“เช้าแล้ว ทำไมยังไม่ตื่นอีกวะ” คริสเตียนเดินไปเดินมาวนรอบเตียงไม่คิดจะนั่ง เพื่อรอจนกว่ารวงข้าวจะตื่น แต่ก็ไม่มีสัญญาณให้เห็นว่าเธอจะฟื้นขึ้นมาเลย ภายในตอนนี้รู้สึกร้อนรุ่มอยู่ไม่เป็นสุขไม่รู้เธอจะเป็นอะไรไปมากรึเปล่า และเขาก็รู้สึกผิดมากที่ต้นเหตุมาจากตัวเขาเอง“นายพักบ้างเถอะครับ นี่ก็เช้าแล้ว เดี๋ยวพวกผมเฝ้าไว้ให้” อดัมบอกเจ้านายที่เดินไปมาไม่ยอมหยุด“กูเฝ้าเอง พวกมึงกลับไปเอาเสื้อผ้าที่คอนโดกูมาหน่อย” แต่แล้วคริสเตียนก็หันไปสั่งการทันทีและไม่คิดจะทำตามคำเเนะนำของลูกน้อง“ครับ งั้นผมไปเอาให้เอง ส่วนมึงอยู่ที่นี่กับนาย” อะเดลเสนอออกมา อมยิ้มเล็กน้อยเพราะไม่เคยเห็นเจ้านายเป็นแบบนี้มาก่อน“ไปทั้งคู่นั่นแหละ กูอยู่คนเดียวได้” คริสเตียนยกมือไล่ให้ออกไป“แต่ผมกลัวจะเกิดอันตราย ถ้านายอยู่คนเดียว” อะเดลเอ่ยต่อ ทางที่ดีน่าจะมีอดัมไว้รอช่วยรับมือถ้าเกิดปัญหา“ไม่มีไรหรอก คอนโดอยู่ใกล้แค่นี้เอง ไปเถอะ”“แน่ใจนะครับ” อดัมถามย้ำเพื่อความมั่นใจ“อืม” ก่อนที่เจ้านายจะพยักหน้าเป็นครั้งสุดท้ายลูกน้องฝาแฝดออกจากห้องไปตามคำสั่ง ทำให้ภายในห้องเหลือแค่เขาและรวงข้าว คริสเตียนลากเก้ากี้ไปนั่งใกล้ ๆ เอื้
บรื้นนนน~“จะกัดไม่ปล่อยเลยใช่ไหม” รวงข้าวมองกระจกด้านข้าง เห็นคริสเตียนขับบิ๊กไบค์เข้าใกล้เธอทุกที ทำเอาหญิงสาวหัวใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ รู้สึกประหม่ากลัวว่าจะตกลงไปในขุมนรกนั้นอีกครั้งตุบ ๆ“จอดรถ รวงข้าว” คริสเตียนบิดคันเร่งสุดไมล์ จนสามารถขับมาเคียงกับรถเก๋งฝั่งคนขับได้ แล้วใช้หลังข้อมือเคาะไปที่กระจกเพื่อให้รวงข้าวยอมจอดดี ๆ“รวงข้าว...”“...จะจอดดี ๆ ไหม” รถสองคันเร่งจังหวะเเซงกันไปมาบนท้องถนน ไม่มีใครที่คิดจะเป็นฝ่ายยอมแพ้“ฝันไปเหอะ ฉันหนีออกมาได้แล้ว ไม่มีทางที่จะกลับไปอีก” สองมือกำพวงมาลัยแน่นหักหลบไปอีกด้าน แล้วค่อยเหวี่ยงขวางทางบิ๊กไบค์เอี๊ยดดด!!“ยัยตัวแสบ” ทำเอาคริสเตียนต้องกำเบรกเบา ๆ แล้วประคองรถไม่ให้เสียหลัก@อีกด้านเพี๊ยะ!!ฝ่ามือใหญ่ฟาดไปบนกรามของร่างสูงจนศีรษะหันตามแรง ร่างสูงยืนประสานมือนิ่งเฉยไม่ได้โต้ตอบแต่อย่างใด“มึงมันโง่!! โง่คนเดียวไม่พอ เสือกทำให้กูฉิบหายไปด้วย”พ่อเลี้ยงธนินผลักหัวไดรฟ์จนเซถลาตัวไปด้านหลัง โกรธลูกน้องตัวดีไม่หายที่เฉลยทุกอย่างให้ศัตรูรู้“...” ร่างสูงก้มศีรษะข่มอารมณ์เพราะคนตรงหน้ามีพระคุณจนไม่อาจที่จะตอบโต้แบบรุนแรงกลับ“ทีนี้กูจะทำยังไง ใน
