ตอนที่ 24/1เวลาผ่านไปอีกหลายชั่วโมง ธาฎากลับมาถึงกรุงเทพฯ ด้วยความร้อนใจ เขามุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลทันที โดยไม่ได้แวะพักที่ใด เสียงรองเท้าหนังดังสะท้อนในทางเดินที่เงียบสงัด ทุกก้าวยิ่งทวีความร้อนรนในใจของเขามากขึ้นเมื่อมาถึงหน้าห้องพักผู้ป่วย เขาพบสุชาฎาและคุณเยาว์นั่งอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและความโศกเศร้า เด็กน้อยในอ้อมแขนของคุณเยาว์ดูสงบลง แต่ในดวงตาของธาฎามองเห็นได้ชัดว่าเบื้องหลังความเงียบสงบนั้นคือความจริงที่เขาไม่อยากรับรู้“เกิดอะไรขึ้น?” ธาฎาถามเสียงดัง ขณะที่ก้าวไปหยุดตรงหน้าเธอสุชาฎาเงยหน้าขึ้นมองเขา น้ำตาเอ่อล้นโดยไม่ทันตั้งตัว เธอกำมือแน่นพยายามกลั้นสะอื้น “คุณทิม...คุณหนิง...เธอ...”“อะไรล่ะ!? พูด!!!” ธาฎาถามเสียงแข็ง ใจเขาเริ่มเต้นแรงจนเหมือนจะระเบิด มือหนาพลางเขย่าตัวสุชาฎาด้วยความร้อนใจ ทว่าสุชาฎาก็ยังไม่เอื้อนเอ่ยประโยคใดออกมา มีเพียงเสียสะอื้นในลำคอเท่านั้นที่ทุกคนได้ยิน จนกระทั่งคุณเยาว์เดินเข้ามาใกล้ “อึก! คุณหนิงเธอไปสบายแล้วนะคะ...” เสียงของคุณเยาว์เอ่ยแผ่วเบา แต่ทุกคำกระแทกเข้าไปในหัวใจของธาฎาอย่างจังเขานิ่งค้างไปชั่วขณะ เหมือน
ตอนที่ 24/2ธาฎายืนนิ่งอยู่ตรงหน้าประตูห้องพักผู้ป่วย ความรู้สึกหลากหลายประดังเข้ามาในใจจนทำให้หัวใจของเขาเหมือนจะหยุดเต้น แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเรืองฤทธิ์ น้ำเสียงสั่นเครือที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เขารู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังจะพังทลายลง‘นายครับ! ...แย่แล้วครับ ตอนนี้มีคนขอรับร่างคุณหนิงออกไปจากโรงพยาบาลได้สักระยะแล้วครับ’ธาฎาหันขวับไปมองหน้าเรืองฤทธิ์ ใจของเขาตกลงไปถึงพื้น ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เมื่อคำเหล่านั้นดังก้องในหัวของเขา เสียงนั้นเหมือนสะท้อนกลับมาในหูของเขาไม่หยุด ความรู้สึกช็อกสุดขีดทำให้เขาทั้งหมดสติไปชั่วขณะธาฎาตะโกนถามเสียงดัง ร่างสูงที่เต็มไปด้วยความโกรธลุกลานหันไปหาตัวเพื่อนสนิทแต่จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างหมุนไปมา ทุกอย่างรอบตัวเขาเริ่มพร่ามัวเขาก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว แต่ทันใดนั้นเท้าของเขาก็ล้มลงร่างสูงของธาฎาล้มลงไปกับพื้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ทุกอย่างรอบตัวเขาเงียบไปหมด ทุกอย่างดูเหมือนจะหยุดหมุนและก่อนที่เขาจะได้หายใจ เขาก็หมดสติไปในทันที“คุณทิม!” เสียงร้องเรียกดังขึ้นจากหลายทิศทาง สุชาฎาและคุณเยาว์รีบวิ่งเข้ามาหาเขาทันทีเรืองฤทธิ์ท
