มาร์ลิกซ์จับมือพายูริวิ่งออกจากโกดังทะลุมาถึงท่าเรือโดยมีนาธาร์และลูกน้องอีกจำนวนหนึ่งตามมาติดๆ ปัง!นาธาร์ยกปืนยิงสะกัดเพื่อไม่ให้มาร์ลิกซ์หนีไปได้ มาเฟียหนุ่มจับยูริไปไว้หลังตัวเอง ถึงแม้ตอนนี้กระสุนปืนจะหมดแล้วแต่ใจยังสู้อยู่ สายตาคมเข้มมองนาธาร์ที่กำลังยกปืนเล็งมายังตัวเองพร้อมกับสาวเท้าเดินเข้ามาหาเรื่อยๆ“มึงคิดว่าจะหนีพ้นเหรอ” นาธาร์ยิ้มเหี้ยม ตอนนี้มาร์ลิกซ์กำลังจนมุมไม่มีทางหนีรวมถึงไม่มีอาวุธในมือด้วย นั่นจึงทำให้นาธาร์มองว่าตัวเองกำลังได้เปรียบอีกฝ่าย“ทางเดียวที่มึงกับคนรักจะหนีจากที่นี่ไปได้ ก็คือความตายเท่านั้น”ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นห่วงตัวเองเลยสักนิด เพราะคนที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดก็คือยูริ “ถ้าอยากฆ่ากูก็ปล่อยยูริไป และฆ่ากูแค่คนเดียวพอ”“หึ คงจะรักกันมากสินะ ถึงขนาดยอมตายแทนกันได้ ก็ดี จะได้ส่งไปลงนรกพร้อมกันทั้งมึง แฟนมึง แล้วก็…แม่ของแฟนมึง!”สิ้นคำพูดของนาธาร์ เจย์สันก็จับเรญาโยนลงพื้นอย่างไม่มีคำว่าอ่อนโยน ยูริเห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งไปประคองคนเป็นแม่ด้วยความเป็นห่วง “แม่เจ็บตรงไหนไหม…” เพราะความเป็นห่วงแม่มาก จึงทำให้เธอเผลอหลุดปากเรียกเรญาว่า ‘แม่’ และดูเหมือนอีกฝ่
“แม่ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกความจริงอะไรให้ลูกฟังเลย แม่เองก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่ต้องปิดบังลูกกับโรมัน” สีหน้าเรญาแสดงอย่างเห็นได้ชัดว่ารู้สึกผิดที่ต้องปิดบังความจริงจากลูกสาวว่าตัวเองคือแม่แท้ๆ “แม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปิดบังหนูกับน้องคะ?” เธออยากรู้เหตุผลของแม่มาก ว่าปิดบังเรื่องใหญ่แบบนี้ไว้ทำไม“เพราะความปลอดภัยของลูกกับโรมันไง แม่ถึงเลือกทำแบบนี้ แม่ปิดบังตัวตนของพวกลูกให้พ้นจากนาธาร์ แม่อยากรอให้เรื่องทุกอย่างมันผ่านพ้นไปด้วยดีก่อน แล้วค่อยเข้ามาสารภาพความจริงกับลูกทีหลัง แต่ลูกดันรู้ความจริงซะก่อน”“…” ถ้าถามว่าโกรธแม่ไหม บอกตรงๆ ว่าไม่โกรธ ที่แม่ทำไปทั้งหมดเพราะมีเหตุผล และทำลงไปก็เพื่อความปลอดภัยของเธอกับโรมัน แม้หลายปีที่ผ่านมาถูกพ่อปลูกฝังมาโดยตลอดว่าแม่ตายแล้ว ทว่าตอนนี้เหมือนเธอได้เกิดใหม่มาเจอแม่อีกครั้ง ไม่โกรธที่แม่ทำแบบนี้ แต่ดีใจมากกว่าที่แม่กลับมา“โกรธแม่มากไหมยูริ” เรญาเลื่อนมือไปวางมือลูกสาวพร้อมเอ่ยถาม“ดีใจมากกว่าอีกที่ได้แม่คืนมา” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มองคนเป็นแม่ผ่านม่านน้ำตาคลอ“หนูคิดถึงแม่มากเลยรู้ไหมคะ ฝันถึงแม่ทุกคืน คิดถึงอ้อมกอดอุ่นๆ ของแม่ด้วยเหมือน