บรึ้นนนน~ภายในรถมีแต่ความเงียบงัน ไม่มีฝ่ายใดเอ่ยสิ่งใดออกมา อารมณ์ที่ไม่คงที่ของทั้งคู่ส่งผลให้คนหนึ่งเหยียบคันเร่งจนจมมิด รถเก๋งขนาดกะทัดรัดขับจี้ท้ายรถคันด้านหน้าแล้วเบี่ยงตัวเปลี่ยนเลนไปมา ทำเอาคนที่กำลังแล่นตามหลังมาติด ๆ ต้องชะลอเพราะกลัวรถจะเสียหลักจนเกิดอันตรายส่วนอีกคนไม่ได้คิดจะห้ามหรือตอบโต้อะไรออกไปนอกจากความเงียบ ปล่อยให้ร่างสูงที่กำพวงมาลัยแน่นได้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่“คิดว่าเงียบแล้วจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นเหรอ” ทว่าไม่นานความเงียบก็จบสิ้นลง เมื่อคริสเตียนหันมาหาเรื่องคนที่นั่งกอดอกเชิดหยิ่ง ชวนให้คนอารมณ์ร้อนวูบวาบขึ้นมาใหม่“...” รวงข้าวเบี่ยงหน้าหนีไปมองข้างทาง ไม่อยากสนทนากับคนขาดสติ“เธอนี่มัน ตัวกวนประสาทที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอเลยจริงๆ” ท่าทางหยิ่งผยองของรวงข้าวทำให้เขาเลี้ยวเข้าเส้นทางออกนอกเมือง“...” เหมือนเดิม เธอไม่คิดจะเอ่ยอะไร เพราะรู้ว่าไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น ในเมื่อหนีไม่พ้นก็ต้องทนทรมานต่อไปเอี๊ยดดด!!“อ้ะ!!” ความแรงของการจอดรถส่งผลให้รวงข้าวกระโจนไปด้านหน้าอย่างแรง ก่อนที่เธอจะจับศีรษะที่กระแทกเข้ากับด้านหน้ารถ“รวงข้าว” คริสเตียนลืมตัวเอื้อมมือไป
@คฤหาสน์ตระกูลซามูเอลตึก!ตึก!“เชิญครับ” ลูกน้องประจำตัวมาเฟียใหญ่ออกมาต้อนรับหลานชายคนโตของตระกูล“คุณปู่ล่ะ”“ท่านรอด้านในแล้วครับ”ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปในตัวบ้านสวมใส่ชุดสูทตัวเดิมตั้งแต่วันเกิดเหตุ ไม่มีเวลาได้จัดแจงตัวเองเพราะเมื่อคืนเขาเฝ้ารวงข้าวทั้งคืนและตอนเช้าก็ดันเกิดเรื่องซะก่อน จนจำต้องกลับบ้านด้วยสภาพเช่นนี้“พี่คริส~” คัพเค้กออกมาจากลิฟต์ทันได้ทักทายพี่ชาย“มีเรียนเหรอ” คริสเตียนเหลียวหน้าตามเสียงเรียก สายตาไปปะทะกับคนตัวเล็กในชุดนักศึกษารัดรูปพร้อมกะโปรงทรงเอสั้นเพียงคืบเดียว สะพายกระเป๋าแบรนด์ดังก้าวเท้ามาหาเขาเรื่อย ๆ“ค่ะ เอ่อ...ทำไมพี่คริสแต่งตัวแบบนี้ แล้วดูหน้าสิ อย่างกับคนอดหลับอดนอน” คัพเค้กเข้าไปสำรวจพี่ชายด้วยความเป็นห่วง ทว่าสายตาก็เหลือบไปเห็นความผิดปกติของบ้านที่มีบอดีการ์ดเยอะกว่าเดิมหลายเท่าตัว “มีไรเหรอคะ!?”“คุณปู่มาน่ะ” เขาบอกน้องสาวแล้วเอื้อมมือไปลูบศีรษะเบา ๆ“อ้าว ไม่เห็นมีใครขึ้นไปบอกเค้กเลย” เด็กสาวสีหน้าบึ้งตึงทันที กอดอกอย่างเด็กเอาแต่ใจ“หึ ไม่ต้องงอนเลย เข้าไปหาคุณปู่ด้วยกันแล้วค่อยไปเรียน”ว่าแล้วคริสเตียนก็เอื้อมมือไปจูงให้เดินตามเข้าไปใน
ตึก!ตึก!“ไม่รู้ปู่จะบังคับไอ้คูเปอร์ไปถึงไหน อายุก็ยี่สิบหกปีแล้วไม่ใช่เด็ก ๆ สักหน่อย” เคนตะเดินออกจากบ้านตามหลังคริสเตียนบ่นเรื่องที่ไม่สามารถถกเถียงคนเป็นปู่ได้“...” คริสเตียนนิ่งเงียบ เพราะไม่สามารถช่วยอะไรคูเปอร์ได้เลย“ถ้าเป็นผมนะ ผมไม่ยอมหรอก แต่ผมไม่มีทางเหมือนมันที่ยึดติดกับแค่คน ๆ เดียว” เขายังคงพูดออกมาไม่หยุดหย่อนเมื่อนึกถึงสาเหตุของการไม่กลับมาเมืองไทย เนื่องจากเรื่องจำเป็น“...” ทว่าพี่คนโตก็ยังคงเดินมุ่งหน้าไปที่รถตัวเองต่อ“นี่พี่คริสไม่คิดจะพูดไรหน่อยเหรอ” ทำให้เคนตะต้องรีบก้าวเท้าไปขวางทางแล้วหันไปตามคนเป็นพี่“พูดไปไม่ได้ช่วยอะไร ไม่มีใครขัดคำสั่งได้ มึงก็รู้” คริสเตียนตอบโต้กลับตามความคิด“สรุป...