รถยนต์จอดอยู่เรียงรายเต็มไปหมด“มาทางนี้ผมจะแนะนำคุณเอง”เขารู้ได้ยังไงว่าคันนี้เป็นรถของหล่อน จำแม่นได้ทีเดียว เมื่อเด็กรับรถโบกมือให้หล่อนเข้าไปจอดในช่องที่ว่าง สักพักหนึ่งก็เห็นเขาเดินมาที่ข้างรถของหล่อนแล้วเคาะกระจกเอ่ยพูด หญิงสาวแทบตั้งตัวไม่ทันเลยจึงเงยหน้ามองคนร่างสูง“จะพาฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้เลยหรือ”ถามแล้วรู้สึกอึดอัดตัวเองพอประมาณ “ฉันเล่นไม่เป็นนะ แล้วพวกการพนันไม่ได้อยู่ในหัวสมองของฉันสักนิด ฉันค่อนข้างเกลียดการพนันเสียด้วยซ้ำ”หล่อนแทบจะเอ่ยใส่สีหน้าเขาด้วยซ้ำ หลังจากลังเล น่าแปลกที่มีรอยยิ้มจากมุมปากบางทอดส่งมาให้อ่อนโยน จนหล่อนรู้สึกคลายใจ“เอาเหอะน่า รับประกัน คุณจะเห็นอะไรดีๆมากกว่านั้น”คำถามล้วนแต่ซ่อนปริศนาอะไรดีๆของเขาอีกล่ะ ทำไมไม่กล้าบอกมาตรงๆ หล่อนปั้นปึ่งเล็กน้อยนิ่วหน้าก่อนจะก้าวลงมาจากรถตามคำชวนของคนตรงหน้า“ผมไม่คิดว่าคุณจะมาเล่นการพนันนี่ เพราะผมต้องการให้คุณมาช่วยจับผิดคนคนหนึ่ง” หญิงสาวยิ่งแปลกใจขมวดคิ้วถามอีก“จับผิด”เอ่ยแล้วครุ่นคิด มึนตื้อที่หัวสมอง พลางจ้องสายตามองคนตรงหน้าเหมือนบังคับเขาไม่ให้หลบไปไหน ชายหนุ่มเองก็สู้ดวงตาหล่อน “จับ
ฮึ ไม่แล้วสินะ ถ้าลองธีรคามทำแบบนี้กับหล่อน หล่อนเลิกเรียกเขาเป็นแฟนเลยล่ะ ทำกับหล่อนขนาดนี้ เอาเถอะ เอาเถอะหล่อนยกเขาให้ผู้หญิงที่ดูแล้วอดอยากน่าสมเพทนั่นไป จะว่าไปสองคนนั่นมีอะไรเข้ากันได้หลายอย่าง อย่างที่เขาเรียกกันว่าผีเน่ากับโลงผุ หล่อนคิดเช่นนั้น ก่อนที่จะเอี้ยวกายกลับ และคิดว่าจะไม่อยู่รอเขาอย่างแน่นอน คราวนี้หล่อนก็ทราบความจริงประจักษ์ตาแล้วพอร่างระหงกำลังเอี้ยวตัวเพื่อจะหมุนกลับไปที่รถ แขนของหล่อนก็ถูกแตะสัมผัสจนใบฟางรู้สึกสะดุ้ง เหลียวมามองอีกครั้ง นัยน์ตาของหล่อนขุ่นวับ “ดีเหมือนกัน ฉันจะได้บอกคุณว่า ฉันจะกลับบ้าน เสียเวลาเรื่องไร้สาระเรื่องนี้”ใบฟางเอ่ยเสียงเข้มพูดไม่มองคนฟังสักนิด แต่เขาคว้าร่างงามของหล่อนเอาไว้ เป็นอีกครั้ง สองครั้งแล้วมั้งที่ใบฟางตกอยู่ภายใต้อ้อมกอดของเขา เมื่อรู้สึกตัวหญิงสาวก็สะบัดกายดิ้นรนทันที“อย่ามาทำกับฉันอย่างนี้นะ อย่าคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงใจง่าย” เขายืนมองพร้อมกับส่งยิ้มมาให้หน้าตาเฉยทั้งที่แววตาของหล่อนขุ่นวับ “ทีแรกก็กำลังจะคิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว ยังไงคุณก็สูงส่ง เหนือผู้หญิงคนนั้นมากมาย”“ผู้ห
