เพียงฟ้าแบมือทั้งสองข้างออกแล้วก้มมองดู แต่ไหนแต่ไรมา มารดาคอยสอนสั่งอยู่เสมอว่าการทำร้ายผู้อื่นเป็นนิสัยของคนพาล ไม่ควรทำ และเป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่เราจะไปทำร้ายคนอื่น เหมือนกับที่เพียงขวัญได้บอกเธอไปเมื่อสักครู่ เพราะทุกคำสอนของมารดา ท่านสอนลูกสาวสองคนเหมือนกัน ถึงแม้อีกคนไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ท่านก็เลี้ยงดูและอบรมสั่งสอนมาเหมือนกัน สิ่งที่มารดาพร่ำบอกบ่อยที่สุดเห็นจะเป็นประโยคที่ว่า แม่หวังแค่ให้ลูกทั้งสองเป็นคนดี ไม่ทำร้ายใคร ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน และเอาตัวรอดได้ก็เพียงพอแล้ว ถึงแม้จะมีนิสัยเอาแต่ใจ เพราะถูกตามใจมาแต่เล็ก ทั้งจากบิดา มารดา และพี่สาวต่างสายเลือดที่ยอมเธอมาตลอด แต่เพียงฟ้าไม่เคยทำร้ายร่างกายใคร ครั้งนี้เธอใช้สองมือทำร้ายคนอื่นได้อย่างหน้าตาเฉย เพราะอะไร เพราะเด็กสาวคนนั้นพูดถูกต้องแทงใจดำอย่างนั้นหรือ เพียงฟ้าถอนหายใจแรง เมื่อคิดถึงคำพูดของเด็กสาวที่ว่า
“ใครกันแน่พ่อแม่ไม่สั่งสอน ก็เห็นอยู่ว่าพี่เหมเขาชอบพี่ขวัญ ยังจะมาหน้าด้านอยู่ที่นี่อีก ผัวพี่สาวยังคิดจะแย่งได้อีก”
“แก้ว แก้ว หยุดก่อน” บดินทร์ปั่นจักรยานมาทันเด็กสาวต
“ก็ไม่ต้องมาบอก ไม่ต้องมาสอน ไม่ต้องมายุ่ง ปล่อยแก้วเลยนะ บอกให้ปล่อย” เด็กสาวเริ่มดิ้นรนอีกครั้ง ระดมทุบไปสุดแรงที่บ่าซึ่งตัวเองกัดจนได้แผลอย่างลืมตัว“โอ๊ย!” บดินทร์ปล่อยมือออกจากร่างเด็กสาว โอดโอยด้วยสีหน้าเหยเกเจ็บเกินจริง ชายหนุ่มกุมบาดแผลที่มีเลือดซึมไว้แน่น“พี่ดิน! เจ็บมากมั้ย แก้วขอโทษ” แก้วใจตกใจกับอาการของเขา เด็กสาวไร้เดียงสาหรือจะตามทันมารยาของชายหนุ่มผู้ผ่านโลกมามากกว่าเกือบแปดปีได้ บดินทร์ก้มหนาโอดโอยอย่างสมบทบาท ในขณะที่พยายามซ่อนยิ้มอย่างยากเย็น“เจ็บมาก แผลน่าจะอักเสบ” ชายหนุ่มงัดมารยาชายร้อยเล่มเกวียนออกมาใช้“ไปหาหมอกันเถอะ เดี๋ยวแก้วปั่นจักรยานเอง พี่ดินนั่งซ้อนท้ายไปนะคะ” เด็กสาวร้อนรนกับอาการบาดเจ็บของคนรัก พยายามฉุดให้เขาลุกขึ้นยืน บดินทร์ยิ้มเจ้าเล่ห์กระตุกแขนของคนที่ลุกขึ้นยืนให้ล้มทับลงมาบนร่างตน แล้วกอดรัดไว้แน่นอีกครั้ง“พี่ดิน!”“ครับ” เสียงขานรับรื่นเริงจนเด็กสาวเริมเอะใจ แต่ก็สายไปเสียแล้ว เมื่อบดินทร์เบี่ยงเบนประเด็นไม่ให้เธอโกรธได้สำเร็จ แถมด้วยการโอบกอดร่างที่เกยทับบนร่างตนเองไว้แน่น เพื่อจะปรับความเข้าใจกั
