ก่อนออกไปศิลาสั่งน้องสาวไว้ว่าไม่ต้องล็อกห้อง ถ้ามีอะไรก็ตะโกนเรียกพี่ได้เลย3-4 ชั่วโมงผ่านไป หลังจากที่ซันเดย์พักผ่อนจนสร่างเมาแล้ว"อืม? อืมม?! อื้มมม!!!" คนตัวโตพยายามดิ้นเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วขยับร่างกายไม่ได้ "อู้อึ๊ๆ""เงียบๆ หน่อยสิคนจะนอน""อืม!!""อย่าให้ฉันต้องหาอะไรมาคลุมหน้าคุณไว้ด้วยนะ" หญิงสาวที่นอนอยู่ข้างกาย ขู่คนที่เธอจับมัดแขนมัดขา และสก๊อตเทปปิดปากไว้ดวงตาคมมองเธอที่นอนทำตัวเฉยอยู่ข้างๆ"อู้อี๊ๆ" พอเธอหันมองมาสายตานั้นก็มองต่ำลงไปที่อวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย เพื่อส่งสัญญาณบอกว่ามันใกล้จะกลั้นไม่อยู่แล้ว"จะมาปวดอะไรตอนนี้""อืม อืมม""อย่านะรู้ไหมว่ามันสกปรก" แค่มองก็รู้แล้วว่าเขากำลังขู่ถ้าเธอไม่ปล่อย..เขาจะฉิงฉ่องมันตรงนี้แหละสาริศายอมแก้มัดขาเพื่อให้เขาเดินเข้าห้องน้ำได้"อืมมม" เข้ามาถึงในห้องน้ำ สายตาซันเดย์มองต่ำลงไปเพื่อให้เธอรู้ว่า..แล้วเขาจะเอามือที่ไหนรูดซิป"ถ้าฉันแก้มัดมือคุณด้วย ฉันก็ไม่ปลอดภัยน่ะสิ""อืม อืมม" สายตาเขายังคงกรอกมองลงไปที่น้องชาย ถ้าไม่เอามันออกมามีหวังได้ราดแน่"ก็ได้!" สาริศายื่นมือไปรูดซิปลงให้โดยไม่ได้มอง"อืมม!!""อะไรของคุณอีก"สาย
ตุ๊บ! พอแก้เชือกออกจากขาให้เท่านั้นแหละ ถึงแม้จะมีอยู่แค่ขาเดียว สาริศาก็ใช้มันแบบสุดกำลัง จนคนร่างหนากระเด็นตกเตียง"โอ๊ย""อุ้อี้!!""ผู้หญิงอะไรแรงเยอะชิบหาย" ชายหนุ่มลุกขึ้นมาได้ก็ยืนมองอยู่ข้างเตียง"อื้ม!!" เรียวลิ้นพยายามดันสิ่งที่ปิดปากอยู่ออกมาให้ได้ "เดี๋ยวเอาออกให้" พอถูกถีบสติก็เริ่มมา "ถ้าฉันปล่อยแล้ว..ถ้าเธอยังทำร้ายร่างกายฉันอีกสาบานได้เลยว่าจะกระแทกให้ลืมนามสกุลไปเลย!" ถึงแม้เขาเพิ่งรู้จักเธอแต่ก็มั่นใจได้ ว่าถ้าปล่อยเธอคนนี้เป็นอิสระร่างกายของเขาคงไม่ปลอดภัยแน่สาริศาพยักหน้าตอบแบบจริงจัง ถ้าเขาปล่อยเธอคงไม่มีแรงที่จะทำอะไรแล้วล่ะแรงจะดิ้นยังไม่มีด้วยซ้ำคว้าก.. เสียงซันเดย์ฉีกสก๊อตเทปที่ปิดปากเธออยู่ออก"โอ้ย" อยากจะด่าว่าทำเบาๆ ไม่ได้หรือไง แต่ถ้าพูดตอนนี้เขาคงไม่ปล่อยแน่"สัญญากันแล้วนะว่าจะไม่ทำอะไร" แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ เขาไม่กลัวอยู่แล้ว แต่ฤทธิ์เดชเธอเยอะมาก กลัวว่าจะพลั้งมือทำให้เจ็บตัวเปล่าๆคิดได้แบบนั้นชายหนุ่มก็เลยหยุด"เปลี่ยนใจละ ยังไม่ปล่อยมือดีกว่า""นี่คุณ!""อะไร""คุณจะมัดฉันไว้แบบนี้ทั้งคืนไม่ได้นะ""ถ้าไม่ให้มัดแค่มือ งั้นมัดทั้งตัวเหมือนเดิมเลยแล้
