ภายในห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาสชายหนุ่มที่กำลังนั่งอยู่บนเครื่องบินลำนี้จะเดินทางไปต่างประเทศ สีหน้าเต็มไปด้วยความตึงเครียดหลังจากได้ยินรายงานจากลูกน้องคนสนิทผ่านโทรศัพท์
“แล้วตอนนี้หนูนิ่มเป็นยังบ้าง”
(คุณหนูหลับไปแล้วครับ หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แผลตามตัวไม่มีจะมีก็แค่รอยบีบที่คอ)
“เวรเอ้ย!! มึงยังบอกว่าไม่เป็นอะไรอีกเหรอแม็ก กูสั่งให้มึงไปดูแลเธอแต่มึงกลับทำพลาด รู้ใช่ไหมว่าถ้ากูกลับไปมึงจะเจอกับอะไร”
(ครับบอส)
แม็กตอบรับความผิดของตัวเองที่ล่ะหลวม ถ้าไม่ใช่ว่าเขาออกไปซื้อกาแฟเรื่องทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้ อีกอย่างถ้าเป็นคนอื่นทำงานพลาดป่านนี้คงถูกสั่งเก็บไปแล้ว
“ให้คนไปสืบว่าใครส่งมันมา”
(ครับ)
หลังจากวางสายเสร็จใบหน้าพายุยิ่งตึงเครียดมากกว่าเดิม ดูเหมือนว่านิ่มจะถูกเพ่งเล็งจากใครสักคนสินะ ถ้าอย่างนั้นเหตุการณ์ตกน้ำเมื่อ 7 ปีก่อนคงไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดาแต่ใครกันล่ะที่ปองร้ายเธอ ทั้งที่เด็กคนนั้นไม่เคยทำร้ายใครเลยแท้ๆ และยังเป็นคนที่ทำให้เขาอยากมีชีวิตเพื่ออยู่ต่อ
'พี่ขา'
เด็กชายวัย 15 ปีที่เพิ่งมาถึงบ้านหลังพร้อมกับพ่อและแม่หันไปมองเด็กหญิงที่อุ้มตุ๊กตาเดินมาหาตัวเอง ไม่รู้ทำไมเพียงแค่มองเขาก็รู้เลยว่าอีกฝ่ายไม่เหมือนคนปกติทั่วไป
'ว่ายังไง'
'หนูนิ่มหิว หิวมากอึก'
'เฮ้ย ๆ อย่าร้อง เอาแบบนี้ตามฉันมานี่” เด็กชายจับมือเล็กให้เดินตามตัวเองมาถึงรถ ดีที่คนขับรถไม่อยู่เขาเลยเปิดประตูขึ้นไปเอากระเป๋าเป้ตัวเองก่อนจะพาไปหลบมุมอยู่ตรงพุ่มไม้ 'อันนี้ช็อกโกแลตเคยกินไหม'
'ม่าย...ขอค่า' มือเล็กยื่นออกมาแบขอทำให้คนมองอดสงสารไม่ได้เลยยื่นให้ คนที่ได้รับก็รีบใช้ปากงับกินอย่างเอร็ดอร่อย 'อาร่อยยย กิงมายค่า'
'ไม่ล่ะเธอกินเลย อีกหน่อยฉันก็คงจะตายจะกินของอร่อยไปทำไมกัน'
เพราะเรื่องการแย่งชิงอำนาจของหลายตระกูลที่อยากขึ้นอยู่จุดสูงสุด ชีวิตของเขาที่กำลังจะอยู่บนนั้นเลยไม่ต่างจากยืนอยู่บนเส้นด้าย ไม่รู้จะตายเมื่อ
'ไม่ตาย! ไม่ตายนะค่า หนูนิ่มก็ม่ายตาย พี่ก็ไม่ตาย...ต้องมีชีวิต นมสาบอกมีชีวิตแล้วมีความสุข' คนที่พูดไม่ได้สบตากับเขาเลยสักนิด แววตาเต็มไปด้วยความเลื่อนลอย แม้จะแบบนั้นเขาก็รู้สึกว่าเธอจริงใจที่สุดตั้งแต่เขารู้จักใครหลายคนมา
'นั่นสินะต้องไม่ตาย เธอ...หนูนิ่มด้วยเฮียจะคอยปกป้องให้เรามีชีวิตอยู่ต่ออย่างมีความสุข'
“เฮียทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง แค่สิ่งที่หนูนิ่มต้องการให้ตัวเองมีความสุขตอนมีชีวิตยังทำไม่ได้”
พายุได้แต่บ่นพึงพำกับตัวเอง ก่อนที่สายตาเขาจะเหลือบไปมองข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์
น่านน้ำ : เฮียพายุคะ ถ้าถึงก่อนน้ำจะไปคอยอยู่ที่โรงแรมนะคะ
ครับ : พายุ
...............
