"เฮอะๆ ฮ่าๆ ยอมมาจริงๆ ด้วยว่ะไหนล่ะเงิน?" ชาญชัยหัวเราะออกมาอย่างสะใจเมื่อได้เห็นออสตินลงมาจากรถ "ฉันต้องได้เห็นพี่น้ำผึ้งก่อน" "เฮ้ย...มึงอย่าคิดจะมาเล่นตุกติกกับกูนะ ผู้หญิงของมึงอยู่กับกู" "ก็ไม่ได้เล่นตุกติกเห็นไหมว่าไม่ได้พาใครมาด้วย เงินอยู่ในรถ..." พอสิ้นคำพูดของออสตินลูกน้องสองคนก็เดินอ้อมไปเพื่อที่จะเปิดประตูรถแต่ออสตินรู้ตัวจึงรีบกดรีโมทล็อคประตูเอาไว้ก่อน "เงินจะถึงมือก็ต่อเมื่อฉันได้เห็นพี่น้ำผึ้งแล้วเท่านั้น" "อยู่ข้างในโน่น""....." ออสตินรีบเข้าไปด้านในเพื่อตามหาแฟนสาวของเขา จนได้เจอกับห้องห้องนึงที่ถูกล็อคจากด้านนอก เขารู้ในทันทีว่าน้ำผึ้งต้องอยู่ในห้องนี้แน่ "เปิดประตู""......" เด็กวัยรุ่นสองคนมองหน้ากันแบบลังเล เพราะหากเขาได้เห็นสภาพของหญิงสาวในตอนนี้คงได้ตกใจแน่เพราะเธอทั้งตัวเขียวช้ำไปหมดแถมยังมีไข้อีกต่างหาก "ก็บอกให้มาเปิดประตูไงจะไม่เอาใช่ไหมเงินน่ะ?""อะ เอาดิ มึงไปเปิดเลย""เอากุญแจรถมาก่อนดิ" "ก็เปิดประตูให้ฉันได้เห็นพี่น้ำผึ้งก่อนสิ" "เออๆ ก็ได้วะ" ทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดออกจนได้เห็นร่างของหญิงสาวนอนอยู่บนพื้น ร่างกายสะบักสะบอมเนื้อตัวเขียวช้ำไม
ณ โรงพยาบาลเอกชน "เป็นยังไงบ้างครับหมอ" ออสตินเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เขาพาน้ำผึ้งมาที่โรงพยาบาลและเธอก็ได้รับการรักษารวมหลายชั่วโมงเลย "ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วนะครับ ร่างกายของคุณณิชาภัทรเข้าขั้นสาหัสเลย ถึงแผลภายนอกจะไม่ได้มีเลือดออกตรงไหน แต่ข้างในบอบช้ำมากนะครับ ร่างกายก็เหมือนจะขาดสารอาหารมาประมาณ 48 ชั่วโมงได้แล้ว ยังไงก็ต้องรอให้คุณณิชาภัทรฟื้นขึ้นมาก่อนนะครับ หมอได้ทำการเอกซเรย์ร่างกายอย่างละเอียดแล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ""แล้วบอกได้ไหมครับว่าอีกนานไหมกว่าเธอจะฟื้น""อันนี้หมอก็ไม่ทราบเลยนะครับ เพราะร่างกายค่อนข้างสาหัสเลยอาจจะสองวันหรือไม่ก็อาจจะสามวัน แต่คงไม่นานเกินนี้อย่างแน่นอนครับ""ครับ ขอบคุณมากนะครับ""ยังไงหมอจะมาตรวจร่างกายให้อีกทีนะครับ ตอนนี้หมอขอตัวเข้าไปพักก่อน""ครับ"ถึงจะได้ยินว่าเธออาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้วแต่เขาก็ยังไม่วางใจ เพราะตอนที่เขาเห็นสภาพของเธอที่ถูกทำร้ายจนนอนนิ่งไม่มีการตอบสนองมันทำให้เขาตกใจมาก จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่หายตกใจ ตัวของเธอมันทั้งเขียวช้ำจนแทบจะออกเป็นสีม่วง ตัวร้อนจี๋อย่างกับไฟ ตึก ตึก ตึก"พ่อ..." "เป็นยังไงบ้าง?" "หมอ
