คาลอสไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้ให้กับอะไรซ้ำๆมากขนาดนี้เลย ชีวิตของเขาไม่เคยมีวันที่ไม่สำเร็จแต่ในวันนี้เขากลับพบเจอความผิดหวังแบบซ้ำๆ ซ้ำไปซ้ำมากับสตรีคนเดิม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงได้วนเวียนอยู่ในหัวของเขาไม่จางหายไปไหน แต่ถึงเขาจะเจ็บปวดมากแค่ไหน คาลอสไม่คิดรามือ มารดาของลูกเขาจะต้องเป็นโอฟีเลียคนเดียวเท่านั้น!ในขณะที่เขากำลังจะเดินทางกลับ หางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นโอฟีเลียที่กำลังเดินไปกับองค์รัชทายาท..องค์รัชทายาทมาร์โคนั้นไม่รู้จักว่าที่เคาน์อัคราฟ แต่หมอนั่นรู้จักเจ้าของกลุ่มการค้าเทอรัน เป็นการรู้จักกันแบบที่ส่งจดหมายไปมาเพื่อขอความช่วยเหลือ และเขาในยามนี้รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังโกรธอยู่เลยองค์รัชทายาทผู้นั้นกล้าที่จะแตะต้องสตรีที่เขารักอย่างนั้นหรือ? กล้าดีอย่างไรเดินเคียงข้างไปกับโอฟีเลียขนาดนั้นน่ะ“ฝ่าบาทรู้ได้อย่างไรกันเพคะว่าหม่อมฉันกำลังจะทำเหมืองทอง”มาร์โคหัวเราะเบาๆ“เพราะว่าสายข่าวของข้ารายงานมาเช่นนั้น แอเรียนาไม่ได้จนหรือว่าขัดสนอะไรเลยเพราะเจ้าที่ขายทุกอย่างเพื่อกว้านซื้อที่ดินที่มีแร่ทอง..”โอฟีเลียเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย“แล้วเรื่องที่พระองค์กล่าวว่าจ
หากว่าลีออนจำไม่ผิด เขาคิดว่าเขาเห็นโอฟีเลียเดินออกมาจากงานเลี้ยง นางเข้ามาในสวนพักใหญ่ๆแล้ว เขารู้สึกเป็นห่วงก็เลยเดินตามออกมาเพราะกลัวว่านางจะมาแอบนั่งเศร้าอยู่คนเดียว เจ้าของกลุ่มการค้าเทอรันดันเป็นว่าที่ท่านเคาน์แห่งอัคราฟ ดูจากสีหน้าของโอฟีเลียแล้วหากเขาเดาไม่ผิดเธอน่าจะรู้อยู่ก่อนแล้วครั้งแรกเขาคิดว่าตัวเองจะพยายามทุกอย่างเพื่อดังรั้งความสนใจของเธอมาที่เขา จะทำทุกหนทางเพื่อปลอบประโลมความเศร้าหมองที่ชายผู้นั้นสร้างมันเอาไว้ในจิตใจของเธอ เขาพยายามไปหาเธอที่คฤหาสน์แอเรียนาแล้ว แต่โอฟีเลียไม่ออกมาพบเจอเขา เธอกล่าวอ้างว่าตัวเองนั้นยุ่งมากพอสมควรกับเรื่องการทำงานมากมายที่เธอกำลังรับผิดชอบอยู่แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็หวังว่ามันคงจะมีสักวันที่เธอลงมาหาเขา และเราจะสามารถนั่งคุยกันได้ เขาจะรับฟังเรื่องราวของเธอด้วยความเต็มใจ แต่ทว่าทั้งสัปดาห์โอฟีเลียไม่แม้แต่จะลงมาหาเขาเลยเรื่องราวในครั้งนั้นทำให้เขารู้ว่าความหวังดีของเขานั้น เธอไม่ได้ต้องการมันเลยสักนิดเดียว โอฟีเลียไม่ต้องการให้เขาเป็นห่วงเธอ สิ่งที่เธอต้องการคือเธออยากให้เขาอยู่ให้ห่างจากเธอเอาไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงข่าวลือที่จะเกิดขึ้นมาใ
