“ฝัน”ยังเงียบเหมือนเดิมจนต้องเอื้อมมือไปสะกิดพร้อมกับเอ่ยเรียกชื่ออีกครั้ง“เหมือนฝัน!”“คะ พี่กุ๊ก มีอะไรหรือเปล่าคะ” ร่างอวบสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันกลับไปถามคนเป็นหัวหน้า“เรานั่นแหละเป็นอะไรถึงค้างสายนานหลายนาที ดูสิ ข้อมูลลูกค้าสายเมื่อกี้ก็ยังไม่ลงเอาไว้เลย” พี่กุ๊กชะโงกหน้ามองไปยังหน้าจอแล้วส่ายหัวเบา ๆ“อุ้ย ขอโทษค่ะ” พูดจบก็รีบเคลียร์หน้าจอเพื่อรอสายลูกค้าคนใหม่ทันที“ไม่ต้องต่อสายแล้วเดี๋ยวพักสายไว้เลยอีกสิบนาทีทีมเราต้องไปประชุมกับท่านประธาน”“อะไรนะคะ ประชุม ทำไมไม่เห็นพี่กุ๊กแจ้งเรื่องนี้เลยคะ”โดยปกติแล้วหากมีประชุมหรือต้องแจ้งข้อมูลอะไรใหม่ ๆ เพิ่มเติมหัวหน้าแผนกจะแจ้งก่อนเริ่มงานสิบนาทีทว่าวันนี้เธอกลับไม่เห็นพี่เขาบอกอะไรเลย“ทำไมฉันจะไม่แจ้งจ๊ะ ก็ในไลน์กลุ่มนั้นไงบอกไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วเพื่อนทั้งแผนกเขารู้กันหมด หล่อนมัวแต่ไปทำอะไรที่ไหนถึงไม่ได้อ่านไลน์ในกลุ่ม”พี่กุ๊กขมวดคิ้วให้เชิงตำหนิอยู่เล็กๆ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้แต่ยิ้มให้แหย ๆเมื่อเช้าอุตส่าห์หลบหน้าเขาได้แต่แต่ไม่กี่ชั่วโมงถัดมาก็ต้องไปเจอกันในห้องประชุมอยู่ดี แล้วแบบนี้เธอต้องปั้นหน้ามองเขาอย่างไรดีแค่คิดก็อึดอัดใ
ปลายนิ้วยาวเคาะลงบนโต๊ะถี่ ๆ โดยที่มืออีกข้างยังคงถือแฟ้มสรุปการประชุม ดวงตาของวายุยังคงเหม่อลอยไม่ยอมเซ็นเอกหารสักทีจนกระทั่งชินมัยเอ่ยเรียกชื่อ"คุณวายุครับ” ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่ายจึงเรียกเสียงดังขึ้น“คุณวายุครับ!”“ฮะ”คนที่กำลังจมอยู่กับความคิดตัวเองสะดุ้งเล็กน้อยแล้วเงยหน้าคนเป็นลูกน้องมือขวา“เออ ผมรอเอกสารอยู่นะครับ”เขาชี้นิ้วไปยังแฟ้มที่อยู่ในมือของวายุ ชายหนุ่มจึงรู้ตัวแล้วยื่นคืนให้พร้อมกับบอกให้ทำโปรเจกต์นำเสนอบริษัทลูกค้าได้เลยชินมัยกำลังจะก้าวเท้าถอยหลังออกจากห้องแต่แล้วก็ต้องหยุดลงแล้วขยับเข้าไปใกล้โต๊ะทำงานคนเป็นเจ้านายมากขึ้นจนวายุต้องเงยหน้ามองเมื่อยังไม่เห็นเขาออกไปจากห้องสักที“มีอะไรหรือเปล่า ทำไมยังไม่ออกไปสักที”“มีครับ ผมอยากจะถามว่าช่วงนี้เจ้านายมีปัญหาอะไรหรือเปล่าผม”“นี่นายถามฉันในฐานะผู้ช่วยหรือในฐานะเพื่อน” วายุช่างใจว่าจะพูดเรื่องนี้ให้ชินมัยฟังดีไหม“ฉันถามแกในฐานะเพื่อน”ชินมัยเปลี่ยนสรรพนามเป็นสนิทสนมทันทีทั้งที่ปกติถ้าอยู่ในเวลางานเขาแทบจะไม่พูดจาเป็นกันเองเลยสักนิด“ฉันกำลังจะแต่งงาน” วายุตอบเสียงเนือยๆ แต่คนฟังถึงกับตกใจ“ฮะ! แต่งงาน? กับใคร?
