เสียงทอดถอนใจที่ดังขึ้นหลายครั้งหลายหนภายในห้องทำงานอันโอ่โถงทำให้นายย้งซึ่งเดินถือถ้วยชาเข้ามาเดินเข้าไปใกล้ร่างของชายวัยกลางคนผิวขาวในชุดลำลองกำลังยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงขณะยืนมองออกไปทางหน้าต่างซึ่งเบื้องนอกนั่นปรายฟ้ากำลังเพลิดเพลินอยู่กับการจัดดอกไม้ลงแจกันโดยมีก้องกาจผู้ซึ่งเกือบได้เป็นเจ้าบ่าวของเธอนั่งอยู่ใกล้ ๆ ที่โต๊ะสนามภายในสวนซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรเป็นเวลาเกือบสัปดาห์แล้วที่บุตรสาวของเขากลับมาอยู่บ้านโดยที่เขาก็ยังมิได้ตั้งคำถามอันใดในช่วงเวลาที่เธอหายไปแม้สักคำถามเดียว นรายังรู้สึกประหลาดใจในอากัปกิริยาหลายอย่างของปรายฟ้าตั้งแต่กลับมาในคราวนี้บุตรสาวแสนสวยของเขาไร้ซึ่งท่าทีหวาดกลัวอย่างที่คนถูกลักพาตัวพึงจะเป็น ลักษณะนิสัยก็เปลี่ยนไปมากจนเขาคิดว่าเธอยังเป็นปรายฟ้าคนเดิมอยู่หรือไม่ กลางวันชอบอยู่ในสวนและนั่งจัดดอกไม้ได้ไม่มีเบื่อ บางครั้งเขาเห็นรอยยิ้มอย่างมีความหวังอะไรบางอย่างระบายอยู่บนใบหน้าหวานในโมงยามที่เธออยู่ลำพัง“คุณท่านเป็นอะไรหรือขอรับ...หลายวันมานี้ตั้งแต่คุณปรายกลับมาดูคุณท่านยังไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่เลย”คนขับรถซึ่งพ่วงตำแหน่งคนสนิทของนรากล่า
“มีคนขอร้องให้ปรายไปช่วยดูแลเขาค่ะ คน ๆ นั้นป่วยหนักเป็นโรคซึมเศร้า เขาต้องการกำลังใจเพราะประสบกับความผิดหวังในชีวิตแม้แต่ยาวิเศษขนานใดในโลกก็ช่วยเยียวยาเขาไม่ได้ สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคือ คนที่เข้าใจเขา”“พี่จะพยายามเข้าใจสิ่งที่ปรายบอกพี่...คนป่วยที่ปรายไปคอยดูแลเขา เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย?”“ผู้หญิงค่ะ...”หญิงสาวตอบด้วยท่าทีอันเรียบเฉยหากแต่ก็จับสังเกตเห็นว่าก้องกาจมิได้สนใจในสิ่งที่เธอพูดก่อนจะหยิบดอกไม้บนโต๊ะขึ้นมาไว้ในมือและมองสีสันบนกลีบใบนั้นอย่างมีความหมาย“ผู้หญิงคนนั้น...เธอเป็นคนที่น่าสงสารมาก เธอถูกคนรักของเธอทิ้งไปอย่างไม่ใยดี เธอต้องเสียลูกและเสียสติ เกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะทุ่มเทจิตใจให้คนรัก ในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ปรายควรสงสารเธอหรือเปล่าคะ พี่ก้อง”“ปราย...” ก้องกาจครางออกมาพลางดึงมือเรียวบางนั้นมากุมไว้ราวไม่ใส่ใจต่อคำบอกเล่าของอีกฝ่าย“พี่จะไม่ติดใจกับเหตุการณ์ที่มันผ่านไปแล้วหรอกนะ คนพวกนั้นจะเป็นใครพี่ไม่อยากสนใจ แต่ตอนนี้พี่อยากคุยกับปรายเรื่องระหว่างเรา”ชายหนุ่มรุกเร้าหญิงสาวอย่างไม่คิดปิดบัง สำหรับเขาไม่ต้องการรอคอยคำตอบที่ต้องใช้เวลานานทั้งที่ไม่มี