“ใจร้ายนะเนี่ย ทำผัวได้ลงคอ” ใบหน้านวลแดงก่ำ อะไรของเขานะ ย้ำอยู่นั่นแหละ คำว่าผัวเมียน่ะ รู้มั้ยว่ามันทำให้หัวใจเธอฟูฟ่องพองโตจนคับอกแล้วนะ เพียงขวัญอมยิ้มขณะที่จัดผักใส่จานไปเรื่อยๆ ปล่อยให้คนชอบกอด รัดร่างตัวเองไว้อย่างเอาแต่ใจ เธอชอบช่วงเวลาแบบนี้จัง ชอบความอบอุ่นจากร่างกายของเขา คิดไม่ออกเลยว่า หากสักวันต้องห่างกันเธอจะอยู่ได้อย่างไรเพียงฟ้ามองภาพชายหญิงยืนกอดกันกลมอยู่ในห้องครัวแล้วถอยหายใจเฮือกใหญ่ เหมันต์ดูจะหลงใหลพี่สาวต่างสายเลือดเธอเหลือเกิน จะยากเกินไปมั้ยถ้าเธอดึงดันจะอยู่ที่นี่เพื่อแย่งผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ใกล้ชิดเลย“ขวัญใกล้เสร็จหรือยัง ฟ้าหิวแล้วนะ” เพียงฟ้าตัดสินใจเอ่ยทำลายบรรยากาศออกไป เพียงขวัญรีบเบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอดอบอุ่น หันกลับมายิ้มและตอบน้องสาว“เสร็จแล้วจ้ะ ฟ้านั่งรอได้เลยจ้ะ คุณเหมไปนั่งรอกับฟ้าเลยนะคะ เดี๋ยวขวัญเสิร์ฟกับข้าวอร่อยๆให้ทาน” รอยยิ้มหวานของคนพูดทำให้เหมันต์ทำตามแต่โดยดี“เห็นขวัญบอกว่าพี่เหมไปใส่บาตรข้าวเหนียวทุกเช้าเหรอคะ พรุ่งนี้ขอฟ้าไปด้วยได้มั้ย ฟ้าอยากทำบุญบ้างค่ะ” เพียงฟ้าฉีกยิ้
“คุณนิธิเป็นผู้ชายอายุสี่สิบสองปี สถานภาพโสด ส่วนสูงอืม...น่าจะสูงน้อยกว่าผมสามเซ็น ก็น่าจะสูงราวๆหนึ่งร้อยแปดสิบเซ็น น้ำหนัก...อันนี้ไม่ทราบจริงๆ เอาเป็นว่าหุ่นบางกว่าผมนิดนึง ไว้ผมรองทรง แต่จัดทรงผมหวีเรียบแปล้เรียบร้อยตลอดเวลา ใส่แว่น แต่แว่นไม่หนาเท่าไรนะ หน้าตาก็พอใช้ได้ ผมว่าดูดีเลยล่ะ แต่ก็หล่อน้อยกว่าผมนะ” เพียงขวัญค้อนวงเล็กๆให้ชายหนุ่ม เธอไม่ได้อยากรู้ละเอียดซะขนาดนั้นสักหน่อย“ขวัญอยากรู้แค่ว่าเขาไว้ใจได้ใช่มั้ยคะ” เหมันต์หัวเราะในลำคอ ก่อนจะเริ่มพูดต่อ ขณะที่สายตากวาดมองไปบนถนนในยามโพล้เพล้“คุณนิธิทำงานกับคุณพ่อมานานแล้ว จนกระทั่งคุณพ่อเสีย ผมก็ได้คุณนิธินี่แหละคอยช่วยสอนงาน เป็นคนที่ผมไว้ใจที่สุดแล้ว อ้อ...คุณนิธิเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัทของเราด้วยนะห้าเปอร์เซ็น คุณพ่อโอนให้ตอนที่ท่านยังไม่เสีย ท่านรักและไว้ใจเขามาก และผมก็เชื่อว่าคุณพ่อดูคนไม่ผิด เป็นไง...สบายใจหรือยัง”“ค่ะ เอ...ว่าแต่บ้านคุณนิธิเขาอยู่ไหนคะ คุณเหมวานให้เขาไปรับฟ้าแบบนี้ ไม่ลำบากแย่หรือคะ” หญิงสาวถามอย่างเป็นกังวล“คุณนิธิอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรแถวๆถนนเลี่ยงเมือง ผมโอนก
“ขะ...ขวัญอาบเสร็จแล้วค่ะ” เพียงขวัญรีบคว้าเอาผ้าเช็ดตัวมาพันห่อกายทันทีเมื่อเห็นคนตัวโตเปิดประตูเข้ามาในห้องน้ำ หญิงสาวปิดฝักบัว เบี่ยงตัวเดินห่างเขาให้มากที่สุด เหมันต์ไหวไหล่ไม่สนใจฟังสิ่งที่หญิงสาวต้องการจะสื่อความหมาย ชายหนุ่มปลดผ้าเช็ดตัวออกจากเอวสอบ ยืนเปลือยกายปักหลักขวางประตู ปิดกั้นทางออกไม่ให้คนตัวเล็กได้หนีไปไหนได้อย่างใจ เพียงขวัญหลับตาปี๋ตั้งแต่เห็นมือเขาลดลงไปแกะปมผ้าเช็ดตัวแล้ว หญิงสาวนึกต่อว่าเขาในใจว่า ช่างหน้าไม่อายเหลือเกินที่มายืนเปลือยกายต่อหน้าเธอแบบนี้“ผมยังไม่ได้อาบเลย” เสียงทุ้มที่ดังอยู่เหนือศีรษะใกล้ๆทำให้ดวงตาที่หลับอยู่เบิกกว้าง“ตะ...