เพราะในเวลานี้เรื่องความกลัว ลืมไปได้เลย ใบฟางกำลังจะเห็นช้างตัวเท่ามด เขายืนนิ่งและเงียบไปนานเหมือนกับครุ่นคิดระหว่างที่เผชิญหน้ากัน นี่ปาเข้าไปถึงสี่ทุ่มแล้ว หล่อนใช้เวลาอยู่ในสถานที่อโคจรแห่งนี้ นานขนาดนี้เชียวหรือ ความลับ..อ๋อ แน่นอนละหล่อนได้รู้ความลับอย่างเต็มที่ แล้วก็ไม่ต้องอธิบายให้มากเปลือง เห็นชัดเต็มตาอย่างนั้นเดาไม่ออกก็โง่แล้วและหล่อนรู้สึกแค้นเคืองถึงธีรคามด้วยที่เขาทำแบบนี้กับหล่อน คิดไปอีกที หล่อนเองก็มีส่วนผิดด้วยเหมือนกัน แต่หล่อนต้องการอยากรู้นี่นา เขามีจิตวิทยาพอที่จะกระตุ้นอารมณ์ของหล่อนให้คล้อยตาม เพื่อพิสูจน์ความจริง หล่อนก็อยากจะรู้ว่าเขาไม่ได้โกหก แต่ความเป็นจริงที่หล่อนได้รับ ทำให้หล่อนแค่รู้สึกเจ็บใจ พร้อมกันนั้นสังเวชแกมสมเพทไปถึงธีรคามกับคู่ขาของเขา นึกถึงสภาพที่เขาซมซานมาหาหล่อน เหมือนคนสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่มีที่จะไปอย่างนั้น หล่อนน่าจะเดาออกตั้งแต่แรกแล้ว หล่อนไม่ได้เสียดายเงินจำนวนนั้นหรอก ถ้าเขาไม่มีปัญญาชดใช้คืน ก็ไม่ได้คิดอะไร สุดแล้วแต่บุญ คิดว่าหล่อนอาจจะติดค้างเขาไว้ในชาติปางก่อนก็ได้"ยังไงเสียฉันก็ต้องกลับล่ะ ขอบค
“คุณ คุณคะ คุณรู้จักธี ใช่ไหมคะ ช่วยเขาด้วยเถิดค่ะ บอกคนในครอบครัวของเขาที ว่าเขาถูกจับ ให้ช่วยประกันตัวด้วย”หล่อนฟูมฟายน้ำตาออกมาเป็นที่หน้าสงสาร ปางภูเองก็ยืนเงียบอยู่ตรงนั้น ชายหนุ่มที่ได้ยินทุกถ้อยคำที่หล่อนเอ่ย กำลังเหลือบสายตาดูว่าหญิงสาวตรงหน้าจะเอ่ยอย่างไร“ฉันคงช่วยอะไรไม่ได้มากหรอกค่ะ”ใบฟางออกตัว พยายามจะปฏิเสธ แต่ลึกๆหล่อนก็นึกสงสาร “แต่เอาเถอะค่ะ รับปากว่าจะช่วยบอกเรื่องนี้แก่คนในครอบครัวของเขา” พอหล่อนพูดเท่านั้นหญิงสาวสารรูปโทรมดังกล่าวก็รู้สึกดีใจ หล่อนขอบคุณขอบอกขอบใจใบฟางเป็นการใหญ่ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปปางภูถอนใจเหลือบมองใบหน้าหญิงสาวที่รู้สึกว่าหล่อนสามารถหาทางช่วยเหลือตัวเองให้รอดพ้น เขาเลยบ่นออกมา“นี่แหละเขาว่า ทำอะไรไม่รู้จักคิด” หญิงสาวพยักหน้า “ค่ะ คนเราขาดสติมักทำอะไรได้เสมอ” หล่อนรู้สึกหดหู่แกมสลดในความรู้สึกเพราะอย่างน้อยธีรคามก็ถือว่าเป็นคนที่หล่อนรู้จักเขาดีมากคนหนึ่งในแง่ดีๆ และหล่อนก็ไม่ได้รับปากเพื่อผู้หญิงคนนั้นที่มาขอร้องหล่อน แต่หล่อนคิดว่าอยากจะทำเพื่อตอบแทนเขาที่อย่างน้อยช่วงวันเวลาที่ผ่านมาเขาก็ดีต่อหล่อนมากมายทีเดียวเหตุการณ์ส
ตอบแล้วก็รู้สึกอดกังวลใจไม่ได้ “งั้นถ้าคุณหยุดงาน พรุ่งนี้สักช่วงบ่ายโมง ผมจะแวะไปบอกข่าวเรื่องเกี่ยวกับประกันตัวของนายธีรคามกับสวรรค์สีให้ฟัง ว่าคืบหน้าไปถึงไหน” หญิงสาวนิ่งคิดสักครู่จึงพยักหน้า“ได้ค่ะ คราวนี้ฉันจะลงไปเปิดประตูให้คุณเองกับมือเลย”ยิ้มอบอุ่นส่งให้หญิงสาวอีกครั้ง ก่อนที่หล่อนจะเดินไปที่รถ แล้วขับออกไป ปางภูมองรถคันนั้นจนลับสายตาจากไป