11แฟนคนแรก จำได้ว่าตอนนั้นเธออายุเพียงห้าขวบ เด็กหญิงตัวอวบอ้วนกำลังน่ากอด แก้มป่องอมชมพู ตากลมโต ปากจิ้มลิ้ม ถักเปียสองข้าง ดูน่ารักน่าหยิกไปเสียทั้งเนื้อทั้งตัวกำลังเล่นทรายอยู่ริมทะเล แม้จะไม่มีเพื่อนเล่นด้วย แต่เธอก็เล่นทรายคนเดียวพูดคนเดียวได้อย่างมีความสุข ไม่รู้สึกเหงาแต่อย่างใด จนกระทั่งมีเด็กชายอายุไล่เลี่ยกันคนหนึ่งเดินเข้ามาหา “สร้างอะไรน่ะ ไม่เห็นจะได้เรื่องเลย เล่นทรายทั้งทีก็ต้องสร้างปราสาททรายสิ” เพราะความไร้เดียงสา เธอจึงไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดใจที่ได้ฟังประโยคนั้น “ต้องทำยังไงเหรอคะ ช่วยน้องปูทำหน่อยสิ” แล้วทั้งคู่ก็เล่นทรายด้วยกันอย่างสนุกสนาน ทั้งสร้างปราสาทหลายชั้น สร้างกำแพงเมืองจีน ขุดหลุมทำบ่อน้ำ จนเนื้อตัวเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด แต่เป็นครั้งแรกที่เด็กหญิงก้ามปูได้สัมผัสถึงการมีเพื่อนเป็นเด็กผู้ชาย บางครั้งเขาก็เล่นแรงไปสักหน่อย ทำเอาเธอเกือบร้องไห้ แต่พอเจอคำปลอบที่ว่าจะตามใจทุกอย่าง ก็เหมือนเป็นการปิดก๊อกน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา “ถ้าน้องปูชอบ เราก็จะจับมาให้” เด็กชายพยายามขุดรู
12หาดร้อน การที่แม่ทัพไม่ยอมปฏิเสธสคริปต์ที่มีการอัปเดตใหม่จากโปรดิวเซอร์ ทำให้ก้ามปูรู้สึกหวาดระแวง กลัวว่าเขาจะใช้เรื่องราวในวัยเด็กมาดึงให้คนดูสนใจเรื่องของพวกเธอมากยิ่งขึ้น ก่อนจะทำใจมาออกรายการครั้งนี้ หญิงสาวได้พยายามล้างสมองตัวเองให้เห็นว่าทุกอย่างเป็นแค่การแสดง ให้มองว่าคู่อริของตนเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ ที่เธอต้องแสดงด้วย ไม่ใช่คนที่เธอเกลียดขี้หน้า แม้ชายหนุ่มจะไม่เผยมันออกมาอย่างชัดเจน แต่การพยายามชี้นำก็ทำให้เธอกระวนกระวายใจ “ยินดีด้วยค่ะ คุณก้ามปูสามารถรักษาห้องพักของตัวเองไว้ได้” ผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ประกาศ “ผมขอใช้สิทธิของผู้ชนะในครั้งก่อนครับ...” การพูดแทรกจากแม่ทัพทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก “ผมขอสตีล (steal) ห้องของก้ามปู” สิทธิของผู้ชนะที่คนพากันสงสัยว่าคืออะไรกันแน่ในที่สุดก็ได้ถูกเปิดเผย มันคือสิทธิในการเลือกห้องพักห้องใดก็ได้โดยที่คนอื่นไม่มีสิทธิแย้ง การที่แม่ทัพทำแบบนี้หมายความว่าเธอจะต้องสลับห้องกับเขา และได้ห้องบนชั้นสองไป แม่งเอ๊ย! ไหนบอกว่าต้องแสดงว่าปิ๊งกันไง คนปิ๊งกันมันแย่งห้องกันอย่างนี้ได้ด้วยเรอะ!