แต่ขวัญอาบเสร็จแล้วค่ะ” เพียงขวัญบอกออกไปด้วยเสี่ยงสั่นๆ อยากจะก้าวถอยหลังไปอีกสักสองสามก้าว เพราะเขายืนชิดเธอเกินไป หากแต่ก็ติดตรงที่เธอยืนจนหลังพิงผนังห้องน้ำแล้วนี่แหละ“ใครที่ไหนเขาอาบน้ำกันแค่ห้านาทีเล่า ถูทุกซอกทุกมุมแล้วเหรอ ต้องไม่สะอาดแน่ๆ” เหมันต์วางมือทับลงที่สองมือน้อยซึ่งกำปมผ้าเช็ดตัวที่ห่อหุ้มเรือนกายขาวผ่องไว้แน่น“สะอาดแล้วค่ะ” คิ้วเข้มเลิกสูง ปากหยักระบายยิ้มเจ้าเล่ห์
“ขวัญ ขวัญอยู่ไหน” เพียงฟ้าเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากใช้เวลาอีกสามสิบนาทีอยู่ในนั้น หญิงสาวออกมาในสภาพผ้าขนหนูพันกายผืนเดียวและมีผ้าเล็กอีกผืนหนึ่งโพกศีรษะไว้ เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับของเพียงขวัญจึงทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างไม่พอใจ“ไปไหนของเขา จะใช้ให้มาเป่าผมให้หน่อย” หญิงสาวเดินไปเคาะประตูห้องนอนปังๆ แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ด้วยความเอะใจ เพราะรู้ดีว่าตนเองใช้เวลาในห้องน้ำค่อนข้างนาน เพียงฟ้าจึงรีบวิ่งไปที่ประตู เพื่อจะดูว่ารถยังอยู่หรือเปล่า หากแต่เมื่อเปิดประตูออกไปก็ต้องผงะ เมื่อผู้ชายที่เธอไม่เคยเห็นหน้า หวีผมเรียบแปล้สวมแว่นสายตา มายืนจังก้าอยู่ตรงประตูในท่าเตรียมเคาะพอดี สายตาภายใต้กรอบแว่นนั้นกวาดมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เพียงฟ้าได้สติในตอนที่เขาอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง หญิงสาวรีบปิดประตูกดล็อกทันที แล้ววิ่งหนีไปนั่งหลบอยู่หลังโซฟา ทั้งตกใจทั้งกลัว เพียงขวัญกับเหมันต์คงจะออกไปแล้วแน่ๆ เมื่อกี้เธอไม่เห็นรถจอดอยู่ด้านนอก คนอะไรนิสัยไม่ดีทั้งสองคนเลย ไม่รู้จักรอ นี่กะจะปล่อยให้เธออยู่บ้านคนเดียวล่ะสิ น่าเจ็บใจนักนิธิยืนหันรีหันขวางอยู่หน้าประตู พยายามเรียก
“ลุงคะ ฟ้าแต่งตัวเสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำผมแต่งหน้า เดี๋ยวลุงช่วยพาฟ้าแวะร้านเสริมสวยหน่อยนะคะ เอาร้านดีหน่อยๆนะคะ เอาแบบร้านที่อยู่ในห้างนะคะ ไม่เอาร้านริมถนน” นิธิกลอกตาเซ็งๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนหันกลับไปยิ้มให้หญิงสาว“ครับ” สุดแต่จะบัญชา หนุ่มใหญ่รับคำโดยเติมข้อความสุดท้ายในใจ แล้วเดินนำออกจากบ้านไปก่อน เพียงฟ้าก้มลงสำรวจมองตัวเอง แล้วรีบก้าวตามไป ในใจของหญิงสาวรู้สึกแปลกๆที่ต้องเดินทางไปกับลุงแก่ๆ ที่เพิ่งจะเจอหน้ากัน แต่ดันเห็นร่างกายเธอไปทุกสัดส่วนเสียแล้วนิธิยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเป็นรอบที่สิบเห็นจะได้ เมื่อต้องนั่งรอสาวสวยแต่งหน้าทำผมอยู่ในร้านนานร่วมสองชั่วโมงแล้ว หญิงสาวสั่งโน่นสั่งนี่ เปลี่ยนคำสั่งกลางอากาศทั้งๆที่ช่างทำเกือบเสร็จ ดูน่ารำคาญจนเขาชักจะทนไม่ไหว หากแต่เพียงฟ้ากลับไม่สนใจท่าทางกระวนกระวายของหนุ่มใหญ่ เธอเห็นท่าทางนั้นเพราะปรายตามองดูเขาหลายครั้งแล้วเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ทำให้นิธิลุกขึ้น เดินออกไปรับสายด้านนอกร้าน หนุ่มใหญ่เป็นฝ่ายฟังแล้วก็รับคำเสียมากกว่าที่จะพูดโต้ตอบอะไรออกไป หลังจากวางสายเขาถอนหายใจยาวอย่างอึดอัด คุณเ
“ลุงคิดจะทำอะไร นี่จะพาฟ้ามาทำมิดีมิร้ายเหรอ แก่แล้วไม่รู้จักเจียมตัว คอยดูเถอะฟ้าจะฟ้องพี่เหม ลุงต้องโดนไล่ออกจากงานแน่ๆ ลุง! นี่ลุงออกมาเดี๋ยวนี้ ออกมาพาฟ้าไปหาพี่เหมเดี๋ยวนี้” เพียงฟ้าตะโกนลั่น หญิงสาวยืนกำหมัดแน่นไม่ยอมเดินตามเข้าไปในบ้าน เพียงฟ้ามองประตูบ้านกับประตูรั้วสูงตระหง่านสลับกัน หญิงสาววิ่งไปเขย่าๆประตูรั้ว พยายามจะเลื่อนให้มันเปิดออก แต่ก็ไม่เป็นผลใดๆ ทั้งโกรธทั้งโมโห“โทรหาขวัญ ใช่เราต้องโทรหาขวัญ” มือบางควานลงไปในกระเป๋าถือใบใบเล็กของตนอย่างร้อนรน“ไม่มี ไม่มี หายไปไหน อยู่ไหนนะ” ด้วยความร้อนใจเพียงฟ้าจึงเททุกอย่างในกระเป๋าออกมากองกับพื้น หญิงสาวทรุดนั่งลงอย่างหมดหวัง เมื่อไม่มีโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าจริงๆ อีตาลุงนั่นต้องขโมยเอาโทรศัพท์ของเธอไปตอนที่หลับอยู่แน่ๆ ดวงตาที่ลุกโชนไปด้วยความโกรธมองไปยังประตูรั้วอีกครั้ง เมื่อหมดหนทางที่จะออกไปจากที่นี่ เธอก็จะเข้าไปสู้กันให้รู้ดำรู้แดง กะอีแค่ลุงแก่ๆจะมีปัญญาอะไรมาสู้กับเธอได้ หญิงสาวเหลียวมองรอบกายเพื่อหาอะไรที่พอจะเอามาเป็นอาวุธป้องกันตัวร่างบางที่ก้าวเข้ามาในบ้านพร้อมกับท่อนไม้แห้งเล็กๆทำให้นิธิหัว
เพื่อปกป้องเจ้านายที่ถูกผู้มีพระคุณฝากฝังไว้ก่อนสิ้นใจ เขาคงต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเสียแล้ว“คุณก็จะหมดสิทธิ์เป็นเมียคุณเหม” น้ำเสียงเข้มจริงจังและสายตาที่กวาดมองเธอไปทั้งร่างอย่างประเมิน ทำให้เพียงฟ้าผงะ กระถดกายหนีจนหลังชนฝา ฝืนยันกายลุกขึ้นยืนโดยใช้หลังพิงผนังไว้“ไอ้บ้า อย่าทำอะไรบ้าๆนะ ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย กรี๊ด!” มือใหญ่ฉีกดึงชุดสวยออกอย่างไม่ปราณี หญิงสาวดิ้นรนทั้งถีบทั้งเตะแต่ก็ทำได้ไม่ถนัดเพราะยังรู้สึกเจ็บจากการถูกทุ่มลงพื้น จนกระทั่งไม่เหลือผ้าผ่อนติดกายสักชิ้น เพียงฟ้าจึงยืนหอบหายใจหนักใช้สองมือปิดส่วนสงวนของกายสาวไว้พัลวัน จ้องมองหน้าคนเปลือยท่อนบนด้วยความเกลียดความกลัวสุดขีด นิธิยกยิ้มสะใจ ผู้หญิงร้ายกาจก็ต้องเจอคนร้ายกาจอย่างเขานี่แหละถึงจะสาสม“กรี๊ด! อื๊อๆๆ” ร่างใหญ่โถมกายตรึงร่างบางกับผนัง ใช้ริมฝีปากประกบปิดปากบาง กดทับรุนแรงจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บจนต้องเผยอปากออก เปิดโอกาสให้ลิ้นร้อนล่วงล้ำเข้าไปสำรวจโพรงปากนุ่มอย่างอุกอาจ ผิวเนื้อเนียนนุ่มถูกลูบคลำสำรวจไปทั่วทุกตารางนิ้ว ทรวงอกอวบถูกบีบเคล้นรุนแรงตามอารมณ์ร้อนของคนตัวใหญ่ ก่อนจะเลื่อนต่ำ