เขาจึงได้รู้สึกตัวและปรับเปลี่ยนกิริยาทำอย่างอื่น หยิบแหวนเพชรเม็ดจิ๋ว ที่ราคาพอประมาณสักสามหมื่นน่าจะได้ เขาคิดว่าน่าจะช่วยเหลือในการประกันตัวของธีรคามได้ และลำดับต่อไปเขาคิดว่าต้องตัดสินใจไปหาสวรรค์สีเพื่อทำตามคำแนะนำของใบฟาง จากนั้นก็หมดหน้าที่ของเขาชายหนุ่มทำให้หล่อนรู้สึกสับสนใจอย่างมากที่สุด จนแม้ว่าหล่อนขับรถกลับมาถึงบ้านแล้วก็ตาม แต่สมองของหล่อนก็รู้สึกโล่งเบาหวิว ใบฟางยังฟุบหน้าอยู่กับพวงมาลัย ด้วยความเหนื่อย ปางภูพูดอะไรใส่หูหล่อนไม่ทราบ จำได้แต่เพียงว่า เขาต้องการชวนให้มาดูพฤติกรรมของใครคนหนึ่ง ที่เขาแน่ใจว่าหล่อนอยากจะรู้แน่นอนที่สุด แล้วที่เขาคิดไว้ไม่พลาดเป้าเลย ใบฟางด่วนมาเพราะคำพูดของเขา หล่อนไม่ท
เสร็จแล้วหล่อนก็รออยู่ข้างนอกทั้งที่ใจของหล่อนกระวนกระวายยิ่งนักใคร่ที่จะได้เห็นหน้าของเขา เพราะเขาไม่เคยทุกข์ทรมานอยู่ในสถานที่แบบนั้น หล่อนคิดว่าเขาเปราะบางมาก รู้นิสัยว่าธีรคามไม่ใช่คนอดทนอะไรมากนักสักพักใบหน้าของหล่อนยิ้มแฉล้ม เมื่อสักพักเจ้าหน้าที่ได้รับคำสั่งจากร้อยเวรประจำโรงพัก พาตัวของธีรคามก้าวเข้ามาหาหล่อน แค่เขาเห็นใบหน้าของหล่อนก็ส่งรอยยิ้มให้ แม้จะดูเซียวซีดอิดโรย จากการที่หล่อนคิดว่า แปลกที่ เขาต้องนอนไม่หลับมาทั้งคืนแน่ ดีใจอย่างที่สุด แทบจะละล่ำละลักบอกหล่อน “สีเอาเงินมาประกันผมหรือ ดีจริง ทูน หัว”หามาได้ยังไงข้อนี้เขาไม่สนใจหรอกขอแค่ตัวเองรอดพ้นคุกตะรางที่มีแต่สารพัดกลิ่นอับชื้นเน่าเหม็นจนแทบจะอาเจียนออกมาก อีกอย่างไอ้ผู้ต้องขังเมื่อวานนี้ก็เหมือนกัน เห็นมันมองเขาด้วยสาตาที่น่ากลัว เหมือนจะทำมิดีมิร้ายอะไรสักอย่าง โฮ เขาไม่อยากจะกลับไปพบเจอมันแล้ว สวรรค์ช่วยจนถึงในที่สุดแท้ ที่ไม่ต้องกลับมานอนต่อเป็นวันที่สอง แค่นี้ไม่คิดอะไรแล้ว แล้วตามหล่อนลงไปข้างล่าง นั่งแท็กซี่กลับห้องด้วยกันเอ่ยถามหล่อนขณะนั่งบนรถแท็กซี่ “สียอดรักของผัว เธอเอาเงิน
“นี่ฟังฉันก่อนสิ หทัย เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังเอง เรื่องทั้งหมดมันมีอยู่ว่า คุณปางภูนัดฉันให้ไปพบเขา เพื่อเล่าเรื่องสำคัญบางอย่างที่ฉันอยากจะรู้ เป็นบ่อนแห่งหนึ่งแถวห้วยขวาง ไปถึง.. ฉันไม่นึกว่าจะได้พบความจริงบางอย่าง แล้วที่สุดก็ทำให้ฉันตาสว่างมากขึ้น ที่หลงมองคนถูกมาตั้งนาน”เอ่ยจบแล้วใบฟางเงียบ ปล่อยให้หทัยซัก อย่างนึกงงไม่ทราบว่าคู่นี้เกิดดีกันแล้วหรือไง เพราะมันประหลาดเหลือเกิน ใบฟางเพิ่งบอกหล่อนมาว่าเคียดแค้นเขาสุดขีด ถึงกับอาฆาตไว้เลย จู่ๆก็กลับมาตาลปัตรคืนดีกันเสียยังงั้น แต่เท่าที่ดูจากหน้าตาของเพื่อนสาวก็ไม่สู้ดีสักเท่าไหร่ หล่อนเล่าต่อไป“ฉันเพิ่งมารู้ว่า พี่ธี เขาไม่ซื่อสัตย์ต่อฉันสักนิด