13ถ้าชอบนักก็มานอนด้วยกัน หลังจากใช้แรงมหาศาลในการทำกิจกรรมกลางแจ้งท้าแดดช่วงกลางวันเสร็จ เหล่าผู้ร่วมรายการก็ได้มีเวลาพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวหนึ่งชั่วโมงเต็ม ก่อนที่จะเริ่มปาร์ตี้ในยามเย็น สำหรับสาวๆ เวลาอาบน้ำแต่งตัวก็กินไปเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว เวลาที่เหลือจึงเลือกที่จะนอนพักในห้องเสียมากกว่า ยกเว้นเฟรินที่แอบเช็กมือถือจนได้รู้ว่าชาวเน็ตเชียร์คู่ของแม่ทัพและก้ามปูมากเพียงใด ต่างจากที่มีการพูดถึงเธอเพียงเรื่องรูปร่างและความสดใสตอนทำกิจกรรมเท่านั้น หญิงสาวรู้สึกว่าทุกอย่างเริ่มไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ ทั้งที่เธอก็ทำตามสคริปต์แล้วแท้ๆ แต่ก็ยังไม่สามารถแย่งซีนมาได้ สงสัยถึงเวลาที่เธอต้องดึงคนอื่นเข้ามาเป็นพวกเสียแล้วสิ คิดได้ดังนั้น เฟรินก็เดินไปเคาะประตูห้องของภามทันทีโดยไม่กลัวเรื่องกล้องที่ตามถ่ายทำเธออยู่ “อ้าว น้องเฟริน มีอะไรหรือเปล่าครับ” ดาราหนุ่มเปิดประตูออกมาด้วยสภาพเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมยังเปียกชื้น มือข้างหนึ่งถือผ้าขนหนูเช็ดผมด้วยท่าทางที่คิดว่าเซ็กซี่ที่สุด เฟรินมองชุดคลุมอาบน้ำของเขาที่แหวกให้เห็นไรขนบนแผงอกรำ
14True or Dare ชุดที่แม่ทัพใส่เป็นชุดหนังสีดำเหลือบเขียวที่มีการผ่าซะจนเห็นเนื้อหนังให้อารมณ์นักรบโบราณผู้แข็งแกร่ง ท่อนล่างเป็นกางเกงหนังขาสั้นมีเส้นสีดำห้อยอยู่เป็นจำนวนมาก เวลาเดินจึงดูพลิ้วไหว เป็นชุดที่โทนสีและการออกแบบดูเข้ากันได้ดีกับชุดของเจ้าแม่ดราม่า “ไม่เห็นจะเข้าธีมเลย” ก้ามปูวิจารณ์ “จะว่าไปชุดของแม่ทัพก็คล้ายๆ ก้ามปูเหมือนกันนะ ใจตรงกันเชียว” ปันปันแซวโดยไม่กลัวว่าเพื่อนสาวจะโกรธ เพื่อนเธอคนนี้นี่ก็จริงๆ เลย เดี๋ยวก็เชียร์คนนั้นทีคนนี้ที กะจะให้เธอคู่กับผู้ชายทุกคนในรายการเลยหรือยังไงกัน “ไม่เข้าธีม แต่ขอแค่โดนใจใครบางคนก็พอ” สายตาคมปลาบมองมายังคนวิจารณ์อย่างสื่อความหมาย [กรี๊ดๆๆ โมเม้นต์นี้นี่มันอะไรกัน] [จ้องอีก มองด้วยสายตาแบบนี้ มองเยอะๆ เลย ฉันพร้อมละลาย] [แม่ทัพกำลังจะกลืนกินฉันแหละ!] เหล่าคนดูต่างพร้อมใจกันมโนทันทีที่เห็นสายตาของชายหนุ่ม “น่าจะโดนใจหลายคนอยู่แหละครับ” อี้เฉินแทรกบรรยากาศอันไม่เป็นผลดีต่อตัวเขา พยักพเยิดไปทางเฟรินที่มองแม่ทัพอย่างชื่นชมและพยักหน้าเห็นด้วยกับค