“สวัสดีค่ะพี่ขวัญ” แก้วใจยกมือไหว้ เด็กชายที่เดินตามหลังมาก็ยกมือไหว้หญิงสาวเช่นกัน“สวัสดีจ้ะแก้ว กลับมาเยี่ยมบ้านเหรอ มากี่วัน แล้วนั่นมากับใครอ่ะ พี่ขวัญไม่เคยเห็นเลย แต่หน้าคุ้นๆนะ” แก้วใจหัวเราะเสียงใส กับคำถามที่รัวมาเป็นปืนกล“แก้วกลับมาเยี่ยมบ้านสามวันค่ะพี่ขวัญ พรุ่งนี้กลับตอนเย็นๆ แล้วนี่...” แก้วใจดันบ่าของเด็กชายวัยสิบสี่ปีให้มายืนต่อหน้าเพียงขวัญ“บุรินทร์ หรือ แดนค่ะ เป็นน้องชายของพี่ดิน” เด็กชายบุรินทร์ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ใบหน้าที่ฉายแววหล่อเข้มระบายยิ้มน้อยๆอย่างมีเสน่ห์ เพียงขวัญสบสายตาคมของเด็กชายแล้วยิ้มหวานให้อย่างรู้สึกถูกชะตา“สวัสดีครับพี่ขวัญ”“สวัสดีจ้ะหนุ่มน้อย พี่ขวัญไม่เคยรู้เลยนะเนี่ยว่าพี่ดินมีน้องชายด้วย แดนอายุเท่าไรคะ”“สิบสี่ปีครับ”“โอ้โห! ห่างกับพี่ดินตั้งสิบสามปีแน่ะ” เด็กชายบุรินทร์ยิ้มน้อยๆกับท่าทางแปลกใจของพี่สาวคนสวยตรงหน้า“ตอนแรกแก้วก็ตกใจเหมือนพี่ขวัญนี่แหละค่ะ คุณพ่อคุณแม่พี่ดินบอกว่าแดนเป็นลูกหลง”“ไม่ได้หลงนะครับพี่แก้ว คุณพ่อบอกว่าตั้งใจ” แก้วใจหันไปสบตาหนุ่มน้อยแล้วหันกล
“อยากรักขวัญทั้งวันทั้งคืน ห่างไปตั้งนาน แทบจะลงแดงตาย” เหมันต์กระซิบเสียงพร่าขณะที่พรมจูบไปทั่วใบหน้าภรรยาแล้วมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากนุ่มหวานละมุนลิ้น เพียงขวัญไม่ขัดสามี เธอเข้าใจและเห็นใจเขา หญิงสาวจูบตอบ กอดรัดเขาไว้แน่น ขยับสะโพกรับจังหวะรุกจากเขาอย่างเท่าเทียม บทเพลงรักเร่าร้อนจากคนช่างเรียกร้องทำเอาคุณแม่ยังสาวแทบจะละลายกลายเป็นวุ้นคาอกสามี เพียงขวัญกรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะถูกส่งไปยังปลายทางของห้วงอารมณ์รักนับครั้งไม่ถ้วน เหมันต์เก็บตกจัดเต็มทุกท่วงท่า เท่าที่ห้องน้ำจะเอื้ออำนวยให้เขาทำได้ สุดท้ายจบลงที่อ่างอาบน้ำ ชายหนุ่มชำระล้างร่างกายให้ตนเองและภรรยาหลังจากจบสิ้นภารกิจทวงคืนพื้นที่ส่วนตัวจากลูกสาวตัวน้อย กว่าเขาจะพาร่างอ่อนปวกเปียกออกมาจากห้องน้ำก็ล่วงเลยเวลาไปเกือบสามชั่วโมงเพียงขวัญในชุดนอนใหม่หลับสนิททันทีที่หัวถึงหมอน เหมันต์จูบหน้าผากมนแผ่วเบา รู้สึกรักและหวงแหนเธอมากกว่าที่เคยรู้สึก“ผมรักคุณนะขวัญ” แววตาอ่อนโยนทอดมองใบหน้าของภรรยาอย่างแสนรักเสียงอ้อแอ้ของลูกสาวทำให้เหมันต์ละสายตาจากภรรยา ชายหนุ่มลุกไปหยิบขวดนมที่เตรียมการเอาออกมาจากตู้เย็นตั
