลินดาดำเนินมาถึงช่วงสุดท้ายก่อนจะเป็นเวลาปาร์ตี้ของบรรดาเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาว ที่งานนี้เจ้าบ่าวขนเคาท์เตอร์บาร์พร้อมบาเทนเดอร์หนุ่มหล่อมาเปิดผับถึงที่โรงแรมจัดงานแต่ง ทำเอาแขกในงานตื่นเต้นมากกว่าปกติ เพราะเป็นผับที่มีชื่อเสียง แล้วยกมาให้ดื่มถึงที่นี่ เลยเป็นที่ชอบอกชอบใจของแขกยิ่งนัก "เอาล่ะครับตอนนี้ขอเชิญเจ้าบ่าวและเจ้าสาวขึ้นมากล่าวอะไรกับแขกเหรื่อในงานสักหน่อยนะครับ" พายุกุมมือลินดาแน่น เดินขึ้นไปบนเวที ได้รับเป็นเสียงโห่ของเพื่อนเจ้าบ่าวที่มองเห็นภาพความหวานของคนทั้งคู่ "ก่อนอื่นเราอยากรู้ถึงที่มาที่ไปของความรักของคนทั้งคู่ และอยากรู้ว่ารักกันมากขนาดไหน ผมเชื่อว่าแขกเหรื่อก็ต้องอยากรู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน ใช่ไหมครับ" "อยากรู้ค่ะ"เสียงเพื่อนเจ้าสาวตะโกนตอบ "ว่าความร
หลังจากงานแต่งของเพลิงกับปิ่นมุกผ่านไป เดือนหน้าก็จะเป็นงานแต่งของคิณกับขวัญตา อีกเดือนก็จะถึงคิวของลินดากับพายุ เรียกได้ว่าเรียงติดต่อกันสามเดือนเลยทีเดียว ตอนงานปิ่นมุก ลินดาแพ้ท้องอย่างหนัก เธอแทบจะยืนในงานนาน ๆ ไม่ได้ ต้องให้พายุประคองเธอตลอดเวลา ทำหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวได้ไม่เต็มที่ ปาร์ตี้ตอนค่ำก็ไม่ได้อยู่ เกรงใจคนอื่นที่ต้องฟังเสียงโอ้กอ้ากของเธอ อีกทั้งยังเวียนหัวจนต้องดมยาดมตลอดเวลา ลินดาอิจฉาปิ่นมุกมาก ที่เพื่อนไม่มีอาการแพ้ท้องเลยแม้แต่น้อย ยังคงกินทุกอย่างได้ปกติ ในขณะที่เธอน้ำหนักยิ่งลดลง จนเมื่อสองวันที่แล้วต้องไปให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล ตอนนี้เธอก็ต้องมานอนกับแม่ เพราะทั้งเพลียและกินอะไรไม่ได้ ต้องมีคนดูแล พายุต้องทำงานที่ผับ และมีบางวันต้องเข้าไปทำงานที่บริษัทของพ่อเขาด้วย ถึงจะไม่ใช่การเข้าไปช่วยแบบเต็มตัว เพราะยังยืนยันกับคนเป็นพ่อว่าไม่ชอบธุรกิจแบบนี้ ชอบทำผับมากกว่า แต่ก็ยังใจอ่อน ทุกครั้งที่คนเป็นพ่อโทรตาม "แกอยากกินอะไรไหมยัยลิน บอกแม่สิ" "ลินไม่หิวเลย แค่ได้กลิ่นก็จะอ้วก" "มันต้องมีอะไรที่อยากกินบ้างสิ คิดมาสักอย่างหนึ่ง แกไม่กินไม่ได้นะ เดี๋ยวหลานฉันไม่แข