15ท้าให้จูบ หลังจากจักรพรรดิภาพยนตร์พูดประโยคนั้นออกมา ผู้ร่วมรายการก็แสดงออกแตกต่างกันไป อี้เฉินเป็นคนที่ดูจะมีปฏิกิริยารุนแรงที่สุด เขาถึงกับลุกขึ้นยืนขวางก้ามปูไม่ให้เดินออกไปไหน รองลงมาคือภามที่ตกใจจนเทเบียร์หกล้นแก้ว ถัดไปคือปันปันที่กำลังเขยิบออกจากตักคะนิ้งเพราะหมดรอบของเธอแล้วได้แต่ชะงักก้นลอยค้าง ส่วนเฟรินนั้นไม่ขยับตัวก็จริงแต่สีหน้าแสดงออกถึงความไม่ยินยอม ปากเม้มแน่นด้วยความอิจฉา เธอกับภามยังไม่ทันที่จะได้เริ่มทำอะไร แม่ทัพก็แสดงออกว่าอยากจะสร้างโมเม้นต์กับผู้หญิงคนนั้นเข้าซะแล้ว ฝ่ายคนที่โดนท้าย่อมไม่ทำให้ตัวเองเสียฉายาเจ้าแม่ดราม่า...คนที่เล่นละครได้อย่างเข้าถึงบทบาท สลัดภาพของตัวละครเรื่องก่อนๆ ได้หมดทุกครั้งที่เริ่มการแสดงบทบาทใหม่ “ก็เอาสิ” [ฉันกดอัดหน้าจอรอแล้วนะ] [ภาพประวัติศาสตร์กำลังจะเกิดขึ้นอีกแล้ววว] [โอ๊ยยย รอฟินไม่ไหวแล้วจ้า] หญิงสาวเดินอ้อมอี้เฉินที่ยืนบังตัวเธอไว้ไปหาคนท้าที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะนุ่ม เธอคุกเข่าลงบนพื้นทราย นิ้วเรียวสวยเชยคางที่มีไรหนวดจางๆ ขึ้นมา วินาทีที่สายต
16Surprise Date เช้าวันรุ่งขึ้นคนที่วิ่งออกกำลังกายไม่ได้มีเพียงแค่อี้เฉินและแม่ทัพอีกต่อไป ต่างจากสองหนุ่มที่แยกกันวิ่งเส้นทางใครเส้นทางมัน ภามกลับชะเง้อหน้ามองหาแม่ทัพและวิ่งไปตีคู่ชายหนุ่ม เมื่อเห็นว่าภามไม่ได้พูดรบกวนอะไร แม่ทัพก็เลยปล่อยให้เขาวิ่งด้วย แต่ก็ไม่คิดที่จะลดความเร็วหรือเพิ่มความเร็วให้เสียจังหวะของตน ในขณะที่ภามกลับต้องพยายามประคองจังหวะตัวเองให้ตีคู่ไปกับชายหนุ่มได้ อาหารเช้าคราวนี้มีทีมงานเตรียมไว้ให้เนื่องจากกังวลว่าทุกคนจะเหนื่อยกับกิจกรรมเมื่อคืน ทำให้ผู้ร่วมรายการไม่จำเป็นต้องตื่นเช้ากันอีก แต่เฟรินก็ยังคงรักษามาตรฐานเอาไว้อย่างชัดเจน เธอตื่นมาปูเสื่อเล่นโยคะอยู่ริมสระว่ายน้ำซึ่งมองเห็นวิวทะเล ท่าทางการออกกำลังกายของเธอทำให้คนดูไลฟ์สดรู้สึกได้ถึงความสงบสุข แค่ได้กินขนมหวานไปมองเธอออกกำลังกายไปก็เหมือนกับว่าตัวเองได้ออกกำลังกายแล้ว ส่วนสามสาวพร้อมใจกันนอนยาวๆ กว่าจะตื่นก็เป็นเวลาแปดโมงเช้า ก้ามปูแบกร่างที่ยังไม่ได้อาบน้ำแต่งหน้าลงมาหาอาหารใส่กระเพาะเพราะทนความหิวไม่ไหว ก่อนจะเดินสะลึมสะลือกลับเข้าไปในห้อง [เพ
17คิดว่าทำได้ก็ลองดู เพราะสู้แรงฝ่ายชายไม่ได้ คนโดนแกล้งจนหัวตื้อไปหมดก็เลยต้องยอมส่งแผนที่ให้เขาเป็นคนดูเอง หลังจากที่แม่ทัพเป็นคนดูทางเอง พวกเขาก็ไม่ได้ทะเลาะกันอีกต่อไป และในที่สุดก็มาถึงหมู่บ้านชาวประมงที่มีบ้านเรือนเรียงรายอยู่ไม่ถึงสิบหลัง เรือประมงลำเล็ก และบรรดาสัตว์ทะเลที่ถูกนำมาตากแห้งไว้อยู่ริมชายหาด หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งรีบเดินเข้ามาหาพวกเธอเหมือนรออยู่ก่อนแล้ว “ก้ามปูกับแม่ทัพสินะ มาๆ ไปดื่มน้ำดื่มท่าที่บ้านป้าก่อน ตอนนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว เดี๋ยวจะเป็นลมแดดเอา” พวกเธอตามคนที่แนะนำตัวเองว่าชื่อป้าม้อยไปที่บ้านดินเผาซึ่งให้ความรู้สึกเย็นกว่าข้างนอกทั้งที่ไม่ได้ติดแอร์ มีเหล่าเด็กๆ มาเมียงมองอยู่หน้าประตู แต่ก็ถูกเจ้าของบ้านไล่ให้ออกไปวิ่งเล่นกันที่อื่น “ทางรายการบอกแล้วว่าจะให้พวกหนูมาศึกษาวิถีชีวิตและช่วยงานคนในหมู่บ้าน แต่ป้าเห็นผิวสวยๆ แล้วก็เสียดาย กลัวจะโดนแดดเผาซะก่อน เอาเป็นว่ากางร่มเดินดูหมู่บ้านแทนก็แล้วกัน เดี๋ยวป้าจะเป็นไกด์ให้ คิดเสียว่ามาดูงาน” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ปูช่วยได้ เมื่อวานพวกเราก็ทำกิจกรรมกล
18เปิดเผยรสนิยม [ขอให้ไปถึงโรงพยาบาลเร็วๆ เถอะ] [แม่ทัพดูเป็นห่วงก้ามปูมากเลยนะเนี่ย] [ห่วงก้ามปูก็ห่วง ฟินก็ฟิน เฮ้อ ทำตัวไม่ถูกเลยฉัน] เหล่าคนดูที่เลือกเปิดดูกล้องซึ่งบันทึกภาพของก้ามปูอยู่ในตอนนั้นต่างก็รู้ถึงสาเหตุของบาดแผลหญิงสาว จึงพากันแสดงความเป็นห่วงออกมาอย่างล้นหลาม เล่นน้ำทะเลแค่พอเปียกระดับขาแถวโขดหินใหญ่กันอยู่ดีๆ ก้ามปูก็ร้องลั่นรีบวิ่งขึ้นจากน้ำ ถึงแม้ว่ากล้องจะจับภาพไม่ชัดนักว่าเป็นตัวอะไร แต่คนดูหลายคนก็พอมองออกว่าเป็นแมงกะพรุน เจ้าแม่ดราม่าดูเหมือนจะได้สติขึ้นมาหลังจากที่ถูกวางลงบนเบาะหลังรถ ขาของเธอถูกคู่กัดดึงไปวางไว้บนตักของเขา “อย่าขยับ” แม่ทัพเอ่ยเสียงดุเมื่อหญิงสาวพยายามจะยกขาหนี มือหนาหยิบน้ำส้มสายชูที่ทางทีมงานได้เตรียมไว้ในชุดปฐมพยาบาลมาเทราดลงไปบนหน้าขาของเธอที่ถูกรองไว้ด้วยผ้าขนหนู รอยที่ถูกแมงกะพรุนไฟต่อยนั้นแดงมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังมีผื่นผุดขึ้นมาแสดงออกถึงอาการแพ้ ก้ามปูที่โดนสั่งได้แต่นั่งนิ่งอย่างอึ้งๆ ไม่นึกว่าชายหนุ่มจะเดาได้ทันทีว่าเธอโดนอะไรมาทั้งที่ยังไม่ได้พูดออกไป ท่าทางการ
41ถอยคนละก้าว หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป... แม้จะผ่านไปเพียงไม่กี่วันที่แม่ทัพไม่ได้เจอกับก้ามปู แต่ก็มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย หนึ่ง... แม่ทัพทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับพ่อแม่ได้สำเร็จ ทำให้เขาสามารถคบกับก้ามปูอย่างเปิดเผยได้ และข้อตกลงนั้นก็คือการแก้ปัญหาภายในของบอร์ดบริหารที่ไม่ยอมให้ตระกูลของก้ามปูได้เข้ามายุ่งเกี่ยวและได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ใดๆ จากพวกเขา