Dararai Hospitel
“แม้แต่คนบ้ายังคิดจะฆ่า เด็กคนนี้ไปทำอะไรให้พวกสัตว์นรกนั่นกันนะ ถ้ายังแกล้งเป็นคนสติไม่สมประกอบแบบนี้ต่อทำอะไรคงจะยุ่งยากกว่าเดิม”
นิ่มมองตัวเองผ่านกระจก มือเล็กแตะลำคอที่ยังเป็นรอยมืออย่างเห็นได้ชัดด้วยความหงุดหงิด ดูเหมือนว่านอกจากจะทำให้ตัวเองกลายเป็นปกติแล้ว เธอยังต้องหาทางให้ร่างกายนี้แข็งแรงขึ้นอีก ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเธอไม่แอบเอามีดปอกผลไม้เมื่อตอนกลางวันซ่อนไว้คงได้ตายไปอีกรอบแล้ว พอคิดได้แบบนั้นเธอก็เอาโทรศัพท์ของนมสาที่ตัวเองแอบหยิบมาด้วยก่อนจะเข้าห้องน้ำมาส่งข้อความหาวีทันที
ถึง Veehaiyai@gmalh.com
ฉันต้องการให้คุณเริ่มแผนการของเรา
ครืด~ ครืด~
097-357-xxxx
หลังจากที่ส่งข้อความไปไม่ถึง 2 นาทีก็มีเบอร์แปลกๆ โทรเข้ามา เลยลองกดรับดู
(ไงสาวน้อย ทำไมถึงได้เริ่มแผนไวจัง)
เสียงของปลายสายทำให้เธอรู้ทันทีว่าเป็นใคร ก็สมเป็นเขาแหละนะ ก็คิดอยู่ว่าวีจะยอมให้เธอปั่นหัวกี่ครั้ง
“ฉันจะได้ไปบ้านคุณหญิงย่าเร็วกว่าที่คิด คุณให้คนของตัวเองเริ่มแผนเลย”
(เดี๋ยวสิ!! เธอนะเป็นหลับไปถึง 7 ปีเพราะตกน้ำ จะไปรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการตายของนารัน)
“ก็คิดแล้วว่าคุณต้องถามแบบนี้ถ้าสืบเรื่องของฉัน แล้วถ้าฉันบอกว่าการตกน้ำไม่ใช่อุบัติเหตุล่ะ คุณไม่คิดบ้างเหรอว่าผู้หญิงบ้าคนหนึ่งทำไมถึงถูกลอบฆ่าถ้าไม่ใช่ไปรู้เรื่องอะไรที่ไม่สมควรแล้วถูกปิดปาก”
เธอก็คิดอยู่แล้วว่าวีคงสงสัย แต่ต่อให้สงสัยแล้วยังไงตัวเธอรู้ดีว่าจะทำให้เขาคล้อยตามได้ยังไง
[ขอโทษนะวี ต่อให้ผ่านไปหลายปีฉันก็ยังจับทางนายได้อยู่ดี]
(เธอจะบอกว่าเพราะรู้เรื่องการตายของนารันถึงถูกสั่งเก็บเหรอ...ถ้าเป็นแบบนั้นจริงจะบอกว่าฝั่งบูรพามีส่วนเกี่ยวข้องใช่ไหม)
นิ่มขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อได้ยินคำถามของวี ทำไมเขาถึงคิดว่าเป็นฝั่งบูรพาหรือว่าเรื่องของนิ่มที่เขาสืบได้มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะเธอยังทำหาข่าวคราวด้วยตัวเองไม่ได้เลยไม่รู้อะไรมาก
“ทำไมคุณถึงคิด...”
ก๊อก ๆ
“คุณหนูนิ่มอยู่ในนั้นหรือเปล่าครับ”
เสียงคนสนิทของพายุทำให้นิ่มรีบวางสาย แล้วไม่ลืมที่จะลบข้อมูลในโทรศัพท์นมสา
“ใช่ค่า~ หนูนิ่มเข้าห้องน้ำค่าสบายท้อง”
พอประตูเปิดออกก็แสดงบทบาทของนิ่มหญิงสติไม่สมประกอบต่อ
“เมื่อกี้คุณหนูได้คุยกับใครหรือเปล่าครับ” แม็กถามด้วยความสงสัยเพราะระหว่างที่เขามาเดินดูความเรียบร้อยช่วงหญิงสูงวัยออกไปซื้อของข้างนอกก็ต้องแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงพูดในห้องน้ำ
“หนูนิ่มคุย! คุยกับหนูนิ่มในกระจก หนูนิ่มมีเพื่อนแล้ว เย้ๆ”
[หรือเราจะคิดไปเอง]
แม็กได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ อาจจะเป็นเพราะเขายังสงสัยเรื่องเมื่อคืนอยู่เลยระแวงเองหรือเปล่า เขามองหญิงสาวที่ตบมืออีกรอบแล้วถอนหายใจยาว
“คุณหนูนิ่มไปนอนรอนมสาที่เตียงดีกว่าไหมครับ”
“อือ รอนมสามา”
นิ่มเดินไปนั่งที่เตียงอย่างว่าง่าย พอแม็กเห็นแบบนั้นก็ยืนดูสักพักแล้วเดินออกไปรอหน้าประตู เธอรอให้เวลาผ่านไปประมาณ 10 นาทีก็เดินลงจากเตียงแล้วเอาโทรศัพท์ที่ซ่อนไว้ออกมาวางไว้ที่เดิมเพื่อไม่ให้นมสาสงสัย คงต้องสืบสักหน่อยแล้วว่านิ่มหรือครอบครัวของเธอเกี่ยวอะไรกับแก๊งฝั่งทิศบูรพาหรือเปล่า
