“ใครเขาอยากพูดดีกับแก ไอ้แก่ ไอ้...” ถ้อยคำสุดท้ายถูกกลืนลงลำคอหนา นิธิเหนื่อยใจที่จะฟังคำด่าทอของหญิงสาวแล้ว เขาจงใจจูบลึกล้ำ ราวกับจะสูบเอาวิญญาณออกจากร่างเธอ จูบแล้วจูบเล่า เนิ่นนานเท่าไรก็ไม่อาจจะรู้ได้ รู้เพียงแต่ตอนที่เขาตัดใจถอนริมฝีปากอย่างอ้อยอิ่ง คนใต้ร่างก็หอบเอาลมเข้าปอดด้วยการหอบหายใจแรงจนน่า
สงสาร นิธิมองท่าทางของหญิงสาวด้วยความเอ็นดูและรักสุดหัวใจ
“ทีนี้จะมาพูดกันดีๆได้หรือยัง”
เพียงฟ้าเม้มปากแน่น เบี่ยงหน้าหนี ไม่ยอมสบตา ไม่ยอมพูดอะไรทั้งสิ้น หนุ่มใหญ่ถอนหายใจ โน้มใบหน้าลงจูบแก้มเนียนเบาๆ หญิงสาวถลึงตาใส่อย่างแง่งอน
“ฟ้า ให้โอกาสผมบ้าง อย่าเอาแต่ปั้นปึ่ง แง่งอนใส่กันแบบนี้”
“ก็แกทำร้ายฉันก่อน แกทำลายชีวิตฉัน”
“ผมขอโทษ ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่างที่ทำผิดต่อคุณไว้ ขอเพียงคุณให้โอกาสผมบ้าง อย่าเอาแต่ปฏิเสธกันแบบนี้” เพียงฟ้าเงียบ จ้องหน้าคนพูดนิ่ง
“ฟ้าครับ ผมอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุด แต่ขอให้เชื่อเถอะว่า ผมเป็นผู้ชายที่จะดูแลคุณและลูกตลอดไป”
“ฉันดูแลตัวเองกับลูกได้ ฉันมีเงินเลี้ยงลูกเองได้” นิธิยิ้มอ่อน หัวเราะในลำ
“มีแต่คนอยากเอาเยอะแยะ แต่ไม่เคยอยากเอาใครเท่าคนที่นั่งตรงหน้าสักคน” เพียงฟ้ากระแทกช้อนส้อมลงแรงๆจนเกิดเสียงดัง หญิงสาวยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินไปล้างมือ ไม่ยอมมองหน้าคนพูดไม่เข้าหู แต่ขณะที่กำลังจะก้าวเท้าออกจากห้องครัวมือใหญ่ก็จับหมับเข้าที่ข้อมือของเธอ“ไปเก็บโต๊ะ แล้วก็เอาจานชามไปล้าง” เสียงเข้มสั่งจริงจัง สายตาคมดุที่มองมาทำให้เพียงฟ้าหวาดๆ แต่ยังคงถือดีไม่อยากทำตาม“ไม่! ฉันไม่เคยล้างจาน ลุงเป็นคนเทกับข้าวลงชาม ตักข้าวใส่จานเอง ลุงก็ล้างเองสิ” นิธิถอนหายใจแรง“คุณต้องเก็บโต๊ะแล้วก็ล้างจาน จะเป็นแม่คนแล้วต้องหัดทำ”“ไม่! ไม่ทำอะไรทั้งนั้น ให้มาเป็นเมียไม่ใช่เหรอ ไม่ได้บอกว่าจะให้มาเป็นคนใช้นี่” นิธิรู้สึกระอาใจเหลือเกินกับนิสัยและท่าทางเชิดหน้าเอาแต่ใจเหมือนเด็กของหญิงสาว เห็นทีจะต้องอบรมบ่มนิสัยกันใหม่เสียแล้ว ขืนปล่อยไปแบบนี้มีหวังได้ใจ ทำอะไรตามอำเภอใจไม่จบไม่สิ้น นี่เขาได้เมียหรือลูกมาอยู่ด้วยนะ“ดี! ในเมื่ออยากอยู่ในฐานะเมียอย่างเดียว ไม่อยากเป็นคนใช้ ถ้าอย่างนั้นก็มาทำหน้าที่เมียกันเถอะ” นิธิช้อนอุ้มเอาร่างบางขึ้นแน
เขาจูบดูดดื่มรุนแรงจนเธอแทบสำลักลมหายใจ แล้วอุ้มกระเตงเธอขึ้นสูง ก่อนจะกดสะโพกเธอลงให้สวมครอบลำกายแกร่ง เพียงขวัญกรีดร้องระงมเมื่อถูกดันติดกผนังห้องน้ำ ชายหนุ่มโจนจ้วงโหมห่มกายเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง หนักแน่นเร่าร้อนจนเธอแทบขาดใจ จนในที่สุดทั้งสองก็จับมือกันโจนทะยานสู่สุดยอดความสุขสมในเพลงรัก ทั้งคู่อ้อยอิ่งอยู่กับจูบแสนหวาน ต่างสัมผัสกันและกันด้วยสิเน่หาที่ยังคุกรุ่นอยู่รอบกาย คำบอกรักแว่วหวานจากปากซึมลึกสู่หัวใจ ที่เกี่ยวพันกันไว้ด้วยหัวใจรักที่ไม่มีเล่ห์ใดๆ“คุณเหมมาที่นี่ทำไมคะ ขวัญอยากเจอฟ้าเร็วๆ” เพียงขวัญถามอย่างแปลกใจเมื่อเหมันต์เลี้ยวรถเข้าจอดสถานที่ราชการแห่งหนึ่ง“มีธุระสำคัญ” เหมันต์ดับเครื่องยนต์ แล้วเปิดประตูลงจากรถ เพียงขวัญเปิดประตูลงจากรถตาม หญิงสาวกวาดสายตาอ่านป้ายชื่อสถานที่ที่เธอยืนอยู่“ที่ว่าการอำเภอ คุณเหมมีธุระอะไรที่นี่หรือคะ” เหมันต์ยิ้มหวานให้ แล้วเดินเข้ามากุมมือบางพาออกเดินไปพร้อมกัน“พาเมียมาจดทะเบียนสมรส” ชายหนุ่มก้มลงกระซิบแผ่วเบา“ตายละ!” เพียงขวัญอุทาน เงยหน้ามองเขาอย่างตกใจ“ทำไมทำหน้าตาอย่างนั้น ไม่อยากเป็นเจ้
“ไม่เอานะ ฟ้ายังไม่พร้อม” หญิงสาวยันคางสากไว้ด้วยมือทั้งสอง“เดี๋ยวก็พร้อม เชื่อลุงนินะคะคนเก่ง” นิธิออดอ้อนคำหวาน ส่งสายตาเว้าวอนล่อหลอกเมียตัวน้อย มือร้อนๆลูบไล้ไปตามผิวเนื้อเนียนของกายสาว จมูกโด่งพรมจูบใบหน้างามอย่างแสนรัก เขาได้ยินเสียงประท้วงว่าไม่พร้อมดังอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งริมฝีปากอิ่มถูกปิดทาบด้วยปากเขานั่นแหละ ถ้อยคำประท้วงถึงได้เงียบลงเพียงฟ้าหูอื้อตาลายไปกับสัมผัสเร่าร้อนของคนมากประสบการณ์ เขาประทับตราความเป็นเจ้าของเธอด้วยปากร้อนไปทั่วร่าง ไม่มีว่างเว้นแม้ตารางเซนติเมตรเดียว ร่างสาวบิดส่ายโอนอ่อนไปกับสัมผัสปลุกเร้า เพลิงพิศวาสในกายถูกโหมกระพือจนสุดกู่ จนต้องเรียกร้องขอเอาจากเขาอย่างหน้าไม่อาย“ลุงนิ ช่วยฟ้าด้วย อื้อ!”นิธิไม่ได้หยาบคายรุนแรงเหมือนครั้งนั้น ตรงกันข้ามเขาสัมผัสทะนุถนอมราวกับเธอเป็นเด็กทารกบอบบาง เรียวลิ้นร้อนและเล็มตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มือหนาลูบไล้กดคลึงร่างงามในบางจุดอย่างเป็นจังหวะและรู้ดีว่าส่วนไหนของร่างสาวที่ควรกดหนักส่วนไหนควรกดเบา“สวยที่สุด เมียของลุงนิ” นิธิหอบหายใจแรงในตอนที่ผงกศีรษะขึ้นมองเนินเนื้ออวบอูม
หนุ่มใหญ่ผู้รวดร้าวรีบแต่งตัวโดยไม่หันไปมองร่างขาวโพลนที่นอนเปลือยอยู่บนเตียง นิธิจัดการตัวเองได้ในเวลาไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ เขาเปิดประตูออกแล้วปิดลงในทันที กลัวว่าหากช้ากว่านี้ เขาอาจจะเปลี่ยนใจกระโจนขึ้นเตียงจัดการอะไรที่มันค้างคาให้มันจบอย่างใจต้องการแทนเพียงฟ้าขยับตัวลุกขึ้นนั่ง หญิงสาวมองประตูที่ปิดลงแล้วถอนหายใจแรง ทำไมพอเขาออกไปแล้วถึงรู้สึกโหวงๆ มีบางอย่างที่แล่นพล่านอยู่ในกาย รุมเร้าเธอจนร้อนและแทบจะทนไม่ได้ หญิงสาวจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำ เปิดสายน้ำเย็นฉ่ำให้ราดรดตัว