“ไม่ใช่อย่างที่แม่คิดนะคะ” เหมือนฝันรู้ทันความคิดของอนุชจึงรีบปฏิเสธเพราะไม่อยากขายหน้าไปมากกว่านี้ลำพังแค่บังคับพี่วายุแต่งงานมันก็เสียศักดิ์ศรีมากพออยู่แล้วหากท่านมารู้เรื่องคาวของพี่สาวคงมีหวังได้ช็อกจนได้เข้าโรงพยาบาลเป็นแน่“คือว่าฝันกับคุณวายุเราทำงานที่เดี่ยวกันค่ะจึงทำให้ได้ทำความรู้จักกันแล้วก็ตกลงจะแต่งงานกัน...ใช่ไหมคะคุณวายุ”เธอหันไปส่งสายตาให้กับวายุยืนยันอีกเสียงตอนแรกเขาจะไม่พูดตามแต่พอเห็นดวงตาดุของคนเป็นพ่อจึงยิ้มแล้วพยักหน้ารับว่าจริงอย่างที่เหมือนฝันพูด“ดูใจกันมานานหรือยังแล้วฝันแน่ใจแล้วเหรอลูกว่าจะแต่งงานกับคุณเขาน่ะ มันไม่ไวไปเหรอ”อนุชถามลูกสาวอีกครั้งให้แน่ใจเพราะเธอเองก็ยอมรับว่าค่อนข้างตกใจกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน“แน่ใจสิคะแม่ ฝันไม่เคยแน่ใจอะไรอย่างนี้มาก่อนเลยค่ะ”ประโยคหลังเหมือนฝันกัดฟันเล็ก ๆ แล้วหันไปมองวายุซึ่งทอดสายตามองมาด้วยความเย็นชา“ถ้าฝันแน่ใจแม่ก็ไม่ห้าม”เอื้อมไปกุมมืออวบของเหมือนฝันแล้วพลันน้ำตาก็เออคลอเบ้าขึ้นมา ลูกสาวคนเล็กของบ้านกำลังจะออกเย้าออกเรือนตามคนเป็นพี่ไปอีกคนแล้วต่อไปบ้านหลังนี้ก็คงเหลือแค่เธอกับหลานสาวเท่านั้น“แม่จะร้องไห้
เหมือนฟ้านั่งจ้องหน้าน้องสาวเมื่อเห็นวายุและพ่อกลับไปตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ความอิจฉาเริ่มเข้ามาเกาะกินหัวใจเธอเล็กน้อย“แกกับวายุไปคบกันตั้งแต่ตอนไหน”ดวงตาหรี่ลงด้วยความสงสัยเพราะตัวเขานั้นกลับมาไทยยังไม่ถึงสามเดือนเสียด้วยซ้ำ“ก็ตั้งแต่หลังจากไปกินข้าวด้วยกันวันนั้นไงคะ อีกอย่างพี่ฟ้าก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าหนูกับเขาเราทำงานที่เดียวกันเจอหน้ากันทุกวันมันก็ต้องมีหวั่นไหวกันบ้าง”ขณะพูดโกหกมุมปากหยักโค้งขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นฝ่ายตั้งคำถามบ้าง“ว่าแต่พี่ฟ้าเถอะมาบ้านมืดค่ำขนาดนี้แถมยังหอบกระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วยมีอะไรหรือเปล่า”แม้จะรู้อยู่แล้วว่าครอบครัวพี่สาวมีปัญหาแต่เธอก็เลือกที่จะพูดเรื่องนั้นออก“พี่กับตรีเราสองคนทะเลาะกันน่ะ” เอนหลังพิงพนักโซฟาแล้วถอนหายใจออกมาเล็กน้อยด้วยสีหน้าหม่นหมอง“แล้วทะเลาะกันเรื่องอะไรพี่ถึงกับต้องหอบเสื้อผ้าออกมา”เหมือนฝันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเหมือนฟ้าจะยอมเล่าเรื่องนั้นให้ฟังหรือเปล่าจึงกลับกลายเป็นว่าเธอเอาแต่จ้องหน้าพี่สาวไม่วางตาจนเจ้าตาเริ่มอึกอักเล็กน้อยก่อนจะยอมเล่าออกมา“เขาเข้าใจผิดว่าพี่เข้าโรงแรมกับผู้ชายคนอื่นไปมีอะไรกัน”“ฮะ!