10 : 30 น. วันเดียวกันนั้นที่โรงอาหารสาริศาเดินตามลูกศรที่บ่งบอกชัดเจนว่าส่วนไหนเป็นส่วนไหนของสถานที่ราชการแห่งนี้มาจนถึงโรงอาหารแต่ดูเหมือนไม่ว่าเธอจะเดินผ่านตรงไหนที่มีคน ส่วนมากก็จะถูกจับตามองตกลงที่เขามองเพราะเราสวย หรือเพราะเราแปลกกันแน่เนี่ย คงสวยแหละเนาะคนถึงมอง คิดเข้าข้างตัวเองไว้ก่อนพอเข้าไปในโรงอาหารก็มีหลายร้านให้เลือกซื้อ"ซื้ออันนี้อันนี้และอันนี้ค่ะ" หญิงสาวเลือกซื้อร้านที่ใกล้ที่สุด"จะราดหรือแยกคะ""แยกค่ะ""น้องมาติดต่อราชการเหรอ หน้าไม่คุ้นเลย""มาหา.." กำลังจะบอกว่ามาหาพี่ชายแต่อีกความคิดหนึ่งก็ได้แว๊บเข้ามาในหัว "มาหาแฟนค่ะ""มาหาแฟน? แฟนทำงานที่นี่เหรอคะ" คนเป็นแม่ค้าคิดไม่มีผิดสาวๆ สวยๆ แบบนี้ ต้องมีแฟนอยู่ในกรมแน่ถึงได้เข้ามา"ใช่ค่ะ""แอบกระซิบได้ไหมคะว่าเป็นใคร""ผู้พันซัน.." เธอได้ยินพี่ชายเรียกชื่อเขาหลายครั้งแล้วว่าซัน..แต่ซันอะไรนะ"ผู้พันซันเดย์น่ะหรือคะ""ใช่ค่ะผู้พันซันเดย์""ผู้พันเขามีแฟนแล้วเหรอ?""พี่รู้จักแฟนของหนูด้วยเหรอคะ""รู้จักสิคะ" แม่ค้าคนนั้นหันมองไปที่ร้านค้าอีกร้าน จนสาริศาอดมองตามไม่ได้"มีอะไรหรือเปล่าคะ""ไม่มีอะไรหรอกค่ะ อาหารตั
"เฮ้ยไอ้ซันเดย์! มึงเปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยนะ นั่นน้องกูนะเว้ย" ศิลาเคาะประตูให้เพื่อนเปิด เมื่อซันเดย์โมโหจนปิดประตูแล้วล็อกห้องโดยมีสาริศาอยู่ด้านใน"น้องมึงหาเรื่องเองทำไมล่ะ!" สติเริ่มจะกลับมา ซันเดย์ยอมเปิดประตู"มึงกวนตีนกูแล้วนะ" ศิลาเอื้อมเข้าไปคว้าแขนน้องสาวให้ออกมาจากห้องก่อน"เอาของน้องมึงออกไปด้วย" คนที่พูดยืนพิงประตูกอดอกมองดูพี่น้องทั้งสอง"ริศานอนข้างนอกก็ได้ค่ะ" สาริศาไม่ยอมให้พี่ชายเอาของเข้าไปในห้องของพี่"พี่เป็นผู้ชาย คนที่นอนข้างนอกก็ต้องเป็นพี่สิ""พี่ทำงานมาเหนื่อยๆ นอนให้สบายตัวเถอะ โซฟาอันแค่นี้ดูตัวพี่สิยาวจะตาย""เรานอนได้แน่นะ""นอนได้สิ"หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไปอีกชั่วโมงกว่า เจ้าของห้องคนที่ไล่เธอออกมานอนข้างนอก ก็แต่งตัวหล่อเดินผิวปากออกจากบ้านไปจนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง..แต่ฟ้าก็ยังไม่สว่างก๊อก! ก๊อก!!"ศิลาเปิดประตูให้กูหน่อย"เงียบ~และเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นแรงกว่าเดิม"หูแตกไม่ได้ยินหรือไง เปิดประตูให้หน่อย"ตะโกนครั้งที่สองห้องของศิลาเปิดออกมา"มึงไม่มีกุญแจบ้านหรือไงวะ""ไม่รู้กูทำหายที่ไหน สงสัยในคลับแน่เลย""มึงไปเที่ยวคลับเลยเหรอ""เที่ยวไหนก็เ