หากแต่มันไม่สามารถบรรเทาอาการภายในได้เลยเพียงฟ้าเดินลงมาจากบันไดหลังจากนิธิประมาณสามสิบนาที หญิงสาวชะงักเท้าที่จะก้าวลงบนพื้น เป็นจังหวะเดียวกับที่เพียงขวัญหันมาเห็นพอดี“ฟ้า!” เพียงขวัญลุกขึ้นจากโซฟาโผเข้าหาน้องสาวทันที เพียงฟ้าปล่อยโฮออกมาในตอนที่ร่างของเธอถูกสวมกอดจากพี่สาวต่างสายเลือด หากแต่ความอบอุ่นคุ้นเคย ความผูกพันที่เคยอยู่ร่วมกันมาตลอดทำให้เพียงฟ้าวางใจ อุ่นใจและรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเพียงขวัญ“ฟ้าขอโทษ ฟ้าขอโทษ” เมื่อไม่มีแม่ในโลกนี้แล้ว เพีย
“เอ่อ...ฟ้าใจเย็นๆก่อนนะ”“ไม่เย็นแล้วขวัญ ฟ้าจะไม่ทน ไปกันเถอะ ขวัญนอนไหน ฟ้าก็จะนอนที่นั่น”“ฟ้า...ลุงนิขอโทษ ไหนบอกว่าจะให้โอกาสลุงนิไงล่ะคะ” เหมันต์มองหน้าคนสนิทงงๆ แทบไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างนิธิจะพูดหวานๆออดอ้อนอย่างนี้ก็เป็นด้วย“ก็ลุงนิขี้โกหก นี่ก็ไม่รู้ว่าจะโกหกอะไรฟ้าอีก เมื่อกี้ก็โกหกว่าไม่เจ็บ แต่ก็ทำฟ้าเจ็บ ดีนะที่ขวัญกับพี่เหมมาพอดี ไม่อย่างนั้นฟ้าต้องเจ็บตัวเหมือนครั้งแรกที่ลุงนิทำอยู่ตรงบันไดนั่นแน่ๆ” เงียบ!...ทุกคนนิ่งเงียบราวกับที่นี่คือป่าช้า เพียงฟ้ากลอกตาใช้ความคิดเพียงครู่ก็หน้าแดงซ่าน นิธิรีบลุกขึ้นรวบเอาร่างบางกอดแนบอกแล้วอุ้มวิ่งหายเข้าไปทางห้องครัวทันที เหมันต์สบตาเพียงขวัญแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์“ที่บ้านสวนไม่มีบันได ที่บ้านใหญ่มีแต่ก็คนเยอะไปหน่อย” เพียงขวัญส่งค้อนวงใหญ่ให้คนหื่นอย่างรู้ทัน“ฟ้าคะ ทำไมพูดอะไรไม่รู้จักระวัง ถ้าขืนยังพูดอะไรไม่ระวังแบบนี้อีกลุงนิจะตีก้น”“อย่านะ” เพียงเบี่ยงตัวหลบฝ่ามือใหญ่ที่เงื้อขึ้นสูง“ก็ลุงนิทำฟ้าเจ็บจริงๆนี่”“เรื่องแบบนี้ใครเขาเอาไปพูดให้คนอื่นได้ยินกันล่ะ”“ก็ฟ
หนึ่งสัปดาห์แล้วที่เพียงฟ้าเกาะติดเพียงขวัญแจ หญิงสาวไม่ยอมกลับบ้านไปกับนิธิ เหมันต์เองก็จนปัญญา เพราะเพียงขวัญขอร้องให้เห็นใจเธอกับน้องสาวที่เพิ่งสูญเสียมารดาไป จึงจำเป็นที่จะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกันสองสาวนอนในห้องนอน ส่วนสองหนุ่มนอนที่โซฟาด้านนอก ตื่นเช้ามาเหมันต์และนิธิก็ออกจากบ้านไปออฟฟิศพร้อมกัน ตกเย็นทั้งคู่ก็กลับมาพร้อมกัน เหมือนจะเป็นชีวิตที่มีความสุขดี ตื่นเช้ามาทำงานตามปกติ ตกเย็นกลับบ้านก็ได้เห็นหน้าเมีย กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่พอตอนจะนอนนี่สิทุกข์ถนัด พี่น้องคู่นี้ทำตัวติดกันเป็นปลาท่องโก๋ คุยกันกระหนุงกระหนิงแล้วก็แวบเข้าห้องไปนอนเฉย นิธิกับเหมันต์ได้แต่จ้องมองหน้ากันเซ็งๆ“คุณนิธิวันนี้คุณต้องพาฟ้ากลับไปให้ได้นะ”“ก็อยากพากลับอยู่ล่ะครับ แต่ผมมันประเภทใจอ่อน แค่เห็นหน้าเศร้าๆของเมียแล้วก็อดที่จะตามใจไม่ได้” นิธิกับเหมันต์กระซิบกระซาบกันสองคน แล้วหันไปมองพี่สาวน้องสาวที่กำลังพูดคุยกันหลังรับประทานอาหารมื้อค่ำเสร็จ เพียงขวัญแกะส้มยื่นป้อนน้องสาว เพียงฟ้าอ้าปากกินแล้วก็หัวเราะคิกคัก“คุณนิธิผมขอสั่งคุณให้พาฟ้ากลับไปวันนี้เลย ไม่อย่างน