รถม้าของอัคราฟนั้นค่อนไปทางหรูหรามากพอสมควร และในยามนี้บรรยากาศในรถม้านั้นทำให้โอฟีเลียรู้สึกอึดอัด เธอพึ่งจะจูบกับเขามา แน่นอนว่าการจูบในครั้งนี้ของคาลอส มันไม่เหมือนกับครั้งก่อนๆที่เราเคยทำกันมา เขาอ่อนโยนจนแทบบ้าไม่มีความเร่งรีบหรือว่าเร่าร้อนใดๆหลงเหลืออยู่เลย ริมฝีปากของเขาทาบทับลงมาในทันทีที่มีเสียงฝีเท้าก้าวเดินเข้ามาหาเรา เธอพอจะเดาได้ว่าเขาต้องการสร้างพยานให้เราแบบไหน แต่ถึงอย่างนั้นแค่กอดเฉยๆก็น่าจะพอแต่นี่เขาเล่นจูบกันเธอ แบบที่ไม่ได้บอกอะไรล่วงหน้าเลยด้วยซ้ำ เธอทั้งโกรธและหงุดหงิดจนแทบบ้า เขาสร้างเรื่องมากมายเพื่อให้เธอจนมุมและยินยอมเดินตามแผนการของเขาอีกแล้วอย่างนั้นหรือ?ชายผู้นี้อันตรายและเจ้าเล่ห์สมกับที่เขาเป็นตัวร้ายจริงๆให้ตายเถอะ“ส่งข้าลงตรงนี้เถอะค่ะ ข้าจะเรียกรถม้ารับจ้างไปที่แอเรียนาเอง”เขากอดอกมองหน้าเธอด้วยแววตาที่ราวกับคนกำลังใช้ความคิด“ท่านก็รู้ว่าข้าไม่มีความคิดที่จะทำเช่นนั้น วันนี้ท่านช่วยไปที่อัคราฟกับข้าได้ไหมครับ ไปที่นั่นกับข้า..สักครั้ง แค่ครั้งเดียวก็พอ สาบานได้เลยว่าข้าจะไม่มีวันแตะต้องท่านอย่างแน่นอน”นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขากำลังอ้อนวอนเธอ โอฟี
คาลอสเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองสบตากับโอฟีเลีย เขาลุกขึ้นอย่างช้าๆแล้วเดินไปหยิบมีดสั้นมาไว้ในมือ เท้าทั้งสองข้างก้าวเดินอย่างมั่นคงเพื่อเดินเข้าไปหาเธอ เขาจับมือโอฟีเลียแล้ววางมีดเล่มนั้นเอาไว้บนมือของเธอด้วยแววตาที่ไม่มีร่องรอยแห่งความหวาดกลัวเลยแม้แต่นิดเดียวเขากำลังวางทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้บนมือเธอ ทุกอย่างของเขาจริงๆ เขาเดาไม่ออกและไม่รู้ว่าโอฟีเลียคิดเช่นไรกับการกระทำของเขา แต่คาลอสคิดในใจจริงๆว่าเขายอมตาย..หากเธอไม่กลับมารักเขา การเลือกหนทางที่จบสิ้นชีวิตตัวเองลงมันน่าจะดีกว่า อย่างน้อยการตายของเขาอาจจะทำให้ความโกรธในใจเธอเบาบางลงมาบ้าง เธออาจจะระลึกถึงเขาบ้างในอนาคต..“ข้าไม่รู้ว่าความรักมันเป็นเช่นไรกัน ไม่รู้เลยว่าควรจะทำเช่นไรดีถึงจะสามารถทำให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าข้ารัก ข้าไม่รู้อะไรเลย แต่ท่านสอนข้าว่า..ความรักมันเป็นสิ่งที่สวยงามมากเหลือเกิน ความรักของท่านหล่อหลอมให้ข้ารู้สึกเหมือนกับมีมือที่มองไม่เห็นมาคอยโอบกอดข้าเอาไว้ ข้าอุ่นใจที่มีท่านและข้าเองก็รู้ว่าท่านน่าจะรู้สึกเช่นเดียวกัน เพราะแบบนั้นในช่วงเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันข้าถึงรู้สึกว่าชีวิตมันว่างเปล่ามากเหลือเกิน หากว่าท