ไม่รู้ว่าเหมือนฝันไปทำคุณไสย์อะไรใสหรือเปล่าท่านถึงอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้นักแม้ว่าจะเป็นการบังคับจิตใจลูกชายตัวเองท่านก็ยอมทำ“ไม่รู้แหละน้ำไม่ยอม คอยดูนะถ้าแต่งผู้หญิงคนนั้นเข้ามาเจอฤทธิ์เดชของวารินทร์เทอร์โบแน่”เธอชูกำปั้นขึ้นด้วยสีหน้ามุ่งร้ายทว่าคนเป็นพ่อกลับมองว่ามันดูตลกและน่าเอ็นดูเสียมากว่าวายุเห็นน้องสาวต่อต้านแบบนั้นก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา หากเจอการกดดันเข้ามากๆ แล้วถูกกลั่นแกล้งจากน้องสาว เชื่อได้เลยว่าเหมือนฝันคงทนไม่ได้แล้วขอหย่าแน่นอนขณะกำลังนั่งยิ้มกริ่มกับความคิดของตัวเองอยู่นั้นพลันแรงสั่นสะเทือนแจ้งเตือนว่ามีสายเรียกเข้าก็ดังขึ้นจากโทรศัพท์เครื่องสวย เมื่อเห็นว่าเป็นใครโทรเข้ามาเขาก็ขมวดคิ้วเข้าหากันเพียงแค่กดรับปลายสายร่างสูงก็ดีดตัวลุกขึ้นยืนแล้วบอกว่าจะรีบออกไปทันที แม้ว่าคนเป็นพ่อจะเอ่ยถามว่าเกิดอะไรขึ้นวายุก็ไม่ยอมบอกแล้วก็รีบขับรถออกไปทันทีภายในร้านเหล้ากึ่งผับชื่อดังย่านพระรามเก้าร่างเล็กของเหมือนฟ้าคอพับคออ่อนอยู่บนโต๊ะพลางสลับร้องไห้แข่งกับเสียงเพลงไปด้วยหญิงสาวกลุ้มใจเรื่องสามีและนอนไม่หลับจึงออกมาหาอะไรดื่มแก้เซ็งแต่ยิ่งเหล้าเข้าปากมันก็ยิ่งไหลไปเรื่อยจนแ
ความบังเอิญของเช้าวันใหม่เริ่มขึ้นเมื่อเหมือนฝันกับวายุมาเจอกันตรงหน้าลิฟต์พอดี เธอเบือนหน้าหนีเขาราวกับว่าเขาไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้นส่วนตัววายุเองก็มีใบหน้าเรียบนิ่งเหมือนว่าเรื่องเมื่อคืนไม่เคยเกิดขึ้นเลย“รอด้วยครับ”เสียงหนึ่งดังขึ้นขณะประตูลิฟต์กำลังจะปิดหญิงสาวจึงแสดงความมีน้ำใจด้วยการเอื้อมไปกดเปิดพร้อมกับมองค้อนคนตัวโตกว่าด้วยความหมั่นไส้ทั้งที่อยู่ใกล้ปุ่มเปิดแท้ ๆ แต่ก็แล้งน้ำใจเหลือเกินประตูเปิดออกพร้อมกับร่างสูงของการันต์ก้าวเข้ามาแล้วก็ยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าเหมือนฝันคือคนที่กดเปิดประตูให้เขาจึงรีบทักทายด้วยความดีใจแล้วหันไปโค้งหัวให้กับประธานบริษัทเล็กน้อย“หวัดดีตอนเช้าจ้ะน้องฝัน ขอบใจนะที่เปิดประตูรอพี่”“ไม่เป็นไรค่ะ ทำไมวันนี้พี่รันต์มาสายล่ะคะปกติเห็นมาตั้งแต่ไก่โห่”“ก็พูดเวอร์ไป วันนี้พี่แวะไปทำธุระกับแม่ด้วยนะเลยมาช้าแต่ไม่มาสายนะครับ”“ว่าแต่รถฝันซ่อมเสร็จหรือยัง” เขานึกเรื่องนี้ขึ้นได้จึงเอ่ยถาม“ยังเลยค่ะ เมื่อวานโทรไปเห็นบอกว่าอีกหลายวันเลย”“แบบนี้ฝันก็นั่งรถโดยสารมาน่ะสิ เอาแบบนี้ไหมให้พี่ไปรับหรือเปล่า”ชายหนุ่มอาสาอย่างแข่งขันเพื่อหาโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับหญิงส
เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องงานของพี่ชายตัวเองวารินทร์ก็ต้องพบเจอกับความว่างเปล่าไม่เห็นทั้งเลขาฯ หน้าห้องไม่เห็นทั้งตัวพี่ชายของหล่อนเอง“คุณวารินทร์มาหาคุณวายุเหรอครับ” ชินมัยเดินผ่านมาเจอพอดีจึงเอ่ยทักทาย“ใช่ พี่ลมไปไหนคุณรู้ไหม”“คุณลมออกไปเจอลูกค้าด้านนอกครับ”“แล้วจะกลับเมื่อไร”“วันนี้คงไม่ได้กลับเข้ามาแล้วล่ะครับเพราะว่ามีไปทานข้าวต่อกับลูกค้าเก่าด้วย”เขาตอบสุภาพด้วยความอดทนเพราะอยู่ในช่วงเวลางานและรู้ดีว่าน้ำเสียงห้วนกับท่าทางเย่อหยิ่งนั้นวารินทร์ต้องการดูถูกตนเองซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว“พี่ลมนะพี่ลม มาหาที่บริษัททีไรไม่เคยเจอเลย” ร่างระหงมีท่าทีกระฟัดกระเฟียตไม่สบอารมณ์“น้ำ ฉันว่าเรากลับกันก่อนไหม” กรรณิการ์ไม่อยากเห็นเพื่อนอารมณ์เสียไปมากกว่านี้จึงชวนกลับ“กลับยังไม่ได้หรอกณิเรายังไม่รู้เรื่องเลยว่าใครกันที่เป็นว่าที่เจ้าสาวของพี่ลม”“รู้ไปแล้วมันได้อะไรขึ้นมาล่ะ ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่สักหน่อย”กรรณิการ์เตือนสติเพื่อน แม้จะรู้ว่าพี่วายุกำลังจะแต่งงานแต่พวกเธอก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเป็นใคร“แต่มีอีกคนที่น่าจะรู้” วารินทร์พูดขึ้นแล้วหันไปมองชินมัยชายหนุ่มรู้
เหมือนฝันเดินเหม่อลอยมาหยุดตรงป้ายรถประจำทาง เธอมองผู้คนที่ต่างเร่งรีบยื้อแย่งขึ้นรถเมล์แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้จึงล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครบางคนหลังจากจบบทสนทนาเหมือนฝันจึงวางสายแล้วเงยหน้าขึ้นจึงเห็นการันต์ขับรถมาจอดเบื้องหน้า“ฝันขึ้นมาเร็วเดี๋ยวพี่ไปส่ง”“เออ...คือว่า”“ไม่ต้องปฏิเสธเลย รีบขึ้นมารถข้างหลังมันติด”หญิงสาวหันไปมองก็เห็นว่าเป็นจริงดังเขาว่าจึงตัดสินใจขึ้นรถไปกับเขาอย่างปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่าไอ้รถคันหลังนั้นเป็นรถของวายุซึ่งอุตส่าห์ตั้งใจขับวนกลับมาจากด้านนอกเพื่อมารับเธอไปส่งบ้านระหว่างทางกลับการันต์ยังไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับเหมือนฝันว่าจะเลี้ยงมื้อใหญ่จึงได้แวะร้านมุมสบายย่านห้วยขวาง“ฝันสั่งได้เต็มที่เลยนะไม่ต้องเกรงใจ”“เรื่องนั้นไม่ต้องบอกหรอกค่ะ ฝันจัดเต็มอยู่แล้ว” คนเจ้าเนื้อยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวแล้วก้มหน้าดูเมนูอาหารต่อร้านอาหารริมทางขึ้นชื่อของย่านตลาดห้วยขวางมักเป็นร้านที่เหล่านักท่องราตรีมาต่อที่นี่อยู่เป็นประจำเพราะเปิดถึงรุ่งเช้าถมยังมีเมนูหลากหลายให้เลือกกิน“ปากเป็ดทอด ผัดฉ่าทะเล ส้มตำเผ็ดๆ แล้วก็จิ้มจุ่มชุดใหญ่ค่ะ”หญิงส
“ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าคุณภูริจะเป็นคนอยู่เบื้องหลังแล้วก็ทุจริตบริษัทเราไปมากมายขนาดนั้น”พี่นิดารำพึงออกมา แม้ทุกคนจะไม่ได้พูดแต่ก็คิดเหมือนกันเพราะภาพลักษณ์เวลาภูริอยู่ในบริษัทคือผู้ชายอบอุ่นใจดี เข้าใจหัวอกพนักงานแต่เบื้องหลังก็คือคนร้ายนี่เอง“แล้วนี่น้องฝันจะกลับมาทำงานวันไหนอ่า คิดถึงเสียงหัวเราะลั่นห้องจะแย่” พี่สมรทำหน้าเหงาหง่อย“ไม่รู้สิ ก็คุณวายุถูกยิงขนาดนั้นก็คงนานอยู่หรอก” พี่กุ๊กพูดเสริมแล้วทุกคนในแผนกก็ต่างต้องหันไปทางประตูเหมือนว่ามีใครอีกคนกำลังเปิดประตูเข้ามา“มีใครบ่นคิดถึงเหรอคะ”“น้องฝัน!” ทุกคนกรูกันเข้าไปหาแล้วจับหมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อสำรวจว่าน้องเล็กของทีมได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า“ฝันไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องห่วงวันนี้เลยแวะมาทำงานช่วงเช้าแล้วก็ช่วงบ่ายจะไปโรงพยาบาลต่อคุณหมดนัดตรวจเจ้าตัวเล็กค่ะ”พูดพร้อมกับลูบหน้าท้องน้อยทุกคนต่างหันมองหน้ากันไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรต่อได้แต่ยกมือเร้า ๆสะกิดกัน ก่อนพี่กุ๊กจะพูดขึ้นเสียงดัง“ฉันกำลังจะได้เป็นป้าของลูกท่านประธานแล้ว” ประโยคนี้เรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดีเหตุการณ์วันนั้นสร้างความอยากรู้ให้กับเพื่อนร่วมงานเหมือนฝันจึ
“กี่เดือนแล้ว” เขาเงยหน้าขึ้นถาม“สองเดือนค่ะ”“รู้ตอนไหนว่าท้องทำไมไม่บอกพี่เลย” น้ำเสียงนั้นมีความน้อยใจแฝงอยู่“รู้ตอนวันเกิดคุณลุงค่ะ”“ตอนที่ฝันบอกพี่ว่าไปหาหมอนะเหรอ” เหมือนฝันพยักหน้ารับงึก ๆ ทว่าคนฟังกลับมองด้วยสายตาตัดพ้อเขาไม่ได้อยู่ในวันที่รับรู้ข่าวดีว่าเธอกำลังตั้งท้องลูกของเราแถมยังปล่อยให้ไปหาหมอเพียงลำพังอีกต่างหาก“อย่าทำสีหน้าอย่างนั้นสิคะ”“ถ้าไม่ให้ทำสีหน้าแบบนี้จะให้ทำสีหน้าแบบไหนล่ะครับ เมียไปหาหมอคนเดียวและรู้ว่าท้องก็ยังไม่บอกอีก”น้ำเสียงเริ่มขึ้นจมูกพลันน้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลออกมาง่ายๆ ยิ่งเธอปลอบเท่าไรเขาก็ร้องไห้หนักขึ้นเท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อนหลังจากอยู่ดูแลคนถูกยิงจนหายดีแล้วเพราะแผลไม่ได้ถูกจุดสำคัญหมอก็ให้วายุกลับไปพักฟื้นที่บ้านและแน่นอนว่าเจ้าตัวก็คอยออดอ้อนคนเป็นเมียอยู่ร่ำไปหากใครมาเห็นคงไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือคุณวายุ“ป้ามาลีทำอะไรมาให้ผมกินครับเนี่ย ทำไมเหม็นแบบนี้” มือหนาเลื่อนถ้วยข้าวต้มออกแล้วยกมือขึ้นอังจมูก“ก็ข้าวต้มของโปรดคุณลมยังไงคะ ป้าเพิ่งยกลงจากเตาเมื่อกี้สด ๆ ร้อน ๆเลย” แม่บ้านประจำตระกูลหน้าตื่นวินไทยกับวารินทร์ก้ม
ไม่รู้ว่าสายอะไรต่อสายอะไรห้อยระโยระยางเต็มไปหมด คนถูกยิงได้แต่นอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเตียง ต่อให้เหมือนฝันอยากเข้าไปหาแค่ไหนก็ทำได้แค่มองผ่านกระจกใสอันเล็กของประตูกั้นก็เท่านั้นวายุปลอดภัยแล้วแต่ก็ยังต้องอยู่ในความดูแลของหมออย่างใกล้ชิดจึงยังต้องงดเยี่ยมไปก่อนจนกว่าจะฟื้นขึ้นมาบางคนทยอยกลับกันไปบ้างแล้วเหลือเพียงเหมือนฝันเท่านั้นที่ยังคงนั่งรออยู่ที่เดิมเพราะกลัวว่าเขาตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่เห็นว่าเธออยู่ตรงนั้น“พี่ว่าแกกลับบ้านไปพักก่อนไหม