ติ๊ด~ ติ๊ด~ ติ๊ด~ เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อยๆ เปิดขึ้นพร้อมกับเสียงติ๊ดๆ ที่ดังอยู่ข้างหู ในระยะสายตาของฉันมันขาวโพลนไปหมดไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน กลิ่นยาคละคลุ้ง บรรยากาศเย็นเฉียบราวกับว่าอยู่ในตู้เย็น นี่ฉันตายไปแล้วเหรอเนี่ย ตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหนกันล่ะบนสวรรค์หรือว่าอยู่ในนรก ภาพสุดท้ายก่อนที่ฉันจะไม่รับรู้เรื่องราวอะไรอีกเลยคือตอนที่ชาญชัยเขาเอายาให้ฉันกินและพยายามเช็ดตัวให้ฉันเพื่อให้ความร้อนในร่างกายมันเบาลง "พี่...พี่น้ำผึ้ง..." "....." ฉันมองไปที่ข้างๆ ตามเสียงเรียกที่มันดังมา มันก้องเหมือนเสียงมันอยู่ในหู นี่มันเป็นความฝันของฉันงั้นเหรอ ถ้ามันเป็นแบบนั้นก็ถือว่าเป็นความฝันที่ดีเลย ก่อนหน้านั้นฉันคิดเอาไว้ว่าถ้าฉันต้องตายจริงๆ ฉันก็ขอให้ได้เห็นหน้าออสตินก่อน อย่างน้อยฉันก็อยากบอกลาเขาเป็นครั้งสุดท้าย และอยากให้เขาได้ไปเริ่มต้นใหม่ไม่อยากให้เขาต้องมาจมทุกข์อยู่กับฉัน ฉันอยากจะพูดกับเขามากแต่ไม่ว่าจะตรงส่วนไหนของร่างกายมันก็หนักอึ้งไปหมดเลย ทำได้เพียงร้องไห้ออกมาต่อหน้าเขาก็เท่านั้น ออสตินยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้ฉัน นี่ขนาดในฝันเขายังแสนดีขนาดนี้เลยเหรอ ทำไมชีวิตฉันมันต้องม
เวลาต่อมา ร่างกายของฉันมันดีขึ้นมากจากที่ขยับไม่ได้มันก็เริ่มพาตัวเองเปลี่ยนอิริยาบถได้ และเริ่มพูดได้เป็นคำแล้วถึงแม้จะยังไม่คล่องเหมือนกับปกติ ทำไงได้ล่ะฉันเป็นหนักขนาดนั้นเลยนี่นา การรักษามันก็เลยต้องเป็นไปอย่างช้าๆ "ค่อยๆ เดินนะพี่" "ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว" "หมอบอกว่าให้พี่ออกกำลังบ่อยๆ เส้นกล้ามเนื้อที่มันยึดเพราะนอนนานจะได้ดีขึ้น""....." เวลาเดินฉันก็ไม่ได้เจ็บตัวตรงไหนหรอก เพราะขาของฉันมันไม่ได้เจ็บจะมีก็แต่ตอนขยับตัวเวลานั่งเวลานอนเพราะเนื้อมันช้ำมากๆ "พี่หายเร็วแบบนี้อีกไม่กี่วันก็ได้กลับบ้านแล้วล่ะ" "ฉันถามอะไรหน่อยสิ" "ครับ""คนพวกนั้นเขาถูกจัดการกันยังไงหรอ" ที่ฉันถามไม่ใช่เพราะว่าฉันเป็นห่วงแต่ฉันแค่อยากรู้ว่าพวกนั้นถูกจัดการยังไง "......" ออสตินถอนหายใจออกมาอย่างแรงจนฉันหวั่นใจกลัวว่าเขาจะโกรธที่ฉันถามแบบนี้ "ไม่เป็นไรนะ ถ้านายไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร" "ไม่ใช่เพราะผมไม่อยากตอบหรอกครับ แต่ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นบอกกับพี่ยังไงดี เรื่องนี้มันมีความสูญเสียด้วย" "....." "ตอนที่ผมพาพี่ออกมาชาญชัยกับผู้หญิงอีกคนทะเลาะกัน ผมไม่รู้ว่าทะเลาะกันหนักหรือเปล่าหลังจากที่ผมพาพี่มา
