2
ผู้ร่วมรายการคนสุดท้าย
“อย่าหลงละเลิงมากนักล่ะ เราไม่รู้ว่าคนอื่นเขาได้สคริปต์แบบไหนมาบ้าง ถ้าโดนแทงข้างหลังหรือโดนทำให้โกรธ ก็ระงับอารมณ์ด้วย อย่าลืมว่านี่เป็นรายการสด”
“รับทราบค่า แต่ทำได้ไม่ได้นั่นก็อีกเรื่องนะ” ก้ามปูขยิบตาให้ผู้จัดการสาวด้วยท่าทางแสนซนจนน่าหยิกเข้าให้สักที
เมื่อมองออกไปนอกรถตู้ เห็นแสงแดดอันสว่างเจิดจ้าน่ากลัว หญิงสาวก็รีบหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาสวมทันที ตอนนี้เธอเดินทางมาถึงที่พักสำหรับถ่ายทำรายการ Melt Your Heart ในตอนแรกแล้ว
ก้ามปูจะต้องพักอยู่ที่นี่สองวันหนึ่งคืน โดยไม่มีโอกาสได้แตะต้องโทรศัพท์มือถือเพื่ออ่านความเห็นของเหล่าคนดู หรือรู้ความนิยมที่เธอได้รับจากการถ่ายทอดสดในครั้งนี้
หญิงสาวร่างเพรียวสวยสมกับเป็นนักแสดงชื่อดังก้าวขาลงจากรถตู้ทันทีที่ประตูรถเปิดออกโดยอัตโนมัติ แว่นกันแดดสีชาปกปิดนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่ส่องประกายมุ่งมั่นอย่างคนเต็มที่กับการทำงานเอาไว้ ผมยาวสลวยสีน้ำตาลประกายแดงยามเมื่อถูกแสงแดดยามเที่ยงตกกระทบ ยิ่งทำให้สีผมดูสดสวย และใบหน้ารูปไข่ดูสว่างมากยิ่งขึ้น
กางเกงยีนขายาวรัดรูปเอวสูงที่เธอใส่คู่กับรองเท้าส้นสูงส่งเสริมเรียวขายาวได้เป็นอย่างดี เสื้อเกาะอกสีขาวเอวลอย คลุมทับด้วยเสื้อคลุมสีดำตัวบาง โชว์ให้เห็นหน้าท้องขาววับๆ แวมๆ
ปากสีแดงระเรื่อส่งยิ้มให้กล้องทันทีที่ลงจากรถ โบกมือน้อยๆ พอเป็นพิธี เพราะเธอรู้ว่าการถ่ายทอดสดนั้น เริ่มต้นขึ้นแล้ว
[อร๊างงง น้องก้ามปูสวยมากกก]
[แต่งตัวธรรมดาแบบนี้ยังสวยเลย ที่รักของเค้า]
[รายการไม่ได้หลอกจริงด้วย ไม่เคยได้ดูน้องก้ามปูออกรายการเรียลลิตี้มาก่อนเลย]
ช่องแชตของรายการเดือดพล่านไปด้วยแชตจำนวนมากจากเหล่าแฟนคลับที่มาแสตนด์บายรอดูดาราในดวงใจทันที ทุกคนต่างรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของดาราสาวเจ้าเสน่ห์แทบจะเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมง เป็นเวลาถึงสองวันเต็ม
เจ้าของหัวข้อสนทนาไม่อาจรู้ได้ว่ามีคนพูดถึงเธอว่ายังไงบ้าง หญิงสาวเดินเข้าไปในรั้วบ้านที่เปิดอยู่ ตรงไปยังอาคารขนาดเล็กข้างตัวบ้านหลังใหญ่ เข้าไปยังห้องที่ถูกจัดให้เป็นห้องสัมภาษณ์ซึ่งผนังทุกด้านถูกปิดไว้ด้วยผ้าสีดำ
ก้ามปูนั่งลงบนเก้าอี้ตามที่ถูกบรีฟไว้ หันหน้าไปยังกล้องวิดีโอ
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ คุณก้ามปู ขอเริ่มเข้าสู่คำถามเลยก็แล้วกัน ไม่ทราบว่าคุณชอบคนแบบไหนเหรอครับ” ช่างภาพเพียงหนึ่งเดียวในห้องเป็นคนถาม การสัมภาษณ์ครั้งนี้ไม่มีการถ่ายทอดสดออกไป เพราะจะถูกนำมาตัดต่อและลงให้ดูรวมกับรายตอนที่จะออกอากาศทางโทรทัศน์ในภายหลัง
“หมายถึงสเปคเหรอคะ?”
“ครับ”
“ก็ต้องเป็นคนที่หล่อระดับหนึ่ง ตัวสูงกว่าฉัน มีหน้าที่การงานสุจริต” ตอบคำถามพร้อมกับใช้มือแตะคางอย่างครุ่นคิด “ส่วนนิสัยก็ขอให้เป็นคนที่เข้าใจผู้หญิง ไม่ปากหมา มีไลฟ์สไตล์ที่ค่อนข้างจะตรงกันก็พอค่ะ”
“แล้วไม่ชอบคนแบบไหนเหรอครับ”
“พูดยากนะคะ บทจะไม่ชอบ มันก็ไม่ชอบไปเอง คนที่ไม่เข้าตา ยังไงก็ไม่ถูกใจหรอกค่ะ”
“คำถามสุดท้ายแล้วครับ คุณก้ามปูมีรสนิยมชอบเพศไหนเหรอครับ”
คำถามข้อนี้ทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วนิดหน่อยอย่างแทบจะสังเกตไม่เห็น เป็นคำถามที่แปลกมาก...
“ชอบผู้ชายค่ะ”
หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ กล้องถ่ายทอดสดก็กลับมาตามติดเธออีกครั้ง นิ้วเรียวสวยเหมือนลำเทียนหมุนลูกบิดประตูของบ้านหลังใหญ่ เปิดเข้าไปยังห้องนั่งเล่นที่มีผู้ร่วมรายการคนอื่นนั่งอยู่ก่อนแล้วสามคน
เธอมาเป็นคนที่สี่สินะ
“เจ้าแม่ดราม่ามาร่วมรายการนี้จริงๆ ด้วยแฮะ” เสียงเอ่ยทักดังมาจากซูเปอร์โมเดลสาวชื่อดังกระฉ่อนนามว่าปันปัน เธอนั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยว กอดหมอนอิงไว้บนตัก ดูน่ารักมากกว่าจะมาดมั่นเหมือนยามเดินแบบ
“แหม ฉันต้องตกใจมากกว่าที่ซูเปอร์โมเดลระดับอินเตอร์เนชันแนลสามารถสละเวลามาร่วมรายการนี้ได้”
คำว่าตกใจนั้นไม่เกินจริง ถึงแม้จะพอรู้อยู่ก่อนแล้วว่ารายการนี้มีแต่คนโด่งดังมาเข้าร่วมก็ตาม
ก้ามปูเดินไปนั่งบนโซฟายาวข้างหญิงสาวที่ได้รางวัลนางงามจักรวาลอันดับสองของโลกเมื่อปีที่แล้ว คนที่ไม่ว่าจะเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าอะไร สินค้านั้นก็ขายดี จะไลฟ์สดขายอะไรในต๊อกต๊อก ของสิ่งนั้นก็จะขายออกได้เกินหนึ่งล้านบาทภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ คุณเฟริน” ดาราสาวเอ่ยทักคนที่นั่งข้างกันยิ้มๆ ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับชายหนุ่มเพียงคนเดียวในที่แห่งนี้
ภามเป็นพระเอกชื่อดังที่เล่นละครคนละช่องกับเธอ แต่พวกเธอมักเห็นหน้าค่าตากันบ่อยๆ ตามงานประกาศรางวัลและงานอีเว้นท์ต่างๆ แค่ยังไม่เคยได้พูดคุยกันอย่างจริงจังก็เท่านั้น
ทุกคนพากันเงียบหลังจากทักทายกันพอเป็นพิธีเสร็จ เนื่องจากความโด่งดังในอาชีพการงานคนละด้าน ทำให้ไม่จำเป็นต้องพยายามพูดคุยประจบสอพลอกันแต่อย่างใด และอีกอย่างรายการนี้คือรายการหาคู่ พวกเธอต้องรอให้ภารกิจถูกประกาศขึ้นก่อน ไม่ควรทำตัวกระตือรือร้นอยากได้อีกฝ่ายมากจนเกินไป
ตอนนี้คนที่ก้ามปูรู้รายชื่อมาก่อนหน้าก็มากันครบหมดแล้ว ขาดแต่เพียงผู้ชายสองคนที่ทางรายการปกปิดไว้เป็นความลับ
[นี่มันรายการรวมเทพบุตรเทพธิดาหรือไงกัน แค่สี่คนนี้มาอยู่ด้วยกัน ฉันก็รู้สึกได้ถึงความฮอตปรอทแตกแล้ว]
[รายการไม่ทำให้ผิดหวังเลย เชิญคนดังมาเยอะขนาดนี้ได้ไงเนี่ยยย]
[อยากรู้จัง ว่าใครจะเป็นผู้ร่วมรายการสองคนสุดท้าย]
[จากมาตรฐานหน้าตาและชื่อเสียงของทั้งสี่คนนี้แล้ว คนที่เหลือจะต้องหล่อมาก และชวนให้ตะลึงมากแน่ๆ]
การคาดเดาของเหล่าคนดูไม่ได้เกินจริงเลยสักนิด เพราะเมื่อบานประตูไม้สักถูกผลักเปิดเข้ามาอีกครั้ง ชายหนุ่มรูปงามที่ปรากฏตัวขึ้นก็ทำให้ช่องแชตแทบแตก
[โอ้ มายบุดด้า! พี่อี้เฉิน!]
[ใครน่ะ ทำไมหน้าคุ้นๆ หล่อเท่มาก แต่งตัวคูลมาก]
[กรี๊ดดด นักกีฬาอีสปอร์ตฉายาสามีแห่งชาติ]
[ฮือออ ไม่ยอมนะ พี่อี้เฉินห้ามมีความรักเด็ดขาด รีบๆ ออกจากรายการนี้เลย]
“สวัสดีครับทุกคน” อี้เฉินทักทาย ก่อนจะมองรอบๆ ห้องอย่างตัดสินใจไม่ถูกว่าจะนั่งตรงไหนดี จนเมื่อภามกวักมือเรียกนั่นแหละ เขาถึงเลือกที่จะไปนั่งข้างอีกฝ่าย ที่โต๊ะขนาดเล็กไม่ไกลจากโซฟา
อี้เฉินเป็นลูกครึ่งไทยจีน ผู้เล่นเกมแนว MOBA (Multiplayer online battle arena) ตำแหน่งแครี่ที่พาทีมของเขาขึ้นเป็นที่หนึ่งของประเทศได้ถึงสามปีซ้อน และเพิ่งได้รับรางวัลที่หนึ่งของโลกไปเมื่อปีที่แล้ว การที่คนดูรายการจะไม่รู้จักเขาก็ไม่แปลก เพราะคนดูไลฟ์สดส่วนใหญ่เป็นคนที่ติดตามข่าวคราวในวงการบันเทิงมากกว่าวงการเกม
แต่แน่นอนว่าไม่มีใครไม่คุ้นหน้าเขา เพราะเขาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าและเกมมากมาย ใบหน้าของเขาสามารถถูกพบเห็นได้อย่างง่ายดายตามรถไฟฟ้า รถบัส ป้ายรถเมล์ หรือแม้แต่ตามโฆษณาเกมในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ
“เหลือเชื่อมากเลยนะคะเนี่ย ทางรายการทำเซอร์ไพรส์หนักมาก” นางงามจักรวาลอย่างเฟรินพูดขึ้น
“ผมก็ไม่นึกว่าตัวแทนผมจะอยากให้ผมมาเข้าร่วมรายการแบบนี้เหมือนกันครับ” อี้เฉินลูบท้ายทอยเบาๆ กิริยาท่าทางดูเหมือนเด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่เขินอายยามพบเจอกับเหล่าคนดัง
“วันนี้ไม่ใส่แว่นเหรอคะ” ก้ามปูเอ่ยอย่างเย้าๆ ประกายตาพราวระยับอย่างคนเจ้าชู้
ถึงจะไม่ใช่ไอดอล แต่อย่างน้อยก็เป็นหนุ่มน้อยวัยขบเผาะ น่ารักน่าชังเสียจริงเชียว
อี้เฉินอ้าปากน้อยๆ นึกตกใจที่ดาราดังอย่างหญิงสาวรู้ด้วยว่าปกติแล้วเขาใส่แว่นตาตลอดเวลา “ผมใส่คอนแท็กเลนส์แทนน่ะครับ”
[ท่าทางเหมือนกวางน้อยนี่มันยังไงกัน ฉันอยากจะเข้าไปขย้ำจัง]
[ถึงพี่อี้เฉินจะดูเด็กสุดอย่างนี้ แต่จริงๆ แล้วเขาอบอุ่นมากนะ ใส่ใจแฟนคลับเป็นที่สุด]
ยังไม่ทันที่บทสนทนาจะได้ดำเนินต่อ ประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง
!!!