“ขวัญ” เหมันต์ขยับกายขึ้นมาหอมแก้มเนียนของคนที่ยังล่องลอยอยู่ท่ามกลางความสุขสม“ก็ยังเหมือนเดิมนะ” เพียงขวัญขมวดคิ้วมุ่น ไม่เข้าใจว่าสามีหมายถึงอะไร“อะ...อะไรคะยังเหมือนเดิม” ริมฝีปากหยักได้รูปยกยิ้มอย่างจ้าเล่ห์ แล้วก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็กบาๆ เพียงขวัญเบิกตากว้างกับสิ่งที่ได้ยิน อยากจะหยิกเนื้อคนช่างสำรวจแรงๆนัก“ก็ขวัญไม่มั่นใจ ผมเลยต้องบอกให้คุณมั่นใจไง ว่ามันเหมือนเดิม แผลฝีเย็บคุณหมอทำได้เนียนมาก แล้วตรง...” มือเล็กยกขึ้นมาปิดปากไว้ก่อนที่เขาจะพูดต่อ“พอเลยค่ะ ขวัญเพิ่งรู้ว่าคุณเหมเป็นผู้ชายขี้เม้าท์” เหมันต์หัวเราะเบาๆ“ผมรักคุณนะ” เพียงขวัญยิ้ม จับประคองใบหน้าสามีไว้ด้วยมือสองข้าง โน้มลงมาใกล้กับใบหน้าตัวเอง“ขวัญก็รักคุณเหมค่ะ” คำบอกรักแว่วหวานนัก หากแต่รสจูบกลับหวานซ่านกว่า หวานจนหัวใจสั่นสะท้าน ต่างคนต่างบรรจงถ่ายทอดความรู้สึกแห่งรักให้กันผ่านทางกาย สัมผัสอ่อนโยนทะนุถนอมราวกับว่าเธอคือสิ่งมีค่าสำหรับเขา ทำให้เพียงขวัญตอบสนองอย่างน่ารัก และเมื่อสองร่างค่อยๆหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่างเล็กก็ผวากอดรัดเอาร่างของคนตัวโตไว้เต็มอ้อมกอด
“ขา...” หญิงสาวขานรับเสียงอ่อนเสียงหวาน ด้วยเพราะเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ผู้ชาย และยิ่งเป็นมนุษย์สามีของเธอด้วยแล้ว เธอรู้สึกเห็นใจเขาอยู่ไม่น้อย“ผมจะไม่อดทนแล้วนะ” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมากระซิบบอกแนบใบหูเล็ก เพียงขวัญหัวเราะคิก เพราะสามีเป่าลมร้อนใส่หูเธอ“ลูกอยู่ด้วยนะคะ” มือบางยันบ่ากว้างไว้เมื่อคนตัวโตทำท่าว่าจะไม่อดทนแล้วจริงๆ“ผมจะทำเบาๆ” เขากำลังจะขาดใจตาย ต้องตายแน่ๆ ถ้าช้าไปกว่านี้“คุณเหม อื้อ!” จุมพิตอ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยความเร่าร้อนปิดกั้นข้ออ้างทั้งหมดจากปากเล็กของภรรยา เหมันต์ดูดซับเอาความหอมหวานที่เขาหลงใหล จ้วงลิ้นร้อนเข้าสู่โพรงปากนุ่มอุ่นที่แสนคิดถึง ตะโบมจูบเอาๆ จนสาแก่ใจจึงยอมถอนจูบ แต่ก็ยังคงอ้อยอิ่งขบเม้มกลีบปากอิ่มดูดดึงหยอกล้อไม่ยอมผละหนี“คุณเหม” เพียงขวัญเรียกสามีเบาๆ เมื่อรับรู้ว่าเขากำลังแกะกระดุมชุดนอนของตน“อืม” ชายหนุ่มขานรับในลำคอ ขณะเลื่อนใบหน้าลงซุกไซ้ลำคอหอมกรุ่น และแล้วกระดุมเม็ดสุดท้ายของชุดนอนแสนเกะกะก็หลุดออก สาบเสื้อถูกแยกออกจากกัน เพียงขวัญสะดุ้ง รีบกอบเอาใบหน้าของสามีที่กำลังจะเลื่อนลงต่ำไว้ด้วยสองมื
หลังจากนั้นไม่ว่าคุณหมอบอกให้ทำอย่างไรเธอก็ทำตาม คุณหมอบอกให้เบ่งเธอก็เบ่ง บอกให้หยุดเบ่งเธอก็หยุด เหมันต์จับจ้องใบหน้าภรรยา สลับกับมองดูคุณหมอเป็นระยะ เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตอนที่ภรรยาออกแรงเบ่งเขาเองก็ครางในลำคอช่วยเบ่งด้วยอีกแรง จนกระทั่งเสียงร้องของทารกน้อยดังขึ้น“ผู้หญิงนะคะ แข็งแรง สมบูรณ์ดีค่ะ” คุณหมออุ้มเด็กทารกน้อยที่ยังเปื้อนคราบเลือดขึ้นมา