“ถ้าอยากชิมอีกก็ต้องทำเอง ผมอนุญาตให้ชิมทั้งตัวเลย นอกจากปากแล้ว ตรงไหนที่ขวัญเคยชิมแล้ว ก็อย่าลืมชิมมันอีกนะ จะได้รู้ว่ามันหวานขึ้นไหม” เหมันต์เลื่อนมือลงกดสะโพกมนให้ส่วนกลางกายสัมผัสกัน เพียงขวัญรับรู้ถึงความแข็งขึงของลำกายแกร่ง“คุณเหม!” เพียงขวัญตาโต ทุบอกแกร่งแบบไม่จริงจัง“นะครับที่รัก” เพียงขวัญพยักหน้ารับน้อยๆ จึงได้รับหอมฟอดใหญ่เป็นรางวัล“น่ารักจัง” เพียงขวัญตอบแทนคำชม ด้วยการชิมเขาไปทั้งร่างตามที่คนขี้เอา...แต่ใจต้องการ เหมันต์แทบแดดิ้นในตอนที่ถูกปากเล็กโอบรัดลำกายแกร่งไว้ ชั้นเชิงอ่อนด้อยนักแต่เร้าใจจนเขาต้องยกธงยอมแพ้ ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะสูญเสียเมล็ดพันธุ์ไปโดยเปล่าประโยชน์ในอุ้งปากนุ่มแน่นอน“ขวัญครับ มานี่เถอะที่รัก” เหมันต์ดึงร่างบางขึ้นมาจนใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกัน จูบเอากลิ่นรสของตนจากปากน้อยนุ่มนิ่ม เกี่ยวกระหวัดรัดร้อยดูดดึงเอาลิ้นเล็กเข้าสู่อุ้งปากร้อนผ่าว มือหนาบีบแก้มก้นงอนเคล้นคลึงหนักๆด้วยอารมณ์รักที่ลุกฮือรุนแรง“เร็วเถอะคนเก่ง ผมต้องการคุณเดี๋ยวนี้เลย” เหมันต์ดันร่างหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง ส่งสายตาอ้อนวอนหวานเชื่อม“
“มานอนกันเถอะเมียจ๋า พรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้านะคะ” นิธิกวักมือเรียกเมียตัวน้อยที่กระเถิบไปจนสุดขอบเตียงอีกข้าง เพียงฟ้ามองเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ“ลุงนิจะไม่ทำแบบนั้นจนกว่าจะถึงเวลาที่เราตกลงกันไว้ แต่ยังไงเราก็ต้องนอนด้วยกัน เพราะลุงนิจะต้องคุยกับลูกในท้องของฟ้า และอีกอย่างฟ้าจะได้คุ้นเคยกับลุงนิพอถึงเวลาเอา...จริง จะได้ไม่ตื่นเต้นไงคะ” เพียงฟ้าผงะแทบตกเตียงตอนที่เขาเน้นหนักตรงคำว่าเอา...จริง นิธิหัวหัวเราะในลำคอกับท่าทางของเมียตัวน้อย“มาสิคะ ถ้าเด็กดื้อ ผู้ใหญ่จะไม่รักษาสัญญานะคะ” หนุ่มใหญ่เอนกายลงนอนกางแขนออกแล้วตบเบาๆที่ต้นแขนของตน เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าเธอควรจะนอนตรงไหน เพียงฟ้าค้อนวงเล็กให้แล้วค่อยๆคลานไปนอนหนุนต้นแขนกำยำตามความต้องการของคนตัวโต นิธิโอบรัดเอาร่างเล็กไว้ทันทีที่หญิงสาวแนบกายลงนอนเคียงข้าง“ลุงนิห้ามลักหลับฟ้านะ” หญิงสาวอุบอิบบอกกับอกกว้าง“เป็นความคิดที่ดี”“ลุงนิ!” เพียงฟ้าหยิกเนื้อช่วงเอวสอบสุดแรง“โอ๊ย!” นิธิอุทานแล้วหัวเราะจนอกกระเพื่อมกับเสียงตวาดแหว“ไม่ทำหรอกค่ะ ลุงนิเป็นผู้ใหญ่ใจดี