“ถ้ายังไม่เข็ดกับการท้าทาย เดี๋ยวคืนนี้จะทำให้จำไม่ลืม” น้ำเสียงเย็นเยียบที่เปล่งออกมาพลอยทำให้คนฟังรู้สึกขนลุกซู่ ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนออกจากกกหูหญิงสาวมายังซอกคอระหง กลิ่นหอมหวานคุ้นเคยที่สูดดมเข้ามาเริ่มปลุกปั่นอารมณ์กำหนัด ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดลงต้นคอทำหัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นส่ำ “จะทำตอนนี้เลยเหรอคะ?”“ฉันไม่ไหวแล้ว…” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้น ตรงกลางกายมันปวดหนึบจนรู้สึกทรมาน ทางเดียวที่จะช่วยทำให้ดีขึ้นก็คือต้องปลดปล่อยเท่านั้น“ไว้วันหลังได้ไหมคะ วันนี้คุณมาร์ลิกซ์เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว หนูอยากให้…” คำพูดของเธอกลืนหายไปกับรสจูบแสนร้อนแรง เขาไม่รอให้เธอพูดจบ บดคลึงจูบลงมาโดยไม่เว้นช่องว่างให้เธอได้หายใจหายคอกันเลย“ฉันไม่สน เพราะฉันจะเอาเธอวันนี้” เขาลากยูริเดินไปยังโซฟาสีดำ ก่อนจะผลักเธอลงแล้วทำการถอดกางเกงสีเข้มออก เหลือไว้เพียงเสื้อเชิ้ตสีดำตัวเดียว มือใหญ่เลื่อนลงไปชัดรูดแก่นกายขนาดใหญ่ผองขยายเต็มแน่นเตรียมพร้อมสำหรับการมีเซ็กซ์สองสามครั้ง จากนั้นโน้มตัวลงไปถอดกางเกงยูริออกจนส่วนล่างเปลือยเปล่า จากนั้นสอดใส่ความใหญ่โตเข้าไปอย่างรวดเร็ว สวบบบ “อื๊อ!!!” ความเสียวซ่านวิ่งปรา
“คุณมาร์ลิกซ์อยากมีลูกเหรอคะ?”“ใช่ ฉันอยากมีลูกกับเธอหรือเธอยังไม่พร้อมมีลูก?““หนูก็อยากมีค่ะ แต่ว่า…ยังไม่อยากมีตอนนี้”“ทำไม?” มาร์ลิกซ์ถามขึ้นหลังจากเงียบไปสองนาน “หนูเข้าใจคุณมาร์ลิกซ์นะคะ แต่ว่าหนูเองก็…อยากเรียนต่อเหมือนกัน” เธอเริ่มเปิดใจคุยกับเขาตรงๆ “แม่ของหนูถามว่า หนูอยากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศไหม และหนูยังไม่ได้ให้คำตอบแม่ แต่ลึกๆ แล้วหนูก็อยากเรียนต่อเหมือนกัน หนูอยากลองสัมผัสชีวิตในรั้วมหา’ลัยดูสักครั้ง” ที่ผ่านมาเธอไม่เคยสัมผัสชีวิตของการเป็นนักศึกษาเลย เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว เธอก็ไม่อยากปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป “คุณมาร์ลิกซ์…”“งั้นก็หมายความว่าเราต้องห่างกันน่ะสิ” “ห่างไม่นานเดี๋ยวก็เจอกันค่ะ”มาร์ลิกซ์ถอนหายใจออกมาและเบือนหน้ามองไปทางอื่น แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่อยากให้ยูริไปเรียนต่อต่างประเทศ เพราะมันทำให้ทั้งคู่ต้องห่างกัน“ฉันไม่อยากให้เธอไป เรียนที่ไทยก็ได้นิ”“หนูอยากลองไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่อื่นดูบ้าง ไม่กี่ปีเอง ถ้าปิดเทอมแล้วหนูก็บินกลับมาหาคุณมาร์ลิกซ์ที่ไทยเหมือนเดิมไงคะ หรือถ้าคิดถึงหนู คุณมาร์ลิกซ์บินไปหาหนูที่นั่นก็ได้”เขาสัมผัสได้ว่ายูริอยากไปเรียนต่