3 วันต่อมาคนป่วยที่กำลังนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงมองหญิงสูงวัยดูน่าเกรงขามตรงหน้า คนนี้นะเหรอ คุณหญิงอรวรรณ อัครสกูลวงศ์ ความทรงจำเกี่ยวกับท่านในจิตใต้สำนึกของนิ่มน้อยมากจนเธอ อาจจะเพราะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันด้วย“คุณหนูของนมสวัสดีคุณหญิงย่าสิคะ” สารีบบอกเมื่อเห็นว่านิ่มจ้องย่าไม่วางตา“สวัสดีค่าคุณย่า” นิ่มยกมือสองข้างประกบเข้าหากันแล้วยิ้มกว้าง“ไหว้พระเถอะหนูนิ่ม หมดเคราะห์หมดโศกนะลูก” อรวรรณลูบหัวหลานสาวอย่างอ่อนโยน แม้ว่าเธอจะมีแม่เป็นแค่คนใช้ที่พยายามปีนขึ้นเตียงเจ้านายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น แต่เด็กที่เกิดมาก็ไม่รู้เรื่องด้วยอีกอย่างคงเป็นกรรมที่ติดตัวมาถึงทำให้นิ่มไม่เหมือนกับคนทั่วไป แล้วแบบนี้คนแก่แบบเธอยังจะจงเกลียดจงชังหลานได้อีกเหรอ“วันนี้กลับบ้านกับย่านะลูกไปอยู่ด้วยกัน อยากอยู่กับย่าไหม”“อยู่กับคุณย่า นิ่มอยากอยู่กับคุณย่าเย้ๆ” นิ่มปรบมือรัวๆ อย่างดีใจ ทำเอาคนที่มองอยู่ต่างพากันยิ้มตามหลังจากนั้นหมอก็เข้ามาตรวจอาการนิ่มอีกรอบก่อนจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ พอทุกอย่างเรียบร้อยคุณหญิงย่าก็พาเธอกับนมสากลับทันทีโดยมีแม็กคอยคุ้มกันอยู่ตลอดเวลาจนถึงคฤหาสน์หลังใหญ่คฤหาสน์เก่าตระกูล
ตระกูลอนันท์พิบูรวงศ์ษาปัง!! มือใหญ่ตีลงบนโต๊ะทำงานอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง ทำให้ลูกน้องคนสนิททั้ง 2 คน ถึงกับสะดุ้งเพราะดูจากท่าทางแล้วพวกเราคงไม่รอด“มันจะมีหมอเทวดาที่ไหนทำเรื่องแบบนั้นได้”พายุกำมือเข้าหากันแน่นเพราะห่วงความปลอดภัยของนิ่ม หลังจากตัวเองกลับมาจากคุยงานก็ได้รับรายงานว่านิ่มถูกพาไปรักษาโรคออทิสติก มันจะมีหมอเทวดาที่ไหนทำได้แบบนั้นแถมขอเวลาแค่ 3 เดือน เขาพยายามที่จะสอบถามคุณหญิงย่าแต่ท่านก็ไม่ยอมบอก จะให้เขาเอากฎมาเฟียไปบีบเอาคำตอบเหมือนลูกน้องก็ไม่ได้เพราะท่านก็เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่เขาเคารพ อีกอย่างปู่ที่ตายไปก็แจ้งไว้ชัดเจนว่าคนของตระกูลอัครสกูลวงศ์จะถูกละเว้นความผิดทั้งหมด“พวกมึงไปหานักสืบสายนอกส่งเข้าไปมาทิศอื่น ในเมื่อกูหาเขตตัวเองไม่เจอก็แปลว่านิ่มถูกไอ้หมอลวงโลกคนนั้นพาไปถิ่นแน่” “ครับบอส!!” แม็กกับคานตอบรับพร้อมกัน ดูท่าทางถ้าพวกเขายังไม่มีข่าวคราวของคุณหนูนิ่มอาจจะหัวหลุดออกจากบ่ากันเลยก็ได้ พายุถอนหายใจยาวด้วยความหงุดหงิดหลังจากลูกน้องทั้งสองคนเดินออกจากห้องไปทำงานตามที่เขาสั่ง เป็นเพราะเขาติดธุระเลยกลับมาช้ากว่ากำหนด ถ้าเขากลับมาเวลาเดิมก็คงไม่มีใครพานิ่ม
หลังจากเสร็จพิธีหมั้นแขกก็เริ่มทยอยกลับ ตอนนี้นิ่มถูกพามานั่งรอในห้องที่พายุจองไว้เป็นพิเศษ ไม่นานคนที่ให้เธอมารอก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ เธอ“หนูนิ่มครับ เฮียขอถามอะไรหน่อยได้หรือเปล่า”“ค่ะ”“หมอคนนั้นทำอะไรกับเราหรือเปล่า ทำไมถึง...”“ถึงหายบ้านะเหรอคะ” เธอฉีกยิ้มให้เขาเล็กน้อย “ความจริงนิ่มก็จำอะไรไม่ได้เหมือนว่าคุณหมอจะใช้การสะกดจิตน่ะค่ะ แล้วก็พาไปสูดอากาศปลอดโปร่ง...นิ่มก็อธิบายไม่ถูก เฮียต้องการคำตอบตอนนี้เลยเหรอคะ”พายุถึงกับต้องถอนหายใจยาวออกมาเมื่อคนตัวเล็กส่งสายตาอ้อนเขา นี่เป็นครั้งแรกเลยตั้งแต่รู้จักนิ่มมาที่เธอมาท่าทางออดอ้อนเหมือนที่ผู้หญิงทั่วไปทำกัน “เฮ้อ~ เอาไว้วันหลังก็ได้ครับ แต่ว่าไม่ได้บาดเจ็บอะไรจริงๆ ใช่ไหม”“จริงค่ะ”“งั้นก็ดีแล้วครับ หนูนิ่มบอกเฮียได้หรือเปล่าว่าหมอคนนั้นพาไปอยู่ที่ไหนมา”“หนูนิ่มก็ไม่รู้จักเหมือนกันค่ะ เฮียพายุก็น่าจะรู้นิคะว่านอกจากบ้านแล้วหนูนิ่มไม่เคยไปไหนเลย...แต่ว่าหนูนิ่มก็พออธิบายได้ว่าที่นั่นมีทะเล บ้านตั้งอยู่บนภูเขา มองลงไปเห็นทะเลค่ะ”พายุนึกถึงสถานที่ตามที่นิ่มบอก ถ้าพื้นที่มีทะเลรายล้อมเป็นส่วนใ