ถ้าเป็นพี่คริส พี่ยอม!?” เคนตะเท้าสะเอวไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยอม“ไม่รู้ว่ะ ยังไม่เจอกับตัว”คำถามของเคนตะยากที่จะตอบ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะยอมทุกอย่าง แต่ตอนนี้เขากลับไม่คิดแบบนั้นอีกแล้ว“ลองบอกปู่สิ เรื่องสาวสวยคนนั้น ว่าเป็นไง” เคนตะรู้ทันคริสเตียนจึงเอ่ยจี้ใจดำ“มึงคิดว่าปู่ไม่รู้เรื่องที่กูจับรวงข้าวมาทรมานเหรอวะ”“รู้ แต่ยังไม่รู้ใจพี่” เคนตะใช้กำมือทุบไปที่อกข้างซ้าย
“หมอว่าไงบ้าง” คริสเตียนถามทันทีที่ในห้องเหลือแค่เขาและลูกน้องฝาแฝด ตลอดเวลาที่อยู่คฤหาสน์ของตระกูล จิตใจเขาอยู่แค่โรงพยาบาล อยากจะกลับมาดูมาเห็นกับตา“ไม่มีไรน่าเป็นห่วงแล้วครับ พรุ่งนี้ก็กลับได้แล้ว” อะเดลจึงรายงานตามสิ่งที่ได้รับฟังจากหมอประจำไข้รวงข้าว“อืม” เขาพยักหน้าแต่สายตายังคงจับจ้องไปที่ร่างบาง“แล้วนี่กินไรไปยัง” ก่อนที่จะถามออกไปใหม่อีกครั้ง“คุณหนูซื้อของกินมาให้เต็มเลยครับ” อะเดลชี้ไปฝั่งข้าวของที่วางเต็มโต๊ะจากฝีมือคัพเค้ก“...” คริสเตียนจ้องมองไปยังแผนหลังที่กำลังนอนอยู่โดยที่เธอไม่คิดจะหันมาสนใจเขาเลยสักนิด แต่แล้วคริสเตียนก็หมุนตัวหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไปทันที ปล่อยให้น้ำชำระร่างกายให้สมองปลอดโปร่งมากกว่าก่อนเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายหายเข้าห้องน้ำไปแล้ว รวงข้าวจึงพลิกตัวนอนหงาย ข่มความรู้สึกบางอย่างเอาไว้เพียงคนเดียว@เชียงใหม่ชายวัยกลางคนยืนเท้าสะเอวรอเวลาที่ลูกน้องจะลากตัวไม้ตายสุดท้ายที่จะใช้งาน“พ่อเลี้ยง~” วิมลเดินเข้ามาส่งยิ้มแต่ไกลเมื่อสามีเรียกหา ก่อนที่จะเข้าไปเกาะแขนออดอ้อนตามนิสัยที่ไว้ใช้ประจบสอพลอตั้งแต่แรกหมับ! ทว่ามือหนาเอื้อมเข้าไปจับคางอย่างแรงบังค
วันต่อมามือหนากอดรัดหญิงสาวตลอดทั้งคืน ความอบอุ่นที่มอบให้กันส่งผลต่อความรู้สึกทั้งคู่ ต่างคนต่างไม่เคยได้รับสัมผัสแบบนี้มาก่อนในชีวิต คนนึงถูกเลี้ยงมาเพื่อรับภาระหน้าที่ความเป็นใหญ่ของตระกูล ส่วนอีกคนถูกเลี้ยงดูอย่างไร้ความรักความเอาใจใส่ ฝึกฝนในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการ ความจำเป็นจึงทำให้จำยอมที่จะเผชิญหน้ากับโชคชะตาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้“ลุกได้แล้ว” รวงข้าวรู้สึกตัวในตอนเช้าของอีกวัน ขยับหน้าห่างจากแผงอกแล้วเอ่ยบอกคนที่กำลังนอนกอดเธออยู่“รีบตื่นไปไหน ยังไม่เช้าเลย” คริสเตียนรู้สึกก่อนรวงข้าวสักพักแล้ว