ตอนที่ 24/3ธาฎาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เขาเปิดประตูห้องของหมอนพดลด้วยแรงที่เกือบจะพังประตูไปเสียเอง เมื่อเห็นหมอนพดลนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เขาก็รีบเดินเข้าไปหาด้วยท่าทางกระวนกระวาย เขาไม่มีเวลามาเกรงใจใครในตอนนี้“อาจารย์!” ธาฎาตะโกนเสียงดัง น้ำเสียงร้าวรานเต็มไปด้วยความโกรธ ผลั๊วะ!!!“นี่คือสิ่งที่คุณทำเหรอ? กับสิ่งที่ผมฝากฝัง และสนับสนุนคุณอย่างถึงที่สุด คุณทำให้ชีวิตของนันนลินทร์มันกลายเป็นแบบนี้เหรอ?!”ร่างสูงกำหมัดแน่น ขณะที่ออกแรงใส่ใบหน้าของชายวัยกลางคนด้วยแรงที่ไม่ยั้งมือ จนกระทั่งรอยเข็มที่ถูกปลดออกมาจากสายน้ำเกลือด้วยตนเองนั้นเริ่มมีเลือดซึมออกมา บวกกับเลือดที่มาจากมุมปากของผู้ถูกกระทำอย่างหมอนพดล หมอนพดลยกมือขึ้น ปาดเลือดซิบที่มุมปาก เขาเองก็อยากจะพูดอะไรสักคำ แต่เสียงของธาฎาก็แผดดังขึ้นไปอีก“คุณบอกว่าจะรักษานันนลินทร์ให้ดีที่สุด และผมก็เชื่อคุณ! ผมให้ทุกอย่างขอแค่รักษาเธอ! ทุกเคสที่ผ่านมาคุณทำได้ดีมาโดยตลอด แล้วทำไมกับแค่เคสนี้!?”“ ก่อนหน้านี้ผมบอกคุณเสมอ ว่าโอกาส มันมีน้อย คุณก็รับทราบดีอยู่แล้ว อีกอย่างผมก็ทำเต็มที่ของผมแล้วนะครับ ได้โปรดเขาใจผมด้วย ผมทำงาน อยู่ในโรง
ตอนที่ 25/1เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ ธาฎายังจมอยู่กับความเสียใจและความโกรธแค้น หัวใจของเขาเต็มไปด้วยคำถามที่ไม่มีคำตอบ การสูญเสียนันนลินทร์ยังคงเป็นเหมือนเงามืดที่ตามหลอกหลอนเขาอยู่อีกนาน “นี่เรือง” ธาฎาเอ่ยเรียกเรืองฤทธิ์ด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ที่ฉันให้นายไปตามสืบที่อยู่บ้านเกิดของแม่นันนลินทร์ เป็นยังไงบ้าง? ฉันรอนานกว่านี้ไม่ไหวแล้วนะ”เรืองฤทธิ์หยิบเอกสารในมือขึ้นมา เปิดดูอย่างรอบคอบ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง“ผมไปถึงบ้านเกิดของคุณนิรณีแล้วครับ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ห่างไกลพอสมควร พอสอบถามชาวบ้านแถวนั้นก็ได้ความว่า...คุณนิรณีนำร่างของคุณนันนลินทร์ไปประกอบพิธีทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อสองสัปดาห์ก่อน”“แล้วตอนนี้ล่ะ นิรณีอยู่ที่ไหน!?” ธาฎาถามต่อ ดวงตาแดงก่ำของเขาสะท้อนถึงความเศร้าและโกรธที่ผสมปนเป“หลังจากจัดงานศพ เธอก็เดินทางกลับไปยังต่างประเทศทันที คาดว่าน่าจะกลับไปอยู่ที่ไหนสักแห่งในดูไบครับ” เรืองฤทธิ์ตอบธาฎากำหมัดแน่น เขาหันหลังให้เรืองฤทธิ์ ราวกับพยายามกลั้นความรู้สึกที่กำลังเดือดพล่านในใจ“แต่ไอ้อาบีมันถูกศาลตัดสินให้จำคุกไปแล้ว!” “แต่อย่าลืมนะครับว่ายังมีทรัพย์ส
ตอนที่ 25/2ค่ำคืนหนึ่งในคลับสุดหรูใจกลางกรุงเทพฯเสียงเพลงจังหวะหนักแน่นก้องกังวานไปทั่วบริเวณ แสงไฟสลัวกระพริบสลับกันไปมา ธาฎานั่งอยู่ในโซนวีไอพี เขาจิบวิสกี้ในแก้วคริสตัลราคาแพง ดวงตาของเขามองออกไปอย่างไร้จุดหมาย“คุณผู้ชายคะ จะรับอะไรเพิ่มไหมคะ?” พนักงานสาวในชุดรัดรูปยืนยิ้มหวานอยู่ข้างๆ“เอามาอีก...” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่ฟังดูเย็นชาพนักงานสาวพยักหน้า ก่อนจะเดินไปจัดการตามคำสั่ง“นายครับ พอเถอะครับ ผมจะพากลับบ้าน” เสียงชายหนุ่มอีกคนดังขึ้นจากข้างๆ เป็นเสียงของเรืองฤทธิ์ที่นั่งมองเจ้านายของเขาด้วยความเป็นห่วงธาฎาเหลือบตามองเรืองฤทธิ์เพียงครู่เดียวก่อนจะยกแก้ววิสกี้ขึ้นจิบอีกครั้ง “ฉันยังไม่อยากกลับ นายกลับไปก่อนเถอะ”เรืองฤทธิ์ถอนหายใจยาว ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปใกล้พร้อมกระซิบเบาๆ แต่เต็มไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง“นายครับ อย่าลืมสิว่านายไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว คุณหนูอัญญารออยู่ที่บ้าน”คำพูดนั้นทำให้ธาฎาชะงักไปชั่วครู่ เขาวางแก้วลงบนโต๊ะ ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนและเจ็บปวด“ฉันดูแลเขาไม่ได้ เรือง... ฉันมันไม่ใช่พ่อที่ดี”เรืองฤทธิ์มองธาฎาด้วยแววตาอ่อนโยนแต่หนักแน่น“ไม่มีใครเกิดมาเ
ตอนที่ 25/3ในคอนโดหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เข็มมนิสก้าวเข้าไปในห้องนั่งเล่นกว้างๆ ของตัวเอง พร้อมกับแพรไหมที่เดินตามหลังมาอย่างเงียบๆ ทั้งคู่หยุดอยู่กลางห้อง เข็มมนิสหันมามองแพรไหมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ และรอยยิ้มที่เบาบาง แต่ไม่ใช่รอยยิ้มแห่งความสุข“มีความสุขมาก?” เข็มมนิสพูดด้วยเสียงต่ำและมั่นคงแพรไหมพยักหน้าเล็กน้อย หัวใจของหล่อนเริ่มรู้สึกโล่งขึ้นเล็กน้อยหลังจากการพูดคุยที่ยาวนาน ทั้งสองต่างทำความเข้าใจกันจนถึงจุดที่รู้สึกว่าตัวเองได้ตัดสินใจถูกต้อง“ฉันไม่เคยตั้งใจจะทำร้ายใครหรอกนะ” แพรไหมเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นขึ้น “แต่ฉันก็ต้องทำสิ่งที่จำเป็นเพื่อความสำเร็จของตัวเอง”เข็มมนิสยืนนิ่ง ไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่เดินเข้าไปใกล้ๆ และยื่นมือไปจับมือแพรไหมอย่างเบาๆ “ฉันเข้าใจ แกพูดแบบนี้มาล้านรอบแล้ว”แพรไหมรู้สึกถึงความอุ่นจากการสัมผัสของเข็มมนิส แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้รับการปลอบโยนจากอีกฝ่ายแต่ตอนนี้มันรู้สึกแตกต่างออกไป เหมือนกับว่าทุกสิ่งที่เลือกมาในชีวิตมันถูกต้องแล้ว“ยัยแพร...” เข็มมนิสกล่าวชื่อเขาหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง “เขายังไม่รู้เรื่องจริงๆ ใช่ไหม?”แพร
ตอนที่ 26/1ธาฎาตัดสินใจขับรถออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่จังหวัดบ้านเกิดของนันนลินทร์ เขาไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับการเดินทางครั้งนี้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าจะพูดออกไปให้ใครเข้าใจรถเคลื่อนผ่านทุ่งนากว้างและหมู่บ้านเล็กๆ ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนันนลินทร์ ในความเงียบสงบของท้องทุ่ง มันทำให้เขานึกถึงหล่อน พลางคิดไปต่างๆ นานาว่าตอนนี้วิญญาณของหล่อนจะจากไปด้วยความสงบเหมือนทุ่งหญ้าแห่งนี้ไหม เมื่อมาถึงเจดีย์บรรจุอัฐิของนันนลินทร์ เขาจอดรถและเดินเข้าไปในบริเวณที่เงียบสงบ การวางดอกไม้สีขาวอันบริสุทธิ์ลงบนฐานหินของเจดีย์นั้นทำให้ธาฎารู้สึกถึงความห่างไกลจากหล่อนมากยิ่งขึ้น ดอกไม้ถูกจัดวางอย่างระมัดระวัง กลีบสีขาวสะอาดตาเหมือนกับความทรงจำที่เขามีต่ออักฝ่ายธาฎายืนมองเจดีย์และดอกไม้ที่ถูกวางลงตรงหน้า ริมฝีปากขยับอย่างเบาๆ ขณะพูดพึมพำกับตัวเอง“นันนลินทร์... ถึงแม้ตอนนี้ฉันจะไม่ได้อยู่ข้างๆ เธอ แต่ยังไงฉันก็ไม่เคยลืมเธอเลยนะ”เขาหยุดไปชั่วขณะ พยายามกลั้นอารมณ์ที่กำลังปั่นป่วนในใจ“เธอเคยพูดว่า... เธอเหนื่อย เหนื่อยกับคนเลวๆ อย่างฉัน ใช่... ฉันมันเลว ไม่คู่ควรกับความรักของเธอเลย” เสียงของธา
ตอนที่ 26/2 ธาฎานั่งฟังคำพูดของปัณฑิมาอย่างเงียบๆ ทุกคำที่ปัณฑิมาพูดทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าโลกทั้งใบกำลังพังทลายลง เขาหวังว่าอย่างน้อยเขาจะได้รู้บางสิ่งจากแม่ของนันนลินทร์ ทว่าตอนนี้คำตอบที่ได้กลับเป็นความสูญเสียหนักยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าเดิม“จริงๆ แล้ว... ฉันเองก็รู้สึกเสียใจเหมือนกันนะคะที่หนิงต้องมาเจอกับเรื่องราวแบบนี้”ปัณฑิมาพูดต่อด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ “หนิงมันอาภัพรักค่ะ เคยมีครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่ก็ต้องแตกหัก แม่หนีไปเอาสามีใหม่ที่รวยกว่า พอพ่อแม่เลิกกัน หนิงมันก็เลือกไปอยู่กับพ่อที่กรุงเทพฯ จนพ่อมันเสีย ตอนนั้นมันไม่เหลือใครเลย ส่วนน้าณีก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ รายนั้นเห็นผัวดีกว่าลูก จะให้ลูกอยู่ด้วยก็ไม่ได้ จนมันต้องกลับมาหางานทำที่ไทย...”ธาฎานั่งฟังเธอพูดด้วยความรู้สึกเหมือนหัวใจของเขาหนักอึ้งไปหมด เขาไม่อยากฟังเรื่องเศร้าอีกแล้ว แต่บางทีการฟังมันอาจจะช่วยให้เขาหายสงสัยไปบ้าง“ตอนที่หนิงกลับมาจากที่ไปตามหาแม่มัน มันก็ไม่ได้กลับมาที่นี่เลย...บ้านก็ปล่อยรกร้างไว้แบบนี้ อย่างที่คุณเห็น ฉันกับแม่เองก็ไม่เคยได้ไปเยี่ยมมันมี่กรุงเทพฯ เลย มีแต่โทรติดต่อกันบ้างนานๆ ครั้ง เห็นมันบอกว่าทำง
The end6 เดือนต่อมาบรรยากาศที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่งของไทย ที่เขาใหญ่ในช่วงฤดูหนาวเต็มไปด้วยความงดงาม บ้านพักตากอากาศของคุณย่าของธาฎาที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติถูกจัดตกแต่งด้วยดอกไม้สดหลากสีสัน เต็มไปด้วยความอบอุ่นและโรแมนติกสำหรับงานแต่งงานธาฎาในชุดสูทสีขาว เดินตรวจดูความเรียบร้อยของงานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพอใจและความสุขทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบสำหรับวันนี้ เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่วันแต่งงานของเขา แต่เป็นวันที่เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงที่เขารักที่สุดนันนลินทร์ยืนอยู่ในห้องแต่งตัว