ถ้าไม่เห็นแก่ตัวเองก็เห็นแก่ลูกในท้องหน่อยก็ดีนะ”เหมือนฟ้าเดินเข้ามาตบไหล่น้องสาวแล้วทรุดตัวนั่งลงด้านข้าง“ฝันอยากอยู่ดูว่าเขาฟื้นแล้ว”“พี่รู้ว่าแกเป็นห่วงลม แต่แกก็ต้องห่วงตัวเองกับลูกด้วย”หญิงสาวช่างใจอยู่ครู่หนึ่งแววความกังวลผุดขึ้นในดวงตา ส่วนอีกมือก็ลูบหน้าท้องน้อยต้องเรียกว่าความโชคดีหรือเปล่านะที่เธอแทบจะไม่มีอาการแพ้ท้องเหมือนคนอื่นเลยแถมยังผ่านเรื่องเครียดมาตั้งมากมายเจ้าก้อนในท้องกลับไม่ทำให้เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด“ก็ได้ค่ะ แต่ขอฝันอยู่ดูพี่ลมอีกสักนิดก่อนได้ไหมคะ”“ตามใจ เดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อนจะได้ไปส่งแกด้วย แล้ววันนี้กลับไปนอนบ้านค
เหมือนฝันกุมหน้าตัวเองแน่นขึ้นพร้อมกับคิดหาทางออกแต่คิดอย่างไรก็ไม่เป็นผลในเมื่อปลายกระบอกปืนจ่ออยู่ที่ขมับด้านซ้าย หากเธอตุกติกแม้แต่นิดเดียวมีหวังลูกตะกั่วได้วิ่งเข้าไปทักทายมันสมองเธอแน่นอนวายุรู้สึกหวาดหวั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดขณะที่หัวใจเต้นรัว ดวงตาที่สบกับเหมือนฝันนั้นมันมีอะไรบางอย่างบอกเอาไว้และเขาอ่านมันออกหญิงสาวพยักหน้าให้กับเขาเพื่อเตรียมตัวทำอะไรบางอย่างแต่เขากลับส่ายหัวให้เธออยู่เฉยๆ อย่าทำอะไรทว่ามันกลับไม่ทันเสียแล้วเหมือนฝันใช้วิชาเอาตัวรอดจากการถูกจับเป็นตัวประกันที่ได้เรียนมาเมื่อตอนเข้าชมรมสมัยมหาวิทยาลัยแล้วกระทุ้งหน้าท้องคนร้ายก่อนจะบิดแขนข้างที่มีปืนให้ยกขึ้นฟ้าความชุลมุนเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวเหมือนฝันรีบวิ่งไปหาวายุ ภูริโกรธขึ้นขีดสุดเลยเล็งปืนไปยังเหมือนฝันแล้วเหนียวไกยิงทว่าคนที่รับกระสุนแทนกลับเป็นวายุ เขาใช้ตัวเองบังร่างอวบนั้นไว้แล้วทรุดตัวล้มลง“พี่ลม”หญิงสาวกรี๊ดออกมาสุดเสียงแล้วประคองร่างเลือดท่วมนั้นเอาไว้ จากนั้นเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัดจากการวิสามัญคนร้าย“พี่ลม ไม่นะ อย่าเป็นอะไรนะ ฟื้นสิ” เธอพยายามตบหน้าเขาเบา
“เฮ้ย! พวกนั้นหายไปไหน” ชายใบหน้าดุดันมีรอยบากระหว่างหัวคิ้วร้องตะโกนขึ้นสุดเสียงชายที่เหลือวิ่งหน้าตั้งเข้ามาแล้วกวาดตามองรอบบริเวณไม่เห็นแม่แต่เงาของพวกผู้หญิงที่พวกเขาจับมาเป็นตัวประกันเพื่อเรียกค่าไถ่ ทิ้งไว้เพียงหนวดกุ้งรัดแขนเอาไว้ให้ดูต่างหน้าก็เท่านั้น“ไปตามหาตัวพวกมันสิวะ แล้วเอาตัวกลับมาให้ได้ยืนเซ่ออยู่ทำไม”ภูริตวาดลูกน้องลั่นแล้วไล่ด้วยความเดือดดาลก่อนจะวิ่งไปอีกทางเพื่อตามหาเพราะเหลือเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นก็ได้เวลานัดกับวายุแล้วบริเวณริมป่าละเมาะเหมือนฝันกึ่งเดินกึ่งวิ่งนำหน้าเพื่อมองหาลู่ทางและเข้าใกล้เขตหมู่บ้านคนเพื่อขอความช่วยเหลือทว่ามองไปทางไหนก็เห็นแต่ความมืดมิดเสียงวิ่งจากเบื้องหลังด้วยความเร็วพร้อมกับแสงไฟฉายสาดส่องไปมาทำให้รู้ว่าพวกมันใกล้เข้ามาถึงเต็มทีแล้ว“คุณณิ คุณน้ำ เร็วกว่านี้หน่อยค่ะ พวกมันตามมาแล้ว”เหมือนฝันเร่งสองสาวที่เดินรั้งท้ายส่วนตัวเองนั้นก็เริ่มเหนื่อยหอบเพราะสุขภาพไม่แข็งแรง“เฮ้ย พวกมันอยู่นั้น หยุดนะเว้ย”ความกลัวทำให้วารินทร์สั่นไปทั้งตัววิ่งมองหลังจนไม่ทันระวังสะดุดหินล้มลงบนทางลูกรังจนข้อเท้าพลิกทำให้ลุกขึ้นเดินต่อไม่ได้ พอมอ