เขามีผู้หญิงคนอื่น คงอยู่ด้วยกันมานานแล้วล่ะ ผู้หญิงคนนั้นฉันได้เห็นแล้วล่ะ คงเหมาะสมสมน้ำสมเนื้อกับดี” ใช่ชนิดที่ว่าผีเน่ากับโลงผุ ใบฟางอยากจะบอกเพื่อนอย่างนี้นัก แต่ยั้งปากไว้ทัน เพราะไม่ใช่ะสมสมน้ำสมเนื้อกับดี"ีสักเท่าไหร่ หล่อนเล่าต่อไปงเพิ่งบอกหล่อน เรื่องของหล่อน แต่ใบฟางคิดว่าหล่อนตัดสินใจแล้วที่ทำอย่างนี้ เพราะแต่นี้ต่อไปสายใยระหว่างหล่อนกับธีรคามก็คงเหลือแค่ความเป็นเพื่อ
“เอาล่ะ ผมจะไม่รบกวน แค่โทร.แวะมาบอกข่าว คิดว่าคุณคงจะสบายใจขึ้น”จากนั้นปางภูปิดเครื่อง เกิดความกังวลใจในสีหน้า ท่าทางของหล่อนไม่สบายนัก เป็นผลเพราะเขาเข้าไปตอแยและชวนให้หล่อนอยู่ต่อจนเกิดเรื่อง หลังจากที่หล่อนได้รับความจริงแล้วว่า แฟนหนุ่มของหล่อนไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อหล่อนสักนิด และตอนเย็นก็ตัดสินใจแน่ว่าจะเข้าไปที่บ้านของหล่อน ทั้งที่เขาไม่เคยไป การไปของเขาเมื่อช่วงสองวันที่ผ่านมา กลับเป็นการไม่ต้อนรับจากหล่อน เถอะ.. เขารู้สึกห่วงหล่อนจริง ถึงกลั่นและก่อเกิดความรู้สึกที่แปลกใจตัวเองเหมือนกันทำไมต้องห่วงใยอนาทรหล่อนเพียงนี้ และมันคงไม่นับเรื่องการเข้าใจผิดระหว่างหล่อนกับเขาในโรงแรมคืนนั้น หทัยขมวดคิ้วอีกครั้งด้วยความแปลกใจเมื่อเพื่อนสาวปิดเครื่องไปแล้ว เห็นสีหน้าที่ยังเซียวซีดของใบฟาง“ใครโทร.มาล่ะฟาง”หทัยเพิ่งมาถึงไม่นานนัก โดยใบฟางเป็นคนเดินมาสั่งอาหารก่อนเพื่อนและทรุดนั่งลงคอยคิวจากคนอื่น หันไปทางเพื่อนสาว เอ่ย“คุณปางภู โทร.มาบอกฉันว่า พี่ธีได้รับการประกันตัวแล้ว.. ฉันก็รู้สึกโล่งใจ.. เพราะแต่นี้ต่อไปคืองี้จ้ะ หทัย ฉันไปที่บ่อนมา กับ เอ้อ คุณ ปางภู"ยสาวที่ถูกเพื่
ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบฟาง”หล่อนเข้าใจเขาพูดถูก หล่อนก็ตอบแทนความรักของเขาด้วย“ต่อไปไม่มีแล้วล่ะ เมียขายฝาก สมญาที่ใช้เป็นคำพูดเล่นๆขำๆเพื่อล้อเลียนคุณ มีแต่ตำแหน่งเดียวคือเมียแต่งนายปางภู คุณจะสนใจตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตหรือเปล่าล่ะ”คารมของพ่อหนุ่มนักเขียนทำเอาหล่อนต้องยอมรับล่ะ มิน่าถึงร้อยเรียงเขียนหนังสือได้หลากหลายยาวนาน “สนใจสิคะ”หล่อนพยักหน้า “ไม่งั้นฉันคงไม่ตัดสินใจยอมคุณหรอก” เขากลั้วยิ้มดวงตาพราวอีกครั้งกับคำตอบนี้ พึงพอใจเช่นเดิม เพราะขุมสมองมีแต่ความเพริดแพร้วทางปัญญา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบ
คารมของนักเขียนหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มพราวระยับที่ดวงตาของหล่อนขึ้นบ้าง หวงนี่อาจจะแปลกว่าหึง หล่อนยิ้ม“นั่นยิ้มอะไร ขำหรือว่าไม่พอใจ”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฟางรู้สึกว่า พอได้สามีมาหนึ่งคน เขาก็บ่นเสียเก่ง” เขาหันมาทางสาวสวยผู้เป็นภรรยา ขยับใบหน้ามาใกล้ “นี่มาหาว่าเราบ่น ประเดี๋ยวเหอะ จะจูบให้ตายตาอ้อมกอดเลย”ชายหนุ่มบ่นเสียงไม่จริงจังนัก หมั่นไส้ผู้เป็นภรรยามากกว่า “แนะ ไม่กลัว ใช่ไหม? เดี๋ยวเอาจริงนะ”เขาขู่หล่อน พลอยทำให้ใบฟางต้องหลับตาปี๋ลง ก่อนที่ใบหน้าขาวๆของดวงหน้าคมคายจะโน้นแตะชิดใกล้ริมฝีปากประกบบดขยี้ลงไปแทรกความหวานเจือปนละลายอยู่ในช่องปาก จนสาวสวยรับรู้ถึงสัมผัสที่หวานซ่านลิ้น “นี่เริ่มบทลงโทษแล้ว โทษฐานที่มีเมียขี้บ่น แถมปากเก่งอีกต่างหาก เอ้อ เป็นเมียขายฝากเสียด้วย”หญิงสาวยังข้องใจในคำนี้ ความหมายแบบเขานี่คืออะไร จึงส่งสายตาอึดอัด หงุดหงิดทวงถามเมื่อเขาละถอนจากริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน เพราะรู้ว่าหล่อนจะถาม หล่อนไม่ชอบใจสักนิดกับคำทีเขาใช่เรียกหล่อน“อีกแล้ว เมียขายฝาก ฉันไม่รู้ว่าความหมายมันคืออะไรกันแน่ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่พี่ธีรคา
“ยังไม่แน่ใจค่ะ เมล ตอนนี้ฉันอยากอยู่เมืองไทยไปก่อน คงทำงานไปสักพัก ถ้าลืมเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉันก็อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับใครก็ได้ ที่เขารักจริง และรักความเป็นตัวฉัน รวมทั้งเขาไม่แคร์อดีตต่างๆของฉันด้วย”“ขอให้คุณโชคดีนะฮันนี่”“ขอบคุณคะ เมล คุณก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”หล่อนโบกมือให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและคณะจะเดินจากไปในช่องผู้โดยสารขาออก แล้วหล่อนหันมายิ้มให้กับตัวเอง นี่คืออิสรเสรีที่หล่อนต้องการ จึงถอนใจออกมายาวนานด้วยมีความสุข หล่อนต้องการตัด และเยื่อใยอาวรณ์จากเขา หล่อนจะต้องทำให้ได้ เมลมีดีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้คือ เขาจะเอาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างที่เรียกว่า เสือไบ โฮโมเซกช่วล แบบนี้หล่อนไม่ต้องการ ไม่ต้องการเสียน้ำตาทนอยู่กับผู้ชายประเภทนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เขาทำให้ชีวิตของหล่อน เหมือนตกนรกทั้งเป็นนึกว่าจะยืดเยื้อ หรือคาราคาซังเสียอีก ขอบคุณที่เขาเลือกให้ของขวัญนี้ให้แก่หล่อน ตามที่หล่อนร้องขอปรารถนามานานต่อไป ชั่วชีวิตนี้ หล่อนจะไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อเมล นี้อย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะเป็นตายร้าย