ความหัวแข็งของเหล่าบอร์ดบริหารถูกชายหนุ่มที่วางแผนมายาวนานหลายปีเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ พวกเขายอมยกเลิกการขัดแข้งขัดขา และอนุญาตให้แม่ทัพเป็นตัวแทนไปเจรจาธุรกิจกับทางตระกูลธิปภควรรณได้ เมื่อแม่ทัพสามารถจัดการปัญหาใต้พรมอันค้างคามานานได้สำเร็จ ข้อตกลงที่ว่าโยธินและขวัญรัตน์จะอนุญาตให้เขาคบและแต่งงานกับหญิงสาวจากตระกูลคู่แข่งได้ก็เป็นอันบรรลุผล สอง... สืบเนื่องมาจากการกระทำของแม่ทัพ กระแสต่อต้านไม่ยอมแม้แต่จะพูดคุยด้วยของทางฝั่งตระกูลธิปภควรรณเริ่มอ่อนลง พ่อแม่ของก้ามปูยอมรับฟังข้อเสนอของชายหนุ่มและนำเรื่องเข้าบอร์ดบริหาร ส่วนหนึ่งก็เพราะการโน้มน้าวจากตระกูลเทียนศักดิ์ ตระกูลของนีน่าเพื่
40อย่าทำให้ฉันผิดหวัง แล้ววันนั้นโปรดิวเซอร์ก็ได้เข้าใจว่าทำไมนักลงทุนที่ร้อยวันพันปีไม่คิดจะมาเหยียบกองถ่าย ไม่เคยออกคำสั่งอะไรให้เขาต้องลำบากใจ กลับมาสังเกตการณ์ที่กองถ่ายทั้งที่ลูกชายของตนก็ไม่ได้ต้องถ่ายทำรายการแล้ว มันเป็นเพราะว่าเธอมาจ้องจับผิดปฏิกิริยาของลูกชายตนที่มีต่อว่าที่ลูกสะใภ้นี่เอง ถึงแม้จะตกใจนิดหน่อยที่เห็นหนุ่มสาวเดินออกมาจากห้องเดียวกันในยามเช้า แต่โปรดิวเซอร์กลับรู้สึกภาคภูมิใจเสียมากกว่าที่รายการของเขาทำให้คู่กัดกลายเป็นคู่รักได้... ทำให้คู่ที่ไม่น่าเป็นไปได้ได้ลงเอยกัน เมื่อถ่ายรายการมาถึงตอนเลือกคู่ และก้ามปูดันไปเลือกปันปัน ทำให้ถูกปฏิเสธออกมา โปรดิวเซอร์ก็เลยตัดสินใจได้ว่าคนที่ควรจะถูกคัดออกจากรายการคือก้ามปู เจตนาของเธอดูชัดเจนขนาดนี้ หากเขาไม่คัดเธอออกจากรายการ แม่ทัพและก้ามปูจะต้องไม่พอใจ และคุณขวัญรัตน์ก็จะต้องไม่พอใจที่เขาทำให้ลูกชายไม่พอใจด้วยแน่ๆ [ก้ามปูทำอะไรอยู่น่ะ หลอกลวงคนดูชัดๆ] [บ้าไปแล้ว เลือกแบบนี้ได้ไง คิดว่าคนดูโง่งั้นเหรอ ก้ามปูมีรสนิยมชอบผู้หญิงที่ไหนกัน] [แต่ฉันว่าก้า
39จะทำให้ร้องขอชีวิต “ฉันอยากเสร็จในตัวเธอมากกว่า” “งั้นก็รีบเข้ามาสิ” เธอบอกความต้องการของตัวเองด้วยใบหน้าแดงก่ำ ขยับตัวขึ้นมานั่งระดับเดียวกับเขาเพื่อประกบปากจูบ แม่ทัพดันร่างบางให้นอนราบลงไปอย่างรวดเร็ว ความปวดหนึบทรมานอยากปลดปล่อยทำให้เขารั้งสติของตนไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ขณะที่จูบปากแลกลมหายใจกันอย่างตะกละตะกลาม ปลายท่อนเอ็นก็ถูไถเข้ากับปากทางที่เริ่มแฉะขึ้นอีกครั้งเพราะแรงปลุกเร้าจากเขา ก้ามปูรู้สึกถึงความคับแน่นที่ชำแรกเข้ามาภายในตัวของเธออย่างช้าๆ แต่ถึงจะอ่อนโยนเพียงใด ความใหญ่ของเขาก็ทำให้เธอที่ไม่ได้มีอะไรกับใครมานานมากเจ็บหนึบจนน้ำตาซึม ต้องระบายอารมณ์โดยการกัดริมฝีปากหนาของเขาจนห้อเลือด