ซิลเวสเตอร์ละสายตาจากหนังสือที่เขากำลังอ่าน เมื่อเขาสัมผัสได้ว่ามีสายตาคู่หนึ่ง มองมาที่เขา“กลับมาแล้วอย่างนั้นหรือ อาการของ มาร์โคเป็นเช่นไรบ้าง? เขาเจ็บหนักมารึเปล่า”อ่า..อย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิดเลย ที่พระองค์นั่งรอเธอเพราะต้องการถามไถ่ถึงอาการขององค์รัชทายาทจริงๆด้วยสินะ“เจ็บไม่มากเท่าไหร่เพคะ แต่ในยามนี้เพราะความเก่งกาจของหม่อมฉันทำให้องค์รัชทายาทหายดีแล้ว”จูเลียนกล่าวพร้อมกับเดินเข้าไปไปหาองค์จักรพรรดิ เธอยกมือขึ้นมานวดที่ไหล่ทั้งสองข้างของพระองค์เบาๆ“นี่เลยเวลาบรรทมมานานมากแล้วนะเพคะ ทำไมฝ่าบาทยังมานั่งอ่านหนังสืออยู่อีกเล่า พรุ่งนี้มีประชุมกับสภาขุนนางด้วย..รีบเข้านอนเถิดเพคะ”ซิลเวสเตอร์พยักหน้า เขาลุกขึ้นก่อนจะเดินไปยังเตียงนอนที่แสนกว้างใหญ่ของเขา ส่วนเธอก็เดินไปยังเตียงนอนเล็กๆที่มุมห้องของเธอ เราทั้งคู่ล้มตัวนอนลงโดยที่ทั้งเขาและเธอต่างนอนตะแคงแล้วกันหน้ามามองกัน..“เจ้ายังไม่นอนอย่างนั้นหรือ?”“ยังเพคะ หม่อมฉันมีเรื่องราวมากมายที่จะต้องใช้ความคิด”ซิลเวสเตอร์หัวเราะออกมา“ให้ตายสิ พึ่งมีเจ้าคนแรกที่แหละที่กล้าบอกว่าตัวเองมีเรื่องที่ต้องคิดมากกว่าข้าที่เป็นองค์จักรพร
คาลอสอุ้มโอฟีเลียขึ้นมาในทันที เขาวางเธอลงบนโต๊ะก่อนจะโอบกอดเธอเอาไว้แน่น เธอจุมพิตลงมาที่มุมปากของเขาซึ่งมันเป็นรอยแตกที่เกิดจากการฟาดฝ่ามือลงมาเมื่อครู่นี้ แน่นอนว่าหากเขารู้ล่วงหน้าว่าจะได้รับจุมพิตแสนหวานนี้เป็นการตอบแทนเรื่องที่เขาเจ็บตัวแล้วละก็ เขาคงจะแสร้งทำเป็นเจ็บตัวมากกว่านี้ทว่าเขาได้ให้คำมั่นไปแล้วว่าจะไม่โกหกเธออีกไม่ว่าเรื่องใดก็ตามที เขาจะไม่ทำให้เธอเป็นเหมือนตัวตลกที่ถูกหลอกลวงอีกแล้วมือของคาลอสเลื่อนไล้ขึ้นไปตามลำคอเพรียวระหงของเธอ วันนี้เธองดงามมากเป็นพิเศษ ทั้งๆที่ปกติโอฟีเลียของเขาก็งดงามมากอยู่แล้วแต่ทว่าในวันนี้เธอกลับดึงดูดสายตาของเขามากกว่าทุกวัน“แต่งงานกันเลยดีหรือไม่..จัดงานแต่งที่แสนยิ่งใหญ่ของเราขึ้นมาเพื่อประกาศให้ทุกคนล่วงรู้ว่าท่านคือภรรยาของข้า..”เธอหรี่ตามองเขา“ข้ายังไม่ยกโทษให้ท่านเลยนะคาลอส อย่าพึ่งคิดข้ามขั้นไปจนถึงเรื่องการแต่งงานสิ”เขาทำหน้าเสียดายเล็กน้อย“เช่นนั้นเรากลับไปที่แอเรียนาด้วยกันดีไหมครับ บอกตามตรงว่าข้าไม่ชอบที่นี่เท่าไหร่แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีที่ไหนที่จะทำให้ท่านเข้าใจข้าได้เท่ากับนรกบนดินอย่าง อัคราฟอีกแล้ว”เธอเอื้อมมือไป
คาลอสวางโอฟีเลียลงบนเตียงนอน เขานั่งลงบนพื้นก่อนจะเริ่มถอดรองเท้าให้กับเธอ หลังจากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปหยิบผ้าที่วางบนอ่าง ชุบน้ำแล้ววางลงไปบนเท้าของเธอ คาลอสออกแรงนวดเบาๆที่เท้าของเธอเพื่อให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย การเดินบนรองเท้าส้นสูงนานๆย่อมเกิดความเมื่อยล้า เขาไม่อยากให้วันพรุ่งนี้เธอตื่นมาแล้วพบเจอกับอาการปวดขาหรือว่าปวดเท้า “พอแล้วคาลอส วันนี้ท่านคือแขกของข้านะ” “ข้าไม่ใช่แขกของท่านสักหน่อย ข้าคือว่าที่สามีของท่านต่างหาก และนี่คือการกระทำเล็กๆน้อยๆที่มาจากการเอาใจใส่ของข้าเอง..นั่งอยู่เฉยๆนะครับ เดี๋ยวข้าไปจัดการเตรียมน้ำอุ่นเอาไว้ให้” เขาเดินหายเข้าไปในห้องอาบน้ำ คาลอสถอดเสื้อตัวนอกของตัวเองออก แล้วพับแขนเสื้อขึ้น เขาจุ่มมือลงไปเพื่อตรวจเช็คอุณหภูมิของน้ำในอ่าง เมื่ออุ่นได้ที่แล้วเขาจึงเดินออกไปพาโอฟีเลียเข้ามาอาบน้ำ “นั่งเฉยๆนะครับข้าจะถอดเครื่องประดับให้” เขาบรรจงแกะเครื่องประดับที่ปักอยู่บนเรือนผมของเธอออกมาทีละชิ้น ต่างหู สร้อยคอ และถุงมือ คาลอสทำอย่างคล่องแคล่วจนลืมไปเลยว่าเขาคือว่าที่เคาน์แห่งตระกูลอัคราฟ “คราวนี้ยืนได้เลยครับ ข้าจำเป็นที่จะต้องถอดชุดเดรสของท่านออก.
สะโพกของเธอบิดเกร็งเมื่อถูกปลายลิ้นของเขาปาดเลียลงไปตรงนั้นราวกับจะดูดซดในทุกหยดหยาด เธอยกมือขึ้นมาเพื่อผลักไสใบหน้าของคาลอสออกไปด้วยนิ้วมือที่สั่นเทา“พัก..ขะ..ขอพักก่อนสิ”เขาจุดยิ้มขึ้นมาด้วยความพึงพอใจก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วรูดรั้งส่วนนั้นขึ้นลงราวกับจะทนไม่ไหว“เช่นนั้นก็นั่งพักไปก่อนนะครับ ที่เหลือข้ายังคงยินดีที่จะทำเองเหมือนเดิม ไม่รบกวนท่านหรอกครับ”ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ยังไม่ทันที่เธอจะได้ดิ้นหนี เรียวขาก็ถูกยกขึ้นมาพาดบ่าของเขาเอาไว้ แผ่นหลังของโอฟีเลียแอบอิงกับผนังของห้องน้ำ เธอขบเม้มริมฝีปากอย่างหวาดเสียวเมื่อแก่นกายของเขาเสียดสีไปมาอยู่ที่ด้านนอก คาลอสจงใจในการรังแกเธอมากกว่าปกติ ครั้งนี้เขาเกือบขาดใจตายลงไปแล้ว หากเธอไม่ยินยอมคืนดี เพราะแบบนั้นในเมื่อเราทั้งคู่กลับมาเข้าใจกัน เช่นนั้นเขาจะต้องทำให้โอฟีเลียขาดเขาไม่ใช่เช่นกัน หรือไม่คงจะดีหากว่าในท้องของเธอมีเด็กที่แสนน่ารักเหมือนกับเธอเกิดมา ลูกๆที่แสนน่ารักของเราจะเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปของเขาและเธอ เขาวาดฝันถึงช่วงเวลาในอนาคตเอาไว้มากมาย เพราะเขาและเธอ เราต่างร่ำรวยมากพอสมควร ลูกๆที่เกิดมาของเราย่อมไม่ลำบาก พวกเขาจะเก
อีกสามเดือนต่อมาหลังจากที่องค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีทรงจัดงานอภิเษก อย่างยิ่งใหญ่ ก็มีงานแต่งงานของเลดี้ แอเรียนาและเคาน์แห่งอัคราฟในปีนั้นถือเป็นปีที่มีงานที่แสนยิ่งใหญ่หลายงานมากทีเดียว“ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าจูเลียนจะตั้งครรภ์ก่อนเรา พระเจ้าช่วยนี่ข้ากำลังรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังพ่ายแพ้ต่อมาร์โค”ข่าวการตั้งครรภ์ของจักรพรรดินีถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการหลังจากพิธีอภิเษกผ่านพ้นไปเพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้น คาลอสแทบจะนั่งไม่ติดเพราะเขาคิดว่าเขาน่าจะมีบุตรคนแรกก่อนองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีที่ไม่ได้แต่งงานกันด้วยความรัก แต่มันกลับกลายเป็นว่าจูเลียนตั้งครรภ์ก่อนโอฟีเลีย หรือว่าร่างกายของเขามันจะมีปัญหากันนะ?โอฟีเลียมองสามีของเธอด้วยความรู้สึกนึกขำอยู่ในใจ“เอาน่า เดี๋ยวถึงเวลาที่เหมาะสมลูกของเราก็น่าจะมาเอง ท่านไม่เห็นต้องกังวลอะไรเลยนี่คะที่รัก..”หลังกล่าวจบเธอก็หอมแก้มเขาด้วยความมันเขี้ยว ฤดูหนาวผ่านพ้นไปแล้วถึงสองฤดูแต่ท่านแม่ของเธอยังคงสุขภาพแข็งแรงดีอยู่ หลังจากที่จูเลียนแต่งงานท่านแม่ก็เริ่มกลับมาเข้าสังคมอีกครั้งหนึ่ง และในยามนี้ท่านแม่ของเธอคือท่านหญิงเอเวียที่เก่งกาจเรื่องกา
ครั้งแรกที่เขามองเห็นใบหน้านั้น เมื่อเขามองทอดออกไปยังสวนของวิหารศักดิ์สิทธิ์ เขามองเห็นสตรีผู้หนึ่งซึ่งมีเรือนผมสีทองสว่าง เธอกำลังฮัมเพลงในขณะที่มือทั้งสองข้างจับไม้กวาดแล้วเริ่มกวาดใบไม้ในสวนที่แสนกว้างใหญ่ของวิหารศักดิ์สิทธิ์ สตรีผู้นั้นคือบุตรนอกสมรสของเซอร์เกรท เธอคือนางเอกของเรื่องนี้ และใบหน้านั้นแสนงดงามสมกับตำแหน่งนางเอกของเรื่องนี้จริงๆ เขาไม่เข้าใจว่าเขาเข้ามาอยู่ในร่างขององค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ที่มีอนาคตจะต้องตายได้อย่างไรกัน แต่ในเมื่อเขาเข้ามาอยู่ในนิยายที่เคยอ่านเช่นนั้นเขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะหาทางเอาชีวิตรอดความตาย เขาคิดแบบนั้นจนตัวเองได้ลิ้มรสการมีอำนาจในครั้งแรก ใช่แล้ว..คนจำนวนมากก้มหัวให้เขาในช่วงเวลาที่เขาเดินผ่าน คำสรรเสริญเยินยอพวกนั้นทำให้เขารู้สึกมีความสุขกับตำแหน่งองค์จักรพรรดิ และนั่นทำเขารู้สึกโลภขึ้นมา เขาอยากจะอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั่นทำให้เขาใช้ความคิดมากมายเพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นองค์จักรพรรดิต่อไป และคนที่เขาจะสามารถพึ่งพาได้นั่นก็คือจูเลียน นางเอกของเรื่องนี้ ความประทับใจจากครั้งแรกที่เราพบเจอกันนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย
เช้าวันรุ่งขึ้นมีการเรียกประชุมสภาขุนนางอย่างเป็นการเร่งด่วน แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาเมื่อคืนทำให้ชาวบ้านต่างเรียกร้องให้มีการผลัดเปลี่ยนองค์จักรพรรดิ อีกทั้งเรื่องกำหนดระยะเวลาของการครองราชย์องค์จักรพรรดิตัวแทนอย่างองค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ก็เลยกำหนดมามากแล้ว เหล่าขุนนางมองเห็นความสามารถในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าขององค์รัชทายาท การแสดงตัวเพื่อปกป้องและเยียวยาผู้เสียหายทำให้เหล่าขุนนางอดชื่นชมความเก่งกาจและมีน้ำใจของพระองค์มิได้“กระหม่อมคิดว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะที่จะจัดงานราชาภิเษกขึ้นมา จะได้เรียกความเชื่อมั่นในราชวงศ์ของประชาชนกลับมา..”คาลอสเข้าร่วมประชุมในฐานะของท่านเคาน์แห่งอัคราฟ เขากำลังมองดูท่าทีขององค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์อยู่ พระองค์มิกล่าวคำใดออกมาเลยแม้แต่ครึ่งคำ เพราะเรื่องราวที่กำลังกดดันพระองค์อยู่นี้มันทำให้พระองค์หาวิธียืดเยื้อต่อไปอย่างยากลำบาก“พวกท่านอย่าพึ่งกดดันเสด็จอาเลยครับ เรื่องพิธีราชาภิเษกรออีกหน่อยก็ได้ ระหว่างนี้พวกเราก็ช่วยกันจับตาดูพวกชาวบ้านไม่ให้ลุกฮือขึ้นมาต่อต้านราชวงศ์ก็พอ..”คำกล่าวนั้นของมาร์โคถึงแม้ว่าจะเต็มไปด้วยความเจียมตัวแต่มันคือการเน้น
มาร์โคเดินกลับมาที่แอเรียนาอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับเนื้อย่างเสียบไม้ในมือ ที่สวนด้านหน้าของคฤหาสน์เขามองเห็นเพียงแค่เลดี้แอเรียนาเท่านั้น“นักบุญหญิงผู้นั้นนางหายไปไหนแล้วครับ..ข้าซื้อของมาฝากนางด้วย อ่อ..แล้วก็มีในส่วนของเลดี้ด้วยนะครับ”โอฟีเลียสูดลมหายใจเขาลึกๆ“เรามาพูดคุยกันแบบตรงไปตรงมาดีไหมเพคะองค์รัชทายาท”น้ำเสียงและท่าทีของเธอมันเริ่มเปลี่ยนไปในทันที นั่นทำให้มาร์โครับรู้ได้เลยว่าจะต้องมีเรื่องที่เคร่งเครียดรอเขาอยู่อย่างแน่นอน“ได้เลยครับ เลดี้มีเรื่องอะไรจะกล่าวก็พูดแบบตรงไหนตรงมาได้เลย..”โอฟีเลียไม่อ้อมค้อมเธอเริ่มพูดคุยเรื่องราวที่อัดแน่นอยู่ในใจออกไปเพื่อให้มาร์โคได้รับฟังอีกด้านหนึ่งของงานเทศกาล คาลอสพาจูเลียนเดินทางไปยังท่าเรือของแอเรียนา เขาส่งนางขึ้นเรือด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง“ข้าจะไปรับเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เพราะอย่างนั้นดูแลตัวเองให้ดี..ให้เวลาเป็นเยียวยาในทุกความเจ็บปวดของเจ้า.”จูเลียนพยักหน้า เธอยกมือขึ้นมาแล้วโอบกอดท่านพี่คาลอสเอาไว้“ข้าจะกลับมาอีกครั้งในวันที่พี่ทั้งสองคนแต่งงานกันนะคะ..พี่คู่ควรกับท่านพี่โอฟีเลียผู้งดงามของข้ามากจริงๆ ทั้
จูเลียนใช้หลังมือเช็ดน้ำตา เธอเงยหน้าเล็กน้อยเพื่อมองบุรุษที่ด่าเธอ และเมื่อเห็นใบหน้าของบุรุษผู้นั้นเธอก็ขมวดคิ้วในทันทีองค์รัชทายาทมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน เธอไม่พร้อมและไม่อยากจะพบเจอเขาในยามนี้เลย“ยื่นมือมาสิ ข้าจะช่วยพยุงเจ้าเอง”เขายื่นมือมาให้เธอเพื่อให้เธอวางมือลงบนมือของเขา แต่จูเลียนไม่คิดทำเช่นนั้น เธอพยุงตัวเองเพื่อลุกขึ้นด้วยตัวเอง“ขอบพระทัยเพคะ..หม่อมฉันสบายดี เพราะอย่างนั้นขอตัวก่อนนะเพคะ”มาร์โคมองนักบุญหญิงที่ปกตินางจะดูน่ารักและสดใสอยู่เสมอในยามที่นางอยู่ข้างกายของท่านอา แต่ทว่าในวันนี้นางกลับร้องไห้ออกมาเสียงดังอย่างไม่อายใคร คงเพราะว่านางไม่คิดว่าจะมีคนอื่นอยู่ที่นี่อย่างนั้นสินะ“ข้าไปด้วยสิ ดูจากที่เจ้ากำลังมุ่งหน้าเดินทางออกไปจากพระราชวังแล้ว แสดงว่าเจ้าจะต้องกำลังออกไปเที่ยวงานเทศกาลอย่างแน่นอน ข้าก็อยากไปที่นั่นอยู่เหมือนกัน ดูสิข้าอุตส่าห์ปลอมตัวมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะเลยนะ..พาข้าไปด้วยสิ”เธอมองหน้าเขาอย่างชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง“พระองค์...มีเงินไหมเพคะ..”มาร์โคหัวเราะออกมาเบาๆ“มีสิ มีเยอะมากพอสมควรเลย พาข้าออกไปแล้วข้าจะให้เงินเจ้าเอง อยากซื้ออะไรข้าจะซื้อ
“ดูเหมือนว่าข้าจะติดค้างคำขอบคุณกับท่านบารอนนะคะ ข้าขอขอบคุณที่ท่านพาข้าไปที่กลุ่มการค้าเทอรัน และขอโทษด้วยสำหรับการหลอกลวงท่าน..”บอกตามตรงว่าในใจของลีออนเขาไม่ได้อยากได้รับคำขอบคุณจากเธอเลยเพราะมันหมายความว่าเรื่องราวของเราทั้งสองคนมันจบลงแล้วยังไงละ“เลดี้จะกลับไปหาเขาอย่างนั้นหรือครับ”โอฟีเลียไม่ได้ตอบคำถามนั้นของลีออน เธอส่งยิ้มให้เขาแทนคำตอบ“หากว่าท่านบารอนมีสิ่งใดอยากให้ข้าช่วยเหลือก็บอกกล่าวมาได้เลยนะคะ ข้ายินดีที่จะช่วยเหลือท่านอย่างเต็มที่”ลีออนขบเม้มริมฝีปากแน่น เขามองหน้าเธอด้วยความรู้สึกเจ็บปวดอย่างไร้ที่มา อีกฝ่ายไม่ได้ผิดเลยสักนิดเดียวที่ปฏิเสธ เพราะความรู้สึกของใครก็ต้องให้คนคนนั้นรับผิดชอบเอาเอง เธอไม่ผิดที่ไม่รักเขา แต่เขาต่างหากที่เป็นฝ่ายผิดที่เขาดันไปรักเธอและคาดหวังในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้“ครับ..หากมีเรื่องที่ต้องการช่วยเหลือข้าจะไปหาเลดี้นะครับ ท่านเองก็เช่นกันหากว่าท่านมีเรื่องใดให้ข้าช่วยเหลือ..”หากว่าในวันข้างหน้าชายผู้นั้นหลอกลวงและทำให้เธอเจ็บปวดอีก“ก็มาหาข้านะครับ”โอฟีเลียก้มหน้าลงเล็กน้อย“ขอบคุณท่านบารอนมากนะคะ ข้าขอขอบคุณท่านจากใจจริงๆ”เธอกำลังท
“เพราะแบบนั้นข้าจึงมาที่นี่เพื่อพาท่านน้าและโอฟีเลียไปบอกลาท่านแม่ของข้าเป็นครั้งสุดท้ายครับ..”อาม่อนกล่าวพร้อมกับก้มหน้าลงเพื่อเป็นการทำความเคารพท่านน้าของเขา“ไปสิ พาข้าไปที่วาเลเลียหน่อย ข้าเองก็อยากจะพบเจอท่านพี่มานานมากๆแล้วเหมือนกัน”โอฟีเลียลอบมองสีหน้าของท่านแม่ เธอไม่รู้ว่าท่านแม่และท่านป้ามีปัญหาที่ขัดแย้งเรื่องอะไรกันแน่ เพราะเป็นระยะเวลานานหลายปีทีเดียวที่ท่านแม่และท่านป้าไม่ได้ไปมาหาสู่กัน“ใจเย็นๆนะคะ เรื่องราวอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ท่านพี่คิดก็ได้ค่ะ”โอฟีเลียตบบ่าของอาม่อนเบาๆด้วยความเป็นห่วง“ข้าเองก็พยายามอย่างยิ่งที่จะคิดเช่นนั้น แต่ทว่าคนเราต้องอยู่กับความเป็นจริง โอฟีเลีย ท่านแม่ของข้าล้มป่วยมานานมากพอสมควร และท่านควรจะ..หลุดพ้นจากความทรมานพวกนั้นเสียที”เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่อาม่อนเพื่อให้กำลังใจเขา พี่ผู้ไม่ได้เรื่องของเธอในวันนี้เขากลับหยัดยืนขึ้นมาและแข็งแกร่งมากกว่าเดิมเพื่อปกป้องตระกูลวาเลเลียที่เขารัก น่าชื่นชมอยู่เหมือนกันเราขึ้นรถม้าแล้วเดินทางมาที่คฤหาสน์วาเลเลีย ที่นี่มีบรรยากาศไม่แตกต่างจากที่เอเวีย มาครั้งสุดท้ายเมื่อเจ็ดปีก่อนเลย ทุกอย่างเหมือน
“ข้าไม่เคยรู้สึกอยากฆ่าใครขนาดนี้มาก่อนเลย ให้ตายเถอะ”คาลอสรีบคว้าตัวของโอฟีเลียมากอดเอาไว้ เพราะเธอทำท่าทางราวกับจะบุกไปที่พระราชวังให้รู้แล้วรู้รอดไป“เราต้องใจเย็นก่อนครับที่รัก เพราะสิ่งที่ข้าเล่าไปทั้งหมดมันแค่มาจากการคาดเดาของข้าเท่านั้นเอง ยังไม่มีหลักฐานยืนยันเลยว่าองค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์กำลังหลอกใช้จูเลียน และหลอกใช้เราด้วย”เธอหลับตาลงช้าๆเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง โอฟีเลียแทบไม่เชื่อหูตัวเองในยามที่เธอได้ยินสิ่งที่คาลอสเล่าออกมา เธอคิดว่ามันแปลกที่องค์จักรพรรดิไม่ยินยอมเลือกที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อจูเลียนเลย มันเหมือนกับว่าน้องสาวของเธอไม่ได้สำคัญอะไรกับเขาเลย แล้วมันก็เป็นไปตามที่เธอคิดจริงๆอย่างนั้นสินะ หมอนั่นไม่ได้รักจูเลียนเท่าที่เขาจะสามารถยินยอมเสียสละอะไรเลยมันแปลกตั้งแต่การพบเจอที่ไม่คาดฝันขององค์จักรพรรดิและจูเลียนแล้ว เขาพยายามเข้าหาจูเลียนแล้วร้องขอให้นางอยู่ที่พระราชวังกับเขาเธอไม่อยากจะคิดแบบนี้เท่าไหร่นักแต่..บางที ในบางทีซิลเวสเตอร์อาจจะเป็นเหมือนกันกับเธอ เขาอาจจะเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เหมือนกันกับเธอก็ได้ เราทั้งคู่ต่างมีจุดจบคือความตายและเขาพยายามจ
นั่นไม่ใช่คำถามเลยแม้แต่นิดเดียว แต่มันคือการประกาศอย่างชัดเจนว่าเขาควรจะอยู่ฝ่ายเดียวกันกับองค์รัชทายาท ไม่อย่างนั้นในช่วงเวลาที่พระองค์ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิ สิ่งแรกที่พระองค์จะทรงกระทำนั่นคือการจัดการเทอรันให้ย่อยยับ “เรื่องนั้นฝ่าบาทน่าจะได้คำตอบอยู่ในใจของพระองค์ไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ การที่กระหม่อมมาปรากฏตัวที่นี่ มันยังไม่เพียงพอที่จะยืนยันความภักดีของกระหม่อมเลยหรือ?”มาร์โคหัวเราะชอบใจ“แน่นอนว่ามันยังไม่เพียงพอเท่าไหร่นัก ข้าต้องการมากกว่านั้น ต้องการมองดูการแสดงความภักดีของเจ้าให้ลึกซึ้งลงไปมากกว่านี้ ข้าต้องการตำแหน่งขององค์จักรพรรดิมาถือครองเอาไว้ เข้าไปนำมันมาให้ข้าหน่อยสิ..หากว่าเจ้าทำได้ข้าจะเชื่อถือในความภักดีของเจ้าก็แล้วกัน”ไม่แตกต่างจากที่คิดเอาไว้เท่าไหร่นัก“ฝ่าบาท..ตำแหน่งองค์จักรพรรดินั้นจะเป็นของพระองค์อย่างแน่นอนในอีกสองปี แล้วเหตุใดต้องเร่งรีบในเมื่อมีช่วงเวลากำหนดตายตัวอยู่แล้ว”มาร์โคหัวเราะเย้ยหยันด้วยความดูถูก“เจ้าขี้ขลาดหรือ? น่าเสียดายที่ข้าตั้งความหวังกับเจ้าเอาไว้มากมาย งานนี้มีคนอื่นพร้อมจะทำเพื่อข้าเยอะแยะเต็มไปหมด เพราะพวกเขาล่วงรู้ถึงผลประโยชน์ที่