ทว่าแกล้งหลับต่อเพราะยังไม่อยากละตัวเองจากคนตัวเล็กในอ้อมแขน“ไม่เช้าไรกัน สว่างซะขนาดนี้” เธอชะโงกหน้ามองไปที่ระเบียง มีแสงรำไรสอดส่องเข้ามา“อื้อ นอนเถอะ” ทว่ามือหนาบังคับให้ศีรษะมนแนบไปที่อกแกร่งเหมือนเดิมพร้อมทั้งลูบไหล่อย่างอบอุ่น“ไม่เอา ลุกไปเลย” เธอเงยหน้าขึ้นไปดึงตัวคริสเตียนให้ออกห่างแล้วลุกขึ้นนั่งทันที“เรื่องมาก!!” ทำเอาคริสเตียนต้องลุกขึ้นนั่งตาม เสยผมไปด้านหลังอย่างอารมณ์เสีย เมื่อถูกขัดใจ ก่อนที่จะตวัดขาลงจากเตียงสาวเท้าไปห้องน้ำ ทำให้หัวใจดวงน้อยนึกถึงบางอย่างขึ้นมา
“แม่มาทำไม” รวงข้าวเอ่ยออกมาทันที เมื่อวิมลเดินวนรอบห้อง แสดงออกชัดเจนว่ากำลังหลงใหลความหรูหราภายในห้อง“โอ๊ย! อีรวง อยู่กับผู้ชายหน่อยทำเสียงแข็งใส่ฉันขึ้นมาเลยนะ” วิมลตื่นจากภวังค์เพราะเสียงเอ่ยถามจากลูกสาว ก่อนจะตะคอกตามนิสัยเดิมที่ทำประจำ“...” รวงข้าวมองตามคนเป็นแม่ เธอไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าแม่มาที่นี่ด้วยแผนการอะไร แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน“มันได้แกยัง...” วิมลกอดอกถามออกไป“...แต่จากที่เห็นมันคงไม่ปล่อยเอาไว้หรอก” ก่อนที่จะแบะปากอย่างรู้ทันสันดานผู้ชายเพราะเธอเองผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะจนรู้เช่นเห็นชาติหมดแล้ว“...” ร่างบางเบี่ยงหน้าหนีไปทางอื่นไม่เคยเข้าใจเลยสักครั้งว่าทำไมแม่ถึงได้เอาเธอมาฝากไว้อยู่ในการดูแลของพ่อเลี้ยงธนินและตอนนี้ขนาดรู้ว่าเธอเสียตัวโดยเกิดจากความผิดพลาด แม่ยังไม่คิดเห็นใจเธอเลยสักนิด ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นลูกแท้ ๆ“ถ้าฉันจะยกแกให้ตาไดรฟ์ ก็คงเป็นของเหลือจากไอ้หน้าฝรั่งนั่นใช่ไหม” วิมลถามซ้ำเติมขึ้นมาอีกครั้ง“...”คำพูดดูถูกจากคนเป็นแม่ เจ็บปวดยิ่งกว่าโดนทำร้ายร่างกายเป็นไหน ๆ ไม่เข้าใจว่าแม่จะเอ่ยประโยคแทงใจดำออกมาทำไม“มันหลงแกไหม แต่ดูจากห้องนี้ก็คงจ
อาฟเตอร์ปาร์ตี้ หลังจากรวงข้าวตอบรับการแต่งงาน คริสเตียนก็เร่งงานภายในหนึ่งอาทิตย์เพื่อให้รวงข้าวสวมใส่ชุดเจ้าสาวได้สวยที่สุด ก่อนที่เจ้าตัวน้อยในท้องจะแสดงฤทธิ์เดชเผยให้ทุกคนได้เห็น“ไม่รู้จะมีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ทำไม” คริสเตียนบ่นออกมาเพราะเขาอยากเข้าหอเต็มทีแล้ว“คุณเคนตะรีเฟสมาครับ ผมไม่กล้าขัดเลยจัดตารางงานตามนี้” อดัมรายงานทันที“แล้วไหนคนที่อยากอยู่งานปาร์ตี้ที่สุด หายหัวไปไหนแล้ว” สายตาคมกวาดสายตามองหาน้องชายสุดแสบ ที่ปล่อยให้แขกในงานสนุกกันเอง ทั้ง ๆ ที่เป็นแขกของเคนตะทั้งนั้น“ผมเห็นขึ้นลิฟต์ไปสักพักใหญ่แล้วครับ” อะเดลเอ่ยตามที่เห็น“คัพเค้กไปตามพี่เคน