พายุพาลินดาเข้ามาหาพ่อกับแม่ที่บ้านในช่วงบ่ายของอีกวัน โดยนัดกับแม่ของลินดาว่าจะมาเจอกันที่นี่ทีเดียว "ลินตื่นเต้นอ่ะ" ลินดาบีบมือเข้าหากันแน่น เมื่อรถคันหรูเลี้ยวเข้ามาบ้านหลังใหญ่ เธอมองอย่างอึ้ง ๆ ไม่คิดว่าบ้านของเขาจะใหญ่ขนาดนี้ "เวียนหัวหรืออยากอ้วกหรือเปล่า" "นิดหน่อยค่ะ ขอลินหอมแก้มเฮียก่อนนะ" เมื่อรถจอดคนตัวเล็กก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มสากซ้าย ขวา ก่อนจะกดจูบที่ริมฝีปากหนาเบา ๆ "ดีขึ้นเยอะเลย" เมื่อผละจูบออก ก็ยิ้มหวานให้คนตัวสูง ทำเอาใจแกร่งสั่นไหว ไม่เคยเห็นยิ้มหวานหยดย้อยแบบนี้มาก่อน "จะทำให้เฮียหลงไปไหน...หืม แค่นี้ก็หลงจะแย่แล้ว ต่อไปลินคลอดเฮียจะเสียนิสัยอย่างให้ลินทำแบบนี้นะ" "ลินเต็มใจทำแบบนี้กับเฮียตลอดชีวิตค่ะ กลัวแต่เฮียจะเบื่อที่ลินเอาแต่อ้อน" มือหนาจับแก้มเธอทั้งสองข้างให้หันมาสบตากันตรง ๆ"ไม่มีวันนั้นหรอก" "รีบลงดีกว่า เดี๋ยวผู้ใหญ่รอ" พูดจบก็รีบเปิดประตูลงจากรถ กลบเกลื่อนความเขินกับสายตาของเขา ลินดาเห็นรถของแม่เธอจอดอยู่ในโรงจอดรถด้วยเช่นกัน แสดงว่าแม่น่าจะมาถึงก่อนเธอแล้ว แบบนี้ยิ่งทำให้เธอตื่นเต้นเข้าไปอีก "มือลินเหงื่อออกเต็มเลยอ่ะ ทำไงดี" "ไม่ต้องกล
ลินดาตื่นขึ้นมาอ้วกตั้งแต่เช้า นั่งกอดชักโครกอยู่เกือบชั่วโมง ส่วนพายุกำลังยืนลูบหลังให้เธอ พร้อมด้วยสีหน้าแสดงความเป็นห่วง "ไปหาหมอดีกว่า อ้วกหนักขนาดนี้" "เฮียหยิบยาดมใต้หมอนให้ลินหน่อย ลินเวียนหัวมากเลย" ขายาวก้าวเร็ว ๆ ไปหยิบยาดมมายื่นให้เธอ พร้อมทิ้งตัวลงนั่งข้างเธอ อย่างไม่รังเกียจกลิ่นคาวอ้วกที่เหม็นฟุ้งห้องน้ำ "ออกไปเฮีย มันเหม็น"มือบางผลักเขาให้ออกไป แต่พายุแทบไม่ขยับตัว "ให้เฮียอาบน้ำให้ดีกว่า แล้วไปหาหมอกันนะ" ลินดาพยักหน้าอย่างไม่ลังเล เธอเองก็ไม่มีแรงจะทำอะไรแล้วเหมือนกัน ได้แต่ยอมให้เขาจัดการทุกอย่าง ตั้งแต่พาเธอไปอาบน้ำ ออกมาแต่งตัวให้จนเสร็จ แล้วเขาถึงค่อยไปจัดการตัวเอง เราสองคนเดินออกจากลิฟท์ กำลังจะไปขึ้นรถของคนตัวสูงที่จอดอยู่ เป็นเธอที่คลอเคลียเขาไม่ห่าง เดี๋ยวกอด เดี๋ยวหอม ไม่อายสายตาคนที่เห็น กลิ่นตัวของเขาทำเธอหายเวียนหัวไปได้บ้าง แต่ทว่าตอนเดินออกจากลิฟท์ ก็เจอเข้ากับกันต์ที่เดินสวนกันมาพอดี "ลินดาไม่สบายเหรอครับ" กันต์ถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย แต่ก็ไม่ได้เดินเข้ามาใกล้มาก อาจเพราะพายุยืนส่งสายตาเค่ืองขุ่นให้อยู่ เลยไม่กล้าทำอะไรมากนัก "แล้วมึงเสือกอะไรก