มันคุ้มแล้วเหรอ กับการเสียสิ่งที่หวงแหนที่สุดในชีวิตไป ให้กับผู้ชายที่ไม่เห็นค่ามันเลย ไม่มีแม้คำพูดสักนิดก่อนที่เขาจะออกจากห้องเมื่อคืนนี้คนที่หลงใหลในการนอนหลับแบบสาริศา ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อคืนก็ทำให้เธอนอนไม่ได้อีกตลอดทั้งคืนถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ คงได้เป็นแค่ของเล่นผู้ชายที่ไม่รู้จักพอแบบเขาแน่พอตัดสินใจได้หญิงสาวก็ลุกขึ้นมาชำระร่างกาย ที่จริงเธอล้างคราบที่เขาทิ้งไว้เกือบตลอดเวลาที่คิดถึงความน่าขยะแขยงนั้นบ่ายคล้อยวันเดียวกัน.."เราจะไปไหน" ศิลากลับมาเห็นตอนน้องสาวกำลังจะออกจากบ้านพอดีเธอตัดสินใจอยู่นานว่าจะรอบอกพี่ชายก่อนไปไหม แต่ก่อนออกมาสาริศาได้เขียนโน้ตทิ้งไว้ให้กลัวพี่ชายจะเป็นห่วง แต่ไม่คิดว่าพี่จะกลับมาก่อนเวลา"ฉันจะกลับไปหาพ่อ" ถ้าแม่ยังอยู่ทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้ ถึงแม้เธอจะหนีไปไกลแสนไกล ยังไงพ่อก็ตามเจอ..เพราะเธอยังคงต้องใช้เงินของท่านอยู่"ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว พี่ว่าเราเดินหน้าต่อดีกว่า" ถึงแม้น้องกลับไปก็คงเจอชะตากรรมไม่ต่างจากที่นี่ หรืออาจจะหนักกว่าเพราะเขาไม่สามารถไปดูแลน้องได้คำพูดมากมายที่อยากจะพูดกับพี่ชายแต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ เธอคงน่าสมเพชมากถ้ายังต
"อย่าบอกนะว่า? ไหนบอกอีกตั้งอาทิตย์หนึ่งไง" พอหาไม่เจอซันเดย์ก็รีบตามหลังศิลาออกมาแต่ก็ตามไม่ทันจนได้เข้ามาหาที่ทำงานของเพื่อน"สวัสดีค่ะผู้พัน""สวัสดีครับผู้หมวด""ผู้พันมาที่นี่มีอะไรคะ""ผมมาหาผู้พันศิลาครับ อยู่ข้างในใช่ไหมครับ""ขอโทษค่ะ ผู้พันบอกว่าไม่ให้ใครเข้าพบ" ผู้หมวดที่รับผิดชอบงานเอกสารด้านหน้ารีบเข้าไปขวางไว้"แต่ผมเป็นเพื่อนของผู้พันนะครับ""ผู้พันสั่งไว้ค่ะ แม้แต่พ่อก็ไม่ให้เข้าไป" ผู้หมวดสาวแค่พูดตามคำสั่ง"อะไรของมันวะ ไม่ให้เข้าก็ไม่เข้าสิ" ซันเดย์พึมพำเล็กน้อยก่อนที่จะออกไปเที่ยงวันที่โรงอาหาร.. ไม่ให้เข้าพบในห้องทำงาน ยังไงมาที่โรงอาหารก็ต้องเจอ เพราะถ้าไม่ทานข้าวที่นี่ก็ต้องออกไปทานนอกกรมซึ่งไกลมากซันเดย์นั่งทานข้าวรอตั้งแต่เที่ยง จนเกือบจะบ่ายโมงถึงเห็นเพื่อนเดินมา"มาสักทีนะพ่อคุณ"ศิลามองเห็นตั้งแต่เดินเข้ามาแล้วแต่ก็ไม่สนใจ"ดูมันนะ ยังเดินไปสั่งร้านนั้นอีก" ซันเดย์กำลังจะตามไปแต่เพื่อนแวะไปสั่งอาหารร้านค้าของนานาก่อนพอได้อาหารศิลาก็นั่งทานแถวนั้น"มึงเป็นบ้าอะไรวะ" ซันเดย์ทนรอไม่ไหวก็เลยเดินเข้ามานั่งกับเพื่อนแต่ไม่ได้คำตอบใดๆ จากปากของคนที่กำลังทานข้า
มาถึงคอนโดนี้แบบไม่รู้ตัว ทำไมเราต้องมาที่นี่ พี่ชายแท้ๆ ยังไม่เป็นห่วงน้องเลย คิดได้แบบนั้นซันเดย์ก็ถอยรถออกไปอะไรวะเนี่ย วันนี้กูเพิ่งสละโสดเหรอ ทำไมไม่มีปาร์ตี้สละโสดอะไรเลยวะ ..ขับรถไปก็งงในชีวิตตัวเองไป มันไม่เป็นเหมือนที่คิดไว้เลยจนรถมาหยุดอยู่ที่คลับเมื่อคืนก่อนที่เข้ามาเที่ยว"เที่ยวคนเดียวอีกแล้วกู" คิดถึงเพื่อน..ตั้งแต่เรียนจบจนเข้ามาทำงานที่เดียวกัน เวลาไปเที่ยวก็นัดกันไปเป็นแก๊ง บางทีมีลูกน้องติดไปด้วย ช่วงเวลานั้นมีความสุขมาก ทำไมตอนนี้เหมือนเหลือตัวคนเดียวไหนๆ ก็มาที่นี่แล้วเข้าไปดื่มหน่อยก็ดีที่นี่คนพลุกพล่านมาก ซันเดย์เข้ามาถึงก็หาโต๊ะว่างนั่ง"เสี่ยนั่นเอง" ผู้หญิงเดินเข้ามาแล้วนั่งลงโดยไม่ได้ขอ เหมือนว่ารู้จักกันเป็นอย่างดี"เรารู้จักกันเหรอครับ" แต่ทำไมเขาไม่คุ้นหน้าเธอคนนี้เลย"คืนก่อนเสี่ยเมามากล่ะสิคะ""คืนก่อน?""ถ้าเสี่ยเห็นไอ้นี่คงจะจำฉันได้แน่เลย" เธอคนนั้นล้วงเอากุญแจออกมา"กุญแจบ้านผมอยู่กับคุณได้ยังไง?""เสี่ยขา เราต่อจากคืนที่แล้วกันไหมคะ""คืนที่แล้ว?""ไปต่อกันที่อื่นดีกว่าค่ะเสี่ย เดี๋ยวฉันจะคืนกุญแจให้" เธอคนนั้นพูดพร้อมกับขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ พร้
"แหมทีแบบนี้ทำเป็นห่วงน้องสาว ตอนเราบอกให้พากลับมาไม่พามา" ซันเดย์ได้แต่พึมพำแล้วเดินเข้าห้องนอนตัวเองไปนอนยังไงก็นอนไม่หลับซันเดย์ก็เลยเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมาที่รถ ขณะที่ชายหนุ่มก้าวขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับสายตาเขามองไปห้องของเพื่อนรัก เห็นว่ามีคนมองผ่านผ้าม่านออกมา"??" รูปร่างแบบนี้คงไม่ใช่ผู้ชายแน่ เขานั่งมองอยู่บนรถครู่หนึ่งคนที่แอบมองมาค่อยๆ แหวกผ้าม่านให้กว้างขึ้นแล้วเปิดหน้าต่าง เพื่ออยากมองให้ชัดว่าเขาทำอะไรอยู่ในรถ แต่มองยังไงก็ไม่เห็นเพราะกระจกรถมืดเขาขึ้นไปทำอะไรบนรถ ลืมของหรือเปล่า ..ทีแรกก็คิดว่าเขาคงจะออกไปเที่ยว เพราะได้ยินเสียงปลดล็อกกุญแจรถ สาริศาใช้จังหวะที่พี่ชายเข้าไปอาบน้ำแอบมาเปิดหน้าต่างดูจะทำอะไรก็เรื่องของเขาสิ เดี๋ยวก็ถูกเขาว่าให้อีกหรอก ..คิดได้แบบนี้หญิงสาวก็เลยปิดผ้าม่านไว้ เดินกลับมานั่งที่เตียงอยู่ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงสตาร์ทรถ..อดไม่ได้ที่จะไปเปิดผ้าม่านดูอีกครั้ง"อื้มม!?!" พอใบหน้าโผล่ออกจากหน้าต่างเท่านั้นแหละก็ถูกคนที่ยืนอยู่ด้านนอกกดท้ายทอยเข้ามาจูบแกร็ก.. เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก แต่ก็ไม่ได้หยุดคนที่กำลังยืนจูบกันอยู่หน้าต่างได้"อ้าวแล้วไปท
เหมือนถูกลากมาตบกลางสี่แยกยังไงยังงั้นเลย ที่ได้ยินพวกผู้หญิงพูดถึงสามีตัวเอง"ได้ยินผู้พันบอกว่า วันนี้จะร้องเพลงช่วงเปิดงาน""อ้าว ไม่ร้องตอนปิดงานอีกแล้วเหรอ" เพราะกองทัพเลือกร้องเพลงตอนปิดงานมาหลายปีแล้ว ที่เขาร้องช่วงปิดงานจะได้มีคนอยู่ร่วมงานจนถึงช่วงสุดท้าย"เห็นบอกแบบนั้น""แหมนอกจากให้ติดรถมาแล้ว ยังบอกเรื่องจัดงานอีกนะ" ไม่มีใครไม่รู้ว่ากองทัพแต่งงานและภรรยาก็คลอดลูกเดือนที่แล้ว แต่อย่างที่รู้กันอยู่ว่าคนที่ทำอาชีพนี้ส่วนมากจะเจ้าชู้ มีหลายคนเลยแหละที่มีบ้านเล็กบ้านน้อย ยิ่งระดับลูกชายของคนใหญ่คนโตแล้วด้วย ผู้หญิงพวกนั้นก็เลยอยากไต่เต้าสบายทางลัด ยิ่งถ้าคว้าใจผู้ชายมาได้ถึงกับยอมเลิกกับบ้านใหญ่ก็เคยมีความรู้สึกของมโนราห์ตอนนี้เริ่มไม่ไหวแล้ว จนเกิดอาการคัดเต้า โชคดีที่ใส่ที่ซับน้ำนมมาด้วย แต่ถ้ามันไหลเยอะก็คงเอาไม่อยู่เพียงไม่นานเสียงดนตรีก็ดังขึ้น หลายคนที่ร่วมงานต่างก็หันไปที่เวที และหลายคนก็พูดกันว่า ทำไมผู้พันกองทัพถึงได้ร้องเพลงช่วงเปิดเวที เพราะทุกครั้งผู้พันจะร้องตอนปิด ..นั่นแสดงว่าคนในงานยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ผู้หญิงคนนี้คงสำคัญกับเขามากจริงแหละ ถึงได้รู้ว่าเขาจ
"ฉันขอชุดที่รัดกุมหน่อยนะคะ..แต่..เออ..""แต่อะไรคะ" ช่างที่กำลังเลือกแบบชุดให้ถามลูกค้า เมื่อเห็นอีกฝ่ายเหมือนไม่กล้าพูด"ขอแบบที่สามารถปั๊มนมให้ลูกได้ด้วย" ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะไปหรอก แต่อะไรมันก็ไม่แน่นอน เธอก็เลยขอชุดแบบนั้นไว้ เพราะถ้าน้ำนมมาต้องรีบปั๊มออก ไม่งั้นคัดเต้าทำให้ปวดมากบางครั้งเกิดการอักเสบเลย"ชุดแบบนั้นทางร้านเราไม่ได้ทำไว้ค่ะ แต่เราคิดว่า ผ้าคลุมไหล่สามารถปกปิดได้"ขณะที่คุยกันไม่มีคนในบ้านอยู่ใกล้เธอก็เลยกล้าพูดพอรู้แล้วว่าลูกค้าต้องการแบบไหนทางร้านก็รีบจัดการให้ ส่วนมโนราห์ก็เริ่มทำการเสริมสวยต่อขณะที่ทำผมอยู่ได้ยินเสียงลูกชายงอแง เธอก็ให้ช่างหยุดก่อน เพื่อไปดูว่าลูกเป็นอะไร แต่พอเห็นว่าลูกอยากเข้าเต้ามโนราห์ก็เลยจัดให้ก่อนจนแกนอนหลับเธอถึงได้กลับมาทำสวยต่อ ชีวิตแม่ลูกอ่อนถ้าใครไม่เจอกับตัวก็ไม่รู้หรอกบ่ายคล้อยวันเดียวกัน.."พ่อโทรมาบอกว่าให้แม่เข้างานเร็วหน่อย""คุณแม่ก็ไปสิคะ""แม่ว่าจะรอรับเราไปด้วยกัน""ไม่ต้องรอหรอกค่ะ โมนายังไม่รู้เลยว่าจะไปไหม""ถ้างั้นแม่รอเราที่งานนะ" พอแต่งตัวเสร็จพุดตาลก็ให้คนรถพาไป เพราะไม่อยากให้ท่านนายพลต้องกลับมารับอีกเวลาเดียวก
ลืมเลยอีกแค่ไม่กี่วันก็ถึงวันงาน พอคิดถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นเขากับเธอยังไม่ได้รักกัน"หึ.." พอคิดถึงตอนที่กระโปรงเธอขาดก็นึกขำขึ้นมา และตอนที่เธอคิดว่าเขาร้องเพลงให้ผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่ใช่เลย ตอนที่ร้องเพลงนั้น เขากลับคิดถึงหน้าเธอต่างหาก"ยิ้มอะไรครับผู้พัน""ยังจะเดินตามมาอีก ไม่ทำงานหรือไง""ทำสิครับ แต่ผู้พันลืมแล้วเหรอว่าที่ทำงานเราไปทางเดียวกัน" ตอนที่เป็นผู้กองอยู่เขาสังกัดหน่วยงานเดียวกับกองทัพ แต่พอเลื่อนขั้นเป็นผู้พัน ฉลามต้องเข้ารับงานใหม่ "แล้วตกลงที่ยิ้ม..ให้สาวที่นั่งรถมาด้วย..หรือคนที่อยู่บ้านครับ""ไอ้ฉลามมึงจะหางานให้กูไปถึงไหนวะ กูก็ต้องคิดถึงเมียกูสิ""ครับคิดถึงเมีย""ไอ้นี่พูดเหมือนไม่เชื่อ"สองวันต่อมา.. วันนี้เริ่มประชุมเรื่องที่จะจัดงานประจำปี ใครรับหน้าที่ส่วนไหนก็ต้องเริ่มจัดการส่วนที่ตัวเองได้รับในแต่ละหมู่เหล่าต้องร่วมแรงร่วมใจ เพราะงานประจำปีไม่ได้จัดขึ้นแค่เป็นงานเลี้ยง แต่เป็นงานที่ทำให้ในหน่วยงานรักและสามัคคีกันที่คฤหาสน์พลเอกเกษมราษฎร์"โมนาไม่รู้ว่าพ่อจะมา" เพราะพ่อเพิ่งมาตอนที่เธอคลอดลูกนี่เอง และวันนี้พ่อก็มาอีกครั้ง"สามีเราไม่บอกเหรอ ว่
"คุณอยากได้อะไรครับ ทำไมไม่เรียกผมเดี๋ยวผมหยิบให้" ฉลามรีบเดินกลับมาที่บ้าน"ฉันเรียกแล้วค่ะ แต่คุณมัวมองสาวๆ พวกนั้นอยู่""อุ๊ย.. เปล่ามองสักหน่อย""ตาฉันไม่ได้บอด""แก้วใจครับ อย่างอนนะ มันไม่ดีต่อ..""คุณไม่อยากให้ฉันงอนก็อย่าทำสิคะ""ผมแค่..""แค่อะไรคะ""แค่มองนิดเดียวเอง""แต่ที่ฉันเห็นไม่นิดแล้วนะ"กูจะถึงกับตายไหมวะ ..ฉลามรีบเดินตามแก้วใจเขาไปในบ้าน ในใจก็แอบหวั่นๆ"อย่าเดินเร็วสิครับเดี๋ยวสะดุดล้ม""ไม่ต้องตามมานะ""ผมสัญญาว่าจะไม่มองผู้หญิงคนอื่นแบบนี้อีกแล้ว"แก้วใจหยุดแล้วก็หันกลับมา แต่ฉลามที่ตามมาด้านหลังเกือบหยุดไม่ทัน"จะหยุดทำไมไม่บอกผมล่ะ""ไม่ต้องมาใกล้ฉันเลยนะ" หญิงสาวผลักสามีให้ออกห่าง "ใช่สิท้องฉันโตขนาดนี้ ก็เลยไม่น่ามองเหมือนผู้หญิงพวกนั้นใช่ไหม""ใครบอกคุณไม่น่ามอง แก้วใจของผมน่ารักที่สุดในโลก""คนปากไม่ตรงกับใจ ฉันจะกลับไปหายาย""ไม่ให้กลับ""ฉันจะกลับไปคลอดลูกกับยาย""ที่นั่นอยู่ห่างไกล เวลาคลอดก็ลำบาก เอาแบบนี้แล้วกันใกล้คลอดผมจะไปรับคุณยายมาอยู่ด้วย""จริงเหรอคะ" จากที่งอนอยู่เมื่อสักครู่ก็มีรอยยิ้มขึ้นมา ฉลามถึงกับหายใจโล่ง ดีนะที่ยังมียาย ไม่งั้นคืนนี้ต้
ญาณินกัดฟันไว้ไม่กล้าส่งเสียงคราง เพราะลูกชายเพิ่งจะนอนลงมือเรียวยื่นลงไปจับศีรษะของคนที่เมามันอยู่กับการใช้ลิ้น แทนที่จะยกศีรษะของเขาขึ้นแต่ดันกดมันลงแบบลืมตัวชายหนุ่มยิ่งได้ใจเพิ่มจังหวะความเร็วของลิ้นอีกระดับหนึ่ง จนสะโพกงามเกร็งกระตุกเขาถึงได้หยุด แล้วค่อยๆ ขยับขึ้นมา เพราะจะปล่อยให้เธอเสร็จก่อนไม่ได้สิ่งแรกที่ศิลาทำเมื่อโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มนั้นคือมองไปดูลูกชาย ว่าเขาหลับหรือยัง แต่พอเห็นลูกยังดิ้นอยู่ เขาก็ค่อยๆ เอนตัวลงอีกฝั่งหนึ่งของเธอแต่ชายหนุ่มไม่ได้ปล่อย เขายังคงลูบคลำเนินอวบนูนของเธอเพื่อไม่ให้อารมณ์อีกฝ่ายหยุดลง"อือ..คุณ.."ศิลาไม่สนใจที่เธอห้าม แถมยังส่ายหน้าบอกเล็กน้อย เพื่อให้เธอรู้ว่าถึงยังไงเขาก็ไม่หยุด รอให้ลูกหลับสนิทก่อนเถอะ จะจัดการเธอให้สมกับความคิดถึง"อื้อ" พอนิ้วนั้นจมหายเข้าไปในร่อง หญิงสาวกลั้นเสียงไว้ไม่ได้อีก แต่เธอก็ไม่ได้ส่งเสียงออกมาแรง "อ่ะ อ่ะ" อารมณ์ของเธอเริ่มควบคุมไม่ได้เมื่อนิ้วนั้นขยับเร็วขึ้น"หือ" ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยเมื่อถูกมือเรียวลูบคลำที่เป้ากางเกง ยิ่งเธอเป็นคนรูดซิปเองด้วยแล้วเขายิ่งพอใจมากแต่เธอทำแค่นั้นแล้วก็หยุด เพราะเริ่มรู้ส
วันต่อมา..หลังการประชุมใหญ่จบลงพอออกมาจากห้องประชุม ตำรวจก็มารอรับตัวคนที่ทำผิดกฎหมาย หัวหน้าขบวนการที่ทำผิดกฎหมายในครั้งนี้ก็คือเอกมัย สิ่งที่ทำผิดคือสอดไส้สิ่งผิดกฎหมาย ไปกับสินค้าที่ส่งออก ซึ่งถ้ามีเส้นสายทางด้านนี้การตรวจสอบก็จะไม่เข้มงวด หรือถ้าเจอก็แค่ใช้เงินยัด"คุณคิดเหรอว่า ทำแบบนี้บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบ" ก่อนที่จะถูกนำตัวไป เอกมัยยังหันมาพูดข่มขู่ศักดินามองตามหลังเอกมัยที่ถูกกุมตัวไปแล้ว มันไม่เหมือนสิ่งที่คิดไว้ พอถึงเวลาจริงๆ ทุกอย่างโล่งมาก ไม่หนักอึ้งเหมือนตอนที่แบกไว้กับตัวเลยศักดินาปล่อยให้หน่วยตรวจสอบของรัฐบาลเข้ามาตรวจสอบบริษัท แล้วแต่การพินิจของเจ้าหน้าที่ ถ้าจะสั่งให้ปิดศักดินาก็ยอม เพราะเหนื่อยมากแล้ว"ผมจะช่วยพูดกับคุณพ่อให้อีกแรงครับ" กองทัพเห็นว่าท่านมีท่าทางที่คิดหนัก"อย่าลำบากท่านนายพลอีกเลย ปล่อยไปตามยถากรรมเถอะ""ขอบใจมึงมากนะเพื่อน" ศิลารู้ดีว่าพ่อรักบริษัทนี้มาก "ก็เราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนมีไว้ทำไมถ้าไม่ช่วยเพื่อน""ท่านคะ" เสียงนี้ดังแว่วเข้ามาผ่านฝูงชนที่มุงดูเหตุการณ์ศิลาหันไปมองพ่อว่าท่านมีท่าทียังไงเมื่อเจอ ขวัญชนก ซึ่งตอนนี้ท่านได้เซ็นใบหย่า
>>{"เมียพี่ไม่สบายเหรอ""} {"จะว่าไม่สบายก็ไม่เชิงหรอกพี่ พี่สะใภ้กินอะไรไม่ค่อยลง แถมบอกว่าอาหารเหม็น"}>>{"กินอะไรไม่ค่อยลงอาหารเหม็น? เราเอาอาหารค้างคืนมาให้พี่เขากินเหรอ"} {"เปล่าสักหน่อย อาหารเพิ่งจะตักออกมาจากกระทะร้อนๆ"}"เมื่อกี้มึงว่าอะไร ใครเหม็นอาหาร" กองทัพที่นั่งฟังอยู่ว่าศิลากำลังคุยเรื่องอะไร อดที่จะถามไม่ได้"ก็เมียกูน่ะสิ สงสัยจะไม่สบาย" ศิลาก็เลยวางสายไปจากน้องสาวก่อน"อาการเป็นยังไงบอกมาซิ""น้องสาวกูบอกว่ากินข้าวไม่ค่อยลง ตั้งแต่วันก่อนแล้ว" เพราะพวกเขาออกมาจากบ้านก็สามวันเข้าไปแล้ว"อาการแบบนี้เหมือนเมียกูเลย""เมียมึงก็เป็นเหรอ""เป็นสิ เป็นตอนมีตาทัพไท""อะไรนะ?""เมียไอ้ศิลาท้องเหรอ?" ซันเดย์ที่นั่งฟังอยู่ด้วยกันพูดขึ้นมาบ้าง"กูจะไปรู้กับเมียมันเหรอ กูแค่บอกอาการตอนที่เมียกูท้อง""กูกลับบ้านก่อนได้ไหม" ศิลานั่งไม่ติดที่เลยทีนี้ ถ้าหายตัวกลับตอนนี้ได้เขาคงทำไปแล้ว"มึงจะบ้าเหรอ พรุ่งนี้ประชุมสำคัญ""พวกมึงก็จัดการกันไปเองสิวะ""อ้าวไอ้นี่! นี่บริษัทพ่อมึงนะ"ศิลาหยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปอีกมุมหนึ่ง เพื่อโทรหาเธอ>>{"พ่อครับ"} โทรเข้าเครื่องของแม่ ลูกก็รับอีกอ
"พ่อขอโทษที่ส่งคนตามลูกกับเมียลูก แต่พ่อไม่ได้หวังร้ายเลย""ถึงพ่อไม่ได้หวังร้าย แต่คนที่ถูกตามรู้ไหมว่าเขาหวาดกลัว ผู้หญิงและเด็กแถมยังมีคนแก่ที่พิการ""พ่อคิดถึงหลาน" ศักดินาไม่ปล่อยให้ลูกต่อว่าไปเยอะกว่านี้แล้ว"อะไรนะครับ?""พ่อคิดถึงเทวิน""ผมไม่เชื่อ""ลูกก็รู้ว่าพ่อแสดงความรักออกมาไม่เก่ง""แล้วทำไมหลานถึงบอกว่ากลัวคุณปู่ล่ะ""คงเห็นพ่อขู่แม่แกมั้ง แต่ที่พ่อทำไปเพราะอยากกดดันให้เธอพาแกกลับมาที่บ้าน""พอเถอะศิลา" กองทัพคิดว่าศิลาคงเข้าใจพ่อผิดแล้ว คงเหมือนที่ท่านพูดว่าท่านแสดงความรักออกมาไม่ค่อยเป็น "เรามาหาทางคิดแผนต่อไปกันดีกว่า" นี่แหละที่ทุกคนไม่เข้าไปคุยเรื่องนี้ที่บ้าน เพราะหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง"พ่อต้องขอบใจเราอีกครั้งนะกองทัพ รวมถึงนายด้วย" ศักดินาหันไปหาลูกเขย"ผมหรือครับ" ซันเดย์คิดว่าตัวเองยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ขอบใจที่ดูแลริศา" นี่แหละอีกเหตุผลหนึ่งที่ท่านอยากให้สาริศาแต่งงานกับเสี่ยเคน เพราะเสี่ยเคนพอมีอำนาจที่จะมาช่วยเรื่องนี้ได้ ตอนนั้นท่านมองไม่เห็นใครแล้วจริงๆ"ผมปรึกษากับพ่อแล้วครับ ท่านบอกว่าจะช่วยเรื่องนี้""ท่านบอกอย่างนั้นเหรอ" คนที่ถามก็คือศิลา เพราะเขาเริ
ใช้เวลาขับรถอยู่ร่วมสามชั่วโมง ก็ได้มาถึงจุดหมายปลายทาง เพราะถนนช่วงนี้โล่งมาก"พ่อมึงมีญาณทิพย์เหรอวะ" ยังไม่ลงจากรถเลยด้วยซ้ำ ศักดินาก็เดินออกมาต้อนรับลูกและเพื่อนๆ ของลูก"ดูอบอุ่นดีนี่" ศักดินาเอ่ยทักทายคนที่เพิ่งลงมาจากรถ เพราะลูกชายไม่ได้มาแค่คนเดียว"สวัสดีครับ" เพื่อนทั้งสองยกมือไหว้ ถึงยังไงท่านก็เป็นพ่อของเพื่อนรัก แถมยังเป็นพ่อตาของซันเดย์ด้วย"ยินดีต้อนรับ ชวนเพื่อนเข้ามาข้างในสิลูก" ศักดินาเอ่ยพูดด้วยท่าทางสุขุมนุ่มลึกดูไม่มีพิษไม่มีภัยทั้งสามก็เลยเดินตามเข้าไปในบ้าน"น้ำค่ะ" ก้นยังไม่ถึงโซฟาเลยด้วยซ้ำ ขวัญชนกก็ยกน้ำมาบริการแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจน้ำเลย ขวัญชนกก็เลยนั่งลงข้างๆ คนที่เป็นสามี แต่สายตานั้นมองดูหนุ่มๆ ด้วยแววตาหวานหยดย้อย"ผมจะคุยธุระ คุณมีอะไรทำก็ไปทำ" ศักดินาพูดพร้อมกับมองดูคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เล็กน้อย"ท่านคะ""บอกว่าจะคุยธุระไง"ก่อนที่ขวัญชนกจะออกจากห้องนั้น สายตาได้มองไปที่ลูกน้องของท่านแบบรู้กันแค่สองคน"เราตัดสินใจแล้วใช่ไหมว่าจะมารับช่วงต่อจากพ่อ""ผมไม่ชอบงานบริษัท""ถึงไม่ชอบแกก็ต้องได้มารับช่วงต่อ เพราะแกคือลูกชายคนเดียวของฉัน""พ่อก็ยังแข็งแรง