“อดีตรักแรกตามมาถึงที่ขนาดนี้ น่าจะอยู่คุยต่ออีกสักหน่อยนะคะ” คำพูดและน้ำเสียงเชิงประชดประชันทำให้มาร์ลิกซ์ที่กำลังยกเครื่องดื่มขึ้นดื่มชะงักและหันไปมองแฟนสาวซึ่งยืนกอดอกมองมายังตัวเองด้วยสายตาไม่พอใจ “เมลดามาคุยเรื่องธุรกิจ ฉันไม่ชอบ ฉันก็ปฏิเสธไปตรงๆ จะนั่งคุยกันยืดเยื้อให้เสียเวลาทำไม”“แต่ดูเหมือนคุณเมลดาเขาอยากคุยกับคุณมาร์ลิกซ์ต่อนะคะ”“หึงเหรอ?”“ลองมาเป็นหนูดูไหม ใครบ้างจะไม่หึง”มาร์ลิกซ์อมยิ้ม ก่อนจะวางแก้วเหล้าลงเคาน์เตอร์บาร์และเดินเข้าไปกอดแฟนสาวที่กำลังยืนทำหน้าบูดบึ้งอยู่ “เมลดาคืออดีตที่ผ่านมาแล้ว ส่วนคนนี้…คือปัจจุบัน และอนาคต” ฟอดด“อื๊อ!! มาหอมแก้มหนูทำไม” เธอยกมือขึ้นมากุมแก้มข้างที่โดนเขาหอมไปเมื่อกี้“เดี๋ยวนี้หวงตัวเหรอหืม หอมนิดหอมหน่อยไม่ได้?” “หนูไม่ได้หวงตัวสักหน่อย” “แต่ว่ากำลังงอน?”“เปล่า…” “โกหกผัวตัวเองมากๆ ระวังจมูกยื่นยาวออกมาเหมือนพีน็อคคีโอนะ”“หนูก็แค่ไม่ชอบที่คุณเมลดามาหาแฟนของหนู ยังไม่ไปเรียนต่อต่างประเทศยังมาหาถึงที่ขนาดนี้ ถ้าหนูไม่อยู่แล้วคงมาหาแฟนหนูทุกวัน!”“พบเด็กขึ้หึง1อัตรา”“ปล่อยหนูเลย ไม่อยากคุยกับคุณเล่า!” “อย่างอแงสิ ขอกอดหน่
วันต่อมา“อื้อ…” เจย์สันเริ่มส่งเสียงดังในลำคอออกมาเบาๆ หลังจากนอนไม่ได้สติมาหลายอาทิตย์ แวนด้าที่ฟุบหลับอยู่ข้างๆ ตื่นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงครางในลำคอ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งด้วยความตื่นเต้น “พี่เจย์สัน…” เธอเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมทั้งยิ้มออกมาอย่างดีใจ ในที่สุดเขาก็ฟื้นสักที เจย์สันนอนมองแวนด้านิ่งๆ เพราะเธอคือคนแรกที่เขาฟื้นขึ้นมาแล้วเจอ ความรู้สึกแรกที่วิ่งปราดเข้ามาเล่นงานหลังจากฟื้นก็คือ ความปวดร้าวตามร่างกายและบาดแผลบริเวณที่ถูกยิง “แวนด้าจะไปบอกคุณมาร์ลิกซ์ตามหมอมาดูอาการพี่เจย์สันนะคะ”หมับ!เจย์สันคว้าแขนแวนด้าไว้ ทำให้หญิงสาวชะงักและหันกลับไปมองเจ้าของการกระทำดังกล่าว“คะ?”“เราอยู่เฝ้าพี่เหรอ” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ “ใช่ค่ะ เดี๋ยวมานะคะ ขอไปบอกคุณมาร์ลิกซ์ก่อนว่าพี่เจย์สันฟื้นแล้ว” เธอดึงมือเขาออกและเดินออกไปจากห้องพักฟื้นของเจย์สัน เพื่อบอกมาร์ลิกซ์เรียกหมอมาดูอาการของเขา บอกตามตรงว่าเธอตื่นเต้นและดีใจจนทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ผ่านไปไม่นานหมอก็มาดูอาการเจย์สันโดยมีแวนด้า มาร์ลิกซ์ และยูริยืนดูอยู่ห่างๆ เมื่อหมอรายงานทุกอย่าง