คอนโดออสติน หลังจากที่ได้ออกจากโรงพยาบาลฉันก็ได้กลับมาอยู่ที่คอนโดของออสตินเหมือนเดิม จะว่าไปอยู่โรงพยาบาลนานๆ ก็น่าเบื่อเหมือนกันนะ รอบตัวมีแต่กลิ่นยาคลุ้งทั่วไปหมด ไหนจะแอร์เย็นๆ ที่เปิดอยู่ตลอดอีก แถมยังออกไปไหนไม่ได้เลยด้วย แบบนั้นมันเลยดูน่าเบื่อสำหรับฉันเหมือนกันถึงจะมีออสตินคอยอยู่เป็นเพื่อนให้หายเบื่อแล้วก็เถอะนะ “พี่หิวไหมครับ”“ยังหรอก ยังไม่หิวหรอก” ฉันตอบ ก่อนออกจากโรงพยาบาลออสตินก็หาข้าวแล้วก็ปอกผลไม้ให้ฉันกินแล้ว ถึงจะบอกว่าอิ่มแล้วเขาก็ยังจะคะยั้นคะยอให้ฉันกินอยู่นั่นแหละ และให้เหตุผลว่ากลัวฉันจะผอมเลยกะจะให้ฉันกินจนอ้วนเลยสินะ “เดี๋ยวผมเอาผ้าไปเก็บให้ก่อนนะ พี่นั่งดูทีวีไปก่อนนะครับ” “อื้อๆ” ฉันพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะหยิบขนมขึ้นมานั่งกินระหว่างดูทีวี ถึงร่างกายจะกลับมาหายดีแล้วแต่ออสตินก็ยังคอยให้ฉันระวังอยู่ตลอด รอยฟกช้ำตามตัวตามหน้าก็แทบจะกลับมาเป็นปกติดีแล้ว ส่วนสภาพจิตใจฉันมันก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น เรื่องที่ถูกทำร้ายร่างกายตอนนี้คนที่ทำมันก็ได้รับผลการกระทำไปแล้ว จะมีก็แต่เรื่องที่ฉันต้องเสียลูกไปเพราะฉันโทษตัวเองมาโดยตลอดที่ไม่แข็งแรงจนทำให้ต้องสูญเสียลูกไป พอได้มาร
มือของฉันจับท่อนเอ็นใหญ่ยาวชักรูดขึ้นลงอย่างช้าๆ จนมันเริ่มแข็งขึ้นมาอีกจนมือของฉันกำไม่รอบ และในขณะเดียวกันก็มีเสียงครางแผ่วเล็ดลอดออกมาจากคนตรงหน้า "อึกอืม...." "นายขยับไปนั่งบนขอบอ่างได้ไหมฉันทำไม่ถนัดเลย" "....." ออสตินใช้แขนทั้งสองข้างดันตัวเองขึ้นไปนั่งบนขอบอ่างตามที่ฉันบอก ซึ่งมันก็พอดีกับหน้าของฉัน "แข็งเร็วจัง..." พูดจบฉันก็ขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะเอาแก้มนิ่มของตัวเองสัมผัสเข้ากับท่อนเอ็นอุ่นตรงหน้า "อืมอ่า...พี่ครับ""แข็งขนาดนี้นายคงทรมานมากสินะ" "อึกอืม...อย่าแกล้งกันสิครับพี่""....." สีหน้าของออสตินตอนนี้ดูทรมานมากเลย คงเป็นเพราะเขาไม่ได้ปลดปล่อยไปสินะ ฉันเปิดปากแล้วขยับท่อนเอ็นเข้าไปอย่างช้าๆ เพราะมันทั้งใหญ่และยาวฉันเลยทำได้แค่เอาเข้าปากแล้วใช้มือขยับไปด้วย "อืม...""อึก พี่ครับ แฮ่ก...พี่ครับอ่า..."ท่านเอ็นใหญ่โยกขยับอยู่ในปากอุ่นๆ ลิ้นร้อนก็ช่วยตวัดเลียไปด้วย ทำเอาทั้งร่างกายและท่อนเอ็นของชายหนุ่มมันกระตุกเกร็งรับกันถี่ๆ "อึกอ่า...""อืม..." ตอนนี้ฉันก็เริ่มจะมีอารมณ์ด้วยแล้วสิ แต่ออสตินคงยังไม่ยอมทำตอนนี้ง่ายๆ แน่ สิ่งเดียวที่ฉันทำตอนนี้ได้คือช่วยตัวเองไ
สามวันถัดมา "พี่ครับพี่ นี่ไงครับบ้านที่ผมจะให้พี่ดู" ออสตินเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับไอแพดของเขา ก่อนที่ออสตินจะเปิดรูปให้กับฉันดูหลายๆ รูปที่เป็นตัวอย่างบ้านที่เขาบอกว่าจะเอามาให้ฉันเลือก "นี่น่ะเหรอ หลังใหญ่จัง" "ก็แหงสิครับ ในอนาคตเราจะต้องมีลูกด้วยกันอีก บ้านของเราก็ต้องมีเนื้อที่กว้างหน่อยเพื่อให้ลูกๆ ได้วิ่งเล่นกันไงครับ" "......" ฉันรับไอแพดในมือของออสตินมาเลื่อนดูเอง