“เดี๋ยวเรียกป้าโอ๋มาอยู่เป็นเพื่อนหนูดาก็ได้นะคะ” เพียงฟ้าหันมายิ้มให้สามี“ไม่เป็นไร ลุงนิจะอยู่กับลูกเองนะคะ” หญิงสาวหน้างอง้ำ สะบัดหน้าหนีงอนๆ“ลูกหลับอยู่ เรารึก็อุตส่าห์จะอาบน้ำให้ แต่ถ้าลุงนิอยากอยู่กับลูกก็ตามใจนะคะ” พูดจบก็เดินสะบัดก้นออกจากห้องไปทันที หนุ่มใหญ่ยืนนิ่งกะพริบตาปริบๆ มองประตูห้องปิดลงงงๆ หลังจากนั้นไม่ถึงห้าวินาที เพียงฟ้าที่เดินขึ้นบนบ้านไปก่อนก็หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงสามีตะโกนดังลั่นบ้าน“ป้าโอ๋! ป้าโอ๋ครับ ป้าโอ๋อยู่หนายยย”เช้าวันต่อมานิธิไปส่งลูกเมียไว้ที่บ้านสวนของเหมันต์ แล้วรีบกลับเข้าเมืองไปทำงานทันที เพียงฟ้ากับลูกน้อยจึงอยู่กับเพียงขวัญ เหมันต์และเด็กหญิงหทัยรัก“อ้อนให้คุณนิธิพามาส่งจนได้นะเราน่ะ” เพียงขวัญเอ่ยกับน้องสาวยิ้มๆ ขณะที่นั่งป้อนข้าวลูกสาวอยู่ที่ศาลาเรือนไทยหลังบ้าน“ก็ฟ้าอยากคุยกับขวัญ อยากพาหนูดามาเล่นกับน้องข้าว” น้องสาวอ้อนพี่สาวยิ้มๆ“น้องข้าวคิดถึงน้าฟ้ากับหนูดามั้ยคะ” หทัยรักฉีกยิ้มกว้าง เด็กหญิงแย่งช้อนในมือมารดามาถือไว้ แล้วยื่นไปใกล้ปากเด็กหญิงอีกค
“นะคะ” เสียงหวานออดอ้อน“มันอาจจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยน” ดวงตาคู่งามกลอกขึ้นมองบนอย่างคนรู้ทัน“หรือจะไม่ไป” คนเป็นต่อถามชิดใบหูเล็ก ก่อนจะขบเม้มเบาๆ เพียงฟ้าเบี่ยงหนี แล้วหันกลับมามองหน้าสามี ใบหน้างามงอง้ำเล็กน้อย“ก็ได้ค่ะ ตาแก่จอมหื่น” นิธิหัวเราะเบาๆ“ส่งลูกมาเถอะค่ะ เดี๋ยวลุงนิเอาไปลงเปลเอง ฟ้าไปเตรียมตัวทานข้าวเถอะ” คุณแม่ยังสาวส่งลูกที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมกอดให้สามี“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวนั่งยิ้มมองดูหนุ่มใหญ่ผู้นำของครอบครัว อุ้มลูกไปวางลงในเปลอย่างทะนุถนอม เขาเป็นผู้ชายใจดี เป็นตาแก่ที่รักเธอกับลูกสุดหัวใจ เป็นคนที่ตามใจเมียทุกอย่าง และที่สำคัญเป็นคนที่เธอรัก รักอย่างทีไม่เคยคิดว่าจะรักได้ขนาดนี้ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้ม เท้าเล็กเดินเข้าไปซ้อนหลังสามีที่ยืดตัวขึ้นยืนตรงหลังจากวางลูกสาวลงในเปลเรียบร้อยแล้ว“ลุงนิ” วงแขนเรียววาดแขนโอบรัดเอาร่างใหญ่จากด้านหลัง ซบใบหน้ากับแผ่นหลังกว้างอบอุ่น นิธิเลิกคิ้วสูง แปลกใจกับท่าทางออดอ้อนของเมียรัก“อ้อนจัง จะขออะไรอีกหรือเปล่าหืมมม” เพียงฟ้าส่ายหน้าไปมาแนบแผ่นหลัง ออกแรงกอดสามีแน่นขึ้นอีก