[กรี๊ดดด พี่แม่ทัพ!]
[ไม่จริงน่า! ไหนบอกว่ามีเจ้าแม่ดราม่าที่ไหน จะไม่มีจักรพรรดิภาพยนตร์ที่นั่นไง]
[ช่วยบอกฉันทีว่าไม่ได้ตาฝาด]
[เขาจะทะเลาะกันกลางรายการมั้ย?]
[ฉิบหายแล้ว รายการจะพังก่อนที่ฉันจะได้ดูจนจบไหมเนี่ย]
3ภารกิจแรก จังหวะที่เจ้าของฉายาจักรพรรดิภาพยนตร์เดินเข้ามา เป็นช่วงที่ผู้ร่วมรายการทุกคนหยุดนิ่ง ต่างจากผู้ชมในไลฟ์สดที่ฟลัดข้อความกันรัวๆ ด้วยความบ้าคลั่ง เหล่าแฟนคลับของแม่ทัพที่รู้ว่านักแสดงคนโปรดของตนมาปรากฏตัวที่รายการต่างก็พากันเข้ามาดูอย่างรวดเร็ว ทำให้รายการที่มีคนดูมากอยู่แล้วเพราะชื่อเสียงอันโด่งดังของผู้เข้าร่วมรายการทั้งสี่คน กลายเป็นรายการที่มีคนเข้าชมการถ่ายทอดสดมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ผมสีดำของชายหนุ่มตัดสั้นดูสะอาดสะอ้าน ใบหน้ารูปไข่คมสัน ตาสีเทาเข้มคมกริบ รอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ที่ส่งให้กล้องชวนหลงใหล สัดส่วนของตาจมูกปากที่กูรูต่างคอนเฟิร์มว่าเป็นสัดส่วนทองคำ ส่งผลให้ใบหน้าของเขาดูหล่อเหลาชนิดที่คนมองต้องกลั้นหายใจ ก่อนจะถอนหายใจอย่างพึงพอใจกับความหล่อระดับโลกที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้ รูปร่างของเขาดูสูงโปร่งสง่างาม เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่กระดุมบนถูกเปิดออกสองเม็ด ทำให้เห็นกล้ามเนื้อกระชับได้สัดส่วน กางเกงยีนพอดีตัวจับคู่กับรองเท้าแบรนด์ที่เขาเป็นพรีเซนเตอร์และเป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันที่ทำมาเพื่อเขาเพียงคู่เดียวในโลก นาฬิกาสปอร์ตที่มีฟังก์
4ค่อยน่าเล่นด้วยหน่อย [ทีมนี้จะไปรอดมั้ยเนี่ยยย] [ฉันลุ้นจนฉี่จะแตกอยู่แล้ว ช่วยด้วย] [รายการนี้เป็นรายการแรกเลยที่ทำให้ฉันต้องนั่งเฝ้าจอหนักขนาดนี้ทั้งที่ไปดูเอาตอนตัดต่อคลิปแล้วก็ได้] เหล่าคนดูที่เลือกดูห้องไลฟ์สดของทีมทำความสะอาดต่างเผลอลุ้นกันโดยไม่รู้ตัว ลุ้นให้ทีมนี้สามารถทำความสะอาดได้อย่างสำเร็จลุล่วงโดยที่ไม่ฆ่ากันตายไปเสียก่อน ภารกิจนี้นับว่ายากก็ยาก นับว่าง่ายก็ง่าย สำหรับทีมทำอาหารแล้ว ถือว่าท้าทายมาก เพราะทำให้เคลื่อนตัวไปหยิบนั่นนี่ได้ลำบาก ทำให้การเตรียมวัตถุดิบล่าช้าขึ้นเยอะ ส่วนทีมทำความสะอาดที่ควรจะทำสำเร็จได้ง่ายๆ กลับทำให้เกิดเสียงปี๊บน่ารำคาญดังขึ้นตลอดเวลาเมื่อพวกเขาอยู่ห่างจากกันเกินหนึ่งเมตร จนบรรยากาศเริ่มจะตึงเครียดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ “ปิ้งป่อง~ การ์ดท่าทางแรกมาแล้ว กรุณาทำให้สำเร็จภายในหนึ่งนาที มิเช่นนั้นจะถูกลงโทษ” อี้เฉินเป็นคนเดินไปรับการ์ดจากทีมงาน ก่อนจะนำมายื่นให้คนอื่นดู ภาพในการ์ดเป็นภาพการ์ตูนร่างของคนสามคนกำลังทำความสะอาดอ่างล้างหน้าด้วยท่าทางใกล้ชิดสนิทสนม ผู้ช
5Talent Show ความเป็นศัตรูของคนทั้งคู่เริ่มชัดเจนเมื่อพวกเขาได้เจอกันที่วิทยาลัยภาพยนตร์ วิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านการแสดงเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาคเอเชีย ก่อนหน้านี้พวกเธอไม่เคยเจอกันมาก่อน เพราะที่ใดมีคนในตระกูลธิปภควรรณ ที่นั่นย่อมไม่มีคนในตระกูลวรอนัญเดช ด้วยความที่ครอบครัวของเธอทำธุรกิจมาสองชั่วอายุคน จึงมีทั้งมิตรและศัตรูมากมาย ตระกูลวรอนัญเดชไม่ถือว่าเป็นศัตรูก็จริง แต่ก็ใกล้เคียง เพราะการทำธุรกิจด้านอุตสาหกรรมการบันเทิงและสินค้าอุปโภคบริโภคที่ค่อนข้างจะทับซ้อนกัน มีการแย่งลูกค้ากัน ทำให้ทั้งสองตระกูลถือเป็นคู่แข่งที่คานอำนาจกันมาแต่ไหนแต่ไร แม้จะยังไม่มีกรณีที่สั่งคนมาฆ่าแกงกัน แต่ก็ห้ำหั่นกันด้วยผลประโยชน์ ตระกูลธิปภควรรณของก้ามปูทำธุรกิจนิตยสาร ละคร และสื่อบันเทิงทางโทรทัศน์... ส่วนตระกูลวรอนัญเดชของแม่ทัพทำธุรกิจโฆษณาและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างๆ ธุรกิจอื่นของตระกูลธิปภควรรณคือศูนย์การค้าและร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ธุรกิจของวรอนัญเดชคือร้านสะดวกซื้อหลากหลายรูปแบบที่กระจายตัวอยู่ตามรถไฟฟ้าสนามบินและพื้นที่ทั่วประเทศ
6นอนก็นอนด้วยกันมาแล้ว แม้จะเป็นการถ่ายทอดสด แต่ในบางครั้งก็ไม่มีการติดไมค์ให้กับเหล่าผู้ร่วมรายการ ทำให้บทสนทนาเพียงเบาๆ ของชายหญิงที่กำลังจะก้าวออกมาแสดงเป็นคู่ถัดไปไม่ได้ถูกบันทึกไว้ เมื่อการร้องเพลงคู่จบลง เหล่าผู้ร่วมรายการก็ตบมือให้พอเป็นพิธี ก่อนที่คู่ของแม่ทัพและเฟรินจะเดินออกไป จักรพรรดิภาพยนตร์นั่งลงบนยกพื้นไม้ที่มีระนาดเอกวางอยู่ เขายกมือขึ้นพนมเป็นการไหว้ครูและเริ่มบรรเลงเพลงไทยเดิมออกมา เพียงแค่ขึ้นต้น เหล่าผู้ชมต่างก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป ลมอ่อนๆ ของยามเย็นพัดให้ชายเสื้อม่อฮ่อมของชายหนุ่มพลิ้วไหว ชุดสไตล์เหนือของชายหนุ่มดูเข้ากันได้ดีกับชุดพื้นเมืองเหนือแบบประยุกต์ของนางงามจักรวาลที่ทีมงานหามาให้ได้อย่างรวดเร็ว หญิงสาวเริ่มเอื้อนเอ่ยเนื้อเพลงออกมาด้วยน้ำเสียงไพเราะ สมกับเป็นนางงามที่มีความสามารถพิเศษมากมาย นอกจากร้องเพลงแล้ว เฟรินยังขยับกายเบาๆ อย่างอ่อนช้อยเคล้าคลอไปกับท่วงทำนองเพลง เหล่าผู้ร่วมรายการต่างนิ่งงันซึมซับความไพเราะของเพลงไทยเอาไว้ [พระเจ้า ฟังเพลินจนลืมโหวตเลย!]
7Deep Talk กิจกรรมหลังจากช่วงเวลาอิสระยามเช้าคือ Speed Dating หรือก็คือการจับคู่คุย ผู้ร่วมรายการทั้งหกคนจะได้นั่งโต๊ะพูดคุยกันสองต่อสองเป็นเวลาห้านาที และเวียนไปจนได้คุยครบทุกคน “จำเป็นต้องถามคำถามตามนี้ด้วยเหรอครับ” ภามถือกระดาษที่มีคำถามถูกพิมพ์ไว้อยู่ “เลือกมาแค่คำถามเดียวก็พอค่ะ ที่เหลืออยากคุยอะไรกันก็คุยเลย แต่ต้องเป็นเรื่องที่จะทำให้รู้จักอีกฝ่ายมากขึ้นนะคะ ห้ามคุยเรื่องงานเด็ดขาด” เสียงของผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ตอบ “เอ่อ...คำถามมันไม่ลึกเกินไปหน่อยเหรอคะ” ปันปันถามหน้าเจื่อนเมื่อได้กวาดตาอ่านจนครบทุกคำถาม คำถามที่เธอเห็นก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอของผู้ชมด้วยเช่นกัน ‘คุณชอบสกินชิฟหรือไม่ ถ้าชอบ ชอบทำอะไรมากที่สุด’ ‘สิ่งที่คุณมองหาจากว่าที่คู่เดตของคุณ’ ‘ระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ คุณให้ความสำคัญกับสิ่งไหนมากที่สุด’ ‘คุณชอบมีเพศสัมพันธ์ที่สถานที่ใดมากที่สุด เช่น บนเตียง ในห้องน้ำ ระเบียง ในรถ’ ‘คุณชอบเมคเลิฟที่ส่วนใดของร่างกายอีกฝ่าย’ ‘อวัยวะส่วนใดคือจุดอ่อนไหวที่สุดในร่างกายคุณ’
8Mystery Box ขณะที่คนดูกำลังลุ้นอยู่กับการโต้ตอบกันระหว่างจักรพรรดิภาพยนตร์และเจ้าแม่ดราม่า รอดูว่าก้ามปูจะตอกหน้าชายหนุ่มกลับไปยังไง เสียงประตูไม้บานยักษ์ที่ทางเข้าบ้านซึ่งถูกเปิดออกก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนไปเสียก่อน เรือนร่างสูงโปร่งของนักแสดงตลกชื่อดังฉายา เจ้าแม่วาไรตี้ อย่างคะนิ้ง เดินเข้ามายังบริเวณที่พวกเขาทำกิจกรรมด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม เสื้อผ้าที่เธอใส่ก็สมกับบุคลิกของเธอ สีสันช่างโดดเด่นและสไตล์ก็ช่างเตะตาเสียเหลือเกิน แต่ก็ว่าไม่ได้...เพราะมันเข้ากับตัวเธอได้ดีมาก “โอ้ จับคู่กันหมดแล้วเหรอคะ สงสัยว่าฉันจะมาช้าไป” ทุกคนมองไปทางโปรดิวเซอร์อย่างพร้อมเพรียงกันอย่างต้องการคำตอบว่าทำไมหญิงสาวจึงมาอยู่ที่นี่ได้ “เซอร์ไพรส์~ ขอต้อนรับผู้ร่วมรายการคนใหม่ของรายการMelt Your Heart คุณคะนิ้งค่าาา” เป็นผู้ช่วยที่ช่วยเฉลย [หา! พี่คะนิ้งเนี่ยนะจะมารายการเดต โอเอ็มจีมาก] [เอาแล้วๆ ชายสามหญิงสี่ ใครจะกลายเป็นหมาหัวเน่ากัน] [กรี๊ดดด พี่คะนิ้งคนสวยคนตลก คิดถึงที่ซู้ดดด] [สงสัยรายการจะกริบไปหน่อย ก็เลยต้องเชิญคน
9สคริปต์ใหม่ บันทึกการถ่ายทอดสดทั้งสองวันถูกนำมาตัดต่อและออกอากาศในเทปแรก นอกเหนือจากกิจกรรมและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ยังมีการสัมภาษณ์เดี่ยวในช่วงท้ายเพิ่มเข้ามาอีกด้วย ส่วนการสัมภาษณ์ก่อนการเข้าร่วมรายการในวันแรกยังไม่ถูกเผยแพร่ออกมา “หากเทปหน้ามีการเลือกคู่ คุณคิดว่าอยากคู่กับใคร” “เลือกยากจังเลยค่ะ ก็คงจะเป็นน้องอี้เฉินละมั้งคะ” ก้ามปูตอบ “อยากคู่กับพี่แม่ทัพค่ะ แต่ไม่รู้ว่าใจเราจะตรงกันมั้ย” เฟรินให้สัมภาษณ์ “เหตุการณ์ไหนที่คุณประทับใจมากที่สุด” “จริงๆ ก็ประทับใจมากทุกช่วงเลยนะคะ แต่ถ้าประทับใจที่สุดเห็นจะเป็นตอนที่ได้เห็นคนที่ไม่ถูกกันยอมทำตามกติกาของเกมละมั้งคะ” ปันปันแอบแซวก้ามปูเข้าให้ “ตอนที่ได้อยู่กับพี่ก้ามปูครับ” เป็นคำตอบอันชัดเจนยิ่งจากโปรเพลย์เยอร์หนุ่ม “ตอนที่จับมือกินข้าว คุณรู้สึกยังไงบ้าง” ก้ามปูนึกย้อนไปถึงช่วงเวลาอัปยศซึ่งกินเวลายาวนานที่สุดในชีวิตของเธอแล้วก็ได้แต่ทำหน้าเหม็นเบื่อ “รู้สึกไม่เจริญอาหารค่ะ” หญิงสาวมีประสบการณ์เดตกับผู้ชายมาในระดับหนึ่งแล้ว การจับมื
10ปริศนาสัมผัส “ฉันอยากให้เราได้ลองเดตกันดู” “อย่ามาคิดอะไรบ้าๆ เชียว! แค่ต้องอยู่กับนายตอนนี้ฉันก็แทบจะอ้วกแล้ว” “ฮ่าๆๆ คิดว่าฉันเกิดพิศวาสเธอขึ้นมาหรือไง” นักแสดงหนุ่มหัวเราะลั่น “ลองคิดดูสิว่าถ้าเกิดเราเดตกันขึ้นมา แล้วจู่ๆ ก็มีข่าวฉาวปรากฏขึ้น ใครกันที่เป็นคนสร้างข่าวนั้น?” ก้ามปูพยายามคิดตาม “หรือว่านายกำลังคิดหาตัวคนร้ายด้วยวิธีนี้?” “ใช่ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคนคนนั้นมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ตั้งใจจะสร้างข่าวฉาว ก็ดูจะเงียบเกินไป หรือตั้งใจจะให้ฉันได้คู่กับเธอ ก็ดูเป็นไปไม่ได้...” “...” “ทางเดียวที่จะดึงตัวคนผู้นั้นออกมาจากเงามืดได้ก็คือต้องทำให้เขาสมหวัง เห็นฉันกับเธออยู่ด้วยกัน และเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงเจตจำนงที่แท้จริงออกมา” “บ้า วิธีบ้าๆ อะไรของนายกัน” หญิงสาวบ่นงึมงำ แต่ในใจก็อดที่จะเห็นด้วยไม่ได้ “เอาน่า ร่างกายเปลือยเปล่าของเธอ ฉันก็เห็นมาหมดแล้ว แค่แกล้งเดตกันในรายการ เธอไม่ต้องแก้ผ้าเปลืองตัวอะไรสักหน่อย” “นะ...นายเห็น!!?” “อื้มมม ตอนนั้นก็คิดว่าฝันไป...” แม่ทัพเกริ่นด้วยแววตา
41ถอยคนละก้าว หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป... แม้จะผ่านไปเพียงไม่กี่วันที่แม่ทัพไม่ได้เจอกับก้ามปู แต่ก็มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย หนึ่ง... แม่ทัพทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับพ่อแม่ได้สำเร็จ ทำให้เขาสามารถคบกับก้ามปูอย่างเปิดเผยได้ และข้อตกลงนั้นก็คือการแก้ปัญหาภายในของบอร์ดบริหารที่ไม่ยอมให้ตระกูลของก้ามปูได้เข้ามายุ่งเกี่ยวและได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ใดๆ จากพวกเขา ความหัวแข็งของเหล่าบอร์ดบริหารถูกชายหนุ่มที่วางแผนมายาวนานหลายปีเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ พวกเขายอมยกเลิกการขัดแข้งขัดขา และอนุญาตให้แม่ทัพเป็นตัวแทนไปเจรจาธุรกิจกับทางตระกูลธิปภควรรณได้ เมื่อแม่ทัพสามารถจัดการปัญหาใต้พรมอันค้างคามานานได้สำเร็จ ข้อตกลงที่ว่าโยธินและขวัญรัตน์จะอนุญาตให้เขาคบและแต่งงานกับหญิงสาวจากตระกูลคู่แข่งได้ก็เป็นอันบรรลุผล สอง... สืบเนื่องมาจากการกระทำของแม่ทัพ กระแสต่อต้านไม่ยอมแม้แต่จะพูดคุยด้วยของทางฝั่งตระกูลธิปภควรรณเริ่มอ่อนลง พ่อแม่ของก้ามปูยอมรับฟังข้อเสนอของชายหนุ่มและนำเรื่องเข้าบอร์ดบริหาร ส่วนหนึ่งก็เพราะการโน้มน้าวจากตระกูลเทียนศักดิ์ ตระกูลของนีน่าเพื่
40อย่าทำให้ฉันผิดหวัง แล้ววันนั้นโปรดิวเซอร์ก็ได้เข้าใจว่าทำไมนักลงทุนที่ร้อยวันพันปีไม่คิดจะมาเหยียบกองถ่าย ไม่เคยออกคำสั่งอะไรให้เขาต้องลำบากใจ กลับมาสังเกตการณ์ที่กองถ่ายทั้งที่ลูกชายของตนก็ไม่ได้ต้องถ่ายทำรายการแล้ว มันเป็นเพราะว่าเธอมาจ้องจับผิดปฏิกิริยาของลูกชายตนที่มีต่อว่าที่ลูกสะใภ้นี่เอง ถึงแม้จะตกใจนิดหน่อยที่เห็นหนุ่มสาวเดินออกมาจากห้องเดียวกันในยามเช้า แต่โปรดิวเซอร์กลับรู้สึกภาคภูมิใจเสียมากกว่าที่รายการของเขาทำให้คู่กัดกลายเป็นคู่รักได้... ทำให้คู่ที่ไม่น่าเป็นไปได้ได้ลงเอยกัน เมื่อถ่ายรายการมาถึงตอนเลือกคู่ และก้ามปูดันไปเลือกปันปัน ทำให้ถูกปฏิเสธออกมา โปรดิวเซอร์ก็เลยตัดสินใจได้ว่าคนที่ควรจะถูกคัดออกจากรายการคือก้ามปู เจตนาของเธอดูชัดเจนขนาดนี้ หากเขาไม่คัดเธอออกจากรายการ แม่ทัพและก้ามปูจะต้องไม่พอใจ และคุณขวัญรัตน์ก็จะต้องไม่พอใจที่เขาทำให้ลูกชายไม่พอใจด้วยแน่ๆ [ก้ามปูทำอะไรอยู่น่ะ หลอกลวงคนดูชัดๆ] [บ้าไปแล้ว เลือกแบบนี้ได้ไง คิดว่าคนดูโง่งั้นเหรอ ก้ามปูมีรสนิยมชอบผู้หญิงที่ไหนกัน] [แต่ฉันว่าก้า
39จะทำให้ร้องขอชีวิต “ฉันอยากเสร็จในตัวเธอมากกว่า” “งั้นก็รีบเข้ามาสิ” เธอบอกความต้องการของตัวเองด้วยใบหน้าแดงก่ำ ขยับตัวขึ้นมานั่งระดับเดียวกับเขาเพื่อประกบปากจูบ แม่ทัพดันร่างบางให้นอนราบลงไปอย่างรวดเร็ว ความปวดหนึบทรมานอยากปลดปล่อยทำให้เขารั้งสติของตนไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ขณะที่จูบปากแลกลมหายใจกันอย่างตะกละตะกลาม ปลายท่อนเอ็นก็ถูไถเข้ากับปากทางที่เริ่มแฉะขึ้นอีกครั้งเพราะแรงปลุกเร้าจากเขา ก้ามปูรู้สึกถึงความคับแน่นที่ชำแรกเข้ามาภายในตัวของเธออย่างช้าๆ แต่ถึงจะอ่อนโยนเพียงใด ความใหญ่ของเขาก็ทำให้เธอที่ไม่ได้มีอะไรกับใครมานานมากเจ็บหนึบจนน้ำตาซึม ต้องระบายอารมณ์โดยการกัดริมฝีปากหนาของเขาจนห้อเลือด มือหนาจับต้นขาของเธอให้แหวกออกกว้างขึ้นเพื่อที่จะดันส่วนปลายให้หลุดเข้าไปได้ “ฮื้อ!” หญิงสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อแก่นกายของเขาดันเข้ามาในตัวเธอพรวดเดียว “รัดแน่นเชียว” ปากของเขาเลื่อนไปจูบซับน้ำตา ไล่ไปข้างขมับและใบหูอย่างปลอบประโลม ฝ่ามือบีบนวดสะกิดยอดอกสล้างให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย “ก็ของนายนั่นแหละ ฮื้อออ ใหญ่จนเจ็บไปห