บอกให้ลงมาในงานได้แล้ว” คางูยะนั่งฟังบทสนทนาของหลายชายคนโตก่อนจะบอกหลานสาวเพียงคนเดียวที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย“ทำไมต้องเป็นเค้กด้วยล่ะคะ” ทำเอาคัพเค้กถึงกับหน้าบึ้งตึง ย่นจมูกส่ายหน้าไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ง่าย ๆ“ไปเถอะเค้ก ในงานก็มีแต่เพื่อนไอ้เคน บอกให้มันมารับแขกหน่อย” เจ้าบ่าวป้ายแดงรีบเอ่ยอีกเสียง เหลือบมองเจ้าสาวเป็นระยะ ยิ่งชุดที่รวงข้าวสวมใส่เผยให้เห็นร่องอกขาวเนียน จนเขาแทบจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว“ลูกน้องพี่คริสก็มี ทำไมไม่ใช้บ
รวงข้าวทอดสายตามองตามนิ่ง ๆ เมื่อคริสเตียนเดินออกไปจากจุดนั้น“ตามผัวไปสิวะ ยืนเซ่ออยู่ทำไม” วิมลดันแผนหลังลูกสาวเพื่อกระตุ้นเตือน“...” ทว่ารวงข้างยังคงยืนเฉยเมย ลังเลว่าทุกอย่างคือความจริงใช่ไหม ไม่มีฉากบังหน้าอะไรตบตาเธออีก“อ้าวอีนี่ เอาใจผัวอะเป็นไหม คงไม่อยากให้ลูกในท้องไม่มีพ่อหรอกนะ” หญิงวัยกลางคนถึงกับเกาศีรษะ เบื่อหน่ายนิสัยเย็นชาเต็มที“...”“ไปสิวะ!!” ก่อนที่วิมลจะดันให้รวงข้าวยอมก้าวเท้าตามออกไปตึก!ตึก!“ปู่” คริสเตียนเอ่ยเรียกคางูยะไว้ ก่อนที่มาเฟียเฒ่าจะขึ้นเครื่องบินเจ็ทกลับไปซะก่อน “จะตามฉันออกมาทำไม ไม่ไปดูแลลูกเมียแกล่ะ” คางูยะไม่คิดจะหันกลับไปมอง ไม่ได้โกรธเคืองอะไรทั้งสิ้น แค่ไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัวเองสะสางไม่เสร็จ“ผมเข้าใจทุกอย่างที่ปู่ทำแล้ว ต่อไปผมจะเป็นคนสืบเรื่องนี้ จะไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่าอีก”กึก!“ต่อไปแกอย่าลืมนะ ว่าจุดอ่อนของแกคือลูกและเมีย” คางูยะหันมาบอกด้วยสีหน้าสลด“ครับ ผมจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด ก่อนรวงข้าวจะคลอด” เขาให้สัญญาและทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่พูด“...” มาเฟียเฒ่าพยักหน้า แล้วหมุนตัวกลับไปขึ้นเครื่องบินตามเดิมคริสเตียนยื
แม่!!” รวงข้าวมองหญิงวัยกลางคนที่เดินเข้ามาหยุดตรงหน้า พร้อมทั้งชายชราที่ยืนถือไม้เท้าแววตาดุดันพึ่บ! คริสเตียนปล่อยโอบกอดจากร่างบางแล้วหมุนตัวหันไปมองแขกใหม่ทันที“ปู่!!” ก่อนที่เขาจะเอ่ยอย่างตกใจ ไม่คิดว่าคางูยะจะตามมาได้เร็วขนาดนี้ และที่สำคัญกลับพาแม่รวงข้าวมาด้วย งานนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้“กลับบ้านกับฉัน...คริสเตียน!!” คางูยะกระแทกไม้เท้ากับพื้น น้ำเสียงเอ่ยสั่งเรียบ ๆ แต่ถึงเเม้จะนิ่งเรียบแต่แฝงด้วยอำนาจบางอย่าง“ไม่ครับ ผมจะกลับก็ต่อเมื่อปู่อนุญาตให้เราสองคนได้สร้างครอบครัวด้วยกัน” ร่างสูงไม่เพียงแต่เอ่ยแต่ยื่นมือลงไปจับมือบางไว้แน่น เขาพร้อมที่จะเผชิญทุกอย่างจริง ๆ และไม่คิดจะยอมเเพ้ง่าย ๆ“หึ ดีนี่ทำให้หลานที่เชื่อฟังฉันมาตลอดสามารถออกนอกลู่นอกทางได้ สมใจเธอแล้วสินะ” มาเฟียเฒ่าแสยะยิ้มมองใบหน้าหญิงสาวข้างๆหลานชาย“...” ทุกคนต่างเงียบเกรงกลัวอำนาจในกำมือคางูยะที่สามารถสั่งทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้า“เธอเคยรับปากกับฉันว่ายังไงฮะ!!” ก่อนที่คางูยะจะยื่นไม้เท้าเชยคางรวงข้าวให้เชิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคน“หยุดขู่เมียผมสักที เมื่อไหร่ปู่จะปล่อยให้พวกผมมีชีวิตที่เลือกเองบ้าง” คริ
แววตาคมเหลือบมองเด็กชายตัวเล็กผิวขาวที่กำลังนั่งเล่นรอเวลาทานอาหารเช้า คริสเตียนสาวเท้าเข้าไปหย่อนตัวนั่งข้าง ๆ จนทำให้ดวงตาใสบริสุทธิ์จับจ้องคริสเตียนตาแป๋ว“เมื่อไหร่คุณลุงจะกลับ” คิมหันต์วางของเล่นในมือ ขยับตัวออกเล็กน้อย เพราะรวงข้าวเตือนไม่ให้ยุ่งเกี่ยว“เลิกเรียกลุงได้แล้ว” คริสเตียนไม่พอใจนัก แต่ก็เก็บกลั้นเอาไว้“ก็คุณลุงแก่แล้วนี่ครับ”“เฮ้ย! เคยโดนหนังยางดีดปากไหมวะ” แต่แล้วคำพูดที่เอ่ยออกมา ทำเอาคริสเตียนตะคอกกลับไปเสียงเข้ม“น่ากลัว..ว่าแล้วทำไมแม่ข้าวถึงไม่รัก” คิมหันต์ฉีกยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังหน้าบึ้ง“รู้ได้ไงว่าแม่นายไม่รักฉัน อ้อ อีกอย่างต่อไปฉันต้องเป็นพ่อนาย ควรเปลี่ยนคำเรียกซะใหม่” เพราะหลังจากง้อรวงข้าวสำเร็จคงต้องรับคิมหันต์ไปเป็นลูกอย่างถูกกฎหมาย“ผมไม่อยากมีพ่อ แค่แม่ข้าวคนเดียวก็พอแล้ว” คิมหันต์ส่ายไปส่ายมาพร้อมทั้งกอดอกตัวเอง“ไม่ได้!! ถ้างั้นฉันจะไม่ให้นายเป็นลูกเมียฉันอีก” ถึงแม้จะมีน้องชายที่กวนประสาทถึงสองคน แต่ความอดทนเขาเริ่มจะหมดเต็มทีเมื่อต้องมานั่งต่อล้อต่อเถียงกับคิมหันต์“ขู่ผมเหรอ ผมไม่กลัวหรอก” คิมหันต์ยักคิ้วไม่ได้หวาดกลัวสักนิด“...” ทำเอาร่
“อะไรของคุณเนี่ย” รวงข้าวเงยหน้าถามด้วยความสงสัย จู่ ๆ คริสเตียนก็ลากเธอมาหลังต้นไม้“ไล่มันกลับไปเดี๋ยวนี้” ก่อนที่ร่างสูงจะเอ่ยเสียงเข้ม แววตาบ่งบอกชัดเจนว่าหมายถึงใคร“คุณก็เห็นว่าพี่ไดรฟ์ไม่กลับ”“งั้นพี่จัดการเอง” ว่าแล้วก็ปล่อยมือรวงข้าวเพื่อเดินกลับไปที่น้ำตกที่มีอดัมอะเดลค่อยเป็นเกราะคุ้มกันไม่ให้ไดรฟ์เข้าใกล้รวงข้าวได้“หยุดเลย คุณเองก็ควรจะกลับนะ ก่อนที่ปู่คุณจะตามมา” รวงข้าวรีบหยิบยกเรื่องนี้มาขู่ เพราะเชื่อว่าไม่นานคางูยะต้องทำอะไรสักอย่างแน่“รวงข้าว พี่ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ อายุก็เลขสามแล้วสร้างครอบครัวได้สบาย ๆ” ทำให้ร่างสูงหันมาเผชิญหน้ากับรวงข้าวอีกครั้ง แล้วเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง“แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่เหมาะกับคุณ” เธอก้มหน้าไม่สบตา ยังจำคำพูดคริสเตียนได้ทุกคำ“เอาอะไรมาวัดว่าไม่เหมาะ อย่าคิดแทนพี่”“อย่ามาพูดดีหน่อยเลย ฉันไม่มีวันหลงกลคุณอีกหรอก” ก่อนที่รวงข้าวจะเบี่ยงหน้าไม่อยากคุยกับคนเจ้าเล่ห์ต่อ“ข้าว...ฟังพี่อธิบายก่อน” คริสเตียนจึงตั้งใจจะอธิบายทุกอย่าง ถึงแม้สถานที่จะไม่อำนวยก็ตาม แต่ดีว่าเข้าใจผิดอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ“ข้าวไปกับพี่” ไดรฟ์เข้ามาเอื้อมมือดึงรวงข้าวอ