“ฮือๆๆ หม่ำๆๆ ฮือๆๆ” หทัยรัก...เด็กหญิงขี้เอาแต่ใจเหมือนบิดาไม่ยอม มือน้อยๆเลิกเสื้อยืดขึ้นอีกครั้ง ดิ้นรนส่ายหน้าเข้าหาตุ่มไตเม็ดเล็กตรงอกข้างซ้ายของเด็กหนุ่ม และในที่สุดปากเล็กๆจิ้มลิ้มนั้นก็...จ๊วบ! บุรินทร์สะดุ้งโหยง หากแต่ไม่กล้าโวยวาย ไม่กล้าผลักไสน้องน้อยออก คนตัวจิ๋วในอ้อมกอดเขาดูดจ๊วบๆอย่างเอาเป็นเอาตาย แขนป้อมๆข้างหนึ่งโอบรอบเอวเขาไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างก็ยกขึ้นมาตะปบไว้ที่ตุ่มเล็กๆอีกข้าง บางครั้งก็ขยำเบาๆจนเขาต้องสะดุ้งแล้วสะดุ้งอีก เด็กหญิงหลับตาพริ้มราวกับมีความสุขนักหนา ถึงแม้จะรู้สึกจั๊กจี้แต่เด็กหนุ่มก็นั่งนิ่ง ยอมให้น้องน้อยดูดนมที่ไร้น้ำนมต่อไป ขอแค่น้องน้อยไม่ร้องไห้ไม่งอแง จะให้ทำอะไร หรือให้เป็นอะไรเขาก็ยอมทุกอย่างเด็กหนุ่มผู้เงียบขรึมและเป็นผู้ใหญ่เกินวัย จนถูกขนานนามว่าเป็นไอ้เสือยิ้มยาก ระบายยิ้มน้อยๆบนใบหน้า สายตาอ่อนโยนจ้องมองใบหน้าเจ้าหญิงน้อยของตนด้วยความรู้สึกวาบลึกในอก ความหวงแหนเกิดขึ้นในหัวใจ อยากปกป้องทะนุถนอมเจ้าหญิงน้อยของตนตลอดไป นิ้วเรียวยกขึ้นแตะที่แก้มยุ้ยเบาๆ“พี่แดนเป็นของเจ้าหญิงน้อยแล้วนะครับ”“น้องข้าว!” เพียงขวัญตกใจ
“สวัสดีค่ะพี่ขวัญ” แก้วใจยกมือไหว้ เด็กชายที่เดินตามหลังมาก็ยกมือไหว้หญิงสาวเช่นกัน“สวัสดีจ้ะแก้ว กลับมาเยี่ยมบ้านเหรอ มากี่วัน แล้วนั่นมากับใครอ่ะ พี่ขวัญไม่เคยเห็นเลย แต่หน้าคุ้นๆนะ” แก้วใจหัวเราะเสียงใส กับคำถามที่รัวมาเป็นปืนกล“แก้วกลับมาเยี่ยมบ้านสามวันค่ะพี่ขวัญ พรุ่งนี้กลับตอนเย็นๆ แล้วนี่...” แก้วใจดันบ่าของเด็กชายวัยสิบสี่ปีให้มายืนต่อหน้าเพียงขวัญ“บุรินทร์ หรือ แดนค่ะ เป็นน้องชายของพี่ดิน” เด็กชายบุรินทร์ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ใบหน้าที่ฉายแววหล่อเข้มระบายยิ้มน้อยๆอย่างมีเสน่ห์ เพียงขวัญสบสายตาคมของเด็กชายแล้วยิ้มหวานให้อย่างรู้สึกถูกชะตา“สวัสดีครับพี่ขวัญ”“สวัสดีจ้ะหนุ่มน้อย พี่ขวัญไม่เคยรู้เลยนะเนี่ยว่าพี่ดินมีน้องชายด้วย แดนอายุเท่าไรคะ”“สิบสี่ปีครับ”“โอ้โห! ห่างกับพี่ดินตั้งสิบสามปีแน่ะ” เด็กชายบุรินทร์ยิ้มน้อยๆกับท่าทางแปลกใจของพี่สาวคนสวยตรงหน้า“ตอนแรกแก้วก็ตกใจเหมือนพี่ขวัญนี่แหละค่ะ คุณพ่อคุณแม่พี่ดินบอกว่าแดนเป็นลูกหลง”“ไม่ได้หลงนะครับพี่แก้ว คุณพ่อบอกว่าตั้งใจ” แก้วใจหันไปสบตาหนุ่มน้อยแล้วหันกล
“อยากรักขวัญทั้งวันทั้งคืน ห่างไปตั้งนาน แทบจะลงแดงตาย” เหมันต์กระซิบเสียงพร่าขณะที่พรมจูบไปทั่วใบหน้าภรรยาแล้วมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากนุ่มหวานละมุนลิ้น เพียงขวัญไม่ขัดสามี เธอเข้าใจและเห็นใจเขา หญิงสาวจูบตอบ กอดรัดเขาไว้แน่น ขยับสะโพกรับจังหวะรุกจากเขาอย่างเท่าเทียม บทเพลงรักเร่าร้อนจากคนช่างเรียกร้องทำเอาคุณแม่ยังสาวแทบจะละลายกลายเป็นวุ้นคาอกสามี เพียงขวัญกรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะถูกส่งไปยังปลายทางของห้วงอารมณ์รักนับครั้งไม่ถ้วน เหมันต์เก็บตกจัดเต็มทุกท่วงท่า เท่าที่ห้องน้ำจะเอื้ออำนวยให้เขาทำได้ สุดท้ายจบลงที่อ่างอาบน้ำ ชายหนุ่มชำระล้างร่างกายให้ตนเองและภรรยาหลังจากจบสิ้นภารกิจทวงคืนพื้นที่ส่วนตัวจากลูกสาวตัวน้อย กว่าเขาจะพาร่างอ่อนปวกเปียกออกมาจากห้องน้ำก็ล่วงเลยเวลาไปเกือบสามชั่วโมงเพียงขวัญในชุดนอนใหม่หลับสนิททันทีที่หัวถึงหมอน เหมันต์จูบหน้าผากมนแผ่วเบา รู้สึกรักและหวงแหนเธอมากกว่าที่เคยรู้สึก“ผมรักคุณนะขวัญ” แววตาอ่อนโยนทอดมองใบหน้าของภรรยาอย่างแสนรักเสียงอ้อแอ้ของลูกสาวทำให้เหมันต์ละสายตาจากภรรยา ชายหนุ่มลุกไปหยิบขวดนมที่เตรียมการเอาออกมาจากตู้เย็นตั
“ขวัญ” เหมันต์ขยับกายขึ้นมาหอมแก้มเนียนของคนที่ยังล่องลอยอยู่ท่ามกลางความสุขสม“ก็ยังเหมือนเดิมนะ” เพียงขวัญขมวดคิ้วมุ่น ไม่เข้าใจว่าสามีหมายถึงอะไร“อะ...อะไรคะยังเหมือนเดิม” ริมฝีปากหยักได้รูปยกยิ้มอย่างจ้าเล่ห์ แล้วก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็กบาๆ เพียงขวัญเบิกตากว้างกับสิ่งที่ได้ยิน อยากจะหยิกเนื้อคนช่างสำรวจแรงๆนัก“ก็ขวัญไม่มั่นใจ ผมเลยต้องบอกให้คุณมั่นใจไง ว่ามันเหมือนเดิม แผลฝีเย็บคุณหมอทำได้เนียนมาก แล้วตรง...” มือเล็กยกขึ้นมาปิดปากไว้ก่อนที่เขาจะพูดต่อ“พอเลยค่ะ ขวัญเพิ่งรู้ว่าคุณเหมเป็นผู้ชายขี้เม้าท์” เหมันต์หัวเราะเบาๆ“ผมรักคุณนะ” เพียงขวัญยิ้ม จับประคองใบหน้าสามีไว้ด้วยมือสองข้าง โน้มลงมาใกล้กับใบหน้าตัวเอง“ขวัญก็รักคุณเหมค่ะ” คำบอกรักแว่วหวานนัก หากแต่รสจูบกลับหวานซ่านกว่า หวานจนหัวใจสั่นสะท้าน ต่างคนต่างบรรจงถ่ายทอดความรู้สึกแห่งรักให้กันผ่านทางกาย สัมผัสอ่อนโยนทะนุถนอมราวกับว่าเธอคือสิ่งมีค่าสำหรับเขา ทำให้เพียงขวัญตอบสนองอย่างน่ารัก และเมื่อสองร่างค่อยๆหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่างเล็กก็ผวากอดรัดเอาร่างของคนตัวโตไว้เต็มอ้อมกอด
“ขา...” หญิงสาวขานรับเสียงอ่อนเสียงหวาน ด้วยเพราะเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ผู้ชาย และยิ่งเป็นมนุษย์สามีของเธอด้วยแล้ว เธอรู้สึกเห็นใจเขาอยู่ไม่น้อย“ผมจะไม่อดทนแล้วนะ” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมากระซิบบอกแนบใบหูเล็ก เพียงขวัญหัวเราะคิก เพราะสามีเป่าลมร้อนใส่หูเธอ“ลูกอยู่ด้วยนะคะ” มือบางยันบ่ากว้างไว้เมื่อคนตัวโตทำท่าว่าจะไม่อดทนแล้วจริงๆ“ผมจะทำเบาๆ” เขากำลังจะขาดใจตาย ต้องตายแน่ๆ ถ้าช้าไปกว่านี้“คุณเหม อื้อ!” จุมพิตอ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยความเร่าร้อนปิดกั้นข้ออ้างทั้งหมดจากปากเล็กของภรรยา เหมันต์ดูดซับเอาความหอมหวานที่เขาหลงใหล จ้วงลิ้นร้อนเข้าสู่โพรงปากนุ่มอุ่นที่แสนคิดถึง ตะโบมจูบเอาๆ จนสาแก่ใจจึงยอมถอนจูบ แต่ก็ยังคงอ้อยอิ่งขบเม้มกลีบปากอิ่มดูดดึงหยอกล้อไม่ยอมผละหนี“คุณเหม” เพียงขวัญเรียกสามีเบาๆ เมื่อรับรู้ว่าเขากำลังแกะกระดุมชุดนอนของตน“อืม” ชายหนุ่มขานรับในลำคอ ขณะเลื่อนใบหน้าลงซุกไซ้ลำคอหอมกรุ่น และแล้วกระดุมเม็ดสุดท้ายของชุดนอนแสนเกะกะก็หลุดออก สาบเสื้อถูกแยกออกจากกัน เพียงขวัญสะดุ้ง รีบกอบเอาใบหน้าของสามีที่กำลังจะเลื่อนลงต่ำไว้ด้วยสองมื