ทุกคนมานั่งประจำที่ตัวเองกันหมดแล้วยกเว้นเพียงเหมือนฝันเท่านั้นที่ยังไม่กลับมา“ยัยฝันไปไหน ตั้งแต่แม่ยกถาดอาหารออกมายังไม่เห็นเลย”“น่าจะเอาเสื้อไปเก็บมั่งครับ แต่ก็ไปนานแล้วนะครับ” ตรีวิทย์บอกแล้วยืดคอขึ้นมองไปยังโรงจอดรถ“ถ้างั้นเดี๋ยวป้าไปตามให้นะคะ” ป้ามาลีอาสแล้วก็เดินออกไปไม่นานก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับมาด้วยสีหน้าตื่นในมือมีรองเท้าอยู่ข้างหนึ่งซึ่งวายุจำได้เป็นอย่างดีว่าเป็นของเหมือนฝัน หัวใจเขากระตุกวูบขึ้นมาแล้วรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาเปิดกล้องวงจรปิดดูทันทีเขาขบกรามแน่นเมื่อเห็นผู้ชายตัวใหญ่สองคนกำลังหิ้วปีกร่างไร้สติออกไปจากบ้านอย่างเงียบ ๆ โดยหลบเลี่ยงสายตาจากคนทั้งบ้านโดยไม่มีใครสังเกตเห็น“ต้องเป็นฝีมือไอ้ภูริแน่นอน” วายุสบถออกมา“คนเดียวกันกับที่เคยจับฟ้าไปน่ะเหรอ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับอนุชได้ยินแบบนั้นก็เข่าอ่อนทำท่าจะเป็นลมจนเหมือนฟ้าต้องรีบพยุงและพาไปนั่งเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุด ป้ามาลีรีบไปหายาดมมาให้ทันที“ผมพลาดเองที่ละหลวมความปลอดภัยเพราะคิดว่าคนอยู่เยอะกันขณะนี้มันคงไม่กล้าลงมือ”สองมือกำแน่นเข้าหากันเพราะรู้สึกเป็นห่วงเหมือนฝันจับใจ ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นตอนแรก
“ยินดีด้วยนะคะ คุณแม่ตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้ว”คุณหมอสาวสวยในชุดกาวน์เงยหน้าขึ้นบอกด้วยรอยยิ้มหลังจากได้รับชาร์ตคนไข้จากพยาบาลเพื่อดูผลตรวจ“ท้องเหรอคะ ฉันจะท้องได้ยังไงคะ ในเมื่อฉันป้องกันด้วยการกินยาคุมตลอด” เกิดคำถามขึ้นมาในหัวมากหมาย“การกินยาคุมไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์นะคะ บางครั้งหากเราทานยาร่วมกับยาปฏิชีวนะก็อาจจะทำให้ตัวยาคุมเสริมคุณภาพลง หรือในขณะมีเพศสัมพันธ์มีการกระทำซ้ำอย่างต่อเนื่องก็ไม่สามารถป้องกันได้ครอบคลุมและสุดท้ายเลยก็คือลืมทานยาอย่างต่อเนื่อง”เพียงแค่ได้ยินคำว่ากระทำซ้ำ เหมือนฝันก็หมดคำถามลงทันทีว่าทำไมถึงท้องได้ ทุกครั้งวายุไม่เคยป้องกันเลยแถมยังดุดันกินเธอซ้ำอยู่ทั้งคืนจนแทบไม่มีเรี่ยวแรงในยามเช้าอีกต่างหากเสียงแจ้งผลการตั้งครรภ์ยังก้องอยู่ในหัวเลยไม่ได้ยินเสียงเรียกชื่อจากพยาบาลสาวสวยจนเธอต้องเดินมาสะกิดเหมือนฝันจึงได้สติกลับมา“เชิญคุณเหมือนฝันไปรับยาที่ช่องหมายเลขหนึ่งนะคะ”พยาบาลสาวผายมือเชิญให้เดินตามไป“อย่าลืมทานยาบำรุงและยาแก้แพ้ให้ครบตามที่หมอบอกนะคะ แล้วก็นัดครั้งต่อไปอย่าลืมพาคุณพ่อมาตรวจเลือดด้วยนะคะ”พยาบาลยื่นซองยาสีน้ำตาลพ