บ้านว่าหลังใหญ่แล้ว เนื้อที่รอบๆ บ้านกว้างกว่าอีก เป็นคนรวยมันดีอย่างนี้นี่เองสินะ "อันนี้เป็นโครงสร้างของบ้านผมยังให้พี่เลือกว่าพี่อยากได้แบบไหน เป็นตัวอย่างบ้านที่มองจากมุมสูงน่ะพี่เลือกได้หมดเลยนะ" "ทำไมนายต้องตามใจฉันหมดทุกอย่างด้วยล่ะ อันที่จริงนายก็ช่วยฉันเลือกได้นี่" "ผมอยากให้พี่ได้เลือกบ้านในแบบที่พี่ชอบ" "ฉันก็อยากให้นายเลือกนายแบบที่นายชอบเหมือนกันนะ""ผมชอบทุกอย่างอยู่แล้ว ไม่ว่าอะไรที่พี่เป็นคนเลือกผมก็ชอบหมดเลย""....." ถึงออสตินจะตามใจก็เหอะนะแต่ฉันคิดว่าฉันกำลังได้เปรียบเขาอยู่เพราะการที่เขาตามใจฉันทุกอย่างนี่แหละ "ถ้าพี่อยากให้เพิ่มเติมตรงไหนก็บอกมาได้เลยนะครับ" "ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้ก็แล
หลายเดือนผ่านไป ออสตินพาว่าที่เจ้าสาวมาเที่ยวพักผ่อนที่บ้านพักต่างอากาศ เป็นบ้านที่ติดอยู่กับทะเลอากาศดีน่าอยู่มากๆ เลยล่ะ ครั้งแรกที่เธอได้มาเที่ยวอะไรแบบนี้ และไม่รู้มาก่อนเลยว่าออสตินมีบ้านพักแบบนี้ด้วย หรือเป็นเพราะเธอไมไ่ด้ถามกันนะเขาถึงไม่ได้บอกว่ามีบ้านพักต่างอากาศที่บรรยากาศดีแบบนี้ หมับ! “อ๊ะ ตกใจหมดเลยออสติน”“กำลังคิดอะไรอยู่ครับ คิดถึงผู้ชายคนไหนอยู่หรือเปล่าครับเนี่ย”“ก็กำลังคิดถึงผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนี้นี่ไง” “อืม…น่ารักจังเลยนะครับ”“ทำไมนายไม่เห็นบอกฉันเลยว่านายมีบ้านพักอยู่ที่นี่ด้วย” “ก็ไม่เห็นพี่ถามเลยนี่ครับ” “…..”“อันที่จริงบ้านพักหลังนี้เป็นของพ่อน่ะครับ พ่อซื้อไว้จะได้พาแม่มาเที่ยวกับแม่แบบสองต่อสอง แต่พ่อยกให้เราสองคนแล้วครับ” “อ๋อ….” “พี่อยากไปเดินเล่นไหม ผมจะพาพี่ไปเดินเล่นเอง”“ไปสิ” ชายหนุ่มจูงมือว่าที่เจ้าสาวออกไปเดินเล่นที่ริมชายหาดเพื่อไม่ให้เธอต้องรับรู้ว่าภายในบ้านกำลังจะจัดเตรียมทำอะไรกัน และระหว่างที่น้ำผึ้งออกมาคนที่ออสตินให้มาจัดเตรียมก็จะได้มีเวลาในการเตรียมสถานที่ต่างๆ ด้วย “บรรยายกาศดีมากเลยนะออสติน ฉันละอยากมาอยู่ที่นี่นานๆ เลย”“
สามปีต่อมาในระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาฉันกับออสตินคอยช่วยกันเลี้ยงดูลูกเป็นอย่างดี มันก็มีบ้างที่คนเราจะต้องเหนื่อย และมันก็มีบ้างที่เราจะมีปากเสียงกันแต่สุดท้ายแล้วเราก็เลือกที่จะปรับความเข้าใจกันเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะอยู่ด้วยกันแล้วจะมีความคิดเห็นบางอย่างไม่ตรงกันและมีปากเสียงกันบ้าง แต่พอเราลองถอยกันคนละก้าวและพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมามันก็ทำให้เราสองคนเข้าใจกันปรับความเข้าใจกันมันเลยไม่มีการทะเลาะกันใหญ่โต ตอนนี้ฉันกำลังท้องลูกคนที่สองได้ห้าเดือนแล้วเป็นผู้หญิง ตอนแรกออสตินก็ไม่กล้าที่จะให้ฉันท้องอีกเพราะกลัวว่าฉันจะต้องเจ็บ รายนั้นกลัวฉันเจ็บมากๆ ถึงขั้นมีความคิดที่จะไปทำหมันตัวเองเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีลูกอีกฉันจะได้ไม่ต้องเจ็บอีกทั้งที่ตัวเองคิดเอาไว้ก่อนหน้านั้นแล้วว่าจะมีลูกอีกหลายๆ คนลูกจะได้ไม่เหงา สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องปลอบใจและอธิบายให้เขาเข้าใจจนเขาล้มเลิกความคิดที่จะไปทำหมัน และตอนนี้ออสก้ากำลังเข้าเรียนในชั้นเตรียมอนุบาล ออสตินจะขับรถไปส่งทุกๆวันพอเลิกงานก็จะแวะรับลูกชายกลับมาด้วยเพราะงั้นฉันเลยไม่ได้ต้องวุ่นวายตรงนี้ ตอนเช้าตื่นมาออสตินก็จะเป็นคนจัดแจงอาบน้ำแต่งตัว
เวลาต่อมา ตอนนี้ฉันคลอดลูกแล้วและก็กลับมาอยูที่บ้านแล้วด้วย ลูกตัวใหญ่แต่ก็คลอดออกมาเองได้เพราะร่างกายของฉันแข็งแรงพอที่จะคลอดเองได้ ก่อนหน้านั้นออสตินเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยเลย เพราะก่อนจะคลอดฉันมีอาการปวดที่เรียกว่าปวดสุดๆ ปวดจนหน้าซีดไปหมด ปวดจนตัวบิดงอ มันเหมือนร่างกายมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ที่เขาว่ากันว่าการคลอดลูกของผู้หญิงมันเจ็บปวดที่สุดแล้วเพิ่งจะเข้าใจก็วันนี้นี่แหละ “เฮ้อ…”“เจ็บแผลหรือเปล่าครับพี่”“ไม่หรอก ไม่เจ็บแล้ว” ฉันตอบ พอคลอดเสร็จแล้วพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลสองวันก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วล่ะ เพราะร่างกายมันฟื้นตัวได้เร็วกกว่า ลูกของฉันเองก็แข็งแรงสมบูรณ์ดีเลยกลับบ้านได้พร้อมกับฉันเลย ตอนนี้ก็ได้แม่บ้านกับออสตินคอยดูแลอยู่ฉันเลยได้มีเวลาพักฟื้นตัวเอง เขาไม่ยอมให้ฉันได้หยิบจับอะไรเลยนอกจากนอนดูพวกเขาช่วยกันเลี้ยงลูกนิ่งๆ “คุณหนูน้อยเลี้ยงง่ายจังเลยค่ะ ไม่ร้องงอแงเลย” “ดีแล้วค่ะที่เลี้ยงง่าย ถ้าแกเลี้ยงยากทุกคนคงต้องเหนื่อยเพิ่มกันแน่ๆ เลยค่ะ” “พี่ครับ..ผมพาขึ้นไปพักไหมครับ”“ไม่เป็นอะไรหรอก ให้ฉันได้นั่งรับลมอยู่ข้างล่างนี่แหละ ตอนเย็นๆ ว่าจะไปเดินเล่นสักหน่อย เหมือนจ
ออสติน Talk "จะเข้ามากอดอะไรขนาดนั้น""....." พอพี่น้ำผึ้งพูดผมก็รีบเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ตอนนี้ผมกำลังเอาหูแนบฟังลูกที่กำลังดิ้นอยู่ในท้อง ถึงแม้ตอนที่ผมเข้ามาสัมผัสแกจะไม่ดิ้นเลยก็เถอะ แต่ผมก็จะรออยู่แบบนี้จนกว่าจะได้เห็นว่าลูกดิ้นเป็นแบบไหน พี่น้ำผึ้งบอกเสมอว่าลูกชอบดิ้นตอนกลางคืนจนทำให้พี่แกนอนไม่ค่อยหลับบวกกับท้องที่ใหญ่ขึ้นด้วย ผมมักจะรอดูว่าลูกจะดิ้นตอนไหนแต่ทุกครั้งก็ต้องเผลอหลับไปเพราะเหนื่อยจากการทำงานมาแล้ว "พี่หนักท้องไหม?""