“ถึงปรายจะพูดกับคุณลุง คำตอบที่ได้ก็จะยังคงเดิม หนำซ้ำอาจจะทำให้ท่านไม่สบายใจไปอีก สู้ปรายอยู่นิ่ง ๆ ทำตามความต้องการของท่าน พี่คิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด” “ทางออกที่ดีที่สุดไม่ใช่การอยู่นิ่งเฉยค่ะพี่ก้อง...อย่างน้อยที่สุดปรายควรจะได้พูดกับคุณพ่อในเรื่องที่ปรายไม่เคยรู้ อย่างน้อยที่สุดปรายก็ควรจะได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจของคุณพ่อได้บ้าง แม้จะสายมากไปแล้วก็ตาม!” คนดื้อดึงหันหลังเดินกลับเข้าไปยังคฤหาสน์อันโอ่อาโดยมีสายตาเครียดขึ้งของก้องกาจมองตามหลัง ชายหนุ่มลุแก่โทสะด้วยการกวาดช่อดอกไม้บนโต๊ะลงไปกระจัดกระจายบนพื้นหญ้า เขาเริ่มมองเห็นแล้วว่าปรายฟ้าหาใช่ลูกไก่ตัวน้อยไม่ บางทีเขาอาจประเมินหญิงสาวผิดตั้งแต่ต้นก็เป็นได้ หากแต่ตอนนี้ความต้องการเอาชนะคะคานทำให้เขาต้องมองเธอด้วยความรู้สึกต่างไปจากเดิม “ปราย...ปรายไม่มีทางเลือกอื่นหรอก แล้วปรายก็จะต้องพบคำตอบในท้ายที่สุดว่าไม่มีใครช่วยปรายได้ นอกจากก้องกาจคนนี้!” “คุณปรายฟ้าจะไปที่บริษัทอัครินทรหรือครับ?” นายย้งเอ่ยถามคุณหนูของเขาซึ่งนั่งอยู่บนเบาะหลังขณะหักพวงมาลัยรถเก๋งสุดหรูพ
เขมราช อัครินทร ประธานกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ อัครินทร ไพรม์ เอสเตท เขาหาใช่โจรป่าห้าร้อยที่เธอเคยสาปส่งอยากหนีไปให้ไกลซึ่งท้ายที่สุดเขาคือผู้ยึดเอาหัวใจของเธอไปไว้หมดทั้งดวง “คุณเขม...ทำไมคุณไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับปราย หรือการแก้แค้นให้น้องสาวของคุณยังไม่จบสิ้น คุณเลยอยากให้ปรายเจ็บปวดแบบนี้ ปรายรักคุณค่ะ...คุณเขม ปรายรักคุณ” เสียงร่ำร้องของปรายฟ้าอื้ออึงอยู่ภายในตลอดเวลาที่เธอกำลังมุ่งหน้าไปสู่จุดหมาย นั่นคือบริษัทอัครินทร เพียงเพื่อจะรับรู้ความจริงด้วยตัวของเธอเองว่า เขา คือ คน ๆ เดียวกับที่บิดาเอ่ยถึงจริงล่ะหรือ หญิงสาวคล้ายคนกำลังวิ่งหาทางไปซึ่งทุกทางล้วนเชื่อมต่อถึงกันเหมือนเขาวงกต แต่ไม่พบทางออกเลยแม้แต่ทางเดียว บัดนี้กายเธอเป็นอิสระ ได้เสรีภาพดังที่วาดหวัง อนิจจา...หัวใจกลับถูกกักขังด้วยข้อตรวนเส้นใหม่ที่ดูจะร้อยรัดแน่นหนายิ่งกว่าเดิม แล้วเธอควรต้องยอมจำนนต่อสิ่งที่กำลังจะเผชิญอีกครั้งหรือไม่ “สวัสดีค่ะ...ต้องการพบท่านประธานหรือคะ?...ไม่ทราบว่านัดท่านไว้ล่วงหน้าหรือเปล่าคะ?”จิดาภาเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจเมื่อเงยหน้า
“ผมคือ เขมราช อัครินทร เจ้าของอัครินทร ไพรม์ เอสเตท นี่เป็นความจริงที่ผมไม่เคยบอกคุณ”“หรือคะ?...” ผู้รับฟังขานเรียบเสียงแหบโหยพร้อมเหยียดรอยยิ้มทั้งน้ำตา เธอกำลังเย้ยเยาะหัวใจตัวเองที่ยินดีตกเป็นข้าความรักโดยมิเคยสำเหนียกถึงด้านมืดของมันแม้แต่น้อย“แล้วมีความจริงอะไรที่คุณยังไม่ได้บอกปรายอีก อย่างเช่น...คุณแค่หลอกให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องรอผู้ชายที่สัญญาว่าเขาจะกลับมาหาเธอ บอกเธอว่าเขาจะไม่ทอดทิ้งเธอ แค่รักษาคำมั่นสัญญาว่าจะรอคอย...เท่านั้น”หญิงสาวยังคงปล่อยให้หยดน้ำใสร่วงรินออกมาจากดวงตาอันสิ้นหวังด้วยมิอาจระงับความเสียใจนั้นไว้ได้เลย เธอแค่ภาวนาว่าอย่าให้ความลวงหลอกนั้นทำร้ายความรู้สึกของเธอไปมากกว่านี้ หากก็ดูเหมือนไร้ผล เพราะความเป็นจริงได้ปรากฏแล้วว่าความลุ่มหลงและไว้ใจกำลังฉีกเธอออกเป็นชิ้น ๆ“ปราย...” เขมราชก็เกินจะยับยั้งความรู้สึกในวินาทีนั้น ชายหนุ่มดึงร่างบางมาไว้ในอ้อมแขนและกอดเธอเอาไว้หากแต่กลับสัมผัสได้เพียงลมหายใจที่เปล่าว่าง ความโกรธเกลียดและชิงชังในตัวเองทำให้ปรายฟ้าแน่นิ่งอยู่กับอกกว้างที่เคยอบอุ่นซึ่งบัดนี้มันเป็นเพียงผาหินน้ำแข็งที่แม้ได้แนบเนากลับซึมซับได้แค่ความเหน
“สวัสดีค่ะ...โทษทีนะคะที่เข้ามาขัดจังหวะ อัญแค่จะมาชวนแฟนอัญไปทานมื้อเที่ยงน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าเสร็จธุระกันรึยัง?” หญิงสาวใบหน้าเย้ายวนถามออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทว่าแววตาคู่นั้นกลับแฝงไว้ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ เช่นกันโดยผู้ตั้งคำถามอาจไม่รู้ว่าเสียงของเธอที่บาดทะลุเข้าไปในโสตประสาทของผู้ฟังกำลังจะทำให้ผู้ที่ได้สดับเบื้องหน้าแทบล้มทั้งยืน “เรียบร้อยแล้วค่ะ...”ปรายฟ้าแข็งใจตอบและแสดงความเข้มแข็งออกมาด้วยการเชิดหน้าประสานสายตากับเจ้าของนัยน์ตาเข้มที่บัดนี้ขุ่นคลั่กราวกำลังเก็บเชื้อระเบิดรอการปะทุซ้ำ การมาของอัญชิสาอาจทำให้เขาตกใจบ้างแต่ก็ไม่เท่าความคั่งแค้นที่สุมอยู่แน่นอกต่อความอวดดีของหญิงสาวตรงหน้า เขารู้ว่าปรายฟ้าใช่แต่จะพูดประชดประชันเพราะชายหนุ่มเคยเห็นความดื้อรั้นดึงดันของผู้หญิงที่ไม่เคยมีใครรู้ว่าเป็น เมีย ของเขามาก่อนหน้า“เชิญพวกคุณตามสบาย...เพราะดิฉันกับคุณเขมราช แฟนของคุณ...”“อัญชิสาค่ะ...เรียกอัญ เฉย ๆ ก็ได้นะคะ”“ค่ะ...คุณอัญชิสา ดิฉันกับเขาไม่มีอะไรที่ต้องคุยกันอีกแล้ว...ขอบคุณมากค่ะคุณเขมราชที่สละเวลา”ร่างเพรียวระหงทิ้งน้ำเสียงเหินห่างเย็นชาเอาไว้เบ
เลขาสาวกลอกตาอย่างไม่เข้าใจว่าวันนี้เป็นวันอะไร ก่อนหน้านี้ไม่นานสาวสวยทายาทเจ้าของโรงแรมดังเดินกลับออกมาโดยไม่กล่าวว่ากระไรหากแต่สีหน้าบ่งบอกความในใจที่ไม่ปกติ ถัดจากนั้นไม่ถึงห้านาทีสาวสวยซึ่งเคยเป็นคู่ควงเก่าของเจ้านายก็เดินกระฟัดกระเฟียดตามออกมาอีกคนจนเธอต้องนั่งทบทวนว่ามีเรื่องใดเกิดขึ้นกันแน่“เฮอะ!...คู่ควงเจ้าเขมเดินอารมณ์บูดไปโน่นแล้ว ผู้หญิงคนเดียว มันเอาใจไม่เป็นรึยังไง”“สองค่ะ...คุณเอกวิน” จิดาภาชูนิ้วให้ดูยืนยันคำพูดก่อนจะเบ้ปากเหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นยากจะเข้าใจ“แปลกมากเลยค่ะ...เมื่อครู่มีผู้หญิงที่...สวยมากมาขอพบบอส”“ใครน่ะ จีน”“คุณปรายฟ้า นิรกิจจากร ลูกสาวของคุณ นรา เจ้าของ ดิ เอเมอรัล ไงคะ”คราวนี้คิ้วของชายวัยกลางคนขมวดมุ่นแทบจะผูกเป็นโบว์ได้ขณะเหลือบสายตาคู่คมไปยังบานประตูห้องเบื้องหลังเลขาสาวที่ยังปิดสนิท อะไรบางอย่างเริ่มผุดพรายขึ้นในใจของเอกวิน บางอย่างที่ทำให้เขาเริ่มไม่สบายใจขึ้นมาตะหงิด ๆ“นายย้ง...คุณปรายทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ลงมาทานข้าว?”นราถามคนขับรถซึ่งยืนเอามือประสานไว้เบื้องหน้าอย่างสงบเสงี่ยมอยู่ใกล้ ๆ ขณะแม่บ้านบรรจงตักข้าวใส่จานกระเบื้องเนื้อดีซึ่งส
“พี่ก้องคะ...ก่อนที่ปรายจะเข้าพิธีแต่งงานกับพี่ก้อง ปรายยังไม่รู้เลยว่านิยามความรักของพี่ก้องคืออะไร” คำถามนั้นอาจแปลกประหลาดแต่ในยามนี้ก้องกาจไม่อยากสนใจอันใด ผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่วันยังค่ำ คลางแคลงสงสัยในสิ่งที่ก็รู้คำตอบชัดเจนอยู่แล้ว ชายหนุ่มส่งเสียงหัวเราะภายในลำคอและสบตากลมโตคู่นั้นก่อนกล่าวออกมาด้วยท่าทีไม่คิดจริงจังนัก “การที่ผู้หญิงกับผู้ชายมาอยู่ใกล้ชิดกัน ดูแลกันก็น่าจะพอแล้วที่จะเรียกว่าความรัก ปรายจะสงสัยอะไรอีกถ้ามีผู้ชายคนหนึ่งทุ่มเทให้ปรายได้ทุกอย่าง ให้ในสิ่งที่ปรายอยากได้ ความรักไม่ใช่อะไรแค่ต่างคนต่างพอใจในสิ่งที่ตัวเองได้รับ...ปรายฟ้า...” ก้องกาจไม่รีรอที่จะเติมเต็มช่องว่างระหว่างเขาและเธอที่ขาดหายไปด้วยการรวบมือเรียวบางทั้งสองข้างของหญิงสาวขึ้นจรดริมฝีปากอุ่นเอาไว้เนิ่นนาน เขามองเธอด้วยแววตาฉ่ำหวานและเว้าวอนจนปรายฟ้าก็มิอาจปฏิเสธได้ว่าเทพบุตรรูปงามผู้นี้ช่างมีวิธีทำให้เธอหวั่นไหวในยามที่หัวใจปวดร้าวเช่นนี้ “อย่าปฏิเสธพี่อีกเลยนะปรายที่รัก พี่อยากบอกปรายว่าพี่ไม่เคยรักใครแบบนี้มาก่อน ถึงงานแต่งของเรามันจะเกิดจาก
“คุณจะรู้อะไร! นังนั่นมันคงหลอกล่อคุณให้ตายใจด้วยความสวยของมัน... ลูกสาวของนรา เจ้าของ ดิ เอเมอรัล ใครก็รู้ว่าสวยหยาดฟ้ามาดิน แต่ในวงสังคมมันก็เป็นแค่เจ้าสาวที่คงถูกพวกโจรพาไปทำปู้ยี่ปู้ยำจนหมดแล้ว คุณไม่มีวันรู้หรอกเขมว่ามันมีสามีมากี่คนแล้วก่อนจะถึงมือคุณ”“คุณคงอยากได้ความกระจ่างมากกว่าที่มืดบอดอยู่ ผมนี่แหละ ผู้ชายคนแรกของปรายฟ้า คนที่ฉุดเธอไปจากงานแต่งคืนนั้นคือผม เขมราช อัครินทร!”“กรี๊ด!...ไม่จริง!...เขม คุณจะบ้ารึไง คุณพูดออกมาได้ยังไงว่าคุณเป็นคนฉุดปรายฟ้าไป คุณแกล้งอัญใช่มั้ยถึงได้กุเรื่องบ้าบอคอแตกนี้ขึ้นมา!”“ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น คนอย่างผมไม่เคยล้อใครเล่น และไม่รู้จักการโกหก โดยเฉพาะกับคนที่ผมรัก”เขมราชดูจะใส่ใจต่อเสียงกรีดร้องปลายสายน้อยลงในทุกขณะเมื่อร่างที่เขาทาบทับอยู่นั้นเป็นฝ่ายผงกศีรษะขึ้นมาเพื่อมอบจูบอันหน่วงหนักโดยละทิ้งความกริ่งเกรงในคราวแรกว่าสามีของเธอจะใจอ่อนต่อผู้หญิงคนนั้น“เขม...คุณต้องสั่งทนายของคุณให้หยุดเดินเรื่องฟ้องอัญเดี๋ยวนี้นะคะ คุณทำแบบนี้ไม่ได้ อัญเป็นแฟนคุณ ไม่ใช่คู่กรณีทางกฎหมายแบบนี้”“ก็แค่เคย...ผมจะไม่พูดอะไรในตอนนี้ เพราะคนที่จะพูดแทนผมได้คื
“ผมรักคุณนะปราย...มากกว่าอะไรในโลกนี้”เสียงปนหอบขานรับดังชัดกว่าสายฝนพรำและประทับลงสู่เบื้องลึกของความทรงจำที่มี เขา เสมอมิเสื่อมคลาย“ปรายก็รักคุณค่ะ...มากกว่าอะไร...ในโลกนี้”เสียงนกร้องปลุกสำนึกแรกของเขมราชให้ลืมตาตื่นรับประกายแดดอ่อนเบาที่ทอดผ่านเข้ามาทางบานกระจกหน้าต่างหลังคืนฟ้าฝนตกหนักผ่านพ้นไป เปลือกตาใต้โครงคิ้วหนาเป็นปื้นกระพริบถี่รัวเพื่อปรับม่านนัยน์ตารับแสงแรกของอรุณใหม่ภายในเรือนไม้หลังงามซึ่งเขาชื่นชมนักเมื่อมาถึงครั้งแรก ชายหนุ่มยังไม่ขยับตัวไปทางใดเมื่อดวงตาคมเปิดรับภาพอันชัดเจนและตรึงตราของปรายฟ้าที่ยังนอนหนุนแขนของเขาต่างหมอนตลอดทั้งคืน ร่างสูงใหญ่บิดตะแคงเพียงน้อยเพื่อเพ่งพิศความงามของร่างเล็กเปลือยเปล่าซึ่งยังคงทิ้งตัวในนิทรารมย์ใต้ผ้าห่มคลุมแค่เนินเนื้ออิ่มเผยเนียนผิวขาวช่างเจิดจรัสราวกุหลาบงามใต้ละอองแดดอาบไล้ฉาบประกายชมพูบนเนื้อนวลอันหมดจดผู้อยู่ในอ้อมแขนขยับตัวบางครั้งเพื่อบดเบียดตัวเองเข้าหาแผ่นอกกว้างทำให้เขาได้กลิ่นหอมเบาบางจากเรือนผมดำยาวสยายเต็มหมอนโอบล้อมวงหน้ารูปไข่และแก้มเปล่งปลั่งตามธรรมชาติโดยไร้การแต่งเติมสีสันใด ๆ ทว่าก็ช่างน่ามองนัก ทุกครั้งที่ร
“คะเขม”“ผมลืมไปว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่คุณกับผม”“คุณหมายถึงลูกของเราใช่ไหมคะ”เขมราชเลื่อนตัวลงแนบข้างแทนที่จะทิ้งน้ำหนักบนร่างสาวโดยตรงพลางวางฝ่ามือหนาลงบนหน้าท้องที่ยังเรียบตึงแต่ก็เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวช่างนุ่มนิ่มอิ่มอวบขึ้นมากกว่าแต่ก่อน หากก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความมีน้ำมีนวลนี้เร่งเร้าให้เขาอยากสัมผัสเธอไปทุกส่วนสัด ยิ่งเนินถันอวบอัดที่กระเพื่อมขึ้นลงนั้นดูคล้ายบัวตูมดอกใหญ่อิ่มขยายชูช่อรอรับหยาดแห่งความฉ่ำชื่น“เขาจะเป็นอะไรมั้ยถ้าเรา...”ปรายฟ้าวางมือบางบนหลังมือที่แนบอยู่บนแผ่นผิวหน้าท้องราบเรียบด้วยความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด“เขาอยู่ลึกมากเลยค่ะเขม ปรายยังไม่รู้สึกว่าเขาตอบสนอง แต่เขาอยู่ที่นั่นค่ะ”“ปราย...