สวมชุดเจ้าสาวสีขาวเรียบหรูที่มีลูกไม้ประดับอย่างประณีต หล่อนหันมองตัวเองในกระจก มือแตะท้องเบาๆ ราวกับย้ำกับตัวเองว่าทุกอย่างที่ผ่านมาคือเรื่องจริงนางนิรณียืนอยู่ข้างๆ คอยช่วยจัดชายกระโปรงและให้กำลังใจลูกสาว “แม่ภูมิใจในตัวหนิงนะลูก วันนี้ลูกดูสวยที่สุดเลย”นันนลินทร์หันมายิ้ม “ขอบคุณนะคะแม่ ถ้าไม่มีแม่ หนิงคงไม่มีวันนี้”เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่คุณเยาว์และสุชาฎาจะเดินเข้ามา พร้อมกับหยุดมองหล่อนราวกับตกตะลึงในความงาม พวกเธอเดินเข้ามาใกล้ ยื่นมือออกไปจับมือหล่อนเบาๆ“คุณหนิง…สวยมากเลยค่ะ” นันน
ตอนที่ 32/31 สัปดาห์ถัดมา นางนิรณีมาอยู่ดูแลลูกสาวในช่วงเช้า สัปดาห์ที่ผ่านมาเธอรู้ว่าธาฎาแวะเวียนมาทำคะแนนกับนันนลินทร์ลูกสาวเธอแบบไม่ว่างเว้นเธอเองก็ยอมเปิดทางให้ ถึงได้ไม่ค่อยแวะมาหาลูกสาวที่โรงพยาบาล จนกระทั่งวันนี้มีคำสั่งจากหมอเจ้าของไข้แล้วว่าอาการของนันนลินทร์นั้นดีขึ้นมากแล้ว และสามารถออกจากโรงพยาบาลไปได้ส่วนหลังจากนี้นันนลินทร์อาจจะยังต้องใช้ไม้เท้าเพื่อพยุงตัวไปก่อน จนกว่าอาการจะหายเป็นปกตินางนิรณีนั่งลงข้างเตียง มองสำรวจใบหน้าลูกสาวอย่างพิจารณา “ดูดีขึ้นเยอะเลยนะลูก ดีใจไหมจะได้ออกจากโรงบาลแล้วนะ”คำถามนั้นทำให้นันนลินทร์ชะงัก หล่อนหลุบตาลงมองมือที่วางอยู่บนตัก “ดีใจสิคะแม่”“ดีแล้ว แม่อย่กจะให้หนิงดู ว่าบ้านที่แม่ซื้อไว้ที่นี่นั้นสวยมากแค่ไหน ถ้าหากเราฟ้องศาลชนะ...อัญญามาอยู่ที่นี่กับเรา แม่จะทำห้องสวยๆ ให้อัญญา”นางนิรณีพูดแฝงไปด้วยเลสนัย เธออยากรู้ตอนนี้ในใจของลูกสาวตนเองจะคิดเห็นเช่นไร กับเรื่องที่เคยอยากจะทำ “ธาฎาจะได้รับกรรม เหมือที่หนูเคยบอก” เธอพูดขยี้ให้ลูกสาวได้รู้สึกตัวไปอีก“แม่คะ...คือหนิง”“ว่าไงล่ะลูก? แม่น่ะคุยกับคุณนนท์เขาแล้วนะลูก”คำพูดของผู้เป็นแม่
ตอนที่ 32/2 หล่อนหลุบตามองพื้นอย่างครุ่นคิด ภายในใจมีทั้งความลังเลและความหวังที่แทรกเข้ามาในเสี้ยววินาที“ฉัน...ฉันยังตอบคุณไม่ได้ตอนนี้หรอก” นันนลินทร์พูดเสียงเบา “ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา คุณเองก็ทำตัวดีๆ ก็แล้วกัน”ธาฎายิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้า เขาดีใจไม่ใช่น้อยเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น นันนลินทร์พูดราวกับว่าหล่อนกำลังบอกกลายๆ ว่าหล่อนให้โอกาสเขาแล้ว“เมื่อกี้เธอหมายความว่าไง?” ร่างสูงผละจากเปลนอนลูกน้อยเมื่อเห็นว่าลูกหลับสนิทแล้ว เขาเดินเข้ามาใกล้คนป่วยบนเตียง นันนลินทร์แอบถอนหายใจ รู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่เขาวงกตแห่งความรู้สึกอีกครั้ง“ก็ตามที่พูด...คุณเข้าใจยากตรงไหน?” “ไม่...หนิง ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม? เธอให้โอกาสฉันแล้ว” “ให้โอกาสแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำยังไงกับฉันเหมือนเดิมก็ได้”“ผมจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง...ทั้งเธอและลูก”แม้คำพูดของเขาจะดูมั่นคง แต่นันนลินทร์ยังไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองหวังมากเกินไป หล่อนเพียงมองเขาด้วยสายตาที่อ่อนลงเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะพยายามคว้าเอาไม้เท้าที่อยู่ไม่ไกลนัก เพื่อหวังจะทาง ทว่าหล่อนกลับคว้ามันไม่ถึง จนทำให้เขาต้อง
