“เดี๋ยวก่อนค่ะ” อลิชารีบวิ่งไปขวางหน้าเมื่อบุรินทร์ภัทรตั้งท่าจะเดินหนี หัวใจดวงน้อยเต้นแรงเมื่อเผชิญหน้ากับชายหนุ่มในรอบหลายเดือน“…..”“เฮียเป็นอะไร” หยดน้ำตารินไหลอาบพวงแก้มจนเปียกปอน โผกอดคนตัวโตไว้แน่นด้วยความคิดถึง“ไม่ได้เป็นอะไร ขอบคุณที่พาลูกมาส่ง เฮียขอตัวไปดูลูกก่อน” เขาไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปสู้หน้าเพราะรู้ว่าร่างกายของตัวเองนั้นไม่เหมือนเดิม“อย่าเพิ่งไป” ประคองใบหน้าคมคายให้เงยขึ้นมาสบตา กลั้นเสียงร้องไห้สะอื้นจนตัวสั่น “ทำไมถึงเป็นแบบนี้”ปลายนิ้วเรียวลูบไล้ไปที่บาดแผลขนาดใหญ่ รอยแผลเป็นนั้นยังคงปรากฏให้เห็นเด่นชัดอยู่บนใบหน้า“เฮียเจ็บมากมั้ย”“คงไม่ตายง่ายๆ หรอก”ร่างสูงยกยิ้มเล็กน้อยมองคนตรงหน้า แต่สิ่งที่เธอทำคือเขย่งปลายเท้าขึ้นมาจูบที่ริมฝีปากหนาอย่างเอาแต่ใจชายหนุ่มหลับตาลงช้าๆ หยุดเคลื่อนไหวร่างกายยอมให้เธอจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า โหยหาทุกสิ่ง ต้องการทุกอย่างที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอลิชา“ทำแบบนี้เพื่ออะไร ต้องการอะไรอีก”“ชาไม่ได้ต้องการอะไรเลย”“แค่นี้ก็เจ็บจนทนไม่ไหว อย่าทำให้เฮียเจ็บไปมากกว่านี้”“ทำไมถึงไม่บอกกันบ้าง” ซุกใบหน้าคลอเคลียเข้ากับแผงอกแกร่งอย่างออดอ้อน“มั
“เฮียแฟรงก์ของชายังหล่อเหมือนเดิม” อลิชานั่งเอนหลังพิงหัวเตียง ยกมือลูบศีรษะของชายหนุ่มที่กำลังนอนหนุนอยู่บนตักด้วยความอ่อนโยนเธอคลี่ยิ้มบางมองข้ามบาดแผลที่ติดอยู่บนใบหน้า จ้องดวงตาเฉี่ยวคมที่คุ้นเคย“มัวแต่จ้องหน้าหนู ทำไมถึงไม่พูดอะไรบ้าง”“แค่กำลังคิด ว่าบางทีเฮียอาจจะฝันไป” ใช่ครั้งแรกซะที่ไหน! เป็นเพราะคิดถึงเธอมากไปจนเก็บเอาไปฝันอยู่หลายครั้ง“ไม่ได้ฝัน”“ถ้าเป็นฝัน มันก็คงเป็นฝันที่ดีที่สุด” หลับตาลงช้าๆ ด้วยความเหนื่อยล้า อยากนอนหลับแบบไม่ต้องตื่นไปชั่วชีวิตเขาแค่ไม่อยากตื่นขึ้นมาพบกับความจริงที่ว่างเปล่า“มันคือเรื่องจริง ชาอยู่ตรงนี้แล้ว”โน้มใบหน้าเข้าใกล้ ก้มลงจูบที่ริมฝีปากของชายหนุ่มเบาๆ สอดเรียวลิ้นเข้าไปเกี่ยวพันดูดดื่ม โดยที่เขาไม่ได้ปฏิเสธ ยอมให้เธอจูบเป็นเวลาเนิ่นนานบุรินทร์ภัทรเงยหน้าขึ้นรับรสจูบอ่อนหวาน ส่งเสียงครางต่ำในลำคอ รสชาตินิ่มนวลยังคงติดอยู่ในโพรงปากไม่สามารถสลัดมันออกจากความทรงจำได้เลย“เชื่อหรือยังว่าไม่ได้ฝัน”“จะกลับมาหากันตอนไหน กลับมาเลยได้มั้ย อย่าทิ้งเฮียไว้คนเดียวแบบนี้”“ชาจะไม่ไปไหน”“มีแค่เฮียคนเดียวได้มั้ย เธออย่าไปรักใครนอกจากเฮีย”“จะไม่
“กระโปรงเธอมันสั้นไปมั้ยลิชา แล้วเสื้อนักศึกษาทำไมมันฟิตเปรี๊ยะขนาดนั้น”บุรินทร์ภัทรรีบเดินตามเมียเด็กเข้ามาในออฟฟิศ ยืนเท้าเอวไล่สายตามองการแต่งกายของหญิงสาวอย่างไม่สบอารมณ์อลิชานั่งกอดอกไขว่ห้างอยู่บนโซฟา ทำท่าทางราวกับไม่ได้สนใจในสิ่งที่เขาพูดตอนนี้เหมือนอาจารย์ฝ่ายปกครองกำลังเรียกเด็กนักเรียนที่ผิดระเบียบมาอบรมสั่งสอนก็ไม่ปานกระโปรงทรงเอแหวกลึกโชว์เรียวขาสวยจนเกือบจะเห็นขอบกางเกงในและเสื้อนักศึกษาตัวจิ๋วรัดสัดส่วนอวบอั๋น ใครได้เห็นก็ต้องเหลียวมอง“ปกติหนูก็ใส่แบบนี้”“เดี๋ยวเฮียพาไปซื้อชุดใหม่ แต่ไม่เอาแบบนี้แล้วนะ”“หนูแต่งแบบนี้แล้วมันไม่สวยเหรอคะ”“เพราะสวยนั่นแหละถึงได้ตามหึงอยู่แบบนี้”“สรุปจะเอายังไง” คนตัวเล็กเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เขาเคยบอกว่าเธอจืดชืดเฉิ่มเชยไม่น่ามอง พอเริ่มหันมาดูแลตัวเอง รู้จักแต่งเนื้อแต่งตัวกลับไม่พอใจ“ถ้าจะแต่งแบบนี้ เก็บเอาไว้ให้เฮียเห็นคนเดียวพอ”“เฮ้อ…” ผ่อนลมหายใจลากยาว ดูเหมือนว่าการกลับมาเจอกันอีกครั้งจะรับมือยากกว่าที่คิดไว้“กลับไปเป็นยัยเฉิ่มของเฮียเหมือนเดิม เฮียชอบที่เธอเป็นแบบนั้น”“แต่ตอนนั้นหนูไม่สวยนะ”“จะตอนไหนก็สวยสำหรับเฮีย” ไม
“มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ”ดาวเหนือหันมายิ้มให้ เนื่องจากเธอและอลิชามีอายุห่างกันมากถึงสิบปี จึงมองคนที่เด็กกว่าด้วยสายตาเอ็นดู “วันนี้วันพระ…พี่กำลังเตรียมของไปใส่บาตรตอนเช้า งั้นมาช่วยพี่ปอกสับปะรดทีนะ หนูทำเป็นมั้ย”ดาวเหนือมักตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ เข้าครัวทำอาหาร พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยค่อยไปตามลูกกับสามีให้ลุกขึ้นมาใส่บาตรพร้อมกัน“ทำได้ค่ะ”“แล้วแฟรงก์อาการเป็นยังไงบ้าง ตั้งแต่มีลิชา ดูเหมือนว่าจะสดใสยิ้มแย้มขึ้นเยอะเลย”“เห็นชอบบ่นว่าปวดหัวค่ะ แต่พอได้กินยาก็ดีขึ้น” ร่างกายภายนอกของบุรินทร์ภัทร อาจจะดูเหมือนคนปกติทั่วไป แต่อวัยวะภายในที่ผ่านการกระทบกระเทือนมาอย่างหนักยังบอบช้ำต้องได้รับการฟื้นฟู“ฝากดูแลเขาทีนะ คนนี้ดื้อไม่มีใครเกินเลย”“แล้วเฮียแฟรงก์กับเฮียฟรินใครดื้อกว่าคะ”“เข้าใจถามดีนะ” คนที่โตกว่าหัวเราะออกมาเบาๆ ถึงแม้จะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานแต่กลับรู้สึกถูกชะตาอลิชาเป็นคนสวย นอบน้อมถ่อมตัว อัธยาศัยดี ชอบชวนคุยยิ้มแย้มสดใส ขนาดเป็นผู้หญิงด้วยกันยังมองไม่รู้เบื่อ“พี่ว่าดื้อกันคนละแบบนะ แต่ก็น่าปวดหัวทั้งคู่นั่นแหละ”“พวกเขาสองคนดูรักกันมากเลยนะคะ” ถึงแม้เฮียฟรินจะชอบดุเฮี
“ทำอะไรกันอยู่” บุรินทร์ภัทรเดินเข้ามาย่อตัวนั่งลงข้างลูกสาวที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำการบ้านด้วยใจจดจ่อ“พี่ลิชากำลังสอนการบ้านลูกอยู่ค่ะ”“สอนการบ้านลูกเสร็จแล้ว อย่าลืมส่งการบ้านให้ผัวด้วยนะ” หันมองอลิชาที่นั่งอยู่ไม่ไกล ก่อนจะถูกคนตัวเล็กส่งสายตาดุดันกลับคืนมา“ถ้าจะมาเพื่อกวนสมาธิลูก ก็ออกไปเลยนะ”“เฮียมาหาเพราะคิดถึง เธออย่าใจร้ายนักสิ”“เข้ามากวนมากกว่าน่ะสิ”“มีของมาฝากหนูกับลูกด้วย เฮียอุตส่าห์ขับมอเตอร์ไซค์ตากแดดไปซื้อมาให้เลยนะ”อลิชายิ้มกว้างเมื่อชายหนุ่มยื่นแก้วชานมไข่มุกร้านโปรดที่เธอชอบกินอยู่เป็นประจำ“แล้วไหนของเล่นที่ศุกร์อยากได้ ป๊าลืมซื้อมาเหรอ”“ไม่ลืมอยู่แล้วนางฟ้าตัวน้อยของป๊า” ทำเสียงเล็กเสียงน้อยพูดคุย ไม่ว่าลูกสาวคนสวยอยากได้หรือต้องการอะไร ป๊าสุดหล่อคนนี้แทบจะคลานเข่าเอามาถวายให้สามเวลาเช้าเย็นกล้าพูดได้เต็มปาก ว่าถ้าไม่มีดาวศุกร์ในวันนั้น อลิชาคงไม่ยอมกลับมาคืนดีหาเขาเป็นแน่“ป๊าห้ามลืมเด็ดขาดเลยนะ ว่าสิ้นปีนี้ เราต้องไปดูแสงเหนือที่ฟินแลนด์และอลาสก้าด้วยกัน”“ไม่ลืมแน่นอน ป๊าจัดการจองตั๋วเครื่องบินเฟิร์สคลาสและโรงแรมห้าดาวไว้ให้ศุกร์เรียบร้อยแล้ว”“ทำดีมาก ศุ
แกร๊ก…บุรินทร์ภัทรเงยหน้าขึ้นจากงานกองโตที่วางอยู่ ละสายตามองคนที่เข้ามาใหม่“กูบอก…เอ่อ…ไม่มีอะไรครับคนสวย” กำลังจะอ้าปากต่อว่าทำไมไม่ยอมเคาะประตู แต่พอเห็นว่าเป็นอลิชาถึงได้รีบปิดปากของตัวเองทันที “ทำไมถึงมาคนเดียว แล้วแม่หายไปไหน”“แม่กลับไปก่อนแล้วค่ะ แต่หนูรอกลับบ้านพร้อมเฮีย”“เมาเหรอ?”“เมานิดนิดหน่อย แต่ยังไหวอยู่นะ” ยอมรับแบบไม่ปิดบัง ตั้งใจจะกินแค่นิดเดียว แต่ถูกคุณนายปาลินบังคับให้ดื่มเป็นเพื่อนจนเริ่มเมา“มาหาเฮียมา” อ้าขารอรับหญิงสาว ก่อนจะดึงเธอมากอดไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ใบหน้าจิ้มลิ้มซุกไซ้แผงอกแกร่งไปมา ก่อนจะสูดดมกลิ่นกายหอมจางๆ“คิดถึงเฮีย”“หื้ม…ว่าไงนะคะ”“หนูคิดถึงป๊า”“เมาแล้วขี้อ้อนเหรอ” ใบหน้าของบุรินทร์ภัทรร้อนผ่าว หัวใจพองโตเต้นแรงเมื่อเมียเด็กอ้อนเฮียคะ เฮียขา กับอลิชาไม่เคยรับมือได้เลยสักครั้ง“หนูกินไปแค่สามแก้วเอง ห้ามบ่นนะ”“สามแก้วแน่นะ ทำไมกลิ่นเหล้าถึงแรงขนาดนี้” ใช้ริมฝีปากคลอเคลียไปตามกรอบหน้าไล่ต่ำลงมาจนถึงลำคอขาวเนียนพร้อมพรมจูบเบาๆ“อือ…ละ…หลอกเเต๊ะอั๋งหนูหรือเปล่าเนี่ย” ปรือตามองด้วยสีหน้างัวเงีย แต่บุรินทร์ภัทรกลับมองว่ามันน่าเอ็นดูจนอยากจับเธอมาก
-เหตุการณ์ในอดีต-ครืด…สมาร์ตโฟนแผดเสียงร้องดังยามวิกาลเมื่อมีสายเรียกเข้าคิ้วหนาขมวดปมเข้าหากันด้วยความสงสัยมองเห็นรายชื่อของฟ้าใสที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอบุรินทร์ภัทรเหลือบสายตามองลูกสาวที่นอนหลับอยู่ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาจากห้องนอนพร้อมกดรับสาย“โทรมาทำไม”(ฟ้ามีเรื่องสำคัญอยากบอกเฮียค่ะ)“ถ้าเป็นเธอ มันไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉันอยู่แล้ว”(เดี๋ยวก่อนค่ะ! อย่าเพิ่งรีบวางนะคะ เพราะสิ่งที่ฟ้าจะบอกมันเกี่ยวกับลิชา)“ลิชาทำไม?”(เฮียใจเย็นก่อนนะคะ)“ก็บอกมาสิวะ! ว่าลิชาทำไม” แค่ได้ยินว่าเป็นชื่อเธอก็ควบคุมอารมณ์ไม่ไหว(ลิชาถูกรถชน อาการสาหัสตอนนี้อยู่โรงพยาบาล)“แม่งเอ้ย! แล้วอยู่โรงพยาบาลไหน ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้” บอกผ่านน้ำเสียงร้อนรนพร้อมจะไปหาโดยไม่ทันคิดอะไร(โรงพยาบาลHP Hospital ค่ะ)แกร๊ก… สองขาหยุดชะงัก มองเห็นน้องชายฝาแฝดที่บังเอิญเดินสวนมา“จะไปไหน” บุรินทร์วัชร์หรี่สายตามองคนที่รีบร้อนกว่า เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังพบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะตีสาม“ลิชาถูกรถชน กูจะไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาล”“อยู่โรงพยาบาลอะไร?”“HP Hospital”“ดึกมากแล้ว เอาไว้ค่อยไปพรุ่งนี้ เดี๋ยวกูไปด้วย”
“หล่อเหลาเอาเรื่อง คนอะไรจะหล่อได้ขนาดนี้วะ” บุรินทร์ภัทรยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจ ยืนกอดอกมองใบหน้าคมคายของตัวเองในกระจกเงาการรักษาผ่านไปด้วยดี กว่าทุกอย่างจะเข้าที่ก็กินเวลาไปหลายเดือน ฝีมือของหมอคิงส์ไม่ธรรมดา เรียกได้ว่าขั้นเทพถึงได้ประทานหน้าใหม่ระดับบอยแบนด์มาให้มองทางขวาคล้ายลีมินโฮ พอมุมซ้ายเหมือนซงคัง!แต่รวมๆ แล้วหล่อเท่สะบัด หาคนที่เพอร์เฟคขนาดนี้ไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว“ป๊าจะส่องกระจกอีกนานมั้ย เดี๋ยวลูกก็ไปเรียนไม่ทันหรอก” เสียงของเด็กน้อยที่นั่งรออยู่ ช่วยปลุกตื่นจากความคิด ดาวศุกร์บ่นงุบงิบ เพราะป๊าเอาแต่หันซ้ายมองขวาแล้วยิ้มอยู่คนเดียวไม่ยอมไปส่งสักที“ศุกร์ว่าป๊าหล่อมั้ย หล่อพอหรือยัง”“หล่อที่สุดแล้ว” ถ้าตอบว่าไม่หล่อเดี๋ยวป๊าก็งอนไม่ยอมคุยด้วย“สมกับที่ป๊าดูแลมาตั้งแต่เล็ก เลี้ยงไม่เสียข้าวสุกจริงๆ ลูกสาวป๊า”บีบแก้มลูกน้อยด้วยความเอ็นดู ก่อนจะฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินออกจากห้องไป“…..”-เวลาต่อมา-“เฮียไม่อยู่หลายวัน เธอไม่ต้องนอนร้องไห้คิดถึงผัวนะ” บุรินทร์ภัทรหันไปบอกหญิงสาวที่นั่งทำหน้าตาเศร้าสร้อยน้ำตาซึม ขณะที่เขากำลังนั่งเก็บกระเป๋าเตรียมตัวไปดูงานที่ต่างจัง
-หลายปีผ่านไป-เอส. บี . ดี เซอร์วิสบุรินทร์ภัทรยืนมองภาพถ่ายวันแต่งงานขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนฝาผนังในห้องทำงาน ก่อนจะยกมือปัดป่ายเช็ดถูขัดมันจนเงาวิบวับเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลาชีวิตคู่หลังจากแต่งงานมีความสุขดี ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นดังใจหวัง เขาได้ใช้ชีวิตกับคนที่รัก มีลูกชายที่เป็นดังแก้วตาดวงใจของทุกคนในครอบครัวธุรกิจการงานถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ต้องการไอ้แว่นมันได้ขยายกิจการไปต่างประเทศตามที่ตั้งใจ ส่วนงานของเขาก็อยู่ในความพึงพอใจไม่ได้มีอะไรหวือหวาตอนนี้ดาวศุกร์อายุสิบหกปี กำลังแตกเนื้อสาวสะพรั่ง กลายเป็นสาวฮ็อตประจำโรงเรียน ที่มีหนุ่มๆ คอยตามจีบให้เขาตามปวดหัวไม่เว้นแต่ละวันส่วนชารากับชารันเด็กแฝดถูกไอ้แว่นส่งตัวไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ นานทีปีหนถึงจะได้กลับมา แต่ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เพราะมีปู่กับย่าย้ายถิ่นฐานคอยตามไปดูแล จะกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยก็ต่อเมื่อเรียนจบชนินทร์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของบุรินทร์วัชร์เป็นคนเจ้าสำอางละเมียดละไม ส่วนเฟยน้องเล็กเป็นเด็กเก็บตัวเงียบชอบอ่านหนังสืออยู่คนเดียวไม่ค่อยสุงสิงกับใคร“ป๊า…”อลิชาที่เพิ่งไปรับลูกกลับจากโรงเรียน เปิดประตูเดินเข้า
“เจ๊…”ผู้เป็นแม่ละสายตาจากสิ่งที่ทำ หันกลับไปหันมองตามเสียงเรียก ก่อนจะเห็นว่าเป็นบุรินทร์ภัทรที่สวมชุดเจ้าบ่าวเดินเข้ามาหา“อะไรของแก”“วันนี้หนูจะแต่งงานแล้วนะ”“ฉันรู้อยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องมาบอก”“อวยพรให้หนูหน่อย” เดินเข้าไปกอดเจ๊ผู้เป็นที่รักไว้แน่น หอมแก้มแม่ซ้ำๆ เหมือนที่ชอบทำอยู่บ่อยๆวันนี้เจ๊ปาลินของเขาแต่งตัวทำผมสวยจัดเต็ม แถมสีหน้ายังดูอิ่มเอมที่ลูกชายคนโตกำลังจะได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา“อารมณ์ไหนของแก”“ตอนนี้จริงจังนะ ไม่ล้อเล่น” ชายหนุ่มย่อตัวนั่งลงบนส้นเท้า น้ำเสียงที่พูดก็ดูเปลี่ยนไป จนทำให้คนเป็นแม่ปรับอารมณ์ไม่ทัน“หนูอยากมาขอพรจากแม่” ชายหนุ่มพนมมือนอบน้อมก้มลงกราบเท้าของคนเป็นแม่ ไม่ใช่แค่ขอพรแต่ตั้งใจจะมาขอขมาและอโหสิกรรมกับสิ่งล่วงเกินที่เคยทำผิดพลาด“…..” ปราณปาลินมองคนตรงหน้าพร้อมแววตาไหวสั่น ยกมือลูบศีรษะของลูกชายเบาๆ ด้วยความอ่อนโยน “แม่ขออวยพรให้แฟรงก์มีความสุขในชีวิตนะ ไม่ว่าลูกจะทำอะไร ขอให้ประสบผลสำเร็จทุกอย่าง”“หนูอาจจะไม่ใช่ลูกที่ดีเหมือนที่แม่อยากให้เป็น หนูขอโทษนะ อโหสิกรรมให้ผมด้วย” หลายครั้งหลายหนที่ทำให้แม่ร้องไห้ ทำให้พวกท่านเสียใจกับลูกที่ไม่ไ
-2F BAR-รถยนต์คันหรูมากมายไปจนถึงระดับไฮเปอร์คาร์จอดเรียงรายนับร้อยคันเต็มพื้นที่บริเวณลานจอดรถขนาดใหญ่ ล้นทะลักออกไปจนถึงด้านนอก“จัดแค่งานเล็กๆ เฮียเชิญเฉพาะแค่คนที่รู้จัก”อาจจะเป็นแค่งานเล็กสำหรับเขา แต่มันมโหฬารอลังการมากสำหรับเธอ แขกเหรื่อที่มาร่วมงานในวันนี้มองด้วยตาเปล่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่าสองพันคนบุรินทร์ภัทรเป็นคนมีอิทธิพลกว้างขวาง คนในวงการต่างนับหน้าถือตาไม่ใช่น้อยๆ จึงไม่แปลกที่จะมีแขกมาร่วมแสดงความยินดีมากมายในวันนี้เขาเลือกสถานที่จัดงานคือ ‘2F BAR’ ที่แห่งนี้คือจุดเริ่มต้นทำให้ได้เจออลิชาในวันนั้นจนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต เขาสร้างมันขึ้นมาด้วยความยากลำบาก ความทรงจำดีๆ มากมายอยู่ในที่แห่งนี้“ไหนบอกแค่งานเล็กๆ ไงเฮีย” หมวยเฟย์สะกิดแขนพี่ชายที่ยืนตรวจความเรียบร้อยของงาน“เฮียเชิญแค่คนสนิท มีแต่คนกันเองทั้งนั้น”“นี่มันไม่ใช่เล่นๆ แล้วนะ” หมวยเฟย์วาดสายตามองไปบริเวณโดยรอบด้วยความตื่นตาตื่นใจ ซุ้มดอกไม้นำเข้าจากต่างประเทศยาวยิ่งใหญ่เป็นร้อยเมตร เวทีแสงสีเสียงเหมือนกับงานคอนเสิร์ตนักร้องชื่อดังตระการตาอลังการยิ่งกว่าเทศกาลงานประจำปี‘เสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้’ ไม่ต้อง
ฝ่ามือหนาบีบเข้าที่ปลายคางเพื่อให้คนตัวเล็กยอมเปิดริมฝีปาก จับแก่นกายอัดกระแทกเข้าออกจนสุดความยาวซ้ำไปซ้ำมา“อื้อออ…” เสียงหวานร้องครางขาดห้วงเมื่อความคับแน่นตีขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจตายแต่ร่างกายไม่รักดีกับตอบสนองสู้กลับคืนตามสัญชาตญาณ ปลายเรียวลิ้นลากไล้โลมเลียตั้งแต่ส่วนโคนมาจนถึงหัวแดงก่ำ“โคตรเสียว…” ก้มลงมองหญิงสาวด้วยดวงตาฉ่ำเยิ้ม อลิชาโคตรทำให้เขาเสียอาการจนแขนขาอ่อนแรงใช้มือควานหาที่จับเพื่อพยุงตัวริมฝีปากเล็กดูดเม้มจนแก้มตอบ ส่วนปลายเรียวลิ้นโลมเลียตวัดขึ้นลงราวกับเป็นไอศกรีมแท่งโปรด“แบบนั้นเลยเด็กดี” รวบเส้นผมยาวสลวยเป็นหางม้า กระตุกลงอย่างแรงเพื่อให้เธอเงยหน้าขึ้นรับสัมผัส “อื้ออ…เฮียแฟรงก์… ” คนตัวเล็กเบ้หน้าด้วยความจุกแน่นเมื่อถูกเอวสอบกระแทกสวนเข้ามาอย่างเนิบนาบแต่หนักหน่วงจนส่วนหัวเข้าลึกไปถึงลำคอ“ดูดแรงๆ เฮียจะแตก”มือเล็กเร่งจังหวะชักรูดท่อนเอ็นให้เร็วขึ้น จนคนตัวสูงเกร็งสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่านสองมือกดศีรษะของเธอไว้แน่นไม่ยอมให้ขยับหนี ก่อนจะปล่อยสายธารน้ำรักฉีดพวยพุ่งเข้าไปในโพรงปากเล็กทุกหยาดหยด“อื้อ…” เล็บสวยจิกลงบนท่อนขาแกร่งเพื่
“แว่นน้องรัก” บุรินทร์วัชร์ละสายตาจากเด็กน้อยในอ้อมอก เงยหน้าขึ้นมองคนที่มาใหม่ แค่ได้เห็นหน้าพี่ชายตัวป่วนถึงกับถอนหายใจลากยาววีรกรรมแต่ละอย่างของมันใช่ย่อยที่ไหน ชอบสร้างแต่ปัญหาไม่จบไม่สิ้น“กูขอคุยด้วยหน่อย”“ว่ามาสิ”บุรินทร์ภัทรเดินเข้าไปหย่อนตัวนั่งลงข้างแฝดน้อง ก่อนจะส่งยิ้มกว้างมองด้วยสายตาหวานเยิ้ม“ไม่ต้องลีลา มึงจะเอาอะไรก็ว่ามา” แค่เห็นท่าทางมีพิรุธของมันก็รู้ได้ทันทีว่าต้องมีเรื่องมากวนใจเขาอีกแน่นอน“กูกำลังจะแต่งงาน”“อืม…” ก็พอรู้มาบ้างแล้ว เพราะไอ้แฟรงก์มันชอบพูดกรอกหูให้ฟังอยู่บ่อยๆ เลยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือแปลกใจอะไร“มึงช่วยแต่งงานเป็นเพื่อนกูหน่อยได้ไหม”“อะไรของมึง”“กูอยากให้เราใส่ชุดเจ้าบ่าวเหมือนกัน”“เมาน้ำมันเครื่องเหรอ กูแต่งงานแล้วจะให้แต่งอีกได้ยังไง”“แต่งแล้วก็แต่งอีกได้ แต่งเป็นเพื่อนกูไง”“เลิกคิดอะไรที่มันประหลาดได้แล้วแฟรงก์!” บอกปัดอย่างนึกรำคาญ ไอ้ประเภทที่มันบอกคนปกติเค้าคงไม่ทำกัน“นะแว่นน้องรัก ช่วยแต่งงานอีกรอบเป็นเพื่อนพี่ชายสุดหล่อคนนี้ที”“…..”“มึงเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของกูนะ ทุกช่วงเวลาที่มีความสุขก็อยากมีมึงอยู่ข้างกัน” เอนใบหน้
เอส.บี.ดี เซอร์วิสเอี๊ยดดดด~ ล้อยางรถบดเบียดไปกับพื้นคอนกรีตขัดมันจนเกิดเป็นรอยทางยาว ตามด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มจนทำให้คนที่อยู่แถวนั้นต่างหันมองด้วยความแตกตื่นปราณปาลินรีบวิ่งออกมาดูเหตุการณ์ ก่อนจะเห็นรถกระบะคันเก่าดริฟหักโค้งหลายตลบเข้ามาภายในร้าน ควันดำโขมงลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ“เด็กเวรที่ไหนมันมาเบิ้ลรถแถวนี้ ไอ้ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน!” ยืนเท้าเอวตะโกนด่าจนเอ็นคอขึ้น ทำเอาลูกค้าของเธอตกอกตกใจกันไปหมด มันน่าจะบิดให้หูขาด “อย่าให้รู้นะเว้ย แม่จะตบให้สมองไหล”“จะเป็นใครได้ล่ะ ก็ลูกชายเจ๊นั่นแหละ”“…..” หลังจากได้ยินประโยคที่หมวยเฟย์บอกจึงรีบถอดแว่นกันแดดแบรนด์เนมออกจากใบหน้า หรี่สายตามองเพื่อให้แน่ใจไม่ผิดแน่ ไอ้เด็กเวรที่เธอเพิ่งด่าไปเมื่อกี้มันคือไอ้ลูกชายตัวดี!“ไอ้แฟรงก์!”แผดเสียงเล็กแหลมตะโกนเรียกดังลั่น บุรินทร์ภัทรเปิดประตูลงจากรถกระบะคันเก่า ยกมือเสยผมขึ้นโชว์ใบหน้าหล่อเหลาพร้อมส่งยิ้มหวาน สาวใดได้เห็นมีอันต้องหลงจนหัวปักหัวปำแต่โทษทีที่คนหล่อรวยสุดแสนจะเพอร์เฟคอย่างเขานั้นมีลูกมีเมียแล้ว! นอกจากอลิชาเมียเด็กสุดที่รัก ก็ไม่คิดจะมองใครอีก“เป็นไงเจ๊ เท่สะบัดไปเล
เสียงทุบประตูดังลั่นไปทั่วบริเวณติดต่อกัน ฟรินสะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึกรีบก้าวขาลงจากเตียงเมื่อได้ยินเสียงเรียกของพี่ชายที่ร้องตะโกนแหกปากโวยวายอยู่หน้าห้อง“ไอ้แว่น…ไอ้แว่น!”“นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วแฟรงก์” บุรินทร์วัชร์ถอนหายใจลากยาว ยืนกอดอกพิงขอบประตูมองพี่ชายด้วยสายตาเรียบนิ่ง“ช่วยหน่อย รีบมาช่วยกูที”“อะไรของมึง” ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายหรือมีธุระสำคัญเขาจะยกขาถีบมันให้กระเด็น“อย่าเพิ่งบ่น มาช่วยกูก่อน”“มีอะไรก็รีบพูดมา”“ละ…ลิชาจะคลอดแล้ว”“งั้นมึงรีบไปเก็บของ เดี๋ยวกูจะไปเตรียมรถ” บอกผ่านท่าทางนิ่งเฉย เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นกับดาวเหนือเมื่อครั้งในอดีตเลยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นสักเท่าไหร่“ไปไม่ทันแน่ หัวลูกกูจะโผล่ออกมาแล้ว”“เวรฉิบ!”บุรินทร์วัชร์หันไปคว้ากล่องยาสามัญประจำบ้านวางอยู่และชุดคลุมขึ้นมาสวมทับ ก่อนจะรีบร้อนตรงมายังห้องนอนของแฝดพี่“อาการเป็นยังไงบ้าง”“หนูเจ็บท้อง…” อลิชานั่งเอนหลังพิงหัวเตียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บ ใบหน้าเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อริมฝีปากบางซีดสั่น ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยรู้สึกเจ็บขนาดนี้มาก่อน“งั้นทำใจดีๆ” ฟรินลูบศีรษะของคนตัวเล็กเพื่อปลอบประโลม แต
“เป็นยังไงบ้างดีขึ้นหรือยัง”“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ขอบคุณเฮียมากนะ”“หนูปวดตรงไหนอีกมั้ย เดี๋ยวเฮียนวดให้”ดาวศุกร์ตัวน้อยหรี่สายตามองคนทั้งสองที่กำลังพูดคุยกะหนุงกะหนิง ป๊าแฟรงก์กำลังนั่งนวดขาประคบประหงมพี่ลิชาของเธอไม่ยอมห่างไปไหน“มองอะไรศุกร์”“ก็มองป๊านั่นแหละ” ถอนหายใจส่ายหน้าไปมา เคยเห็นป๊าฟรินชอบทำแบบนี้กับแม่เหนือ แต่ไม่คิดว่าป๊าแฟรงก์จะทำแบบนี้กับพี่ลิชาเหมือนกัน“พี่ลิชากำลังมีน้อง ป๊าต้องตามใจเขาหน่อย”“ถึงไม่มีน้อง ป๊าก็ตามใจพี่ลิชาอยู่แล้ว”“กลัวป๊าไม่รักเหรอ”“ไม่กลัวหรอก ศะ…ศุกร์โตแล้วนะ” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่กลับรีบยกมือน้อยๆ ขึ้นปาดน้ำตา“โตที่ไหน ในสายตาป๊ายังเห็นเป็นเด็กอยู่เลย”“แล้วศุกร์กับพี่ลิชา ป๊ารักใครมากกว่ากัน”“…..” ชายหนุ่มหยุดนิ่ง เมื่อได้ยินประโยคคำถามที่ไม่คาดคิดของลูกสาว ชำเลืองสายตามองคนทั้งสองสลับกัน ถ้าตอบว่ารักใครคนใดคนนึงมากกว่า เดี๋ยวก็งอนเป็นเรื่องเป็นราวแต่เขาเลือกที่จะปล่อยมือจากอลิชาแล้วเดินเข้าไปหาเด็กน้อยนั่งที่นั่งอยู่ ย่อตัวนั่งลงตรงหน้ายกมือลูบศีรษะของดาวศุกร์เบาๆ“ป๊ารักศุกร์มากกว่าอยู่แล้ว แต่ความรักที่ป๊ามีให้พี่ลิชากับศุกร์มันไม่เหมือนกั
“ชาเห็นอาการเฮียไม่ค่อยดีเลยชงยาหอมมาให้ค่ะ”ชายหนุ่มละสายตาจากงานเอกสารกองโตขณะที่กำลังตรวจงานให้ไอ้แว่น เงยหน้าขึ้นยิ้มให้คนที่มาใหม่ “ขอบใจมาก ตอนนี้เฮียดีขึ้นมากแล้ว”“เป็นห่วงเฮียนะ”“จะมาเป็นห่วงทำไม เฮียต่างหากที่ต้องพูดคำนี้ ท้องเธอก็เริ่มโตขึ้นทุกวัน” ตอนนี้อลิชาผิวพรรณเปล่งปลั่งรูปร่างก็ดูอวบอั๋นมีน้ำมีนวล จับตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือ“…..” โชคดีของเธอที่ตอนนี้ไม่รู้สึกว่าแพ้ท้อง แต่ก็อาจจะเป็นโชคร้ายของคนข้างๆ ที่แพ้ท้องแทน“อีกหนึ่งชีวิตของเฮียฝากไว้ที่เธอ ช่วยดูแลเขาให้ดีๆ” เลื่อนฝ่ามือไปสัมผัสหน้าท้องที่เริ่มขยายใหญ่จนสังเกตได้ถ้านับตามอายุครรภ์ ตอนนี้อลิชาท้องได้สี่เดือนกว่าแล้ว โดยที่พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าเพศลูกที่อยู่ในท้องนั้นเป็นหญิงหรือชาย ลิชาอยากเก็บไว้เป็นความลับให้ไปรอลุ้นในวันคลอด“ชาสัญญาจะรักษาเขาเท่าชีวิต”“เฮียก็สัญญาเหมือนกันว่าจะดูแลชากับลูกให้ดี”“ตั้งแต่รู้ว่ามีเขา หนูมีความสุขมาก แล้วเฮียล่ะคะมีความสุขไหม” หย่อนตัวนั่งลงบนตักของชายหนุ่มอย่างระมัดระวัง ยกแขนขึ้นโอบลำคอไว้แน่น ซบใบหน้าลงบนลาดไหล่กว้างอย่างออดอ้อน“ลูกเกิดมาจากความรักของเราสองคน เฮียตั้งใจอย