“นายเรียกหาผม มีธุระอะไรเหรอครับ” ควินต์เดินเข้ามาหาเจ้านายที่นั่งไขว้ห้างดูงานบนไอแพดอยู่โซฟาในห้องนั่งเล่น มาร์ลิกซ์ขยับริมฝีปากพูดโดยสายตายังคงมองงานตรงหน้า“เลื่อนประชุมของบ่ายวันนี้ออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด”“ทำไมเหรอครับ?” ควินต์เลิกคิ้วขึ้นสูงและเอ่ยถาม ประชุมบ่ายนี้สำคัญมากแต่เจ้านายกลับเลื่อนออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด“เมียกูไม่สบาย กูไม่อยากทิ้งเธอไว้คนเดียว” เขาเงยหน้าตอบควินต์ เมื่อคืนยูริคลื่นไส้อาเจียนเกือบทั้งคืนจนไม่ได้นอน แถมเมื่อเช้ายังเป็นอีกตั้งหลายรอบ มิหนำซ้ำเมื่อเช้ายังกินอะไรไม่ได้ บอกว่าจะพาไปหาหมอก็ดื้อไม่ยอมไป พอโดนบังคับกลับงอนใส่จนป่านนี้ยังไม่คุยกับเขาเลย เป็นห่วงก็เป็นห่วง แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเธอไม่ยอม และเขาก็ไม่อยากบังคับเธอมากด้วย “ให้ผมเรียกหมอมาดูอาการไหมครับ?”“เมื่อเช้ากูบอกว่าจะพาไปหาหมอก็ไม่ยอมไป ตอนนี้งอนกูหนักมากจนไม่ยอมคุยกับกู” รอบนี้งอนเขาหนักมาก เอาของกินไปง้อก็ไม่สำเร็จ พยายามง้อทุกวิถีทาง ขอโทษก็แล้ว แต่เธอไม่ยอมหายงอนง่ายๆ ตอนนี้เขาจนปัญญาแล้วจริงๆ“มึงเคยมีแฟนมาก่อน เวลาแฟนมึงงอนหนักๆ มึงง้อยังไง?”“ผมก็ไม่รู้ว่าวิธีของผมจะทำให้นายง้อค
“ทำข้าวต้มมาให้ค่ะ” เจย์สันนั่งพิงหัวเตียงมองแวนด้าที่ยกข้าวต้มมาให้ ตอนนี้กลับมารักษาตัวอยู่บ้านโดยมีแวนด้าตามมาดูแล ตอนแรกเธอไม่ยอมมา แต่เจย์สันขอยูริให้ช่วยพูดจนสุดท้ายแวนด้าก็ยอมมาดูแล หญิงสาวเดินไปเปิดผ้าม่านสีดำออกจนแสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอน “ทำไมไม่กินล่ะคะ” เธอหันไปถามเจย์สันหลังจากเปิดผ้าม่านออกเสร็จแล้ว “ข้าวต้มนั่นแวนด้าทำเองนะคะ ไม่ได้บอกแม่ครัวทำ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะอร่อยถูกปากพี่ไหม”“พี่ยังไม่ค่อยหิว”“แต่พี่ต้องกินยานะคะ”“ไม่เป็นไร กินยาเลยก็ได้” เธอมองเขาอย่างรูัทัน เจย์สันมักใช้แผนการนี้เพื่อให้เธอป้อนข้าว อ้างทุกวันว่าไม่ค่อยหิว แต่พอเธอป้อนก็กินจนหมดเกลี้ยง วันนี้ก็คงอยากให้เธอป้อนข้าวอีกเช่นเคย“ถ้าแวนด้าป้อนพี่จะกินไหม?”“กิน” เขาตอบอย่างไม่ลังเล แวนด้าเดินมานั่งลงข้างๆ หยิบถาดที่มีถ้วยข้าวต้มมาวางไว้บนตักตัวเอง เจย์สันลอบยิ้มอย่างพอใจ เพราะอยากให้แวนด้าป้อนข้าวทุกวันจึงต้องใช้แผนการแบบนี้กับเธอ “พี่ชอบข้าวต้มฝีมือเรา ทำให้กินแบบนี้ทุกวันเลยได้ไหม”“ถ้าไม่อร่อยก็พูดมาตรงๆ เถอะค่ะ ไม่ต้องทำเหมือนอร่อย”“อร่อยจริงๆ อร่อยจนพี่…ติดใจ” หัวใจดวงน้อย
มาร์ลิกซ์วิ่งออกกำลังกายบนลู่วิ่งไฟฟ้าคนเดียวในห้องออกกำลังกาย โดยท่อนบนเปลือยเปล่าเผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องที่อัดแน่นเรียงตัวกันสวยงาม ส่วนท่อนล่างสวมใส่กางเกงขาสั้นประมาณเข่า มือหนาเอื้อมไปปิดลู่วิ่งไฟฟ้าหลังจากวิ่งมาได้สักพัก เขาก้าวลงจากลู่วิ่งและหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม จากนั้นเดินออกมาจากห้องออกกำลังกายและบังเอิญเห็นควินต์เดินมา จึงเอ่ยถามบางอย่างเกี่ยวกับยูริ“ยูริลงมากินข้าวรึยัง?”“ยังไม่เห็นไปห้องอาหารนะครับ แต่เห็นนั่งอ่านหนังสืออยู่แถวสระว่ายน้ำ”“บอกคนยกอาหารเช้าทั้งของกูและยูริมาให้กูที่สระว่ายน้ำ”“ได้ครับนาย” ควินต์ตอบรับคำสั่งเจ้านายเขาเดินตรงไปยังสระว่ายน้ำที่ควินต์บอกว่ายูริอยู่นั่น พอมาถึงก็เห็นเธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียว “ทำไมยังไม่กินข้าว” เสียงมาร์ลิกซ์ที่ดังขึ้นทำให้ยูริเงยหน้าขึ้นมอง“หนูรอเฮียออกกำลังกายเสร็จแล้วจะได้กินด้วยกัน”ร่างกายที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามเนื้อของมาร์ลิกซ์ทำให้เธออดเผลอมองไม่ได้ ทำไมแฟนเธอหุ่นดีแบบนี้ น่าลูบ น่าสัมผัสไปหมดเลย ช่วงนี้ยอมรับว่าเธอหลงเขามาก และก็งอนเขาบ่อยมากเช่นกัน “เด็กหื่น!” “อื้ออ มาดีดหน้าผากหนูทำไม” เธอลูบหน้าผากตร
หลายวันต่อมา @บ้านกรรณ์ตระกูลเกียรติ (บ้านยูริ)“ผมทำยูริท้องครับ” “…” หลังจากมาร์ลิกซ์สารภาพกับเรญาว่าทำยูริท้อง ความเงียบก็ได้เข้ามาปกคลุมโดยอัตโนมัติ ยูริเมื่อเห็นแม่ตัวเองเอาแต่นั่งเงียบพร้อมสีหน้านิ่งๆ ก็ทำให้เริ่มกังวลขึ้นมา และคิดไปเองต่างๆ นานาว่าแม่จะโกรธหรือเปล่า หรือผิดหวังในตัวเธอไหม มาร์ลิกซ์รู้ว่าคนรักเริ่มกังวลจึงเลื่อนมือไปกุมมืออีกฝ่ายเอาไว้ให้ผ่อนคลาย “ถ้าคุณน้าโกรธที่ผมทำยูริท้อง คุณน้าลงโทษผมก็ได้ แต่ผมขออย่างเดียว อย่าลงโทษยูริก็พอ” เรญาดึงสายตากลับมามองมาร์ลิกซ์แล้วยิ้มมุมปาก หากเธอต้องการลงโทษ เชื่อว่าอีกฝ่ายคงยอมให้ทำอย่างที่ลั่นปากพูดออกมา แววตาและน้ำเสียงหนักแน่นของแฟนลูกสาวทำให้เรญาสัมผัสได้ว่ามาร์ลิกซ์พร้อมรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปจริงๆ เรญาวางแก้วน้ำชาที่มักดื่มเป็นประจำลงโต๊ะตรงหน้า “รับผิดชอบโดยการออกไปจากชีวิตลูกสาวฉันดีไหม?”ยูริหน้าถอดสีเมื่อคนเป็นแม่พูดอย่างนั้น ส่วนมาร์ลิกซ์แอบใจแป๋วแต่ไม่ได้แสดงออกมาให้อีกฝ่ายได้เห็น “ถ้ารับผิดชอบด้วยวิธีนั้น ผมขอปฏิเสธ”“ทำไมล่ะ ก็นายบอกเอง ว่าพร้อมให้ฉันลงโทษ และนี่แหละคือบทลงโทษของฉัน”“ผมไม่มีวันเลิกกับยู
มาร์ลิกซ์ลอบมองยูริที่เอาแต่นั่งเขี่ยข้าวในจานเล่นไม่ยอมตักกินมาแล้วสองนาน มาเฟียหนุ่มวางแก้วกาแฟดำในมือลง จากนั้นขยับเรียวปากหยักได้รูปพูดกับคนตรงหน้า“ทำไมไม่กินข้าวหืม”“หนูกินไม่ลง” เขาได้ฟังคำตอบของยูริก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอคงคิดมากเรื่องท้อง แม้เขาจะพยายามบอกให้เธอผ่อนคลายไม่ต้องคิดมาก ทว่าก็ไม่สามารถห้ามความคิดของเธอได้ เขาเข้าใจยูริ ถ้าหากเขาเป็นเธอก็คงตกอยู่ในอาการเดียวกัน “เครียดว่าจะบอกพ่อกับแม่ยังไงเหรอ?”