ก็มีบ้าง ท้องฉันมันโตขึ้นตั้งเยอะ จะบอกไม่หนักเลยก็แปลกสิ" "อืม..." ท้องใหญ่ๆ ของพี่น้ำผึ้งเริ่มมีรอยแตกลาย คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนท้องบางคนที่พอหน้าท้องขยายแล้วก็จะมีรอยแตกแบบนี้ ผมไม่ได้มองว่ามันน่าเกลียดเลย กลับกันผมรู้สึกสงสารพี่น้ำผึ้งด้วยซ้ำที่ต้องยอมเสียสละร่างกายยอมตัวแตกลายเพื่ออุ้มท้อง ที่เขาว่ากันว่าผู้หญิงมักจะเสียเปรียบผู้ชายมันคงจะจริงสินะเพราะผู้ชายไม่สามารถท้องได้ ไม่สามารถเป็นประจำเดือนได้ "ทำไมนายชอบจูบท้องฉันนักล่ะ""จูบเพราะแสดงความรักกับลูกแล้วก็จูบเพราะผมอยากจูบ" ".....""พี่ครับ...ถ้าคลอดลูกคนนี้แล้ว พี่ไม่อยากม
ออสติน Talk "จะเข้ามากอดอะไรขนาดนั้น""....." พอพี่น้ำผึ้งพูดผมก็รีบเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ตอนนี้ผมกำลังเอาหูแนบฟังลูกที่กำลังดิ้นอยู่ในท้อง ถึงแม้ตอนที่ผมเข้ามาสัมผัสแกจะไม่ดิ้นเลยก็เถอะ แต่ผมก็จะรออยู่แบบนี้จนกว่าจะได้เห็นว่าลูกดิ้นเป็นแบบไหน พี่น้ำผึ้งบอกเสมอว่าลูกชอบดิ้นตอนกลางคืนจนทำให้พี่แกนอนไม่ค่อยหลับบวกกับท้องที่ใหญ่ขึ้นด้วย ผมมักจะรอดูว่าลูกจะดิ้นตอนไหนแต่ทุกครั้งก็ต้องเผลอหลับไปเพราะเหนื่อยจากการทำงานมาแล้ว "พี่หนักท้องไหม?""ก็มีบ้าง ท้องฉันมันโตขึ้นตั้งเยอะ จะบอกไม่หนักเลยก็แปลกสิ" "อืม..." ท้องใหญ่ๆ ของพี่น้ำผึ้งเริ่มมีรอยแตกลาย คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนท้องบางคนที่พอหน้าท้องขยายแล้วก็จะมีรอยแตกแบบนี้ ผมไม่ได้มองว่ามันน่าเกลียดเลย กลับกันผมรู้สึกสงสารพี่น้ำผึ้งด้วยซ้ำที่ต้องยอมเสียสละร่างกายยอมตัวแตกลายเพื่ออุ้มท้อง ที่เขาว่ากันว่าผู้หญิงมักจะเสียเปรียบผู้ชายมันคงจะจริงสินะเพราะผู้ชายไม่สามารถท้องได้ ไม่สามารถเป็นประจำเดือนได้ "ทำไมนายชอบจูบท้องฉันนักล่ะ""จูบเพราะแสดงความรักกับลูกแล้วก็จูบเพราะผมอยากจูบ" ".....""พี่ครับ...ถ้าคลอดลูกคนนี้แล้ว พี่ไม่อยากม
เวลาต่อมา ออสตินคอยดูแลฉันเป็นอย่างดีไม่ว่าจะลุกจะเดินหรือจะทำอะไรเขาจะเป็นคนจัดการให้ทุกครั้ง ออสตินดูแลฉันอยู่เป็นอาทิตย์หลังจากนั้นเขาก็กลับไปทำงานต่อเพราะเขามั่นใจแล้วว่าอาการแพ้ท้องของฉันมันไม่ได้หนักหนาอะไรและที่บ้านก็ยังมีแม่บ้านคอยอยู่เป็นเพื่อนฉันด้วย แต่ออสตินก็ยังจะกลับบ้านเร็วกว่าปกติ บางครั้งก็จะกลับมาในช่วงเที่ยงๆ ไม่ได้กลับไปทำงานต่อ ออสตินทั้งทำงานไปด้วยดูแลฉันไปด้วย จนบางครั้งฉันก็แอบห่วงสุขภาพของเขาเหมือนกัน อาการแพ้ท้องของฉันมันไม่ได้หนักหนาอะไร ฉันไม่ได้อาเจียนจนกินอะไรไม่ได้ จะมีก็แค่รู้สึกเวียนหัวบ้างเป็นบางครั้ง ออสตินสั่งห้ามฉันทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะงานเล็กงานน้อย และเขาก็สั่งกำชับกับแม่บ้านเอาไว้อย่างดีเลยด้วย ฉันแอบไม่ได้หรอกเพราะเรื่องนี้แม่บ้านก็เห็นด้วยกับออสตินไม่มีใครเห็นด้วยกับฉันเลย "ผมกลับมาแล้วครับ" "วันนี้กลับเร็วอีกแล้วนะ" "ก็กลับมาดูแลพี่ไงครับ" "นายเองก็พักบ้างสิดูแลแต่ฉัน แต่ตัวนายไม่ได้พักเลยแบบนี้ฉันก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะ" "พี่ไม่ต้องรู้สึกผิดเลยครับ ภรรยาของผมกำลังท้องลูกของผมอยู่สามีอย่างผมก็ต้องดูแลภรรยาอย่างเต็มที่สิครับ""แต่นายก็
ออสติน Talk ตอนเย็นหลังเลิกงาน ผมขับรถกลับมาที่บ้านตามปกติเหมือนอย่างเคย บางวันผมก็ขับรถเอง วันไหนเหนื่อยขี้เกียจขับรถก็จะมีคนขับรถค่อยขับรถไปส่งที่บริษัท แต่วันนี้ผมขับรถกลับมาเอง "พี่ค้าบ..." พอกลับมาถึงสิ่งที่ผมทำอย่างแรกเลยคือการได้อ้อนพี่น้ำผึ้ง ผมชอบเข้าไปกอดเธอหอมแก้มเธอ การได้ทำแบบนี้มันทำให้ผมหายเหนื่อยจากที่ทำงานมาเป็นปลิดทิ้งเลย "วันนี้เหนื่อยไหม""เหนื่อยครับ แต่พอเห็นหน้าพี่แล้วก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ""อ้อนเก่งนักนะนายเนี่ย" "ผมขอชาร์จแบตหน่อย" "หิวหรือยัง กินข้าวก่อนแล้วค่อยขึ้นไปอาบน้ำก็ได้จะได้พักทีเดียวเลย""ครับ" ทุกๆ อย่างมันไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย ผมกลับมาจากที่ทำงานกินข้าวพร้อมกับพี่น้ำผึ้งแล้วก็ขึ้นไปนอนด้วยกัน เราสองคนไม่ได้เที่ยวที่ไหน กลับกันเราใช้ชีวิตดั่งเช่นสามีภรรยาทั่วไปมากกว่า พี่น้ำผึ้งเธอจะคอยทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน ทำอาหารไว้รอผมในทุกๆ วัน มันอาจจะไม่ได้พิเศษอะไรในสายตาของคนอื่นแต่ในสายตาของผมการได้เห็นหน้าพี่น้ำผึ้งในทุกๆ วันได้พูดคุยกับเธอได้บอกรักเธอมันเป็นวันที่แสนพิเศษสำหรับผมมากที่สุดเลย เพราะงั้นผมถึงได้คิดว่าทุกๆ วันที่ผมตื่นมาแล้ว
ตอนเช้าวันถัดมา “ผมไปก่อนนะครับพี่ เลิกงานแล้วจะรีบกลับมานะครับ”“อื้ม อย่าหักโหมล่ะ พักเที่ยงก็กินข้าวด้วยห้ามอดนะ เข้าใจไหม”“เข้าใจแล้วค้าบ” “ไปเถอะ” ฉันยืนมองออสตินเดินออกไปขึ้นรถ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปด้านใน รีบขึ้นไปด้านบนทันทีเพราะฉันมีสิ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือตรวจครรภ์ว่าตัวเองกำลังท้องจริงๆ หรือเปล่า ฉันรีบหยิบซองยาที่แอบให้แม่บ้านไปซื้อมาให้เมื่อเช้าเข้าห้องน้ำไป ก่อนจะรีบจัดการตรวจตามที่ตัวเองพอจะรู้ และก็นั่งรอผลตรวจอยู่ห้านาที ในที่สุด…ผลตรวจก็ออกมา ปรากฏว่าฉันกำลังท้องจริงๆ แม้ที่ตรวจครรภ์จะขึ้นสองขีดจางๆ แต่ฉันก็มั่นใจ เพราะอาการที่ฉันกำลังเป็นอยู่มันก็คล้ายกับคนท้องมากจริงๆ ฉันคงต้องรีบไปฝากท้องสินะ เพื่อที่จะได้เอาสมุดตรวจครรภ์มายืนยันความจริงว่าฉันกำลังท้องจริงๆ ไม่ใช่แค่ลมปาก “คุณน้ำผึ้งจะออกไปไหนคะ?”“จะไปโรงพยาบาลน่ะ บ่ายๆ ถึงจะกลับมานะ ห้ามใครบอกออสตินล่ะว่าฉันไปไหน”“ผลตรวจเป็นยังไงคะ ใช่อย่างที่คิดหรือเปล่า”“…..” แม่บ้านทุกคนต่างยืนมองฉันด้วยสีหน้าที่รอลุ้นคำตอบจากฉัน พวกเขาดูตื่นเต้นกันมากเลยนะเนี่ย “ค่ะ มันขึ้นสองขีด แต่ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกทีน่ะค่ะเพ