38พิสูจน์สิ เธอไม่มีวันเชื่อคำพูดจากปากคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าตัวเด็ดขาด พยายามย้ำเตือนตัวเองด้วยประโยคนี้อยู่ตลอด แต่ก้ามปูก็ไม่มีกระจิตกระใจจะทำกิจกรรมยามค่ำคืนเลยสักนิด และผลก็ออกมาว่าการแสดงโชว์ในคราวนี้เธอไม่ชนะอีกตามเคย พอถึงเวลาแยกย้ายเข้านอนในโรงแรมขนาดกลางที่ทางรายการจัดไว้ให้ ซันก็เป็นฝ่ายเดินเข้ามาขอคุยด้วย “วันนี้ได้เที่ยวกับก้ามปูสนุกมากเลย ถ้าพรุ่งนี้มีโอกาสได้เดตกันอีก ก้ามปูยังอยากจะเดตกับเรามั้ย” “เอาสิ อยู่กับซันแล้วสบายใจดี” ตอนถ่ายแบบด้วยกัน ซันมีความเป็นมืออาชีพแต่ก็ไม่เคยกดดันหรือดูถูกเธอที่ไม่ถนัดด้านนั้น แถมยังช่วยให้คำแนะนำดีๆ มากมายกับเธออีกด้วย ดังนั้นหญิงสาวจึงรู้สึกสะดวกใจที่ได้ทำงานร่วมกับเขา “ก้ามปูพอจะบอกได้มั้ยว่าได้สคริปต์มายังไงบ้าง” พวกเขาเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเธอ “ถ้าของสัปดาห์นี้ก็ไม่มีนะ ของนายยังมีสคริปต์อยู่เหรอ เรานึกว่าจะไม่มีกันหมดทุกคนแล้วซะอีก” “ของเราก็ไม่มีหรอก แค่สงสัยว่าทำไมก้ามปูถึงดูยังไม่ค่อยถูกใจใครน่ะ นึกว่ามีสคริปต์ให้เธอไม่เลือกใครซะอีก”
37ตัวขัดขวาง โปรดิวเซอร์รายการเมลย์ยัวฮาร์ตนั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์คอยออกคำสั่งกับผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ที่อยู่ห่างออกไป เขามองภาพของเบลอย่างสนใจ อย่างนี้เองสินะ... เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมจู่ๆ แม่ทัพถึงอยากให้พิธีกรสาวคนนี้ได้เข้าร่วมรายการ ตอนแรกที่แม่ทัพเสนอมา เขาก็นึกว่าพิธีกรคนนี้มีความสัมพันธ์อันซับซ้อนกับอีกฝ่าย ความสัมพันธ์ที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน อาจจะต้องการดันให้พิธีกรสาวดังมากขึ้น แต่พอได้เห็นการกระทำของเบลแล้ว เขาก็พอจะเดาได้ว่าจุดประสงค์ของหญิงสาวคืออะไร เธอต้องถูกไหว้วานให้มากีดกันผู้ชายคนอื่นออกจากก้ามปูแน่ๆ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ทัพถึงเข้ามาแทรกแซงกิจกรรมบางอย่างที่ทางรายการออกแบบไว้ทั้งที่แม้จะถือหุ้นอยู่ แต่รายการของเขาก็เป็นเพียงรายการเล็กๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนใหญ่ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ตระกูลวรอนัญเดชไม่เคยลงมายุ่งวุ่นวายหรือใส่ใจเลยสักครั้ง ทำกำไรน้อยหรือขาดทุนก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาได้กำไรจากธุรกิจอื่นอีกตั้งมากมาย “โปรดิวเซอร์ทำหน้าทำตาอย่างกับพวกนักสืบเวลาได้เบาะแส รายก
36เพราะความใคร่? ตั้งแต่ที่ได้รู้ที่มาที่ไปอันสลับซับซ้อนของการตั้งตัวเป็นศัตรูกันระหว่างสองตระกูล แม่ทัพก็เริ่มมองเห็นถึงความเป็นไปได้ในการแก้ไข เขาเริ่มแทรกซึมเข้าไปในบอร์ดบริหารด้วยเหล่าลูกน้องที่เลือกเองกับมือตอนอายุสิบแปดปี ก่อนหน้านั้นเขาได้ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลของคนในทุกอย่าง จ้างนักสืบให้ติดตามมาโดยตลอด ทุกการเคลื่อนไหวของคนเหล่านั้นไม่อาจหลุดรอดจากสายตาของเขาได้ ด้วยความที่ธุรกิจของตระกูลวรอนัญเดชนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าคนคนเดียวจะควบคุมได้ ธุรกิจหลายอย่างจึงถูกกระจายไปให้ญาติๆ ในตระกูล แต่แน่นอนว่าคนคุมหลักยังเป็นพ่อของเขา ตระกูลของเขาไม่มีคนทรยศก็จริง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่มีคนเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน นอกเหนือจากญาติๆ ที่เข้ามาบริหารธุรกิจแล้ว ยังมีบอร์ดบริหารที่เป็นปัญหา คนพวกนี้ไม่ได้จัดการง่าย ชายหนุ่มที่ยังมีประสบการณ์น้อยอยู่จึงต้องระมัดระวัง เขาเฝ้าระวังทุกอย่างรอคอยให้วันของเขามาถึง... และมันก็ใกล้จะมาถึงแล้ว “พักหน่อยเถอะ” ชลนำผ้าอุ่นมาให้เจ้านายได้ประคบตา ตั้งแต่ถ่ายทำรายการเสร็จ แม่ทัพก็โหมทำงานหนักม