ให้ทั้งสองดูเพศของเด็กหญิงผู้เป็นสายใยรักของเขาและเธอเพียงขวัญและเหมันต์จับจ้องภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม น้ำตาเม็ดใสๆกลิ้งลงตรงหางตาของคนที่ได้เป็นแม่เต็มตัว คุณแม่คุณพ่อมือใหม่หันมาสบตากันเมื่อคุณหมอส่งทารกน้อยให้พยาบาลนำไปทำความสะอาด เหมันต์จูบซับน้ำตาให้ภรรยาเบาๆ“ขอบคุณนะครับที่รัก เมียผมเก่งที่สุดในสามโลก” เพียงขวัญยิ้มให้สามี ยิ้มด้วยความเหนื่อยล้าแต่ก็แฝงไว้ด้วยความปลาบปลื้มยินดี“ผมรักคุณนะขวัญ” เหมันต์ลูบศีรษะและปัดเส้นผมที่ระใบหน้าเนียนออกอย่างเบามือ ชายหนุ่มจุมพิตที่หน้าผากมนแทนคำขอบคุณอีกครั้ง“ขวัญก็รักคุณเหมนะคะ รักลูกสาวของเราด้วย” สองสามีภรรยายิ้มให้กัน เหมันต์แนบใบหน้ากับแก้มชื้นเหงื่อของภร
“น่ารักจะตาย” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทำให้แก้วใจหันกลับไปมอง แววตาล้อเลียนนั้นทำให้ใบหน้าสาวร้อนเห่อ“พี่ดิน เอ่อ...แก้วไปหาเพื่อนก่อนนะ” แก้วใจเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ร่างสูงใหญ่ก็เดินมาขวางไว้“ถอยไปนะ แก้วจะไปหาเพื่อน”“คุยกันให้รู้เรื่องก่อน”“ไม่เห็นมีอะไรจะต้องคุย”“มีสิ เยอะแยะเลย พี่มีเรื่องจะเล่าให้แก้วฟังเยอะแยะเลย ฟังหน่อยนะ”“อุ๊ย!” ร่างเล็กถูกดึงไปกอดแนบอก แก้วใจพยายามขืนตัวดิ้นยุกยิก แต่ก็ไม่สามารถจะหลุดพ้นจากอ้อมกอดแข็งแรงได้ บดินทร์กดศีรษะทุยเบาๆให้ใบหูเล็กแนบไปกับอกกว้าง“เดี๋ยวพ่อมาเห็น” แก้วใจอุบอิบบอก“นิดเดียวนะ พี่คิดถึงแก้วมาก ใจแทบขาด จนต้องทำงานหนักๆจะได้ลืมความคิดถึง มันเป็นความทรมานอย่างที่สุดเลยนะ แก้วรู้ไหม” แก้วใจอยากบอกเหลือเกินว่าเธอเองก็ทรมานไม่ต่างไปจากเขา คิดถึงแทบขาดใจ“แก้วก็ทรมาน คิดถึงพี่ดิน” วงแขนเรียวกอดรัดร่างใหญ่ไว้แน่น อบอุ่นและคุ้นเคย อยากอยู่แบบนี้ตลอดไป“พี่จะให้พ่อกับแม่มาสู่ขอแก้วนะ เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด”“แก้วยังไม่ได้รับปริญญาเลยนะ”“เรียนจบแล้วนี่
“พี่ดินเป็นเกษตรอำเภอที่นี่ ยังโสด ไม่มีแฟน ฉันแอบไปสัมภาษณ์พี่เขามาแล้ว คนอะไรดูไกลๆก็หล่อ ยิ่งพอไปดูใกล้ๆนะแกเอ๊ย! ฉันนี้แทบละลาย” เพื่อนสาวที่นั่งร่วมโต๊ะเอ่ยด้วยใบหน้าเพ้อฝันแก้วใจใบหน้าบูดบึ้งลงทันทีที่เพื่อนพูดจบ อะไรกัน โสดเหรอ ไม่มีแฟน อ้อ! ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งแล้วนี้ คงลืมเด็กกะโปโลอย่างเธอแล้วล่ะสิ หญิงสาวจับจ้องมองแผ่นหลังกว้างราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ผู้ชายนิสัยเสีย รักง่ายหน่ายเร็ว ไหนบอกว่าจะรอ ไหนบอกว่ารักแก้วคนเดียว มือบางเผลอยกขึ้นถูแก้มเนียนแรงๆด้วยความโกรธ แก้มเนียนข้างนี้ไงที่ถูกเขาหอมฟอดใหญ่ เธอยังจำสัมผัสร้อนผ่าวนั้นได้ดี ทั้งที่ไม่ควรจะจำเลย เพราะเขาเองก็คงลืมเธอไปแล้ว เจ็บใจที่สุด“เฮ้ย! แก้วเป็นอะไรถูแก้มจนแดงเถือกไปหมดแล้ว” แก้วใจชะงักมือน้อย กวาดสายตามองเพื่อนที่จ้องเธอเป็นตาเดียวกัน“เอ่อ...ไม่มีอะไร เราขอตัวแป๊บนึงนะ” หญิงสาวลุกขึ้นเดินหนีไปจากกลุ่มเพื่อน เมื่อมาถึงหลังบ้านที่มีต้นมะขามใหญ่ และมีชิงช้าผูกกิ่งมะขามไว้สำหรับนั่งเล่น แก้วใจก็นั่งลงบนชิงช้าเหม่อมองออกไปยังทุ่งกว้างหลังบ้าน“มีอะไรหรือเปล่าลูก” แม่ติ๋มสังเกตเห