ลินดานัดให้พายุมาหาเธอที่ห้อง คิดว่าเรื่องท้องจะปล่อยไว้นานกว่านี้ไม่ได้ เธอจะต้องรีบบอกเขาก่อน เธอเองก็แพ้ท้องอย่างหนัก ไม่ว่าทำยังไงอาการก็ไม่ดีขึ้นเลย ขนาดขวัญตาสั่งมะม่วงเปรี้ยวเอาไว้ให้ ตอนกินเข้าไปก็รู้สึกดีขึ้นจริง ๆ แต่สักพักอาการอยากอ้วกก็มาอีก คนตัวเล็กเลือกไปนอนรอบนเตียง ทำตามแผนที่วางไว้ เมื่อมองดูเวลาใกล้ที่พายุจะมาแล้ว อยากจะทำเหมือนที่ขวัญตาแนะนำเหมือนกัน แต่กลัวว่าพายุจะตกใจ จนช็อกไปเสียก่อน เสียงตะกุกตะกักดังขึ้นด้านนอก พร้อมเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ตรงมาในห้องนอน ลินดาหันมองแวบหนึ่ง ก่อนจะสบตาร่างสูงที่ยืนมองอยู่ "ป่วยหรือเปล่า?" เสียงทุ้มที่แสดงความห่วงใยเต็มที่ พร้อมกับเดินเข้ามาสัมผัสตรงหน้าผากเธอเหมือนกับจะวัดว่าเธอตัวร้อนหรือเปล่า เพราะเห็นเธอห่มผ้าเหมือนกับว่าหนาว "เฮียขา..."เสียงหวานหยดย้อย พร้อมท่าทางที่ยั่วยวน มือเล็กก็สะบัดผ้าห่มที่คลุมกายออก เผยให้เห็นร่างเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าติดกาย ทำเอาคนตัวสูงที่นั่งอยู่อึ้งไปทันที "ทำอะไรอ่ะลิน? ล้อเล่นหรือเปล่า" เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างละเมอ ถึงจะเห็นร่างกายของเธอจนชินแล้วก็เถอะ แต่ทว่าที่เขาแปลกใจคือ ที่นอนข้างกันมีว
อาการลินดาไม่ได้ดีขึ้นเลย ออกจากร้านอาหารแล้วกลับยิ่งหนักกว่าเดิม เมื่อเธอเริ่มมีอาการเวียนหัว และอยากอาเจียนอยู่ตลอดเวลา จนขวัญตาบอกว่าอาการเธอแปลก ๆ ควรไปหาหมอ "อีลิน...กูพาไปเอง ถ้าไม่อยากไปคนเดียว" ลินดาเป็นคนไม่ชอบไปโรงพยาบาลแต่ไหน แต่ไรมาแล้ว ขวัญตาเพืี่อนสนิทรู้ดีว่าหากเพื่อนป่วย จะแค่นอนพักแล้วกินยาตามปกติ ไม่เคยไปหาหมอเลยสักครั้ง "นี่ถ้าไม่ติดว่ามึงกับเฮียพายุยังไม่ได้คืนดีกันร้อยเปอร์เซ็นต์นะ อาการมึงเหมือนคนท้องเลย" ถึงคนพูดจะไม่คิดอะไร แต่ลินดากลับตกใจในคำพูดนั้น พลันหัวใจก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะหรือว่าที่ขวัญตาคิดจะเป็นเรื่องจริง "นี่มึงอย่าบอกนะ ว่ามึงยังนอนกับเขา" ขวัญตาที่เห็นเพื่อนเงียบไป เลยหันไปมองหน้า เห็นเพื่อนนั่งทำหน้าเหมือนคนคิดหนัก ก็เดาได้ทันทีว่าที่เธอพูดอาจเป็นเรื่องจริง "โอ้ยย!!! กูล่ะเหนื่อย ให้เขาเอาแล้วทำไมมึงยังไม่คบกับเขาสักทีอีลิน ให้เขาง้อมึงมาเป็นเดือนแล้วทำไม วันก่อนไปเยี่ยมพี่ปราง มึงยังบอกจะหาผัวใหม่อยู่เลย ปากเก่งไม่เลิกนะมึง" "ทำไงดีว่ะ..." กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ ก็นานอยู่พอสมควร ตอนนี้เริ่มมั่นใจแล้วว่าตัวเองอาจจะท้องจริง ๆ เพราะหลัง