เช้าวันต่อมาตึกตึก...รวงข้าวเดินวนไปวนมารอบเตียงตั้งแต่หัวรุ่ง ครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอดจากร่างสูงนอกห้อง“เราจะให้เขารู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด” เธอลูบหน้าท้องตัวเองที่มีอีกหนึ่งชีวิต“แต่เราจะหนีเขายังไง แล้วไหนจะเรื่องแม่อีกล่ะ” ถ้าหากคางูยะรู้เรื่องที่คริสเตียนมาตามเธอที่นี่ แม่ของเธอจะเป็นอันตรายไหมคิดได้อย่างนั้นรวงข้าวจึงชะโงกหน้าผ่านทางหน้าต่างเพื่อหาทางแก้ปัญหา ก่อนจะเห็นบอดีการ์ดยืนอยู่รอบบ้าน“ขนมาเยอะขนาดนี้ ไม่รอดอีกแน่” เธอส่ายหน้าเหนื่อยล้ากับสิ่งที่เผชิญ ทำไมความสุขที่เกิดขึ้นในชีวิตเธอมันสั้นนิดเดียว เมื่อไหร่เธอจะมีความสุขกับเขาบ้าง“แม่ข้าว...ทำอะไร” คิมหันต์ลุกขึ้น ใช้นิ้วมือขยี้ดวงตามองรวงข้าวที่กำลังยืนดูบางอย่างนอกหน้าต่าง“เอ่อ..ตื่นแล้วเหรอคิม” ทำให้รวงข้าวหันกลับมาตามเสียง“ครับ”“...” เธอยิ้มจาง ๆ เมื่อใกล้เวลาต้องออกไปเจอร่างสูงในเวลาที่ไม่อยากเห็นหน้าแบบนี้“ว่าไงครับ แม่ข้าวไปทำอะไรที่หน้าต่าง” แต่แล้วคิมหันต์กลับถามสิ่งที่ยังไม่ได้คำตอบต่อ“เปล่า นอนต่ออีกไหม” รวงข้าวจึงเดินไปใกล้ ๆ พร้อมเอื้อมมือลูบศีรษะเด็กชายที่กำลังจ้องเธอตาแป๋ว“ไม่ล่ะครับ คิมออกไปด้า
ร่างสูงใหญ่ลงจากเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ใบหน้าซูบโทรมเริ่มจะมีความหวังขึ้นมาบ้าง เมื่อมองรอบ ๆ ที่เป็นดอยห่างไกลจากในตัวเมืองค่อนข้างมาก ความจริงที่นี่เขาเคยให้ลูกน้องมาตามหาแล้วครั้งหนึ่งแต่กลับไม่มีเบาะแสอะไรสักอย่าง ทว่าครั้งนี้เขารู้สึกถึงความหวังสุดท้าย รู้สึกถึงการรอคอยตลอดสามเดือนกำลังจะสมหวัง“มืดค่ำแบบนี้ แน่ใจนะครับว่าจะเข้าไปในบ้านหลังนั้นจริง ๆ ” อดัมถามออกมา กวาดสายตามองรอบ ๆ ที่ตอนนี้ ดึกเกินกว่าจะรบกวนคนในบ้าน“กูไม่รออะไรทั้งนั้น” คริสเตียนตอบพร้อมก้าวเท้าต่อไปตามที่ลูกน้องรายงานพิกัดคริสเตียนมองบ้านที่มีขนาดเล็ก ข้าง ๆ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ หากรวงข้าวอยู่ที่นี่จริง ปู่ของเขาก็เล่นได้แสบมาก ที่ปล่อยให้เมียเขาอยู่ตามลำพังท้ายหมู่บ้าน เห็นทีต้องเคลียร์บางอย่างกับปู่บ้างแล้วก๊อก ๆก๊อก ๆ“ใครครับแม่ข้าว” คิมหันต์ลุกขึ้นนั่งตามรวงข้าว เงยหน้าอย่างงัวเงีย“คิมนอนต่อเถอะ เดี๋ยวแม่ข้าวไปเปิดเอง”“ไม่เป็นไรครับ คิมไปเปิดเอง” ทว่าคิมหันต์ไม่ยอม กระโดดลงจากเตียงเพื่อไปทำหน้าที่แทนแม่บุญธรรม เพราะเข้าใจว่าเป็นยายตัวเองแอ๊ดดด~ดวงตาคมกวาดสายตาเข้าไปในตัวบ้านเมื่อมีคนเปิดประตูให้ ทว่า