“ฟ้าเป็นอะไรก็ไม่รู้ น่าอายจังเลย” เพียงฟ้าซุกหน้ากับอกสามีอย่างอับอายเธอร่านร้อนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พอเช้ามาก็ยังใจกล้ากินสามีด้วยท่าทางน่าอายแบบนั้นอีก“อายทำไม เป็นผัวเมียกันเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ”“แต่ฟ้าเริ่มเองทุกครั้งเลย ลุงนิเต็มใจหรือเปล่าก็ไม่รู้”“เต็มใจที่สุด และชอบที่ฟ้าเป็นแบบนี้มากๆค่ะ” นิธิจูบขมับสวย ลูบไล้แผ่นหลังเนียนเบาๆ“ลุงนิอย่ามาใกล้ฟ้าบ่อยๆนะคะ เวลาได้กลิ่นลุงนิแล้ว ฟ้าจะรู้สึกอยากรักทุกทีเลย” เพียงฟ้าพูดอย่างไม่อาย เธอกลัวกว่าสามีจะหาว่าเธอมักมากในเพศรส“จะเข้าใกล้บ่อยๆ จะอยู่ใกล้ๆทั้งวัน ลุงนิอยากให้ฟ้ารัก” เพียงฟ้าเงยหน้ามองสามี ตากลมโตเบิกกว้าง“ได้ทีเลยนะคะ” แก้มป่องๆหน้างอนๆ ทำให้นิธิกดจมูกโด่งหอมแรงๆ“ก็คนมันอดมานานนี่นา”“ตาแก่ลามก” นิธิหัวเราะจนอกกระเพื่อม“ใครแก่คะ แถวนี้มีแต่คนเหล็กฆ่าไม่ตาย” มือใหญ่จับมือเล็กให้สัมผัสลำกายที่ขยายพองอีกแล้ว“ฆ่าไม่ตายจริงด้วย เดี๋ยวฟ้าจะจัดการมันเองนะคะ” นิธิเต็มใจยิ่งกว่าเต็มใจ ยอมให้ภรรยาจัดการโดยไม่มีปากเสียงใดๆ แบบนี้ดีจัง
“โอ๋ๆ ไม่เอาไม่ร้อง เดี๋ยวนี้เลยจ้ะ แต่ต้องช้าๆ ระวังหน่อยนะคะ” ร่างสูงขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ดึงสองขาเรียวมาพาดบนท่อนแขนแกร่ง โหย่งกายเข้าหา ค่อยๆสอดแทรกเชื่องช้า เพียงฟ้าหงุดหงิดจนต้องยันกายลุกขึ้น นั่งคร่อมร่างใหญ่ มือบางจับบ่าแกร่งสองข้างไว้แน่น ก่อนกดสะโพกแรงๆคราเดียวจนสุดทาง“อ๊าย!” ใบหน้าสวยแหงนเชิดไปด้านหลัง ทั้งเจ็บจุกแต่เสียวซ่านสะใจ“ฟ้า!” นิธิรวบกอดเอาร่างที่แอ่นโค้งไว้แน่น เรียกเธอด้วยน้ำเสียงร้อนรน เพราะเกรงว่าภรรยาจะเจ็บมาก“ดีจังเลยค่ะลุงนิ ฟะ...ฟ้าขยับนะคะ ได้ไหม” นิธิเบิกตากว้าง รีบพยักหน้ารับเร็วๆ“ได้ค่ะ ขยับได้เลยตามใจฟ้า” หนุ่มใหญ่ละล่ำละลักตอบด้วยน้ำเสียงยินดี เมื่อได้รับคำอนุญาตเพียงฟ้าก็ขยับร่ายรำอย่างใจต้องการ สะโพกสวยกดแรงไม่กลัวเจ็บ ส่ายร่อนหมุนวนในจังหวะที่ตนเองพอใจ ใบหน้าหวานก้มลงจูบสามีอย่างที่เขาทำกับตัวเอง เสียงครางอื้ออึงในลำคอของคนทั้งสองดังประสานกับเสียงเนื้อหนังกระทบกันในจังหวะเร่าร้อน อกอวบเสียดสีไปกับแผ่นอกกว้าง เพียงฟ้าจิกเล็บลงบนบ่าแกร่ง หญิงสาวกำลังโจนทะยานไปสู่จุดสุดยอดของบทเพลงกามา ใบหน้าสวยหวานสะบัดหนีจูบของสามี คร