มือหนาจับต้นขาของเธอให้แหวกออกกว้างขึ้นเพื่อที่จะดันส่วนปลายให้หลุดเข้าไปได้ “ฮื้อ!” หญิงสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อแก่นกายของเขาดันเข้ามาในตัวเธอพรวดเดียว “รัดแน่นเชียว” ปากของเขาเลื่อนไปจูบซับน้ำตา ไล่ไปข้างขมับและใบหูอย่างปลอบประโลม ฝ่ามือบีบนวดสะกิดยอดอกสล้างให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย “ก็ของนายนั่นแหละ ฮื้อออ ใหญ่จนเจ็บไปห
38พิสูจน์สิ เธอไม่มีวันเชื่อคำพูดจากปากคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าตัวเด็ดขาด พยายามย้ำเตือนตัวเองด้วยประโยคนี้อยู่ตลอด แต่ก้ามปูก็ไม่มีกระจิตกระใจจะทำกิจกรรมยามค่ำคืนเลยสักนิด และผลก็ออกมาว่าการแสดงโชว์ในคราวนี้เธอไม่ชนะอีกตามเคย พอถึงเวลาแยกย้ายเข้านอนในโรงแรมขนาดกลางที่ทางรายการจัดไว้ให้ ซันก็เป็นฝ่ายเดินเข้ามาขอคุยด้วย “วันนี้ได้เที่ยวกับก้ามปูสนุกมากเลย ถ้าพรุ่งนี้มีโอกาสได้เดตกันอีก ก้ามปูยังอยากจะเดตกับเรามั้ย” “เอาสิ อยู่กับซันแล้วสบายใจดี” ตอนถ่ายแบบด้วยกัน ซันมีความเป็นมืออาชีพแต่ก็ไม่เคยกดดันหรือดูถูกเธอที่ไม่ถนัดด้านนั้น แถมยังช่วยให้คำแนะนำดีๆ มากมายกับเธออีกด้วย ดังนั้นหญิงสาวจึงรู้สึกสะดวกใจที่ได้ทำงานร่วมกับเขา “ก้ามปูพอจะบอกได้มั้ยว่าได้สคริปต์มายังไงบ้าง” พวกเขาเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเธอ “ถ้าของสัปดาห์นี้ก็ไม่มีนะ ของนายยังมีสคริปต์อยู่เหรอ เรานึกว่าจะไม่มีกันหมดทุกคนแล้วซะอีก” “ของเราก็ไม่มีหรอก แค่สงสัยว่าทำไมก้ามปูถึงดูยังไม่ค่อยถูกใจใครน่ะ นึกว่ามีสคริปต์ให้เธอไม่เลือกใครซะอีก”
37ตัวขัดขวาง โปรดิวเซอร์รายการเมลย์ยัวฮาร์ตนั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์คอยออกคำสั่งกับผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ที่อยู่ห่างออกไป เขามองภาพของเบลอย่างสนใจ อย่างนี้เองสินะ... เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมจู่ๆ แม่ทัพถึงอยากให้พิธีกรสาวคนนี้ได้เข้าร่วมรายการ ตอนแรกที่แม่ทัพเสนอมา เขาก็นึกว่าพิธีกรคนนี้มีความสัมพันธ์อันซับซ้อนกับอีกฝ่าย ความสัมพันธ์ที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน อาจจะต้องการดันให้พิธีกรสาวดังมากขึ้น แต่พอได้เห็นการกระทำของเบลแล้ว เขาก็พอจะเดาได้ว่าจุดประสงค์ของหญิงสาวคืออะไร เธอต้องถูกไหว้วานให้มากีดกันผู้ชายคนอื่นออกจากก้ามปูแน่ๆ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ทัพถึงเข้ามาแทรกแซงกิจกรรมบางอย่างที่ทางรายการออกแบบไว้ทั้งที่แม้จะถือหุ้นอยู่ แต่รายการของเขาก็เป็นเพียงรายการเล็กๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนใหญ่ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ตระกูลวรอนัญเดชไม่เคยลงมายุ่งวุ่นวายหรือใส่ใจเลยสักครั้ง ทำกำไรน้อยหรือขาดทุนก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาได้กำไรจากธุรกิจอื่นอีกตั้งมากมาย “โปรดิวเซอร์ทำหน้าทำตาอย่างกับพวกนักสืบเวลาได้เบาะแส รายก
36เพราะความใคร่? ตั้งแต่ที่ได้รู้ที่มาที่ไปอันสลับซับซ้อนของการตั้งตัวเป็นศัตรูกันระหว่างสองตระกูล แม่ทัพก็เริ่มมองเห็นถึงความเป็นไปได้ในการแก้ไข เขาเริ่มแทรกซึมเข้าไปในบอร์ดบริหารด้วยเหล่าลูกน้องที่เลือกเองกับมือตอนอายุสิบแปดปี ก่อนหน้านั้นเขาได้ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลของคนในทุกอย่าง จ้างนักสืบให้ติดตามมาโดยตลอด ทุกการเคลื่อนไหวของคนเหล่านั้นไม่อาจหลุดรอดจากสายตาของเขาได้ ด้วยความที่ธุรกิจของตระกูลวรอนัญเดชนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าคนคนเดียวจะควบคุมได้ ธุรกิจหลายอย่างจึงถูกกระจายไปให้ญาติๆ ในตระกูล แต่แน่นอนว่าคนคุมหลักยังเป็นพ่อของเขา ตระกูลของเขาไม่มีคนทรยศก็จริง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่มีคนเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน นอกเหนือจากญาติๆ ที่เข้ามาบริหารธุรกิจแล้ว ยังมีบอร์ดบริหารที่เป็นปัญหา คนพวกนี้ไม่ได้จัดการง่าย ชายหนุ่มที่ยังมีประสบการณ์น้อยอยู่จึงต้องระมัดระวัง เขาเฝ้าระวังทุกอย่างรอคอยให้วันของเขามาถึง... และมันก็ใกล้จะมาถึงแล้ว “พักหน่อยเถอะ” ชลนำผ้าอุ่นมาให้เจ้านายได้ประคบตา ตั้งแต่ถ่ายทำรายการเสร็จ แม่ทัพก็โหมทำงานหนักม
35หรือเรือจะล่ม? [เรือฉันมีแววว่าจะล่ม ไม่นะ] [แบบนี้ค่อยน่าตื่นตาตื่นใจหน่อย ในที่สุดก็มีคนอื่นที่แม่ทัพสนใจ] [ก้ามปูดูหงอยเหงาจัง น้องโกโก้ก็เดินนำไปแล้ว] [นี่แหละโอกาสดี ซันรีบทำคะแนนเร็ว!] ทว่าคนที่เดินตามหลังอยู่ห่างๆ อย่างก้ามปูทำให้คนดูรู้สึกสงสารได้ไม่ทันไร แม่ทัพก็วกกลับมาลากแขนเธอไปเดินเคียงคู่กัน “เดินดีๆ เดี๋ยวก็หลงหรอก” “ฉันไม่ใช่เด็กสักหน่อย” เจ้าตัวพยายามสะบัดแขนออก “ดื้อขนาดนี้ แม้แต่เด็กยังอายเลย ใช่มั้ย โกโก้” “ใช่ครับ” เพราะถูกสองหัวรุม คนหัวเดียวกระเทียมลีบอย่างก้ามปูเลยได้แต่ฮึดฮัดยอมเดินไปด้วยกันแต่โดยดี สายตาก็เหลือบมองเบลที่คอยพูดคุยชมนกชมไม้กับแม่ทัพอยู่เป็นระยะ เหอะ อยากจะจีบสาว แล้วเอาเธอมาด้วยทำไม ไอ้คนเจ้าชู้! หลังจากที่ด่าชายหนุ่มในใจไปไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้ง กลุ่มของพวกเขาก็แยกกันหลังจากเล่นเครื่องเล่นร่วมกันไปได้สองเครื่อง สายตาของแม่ทัพที่มองตามเบลไป ทำให้ก้ามปูอดที่จะกระแนะกระแหนใส่ไม่ได้ “ไม่ไปเดินเสียด้วยกันเลยล่ะ ฉันดูแลโกโก้คนเดียวได้”