“หนูทำใจเรื่องบอกพ่อกับแม่ได้สักพักแล้วล่ะค่ะ”“ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้แล้วเครียดเรื่องอะไร ระบายมาให้ฉันฟังได้นะ” เขาพร้อมรับฟังทุกเรื่องจากยูริ หากมันจะช่วยแบ่งเบาความเครียดของเธอให้ลดน้อยลง “หนูไม่เคยมีลูกมาก่อน แค่กลัวว่าจะเลี้ยงเขาได้ไม่ดีพอ อีกอย่างหนูยังไม่ได้เตรียมตัวเรื่องการมีลูก ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนหนูตั้งรับไม่ทัน” “ฉันเองก็ไม่เคยมีลูกมาก่อนเหมือนกัน เรายังใหม่เรื่องนี้กันทั้งคู่ ฉันเชื่อว่าเราสองคนช่วยกันเลี้ยงดูเขาได้ดีแน่นอน พออยู่ในสถานการณ์จริง สัญชาตญาณความเป็นพ่อกับแม่มันจะแสดงออกมาเองโดยอัตโนมัติ” ก่อนหน้านี้เขาโทรไปบอกพ่อกับแม่ว่ายูริท้อง
“อ้วกก~” เสียงดังโอ้กอ้ากในช่วงเวลาเช้ามืดปลุกให้มาร์ลิกซ์ซึ่งนอนหลับอยู่ตื่นขึ้น มาเฟียหนุ่มในสภาพเปลือยท่อนบนสวมเพียงกางเกงวอร์มสีเทาตัวเดียวเดินตรงไปยังห้องน้ำและเห็นยูริกำลังนั่งเกาะขอบชักโครกอาเจียนอย่างหนัก “ไหวไหม” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามคนรักสาวด้วยความห่วงใยพลางเดินเข้าไปลูบหลังให้ ยูริเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้ว และดูเหมือนจะหนักขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย จะพาไปหาหมอก็ไม่ยอม เข้าประเด็นนี้ทีไรเป็นต้องโดนเธองอนใส่ทุกที “อึก! อ้วกก~” ยูริไม่ทันตอบในสิ่งที่มาร์ลิกซ์ถาม ก็ต้องหันกลับไปโก่งคออาเจียนอีกครั้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน กลัวว่าถ้าไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้วเป็นอย่างอื่นขึ้นมาจะทำให้เธอวิตกกังวล อีกประเด็นหนึ่งที่กำลังสงสัยตัวเองก็คือ หรือเธออาจจะท้องตอนนี้ยังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น แต่อาการของเธอมันเข้าข่าย ‘ท้อง’ มากกว่า เธอลองโทรไปเล่าให้แวนด้าฟัง แวนด้าก็บอกว่าลองซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจจะได้แน่ใจ เธอยังไม่กล้าบอกมาร์ลิกซ์เรื่องนี้ อยากรอให้แน่ใจก่อนถึงจะบอก“ไปหาหมอเถอะ เธอเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วนะ ฉันเป็นห่วง”“ไม่เอา~” “ทำไมดื้อแบบนี้ ครั้
@Mar.L Club“เห็นคุณมาร์ลิกซ์ไหม?” ยูริเดินเข้าไปถามควินต์ที่เพิ่งคุยกับพนักงานในคาสิโนเสร็จ“นายอยู่กับคุณเซบาสเตียนที่ห้องVIPครับ”“ใครคือคุณเซบาสเตียนเหรอคะ?” “นักธุรกิจจากฮ่องกงครับ และเป็นลูกค้ารายใหญ่ของนาย วันนี้คุณเซบาสเตียนมาหานายที่คาสิโน นายเลยต้องไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนเขาน่ะครับ”“อ๋อ ขอบคุณนะคะ”“ครับ นายฝากให้ผมดูแลคุณยูริ ถ้าต้องการอะไรเรียกหาผมได้ตลอดเลยนะครับ”“ค่ะ” เธอตอบควินต์ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินไปสูดอากาศอยู่มุมหนึ่งของคาสิโนซึ่งเป็นจุดชมวิว สายลมที่พัดผ่านทำให้เธอรู้สึกเย็นสบายมากไม่น้อย ทว่าการมาของใครบางคนมันทำให้บรรยากาศดีๆ ตอนนี้เสียไปอย่างดื้อๆ“มุมนี้ก็เป็นมุมโปรดของฉันเหมือนกัน”“…” เธอไม่ได้พูดอะไรกับอีกฝ่าย แอบลอบถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ เมลดามาทำอะไรที่คาสิโนมาร์ลิกซ์อีกหมู่นี้เมลดามาหาแฟนของเธอบ่อยๆ โดยอ้างเสมอว่ามาคุยเรื่องธุรกิจ มาร์ลิกซ์ปฏิเสธไปหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ จะให้เขาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกับครอบครัวตัวเองให้ได้ หากเธอเป็นเมลดาคงไม่กล้ามาอีก เพราะโดนปฏิเสธครั้งเดียวมันก็ทำให้อายจนไม่กล้าสู้หน้าอีกแล้ว“ฉันมาหามาร์ทน่ะ แต่เขาดันติดแขกคนสำคั
“ทำข้าวต้มมาให้ค่ะ” เจย์สันนั่งพิงหัวเตียงมองแวนด้าที่ยกข้าวต้มมาให้ ตอนนี้กลับมารักษาตัวอยู่บ้านโดยมีแวนด้าตามมาดูแล ตอนแรกเธอไม่ยอมมา แต่เจย์สันขอยูริให้ช่วยพูดจนสุดท้ายแวนด้าก็ยอมมาดูแล หญิงสาวเดินไปเปิดผ้าม่านสีดำออกจนแสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอน “ทำไมไม่กินล่ะคะ” เธอหันไปถามเจย์สันหลังจากเปิดผ้าม่านออกเสร็จแล้ว “ข้าวต้มนั่นแวนด้าทำเองนะคะ ไม่ได้บอกแม่ครัวทำ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะอร่อยถูกปากพี่ไหม”“พี่ยังไม่ค่อยหิว”“แต่พี่ต้องกินยานะคะ”“ไม่เป็นไร กินยาเลยก็ได้” เธอมองเขาอย่างรูัทัน เจย์สันมักใช้แผนการนี้เพื่อให้เธอป้อนข้าว อ้างทุกวันว่าไม่ค่อยหิว แต่พอเธอป้อนก็กินจนหมดเกลี้ยง วันนี้ก็คงอยากให้เธอป้อนข้าวอีกเช่นเคย“ถ้าแวนด้าป้อนพี่จะกินไหม?”“กิน” เขาตอบอย่างไม่ลังเล แวนด้าเดินมานั่งลงข้างๆ หยิบถาดที่มีถ้วยข้าวต้มมาวางไว้บนตักตัวเอง เจย์สันลอบยิ้มอย่างพอใจ เพราะอยากให้แวนด้าป้อนข้าวทุกวันจึงต้องใช้แผนการแบบนี้กับเธอ “พี่ชอบข้าวต้มฝีมือเรา ทำให้กินแบบนี้ทุกวันเลยได้ไหม”“ถ้าไม่อร่อยก็พูดมาตรงๆ เถอะค่ะ ไม่ต้องทำเหมือนอร่อย”“อร่อยจริงๆ อร่อยจนพี่…ติดใจ” หัวใจดวงน้อย
“นายเรียกหาผม มีธุระอะไรเหรอครับ” ควินต์เดินเข้ามาหาเจ้านายที่นั่งไขว้ห้างดูงานบนไอแพดอยู่โซฟาในห้องนั่งเล่น มาร์ลิกซ์ขยับริมฝีปากพูดโดยสายตายังคงมองงานตรงหน้า“เลื่อนประชุมของบ่ายวันนี้ออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด”“ทำไมเหรอครับ?” ควินต์เลิกคิ้วขึ้นสูงและเอ่ยถาม ประชุมบ่ายนี้สำคัญมากแต่เจ้านายกลับเลื่อนออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด“เมียกูไม่สบาย กูไม่อยากทิ้งเธอไว้คนเดียว” เขาเงยหน้าตอบควินต์ เมื่อคืนยูริคลื่นไส้อาเจียนเกือบทั้งคืนจนไม่ได้นอน แถมเมื่อเช้ายังเป็นอีกตั้งหลายรอบ มิหนำซ้ำเมื่อเช้ายังกินอะไรไม่ได้ บอกว่าจะพาไปหาหมอก็ดื้อไม่ยอมไป พอโดนบังคับกลับงอนใส่จนป่านนี้ยังไม่คุยกับเขาเลย เป็นห่วงก็เป็นห่วง แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเธอไม่ยอม และเขาก็ไม่อยากบังคับเธอมากด้วย “ให้ผมเรียกหมอมาดูอาการไหมครับ?”“เมื่อเช้ากูบอกว่าจะพาไปหาหมอก็ไม่ยอมไป ตอนนี้งอนกูหนักมากจนไม่ยอมคุยกับกู” รอบนี้งอนเขาหนักมาก เอาของกินไปง้อก็ไม่สำเร็จ พยายามง้อทุกวิถีทาง ขอโทษก็แล้ว แต่เธอไม่ยอมหายงอนง่ายๆ ตอนนี้เขาจนปัญญาแล้วจริงๆ“มึงเคยมีแฟนมาก่อน เวลาแฟนมึงงอนหนักๆ มึงง้อยังไง?”“ผมก็ไม่รู้ว่าวิธีของผมจะทำให้นายง้อค