ที่ผมรีบตามคุณมาที่นี่เพราะกลัวว่าคุณจะทำอย่างขิม เป็นความจริงที่ผู้ชายตัดสินใจทำอะไรได้รวดเร็วเด็ดขาด แต่เรื่องความใจเด็ดเราอาจมีไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งของผู้หญิง”ร่างเล็กเบียดตัวเองเข้าหาความแข็งแกร่งกำยำราวจะบอกในทีว่าถึงอย่างไรสตรีก็ไม่เคยลืมทิ้งความอ่อนหวานให้บุรุษถวิลหา“คุณกำลังจะว่าผู้หญิงโหดเหี้ยมกว่าผู้ชาย ถึงยังไงเราก็สู้คนตัวโตกว่าไม่ได้อยู่แล้วนี่คะเขม”เขมราชลากปลาย
“ปราย...ผมจะแต่งงานกับคุณ”ปรายฟ้าชะงักงันแม้ชุดนอนจะถูกรั้งลงไปกองอยู่ข้างเตียงเหลือเพียงร่างงามเปล่าเปลือยผ่องผุดใต้แสงเย็นตา เขมราชไล้ปลายนิ้วสากไปบนผิวนิ่มลื่นบนไหล่บางและเกลี่ยปลายผมที่ทิ้งตัวลงมาปิดถันอิ่มออกไปโดยไม่ได้สนใจดวงตากลมโตฉายความฉงนของอีกฝ่ายแต่อย่างใด“เขมคะ...ปรายแต่งงานกับคุณไม่ได้หรอกค่ะ”หญิงสาวจับมือของเขาที่ไล้ลูบบนเนินทรวงทั้งที่ความรุ่มร้อนเริ่มแผดเผาจากข้างในทว่าก็ยังมีข้อสงสัยที่เธออยากคลี่คลายมันเสียก่อน“มีอะไรที่ยากลำบากสำหรับคุณหรือปราย ในเมื่อตอนนี้ก้องกาจก็อยู่ต่างประเทศ”“มันไม่ได้เกี่ยวกับพี่ก้อง แต่มันเป็นชื่อเสียงของคุณ ประธานกลุ่มบริษัทอัครินทรต้องหมองมัวแน่ถ้าสังคมรับรู้ว่าคุณจะลงเอยกับเจ้าสาวที่ถูกฉุดหายไปในวันแต่งงาน... ปรายฟ้า นิรกิจจากร”“คุณคือปรายฟ้า อัครินทร ต่างหาก ลืมไปแล้วหรือว่าหลักฐานในทะเบียนสมรสระบุไว้อย่างนั้น หรือถ้าคุณคิดว่ามันยังไม่ชัดเจนพอ ผมก็จะขอเอาตัวเองพิสูจน์กับคุณเสียเดี๋ยวนี้เลย”“เขม...” เรียวปากจิ้มลิ้มอ้าออกไม่ทันคัดค้านก็ถูกประกบปิดไว้แน่นแนบจากเจ้าของใบหน้าคมคาย ชายหนุ่มไม่ต้องการประวิงเวลาไว้สำหรับความเข้าใจอันลึก
“ปราย...” เขาแน่ใจว่าเธออยู่ตรงนั้นในเวลาที่ยังรำลึกถึงคำพูดซึ่งเขายังจดจำอยู่เสมอ“ปรายกลัวเสียงฟ้าผ่าค่ะ...เป็นมาตั้งแต่เด็ก แก้ไม่เคยหายเลย”“แล้วเมื่อก่อนเวลาคุณกลัว...คุณทำยังไง” “ปรายชอบแอบอยู่ข้างเตียง...ตลกมากใช่มั้ยคะ ปรายไม่เคยบอกใครเลย”ชายหนุ่มก้าวไปหยุดใกล้ ๆ และเห็นชัดว่าร่างเล็กห่อกายด้วยผ้านวมผืนใหญ่ซุกตัวอยู่ติดผนังห้องตรงหัวเตียงด้านล่าง“เขม...เขมคะ” เสียงสั่นเครือบอกความกลัวเจือด้วยความเว้าวอนนั้นทำให้เขมราชรู้ตัวว่าเขาคงมิอาจทอดทิ้งปรายฟ้าไปไหนได้อีกแล้วเมื่อร่างสูงตระหง่านตรงเข้าไปคุกเข่าและกอดหญิงสาวในผ้านวมแนบแน่น“ปราย...ไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่ตรงนี้แล้ว อย่ากลัว ผมจะปกป้องคุณเอง”ร่างอรชรสลัดผ้าผืนหนาออกก่อนสอดแขนเรียวโอบรอบแผ่นหลังกว้างราวกับเธอก็หมดสิ้นแล้วซึ่งทิฐิและความถือดีใด ๆ นอกจากหัวใจเพรียกหาสามีผู้เป็นที่รัก“ไหนคุณบอกนายย้งว่าคุณจะกลับกรุงเทพแล้วไงคะ คุณจะกลับไปจริง ๆ ใช่ไหมคะ?”“คุณเชื่อที่ผมพูดหรือ...แล้วคุณรู้ได้ยังไง คุณได้ยินทุกอย่างใช่มั้ยที่ผมคุยกับนายย้งข้างนอก”ชายหนุ่มใช้มือทั้งสองแนบลงกับหูของหญิงสาวและตรึงให้ใบหน้าหวานเผชิญกับเขาอย่างนุ่