35หรือเรือจะล่ม? [เรือฉันมีแววว่าจะล่ม ไม่นะ] [แบบนี้ค่อยน่าตื่นตาตื่นใจหน่อย ในที่สุดก็มีคนอื่นที่แม่ทัพสนใจ] [ก้ามปูดูหงอยเหงาจัง น้องโกโก้ก็เดินนำไปแล้ว] [นี่แหละโอกาสดี ซันรีบทำคะแนนเร็ว!] ทว่าคนที่เดินตามหลังอยู่ห่างๆ อย่างก้ามปูทำให้คนดูรู้สึกสงสารได้ไม่ทันไร แม่ทัพก็วกกลับมาลากแขนเธอไปเดินเคียงคู่กัน “เดินดีๆ เดี๋ยวก็หลงหรอก” “ฉันไม่ใช่เด็กสักหน่อย” เจ้าตัวพยายามสะบัดแขนออก “ดื้อขนาดนี้ แม้แต่เด็กยังอายเลย ใช่มั้ย โกโก้” “ใช่ครับ” เพราะถูกสองหัวรุม คนหัวเดียวกระเทียมลีบอย่างก้ามปูเลยได้แต่ฮึดฮัดยอมเดินไปด้วยกันแต่โดยดี สายตาก็เหลือบมองเบลที่คอยพูดคุยชมนกชมไม้กับแม่ทัพอยู่เป็นระยะ เหอะ อยากจะจีบสาว แล้วเอาเธอมาด้วยทำไม ไอ้คนเจ้าชู้! หลังจากที่ด่าชายหนุ่มในใจไปไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้ง กลุ่มของพวกเขาก็แยกกันหลังจากเล่นเครื่องเล่นร่วมกันไปได้สองเครื่อง สายตาของแม่ทัพที่มองตามเบลไป ทำให้ก้ามปูอดที่จะกระแนะกระแหนใส่ไม่ได้ “ไม่ไปเดินเสียด้วยกันเลยล่ะ ฉันดูแลโกโก้คนเดียวได้”
34หมาเด็ก [หมดกัน ฉากสวีทแบบในหนังที่ฉันรอคอย] [นี่มันรายการเดตหรือรายการตลกกันครับเนี่ยยย] [ถ้าไม่บอกว่าเป็นบ้านผีสิงนี่จะนึกว่าก้ามปูกับโกโก้มาเดินชมวิวเล่นแล้วนะ] บรรยากาศภายในบ้านผีสิงของสวนสนุกทั้งมืดมิดและขมุกขมัว เสียงชวนหลอนประสาทที่ถูกปล่อยออกมาเป็นระยะๆ ชวนให้หวาดระแวง ขาของแม่ทัพแทบจะก้าวเดินไม่ออก ด้วยกลัวว่าจะมีตัวอะไรโผล่ออกมาให้ได้ตกใจตาย ท่าทางการเดินอย่างระมัดระวังของชายหนุ่มผิดกับหญิงสาวและเด็กชายลิบลับ ทั้งคู่กระโดดโลดเต้นไปทางซ้ายทีทางขวาทีอย่างคนที่ต้องการสำรวจให้ทั่วทุกซอกทุกมุม ค้นหากลไกที่ซ่อนอยู่ออกมาให้หมด นี่ถ้าทั้งสองคนถืออมยิ้มอันใหญ่อยู่ด้วยละก็...คงเป็นภาพที่ชวนหลอนพิลึก ดีไม่ดีทั้งคู่อาจจะเป็นวิญญาณที่หลอกล่อเขาให้เข้ามาติดกับก็เป็นได้! ก่อนที่แม่ทัพจะฟุ้งซ่านไปไกลกว่านั้น ก้ามปูที่คอยเดินถอยหลังกลับมาดูเขาเป็นระยะก็ตัดสินใจควงแขนเขาทันที “ชักช้าจัง ขาน่ะได้ก้าวออกมาบ้างมั้ย หรือต้องให้ฉันอุ้ม?” “พวกเธอก็เดินให้ช้าๆ หน่อยสิ” สีหน้าของแม่ทัพซีดขาวเสียยิ่งกว่ากระดาษ เสียงของ
33ก็แค่ความใคร่ “หยุดนะ!” ก้ามปูผลักคนข้างบนออก ตัวเธอถอยร่นจนชิดหัวเตียง “รู้หรือยังว่าฉันคิดยังไง?” แม่ทัพยอมนั่งลง พยายามไม่มองต่ำลงไปยังเสื้อผ้าที่ไม่เรียบร้อยของหญิงสาว “นายแค่มีความใคร่เท่านั้นแหละ...” พูดออกไปทั้งที่ไม่มั่นใจนัก “หึ ฉันไม่จำเป็นต้องให้เธอมาชี้นิ้วบอกว่าฉันรู้สึกยังไงหรอกนะ” นักแสดงหนุ่มทำเสียงในลำคอ หน้าตาดุดันขึ้นกว่าปกติจนหญิงสาวเริ่มสงสัยว่าเธอพูดอะไรผิด สาวสวยหนุ่มหล่ออยู่ด้วยกันสองต่อสอง แถมยังไม่ได้โกรธเกลียดอะไรกันขนาดนั้นแล้ว ย่อมต้องเผลอไผลเป็นธรรมดา ไม่ใช่หรือไง? “อย่าทำให้ทุกอย่างมันซับซ้อนไปกว่านี้เลย เรามาจบเรื่องสคริปต์บ้าๆ นี่กันเถอะ” ขณะที่พูดออกไป ใจของเธอก็วูบไหว “ในเมื่อที่ผ่านมามันไม่มีความหมาย...” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน “ก็ทำตามที่เธอต้องการนั่นแหละ” “...” “พรุ่งนี้ฉันจะออกจากรายการอยู่แล้ว... ดังนั้นก็ไม่ต้องเลือกฉันหรอกนะ เลือกคนที่เธอสนใจซะ” พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาจบ คนตัวสูงก็เดินออกจากประตูห้องไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันและหัวใจหวิวๆ ของก้ามปู