ในรถหรูที่ขับอยู่บนท้องถนนยามเย็น สายตาของหญิงวัยกลางคน มองทอดออกไปข้างทางดูวิวทิวทัศน์ของเมืองหลวงอย่างเหม่อลอย ใจของเธอในตอนนี้รู้สึกวุ่นวายและสับสนไปหมด ตั้งแต่จบงานประมูลของบริษัทที่จัดขึ้นในคืนนั้น โสมนภาก็มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่า นาธานกับม่านฟ้าจะต้องมีความสัมพันธ์กันมากกว่าเจ้านายลูกน้องอย่างแน่นอน ใจหนึ่งเธอก็รู้สึกดีใจมาก ที่ลูกชายตัวเองมีคนรักกับเขาได้สักที แต่อีกใจหนึ่งเธอก็คิดว่าม่านฟ้านั้นไม่ค่อยเหมาะสม กับนาธานสักเท่าไหร่ เพราะหญิงสาวเป็นแค่พนักงานธรรมดาฐานะทางบ้านก็ไม่ดี ถ้าเทียบกับโรสลูกสาวของเพื่อนเธอแล้ว ก็ถือว่าต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยก็ได้โสมนภานั่งถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ทำไมลูกชายของเธอแต่ละคนถึงได้ชอบรัก กับลูกน้องตัวเองจังเลยนะ เธอรู้สึกกลัวซะจริง ๆ ว่าถ้าเข้าไป ก้าวก่ายชีวิตของนาธานมากกว่านี้ ประวัติศาสตร์อาจจะกลับไปซ้ำรอยเดิมอีกครั้งก็ได้“จอดรถ” “ครับ…มีอะไรหรือเปล่าครับคุณผู้หญิง” คนขับรถจอดรถตามคำสั่งแบบงง ๆโสมนภาพูดสั่งคนขับรถให้หยุดรถทันที เมื่อสายตาของเธอบังเอิญไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ดูคุ้นตานั่งอยู่ตรงป้ายรถเมล์ พอเธอเลื่อนกระจกลงมองดี ๆ อีกครั
ในห้องนั่งเล่นหลังเล็ก ร่างสูงเดินวนไปวนมารอบโซฟาไม่หยุด นาฬิกาข้อมือเรือนหรูถูกยกขึ้นมาดูติดกันถี่ ๆ ตามความกังวลของผู้เป็นเจ้าของ วันนี้ม่านฟ้าได้พาเด็ก ๆ ออกไปงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อน ที่พึ่งกลับมาจากต่างประเทศ เธอได้บอกกับนาธานเอาไว้แล้ว ว่าคืนนี้น่าจะกลับดึกนิดหน่อย เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาหาเธอที่บ้านก็ได้ เขาจะได้ไม่ต้องมาเสียเที่ยว เพราะเธอพาเพชรพลอยไปงานเลี้ยงด้วย“ไหนว่าจะกลับดึกนิดหน่อยไง…”เสียงทุ้มพูดบ่นพึมพำออกมาเบา ๆ ด้วยความหงุดหงิด ใบหน้าหล่อก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองในรอบที่ร้อยอย่างร้อนใจตอนนี้จะห้าทุ่มครึ่งอยู่แล้ว แต่ในบ้านยังไร้วี่แววเงาเจ้าของ นาธานที่ไม่อยากอยู่ห้องคนเดียว เลยตัดสินใจขับรถมาหาม่านฟ้าที่บ้านในตอนดึก เพราะคิดว่าเวลานี้เธอกับเด็ก ๆ น่าจะกลับมาถึงบ้านกันแล้ว แต่เขาคิดผิด เพราะตอนนี้จะเที่ยงคืนอยู่แล้ว ม่านฟ้ายังไม่พาพวกเด็ก ๆ กลับบ้านเลยตุ๊ด! ตุ๊ด! ตุ๊ด!นาธานกดโทรไปหาม่านฟ้าอยู่หลายครั้ง แต่ทางนั้นกลับไม่ยอมรับสายของเขาเลย มัวทำอะไรอยู่นะ ถึงได้ไม่ยอมรับโทรศัพท์ของเขาแบบนี้ ชายหนุ่มบ่นในใจได้ไม่นาน ปลายสายที่รอคอยก็มีเสียงพูดดังขึ้น“ฮัลโหลลลล” เ
บนท้องถนนในช่วงบ่ายแก่ ๆ พระอาทิตย์เริ่มเคลื่อนตัว ลงมาจนใกล้ลับขอบฟ้า รถหรูขับแล่นไปตามทางหลวง โดยมีจุดหมายคือร้านอาหาร ม่านฟ้าที่สภาพร่างกายยังไม่ค่อยดีนัก วันนี้เลยของดทำอาหารเย็นหนึ่งวัน ทุกคนเลยออกมาหาอะไรกินข้างนอกกัน โดยมีท่านประธานหนุ่มอย่างนาธานเป็นคนขับรถมาให้ใบหน้าสวยหันมองไปทางคนขับเป็นระยะ ๆ เหมือนต้องการจะพูดถามอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่กล้าพูดเอ่ยออกมา ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ เพราะคนขับเอาแต่ทำหน้าหงิกหงอใส่เธอมาแต่เช้าแล้ว ม่านฟ้าเลยไม่กล้าพูดอะไรมาก เดี๋ยวจะโดนนาธานพูดดุกลับมาอีก“มีอะไรจะพูด ก็พูดมา”นาธานสังเกตว่าม่านฟ้าหันมามองทางตัวเองหลายรอบแล้ว แต่ก็ไม่ยอมเอ่ยพูดอะไรออกมาสักที เขาเลยตัดสินใจพูดถามขึ้นก่อนซะเลย หันมามองอยู่ได้จะพูดอะไรก็ไม่พูด“เออ…คุณบอกว่าไปรับฉันที่ร้าน งั้นแปลว่าพวกเพื่อน ๆ ของฉัน ก็เห็นคุณกันหมดเลยสิคะ”ม่านฟ้าพูดเรื่องที่ตัวเองข้องใจออกไปในที่สุด เมื่อคืนเธอไปกินข้าวกับเพื่อน ๆ ถ้านาธานไปรับเธอกลับมาจริง ก็แปลว่าทุกคนต้องรู้เรื่องของเธอกับเขาหมดแล้วสิ“ถ้าพวกนั้นตาไม่บอด ก็คงเห็นกันอยู่มั้ง”นาธานพูดตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ เขาเดินไปอุ้มเธอกลางร
บ้านใหญ่ของคุณพ่อคุณแม่นาธานในห้องรับแขกกว้างใหญ่และเงียบสงัด หญิงวัยกลางคนนั่งมองดูรูปถ่ายในอดีต อยู่ที่โซฟาคนเดียวอย่างเหม่อลอย ในหัวมีแต่ภาพตอนที่นาธานยิ้มอยู่เต็มไปหมด นานเท่าไหร่แล้วนะ ที่เธอไม่ได้เห็นรอยยิ้ม ที่ดูมีความสุขแบบนี้ของลูกชายของตัวเองนาธานเป็นลูกชายคนเล็กของโสมนภา เมื่อก่อนถึงชายหนุ่มจะเป็นคนพูดน้อยมาก แต่สำหรับคนในครอบครัวแล้วเขาจะปฏิบัติต่างออกไป พูดคุยหัวเราะเล่นได้ตามปกติ แต่ทั้งหมดนี้มันก็เป็นช่วงเวลาก่อนที่จะเกิดเรื่องราวในวันนั้นขึ้น ในอดีตโสมนภาเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองมาก ด้วยความเป็นแม่อยากให้ลูกชายตัวเองได้รักกับคนดี ๆ และคู่ควรกับฐานะของตัวเองเลยได้พยายามจับคู่ลูกชายคนโตกับผู้หญิงที่ตัวเองหามาให้ แต่นาธินลูกชายของเธอกับปฏิเสธกลับ บอกว่ามีคนรักอยู่แล้ว พอโสมนภารู้แบบนั้นก็ได้ให้คนไปสอบประวัติผู้หญิงที่ลูกชายรักมา ทำให้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้น เป็นแค่พนักงานกินเงินเดือนคนหนึ่ง ที่ทำงานอยู่ในบริษัทตอนนั้น โสมนภาเลยไม่ยอมให้ลูกชายตัวเอง คบกับผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนั้น ทั้งสองเลยทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนเธอไปพลั้งพูดไล่ลูกชายตัวเองออกจากบ้านไปและวันนั้นก็เป็นวัน