สามเดือนผ่านไปอุ๊บ!แหวะ!“แม่ข้าว แม่ข้าวเป็นอะไร” คิมหันต์วิ่งเข้าไปยืนข้าง ๆ มองดูแม่บุญธรรมที่กำลังอาเจียนอย่างหนักตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา“เข้าบ้านไปก่อนคิม เดี๋ยวแม่ข้าวดีขึ้น จะตามเข้าไป” มือบางของรวงข้าวดันให้เด็กน้อยเข้าไปในบ้าน“ไม่เอา คิมอยากดูแม่ข้าว”“คิมหันต์!!” ทำให้รวงข้าวกดเสียงเรียกชื่อเพื่อไม่ให้แสดงความดื้อรั้นออกมา“ก็ได้ครับ” คิมหันต์หน้าจ๋อย เดินคอตกเข้าบ้านทันทีหญิงสาวมองดูเด็กชายผิวขาวจนลับสายตา มือบางยกขึ้นมาลูบหน้าอกตัวเอง ครุ่นคิดถึงอาการที่กำลังเป็นอยู่“ไม่จริงใช่ไหม” ก่อนที่รวงข้าวจะเลื่อนมือลงมาลูบหน้าท้องแบนเรียบอย่างสงสัย ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเพราะความเครียดเลยทำให้ประจำเดือนเคลื่อน ทว่าอาการที่เป็นอยู่มันฟ้องชัดว่าสิ่งที่กลัวมาตลอดกำลังจะเกิดขึ้น“เราจะทำยังไงดี” รวงข้าวแทบหมดแรง ไม่มีเรี่ยวแรงจะยืนต่อ ค่อย ๆ หย่อนตัวนั่งเก้าอี้ไม้หลังบ้าน ตั้งสติเพื่อแก้ปัญหาทุกอย่างตึก!ตึก!“รวงข้าว ไหวไหมบอกป้าได้นะ” แย้มยายของคิมหันต์เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ หลังจากที่คิมหันต์วิ่งไปตามที่กระท่อม“...” รวงข้าวส่ายหน้า จนปัญญากับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอไม่รู้จะรับ
เอี๊ยดดด!!“โธ่เว้ย ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ” คริสเตียนหักหลบพวงมาลัยเข้าข้างทางด้วยความโมโหที่วันนี้...วันทั้งวันไม่ได้เบาะแสอะไรสักอย่างก๊อกๆ...อดัมอะเดลขับรถตามหลังมาติด ๆ จึงจอดรถเพื่อลงไปหาเจ้านาย“นายครับกลับไปพักก่อนเถอะครับ หักโหมแบบนี้เดี๋ยวจะวูบเอาได้” เมื่อคริสเตียนลดกระจกรถลง อดัมเอ่ยด้วยความเป็นห่วง“พวกมึงตามกูมาทำไมวะ” แต่คริสเตียนกลับตะคอกใส่ มองลูกน้องสองคนอย่างไม่สบอารมณ์นัก แทนที่จะไปทำหน้าที่ตัวเองแต่กลับมาตามเขา โดยที่ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรสักนิด“ผมกลัวว่านายจะใจร้อนจนเป็นอันตราย” อะเดลเอ่ยขึ้นมาบ้าง ยิ่งตอนนี้เจ้านายหนุ่มไม่มีสติพอที่จะทำอะไรได้ ในใจยังคงวนเวียนแค่เรื่องเดียว ยิ่งหาไม่เจอยิ่งทำให้ความร้อนรุ่มปะทุออกมายากที่จะควบคุมปึง!!“มึงแช่งกูเหรอฮะ!!” คริสเตียนเปิดประตูลงจากรถเข้าไปกระชากคอเสื้ออะเดลทันที“ไม่ใช่อย่างนั้นครับนาย...ไอ้อดัม” มือหนาของอะเดลจับมือคริสเตียนไว้ ก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อคนข้าง ๆ เพื่อให้ทำไรสักอย่าง“ใจเย็น ๆ ก่อนครับนาย...”“...กูว่ามึงเข้าไปขับแทนนายเถอะ” ก่อนที่อดัมจะกระแทกไหล่ให้อะเดลหลบเข้าไปในรถ“มึงคิดว่านายจะยอมเหรอวะ”ทว่าอะเ