จะไม่ช๊อคใจไปใหญ่หรือ ที่ตลอดมานั้น อ่านหนังสือของคนกันเองทั้งนั้น คนกันเองที่ขยับเข้ามาเป็นคนในบ้านและเป็นคนในเรือนใจของหล่อนเข้าทุกขณะ“นี่สิของแท้ของชัวร์ นิยายที่ผ่านการรวมเล่มแล้วของผม มีประมาณ เกือบสิบเรื่องด้วยกัน ซ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะ และถ้าอยากจะไปร่วมงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมษาที่จะถึงเร็วๆนี้ ไปกับผมสิ คุณจะได้รู้ว่าแฟนคลับผมตรึมแค่ไหน ที่เรียกร้องอยากจะให้ผมมา..แล้วก็ต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย”เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพปนกับอารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราด ไม่นึกว่าเขาจะมีอีกภาคหนึ่ง ของผู้ชายที่เขียนหนังสือขาย เป็นนักเขียนที่ถือว่า ได้รับความนิยมมากคนหนึ่งในปัจจุบัน ในยุคที่นักเขียนไทย ผุดตัวเองขึ้นมาราวกับดอกเห็นกลางฤดูฝน“ไม่เชื่อ คงต้องเชื่อแล้วละคะ นี่ถ้ายัยเงิน น้องสาวของฟางรู้เรื่อง ตายเลยล่ะคงทั้งอึ้งทั้งทึ่ง ไม่งั้นก็เกือบช๊อคไปหลายสิบตลบแน่นอน”“ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”“ใช่ค่ะ ถึงขนาดนั้นแน่นอน เพราะน้องสาวของฉัน ติดงานของคุณมาก”เขาเพิ่งทราบ“นี่คุณทำอย่างนี้ทุกวัน หลังขดหลังแข็งมากไหมคะ”เขายิ้มอีกครั้ง“งา
เขาเอ่ยคำนี้ จนหล่อนหน้าแดงไปเลย สีระเรื่ออ่อนที่พวงแก้ม แต่ก็เข้าใจความหมายเมื่อเขาพร้อมที่จะให้สัญญาปากแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง “งั้น ฟางจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจอีกสักครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่”“อ้าวทำไมล่ะ กลัวผมจะเปลี่ยนใจ ทำมิดีมิร้ายกับคุณหรือไง นี่ฟังนะจ้ะคนเดียว เรื่องทำมิดีมิร้าย ผมก็คิดเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ต่อไปล่ะ ผมคงมีเวลาทำมิดีมิร้ายกับคุณอย่างสุดสวาทอย่างว่า ได้นานครั้งล่ะ ตอนที่เราแต่งงานกันเสร็จแล้ว นั่นล่ะ มีเวลาทั้งชีวิตของผมเลย”ฟังคำพูดที่เขาเอ่ย หล่อนก็รู้สึกเบาใจ ปางภูหัวเราะเสียงใส“แล้วฉายาเจ้าพ่อบ่อนหรือเสี่ยที่พี่ธีรคามเรียกใช้ ให้สมญาชื่อคุณล่ะคะ”“นั่นผมลืมแล้ว ผมจะไม่เข้าแล้ว ตัดขาดจากมันตลอดชีวิต ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่ ผมมีคุณ ผมมีครอบครัว มีคนที่เอาใจใส่น่ารักอย่างนี้ ผมจะเตลิดหนีหายไปไหนได้อีกล่ะฟางจ๋า”ในเมื่อเขาจะมีครอบครัวแล้ว นั่นมันคือภาพอดีต เมื่อครั้งที่ยังใช้ชีวิตโสดอิสระได้เต็มที่ และเมื่อพ้นจากวัยนั้นพ้นผ่านแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็คิดว่ามันเป็นเกมชั่วครั้งชั่วคราวที่ผ่านทางชีวิตของเขาเขาไม่ได้ติดหนึบติดหน