“จะให้ผมรับหมอมาดูอาการของคุณเขมราชที่นี่หรือเปล่าครับคุณปราย”นายย้งเสนอตัวก่อนหันไปมองใบหน้าคมคายซีดเผือดบนร่างสูงกำยำซึ่งยังนอนหายใจหนักใต้ผ้าห่มผืนหนาด้วยความร้อนยังไม่ทุเลาเบาลง“ไม่ต้องหรอกค่ะ...นายย้งคอยเฝ้าดูอาการของเขาตรงนี้แล้วกันนะคะ ถ้าไข้เขาลดแล้ว...”ปรายฟ้าระบายลมหายใจก่อนพูดต่อเสียงหวิว“ปรายจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้นายย้งพาเขาไปส่งที่กรุงเทพค่ะ”“คุณปรายครับ...แต่ว่าคุณเขมราชเพิ่งมาถึงนะครับ แล้วถ้าให้ผมพาเขากลับกรุงเทพคุณปรายจะอยู่กับใคร”“ปรายอยู่คนเดียวได้ค่ะ! ปรายอยากอยู่คนเดียวมากกว่าจะมีเขา ซึ่งการที่มีเขาหรือไม่มี ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างนี่คะนายย้ง”ร่างบางกล่าวจบก็เดินออกไปจากที่นั้นซึ่งนายย้งรู้ดีว่าคุณหนูของเขาคงไปนั่งจัดดอกไม้ในสวนข้างบ้านอย่างเคย เขาส่ายหน้าไปมาก่อนพูดกับตัวเอง“เฮ้อ!...คุณปรายของย้ง ดูเหมือนจะใจอ่อนแล้ว บทจะแข็งขึ้นมาก็เอาไม่อยู่เหมือนกัน”.ใช่แต่คำพูดของนายย้งที่แทรกซึมเข้าไปในประสาทรับรู้ของเขมราช ถ้อยวาจาก่อนหน้าของปรายฟ้าก็ยังดังชัดเจนในหูของคนทำทีเสมือนหลับหากก็เปิดเปลือกตาขึ้นมาเมื่อผู้รับคำสั่งให้คอยดูแลเดินกลับเข้าไปในครัวแล้ว“ตื๊อเท
ร่างอรชรโคลงศีรษะขับไล่ความมึนงงก่อนลุกขึ้นจากเตียงอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงผ้าไหมเรียบลื่นสีครีมขับประกายผุดผ่องบนผิวขาวอมชมพูในวันท้องฟ้ายังขมุกขมัว และเมื่อเธอเปิดประตูห้องนอนก็ยังรู้สึกว่าบ้านช่างเงียบเชียบ...หรือเขมราชกลับกรุงเทพฯ ไปแล้วแต่แล้วหญิงสาวก็หมดสงสัยเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ยังคงนอนเหยียดยาวใต้ผ้านวมคลุมมิดชิดถึงลำคอบนโซฟาบุหนังต่างที่นอนตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ทุกอย่างยังคงเงียบจนดูเหมือนผิดปกติยินเพียงเสียงหายใจหนักซึ่งเริ่มทำให้หญิงสาวเริ่มไม่แน่ใจว่าเขาสบายดี เธออยู่กับเขมราชจนรู้ว่าเขาไม่ใช่คนชอบนอนตื่นสาย เขาตื่นเช้ามากจนหลายครั้งเธอก็ยังนึกอายเมื่อลืมตาขึ้นมาในอ้อมแขนและเห็นนัยน์ตาคมคู่นั้นจ้องมองเธอยามหนุนแขนหนาใหญ่แนบอกกว้างจนไม่อยากขยับตัวลุกจากที่นอน“คุณเขมราช...คุณเขม...เขมคะ” ปรายฟ้าคุกเข่าลงใกล้ ๆ พลางเรียกเขาซ้ำ ๆ จนหลงลืมเรียกสามีตัวเองอย่างคุ้นเคยอีกครั้ง ทว่าคำตอบของเขาคือเสียงทอดลมหายใจยาวและหนักสลับกับเสียงครางในลำคอ“คุณเขม!” หญิงสาวใจหายวาบเมื่อวางหลังมือบางลงบนหน้าผากของชายหนุ่มและสัมผัสที่ได้คือความร้อนแล่นไหลไปตามอณูผิว ปรายฟ้ากำลังจะดึงมือกลับหากก็ถ