สหรัฐอเมริกา (1ปีต่อมา) ปัง! ปัง!ลูกกระสุนถูกยิงออกจากกระบอกเข้าเป้าอย่างแม่นยำถึงแม้ว่าจะเป็นเป้าแบบเคลื่อนที่ก็ตาม หลังจากยิงจนกระสุนปืนหมด มือเล็กก็ถอดชิ้นส่วนของปืนอย่างชำนาญตามที่เคยได้รับการสั่งสอนมาแต่เด็ก“ไงแก ไปหงุดหงิดอะไรจากไหนมา ถ้าเป้าเป็นคนจริงๆ คงตายเป็นร้อยรอบแล้ว” จีอาหญิงสาวลูกครึ่งอเมริกัน-ไทย ถามเพื่อนสนิทที่กำลังถอดหูฟังออก ถึงแม้เธอจะเพิ่งรู้จักนิ่มได้แค่ปีเศษๆ แต่สไตล์และความชอบที่คล้ายๆ กันเลยสนิทกันเร็ว“เปล่า...วันนี้ไปดื่มกันไหม” “ได้สิ!! แต่ว่าฉันต้องไปร้านสักก่อนนะ พอดีนัดช่างสักเอาไว้”“สักอีกแล้วเหรอ แกรู้ไหมว่าตอนนี้สักเยอะเหมือนมาเฟียแล้ว...ไม่สิตอนอยู่แก๊งมาเฟียฉันยังไม่สักเลยด้วยซ้ำ” ปลายประโยคนิ่มพูดเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน“แกบ่นเหมือนพ่อฉันอีกแล้ว...ก็ฉันมันลูกสาวมาเฟียอยู่แล้วนิ เหมือนแกไงมีผัวเป็นมาเฟีย ว่าแต่ทำไมฉันไม่เห็นพี่เขามาหลายเดือนแล้ว”คำพูดของจีอาทำให้นิ่มหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม ที่เธอมีอาการแบบนี้ก็เพราะคนที่เพื่อนกำลังพูดถึง หลังจากที่เธอย้ายมาอยู่ที่นี่ก็หนึ่งปีแล้วช่วง 5 เดือนแรกพายุบินมาหาเธอเดือนละ 4-5 วัน แต่คนที่มาหาบ่อยๆ จู่
15.00 น.นิ่มที่กำลังหลับใหลอยู่บนที่นอนนุ่มของตัวเองอย่างสบายจู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนว่ามีใครบางคนนั่งลงบนเตียงที่เธอกำลังนอนอยู่ แต่ถึงแบบนั้นเปลือกตาของเธอก็หนักเกินกว่าจะลืมดูว่าคือใคร“ใครเหรอคะ? ถ้าจะมาปลุกไปกินข้าวนิ่มยังไม่หิวเลยค่ะ ยังรู้สึกแฮงค์ๆ อยู่เลยขอชาหรือน้ำขิงร้อนสักแก้วแทนได้ไหม” นิ่มพูดทั้งที่ตายังปิดอยู่“ดูท่าทางเมื่อคืนหนูนิ่มจะสนุกมากสินะสภาพถึงดูไม่ได้ขนาดนี้” เสียงทุ้มคุ้นหูที่ไม่ได้ยินมาหลายเดือน นั่นทำให้นิ่มที่กำลังนอนอยู่ลืมตาขึ้นมองก่อนจะลุกขึ้นนั่งเพื่อเช็กดูอีกทีว่าตัวเองไม่ได้ฝันไปใช่หรือเปล่านิ่มจ้องคนตัวโตที่นั่งอยู่ขอบเตียงไม่ห่างจากเธอ ใบหน้าที่แม้จะมีความหงุดหงิดอย่างเต็มเปี่ยมแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อและมีเสน่ห์ลดน้อยลงเลย [เป็นครั้งแรกเลยที่เห็นเขาทำหน้าตาแบบนี้ใส่เรา] “เฮียพายุมาได้ยังไงคะ!!” นิ่มร้องออกมาด้วยความตกใจก่อนจะถอยหลังไปชิดกับหัวเตียงเหมือนคนหนีความผิด“ไงครับหนูนิ่มคนเก่งจะบอกเฮียได้หรือยัง เมื่อคืนสนุกมากไหม” พายุมองนิ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า ก็เคยเห็นรูปที่คานส่งให้อยู่หรอกนะที่นิ่มไปทำผมมาในรูปมันก็ดูดีอยู่ แต่กลับไม่ได้ครึ่งของตัวจ
พอได้ยินคำว่าโกรธอีกแล้ว แค่นั้นก็ไม่รู้อะไรดลใจให้นิ่มลุกขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งของพายุ แล้วใช้สองมือโอบรอบคอแกร่งไว้แล้วซบหน้าลงบ่าแกร่งอีกที พายุเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างสงสัยว่าคนตัวเล็กคิดจะทำอะไรอีก ตั้งแต่ที่นิ่มหายดีเขาก็เหมือนไม่รู้จักเธอเลย จับทางแทบไม่ได้“จะทำอะไรครับ” พายุถามด้วยความสงสัย“ทำให้เฮียหายโกรธ” จู่ ๆ นิ่มก็นึกบางอย่างขึ้นได้เลยพูดอย่างมีเลศนัย“หือออ”นิ่มเงยหน้าขึ้นจากบ่ากว้างก่อนจะใช้แขนที่คล้องอยู่โน้มให้ใบหน้าพายุลงมาใกล้ตัว แล้วแนบริมฝีปากตัวเองลงบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ตอนแรกพายุก็ตกใจในการกระทำของเธอ ไม่คิดว่าหญิงสาวจะใจกล้าทำอะไรแบบนี้ได้พอตั้งสติเขาเลยแกล้งปิดปากสนิท นั้นทำให้ความอยากเอาชนะของนิ่มมีมากขึ้น ครั้งหนึ่งเธอก่อนตายเคยอยากขอโทษสามีด้วยวิธีแบบนี้ แต่ก็ไม่เคยมีโอกาสเพราะถึงเวลาเธอทำอะไรผิดเขาก็มักจะบอกว่าไม่โกรธหรือไม่เป็นไร [การอ้อนผู้ชายมันเป็นแบบนี้เองสินะ] พายุมองคนที่พยายามจะเปิดปากเขาอย่างพอใจ ลิ้นเล็กนุ่มกวาดไปริมฝีปากเขา นั่นทำให้เขาแทบอดใจไม่ไหวที่จะลิ้มลองเลยเปิดปากตัวเองออกก่อนที่ลิ้นอีกฝ่ายจะแทรกเข้ามา เขาดูดดื่มและหยอกเย้ากับลิ้นเล็กนุ่ม