วันต่อมา“อื้อ…” เจย์สันเริ่มส่งเสียงดังในลำคอออกมาเบาๆ หลังจากนอนไม่ได้สติมาหลายอาทิตย์ แวนด้าที่ฟุบหลับอยู่ข้างๆ ตื่นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงครางในลำคอ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งด้วยความตื่นเต้น “พี่เจย์สัน…” เธอเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมทั้งยิ้มออกมาอย่างดีใจ ในที่สุดเขาก็ฟื้นสักที เจย์สันนอนมองแวนด้านิ่งๆ เพราะเธอคือคนแรกที่เขาฟื้นขึ้นมาแล้วเจอ ความรู้สึกแรกที่วิ่งปราดเข้ามาเล่นงานหลังจากฟื้นก็คือ ความปวดร้าวตามร่างกายและบาดแผลบริเวณที่ถูกยิง “แวนด้าจะไปบอกคุณมาร์ลิกซ์ตามหมอมาดูอาการพี่เจย์สันนะคะ”หมับ!เจย์สันคว้าแขนแวนด้าไว้ ทำให้หญิงสาวชะงักและหันกลับไปมองเจ้าของการกระทำดังกล่าว“คะ?”“เราอยู่เฝ้าพี่เหรอ” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ “ใช่ค่ะ เดี๋ยวมานะคะ ขอไปบอกคุณมาร์ลิกซ์ก่อนว่าพี่เจย์สันฟื้นแล้ว” เธอดึงมือเขาออกและเดินออกไปจากห้องพักฟื้นของเจย์สัน เพื่อบอกมาร์ลิกซ์เรียกหมอมาดูอาการของเขา บอกตามตรงว่าเธอตื่นเต้นและดีใจจนทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ผ่านไปไม่นานหมอก็มาดูอาการเจย์สันโดยมีแวนด้า มาร์ลิกซ์ และยูริยืนดูอยู่ห่างๆ เมื่อหมอรายงานทุกอย่าง
“อดีตรักแรกตามมาถึงที่ขนาดนี้ น่าจะอยู่คุยต่ออีกสักหน่อยนะคะ” คำพูดและน้ำเสียงเชิงประชดประชันทำให้มาร์ลิกซ์ที่กำลังยกเครื่องดื่มขึ้นดื่มชะงักและหันไปมองแฟนสาวซึ่งยืนกอดอกมองมายังตัวเองด้วยสายตาไม่พอใจ “เมลดามาคุยเรื่องธุรกิจ ฉันไม่ชอบ ฉันก็ปฏิเสธไปตรงๆ จะนั่งคุยกันยืดเยื้อให้เสียเวลาทำไม”“แต่ดูเหมือนคุณเมลดาเขาอยากคุยกับคุณมาร์ลิกซ์ต่อนะคะ”“หึงเหรอ?”“ลองมาเป็นหนูดูไหม ใครบ้างจะไม่หึง”มาร์ลิกซ์อมยิ้ม ก่อนจะวางแก้วเหล้าลงเคาน์เตอร์บาร์และเดินเข้าไปกอดแฟนสาวที่กำลังยืนทำหน้าบูดบึ้งอยู่ “เมลดาคืออดีตที่ผ่านมาแล้ว ส่วนคนนี้…คือปัจจุบัน และอนาคต” ฟอดด“อื๊อ!! มาหอมแก้มหนูทำไม” เธอยกมือขึ้นมากุมแก้มข้างที่โดนเขาหอมไปเมื่อกี้“เดี๋ยวนี้หวงตัวเหรอหืม หอมนิดหอมหน่อยไม่ได้?” “หนูไม่ได้หวงตัวสักหน่อย” “แต่ว่ากำลังงอน?”“เปล่า…” “โกหกผัวตัวเองมากๆ ระวังจมูกยื่นยาวออกมาเหมือนพีน็อคคีโอนะ”“หนูก็แค่ไม่ชอบที่คุณเมลดามาหาแฟนของหนู ยังไม่ไปเรียนต่อต่างประเทศยังมาหาถึงที่ขนาดนี้ ถ้าหนูไม่อยู่แล้วคงมาหาแฟนหนูทุกวัน!”“พบเด็กขึ้หึง1อัตรา”“ปล่อยหนูเลย ไม่อยากคุยกับคุณเล่า!” “อย่างอแงสิ ขอกอดหน่