ตอนที่ 32/1เวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงวัน ธาฎาป้อนอาหารลูกอีกครั้งจนอิ่ม โชคดีจริงๆ ที่เตรียมทั้งของใช้และอาหารมาพร้อมทุกอย่าง อัญญาจึงไม่งอแง คุณพ่อมือใหม่จัดการประกอบเปลนอนแบบพกพาสำหรับเด็กขึ้นภายในห้องพักผู้ป่วย เขามุ่งมั่นทำมันด้วยความจริงจัง ขณะเดียวกันที่เจ้าของเปลนอนตัวจริงก็เริ่มตาเยิ้มลงมาก เป็นสัญญาณว่าอัญญานั้นง่วงเต็มที่แล้ว การกระทำของธาฎานั้นอยู่ในสายตาของคนที่กำลังกล่อมลูกนอนบนตัก หล่อนไม่คาดคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ จุดที่พ่อของลูกมีความใส่ใจและทำทุกอย่างให้ลูกได้มากมาย ทั้งที่หน้าที่แบบนี้ส่วนมากจะเป็นแม่ของลูกทำซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวไหนก็ตามแต่ สายตาคู่สวยมองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย หล่อนยังจำภาพในอดีตของผู้ชายคนนี้ได้ดี ภาพของเขาที่เย็นชา ดื้อรั้น และไม่เคยแยแสต่อคำขอร้องใดๆ ของหล่อน แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมากจนขนลุก“คุณทำเองเป็นหมดเลยเหรอ?” หล่อนถามขึ้นในขณะที่ลูบหัวลูกสาวเบาๆ ที่หลับคาตักธาฎาที่กำลังจัดหมอนในเปลให้เรียบร้อย หยุดมือชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแม่ของลูก“ฉันเคยเสียหลักครั้งหนึ่งตอนที่เธอจากไป วันๆ ไม่ยอมไปทำงาน กินแค่เหล้า เสเพไปวันๆ เพียงแค่อย
ตอนที่ 31/3เช้าวันถัดมา แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างของโรงพยาบาล ธาฎาก้าวลงจากรถพร้อมลูกสาวตัวน้อยในอ้อมแขน เขาสะพายเป้เล็ก ๆ ที่บรรจุของใช้ของอัญญาไว้เต็มแน่น หลังจากวันนี้อนุญาตให้เรืองฤทธิ์ สุชาฎา และคุณเยาว์ได้ออกไปใช้ชีวิต เที่ยวชมเมืองทะเลทรายแห่งนี้เขาใช้เวลาไม่นานนักก็เดินเข้าไปยังตึกพักฟื้นผู้ป่วยทันที อัญญาในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนยิ้มแย้มแจ่มใส มือเล็ก ๆ จับไหล่ของพ่อแน่น สายตาซุกซนของเธอชำเลืองมองรอบข้างด้วยความตื่นเต้น ธาฎาหันไปมองลูกสาว ยิ้มบาง ๆ ออกมา ถึงแม้ในใจเขาจะเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อมาถึงหน้าห้องพักของนันนลินทร์ เขาหยุดยืนชั่วครู่ สูดหายใจลึกเพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปอย่างเบามือนันนลินทร์ที่เพิ่งตื่นและกำลังพยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียงหันไปมองอย่างตกใจเมื่อเห็นเขา“คุณมาทำไมอีก...” หล่อนถามเสียงแผ่ว แต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจเขาไม่ได้ตอบในทันที แต่วางอัญญาลงบนเตียงข้าง ๆ หล่อนลูกสาวตัวน้อยแม้จะไม่เจอหน้าแม่มานาน แต่กลับมีความรู้สึกถึงสายใยผูกพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างเหนือความคาดหมายอัญญาโผเข้ากอดนันนลินทร์ หลังจากที่พ่อของเขาปล่อยลงใส่เตียง ใบ
ตอนที่ 31/2 น้ำตาของนันนลินทร์ไหลออกมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ แม้จะพยายามซ่อนเร้นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในใจ แต่ในที่สุดทุกอย่างก็แตกออกมาเป็นน้ำตาอย่างไม่รู้ตัว “คุณกลับไปเถอะ...” นันนลินทร์พูดเสียงสั่น พยายามสะกดอารมณ์ให้ตัวเองสงบลง แต่ก็ยากเกินไป หล่อนมองดูสภาพตนเองในตอนนี้ ช่างน่าสมเพชเหลิอเกิน ไม่อยากให้อัญญาจะต้องมาเห็นสภาพแม่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย “ทำไม?” “ก็ฉันบอกให้กลับก็คือกลับไง! พูดไม่รู้เรื่องเหรอ!?” หล่อนพูดทั้งน้ำตา พลางมองไปมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากพยาบาลหรือใครสักคนที่อยู่แถวนี้ “ฉันไม่ได้ตั้งใจมาทำให้เธอรู้สึกแย่นะ ฉันพาลูกมาให้กำลังใจเธอ ขอแค่ฉันกับลูกได้...” “ฮึกกก! กลับไป! อย่าพาลูกมาลำบากที่นี่” “ไม่...หนิง คือฉัน” “คุณพยาบาลคะ! ช่วยด้วยค่ะ!” เสียงเรียกของนันนลินทร์ดึงความสนใจจากพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงและรีบเดินเข้ามาด้วยท่าทางเป็นห่วง “มีอะไรให้ช่วยคะ คุณหนิง?” พยาบาลสาวต่างชาติถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แววตาแสดงความกังวลกับกลุ่มคนไทยตรงหน้าที่กำลังยืนคุยอยู่กับคนไข้ แม้ว่าจะฟังภาษาไทยไม่ออก ทว่าตามความรู้สึกของพยาบาลแล้ว พวกเขาน่าจะพูดยางอย่างให้กระทบกระเท
ตอนที่ 31/1เมื่อเครื่องบินลงจอดถึงปลายทาง ธาฎาก็รีบออกจากสนามบินพร้อมกับลูกน้อยและผู้ติดตาม เขาเอื้อมมือไปรับเจ้าตัวน้อยมาจากอ้อมกอดของพี่เลี้ยง ก่อนจะพากันเดินเข้ายังตัวสนามบินหลังจากที่มาถึงโรงพยาบาล ธาฎาก้าวออกจากรถด้วยท่าทางที่สงบ แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เขามองไปที่ตัวอาคารที่คุ้นเคย ซึ่งยังคงดูสงบเงียบเหมือนครั้งก่อนที่เขาเคยมาเยือน ตอนนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ซับซ้อน และเขาต้องการความเข้าใจจากนันนลินทร์มากมี่สุดสุชาฎาหันมามองเขาก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเบา “ว่านตื่นเต้นจังเลยค่ะ เราจะได้เจอคุณหนิงแล้ว” เมื่อเข้าไปถึงแผนกกายภาพบำบัด ธาฎาก็พบนันนลินทร์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้วิลแชร์ ขณะที่ข้างกายยังมีนักกายภาพบำบัดคอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่างใบหน้าของเธอยังดูซีดเซียวและอ่อนล้า แต่ ที่เขากำลังอุ้มลูกเดินเข้าไปใกล้ เหมือนหล่อนจะรู้ตัว ก่อนจะชะเง้อชายตามาหาเขานันนลินทร์เงยหน้าขึ้นมองธาฎา ดวงตาของหล่อน ดูเปล่งประกายขึ้นมา เมื่อมองเห็นเจ้าตัวน้อย ที่ธาดากำลังอุ้มอยู่“คุณหนิง//คุณหนิง...” เสียงของสุชาดาและคุณเยาว์เอ่ยขึ้นพร้อมกันขณะที่เดินมาตามหลังธาฎา พวกเธอมองเห็นนันนลินทร