JEE.R : กลับแล้วไม่คิดจะบอกกันเลยหรือไงโทษที พอดีโดนบังคับให้กลับด่วนนะ : NimJEE.R : ใครบังคับ?เฮียพายุ : NimJEE.R : ฮู้ววว~ งั้นแปลว่าเฮียของแกรู้เรื่องที่เมาหัวราน้ำข้ามวันข้ามคืนใช่ไหม JEE.R: ฉันเตือนแกแล้ว แต่ไม่ยอมฟังฉันเอง สมน้ำหน้าอย่ามาซ้ำเติมกัน...เดี๋ยวถึงไทยฉันโทรหา : NimJEE.R : ไม่เป็นไรอีก 2 วันฉันก็จะไปไทยห๊ะ!! จริงดิ : NimJEE.R : จริงแด๊ดสั่งให้ไปทำงานสำคัญให้นะอ่อ...งั้นเดี๋ยวเจอกัน : Nim“คุยกับใครครับ” พายุที่นั่งอยู่ข้างๆ สังเกตมาสักพักแล้ว อดที่จะถามไม่ได้จริงๆ“กับเพื่อนน่ะค่ะ คนที่หนูนิ่มเคยบอกเฮียไงคะ”“เลิกเล่นมือถือแล้วเข้าไปนอนพักผ่อนดีกว่านะเฮียว่า”น้ำเสียงที่ฟังหงุดหงิดทำให้นิ่มต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน ช่วงนี้ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าพายุอารมณ์แปรปรวนง่ายจังเลย “ค่ะ...เฮียพายุไปนอนเป็นเพื่อนนิ่มได้ไหมคะ?” นิ่มพูดชวนพร้อมกับดึงแขนแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามมากอดทำทำให้หน้าอกบดเบียดกับแขนของอีกฝ่าย ที่เธอชวนเพราะเป็นเครื่องบินระดับเฟิร์สคลาสเลยมีห้องส่วนตัวเตียงนอนสำหรับลูกค้าเลยมีเตียงส่วนตัว“หนูนิ่มไปนอนพักผ่อนก่อนเลยครับ เดี๋ยวเฮียทำงานเสร็จจะตามไปครับ”ค
PY KUBร่างบางในชุดหนังสีดำรัดรูปเดินตรงไปที่บาร์เหล้าเมื่อเห็นแผ่นหลังของคนที่ตัวเองนัดมาเจอนั่งรออยู่ตรงนั้น “มาเร็วจังเลยนะคะ” เสียงหวานของคนที่เพิ่งเดินมานั่งข้างๆ ทำให้วีหันไปมอง หญิงสาวที่เขาเคยเจอเมื่อปีก่อนตอนนี้เธอเปลี่ยนไปมากเลย ร่างกายผอมแห้งตอนกลับดูมีน้ำมีนวล ใบหน้าที่เคยซูบผอมก็ดูสวยขึ้นจนเป็นดาราได้สบายเลย“เปลี่ยนไปเยอะนะ” วียกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่มก่อนจะทักทายตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“สวยขึ้นใช่ไหมคะ” นิ่มถามด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจในความสวย ทำเอาให้คนที่ถูกถามยิ้มออกมาเล็กน้อย“หึ! เธอนัดฉันมาเพราะจะบอกเรื่องหลักฐานในการตามหาคนร้ายไม่ใช่เหรอ นี่มันก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว เรื่องที่เธอขอร้องให้ช่วยฉันก็ทำหมดแล้ว ถ้าคิดจะเบี้ยวฉันจะบีบคอเธอให้ตายตรงนี้ แม้แต่คู่หมั้นเธอก็ช่วยไม่ได้” ไม่เพียงแค่คำขู่แต่มือใหญ่ยังเอื้อมไปจับคอเล็กไว้โดยไม่สนสายตาคนในร้านเลยสักนิด“อีกแล้วสินะ ใจคอจะฆ่ากันให้ตายคามือเลยหรือไง...ฉันเป็นผู้หญิงนะ” 'อะไรกันวีใจคอจะไม่ออมมือให้กันเลยหรือไง...ฉันเป็นผู้หญิงนะ' คำพูดของนิ่มเหมือนว่าจะไปสะกิดความรู้สึกบางอย่างของวี ทำให้เขาลดมือลงก่อนจะถอนหายใจยา
ตระกูลอนันท์พิบูรวงศ์ษา (5 เดือนต่อมา)“อุ๊ป! อ้วกกกก”เสียงอ้วกที่ดังออกมาจากห้องน้ำทำให้คนที่ยืนคอยอยู่ด้านนอกอดห่วงไม่ได้เพราะอีกฝ่ายเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วแกร๊ก~ ไม่นานร่างของคนที่หายเข้าไปในห้องน้ำก็เดินออกมาด้วยสภาพที่อิดโรย“ที่รักคุณไหวหรือเปล่าคะ”นิ่มยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวให้เขาเช็ดหน้าตาตัวเอง หลังจากจบเรื่องราวทุกอย่างเธอกับพายุก็แต่งงานกันได้ 4 เดือนแล้ว เขาดูแลและปรนนิบัติกับเธอดีทุกอย่างแม้จะรู้ว่าตัวเธอไม่ใช่นิ่มคนเก่าอีกต่อไป เขาเคยมาสารภาพกับเธอว่าเริ่มสังเกตตัวเองมีปฏิกิริยาหรือความรู้สึกแตกต่างออกไปจากนิ่มคนเก่ากับเธอตั้งแต่ที่โรงพยาบาลแล้วและอาจจะหลงรักนิ่มคนใหม่ตอนนั้นก็ได้“ไหวครับ” ถึงจะบอกว่าไหวแต่ตอนนี้เขาก็หน้ามืดมาก ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้ ทั้งเอาแต่อ้วก อารมณ์ฉุนเฉียวก็ง่าย แถมยังอยากกินอาหารเปรี้ยวบ่อยๆ “แต่เฮียเป็นอะไรไม่รู้หรือว่าเฮียควรไปหาหมอดีครับที่รัก”“ใช่ค่ะ ควรไปหาหมอ...