"ไหนบอกว่ากลับคอนโดไปแล้ว" พายุถามขึ้นขณะขับรถออกจากร้านเหล้าที่ลินดาโทรบอกให้เขามารับ "ลินอยากนั่งดื่มกับเพื่อนเลยโกหกเฮีย แต่ก็โทรให้มารับแล้วไง" เสียงหวานตอบพร้อมกับซบลงบนไหล่เขาอย่างออดอ้อน นี่ขนาดเรายังเป็นแค่คนแอบแซ่บกันอยู่ ลินดายังขี้อ้อนขนาดนี้ ถ้าได้คบกันจริงจังกว่านี้จะขนาดไหน "เรียนจบแล้ว เมื่อไหร่ลินจะคบกับเฮียสักที" "รอรับปริญญาเสร็จก่อน แล้วลินจะบอก" พายุหันมองคนตัวเล็กเพื่อยืนยันว่าเธอพูดจริง ก็วันรับปริญญามันอีกไม่ถึงเดือนแล้ว กลัวว่าเธอจะหลอกให้เขาดีใจ "ให้เพื่อนสองคนนำไปก่อน เราค่อยตามไปทีหลังนะ" "....." "เฮียเคยเบื่อลินบ้างไหม? ที่ปล่อยให้เฮียคอยนาน หรือคิดจะเลิกรักลินหรือเปล่า" "เป็นอะไร? วันนี้ดูแปลก ๆ นะ" "ตอบที่ลินถามมาก่อน" "ไม่เคย...ถ้าคิดจะเบื่อจะยอมอยู่แบบนี้ทำไม" "แล้วคอยได้หรือเปล่า หากลินปล่อยเรื่องของเราให้นานกว่านี้" "ได้มันก็ต้องได้อยู่แล้ว แต่เฮียกำลังจะสามสิบสองแล้วนะ ไอ้เสือลูกได้สี่เดือน อีกไม่เท่าไหร่เมียมันคงท้องอีก ทุกวันนี้มันก็เอาแต่อวดเฮียทุกวัน เฮียอิจฉามันที่มีลูกทันใช้" "อีกเดี๋ยวก็ได้อิจฉาพี่เพลิงอีกคน" ลินดาพึมพำเสียงเบ
"อื้อ~ อ๊าสส"เสียงครางหวานของลินดาที่พยายามขบเม้มริมฝีปากไว้ไม่ให้หลุดเสียงดังออกมา แต่ทว่าความเสียวซ่านจากการปรนเปรอของคนตัวสูง ทำให้เธอเผลอหลุดเสียงครางออกมาอย่างสุดกลั้น พายุที่ดูดกลืน ขบเม้มร่องสีหวานของคนตัวเล็กอย่างชอบใจ นัยน์ตาคมเหลือบมองใบหน้าสวยที่เหยเกเพราะความเสียวซ่าน จากการที่เข้าแยงลิ้นร้อนเข้าออกในโพรงนุ่ม นิ้วเรียวก็สะกิดติ่งสีสดไปมาเพื่อเพิ่มความกระสัน สะโพกสวยของเธอส่ายร่อนไปมาอย่างทนไม่ไหว ก่อนจะกระตุกปลดปล่อยน้ำหวานออกมาอย่างเสร็จสม "อร้ายยย" ลินดานอนหอบหายใจเหนื่อยกับการทำรักแสนช่ำชองของเขา คนตัวสูงยกตัวขึ้นมาจูบดูดดื่ม แลกลิ้นกับเธออีกครั้ง มือหนาก็ชัดรูดแก่นกายสามสี่ที ก่อนขยับขาเรียวเล็กอ้าออกกว้าง กดเอ็นร้อนแข็งขืนเข้าไปทันทีจนสุด "ซี้ดด~ แน่น อ๊าสส" ร่องรักที่ตอดรัดเอ็นร้อนทันทีตั้งแต่เขากระแทกเข้าไปทีเดียว สะโพกสอบเริ่มขยับแก่นกายเข้าสุด ออกสุด อย่างรุนแรง ก่อนจะเพิ่มระดับความแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามอารมณ์กระสัน ใบหน้าสวยแหงนเงยใบหน้าครวญครางเสียงหลง อย่างไม่คิดเก็บกัก ทุกการตอกอัดเข้าออกของคนตัวสูง ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั