จูเลียนใช้หลังมือเช็ดน้ำตา เธอเงยหน้าเล็กน้อยเพื่อมองบุรุษที่ด่าเธอ และเมื่อเห็นใบหน้าของบุรุษผู้นั้นเธอก็ขมวดคิ้วในทันทีองค์รัชทายาทมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน เธอไม่พร้อมและไม่อยากจะพบเจอเขาในยามนี้เลย“ยื่นมือมาสิ ข้าจะช่วยพยุงเจ้าเอง”เขายื่นมือมาให้เธอเพื่อให้เธอวางมือลงบนมือของเขา แต่จูเลียนไม่คิดทำเช่นนั้น เธอพยุงตัวเองเพื่อลุกขึ้นด้วยตัวเอง“ขอบพระทัยเพคะ..หม่อมฉันสบายดี เพราะอย่างนั้นขอตัวก่อนนะเพคะ”มาร์โคมองนักบุญหญิงที่ปกตินางจะดูน่ารักและสดใสอยู่เสมอในยามที่นางอยู่ข้างกายของท่านอา แต่ทว่าในวันนี้นางกลับร้องไห้ออกมาเสียงดังอย่างไม่อายใคร คงเพราะว่านางไม่คิดว่าจะมีคนอื่นอยู่ที่นี่อย่างนั้นสินะ“ข้าไปด้วยสิ ดูจากที่เจ้ากำลังมุ่งหน้าเดินทางออกไปจากพระราชวังแล้ว แสดงว่าเจ้าจะต้องกำลังออกไปเที่ยวงานเทศกาลอย่างแน่นอน ข้าก็อยากไปที่นั่นอยู่เหมือนกัน ดูสิข้าอุตส่าห์ปลอมตัวมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะเลยนะ..พาข้าไปด้วยสิ”เธอมองหน้าเขาอย่างชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง“พระองค์...มีเงินไหมเพคะ..”มาร์โคหัวเราะออกมาเบาๆ“มีสิ มีเยอะมากพอสมควรเลย พาข้าออกไปแล้วข้าจะให้เงินเจ้าเอง อยากซื้ออะไรข้าจะซื้อ
มาร์โคเดินกลับมาที่แอเรียนาอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับเนื้อย่างเสียบไม้ในมือ ที่สวนด้านหน้าของคฤหาสน์เขามองเห็นเพียงแค่เลดี้แอเรียนาเท่านั้น“นักบุญหญิงผู้นั้นนางหายไปไหนแล้วครับ..ข้าซื้อของมาฝากนางด้วย อ่อ..แล้วก็มีในส่วนของเลดี้ด้วยนะครับ”โอฟีเลียสูดลมหายใจเขาลึกๆ“เรามาพูดคุยกันแบบตรงไปตรงมาดีไหมเพคะองค์รัชทายาท”น้ำเสียงและท่าทีของเธอมันเริ่มเปลี่ยนไปในทันที นั่นทำให้มาร์โครับรู้ได้เลยว่าจะต้องมีเรื่องที่เคร่งเครียดรอเขาอยู่อย่างแน่นอน“ได้เลยครับ เลดี้มีเรื่องอะไรจะกล่าวก็พูดแบบตรงไหนตรงมาได้เลย..”โอฟีเลียไม่อ้อมค้อมเธอเริ่มพูดคุยเรื่องราวที่อัดแน่นอยู่ในใจออกไปเพื่อให้มาร์โคได้รับฟังอีกด้านหนึ่งของงานเทศกาล คาลอสพาจูเลียนเดินทางไปยังท่าเรือของแอเรียนา เขาส่งนางขึ้นเรือด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง“ข้าจะไปรับเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เพราะอย่างนั้นดูแลตัวเองให้ดี..ให้เวลาเป็นเยียวยาในทุกความเจ็บปวดของเจ้า.”จูเลียนพยักหน้า เธอยกมือขึ้นมาแล้วโอบกอดท่านพี่คาลอสเอาไว้“ข้าจะกลับมาอีกครั้งในวันที่พี่ทั้งสองคนแต่งงานกันนะคะ..พี่คู่ควรกับท่านพี่โอฟีเลียผู้งดงามของข้ามากจริงๆ ทั้
เช้าวันรุ่งขึ้นมีการเรียกประชุมสภาขุนนางอย่างเป็นการเร่งด่วน แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาเมื่อคืนทำให้ชาวบ้านต่างเรียกร้องให้มีการผลัดเปลี่ยนองค์จักรพรรดิ อีกทั้งเรื่องกำหนดระยะเวลาของการครองราชย์องค์จักรพรรดิตัวแทนอย่างองค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ก็เลยกำหนดมามากแล้ว เหล่าขุนนางมองเห็นความสามารถในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าขององค์รัชทายาท การแสดงตัวเพื่อปกป้องและเยียวยาผู้เสียหายทำให้เหล่าขุนนางอดชื่นชมความเก่งกาจและมีน้ำใจของพระองค์มิได้“กระหม่อมคิดว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะที่จะจัดงานราชาภิเษกขึ้นมา จะได้เรียกความเชื่อมั่นในราชวงศ์ของประชาชนกลับมา..”คาลอสเข้าร่วมประชุมในฐานะของท่านเคาน์แห่งอัคราฟ เขากำลังมองดูท่าทีขององค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์อยู่ พระองค์มิกล่าวคำใดออกมาเลยแม้แต่ครึ่งคำ เพราะเรื่องราวที่กำลังกดดันพระองค์อยู่นี้มันทำให้พระองค์หาวิธียืดเยื้อต่อไปอย่างยากลำบาก“พวกท่านอย่าพึ่งกดดันเสด็จอาเลยครับ เรื่องพิธีราชาภิเษกรออีกหน่อยก็ได้ ระหว่างนี้พวกเราก็ช่วยกันจับตาดูพวกชาวบ้านไม่ให้ลุกฮือขึ้นมาต่อต้านราชวงศ์ก็พอ..”คำกล่าวนั้นของมาร์โคถึงแม้ว่าจะเต็มไปด้วยความเจียมตัวแต่มันคือการเน้น
ครั้งแรกที่เขามองเห็นใบหน้านั้น เมื่อเขามองทอดออกไปยังสวนของวิหารศักดิ์สิทธิ์ เขามองเห็นสตรีผู้หนึ่งซึ่งมีเรือนผมสีทองสว่าง เธอกำลังฮัมเพลงในขณะที่มือทั้งสองข้างจับไม้กวาดแล้วเริ่มกวาดใบไม้ในสวนที่แสนกว้างใหญ่ของวิหารศักดิ์สิทธิ์ สตรีผู้นั้นคือบุตรนอกสมรสของเซอร์เกรท เธอคือนางเอกของเรื่องนี้ และใบหน้านั้นแสนงดงามสมกับตำแหน่งนางเอกของเรื่องนี้จริงๆ เขาไม่เข้าใจว่าเขาเข้ามาอยู่ในร่างขององค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ที่มีอนาคตจะต้องตายได้อย่างไรกัน แต่ในเมื่อเขาเข้ามาอยู่ในนิยายที่เคยอ่านเช่นนั้นเขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะหาทางเอาชีวิตรอดความตาย เขาคิดแบบนั้นจนตัวเองได้ลิ้มรสการมีอำนาจในครั้งแรก ใช่แล้ว..คนจำนวนมากก้มหัวให้เขาในช่วงเวลาที่เขาเดินผ่าน คำสรรเสริญเยินยอพวกนั้นทำให้เขารู้สึกมีความสุขกับตำแหน่งองค์จักรพรรดิ และนั่นทำเขารู้สึกโลภขึ้นมา เขาอยากจะอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั่นทำให้เขาใช้ความคิดมากมายเพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นองค์จักรพรรดิต่อไป และคนที่เขาจะสามารถพึ่งพาได้นั่นก็คือจูเลียน นางเอกของเรื่องนี้ ความประทับใจจากครั้งแรกที่เราพบเจอกันนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย
อีกสามเดือนต่อมาหลังจากที่องค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีทรงจัดงานอภิเษก อย่างยิ่งใหญ่ ก็มีงานแต่งงานของเลดี้ แอเรียนาและเคาน์แห่งอัคราฟในปีนั้นถือเป็นปีที่มีงานที่แสนยิ่งใหญ่หลายงานมากทีเดียว“ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าจูเลียนจะตั้งครรภ์ก่อนเรา พระเจ้าช่วยนี่ข้ากำลังรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังพ่ายแพ้ต่อมาร์โค”ข่าวการตั้งครรภ์ของจักรพรรดินีถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการหลังจากพิธีอภิเษกผ่านพ้นไปเพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้น คาลอสแทบจะนั่งไม่ติดเพราะเขาคิดว่าเขาน่าจะมีบุตรคนแรกก่อนองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีที่ไม่ได้แต่งงานกันด้วยความรัก แต่มันกลับกลายเป็นว่าจูเลียนตั้งครรภ์ก่อนโอฟีเลีย หรือว่าร่างกายของเขามันจะมีปัญหากันนะ?โอฟีเลียมองสามีของเธอด้วยความรู้สึกนึกขำอยู่ในใจ“เอาน่า เดี๋ยวถึงเวลาที่เหมาะสมลูกของเราก็น่าจะมาเอง ท่านไม่เห็นต้องกังวลอะไรเลยนี่คะที่รัก..”หลังกล่าวจบเธอก็หอมแก้มเขาด้วยความมันเขี้ยว ฤดูหนาวผ่านพ้นไปแล้วถึงสองฤดูแต่ท่านแม่ของเธอยังคงสุขภาพแข็งแรงดีอยู่ หลังจากที่จูเลียนแต่งงานท่านแม่ก็เริ่มกลับมาเข้าสังคมอีกครั้งหนึ่ง และในยามนี้ท่านแม่ของเธอคือท่านหญิงเอเวียที่เก่งกาจเรื่องกา
“เราหย่ากันเถอะค่ะ...”คำกล่าวนั้นสร้างความฮือฮาในแวดวงสังคมชนชั้นสูงเป็นอย่างมากเมื่อดัชเชส แอเรียนา ขอหย่ากับท่านดยุคกลางงานเลี้ยงครอบรอบการแต่งงานปีที่20ของทั้งสองคนดัชเชสเอเวียเป็นสตรีชนชั้นสูงที่งดงามผู้หนึ่ง นางคือน้องสาวของแกรนด์ดัชเชส และหากว่าย้อนเวลาไปเมื่อ20ปีก่อน ชื่อของ ดัชเชสจะอยู่แถวหน้าของสตรีที่เหล่าบุรุษอยากแต่งงานด้วย แต่เพราะเซอร์เกรทสามารถ คว้าชัยชนะมาให้จักรวรรดิ องค์จักรพรรดิจึงได้มีพระราชโองการ พระราชทานงานแต่งแห่งยุคให้แก่ผู้กล้าที่นำสันติมาสู่จักรวรรดิ โดยสตรีที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้แก่ เซอร์เกรท คือเลดี้ตระกูลแอเรียนา นามว่า เอเวียหญิงงามแห่งยุคและวีรบุรุษได้แต่งงานกันโดยที่ผู้คนต่างสรรเสริญว่านี่คือบุรุษและสตรีที่เหมาะสมมากที่สุดในช่วงนั้น มีเพียงแกรนด์ดัชเชสพี่สาวของเอเวียเท่านั้นที่มองว่าเซอร์เกรทไม่คู่ควรกับน้องสาวของพระนางเลยการหย่าร้างในชนชั้นสูง ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเมื่อดัชเชสเอเวียประกาศกร้าวถึงความต้องการของนาง ก็เกิดเสียงฮือฮาไม่หยุดหย่อน อีกทั้งการแต่งงานของทั้งคู่คือพระราชโองการขององค์จักรพรรดิอีกด้วยแต่สุดท้ายดยุคเกรทก็ยินยอมลงนามในห
โอฟีเลียเดินไปเดินมาอยู่ในห้องนอนของตัวเอง ในปีนี้เธออายุ17ปี และแน่นอนนี่คือวันที่ท่านแม่จะจับตัวของจูเลียน บุตรนอกสมรสของท่านพ่อมาเพื่อรับใช้เธอที่ผ่านมาเธอช่วยท่านแม่ดูแลแอเรียนาเป็นอย่างดี แถมยังพาท่านแม่ไปช็อปปิ้ง เสริมสวย ตัดผม ทำเล็บ ทำสปา นวดหน้า สารพัดอย่างที่จะทำจนเธอได้ชื่อว่าเธอโอฟีเลียลูกกตัญญูไปแล้วในสายตาของผู้อื่นในจักรวรรดิ และถึงแม้ว่าจะผ่านมา5ปีแล้วหลังจากที่เธอถูกงูกัด แต่เธอก็ไม่เคยเห็นท่านพ่อตัวเป็นๆ สักทีเลยชายผู้นั้นเลือดเย็นอย่างถึงที่สุดเลยจริงๆ เขาไม่มาหาลูกสาวเลยแม่แต่ครั้งเดียว และเธอเองก็ไม่ไปหาเขาด้วยผู้ที่ไปมาหาสู่กับท่านแม่บ่อยที่สุดคือท่านป้าเอสเทีย ท่านป้ามีลูกชาย เขามีชื่อว่าอาม่อนอายุมากกว่าเธอ 2 ปีและเราสนิทสนมกันมากพอสมควร แต่หมอนั่นไม่ค่อยเอาไหนเท่าไหร่นัก เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายที่เกิดมาบน กองเงินกองทอง ไม่ต้องทำงานหรือว่าอะไรทั้งนั้น อาม่อนก็เลยวันๆ เอาแต่ดื่มสุราเคล้านารี“ปัง!!”โอฟีเลียสะดุ้งเฮือกเมื่อประตูห้องของเธอถูกถีบออกพร้อมกับท่านแม่ที่เดินเข้ามา ด้านหลังของท่านแม่คือเด็กสาวอายุ15ปี ที่มีเรือนผมสีเงินยวง ใบหน้าของนางเปียกชุ่มไปด
“ท่านแม่ฝากของมาให้น่ะ..”อาม่อนกล่าวพร้อมกับโบกมือเพื่อให้คนของเขายกหีบไม้มากมายเข้าไปด้านในคฤหาสน์แอเรียนา ในหีบไม้พวกนั้นมีทั้งผ้าไหม เครื่องเทศ อาการแห้ง และเครื่องประทินโฉมอีกมากมายทีเดียว ท่านแม่ของเขาไม่สบายแต่ถึงอย่างนั้นเมื่อท่านพ่อได้รับเครื่องบรรณาการจากองค์จักรพรรดิ ท่านแม่ก็รีบสั่งให้เขาส่งข้าวของพวกนั้นมาที่นี่ เพื่อมามอบให้แก่ท่านน้าและโอฟีเลีย“ฝากขอบคุณท่านป้าด้วยนะคะ”อาม่อนพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ“อีกเรื่องที่ข้าต้องบอกกล่าวกับเจ้า คือท่านแม่ต้องการให้เจ้าเข้าร่วมงานเลี้ยงในพิธีบรรลุนิติภาวะในพระราชวัง ปีนี้เจ้าอายุ 18 แล้วนี่ ต้องเข้าร่วมพิธีเพื่อให้บุรุษทุกคนได้ล่วงรู้ว่าเจ้าพร้อมจะแต่งงานแล้ว”โอฟีเลียแค่นหัวเราะเบาๆ“ท่านแม่ไม่ยอมให้ข้าไปหรอก พี่ก็รู้ว่าท่านแม่หวงข้าอย่างกับอะไรดี”“ครั้งนี้ท่านแม่ของข้าจะออกหน้าให้เอง เรื่องชุดที่จะใส่ไปในวันงานและช่างแต่งหน้า ข้าจะส่งมาที่นี่เจ้าแค่เตรียมตัวให้พร้อมกับการเข้าสู่สังคมของชนชั้นสูงก็พอแล้ว นี่เป็นบัตรเชิญ แน่นอนว่ามันจ่าหน้าซองถึงเลดี้แอเรียนา โอฟีเลีย”โอฟีเลียยื่นมือไปรับบัตรเชิญนั้นมาถือเอาไว้ กำหนดการจัดงานอีกสาม
อีกสามเดือนต่อมาหลังจากที่องค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีทรงจัดงานอภิเษก อย่างยิ่งใหญ่ ก็มีงานแต่งงานของเลดี้ แอเรียนาและเคาน์แห่งอัคราฟในปีนั้นถือเป็นปีที่มีงานที่แสนยิ่งใหญ่หลายงานมากทีเดียว“ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าจูเลียนจะตั้งครรภ์ก่อนเรา พระเจ้าช่วยนี่ข้ากำลังรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังพ่ายแพ้ต่อมาร์โค”ข่าวการตั้งครรภ์ของจักรพรรดินีถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการหลังจากพิธีอภิเษกผ่านพ้นไปเพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้น คาลอสแทบจะนั่งไม่ติดเพราะเขาคิดว่าเขาน่าจะมีบุตรคนแรกก่อนองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีที่ไม่ได้แต่งงานกันด้วยความรัก แต่มันกลับกลายเป็นว่าจูเลียนตั้งครรภ์ก่อนโอฟีเลีย หรือว่าร่างกายของเขามันจะมีปัญหากันนะ?โอฟีเลียมองสามีของเธอด้วยความรู้สึกนึกขำอยู่ในใจ“เอาน่า เดี๋ยวถึงเวลาที่เหมาะสมลูกของเราก็น่าจะมาเอง ท่านไม่เห็นต้องกังวลอะไรเลยนี่คะที่รัก..”หลังกล่าวจบเธอก็หอมแก้มเขาด้วยความมันเขี้ยว ฤดูหนาวผ่านพ้นไปแล้วถึงสองฤดูแต่ท่านแม่ของเธอยังคงสุขภาพแข็งแรงดีอยู่ หลังจากที่จูเลียนแต่งงานท่านแม่ก็เริ่มกลับมาเข้าสังคมอีกครั้งหนึ่ง และในยามนี้ท่านแม่ของเธอคือท่านหญิงเอเวียที่เก่งกาจเรื่องกา
ครั้งแรกที่เขามองเห็นใบหน้านั้น เมื่อเขามองทอดออกไปยังสวนของวิหารศักดิ์สิทธิ์ เขามองเห็นสตรีผู้หนึ่งซึ่งมีเรือนผมสีทองสว่าง เธอกำลังฮัมเพลงในขณะที่มือทั้งสองข้างจับไม้กวาดแล้วเริ่มกวาดใบไม้ในสวนที่แสนกว้างใหญ่ของวิหารศักดิ์สิทธิ์ สตรีผู้นั้นคือบุตรนอกสมรสของเซอร์เกรท เธอคือนางเอกของเรื่องนี้ และใบหน้านั้นแสนงดงามสมกับตำแหน่งนางเอกของเรื่องนี้จริงๆ เขาไม่เข้าใจว่าเขาเข้ามาอยู่ในร่างขององค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ที่มีอนาคตจะต้องตายได้อย่างไรกัน แต่ในเมื่อเขาเข้ามาอยู่ในนิยายที่เคยอ่านเช่นนั้นเขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะหาทางเอาชีวิตรอดความตาย เขาคิดแบบนั้นจนตัวเองได้ลิ้มรสการมีอำนาจในครั้งแรก ใช่แล้ว..คนจำนวนมากก้มหัวให้เขาในช่วงเวลาที่เขาเดินผ่าน คำสรรเสริญเยินยอพวกนั้นทำให้เขารู้สึกมีความสุขกับตำแหน่งองค์จักรพรรดิ และนั่นทำเขารู้สึกโลภขึ้นมา เขาอยากจะอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั่นทำให้เขาใช้ความคิดมากมายเพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นองค์จักรพรรดิต่อไป และคนที่เขาจะสามารถพึ่งพาได้นั่นก็คือจูเลียน นางเอกของเรื่องนี้ ความประทับใจจากครั้งแรกที่เราพบเจอกันนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย
เช้าวันรุ่งขึ้นมีการเรียกประชุมสภาขุนนางอย่างเป็นการเร่งด่วน แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาเมื่อคืนทำให้ชาวบ้านต่างเรียกร้องให้มีการผลัดเปลี่ยนองค์จักรพรรดิ อีกทั้งเรื่องกำหนดระยะเวลาของการครองราชย์องค์จักรพรรดิตัวแทนอย่างองค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ก็เลยกำหนดมามากแล้ว เหล่าขุนนางมองเห็นความสามารถในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าขององค์รัชทายาท การแสดงตัวเพื่อปกป้องและเยียวยาผู้เสียหายทำให้เหล่าขุนนางอดชื่นชมความเก่งกาจและมีน้ำใจของพระองค์มิได้“กระหม่อมคิดว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะที่จะจัดงานราชาภิเษกขึ้นมา จะได้เรียกความเชื่อมั่นในราชวงศ์ของประชาชนกลับมา..”คาลอสเข้าร่วมประชุมในฐานะของท่านเคาน์แห่งอัคราฟ เขากำลังมองดูท่าทีขององค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์อยู่ พระองค์มิกล่าวคำใดออกมาเลยแม้แต่ครึ่งคำ เพราะเรื่องราวที่กำลังกดดันพระองค์อยู่นี้มันทำให้พระองค์หาวิธียืดเยื้อต่อไปอย่างยากลำบาก“พวกท่านอย่าพึ่งกดดันเสด็จอาเลยครับ เรื่องพิธีราชาภิเษกรออีกหน่อยก็ได้ ระหว่างนี้พวกเราก็ช่วยกันจับตาดูพวกชาวบ้านไม่ให้ลุกฮือขึ้นมาต่อต้านราชวงศ์ก็พอ..”คำกล่าวนั้นของมาร์โคถึงแม้ว่าจะเต็มไปด้วยความเจียมตัวแต่มันคือการเน้น
มาร์โคเดินกลับมาที่แอเรียนาอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับเนื้อย่างเสียบไม้ในมือ ที่สวนด้านหน้าของคฤหาสน์เขามองเห็นเพียงแค่เลดี้แอเรียนาเท่านั้น“นักบุญหญิงผู้นั้นนางหายไปไหนแล้วครับ..ข้าซื้อของมาฝากนางด้วย อ่อ..แล้วก็มีในส่วนของเลดี้ด้วยนะครับ”โอฟีเลียสูดลมหายใจเขาลึกๆ“เรามาพูดคุยกันแบบตรงไปตรงมาดีไหมเพคะองค์รัชทายาท”น้ำเสียงและท่าทีของเธอมันเริ่มเปลี่ยนไปในทันที นั่นทำให้มาร์โครับรู้ได้เลยว่าจะต้องมีเรื่องที่เคร่งเครียดรอเขาอยู่อย่างแน่นอน“ได้เลยครับ เลดี้มีเรื่องอะไรจะกล่าวก็พูดแบบตรงไหนตรงมาได้เลย..”โอฟีเลียไม่อ้อมค้อมเธอเริ่มพูดคุยเรื่องราวที่อัดแน่นอยู่ในใจออกไปเพื่อให้มาร์โคได้รับฟังอีกด้านหนึ่งของงานเทศกาล คาลอสพาจูเลียนเดินทางไปยังท่าเรือของแอเรียนา เขาส่งนางขึ้นเรือด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง“ข้าจะไปรับเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เพราะอย่างนั้นดูแลตัวเองให้ดี..ให้เวลาเป็นเยียวยาในทุกความเจ็บปวดของเจ้า.”จูเลียนพยักหน้า เธอยกมือขึ้นมาแล้วโอบกอดท่านพี่คาลอสเอาไว้“ข้าจะกลับมาอีกครั้งในวันที่พี่ทั้งสองคนแต่งงานกันนะคะ..พี่คู่ควรกับท่านพี่โอฟีเลียผู้งดงามของข้ามากจริงๆ ทั้
จูเลียนใช้หลังมือเช็ดน้ำตา เธอเงยหน้าเล็กน้อยเพื่อมองบุรุษที่ด่าเธอ และเมื่อเห็นใบหน้าของบุรุษผู้นั้นเธอก็ขมวดคิ้วในทันทีองค์รัชทายาทมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน เธอไม่พร้อมและไม่อยากจะพบเจอเขาในยามนี้เลย“ยื่นมือมาสิ ข้าจะช่วยพยุงเจ้าเอง”เขายื่นมือมาให้เธอเพื่อให้เธอวางมือลงบนมือของเขา แต่จูเลียนไม่คิดทำเช่นนั้น เธอพยุงตัวเองเพื่อลุกขึ้นด้วยตัวเอง“ขอบพระทัยเพคะ..หม่อมฉันสบายดี เพราะอย่างนั้นขอตัวก่อนนะเพคะ”มาร์โคมองนักบุญหญิงที่ปกตินางจะดูน่ารักและสดใสอยู่เสมอในยามที่นางอยู่ข้างกายของท่านอา แต่ทว่าในวันนี้นางกลับร้องไห้ออกมาเสียงดังอย่างไม่อายใคร คงเพราะว่านางไม่คิดว่าจะมีคนอื่นอยู่ที่นี่อย่างนั้นสินะ“ข้าไปด้วยสิ ดูจากที่เจ้ากำลังมุ่งหน้าเดินทางออกไปจากพระราชวังแล้ว แสดงว่าเจ้าจะต้องกำลังออกไปเที่ยวงานเทศกาลอย่างแน่นอน ข้าก็อยากไปที่นั่นอยู่เหมือนกัน ดูสิข้าอุตส่าห์ปลอมตัวมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะเลยนะ..พาข้าไปด้วยสิ”เธอมองหน้าเขาอย่างชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง“พระองค์...มีเงินไหมเพคะ..”มาร์โคหัวเราะออกมาเบาๆ“มีสิ มีเยอะมากพอสมควรเลย พาข้าออกไปแล้วข้าจะให้เงินเจ้าเอง อยากซื้ออะไรข้าจะซื้อ
“ดูเหมือนว่าข้าจะติดค้างคำขอบคุณกับท่านบารอนนะคะ ข้าขอขอบคุณที่ท่านพาข้าไปที่กลุ่มการค้าเทอรัน และขอโทษด้วยสำหรับการหลอกลวงท่าน..”บอกตามตรงว่าในใจของลีออนเขาไม่ได้อยากได้รับคำขอบคุณจากเธอเลยเพราะมันหมายความว่าเรื่องราวของเราทั้งสองคนมันจบลงแล้วยังไงละ“เลดี้จะกลับไปหาเขาอย่างนั้นหรือครับ”โอฟีเลียไม่ได้ตอบคำถามนั้นของลีออน เธอส่งยิ้มให้เขาแทนคำตอบ“หากว่าท่านบารอนมีสิ่งใดอยากให้ข้าช่วยเหลือก็บอกกล่าวมาได้เลยนะคะ ข้ายินดีที่จะช่วยเหลือท่านอย่างเต็มที่”ลีออนขบเม้มริมฝีปากแน่น เขามองหน้าเธอด้วยความรู้สึกเจ็บปวดอย่างไร้ที่มา อีกฝ่ายไม่ได้ผิดเลยสักนิดเดียวที่ปฏิเสธ เพราะความรู้สึกของใครก็ต้องให้คนคนนั้นรับผิดชอบเอาเอง เธอไม่ผิดที่ไม่รักเขา แต่เขาต่างหากที่เป็นฝ่ายผิดที่เขาดันไปรักเธอและคาดหวังในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้“ครับ..หากมีเรื่องที่ต้องการช่วยเหลือข้าจะไปหาเลดี้นะครับ ท่านเองก็เช่นกันหากว่าท่านมีเรื่องใดให้ข้าช่วยเหลือ..”หากว่าในวันข้างหน้าชายผู้นั้นหลอกลวงและทำให้เธอเจ็บปวดอีก“ก็มาหาข้านะครับ”โอฟีเลียก้มหน้าลงเล็กน้อย“ขอบคุณท่านบารอนมากนะคะ ข้าขอขอบคุณท่านจากใจจริงๆ”เธอกำลังท
“เพราะแบบนั้นข้าจึงมาที่นี่เพื่อพาท่านน้าและโอฟีเลียไปบอกลาท่านแม่ของข้าเป็นครั้งสุดท้ายครับ..”อาม่อนกล่าวพร้อมกับก้มหน้าลงเพื่อเป็นการทำความเคารพท่านน้าของเขา“ไปสิ พาข้าไปที่วาเลเลียหน่อย ข้าเองก็อยากจะพบเจอท่านพี่มานานมากๆแล้วเหมือนกัน”โอฟีเลียลอบมองสีหน้าของท่านแม่ เธอไม่รู้ว่าท่านแม่และท่านป้ามีปัญหาที่ขัดแย้งเรื่องอะไรกันแน่ เพราะเป็นระยะเวลานานหลายปีทีเดียวที่ท่านแม่และท่านป้าไม่ได้ไปมาหาสู่กัน“ใจเย็นๆนะคะ เรื่องราวอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ท่านพี่คิดก็ได้ค่ะ”โอฟีเลียตบบ่าของอาม่อนเบาๆด้วยความเป็นห่วง“ข้าเองก็พยายามอย่างยิ่งที่จะคิดเช่นนั้น แต่ทว่าคนเราต้องอยู่กับความเป็นจริง โอฟีเลีย ท่านแม่ของข้าล้มป่วยมานานมากพอสมควร และท่านควรจะ..หลุดพ้นจากความทรมานพวกนั้นเสียที”เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่อาม่อนเพื่อให้กำลังใจเขา พี่ผู้ไม่ได้เรื่องของเธอในวันนี้เขากลับหยัดยืนขึ้นมาและแข็งแกร่งมากกว่าเดิมเพื่อปกป้องตระกูลวาเลเลียที่เขารัก น่าชื่นชมอยู่เหมือนกันเราขึ้นรถม้าแล้วเดินทางมาที่คฤหาสน์วาเลเลีย ที่นี่มีบรรยากาศไม่แตกต่างจากที่เอเวีย มาครั้งสุดท้ายเมื่อเจ็ดปีก่อนเลย ทุกอย่างเหมือน
“ข้าไม่เคยรู้สึกอยากฆ่าใครขนาดนี้มาก่อนเลย ให้ตายเถอะ”คาลอสรีบคว้าตัวของโอฟีเลียมากอดเอาไว้ เพราะเธอทำท่าทางราวกับจะบุกไปที่พระราชวังให้รู้แล้วรู้รอดไป“เราต้องใจเย็นก่อนครับที่รัก เพราะสิ่งที่ข้าเล่าไปทั้งหมดมันแค่มาจากการคาดเดาของข้าเท่านั้นเอง ยังไม่มีหลักฐานยืนยันเลยว่าองค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์กำลังหลอกใช้จูเลียน และหลอกใช้เราด้วย”เธอหลับตาลงช้าๆเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง โอฟีเลียแทบไม่เชื่อหูตัวเองในยามที่เธอได้ยินสิ่งที่คาลอสเล่าออกมา เธอคิดว่ามันแปลกที่องค์จักรพรรดิไม่ยินยอมเลือกที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อจูเลียนเลย มันเหมือนกับว่าน้องสาวของเธอไม่ได้สำคัญอะไรกับเขาเลย แล้วมันก็เป็นไปตามที่เธอคิดจริงๆอย่างนั้นสินะ หมอนั่นไม่ได้รักจูเลียนเท่าที่เขาจะสามารถยินยอมเสียสละอะไรเลยมันแปลกตั้งแต่การพบเจอที่ไม่คาดฝันขององค์จักรพรรดิและจูเลียนแล้ว เขาพยายามเข้าหาจูเลียนแล้วร้องขอให้นางอยู่ที่พระราชวังกับเขาเธอไม่อยากจะคิดแบบนี้เท่าไหร่นักแต่..บางที ในบางทีซิลเวสเตอร์อาจจะเป็นเหมือนกันกับเธอ เขาอาจจะเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เหมือนกันกับเธอก็ได้ เราทั้งคู่ต่างมีจุดจบคือความตายและเขาพยายามจ
นั่นไม่ใช่คำถามเลยแม้แต่นิดเดียว แต่มันคือการประกาศอย่างชัดเจนว่าเขาควรจะอยู่ฝ่ายเดียวกันกับองค์รัชทายาท ไม่อย่างนั้นในช่วงเวลาที่พระองค์ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิ สิ่งแรกที่พระองค์จะทรงกระทำนั่นคือการจัดการเทอรันให้ย่อยยับ “เรื่องนั้นฝ่าบาทน่าจะได้คำตอบอยู่ในใจของพระองค์ไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ การที่กระหม่อมมาปรากฏตัวที่นี่ มันยังไม่เพียงพอที่จะยืนยันความภักดีของกระหม่อมเลยหรือ?”มาร์โคหัวเราะชอบใจ“แน่นอนว่ามันยังไม่เพียงพอเท่าไหร่นัก ข้าต้องการมากกว่านั้น ต้องการมองดูการแสดงความภักดีของเจ้าให้ลึกซึ้งลงไปมากกว่านี้ ข้าต้องการตำแหน่งขององค์จักรพรรดิมาถือครองเอาไว้ เข้าไปนำมันมาให้ข้าหน่อยสิ..หากว่าเจ้าทำได้ข้าจะเชื่อถือในความภักดีของเจ้าก็แล้วกัน”ไม่แตกต่างจากที่คิดเอาไว้เท่าไหร่นัก“ฝ่าบาท..ตำแหน่งองค์จักรพรรดินั้นจะเป็นของพระองค์อย่างแน่นอนในอีกสองปี แล้วเหตุใดต้องเร่งรีบในเมื่อมีช่วงเวลากำหนดตายตัวอยู่แล้ว”มาร์โคหัวเราะเย้ยหยันด้วยความดูถูก“เจ้าขี้ขลาดหรือ? น่าเสียดายที่ข้าตั้งความหวังกับเจ้าเอาไว้มากมาย งานนี้มีคนอื่นพร้อมจะทำเพื่อข้าเยอะแยะเต็มไปหมด เพราะพวกเขาล่วงรู้ถึงผลประโยชน์ที่