แต่ไม่ใช่ที่รักนะคะเป็นหนูนิ่มต่างหาก”“ที่รักเป็นอะไร!! ไม่สบายตรงไหนบอกเฮียมาเลย”เพียงแค่ได้ยินว่าภรรยาต้องไปหาหมอหัวใจเขาก็เต้นแรงด้วยความหวาดกลัว เขากลัวจนลืมว่าตัวเองต่างห
Dararai Hospitel (ห้องพักคนไข้ VVIP) “เฮียพายุคะ ตอนนี้ทิศพายัพเปลี่ยนมือหัวหน้าแล้วนะ วีได้เป็นหัวหน้าแทน เขายกเลิกพวกการค้าเถื่อนที่จะส่งเข้าไปทิศอื่น ๆ หนูนิ่มบอกเขาว่าสิ่งที่นารันต้องการมากที่สุดคือให้เขามีชีวิตเป็นของตัวเองเพราะนารันเธอก็ได้ตายไปแล้วอยากใช้ชีวิตของตัวเอง ไม่รู้ว่าเขาจะทำตามที่หนูบอกไหมแต่ตอนนี้สำหรับหนูเหลือแค่เฮียแล้วนะแต่ถ้าเฮียไม่ฟื้นแบบนี้หนูก็ไม่เหลือใครสิ”หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาเกือบเดือนหนึ่งแล้ว พายุที่ถูกยิงเฉียดจุดสำคัญไปเพียงนิด แต่นั่นก็ทำให้เขาหลับไม่ได้สติมาเกือบเดือน เธอกลัวเหรอเกิน...กลัวว่าเขาจะเหมือนนิ่มที่หลับไปแล้วกลับมาไม่ใช่ตัวเองอีก แบบนั้นเธอคงทนไม่ได้แม้ว่าตอนนี้พายุจะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอีกเพราะอาการคงที่มีเพียงเครื่องที่เอาไว้คอยวัดคลื่นความถี่ของหัวใจ ส่วนเธอก็มาอยู่ที่โรงพยาบาลทุกวันเรื่องในแก๊งก็มีเธอคอยจัดการแทนเงียบ ๆ โดยให้คานกับแม็กเป็นคนออกหน้าแทน ส่วนเรื่องของอดีตสามีที่วีเป็นคนฆ่า หัวหน้าทิศคนอื่นลงความเห็นว่าเพราะหัวหน้าของทิศพายัพทำความผิดร้ายแรงโดยการสั่งคนไปทำผิดกฎหมายในเขตการปกครองคนอื่น ความจริงคนพวกนั้นก็อาจจะตั้
คฤหาสน์ตระกูลเวสิกา (3 วันต่อมา)“นายท่านครับผมเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว”“อืม...แล้วไอ้วีมันอยู่ที่ไหน”“มันหายไปตั้งแต่สองวันก่อนแล้วครับเจ้านาย”“มันได้ไปเจอใครบ้างไหม กูกำลังคิดว่าเรื่องลอบฆ่าของพวกเราคราวก่อนมันนี่แหละจะเป็นคนปล่อยข่าว” ศรันพูดถึงเรื่องนี้แล้วก็ได้แต่โมโห ดีนะที่เขาวางแผนไว้ก่อนไม่อย่างนั้นเรื่องคงสาวมาถึงเขาแน่ว่าเป็นคนวางแผน“คนของเรารายงานว่ามันข้ามเข้าไปเขตของทิศบูรพาครับ”“บูรพางั้นเหรอ” พอได้ยินชื่อนี้เขาก็นึกถึงหน้าไอ้เด็กปากดีคนนั้นกับคู่หมั้นของมันที่รู้ความลับของภรรยา แถมวันงานมันยังเป็นคนเดียวในพวกหัวหน้าทิศที่ไม่ได้อยู่ในช่วงชุลมุน “หรือไอ้วีมันจะขายข่าวพวกเราให้ไอ้เด็กนั่น...แม่งเอ้ย!! แล้วบอกว่าซื่อสัตย์ต่อนารัน มึงมันก็โลภชอบหาผลประโยชน์เหมือนกันแหละว่ะ”“ให้ผมส่งคนไปตามเก็บมันดีไหมครับนายท่าน”“ดี!! แต่ถ้าจับเป็นได้ก็เอามาให้กูก่อนเดี๋ยวกูจะฆ่ามันด้วยมือของตัวเอง”“ครับ...คนของเราแจ้งว่าเตรียมรถสำหรับการเดินทางเรียบร้อยแล้วครับ”“งั้นก็ไปกันเถอะ”ท่าเรือทิศทักษิณรถยนต์สีดำไม่ต่ำกว่าสิบคันมุ่งตรงเข้ามาในทางลับ ศรันทำเรื่องการค้าอาวุธและยาแบบน