ท้อง!เธอยกกล่องมันขึ้นอ่านวิธีดูค่าการตั้งครรภ์ใหม่อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเธออ่านไม่ผิด แต่ความจริงก็คือความจริงเธอกำลังตั้งท้องเปลี่ยนจากความกังวลเป็นความเครียดทันทีเรี่ยวแรงที่เดินออกมาจากห้องน้ำแทบไม่มี ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัวพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าท้องตัวเองซึ่งมีก้อนเลือดอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในท้องจะบอกเรื่องนี้กับเขาดีไหมเพราะเธอเพิ่งขอหย่ากับเขาไปเองถ้าเขารู้ว่าเรามีลูกด้วยกันเขาจะรู้สึกอย่างไร การแต่งงานเกิดขึ้นเพราะความจำเป็นและเธอก็แอบรักเขาอยู่ฝ่ายเดียวเหมือนฝันยังคงไม่เชื่อว่าตัวเองกำลังตั้งท้องคิดว่าที่ตรวจคงมีปัญหาจึงคิดเอาไว้พรุ่งนี้จะไปตรวจที่โรงพยาบาลให้แน่ใจร่างอวบเดินเหม่อลอยมาตามทางเดินโดยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเสียด้วยซ้ำจึงทำให้ไม่ทันระวังเดินชนกับการันต์ตรงหน้าประตูทางเข้าแคนทีนของบริษัท“ขะ...ขอโทษค่ะ” ไม่ได้มองหน้าเสียด้วยซ้ำว่าคนถูกชนเป็นใคร“ฝันเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมถึงดูหน้าซีด ๆ”“พี่รันต์เองเหรอคะ” ขยับตัวเล็กน้อยแต่ร่างกายก็โอนเอนการันต์รีบเข้าไปพยุงแล้วประคองไปนั่งตรงม้านั่งยาวริมทางเดินก่อนจะยื่นยาดมไปให้เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวทำท่าจะเป็นลม“ไม่
ริมฟุตบาทมีร้านค้าตั้งเรียงรายเต็มสองข้างทาง เหมือนฝันทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะชะโงกมองส้มตำร้านโปรดแล้วหันกลับไปหาผู้อยู่หลังพวงมาลัย“พี่ลม จอด!”วายุเหยียบเบรกแล้วเลี้ยวรถจอดข้างทางหันไปมองคนเจ้าเนื้อที่กำลังชะโงกคอออกไปนอกหน้าต่างเหมือนกำลังมองหาอะไรสักอย่าง“วันนี้เรากินข้าวนอกบ้านได้ไหมคะ”“อืม ได้สิ ฝันอยากกินอะไรล่ะ”“อยากกินส้มตำปูปลาร้าแซบ ๆ สักครก” แค่พูดก็น้ำลายสอมุมปากนานเท่าไรแล้วที่เธอไม่ได้กินส้มตำ“แน่ใจเหรอว่าจะกินร้านข้างทาง มันสะอาดหรือเปล่า”เขาเดินตามหลังร่างอวบที่เดินนำหน้าไปอีกทางหนึ่งหลังจากจอดรถเสร็จแล้ว“สะอาดแน่นอนค่ะ ฝันมากินร้านนี้ค่อนข้างบ่อย”วายุนั่งมองเหมือนฝันสั่งอาหารอย่างคล่องแคล่วแต่ส่วนใหญ่มีแต่คงรสจัดและรสเผ็ดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ยำ หรือต้มแซบหม้อไฟ“มองอะไรคะ ไม่เคยเห็นคนกินข้าวหรือไง”ระหว่างเงยหน้าขึ้นจากการก้มลงดูดขาปูจากจานรองเธอเห็นวายุเอาแต่จ้องมองโดยไม่แตะต้องอาหารที่เธอสั่งมาเลยแม้แต่นิดเดียว“เคย แต่ไม่คิดว่าจะสั่งมาเยอะขนาดนี้ กินหมดเหรอ”“หมดสิคะ ฝันอยากกินมาหลายวันแล้ว” ทั้งพูดทั้งเคี้ยวเขาได้แต่นั่งมองด้วยความเอ็นดู