ร้านอาหารในร้านอาหารหรูชื่อดังที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับบริษัทเครื่องประดับ โต๊ะมุมในสุดของร้าน มีผู้หญิงสองคนนั่งอยู่ ต่างคนต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมา ม่านฟ้าออกมาหาโสมนภาตอนที่นัดไว้ เพราะเธอไม่รู้ว่าคนตรงหน้าหน้าเรียกตัวเองออกมาทำไม เรื่องในวันนี้เธอก็เลยยังไม่ได้พูดบอกนาธานออกไป ม่านฟ้ารู้สึกว่านาธาน ตอนเวลาอยู่กับคุณแม่ของตัวเองจะชอบตึง ๆ อยู่ตลอด แล้วช่วงนี้งานที่บริษัทก็เยอะมากด้วย เธอเลยไม่อยากเอาเรื่องในวันนี้ไปกวนใจเขาอีก“คุณหญิงเรียกฉันมาที่นี่ มีอะไรหรือเปล่าคะ” ม่านฟ้าเอ่ยถามคนตรงหน้าออกมาเสียงเบาอย่างเกรง ๆ“ฉันมีของจะให้เธอ” โสมนภาทำหน้านิ่ง มองไปทางม่านฟ้าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นก็หยิบกระดาษใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าสตางค์“นี่คือ…?”ม่านฟ้าจ้องมองกระดาษบนโต๊ะที่โสมนภายื่นมาให้อย่างงง ๆ ‘เช็คเงินสด’ ใบหน้าสวยมองสลับไปมากับคนตรงหน้าอย่างไม่เข้า แล้วเอ่ยถามขึ้นอย่างงง ๆ นี่ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่นะ“ฉันว่าเธอก็เป็นผู้หญิงที่ฉลาดมากคนหนึ่งนะ งั้นก็น่าจะรู้ใช่ไหมว่าเธอกับนาธาน มันแทบจะไม่มีโอกาสที่จะไปด้วยกันได้เลย”โสมนภาเห็นม่านฟ้าทำสีหน้าไม่เข้าใจกับการกระทำของตัวเอง เลยเอ่ย
“ช่วงนี้เป็นอะไร นั่งเงียบไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาเลย” เสียงทุ้มเอ่ยพูดขึ้น เมื่อเห็นคนรักเดินเข้ามาในห้องนอน ในห้องนอนเล็กนาธานนั่งอยู่ปลายเตียง จ้องมองคนพึ่งเดินเข้ามาด้วยความกังวล เขารู้สึกว่าสองสามวันมานี้ ม่านฟ้าทำตัวแปลก ๆ ไปจากเดิม ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา แถมยังชอบนั่งเหม่อไม่มีชีวิตชีวาเอาซะเลย หรือว่าเธอจะมีเรื่องทุกข์อะไรอยู่ในใจ แต่ไม่กล้าบอกเขากันนะ“เปล่าคะ…ฉันง่วงแล้ว นอนก่อนนะคะ” ม่านฟ้าหันมองหน้าของนาธานแวบหนึ่ง ก่อนจะพูดปฏิเสธกลับไปม่านฟ้าล้มตัวลงนอนโดยไม่สนใจคนที่นั่งมองอยู่อีก สองสามวันมานี้ม่านฟ้ารู้สึกเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง สติสตางค์แทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในหัวของเธอคิดแต่เรื่องของนาธาน วนไปวนมาเป็นร้อยรอบพันรอบ ใจหนึ่งก็ไม่อยากจะจากชายหนุ่มไปไหน แต่อีกใจหนึ่งก็สั่งให้เธอตัดใจ จากชายหนุ่มไปซะ จนตอนนี้เธอรู้สึกหัวปวดไปหมดแล้ว“มาให้กอดหน่อย เดี๋ยววันพรุ่งนี้ผมก็ต้องเดินทางแล้ว”นาธานยกแขนของตัวเองดึงร่างเล็กที่นอนหันหลังอยู่ เข้ามาแนบอกหนาของตัวเอง ก้มหน้าซุกอยู่ที่คอขาวของเธอ เพื่อเก็บเกี่ยวกลิ่นหอมและสัมผัสนุ่มนิ่มของตัวเธอ เอาไว้ให้มากที่สุดพรุ่งนี้นาธานต้องเดินทางไปจ
เพล้งงง!!“โธ่เว้ยยย..!!”เสียงร้องโวยวายประสานกับเสียงขวดบรั่นดีกระแทกลงกับพื้น ดังก้องไปทั่วห้องทำงานของประธานหนุ่ม หลังจากที่นาธานกลับมาถึง ก็รีบขับรถตรงไปบ้านของม่านฟ้า แต่ทุกอย่างมันช้าเกินอยู่ดี เพราะที่บ้านไม่มีใครอยู่สักคนแล้ว นาธานพยายามออกตามหาไปทั่วอย่างไง ก็ไม่มีวี่แววของม่านฟ้าเลยสักที่ประธานหนุ่มนั่งยกมือขึ้นกุมขมับตัวเองอยู่ที่โซฟาอย่างจนปัญญา ใบหน้าที่เคยดูหล่อเหลาจนสาว ๆ ต้องตกตะลึง ตอนนี้กับดูหมองคล้ำและทรุดโทรมลงมากอย่างเห็นได้ชัด นาธานพยายามออกตามหาม่านฟ้าแทบพลิกแผ่นดิน แต่ก็ยังไร้ข่าวคราวของเธออยู่ดี เขาเรียกตัวเพื่อน ๆ ที่ทำงานอยู่แผนกเก่า ขึ้นมาถามหมดทุกคนแล้ว แต่พวกนั้นก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่รู้เท่าที่นาธานรู้มาม่านฟ้าเธอไม่มีญาติพี่น้องคนอื่นนี่นา แล้วถ้าอย่างงั้นตอนนี้หญิงสาวพาเด็ก ๆ ไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ ไม่ว่าเขาจะพยายามคิดมากเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก“เจ้านายผมว่าใจเย็น ๆ ก่อนดีกว่านะครับ”เจมส์เห็นสภาพของเจ้านายตัวเองแล้ว ก็อดเป็นห่วงขึ้นมาไม่ได้ เลยพูดเตือนออกไป เพราะเหมือนว่าตอนนี้นาธานจะเริ่มถอดใจ เรื่องการออกตามหาม่านฟ้า เปลี่ยนมานั่งดื่มเหล้าย้อมใจแทนซ
เมื่อดวงตะวันขึ้นสู่จุดสูงสุดในยามเที่ยง ท้องฟ้าไร้เมฆเผยให้เห็นสีครามเข้มข้น ตัดกับผืนน้ำสีฟ้าครามของทะเลที่ทอดยาวสุดสายตา ผิวน้ำระยิบระยับราวกับเพชรนับล้านเม็ด ที่กระจายอยู่บนผืนผ้าไหมอันกว้างใหญ่ ลมทะเลพัดโชยอ่อนโยนพัดพาละอองเกลือมาแตะริมฝีปาก ของผู้คนที่เฝ้ามองความงามตรงหน้าม่านฟ้านั่งมองดูวิวทิวทัศน์ตรงหน้าอย่างเหม่อลอย หาดทรายขาวละมุนบวกกับ เสียงคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ราวกับเพลงกล่อมที่ขับกล่อมให้ผู้คนผ่อนคลายและสงบสุข ม่านฟ้าพาเด็กมาอยู่ที่รีสอร์ตริมทะเลแห่งนี้ได้อาทิตย์กว่าแล้ว โดยให้เหตุผลกับเด็กทั้งสองว่ามาเที่ยวพักผ่อน“คุณแม่คา คุณแม่คา”เสียงร้องเรียกของเด็กน้อยดังขึ้น ทำให้คนที่นั่งเหม่ออยู่ตื่นจากภวังค์ ม่านฟ้าหันมองดูเด็ก ๆ ที่วิ่งมาหาตัวเองด้วยความตื่นเต้น ในมือเล็กของเด็กหญิงมีเปลือกหอยสีสวยสองสามอันวางอยู่“ดูนี่สิคะ สวยไหม” น้องพลอยแบมือที่มีเปลือกหอยให้คุณแม่ของตัวเองดู แล้วเอ่ยพูดขึ้นเสียงใส เด็กหญิงรู้สึกสนุกและชอบที่แห่งนี้มาก“ไหน ว้าว! สวยจังเลย”ม่านฟ้าก้มดูเปลือกหอยในมือน้องพลอย ก่อนจะพูดเอ่ยชมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พอได้เห็นหน้ามีความสุขของเด็ก
หลังจากผ่านเรื่องราวแย่ ๆ มาได้ นาธานเห็นว่าร่างกายของม่านฟ้า กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมแล้ว เขาก็จัดการประกาศสละโสด กับสื่อทุกที่ให้ได้รู้พร้อมกัน ทำให้ทุกคนโดยเฉพาะสาว ๆ ที่ทราบเรื่อง ต่างแตกตื่นและงุนงงกันไปหมด เพราะไม่คิดว่าหนุ่มฮอตอันดับหนึ่ง ที่ครองตัวเป็นโสดมาตลอด จะประกาศแต่งงานสายฟ้าแลบแบบนี้…งานแต่งงานของนาธานกับม่านฟ้าถูกจัดขึ้นอย่างอลังการ มีนักธุรกิจและคนดังมาร่วมกันมากมาย ทุกคนแต่เอ่ยปากพูดชมเป็นเสียงเดียวกัน ว่าคู่บ่าวสาวในค่ำคืนนี้ดูสวยหล่อ ราวกับว่าเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายที่ออกมาจาก โลกแห่งเทพนิยายกันก็ไม่ปาน ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกอิจฉาทั้งสองคนที่ได้ยืนเคียงคู่กัน…ส่วนโรสหลังจากเกิดเรื่องขึ้นที่โรงพยาบาลในวันนั้น นาธานกับม่านฟ้าก็ไม่ได้ข่าวคราวอะไรของเธออีกเลย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับครอบครัวของเขามาก บ้านใหญ่ของคุณพ่อคุณแม่นาธานนาธานที่พึ่งเลิกงานกลับมาก็เดินตรงเข้าไปห้องรับแขก ที่มีภรรยาแสนสวยของตัวเองนั่งรออยู่ทันที ตอนนี้นาธานได้ให้ม่านฟ้าออกจากงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะเธอท้องโตขึ้นทุกวัน เขาไม่อยากให้เมียตัวเองต้องเหนื่อยไปมากกว่านี้ เลยให้เจมส์รับสมัครหาเล
“ม่านฟ้าอยากกินอะไรไหม เดี๋ยวผมจะลงไปข้างล่างสักหน่อย”“เอาเป็นนมร้อนก็ได้ค่ะ”“โอเคครับ”เสียงทุ้มของนาธานเอ่ยถามเมียรักอย่างเอาใจ วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ม่านฟ้าจะพักอยู่โรงพยาบาลแล้ว ตอนที่เธอได้ยินคุณหมอพูดบอก ม่านฟ้ารู้สึกดีใจมาก เพราะเธอเบื่อที่จะนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่แบบนี้แล้ว ถึงวันหยุดเพื่อน ๆ ที่ทำงานจะวนเวียนมาเยี่ยมเยียนเธอบ้าง แต่ก็อยู่กันได้ไม่นาน เพราะทุกคนรู้สึกเกร็งและประหม่ามาก ที่ต้องมานั่งอยู่ในห้องเดียวกับนาธาน ที่เป็นเจ้านายของตัวเองนาธานลงลิฟต์มาชั้นหนึ่งที่มีคาเฟ่ขายเครื่องดื่ม แต่พอประตูลิฟต์เปิดออก เขาที่กำลังอารมณ์ดีอยู่นั้น ก็ต้องแปลงเปลี่ยนเป็นอารมณ์ขุ่นมัวขึ้นมาทันที เมื่อได้เห็นผู้หญิงสองคนที่ กำลังยืนรอขึ้นลิฟต์อยู่ตรงหน้าตัวเอง“พี่นาธาน”“พ่อธาน”ปิรดากับโรสพึมพำชื่อของคนในลิฟต์ออกมาด้วยความตกใจ เพราะพวกเธอไม่คิดว่าจะได้เจอกันนาธานที่นี่แบบนี้“คุณป้า โรส”นาธานพูดชื่อของทั้งสองคนออกมาเสียงเรียบ ใบหน้านิ่งเฉยไม่แสดงอารมณ์อะไร สายตาเย็นยะเยือกมองจ้องไปทาง ที่โรสยืนอยู่อย่างอดไม่ได้ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นในวันนั้น นาธาน ก็ไม่ได้เจอทั้งสองนี้อีกเลย ถึงเขาจะได
“ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันแล้ว ไม่จริง!”“หนูโรสพอเถอะลูก”โสมนภาที่นั่งฟังโรสพูดอยู่นาน ก็เอ่ยขัดขึ้นอย่างเหนื่อยหน่ายใจ เธอรู้ดีว่าโรสก็ชอบลูกชายตัวเองมากเหมือนกัน แต่เรื่องพวกนี้มันจะต้องสมยอมและชอบกันทั้งสองฝ่าย เรื่องทั้งหมดมันถึงจะไปต่อได้ โสมนภารู้ดีว่า อย่างไงเรื่องของโรสกับนาธานมันก็ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ เพราะลูกชายของเธอแสดงออกชัดเจน ว่าไม่สนใจหนูโรสตั้งแต่วันแรกที่เจอกันแล้ว“คุณน้า นี่คุณน้ายอมให้ผู้หญิงจน ๆ คนนี้เข้ามาอยู่ในบ้านอย่างงั้นเหรอคะ”โรสรีบหันหน้าไปพูดถามโสมนภา เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าผู้หญิงคนนี้มันมีอะไรดีนักหนา ถึงทำให้พี่นาธานและคนในบ้านรักได้มากขนาดนี้“หนูม่านฟ้าเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของบ้านนี้ แล้วทำไมถึงจะเข้ามาที่อยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้ล่ะ”โสมนภาพูดตอบโรสกลับตามที่ตัวเองคิด ไม่นานเดี๋ยวม่านฟ้าก็จะแต่งงานกับลูกชายของเธอแล้ว ถึงตอนนั้นก็ต้องย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นจะย้ายเข้ามาอยู่ ไวหน่อยมันจะเป็นไรไปโสมนภาเริ่มหมดความอดทนกับโรสขึ้นมาเรื่อย ๆ ตอนแรกเธอก็รู้สึกชอบและเอ็นดูอยู่ลูกสาวเพื่อนคนนี้มาก เลยได้พยายามคอยช่วยให้ได้เข้าหาลูกชายตัวเอ
“อุ๊ย! ทำอะไรกันอยู่จ๊ะเนี่ย”“คุณน้าโสม ทุกคน สวัสดีค่ะ”ทุกคนหันมองไปตามเสียงก็เห็นแขกไม่ได้รับเชิญสองคน กำลังปั้นหน้ายิ้มหวานเดินเข้ามา ม่านฟ้าแอบชำเลืองมองไปทางนาธานอยู่แวบหนึ่ง เพื่อดูปฏิกิริยาของเขาว่าเป็นอย่างไง เพราะหลังจากเกิดเรื่องในวันนั้น นาธานก็ดูจะไม่ชอบทั้งสองคนนี้มากขึ้นกว่าเดิม เธอกลัวว่าเขาจะอดอาละวาดใส่ทั้งสองคน เพราะเรื่องในวันนั้นไม่ได้จริง ๆปิรดากับโรสเดินเข้ามาในห้องรับแขกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม วันนี้ทั้งสองตั้งใจว่าจะมาพูดคุย และถามเรื่องของนาธานกับโสมนภาสักหน่อย ว่าตอนนี้ไปถึงขั้นไหนกันแล้วบ้าง แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอนาธานกับม่านฟ้าอยู่ที่นี้ด้วย สองแม่ลูกฉีกยิ้มหวาน เดินเข้ามาหาทุกคนที่โซฟาเหมือนกับทุกครั้งปริดากับโรสที่ยังไม่รู้เรื่อง ที่ม่านฟ้าเคยหนีนาธานไปเพราะตัวเอง ทำให้ทั้งสองคนยังไม่รู้ถึงอารมณ์ขุ่นเคืองในตา ของนาธานที่นั่งจ้องมองอยู่ในตอนนี้ ทำเรื่องแบบนั้นเอาไว้ ยังกล้ามาบ้านของเขาอีกนะ“วันนี้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเลยนะจ๊ะ” ปิรดาเอ่ยทักทายออกไปอย่างเป็นกันเอง โดยที่ไม่รู้ถึงความผิดปกติอะไร“คุณน้าคะ โรสซื้อขนมเจ้าประจำที่คุณน้าชอบมาฝากค่ะ” โรสวางถุงข
“ฮือออ…ฮือออ”เสียงร่ำไห้เสียใจของผู้เป็นแม่ ยังคงดังก้องออกมาไม่ขาดสาย ถึงจะได้คำพูดปลอบใจจากม่านฟ้ามา แต่โสมนภาก็ยังอดโทษตัวเองไม่ได้ ว่าการตายของทั้งสองคนตัวเองก็มีส่วนด้วยครึ่งหนึ่งอยู่ดีโสมนภานั่งทรุดอยู่กับพื้น ร้องไห้ออกมาอย่างหนักไม่สนใจใครอีก จนมีคนเดินเข้ามายืนข้าง ๆ เธอ แล้วเอ่ยพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง…“คุณหญิงร้องไห้ทำไมคะ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”น้องพลอยที่เห็นโสมนภานั่งร้องไห้อยู่ ก็เดินเข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง เด็กหญิงพูดถามออกไป พร้อมก้มมองสำรวจดูตัวของโสมนภาไปด้วย ว่ามีบาดแผลตรงไหนหรือเปล่า ดูท่าท่านจะต้องรู้สึกเจ็บมากแน่ ๆ ถึงได้ร้องไห้ออกมาแบบนี้“ไม่ร้องนะครับ…เดี๋ยวให้คุณอาธานพาไปหาคุณหมอกัน” น้องเพชรเดินเข้าไปยืนใกล้ ๆ อีกคน พร้อมกับเอ่ยพูดปลอบออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อเด็กชายคิดว่าที่โสมนภาร้องไห้อยู่นั้น อาจจะเพราะรู้สึกไม่สบายมาก เหมือนตอนที่ตัวเองเคยเป็น พอคุณแม่พาไปหาคุณหมอเขาก็รู้สึกดีขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าโสมนภาได้ไปหาคุณหมอจะต้องดีขึ้นเหมือนกันแน่ ๆ“น้องเพชรน้องพลอย…!!”ม่านฟ้าที่เห็นเด็กทั้งสองยืนเข้าไปหาโสมนภาแบบนั้น ก็คิดจะเข้าไปพาตัวออกมา แต่ก็ถูกนา
ในยามเช้าเมื่อดวงตะวันโผล่พ้นขอบฟ้า แสงสีทองอร่ามก็สาดส่องไปทั่วบริเวณวัด ผู้คนชายหญิงคนแก่หนุ่มสาวต่างทยอยเข้ามาทำบุญที่วัด รวมถึงม่านฟ้าเด็ก ๆ นาธานและครอบครัวของเขา ต่างพากันเดินทางมาที่วัดกันตั้งแต่เช้าตรู่หลังจากที่ม่านฟ้าได้เอารูปถ่ายของพี่เขยตัวเอง ให้นาธานและทุกคนได้ดู สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปกันทันที ตอนนั้นม่านฟ้ายังไม่ค่อยเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น จนได้ยินนาธานพึมพำเรียกชื่อของคนในรูปออกมา ‘พี่นาธิน’ เลยทำให้ม่านฟ้ารู้ว่าผู้ชายในรูปคือพี่ชายของนาธาน ที่ออกจากบ้านไปเมื่อหลายปีก่อนนั้นม่านฟ้าไม่คิดเลยจริง ๆ ว่า คนรักของพี่สาวเธอ ที่อยู่กินกันมาตั้งหลายปี จะเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของนาธาน เรื่องทุกอย่างมันดูบังเอิญมากจริง ๆม่านฟ้าพาทุกคนเดินลัดเลาะไปตามทาง จนมาถึงบริเวณหลังวัด ซึ่งเป็นสถานที่เก็บอัฐิของญาติที่เสียชีวิตของชาวบ้านแถวนี้ และรวมไปถึงเป็นที่เก็บอัฐิของพี่สาวพี่เขยของเธอด้วยสายลมอ่อน ๆ พัดเข้ามาปะทะใบหน้า ทำให้รู้สึกเย็นไปทั่วใบหน้า แต่ดวงตาคู่สวยมันกลับรู้สึกร้อนแสบขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ จนเก็บกั้นน้ำตาเอาไว้แทบไม่อยู่ ม่านฟ้าพานาธานกับครอบครัวของเขา มาหยุดอยู่ที่เก็บ
คลื่นทะเลซัดสาดเข้าฝั่งเป็นจังหวะราวกับเสียงดนตรี ทำให้ทุกคนที่ได้ยินรู้สึกสงบและผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน โต๊ะอาหารริมทะเล ที่มีแสงแดดอ่อน ๆ ของยามเย็นสาดส่องลงมา ทำให้บรรยากาศของอาหารมื้อนี้ดูพิเศษมากขึ้น โสมนภารู้สึกผิดกับเรื่องที่ตัวเองทำลงไป เย็นวันนี้เธอเลยของจัดโต๊ะอาหารเลี้ยงม่านฟ้าหนึ่งมื้อ เพื่อเป็นการขอโทษที่เธอพูดไม่ดีออกไปในวันนั้นนาธานพาม่านฟ้ากับเด็ก ๆ มานั่งกินอาหารเย็นที่คุณแม่ตัวเอง ได้จัดเตรียม ตามที่ท่านขอเอาไว้ ถึงตอนนี้นาธานจะยังรู้สึกเคือง ๆ โสมนภาอยู่นิดหน่อยก็ตาม แต่ถึงยังไงท่านก็เป็นแม่ของตัวเอง และดูท่านจะรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดมากเหมือนกัน นาธานเลยขี้เกียจมีปัญหากับท่านอีก แล้วเขาก็อย่างให้ท่านกับม่านฟ้าได้พูดปรับความเข้าใจกันด้วย เพราะถึงเขาจะพูดบอกม่านฟ้าไปบ้างแล้ว แต่ด้วยนิสัยคิดมากของเธอ นาธานอยากให้ทั้งสองคุยกันเองมากกว่า“นี่จ้ะ ฉันต้องขอโทษหนูด้วยนะ ที่วันนั้นพูดแย่ ๆ ใส่หนูนะ ม่านฟ้า” โสมนภาตักอาหารใส่จานให้ม่านฟ้า แล้วพูดขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไปอีกครั้งโสมนภารู้สึกดีใจมากที่วันนี้นาธานหาตัวม่านฟ้าเจอ เพราะถ้าหาไม่เจอขึ้นมาจริง ๆ เธอคงจะรู้สึกผิดและโท
“แต่งงาน! นี่คุณพูดเรื่องอะไรของคุณ ม่านฟ้า”นาธานที่นอนกอดม่านฟ้าอยู่ ก็ดีดตัวลุกขึ้นมานั่งด้วยความตกใจ แล้วหันไปมองหน้าม่านฟ้าด้วยความไม่เข้าใจ แต่งงานบ้าบออะไร เขาไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย“ก็คุณโรสบอกฉันว่าครอบครัวของพวกคุณ คุยตกลงเรื่องแต่งงานกันแล้วนี่ค่ะ”ม่านฟ้าพูดขึ้นพร้อมดึงผ้าห่มขึ้นมาติดร่างเปลือยของตัวเอง แล้วค่อย ๆ ขยับนั่งพิงที่หัวเตียง ก็คุณโรสพูดบอกเธอมาแบบนั้นจริง ๆ นี่นา “ไร้สาระ…ถามจริง ๆ นะม่านฟ้า นี่คุณเชื่อคำพูดที่ออกจากปากของผู้หญิงคนนั้นด้วยเหรอ”พอนาธานได้ยินชื่อของโรสออกจากปากของม่านฟ้า ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเมียของเขา จะต้องถูกผู้หญิงคนนั้น พูดเป่าหูมาอีกคนอย่างแน่นอน“อีกอย่างคุณพูดไว้เองไม่ใช่เหรอคะ ว่ากลับต่างประเทศมีเรื่องจะบอกฉันนะ แล้วมันไม่ใช่เรื่องนี้หรอกเหรอ”ม่านฟ้าเถียงกลับอย่างไม่ยอม ก็คืนนั้นเขาเป็นคนบอกเธอเอง ว่ากลับมาแล้วมีเรื่องจะพูดด้วย ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้แล้วมันจะเป็นเรื่องอะไรไปได้อีกล่ะจริงไหม“บ้าไปแล้ว…นี่คุณเอาสมองส่วนไหนคิดเนี่ยม่านฟ้า”นาธานอย่างจะบ้าตายกับความคิดของเมียตัวเอง นี่เธอเอาเรื่องที่คุณแม่กับโรสพูด มารวมกับเรื่องของเขาได้อย่างไ
ปัง!!เสียงประตูถูกปิดลงพร้อมกับความเงียบที่คืบคลานเข้ามา นาธานม่านฟ้ายืนนิ่งไม่มีใครเอ่ยพูดอะไร ทั้งห้องเงียบสนิทจนแทบได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน นาธานหันหน้ามามองม่านฟ้าด้วยสายตาขุ่นเคือง“เงียบทำไม ตอนนี้ทำเป็นไม่กล้าสู้หน้า…แล้วตอนคิดหนีทำไมไม่คิด”นาธานยืนจ้องมองคนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองหน้าตัวเอง เสียงทุ้มเอ่ยพูดว่าคนตรงหน้าออกไปอย่างเหลืออด ตอนที่คิดหนีเขาไม่เห็นกลัว ทีอย่างนี้ทำมาเป็นยืนตัวสั่นกลัวเขานะนาธานเห็นม่านฟ้าเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จาตอบโต้ตัวเอง เลยกระชากมือข้างที่จับแขนหญิงสาวเข้าหาตัว จนเธอเซมาซบที่อกหนาของตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ“คุณนาธาน…ฉันเจ็บนะคะ” ม่านฟ้าเงยหน้าพูดต่อว่าคนที่ดึงตัวเธอเข้ามากอดอย่างอดไม่ได้“ไม่ต้องมาทำเป็นบ่น…เจ็บแค่นี้มันเทียบอะไรไม่ได้ กับสิ่งที่คุณทำไว้กับผมเลยด้วยซ้ำ” นาธานพูดว่าคนที่ทำหน้าบูดบึ้งใส่ตัวเองกลับ ทำมาเป็นร้องโวยวายว่าเขา ทั้งที่เธอเป็นคนทำผิดก่อนแท้ ๆ“ว้ายยย!!…คุณนาธานนี่คุณจะทำบ้าอะไร ปล่อยฉันลงนะ คุณนาธาน!”นาธานขี้เกียจต่อปากต่อคำกับม่านฟ้าอีก เขาเลยจัดการอุ้มเธอขึ้นแนบอก แล้วก้าวเดินไปที่เตียง โดยทำเป็นไม่ได้ยินเสี