ตอนที่ 30/3 เสียงเครื่องบินส่วนตัวที่แตะพื้นรันเวย์นำธาฎา ชายหนุ่มไฮโซนักธุรกิจหมื่นล้านกลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขณะก้าวลงจากเครื่อง เรืองฤทธิ์ยืนรออยู่ด้านล่าง ขณะที่เขาก้มหน้ามองนาฬิกาบนข้อมือ“รถพร้อมแล้วครับ” เรืองฤทธิ์รายงานธาฎาเพียงพยักหน้า สายตาเหยียดตรงไปยังเป้าหมายในใจ ก่อนที่เขาจะถามน้ำเสียงเย็นเยียบ“ถ้าไม่ติดว่าคู่ค้าอยากจะเซ็นสัญฐาเลยนะ จ้างให้ฉันก็ไม่กลับมาง่ายๆ หรอก”“ใจเย็นๆ ก่อนครับนาย คุณนันนลินทน์เธอคงไม่หายไปไหนหรอกครับ กลับไทยมาก็ดีนะครับผมว่า ป่านนี้คุณหนูอัญญาคงเหงาแย่แล้ว” “จริงสินะ ลูกสาวของฉันคงจะคิดถึงฉันมากแน่เลย” หลังเสร็จสิ้นธุระสำคัญในบริษัท ธาฎากลับมาที่บ้านทันทีเพื่อพบลูกสาว เสียงเล็ก ๆ ดังออกมาจากห้องนั่งเล่น อัญญากำลังคลานไปมาตามพรม เล่นของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่พี่เลี้ยงคอยดูแลร่างสูงเดินเข้าไปหาลูกสาว มือหนาเอื้อมช้อนร่างเล็กขึ้นมาเบา ๆ “อัญญา...”เด็กน้อยช้อนสายตามองพ่อ ก่อนจะยิ้มแฉ่งอย่างไร้เดียงสา พร้อมเอื้อมมือแตะใบหน้าของเขา“ป๊ะๆ...” อัญญาออกเสียงได้ไม่ชัด แต่เพียงคำเดียวก็ทำให้หัวใจของธาฎาพองโต“ป๊าคิดถึงลูกที่สุดเลยรู
ตอนที่ 30/2เรืองฤทธิ์นั่งมองหลักฐาน ที่หมอนพดลนำมาให้ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและความสงสัยที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ“นี่คือหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าแพรไหมเคยติดต่อผมก่อนการผ่าตัดคุณนันนลินทร์”หมอนพดลพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่มั่นคง“เธอขอให้ผมทำสิ่งที่ขัดต่อจรรยาบรรณของแพทย์ โดยแลกกับเงินจำนวนมหาศาลและตำแหน่งที่สูงขึ้นในโรงพยาบาล ทั้งสองขู่เข็ญเรื่องจะปล่อยคลิปหลุดของลูกสาวผมด้วย”“แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำ?” เรืองฤทธิ์ถาม น้ำเสียงแฝงความกังวล“เพราะผมยังมีจิตสำนึกอยู่ และโชคดีที่ผมมีหลานชายของคน ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกครับ ว่าเขารู้จักกับคุณนันนลินทร์ แต่พอเขาโทรมาถาม เรื่องอาการ ป่วยต่างๆ ของคุณนันนลินทร์ ผมก็เลยตัดสินใจ ปรึกษาหลานชายของผม เพราะเห็นว่ายังไงเราสองคนก็ลงเรือเดียวกันแล้ว”หมอนพดลถอนหายใจยาวก่อนเล่าต่อ“นนทวัฒน์คือคนที่ช่วยผมวางแผนตลบหลังหมอแพร พวกเราจัดฉากว่าการผ่าตัดนั้นล้มเหลว และนันนลินทร์เสียชีวิตระหว่างการรักษา ทั้งที่จริง ๆ แล้วผมกับนนทวัฒน์ช่วยกันพาหล่อนออกจากโรงพยาบาลไปยังที่ปลอดภัย”เรืองฤทธิ์พยายามเก็บสีหน้าตัวเองเมื่อได้ยินความจริงอันน่าตกตะลึง ใจเขาเต็มไปด้วยคำถ