หลังจากนั้นไม่ว่าคุณหมอบอกให้ทำอย่างไรเธอก็ทำตาม คุณหมอบอกให้เบ่งเธอก็เบ่ง บอกให้หยุดเบ่งเธอก็หยุด เหมันต์จับจ้องใบหน้าภรรยา สลับกับมองดูคุณหมอเป็นระยะ เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตอนที่ภรรยาออกแรงเบ่งเขาเองก็ครางในลำคอช่วยเบ่งด้วยอีกแรง จนกระทั่งเสียงร้องของทารกน้อยดังขึ้น“ผู้หญิงนะคะ แข็งแรง สมบูรณ์ดีค่ะ” คุณหมออุ้มเด็กทารกน้อยที่ยังเปื้อนคราบเลือดขึ้นมา ให้ทั้งสองดูเพศของเด็กหญิงผู้เป็นสายใยรักของเขาและเธอเพียงขวัญและเหมันต์จับจ้องภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม น้ำตาเม็ดใสๆกลิ้งลงตรงหางตาของคนที่ได้เป็นแม่เต็มตัว คุณแม่คุณพ่อมือใหม่หันมาสบตากันเมื่อคุณหมอส่งทารกน้อยให้พยาบาลนำไปทำความสะอาด เหมันต์จูบซับน้ำตาให้ภรรยาเบาๆ“ขอบคุณนะครับที่รัก เมียผมเก่งที่สุดในสามโลก” เพียงขวัญยิ้มให้สามี ยิ้มด้วยความเหนื่อยล้าแต่ก็แฝงไว้ด้วยความปลาบปลื้มยินดี“ผมรักคุณนะขวัญ” เหมันต์ลูบศีรษะและปัดเส้นผมที่ระใบหน้าเนียนออกอย่างเบามือ ชายหนุ่มจุมพิตที่หน้าผากมนแทนคำขอบคุณอีกครั้ง“ขวัญก็รักคุณเหมนะคะ รักลูกสาวของเราด้วย” สองสามีภรรยายิ้มให้กัน เหมันต์แนบใบหน้ากับแก้มชื้นเหงื่อของภร
“น่ารักจะตาย” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทำให้แก้วใจหันกลับไปมอง แววตาล้อเลียนนั้นทำให้ใบหน้าสาวร้อนเห่อ“พี่ดิน เอ่อ...แก้วไปหาเพื่อนก่อนนะ” แก้วใจเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ร่างสูงใหญ่ก็เดินมาขวางไว้“ถอยไปนะ แก้วจะไปหาเพื่อน”“คุยกันให้รู้เรื่องก่อน”“ไม่เห็นมีอะไรจะต้องคุย”“มีสิ เยอะแยะเลย พี่มีเรื่องจะเล่าให้แก้วฟังเยอะแยะเลย ฟังหน่อยนะ”“อุ๊ย!” ร่างเล็กถูกดึงไปกอดแนบอก แก้วใจพยายามขืนตัวดิ้นยุกยิก แต่ก็ไม่สามารถจะหลุดพ้นจากอ้อมกอดแข็งแรงได้ บดินทร์กดศีรษะทุยเบาๆให้ใบหูเล็กแนบไปกับอกกว้าง“เดี๋ยวพ่อมาเห็น” แก้วใจอุบอิบบอก“นิดเดียวนะ พี่คิดถึงแก้วมาก ใจแทบขาด จนต้องทำงานหนักๆจะได้ลืมความคิดถึง มันเป็นความทรมานอย่างที่สุดเลยนะ แก้วรู้ไหม” แก้วใจอยากบอกเหลือเกินว่าเธอเองก็ทรมานไม่ต่างไปจากเขา คิดถึงแทบขาดใจ“แก้วก็ทรมาน คิดถึงพี่ดิน” วงแขนเรียวกอดรัดร่างใหญ่ไว้แน่น อบอุ่นและคุ้นเคย อยากอยู่แบบนี้ตลอดไป“พี่จะให้พ่อกับแม่มาสู่ขอแก้วนะ เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด”“แก้วยังไม่ได้รับปริญญาเลยนะ”“เรียนจบแล้วนี่