คฤหาสน์ตระกูลอัครสกูลวงศ์ (1 อาทิตย์ต่อมา)“กินข้าวหน่อยนะน้ำ อันนี้ของโปรดเราเลยนะ”นิ่มตักอาหารใส่ช้อนยื่นไปตรงหน้าหญิงสาวสติเลื่อนลอยมือของเธอกอดตุ๊กตาไว้ในอ้อมแขนแน่น สายตามองไปรอบๆ เหมือนกำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่างอยู่“อาร่อยมัยยย”“อร่อยสิ ลองกินก่อนนะเด็กดี”“เด็กดี! เด็กดี! น้ำเป็งเด็กดีจากิน”น่านน้ำอ้าปากงับเข้าที่ช้อนอย่างแรงจนเกิดเสียง นิ่มมองคนตรงหน้าตัวเองอย่างเวทนาอีกครั้ง เธอก็ไม่ได้อยากทำร้ายน่านน้ำหรอกนะแต่มันคงจะเป็นผลกรรมของแม่ที่ส่งมาถึงลูก ไม่ต่างจากตอนที่แม่ของนิ่มทำผิดต่อเพียงพรแล้วผลกรรมมาตกไปหาลูกสาว“คุณหนูคะคือมีผู้ชายมาขอเข้าพบค่ะ เขาบอกว่าชื่อวี”“วีงั้นเหรอ...เธอเชิญเขาไปนั่งรอฉันอยู่ที่ห้องรับแขก เสร็จแล้วก็มาป้อนข้าวน่านน้ำแทนฉันหน่อย”“ค่ะคุณหนู”ตั้งแต่ที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่อย่างเป็นทางการ พายุก็เป็นคนรับใช้หรือแม้กระทั่งคนสวนชุดเก่าออกทั้งหมดแล้วเปลี่ยนเป็นคนของตัวเองแทนเธอเลยไม่ต้องกังวลเรื่องใครมาลอบฆ่าอีก ส่วนพ่อกับแม่ของน่านน้ำก็ถูกขับออกจากทิศบูรพากลายเป็นเหมือนคนไร้บ้าน ไม่ต่างจากคนจรจัดตอนนี้ทั้งคู่อาจจะกำลังนั่งขอทานอยู่ที่ไหนสักที่ก็ได้
ตระกูลอนันท์พิบูรวงศ์ษา (3วันต่อมา) “อยู่ไหน นังนิ่มมันอยู่ไหน”“คุณเพียงพรอย่ามาโวยวายที่นี่ดีกว่านะครับ บอสของพวกผมคงจะไม่ชอบเท่าไหร่” “ออกไปอย่ายุ่งหมาคอยเฝ้าบ้านแบบพวกแกมีสิทธิ์อะไรมาขวางฉัน ไปลากอีนิ่มมาหาฉันเดี๋ยวนี้!!”เพียงพรไม่ใช่แค่ไม่ฟังคำเตือนของแม็ก แต่เธอยังออกอาการอาละวาดอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรนอกจากเรื่องทำให้ลูกสาวที่เสียสติของตัวเองกลับมาเป็นปกติเพราะแบบนั้นเลยกล้าบุกมาถึงที่ ที่ไม่ควรจะมาเพื่อถามอีเด็กเคยบ้าว่าทำยังไงถึงหายได้“โวยวายอะไรกัน!!”เสียงเจ้าของบ้านที่อยู่ตรงระเบียงชั้นสองยืนมองเหตุการณ์ความวุ่นวายด้านล่างด้วยสีหน้าเรียบเฉย“พายุ! หลานช่วยบอกให้นังนิ่มลงมาหาหน่อย”“นังนิ่มงั้นเหรอครับ...เพิ่งรู้นะครับว่าคุณอาไม่ให้เกียรติผู้หญิงของผมขนาดนี้ นั่นสินะ! ถ้าให้เกียรติคงไม่จ้างคนมาลอบฆ่าหรอก”พายุพูดพร้อมกับเดินลงมาจากชั้นบนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม แต่คำพูดของเขากับทำให้เพียงพรชะงักเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรู้เรื่องที่ตัวเองทำ“พะ...พูดอะไรนะ”“งั้นคุณอาไปกับผมหน่อยดีไหมครับ จะได้รู้ว่าผมกำลังพูดถึงเรื่องอะไร” เขาก้าวขาลงจากบันไดขั้นสุดท้ายแล้วมาหยุ
“คุณยังจะทำแบบนั้นไปทำไมกันคะ...อ่อ จริงสินะฉันยังอยู่ในร่างนิ่ม คุณคงไม่อยากให้ฉันพาร่างนี้ไปมีอันตะ...อืออออ” นิ่มยังไม่ได้จบประโยคมือใหญ่ของพายุก็เอื้อมไปปิดปากเธอไว้ แม้ว่าเธอจะพยายามแกะมือของเขาออกแต่ก็ไม่ขยับเลยสักนิด “หยุดพูดได้ไหมก่อนที่เฮียจะคุมอารมณ์ไม่อยู่ เอาเป็นว่าต่อไปนี้ห้ามเข้ามายุ่งอีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าเฮียใจร้าย” พายุจ้องตาคู่สวยไม่หลบสายตา ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าหัวใจของตัวเองเป็นของเธอ “แล้วจะให้ฉันทำยังไง” “กลับไปเป็นหนูนิ่มคนเดิม...คนที่ฟื้นมาในร่างของคนอื่น เฮียต้องการนิ่มคนนี้ อาจจะฟังดูเห็นแก่ตัวและน่ารังเกียจแต่เฮียไม่อยากให้นิ่มคนนั้นกลับมาอีก” “ทำไมคะ” “เพราะเฮียไม่อยากให้นิ่มคนตรงหน้าหายไป...เฮียนะหลงรักนิ่มคนนี้ไปจนหมดหัวใจแล้ว” นิ่มใจเต้นแรงเพียงแค่ได้ยินคำบอกของอีกฝ่าย เขาไม่ได้โกหกเธอใช่ไหม “คุณ...” “ชู่ว~ เรียกเฮียสิครับ ทำไมต้องหมางเมินเฮียขนาดนั้นหนูไม่รักเฮียบ้างเหรอ” “อย่ามาล้อเล่นนะคะ เฮียชอบนิ่มต่างหาก...แต่ฉันไม่ใช่นิ่มและไม่มีทางเป็นเธอได้ ถ้าเฮียจะให้ฉันเป็นตัว...” “เฮียไม่เคยเห็นนิ่มคนตรงหน้าเป็นตัวแทนใครเพราะคนที่เฮียรักคือ