หญิงสาวยิ้มให้พยักหน้าและเพิ่งเข้าใจ “คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่ตอนนั้นทำอะไรก็คิดจะปิดบังคุณ”เสียงนุ่มทุ้มดังอีก เป็นกังวาน แต่ก็รู้สึกชุ่มชโลมในหัวใจของหล่อนอย่างประหลาด“เคยคิดจะโกรธเหมือนกันคะ แต่ก็ดีที่คุณเพิ่งอธิบายออกมา ฉันเลยนึกโกรธคุณไม่ลงแล้ว”เขาหันมายิ้มอ่อนๆสบตาของหล่อน“ก็ต้องบอก เพราะเราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว จากนี้มีอะไรก็ต้องร่วมรับผิดชอบกัน”หล่อนนิ่งฟังคำพูด ชอบฟังคำพูดที่มีหลักการในการวางแผน และให้กำลังใจ สร้างความปลาบปลื้ม แก่ใจของหล่อนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวยอมรับว่าหล่อนเริ่มจะหลงรักผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่รักก็คงไม่ได้หรอก ลึกแต่ไม่ลับในความรู้สึกของหล่อน ขอเก็บเอาไว้รู้เพียงคนเดียว จึงหันทางเขาอีกครั้งยิ้มและสบตาให้ หล่อนนึกถึงเรื่องอื่นได้ อย่างเพิร์ล หรือภามิญาที่ไม่รู้ว่า ทั้งคู่คืบหน้าไปมากแค่ไหน จวบกับมีเรื่องราวอื่นที่เป็นเรื่องสะเทือนใจ ประดังเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าไม่ขาด จากสึนามิ ฝนก็ท่วมถล่มทางภาคใต้ แผ่นดินไหวทางประเทศพม่าหรือเมียนมาร์กับทางภาคเหนือของไทย วิบากกรรมของประเทศและชาวโลกถูกซัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน คงต้องพึ่งพาความดีงาม ศีลธรรม บุญกุศลท
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงระส่ำขวัญเช่นนี้ เรื่องทั้งหมดจึงถูกพับแปลนงานอย่างน่าเสียดาย ไว้รอเหตุการณ์ทุกอย่างสงบอีกครั้ง เขาถึงจะเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน คงต้องเป็นหลังจากที่งานแต่งของเพื่อนรักที่เมืองไทยเสร็จสิ้น“ขอบใจนายมากที่เป็นห่วง ฉันเป็นตัวแทนของประเทศที่รับความหวังดีนี้จากนาย”“ไม่เป็นไร ฉันเป็นคนไทย เมืองที่ได้ชื่อว่าใจบุญ และสยามเมืองยิ้ม ที่ไหนเกิดความทุกข์เดือดร้อนสาหัส พวกเราทนดูดายไม่ได้หรอก ยิ่งญี่ปุ่นก็ให้ความพึ่งพิงพึ่งพาช่วยเหลือประเทศไทยเรามาก่อน ไม่ว่าทางด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีต่างๆ สายสัมพันธ์เรายาวนาน เราจึงเห็นใจกันและกัน ถือว่าประเทศไทยตอบแทนน้ำใจประเทศญี่ปุ่น มันเป็นการกตัญญูรู้คุณที่สองประเทศมีไว้ให้กัน”คนฟังรู้สึกตื่นตันใจ และนึกในใจเขาเองก็ถือว่าโชคดีที่มีเพื่อนสนิทเป็นคนไทยอย่างปางภู“ทำใจให้ดีเถอะนะ เข้มแข็งเอาไว้ คิดเสียว่า เบื้องหลังฝันร้าย จะกลายเป็นดี ในอนาคต”โทชินาดะพยักหน้ารับกับเพื่อน ใบฟางรับรู้เรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ เพราะหล่อนติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวที่เกิดอย่างรุนแรงของประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อนึกถึงเพ