ผ่านมาได้เดือนกว่าๆ “อืม…” ฉันนั่งกุมขมับตัวเองเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ มันรู้สึกมึนๆ จะเวียนหัวก็ไม่เชิง อาการพวกนี้ฉันเป็นมาได้สองสามวันแล้ว แต่ก็คิดว่าเพราะนอนไม่ค่อยหลับด้วยหรือเปล่าเลยเป็นแบบนี้ แต่มันก็เป็นค่อนข้างหนักเพราะมันทำให้ฉันทำงานบ้านอะไรไม่ได้เลยจึงต้องทิ้งงานบ้านทุกอย่างให้แม่บ้านทำทั้งหมด "คุณน้ำผึ้งคะ รับน้ำหวานเย็นๆ สักแก้วไหมคะเผื่อจะดีขึ้น" "อ่า ก็ดีเหมือนกันค่ะ" "ถ้างั้นรอสักครู่นะคะ" ฉันนั่งรออยู่ได้ไม่นานแม่บ้านก็เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำหวาน "ถ้าอาการไม่ดีขึ้นคุณน้ำผึ้งไปหาหมอดีกว่าไหมคะ เดี๋ยวดิฉันโทรหาคุณออสตินให้" "ไม่ต้องๆ ห้ามบอกเรื่องนี้กับออสตินเด็ดขาด" "....." "ฉันไม่อยากให้เขาต้องเป็นห่วง แค่งานที่บริษัทของเขาที่ต้องทำมันก็เยอะมากแล้ว ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะคงเพราะนอนดึกตื่นเช้าด้วยก็เลยเพลียๆ""งั้นก็ขึ้นไปนอนพักเถอะค่ะไม่ต้องห่วงงานบ้านหรอก เดี๋ยวดิฉันกับพวกแม่บ้านจะช่วยกันทำให้เสร็จเองค่ะ""ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง" ฉันกลับขึ้นไปนอนบนห้องตามที่แม่บ้านบอกจริงๆ แต่สุดท้ายก็ยังนอนไม่หลับเหมือนเดิม ฉันพยายามข่มตาให้นอนหลับแล้ว แต่ดูเ
พั่ก! พั่ก! พั่ก!แก่นกายใหญ่กระแทกเข้าออกช่องทางรักอย่างหนักหน่วง ร่างกายของหญิงสาวสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทก พร้อมกับเปล่งเสียงร้องครางออกมาไม่ยอมหยุด สายตาของเธอพร่ามัวแทบมองสิ่งตรงหน้าไม่ชัดแล้ว ยิ่งถูกกระแทกแรงขึ้นก็ยิ่งทำให้เธอร้องครางออกมาเสียงดังมากขึ้น ทว่าเธอต้องรีบเอามือปิดปากตัวเองเพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่ในห้อง แต่อยู่นอกระเบียงด้านนอกซึ่งเสียงครางที่ดังออกมามันอาจจะทำให้คนได้ยินได้ “อึก..อ๊ะอ๊ะ อึ๊อื้ม…” มือเรียวปิดปากของตัวเองไว้แน่น เพราะหากมือหลุดไปเสียงอาจจะเล็ดลอดออกมาได้ “อืม…มันดีมากเลยนะครับพี่ อึก..ผมจะคลั่งให้ได้อยู่แล้วครับ” ออสตินพูดกระซิบเสียงแผ่วข้างหู ลมหายใจอุ่นๆ ที่ถูกพ่นออกมาพร้อมกับคำพูดเสียงกระเส่ามันทำเอาเธอขนลุกซู่จนเบิกตาโพลง “ละ ลึกไป ออสติน…เฮือก!!” หญิงสาวตาเบิกโพลงเมื่อช่องทางรักมันคับแน่นจนรู้สึกได้ตรงท้องน้อย เขากดท่อนเอ็นเข้ามาลึกมากและปลดปล่อยน้ำกามเข้ามาในท้องของเธอจนรู้สึกอุ่นวาบในทันที ร่างหนาทิ้งตัวลงนอนทับร่างของภรรยาสาวพร้อมกับลมหายใจที่หอบถี่ ในขณะที่เธอเองก็เหนื่อยและหมดแรงไม่ต่างกัน แต่เธอก็รู้ดีว่าเขาคงไม่ยอมหยุดเพียงเท่านี้อย่างแน่