PY Condominuim“ไม่มีอะไรจะพูดกับเฮียหน่อยเหรอครับ...หนูนิ่มคนใหม่”คำพูดที่แสนเย็นชาทำให้คนที่ฟังได้แต่นั่งถอนหายใจยาว หลังจากเหตุการณ์ในห้องน้ำจบลงพายุก็สั่งให้ลูกน้องมาเก็บกวาดทุกอย่างที่จะไม่สาวถึงตัวเธอ แล้วเขาก็พาเธอออกมาจากงานทันทีเพราะดูเหมือนว่าศรันจะเริ่มแผนที่วางไว้ ความวุ่นวายเลยเกิดขึ้น“คุณต้องการให้ฉันตอบเรื่องไหนคะ”นิ่มเลือกที่จะเปลี่ยนสรรพนามการเรียกระหว่างเธอกับเขาเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่ค่อยชอบให้เธอเป็นนิ่มอีก แต่สิ่งที่เธอคิดกับตรงข้ามกับพายุมาก ยิ่งเธอทำตัวห่างเหินเขายิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม“อยากบอกเรื่องไหนละครับ” แม้จะไม่ชอบใจความห่างเหินที่เธอมอบให้แต่เขาก็พยายามข่มความหงุดหงิดตัวเองเอาไว้“คุณถามว่าฉันไม่ใช่นิ่ม ใช่หรือเปล่าคะ...คำตอบคือใช่ค่ะ!”พายุชะงักเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจยาวแล้วก้าวขาจากจุดที่ตัวเองยืนไปหาเธอ“ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?”“ตั้งแต่ที่ตื่นมาในโรงพยาบาล...ฉันก็ไม่ใช่หนูนิ่มของคุณอีก” เธอเลือกที่จะหยุดพูดแล้วหันมองปฏิกิริยาเขา แต่สีหน้าท่าทางของคนตรงหน้าเธอก็ช่างดูยากเหลือเกิน “ฉันชื่อนารันเป็นคนของตระกูลเวสิกา”“ตระกูลเวสิกางั้นเหรอ”“
“ใช่ค่ะก่อนหน้านี้นิ่มสติไม่สมประกอบจริงๆ แต่ตอนนี้ก็กลับมาเป็นปกติแล้ว...คุณแอลละคะได้ยินข่าวว่าคุณมีเชื้อของโรคHIV หายเป็นปกติแล้วเหรอคะ”คำถามของนิ่มทำให้ทุกคนต่างพากันตกใจ โดยเฉพาะแอลกับศรันที่คิดว่าเรื่องนี้มีเพียงคนในครอบครัวรู้จริงๆ“แก! แกไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน”แอลที่รู้สึกอายปมด้อยของตัวเองเริ่มโวยวายไม่รักษากิริยาแบบผู้ดีเหมือนเมื่อกี้อีกแล้ว แถมยังจะปรี่เข้ามาทำร้ายนิ่มอีก แต่ดีที่พายุเอาตัวมาขวางไว้“ช่วยรักษามารยาทกับคนของผมด้วย เพราะไม่อย่างนั้นกูก็ไม่ต้องรักษาเหมือนกัน”แม้ว่าหญิงสาวตรงหน้าจะอายุมากกว่าแต่สำหรับพายุแล้วคนที่กล้าแตะต้องนิ่มก็ไม่มีอะไรต้องไว้หน้า“ใจเย็นครับคุณพายุ ภรรยาผมแค่ตกใจไม่คิดว่าคู่หมั้นของคุณจะเอาข่าวเท็จแบบนี้มาพูดแบบนี้”“คุณศรันจะบอกว่าคู่หมั้นผมโกหกอย่างนั้นเหรอครับ...รู้ไหมมันหมายถึงการใส่ร้ายว่าฉันที่เป็นหัวหน้าทิศบูรพาโกหกด้วย”สายตาของพายุแม้ว่าจะไม่ได้ดูโกรธหรือแสดงอาการอะไรออกมามาก แต่ก็ทำให้ศรันได้แต่กำมือเข้าหากันแน่นเพราะถิ่นที่ตัวเองปกครองมันแค่ส่วนเล็กๆ ถ้าเทียบกับบูรพาเพราะงั้นเขาเลยต้องยอมไอ้เด็กเมื่อวานซืนตรงหน้า[ปากดีนักกูจะ
บรรยากาศของยามดึก ท้องฟ้าตอนนี้มืดสนิทมีเพียงแสงของดวงดาวริบหรี่ ลมหนาวเย็นปะทะผิวกายแต่ก็ไม่ได้ทำให้คนยืนอยู่ระเบียงท้าลมหนาวแม้แต่น้อย“เป็นไรครับทำไมดูใจลอยจัง” เสียงทุ้มของคนที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาในห้องนอนเห็นร่างเล็กยืนเหม่อตรงระเบียงเลยเดินเข้ามากอดจากด้านหลัง ก่อนจะกระซิบถามเบาๆ ข้างหู“ทำงานเสร็จแล้วเหรอคะ” “เสร็จแล้วครับ แต่หนูยังไม่ตอบเฮียเลยทำไมถึงเหม่อแบบนั้น”“แค่คิดอะไรเพลินนะคะ”“บอกเฮียได้ไหมว่าเรื่องอะไร”พายุจับคนในอ้อมกอดพลิกมาเผชิญหน้ากับตัวเอง ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าเธอดูเครียดและคิดมากต่างจากปกติ“ไม่มีอะไรค่ะ”“ทำไมต้องปิดบังด้วยครับ...ถึงตอนนี้หนูนิ่มจะเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมากแต่ก็ไม่ใช่ว่าเฮียจะดูไม่ออกว่าหนูกำลังมีเรื่องคิดมากอยู่นะ” มือใหญ่แตะลงบนแก้มนุ่มก่อนจะใช้นิ้วโป้งเกลี่ย“แล้วเฮียชอบหนูนิ่มตอนนี้หรือว่าชอบหนูนิ่มคนเดิมคะ?”ถ้าถามว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ก็คือเรื่องนี้แหละ ยิ่งเธอรู้ตัวว่าชอบ...ไม่สิต้องบอกว่ารักเขาเข้าแล้วเธอก็ยิ่งกลัว กลัวว่าความรู้สึกที่เขามีให้ตอนนี้มันเป็นแค่ของนิ่มคนเดิม ไม่ใช่นิ่มคนนี้“ทำไมถึงถามแบบนั้นครับ ไม่ว่าจะนิ่มคนไหนเฮีย