แต่ที่น่าแปลกใจคือ ศราณัฐกลับพูดเรื่องนี้ไม่ออก เหมือนปากของเขาถูกอุดเอาไว้นิ่งเช่นกัน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร หรืออาจเพราะว่า เขากับหล่อนนั้น ห่างหายจากกันไปนาน แทบไม่ได้รับการติดต่อจนกระทั่งได้กลับมาพบกันอีกครั้งแต่เขามีความรู้สึกว่า ใบฟางห่างเหินเมินเฉยต่อเขาเป็นอย่างมาก เอ หรือจะเป็นเช่นที่มารดาเอ่ยกล่าวว่าเปรยๆบอกเขาไว้ว่า ใบฟางมีแฟนแล้วที่มาเทียวรับเทียวส่งหล่อนบ่อย เรื่องนี้เป็นการยืนยันด้วยสายตาของมารดา ทีแรกเขาก็ไม่ได้เชื่อหรอก แต่มาเห็นสายตาและปฏิกิริยาของใบฟางที่มีต่อเขาแล้ว ชายหนุ่มต้องแอบบอกกับตัวเอง เขาคงมิแคล้วต้องซดน้ำใบบัวบกแทนข้าวมื้อนี้เสียแล้วและนี่คือความอึดอัด เมื่อถึงที่หมายใบฟางขอลง เขาเองก็จอดให้หล่อนลงอย่างง่ายดาย พร้อมกับยิ้มให้ และโบกมือเมื่อหล่อนเอ่ย “ฟางขอบใจพี่ศรามากนะคะ รบกวนเท่านี้ล่ะ ขอให้โชคดีค่ะ”ชายหนุ่มโทร.หาโทชินาดะแต่เช้าหลุดประโยคออกมา “โทชิ ฉันจะแต่งงานกับใบฟาง”ทำเอาเพื่อนอึ้งกับคำนี้ เงียบไปครู่จึงย้อนกลับไปถามทวน “นายว่าอะไรนะป้าง จะแต่งงานแล้วหรือ”“ใช่ ว่าที่เจ้าสาวของฉัน ใบฟางไงล่ะ คนที่เราได้พบเจอเป็นครั้งแรกพร้อมกับ
คุณสนมนาถเงยหน้าขึ้นสบตาสามีอย่างเข้าใจ ท่านเอ่ยอีกครั้งเบือนหน้าหันกลับมาเสียงเคร่ง“แล้วต่อไปจะเอาอย่างไร”“ผมจะจัดการสู่ขอน้องฟางให้ถูกต้องตามประเพณีครับ ส่วนฤกษ์ คุณแม่ของผมท่านกำลังหาอยู่ถึงเรื่องนี้.งมา แล้วคุยกันถึงเรื่องนี้.ง เอ้อ ฟางจะแต่งงานกับ คุณปางภูค่ะ"ตอบล่ะเงมาอย่างไร เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น หล่อนอึ้งตลอด แต่อย่างทีบอกลึกนั้นในใจภูมิใจอย่างมาก ที่คำสารภาพของเขาแบบลุมอเลือกอย่างน้องชายแกเอก่อนนะครับ.. น่าจะไม่เกินสิ้นเดือนนี้ครับ”ปางภูชี้แจงเสียงนุ่มคมชัดฉะฉานและทุ้มเรียบ คุณสนมนาถยื่นผ้าเช็ดหน้าให้บุตรสาว ยิ้มชื่นมื่นนั้นบ่งบอกว่าลูกสาวรับรู้และเห็นดีเห็นงามด้วย“ในเมื่อจะมาเอ่ยขอลูกสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ประเพณีของไทยเราสุภาพบุรุษไม่ควรทำอะไรลับๆล่อๆ กินในที่ลับแล้วมาไขในที่แจ้งสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก้่ได้ว่าอะไร ก้เห็นดีเห็นงามด้วยน้าให้บุตรสาวมื่อเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มและลูกสาวสลับกัน ถ้าทำถูกต้องตามประเพณีทางนี้ก็ยอมรับ.. เพราะลูกสาวของฉัน เห็นว่าเขาคงจะเข้าข้างเธอ และเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างมาก เอาล่ะ เมื่อเข้าใจกันแล้ว ฉันก็ยอม