“ปราย...”ปรายฟ้าหยุดชะงักเมื่อเก็บร่มและหันหลังให้เขาขณะกำลังจะก้าวกลับเข้าบ้าน“ผมรู้ว่าคุณไม่ใจร้ายปล่อยให้ผมตายอยู่ข้างนอกแน่ และผมก็รู้ว่า...คุณกลัวเสียงฟ้าร้อง”ชายหนุ่มนิ่งมองแผ่นหลังของร่างเล็กภายใต้เสื้อคลุมตัวยาวท่ามกลางแสงอ่อนจากโคมไฟในยามท้องฟ้าหมองมัวและบรรยากาศขะมุกขมัวด้วยละอองน้ำปรายโปรย ผมยาวปล่อยสยายบนไหล่บางสะท้อนความงามเงาดึงดูดสายตาของเขาเสมอ ปรายฟ้าฝืนก้าวเท้ากลับเข้าไปทั้งที่เวลาเช่นนี้เธอปรารถนาอ้อมกอดของเขาล้นเหลือ หากแต่ความโกรธทำให้หญิงสาวอยากเกลียดเขาให้มากเท่าที่เขาเคยทำให้เธอเจ็บช้ำแทบหมดสิ้นกำลังใจ“ฮัดเช้ย!” เสียงจามเป็นระยะของเขมราชทำให้ปรายฟ้าซึ่งกำลังหอบผ้านวมและหมอนมาวางกองบนโซฟาภายในห้องรับแขกอดที่จะเหลือบมองร่างกำยำที่สวมกางเกงแพรตัวเดียวขณะนั่งลูบผ้าขนหนูไปบนเรือนผมสั้นทว่าเปียกชื้นนั้นไม่ได้ ร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามบนหน้าอกกว้างและหน้าท้องเป็นลอนน่ามองทุกครั้งที่มันขมวดเกร็งและกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจ“คุณนอนตรงนี้ก็แล้วกัน จะกลับพรุ่งนี้ไม่ใช่หรือคะ?”“ผมบอกแล้วไงว่าจะมาอยู่คอยดูแลคุณแทนคุณพ่อ แล้วจะไล่ผมกลับไปแบบนี้ได้ยังไง”“บ้านนี้ห้อ
ปรายฟ้าร่ำรองอยู่กับตัวเองขณะนั่งบนฟูกนุ่มรองด้วยเตียงไม้ฉลุลายโบราณภายในห้องนอนกว้างซึ่งอวลด้วยกลิ่นดอกไม้หอมในแจกัน หญิงสาวพยายามสลัดภาพใบหน้าคมคายออกจากหัวใจทั้งที่รู้ว่าไม่เคยทำได้สักที ก็จะเป็นไรไปเล่า เขาอยากจะนั่งเฝ้าคอยเธอก็ให้เขานั่งต่อไป ร่างอรชรลุกจากที่นอนและทำเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในวันนี้ทั้งที่ใจเต้นระส่ำเมื่อได้ยินเสียงฝนหล่นกระทบหลังคาดังเปาะแปะก่อนหยาดพิรุณจะทิ้งเม็ดหนามากขึ้นทุกทีเมื่อมองลอดกระจกหน้าต่างมัวหมองด้วยฝ้าน้ำออกไปปรายฟ้ายังพยายามนิ่งใจเย็นหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนผ้าซาตินสายเดี่ยวสวมทับด้วยเสื้อคลุมตัวยาวก็หยิบหนังสือเล่มเล็กมานั่งอ่านทั้งที่สายตานั้นพร่าไปหมดด้วยไม่แน่ใจอะไรบางอย่างเขาคงกลับไปแล้ว....หญิงสาวค่อย ๆ ปิดหนังสือขณะน้ำหยดน้อยร่วงผล็อยลงมาจากดวงตาคู่สวย ฝนฟ้าตกหนักเช่นนี้มีหรือที่เขาจะมานั่งทนรอเธอให้เสียเวลา อาจขับรถกลับกรุงเทพไปเสียแล้วกระมังเพราะคงถอดใจกับการประชดประชันไม่เข้าท่าของผู้หญิงไร้ค่าในสายตาของเขา“คุณปราย!...คุณปรายครับ ย้งเองครับคุณปราย”เสียงของนายย้งดังขึ้นพร้อมเคาะประตูหลายหนจนปรายฟ้าต้องลุกจากที่นอนเพื่อผลักประตูห้