34หมาเด็ก [หมดกัน ฉากสวีทแบบในหนังที่ฉันรอคอย] [นี่มันรายการเดตหรือรายการตลกกันครับเนี่ยยย] [ถ้าไม่บอกว่าเป็นบ้านผีสิงนี่จะนึกว่าก้ามปูกับโกโก้มาเดินชมวิวเล่นแล้วนะ] บรรยากาศภายในบ้านผีสิงของสวนสนุกทั้งมืดมิดและขมุกขมัว เสียงชวนหลอนประสาทที่ถูกปล่อยออกมาเป็นระยะๆ ชวนให้หวาดระแวง ขาของแม่ทัพแทบจะก้าวเดินไม่ออก ด้วยกลัวว่าจะมีตัวอะไรโผล่ออกมาให้ได้ตกใจตาย ท่าทางการเดินอย่างระมัดระวังของชายหนุ่มผิดกับหญิงสาวและเด็กชายลิบลับ ทั้งคู่กระโดดโลดเต้นไปทางซ้ายทีทางขวาทีอย่างคนที่ต้องการสำรวจให้ทั่วทุกซอกทุกมุม ค้นหากลไกที่ซ่อนอยู่ออกมาให้หมด นี่ถ้าทั้งสองคนถืออมยิ้มอันใหญ่อยู่ด้วยละก็...คงเป็นภาพที่ชวนหลอนพิลึก ดีไม่ดีทั้งคู่อาจจะเป็นวิญญาณที่หลอกล่อเขาให้เข้ามาติดกับก็เป็นได้! ก่อนที่แม่ทัพจะฟุ้งซ่านไปไกลกว่านั้น ก้ามปูที่คอยเดินถอยหลังกลับมาดูเขาเป็นระยะก็ตัดสินใจควงแขนเขาทันที “ชักช้าจัง ขาน่ะได้ก้าวออกมาบ้างมั้ย หรือต้องให้ฉันอุ้ม?” “พวกเธอก็เดินให้ช้าๆ หน่อยสิ” สีหน้าของแม่ทัพซีดขาวเสียยิ่งกว่ากระดาษ เสียงของ
33ก็แค่ความใคร่ “หยุดนะ!” ก้ามปูผลักคนข้างบนออก ตัวเธอถอยร่นจนชิดหัวเตียง “รู้หรือยังว่าฉันคิดยังไง?” แม่ทัพยอมนั่งลง พยายามไม่มองต่ำลงไปยังเสื้อผ้าที่ไม่เรียบร้อยของหญิงสาว “นายแค่มีความใคร่เท่านั้นแหละ...” พูดออกไปทั้งที่ไม่มั่นใจนัก “หึ ฉันไม่จำเป็นต้องให้เธอมาชี้นิ้วบอกว่าฉันรู้สึกยังไงหรอกนะ” นักแสดงหนุ่มทำเสียงในลำคอ หน้าตาดุดันขึ้นกว่าปกติจนหญิงสาวเริ่มสงสัยว่าเธอพูดอะไรผิด สาวสวยหนุ่มหล่ออยู่ด้วยกันสองต่อสอง แถมยังไม่ได้โกรธเกลียดอะไรกันขนาดนั้นแล้ว ย่อมต้องเผลอไผลเป็นธรรมดา ไม่ใช่หรือไง? “อย่าทำให้ทุกอย่างมันซับซ้อนไปกว่านี้เลย เรามาจบเรื่องสคริปต์บ้าๆ นี่กันเถอะ” ขณะที่พูดออกไป ใจของเธอก็วูบไหว “ในเมื่อที่ผ่านมามันไม่มีความหมาย...” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน “ก็ทำตามที่เธอต้องการนั่นแหละ” “...” “พรุ่งนี้ฉันจะออกจากรายการอยู่แล้ว... ดังนั้นก็ไม่ต้องเลือกฉันหรอกนะ เลือกคนที่เธอสนใจซะ” พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาจบ คนตัวสูงก็เดินออกจากประตูห้องไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันและหัวใจหวิวๆ ของก้ามปู