ตอนที่ 4 เช็กของก่อนประมูล
“แค่ก ๆ ๆ” อนันต์ไอหนักจนมีลิ่มเลือดปนออกมา
“คุณพ่อจะเข้ารับการรักษาต่อค่ะคุณหมอ” เม็ดทรายตัดสินใจแทนผู้เป็นพ่อ พร้อมหันไปบอกคุณหมอทันที
แม้จะตกใจกับอาการของผู้เป็นพ่อ แต่เม็ดทรายก็พยายามบอกตัวเองให้มีสติมากที่สุด สุดท้ายอนันต์ก็ยอมเข้ารับการรักษา มือที่เริ่มเหี่ยวตามวัยจับปากกาจรดเซ็นเอกสารทันที
“พ่อไปที่ห้องพักก่อนนะคะ เดี๋ยวเม็ดทรายตามไป เม็ดทรายไปจัดการเรื่องเอกสารต่าง ๆ ก่อน”
หญิงสาวเอ่ยบอกกับผู้เป็นพ่อออกไปแบบนั้น แล้วปล่อยให้บุรุษพยาบาลเข็นรถเข็นพาพ่อเธอเข้าไปในห้องตรวจ และไปรอที่ห้องพักฟื้น
ซึ่งหลังจากจัดการเรื่องเอกสารการเข้ารักษาตัวของผู้เป็นพ่อเสร็จเรียบร้อย เม็ดทรายก็เดินเลี้ยวไปยังแผนกสูตินารีเวช เพื่อทำการฝังยาคุมกำเนิดตามที่ผู้ชายคนนั้นสั่ง ดวงตาคู่สวยหลุบมองท่อนแขนที่เป็นจุดฝังยาคุม ก่อนจะรั้งเอาแขนเสื้อลงมาปิดเอาไว้ หลังจากทำธุระเสร็จ เธอก็รีบเดินกลับไปหาผู้เป็นพ่อที่ห้องพักฟื้นทันที
ณ ห้องผู้ป่วยรวม
“พ่อต้องพักที่นี่นานหน่อยนะคะ แล้วก็อย่าดื้อกับคุณพยาบาลนะ...รู้มั้ย?” เม็ดทรายยิ้มมองผู้เป็นพ่อเพื่อให้ท่านอารมณ์ดี แต่ในแววตาของอนันต์ที่มองลูกสาวกลับมานั้นเต็มไปด้วยคำถามที่อยากจะถามเธอให้ชัดเจน
“ทำไมพวกเขาถึงยอมปล่อยพ่อล่ะ...หนูคุยอะไรกับพวกเขา?” เม็ดทรายรู้สึกเย็นวูบไปทั้งตัวเมื่อได้ยินในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อถาม
ตลอดชีวิตนี้เธอไม่เคยโกหกพ่อหรือใครมาก่อน ตอนนี้เธอเลยยังคิดไม่ตกว่าจะต้องโกหกท่านว่าอย่างไร ก่อนจะนึกไปถึง...
“หนู...คือ หนูไปแจ้งตำรวจน่ะค่ะ หนูบอกไปตามตรงว่า พ่อติดหนี้พวกเขา ตำรวจก็เลยช่วยเข้าไปไกล่เกลี่ยให้ ซึ่งทางเจ้าหนี้ก็ยอมที่จะปล่อยพ่อออกมา ถ้าหนูรับปากว่าจะทำงานหาเงินมาคืนเขาได้หมดโดยไม่คิดหนี” เม็ดทรายพยายามทำน้ำเสียงให้ดูจริงจัง พร้อมคลี่ยิ้มออกมา ราวกับเรื่องนี้เป็นจริงดังที่เธอพูด เพราะไม่อยากให้พ่อรู้ว่าเธอโกหก และเก็บเอาไปคิดมากอีก
“เม็ดทราย... หนี้ตั้งสองล้านเลยนะ เราไม่มีทางใช้หนี้เขาหมดหรอก อีกอย่างดอกมันก็จะทบต้นไปเรื่อย ๆ พ่อว่า...” อนันต์แม้ไม่รู้ว่าลูกสาวไปคุยอีท่าไหนถึงออกมาเป็นแบบนี้ แต่เขารู้ดีว่า มาเฟียพวกนี้มันไม่ซื่อสัตย์และไม่รักษาคำพูดหรอก
เม็ดทรายรู้ดีว่าพ่อเธอกำลังกังวล และคงเป็นห่วงเธอ ใบหน้าสวยยังคงแต้มไปด้วยรอยยิ้ม พลางกุมมือหนาของผู้เป็นพ่อเอาไว้ “พ่อคะ... ไม่ต้องห่วงนะ ตอนเคลียร์กันมีตำรวจเป็นพยานด้วย ตอนนี้เราก็แค่ต้องทำงานและทยอยใช้หนี้เขาไป เดี๋ยววันหนึ่งมันก็หมดค่ะ พ่อไม่ต้องกังวล ไม่ต้องคิดมากนะ ตอนนี้พ่อคิดแค่เรื่องรักษาตัวก็พอ”
“แน่ใจนะ...ว่าหนูไม่ได้มีอะไรปิดบังพ่อ” อนันต์ถามย้ำกับลูกสาวอีกครั้ง พลางมองสบเข้าไปดวงตาคู่สวยของลูกสาวหวังจะจับพิรุธ
“แน่ใจสิคะ... เอ่อ พ่อคะ ยังมีเรื่องที่เม็ดทรายจะต้องบอกพ่อค่ะ” เม็ดทรายสูดลมหายใจเข้าลึกอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มพูดตามที่คิดเอาไว้ “คือก่อนหน้านี้วาปรึกษาเพื่อนเรื่องหางานทำน่ะค่ะ เพื่อนวาเขาแนะนำให้ไปทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารในโรงแรมที่ภูเก็ต เพราะงานดี รายได้ก็ดี ถ้ารวมทิปส์จากลูกค้าฝรั่งมันก็จะได้เยอะมาก ๆ เผลอ ๆ ทำไม่นานเราอาจจะใช้หนี้ได้หมดเร็วขึ้นนะคะ” พูดมาถึงตรงนี้ เม็ดทรายก็เงียบไปอีกครั้ง
“มีอะไรหรือเปล่าลูก” อนันต์เห็นลูกสาวเงียบไป ทั้งที่ก่อนหน้ายังพูดเรื่องงานด้วยความตื่นเต้นอยู่เลย
“แต่วาอาจจะไม่ได้อยู่ดูแลพ่อ และอาจจะกลับมาเยี่ยมพ่อไม่ได้บ่อย พ่ออย่าโกรธวานะคะ”
“พ่อโกรธตัวเองมากกว่า และขอโทษวานะลูกที่พ่อทำให้เราต้องลำบากขนาดนี้” อนันต์ยกมือขึ้นลูบหัวเม็ดทรายเบา ๆ เมื่อได้ยินแบบนั้น แววตาของชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ทุกอย่างมันเป็นเพราะความโง่ของพ่อคนเดียวเลย”
เม็ดทรายเมื่อเห็นว่าพ่อของเธอเริ่มจะโทษตัวเองและเสียใจกับเรื่องนี้ ก็รีบยิ้มกว้างหวังเปลี่ยนบรรยากาศให้ดีขึ้น เพราะก่อนหน้านี้คุณหมอก็แนะนำว่า ไม่อยากให้พ่อเครียดหรือคิดมาก เนื่องจากจะทำให้อาการทรุดลงได้ ก็อย่างที่เขาว่ากัน โรคนี้มันต้องการกำลังใจ และแพ้คนไข้ที่มีความสุขนี่เนอะ
“วารู้ว่าที่พ่อทำไปก็เพื่อวา เพราะงั้นไม่ต้องขอโทษและรู้สึกผิดนะคะ วาไม่ได้โกรธ เอางี้ถ้าพ่อรู้สึกผิดกับวา พ่อก็ต้องรีบรักษาตัวให้หาย และกลับไปอยู่กับวานะคะ” เม็ดทรายลุกขึ้นดึงผ้าห่มห่มให้ผู้เป็นพ่อพร้อมกับหอมแก้มท่านเบา ๆ หนึ่งฟอดใหญ่ ขณะเดียวกันพยาบาลก็เริ่มเดินตรวจ และไล่บอกให้ญาติ ๆ กลับได้แล้ว เนื่องจากหมดเวลาเยี่ยม และไม่อนุญาตให้ญาตินอนเฝ้า
“พี่พยาบาลเขาบอกหมดแล้วเยี่ยมแล้ว...พ่อต้องพักผ่อนเยอะ ๆ นะ ไว้พรุ่งนี้เช้าเนี่ยหนูมาเยี่ยมมาใหม่นะคะ ฝันดีค่ะพ่อ... เม็ดทรายรักพ่อที่สุดเลยนะ” ก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องเธอไม่ลืมที่จะกอดและหอมท่านอีกครั้ง
ทันทีที่เธอกลับถึงบ้านตัวเอง บ้านที่มีหมายศาลและมีป้ายประกาศขายแปะอยู่ข้าง ๆ ใช่เธอกับพ่อไม่สามารถอยู่บ้านหลังนี้ต่อได้อีกแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่มีที่อื่นให้ไปจริง ๆ จึงทำได้แค่เพียงแอบเข้ามานอนในบ้านหลังเดิมอย่างเงียบ ๆ
ทันทีที่เข้ามาในบ้านและปิดประตูหลัง สิ่งที่เธออัดอั้นมานาน ทุก ๆ ความรู้สึกเจ็บปวดที่อยู่ภายในใจ ก็ไม่สามารถจะเก็บเอาไว้ได้อีกแล้ว เม็ดทรายค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมกับร้องไห้ออกมาทันที มือเรียวยกขึ้นปิดริมฝีปากตนเองพลางสะอื้นไห้ออกมาเบา ๆ ไม่รู้ว่าเธออยู่แบบนั้นนานเท่าไร ก่อนจะหลับไปเพราะความเหนื่อยทั้ง ๆ ที่น้ำตายังคงไหลอาบแก้มไม่ขาดสายอยู่อย่างนั้น
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา หลังจากที่เม็ดทรายเข้าไปบอกลาพ่อ และโกหกว่าจะจะต้องไปเริ่มงานที่ภูเก็ตแล้ว ทันทีที่เดินออกมาจากโรงพยาบาล คนของแอลฟ่าก็มายืนรอรับเธอในทันที ทำราวกับเธอเป็นนักโทษอย่างไรอย่างนั้น
“ขึ้นรถสิ” ลูกน้องคนเดิมที่เธอเคยเจอที่ผับของแอลฟ่าเดินตรงมาเรียกให้เธอขึ้นรถทันที เม็ดทรายจำใจเดินไปขึ้นรถอย่างเลี่ยงไม่ได้ แน่นอนว่าเธอไม่ได้คิดหนีและทำตามที่รับปากกับเจ้าหนี้อย่างแอลฟ่าเอาไว้ ด้วยรู้ดีว่า หากเธอคิดหนี คนพวกนี้คงไม่ปล่อยเธอและพ่อของเธอไปแน่ ๆ
ณ โรงแรมเชอร์ราตัน
“คุณแอลฟ่ารอเธออยู่ด้านใน” ลูกน้องของแอลฟ่าซึ่งเดินขึ้นมาส่งเธอถึงห้องพักสุดหรูเอ่ยขึ้น พร้อมกับเปิดประตูให้เธอที่ยังคงยืนนิ่ง ไม่ยอมขยับตัวไปไหน “เข้าไปสิ”
เม็ดทรายก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องพักหรูหรา พร้อมกับใช้สายตากวาดมองสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง เมื่อไม่เห็นใครอยู่ในห้อง เธอจึงเดินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูบานเลื่อนบานหนึ่ง มือเรียวทั้งสองข้างค่อย ๆ ผลักบานประตูให้เลื่อนเปิด เผยให้เห็นแผ่นหลังกำยำของคนคนหนึ่งซึ่งกำลังนั่งหันหลังแช่น้ำอยู่ในสระ
เม็ดทรายมองแผ่นหลังนั้นนิ่ง ๆ ก่อนจะสะดุ้งตกใจเมื่อเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมา
“มาแล้วเหรอ” แอลฟ่าพูดขึ้น แต่ไม่ได้หันมามองหน้าเธอเลยสักนิด
“ค่ะ” เธอตอบเสียงสั่น ๆ
แอลฟ่าลุกจากสระ แล้วเดินขึ้นมาหยิบเสื้อคลุมไปสวมทับร่างเปลือยเปล่าเอาไว้หลวม ๆ ทางด้านเม็ดทรายที่เห็นแอลฟ่าลุกพรวดขึ้นจากน้ำทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่าแบบนั้นก็รีบหันหลบไปอีกทางทันทีพลางหลับตาปี๋ หัวใจดวงน้อยเต้นรัวแรง กระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าเปียกแฉะเดินมาหยุดด้านหลังเธอ นั่นยิ่งทำให้เธอยิ่งประหม่ากว่าเดิม
“ไปอาบน้ำสิ ฉันจะได้เช็กของก่อนส่งเธอไปประมูล”
“ชะ...เช็กของ?” เม็ดทรายหันกลับมาถามอย่างงุนงง
“อย่ามาทำเป็นใสซื่อไม่รู้อะไรไปหน่อยเลยน่า มันไม่ได้ทำเธอดูน่ารัก ออกจะน่ารำคาญด้วยซ้ำ รีบไปอาบน้ำ ฉันไม่ชอบอะไรที่มัน...สกปรก ๆ และฉันก็ไม่ชอบที่จะรอนาน ๆ”
🦋____________🦋
ตอนที่ 5 เลือดบริสุทธิ์เด็กสาว หลังจากที่เม็ดทรายเดินหายเข้าไปในห้องน้ำสักพัก ความกลัวก็ทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมา กลัวผู้ชายคนนี้มาก ๆ และกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงหรือหลบหนีไปทางไหนได้เลย ใบหน้าของพ่อค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นมาอีกครั้ง เด็กสาวทรุดตัวลงกับพื้นและกอดร่างกายตัวเองแน่น พยายามกลั้นเสียงร้องไห้ของตัวเองให้ได้มากที่สุด “หนูยอม ถ้าความเจ็บของหนูมันทำให้พ่อมีชีวิตอยู่ต่อได้ หนูจะทำ...จะทำทุกอย่างเอง” เม็ดทรายพูดบอกพ่อผ่านตัวเธอเอง เธอเปิดน้ำล้างคราบสบู่ตามร่างกายและเช็ดคราบน้ำตาที่กำลังไหลออก ก่อนจะนุ่งกระโจมอกเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าหวาดหวั่นและเนื้อตัวสั่นเทาเบา ๆ แอลฟ่าหันไปมองยังประตูห้องน้ำเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออก ร่างกายของเม็ดทรายทำให้เขาไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้ เมื่อมองเห็นสีหน้าท่าทางแบบนั้นของหญิงสาว คำว่า ‘แสดง’ ก็ผุดขึ้นมาในความคิดเต็มไปหมด “หน้าตาเธอก็ไม่แย่นะ คงจะเคย ๆ อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? เลิกแกล้งทำเป็นใสซื่อหรือทำท่าว่ากลัวแบบนั้นเถอะน่า เด็กสมัยนี้สิบห้าสิบหกก็อุ้มลูกกันโทง ๆ แล้ว” “คุณหมายความว่ายังไง?” เม
ตอนที่ 6 ทดลองไม่พัก NC “ซี้ด...โอ่ว ๆ ๆ แน่นโคตร ๆ โอ้ว” แอลฟ่าครางออกมาเสียงกระเส่าขณะที่เขารั้งเอวบางและออกแรงกระแทกกระทั้นเข้าใส่ย้ำ ๆ ไม่มีผ่อนแรงสักนิด มือขวาผละจากร่องรักเลื่อนขึ้นไปบีบขยำหน้าอกสวยขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่พอดีกับฝ่ามือของเขา แถมยังเป็นของแท้แม่ให้มาอีกด้วย ทางด้านของเม็ดทราย เธอทั้งเจ็บและทรมานไปทั่วร่าง กระนั้นเสียงร้องไห้และน้ำตาของเธอก็ไร้ความหมายอยู่ดี เพราะไม่ว่าเธอจะร้องขอเขาออกไปมากเท่าไร แต่เขากลับทำเหมือนเสียงของเธอเป็นเพียงอากาศเท่านั้น สวบ ตับ ๆ ๆ “อื้อ อื้อ คะ คุณ... หนูเจ็บ ได้โปรดพอสักที อื้อส์ อ๊ะ อ่า...อึก ไม่ไหว...มะ...ม่าย” หญิงสาวร้องครางออกมา แรงกระแทกที่แอลฟ่ามอบให้ทำเอาร่างบางโยกคลอนไปทั้งตัว ใบหน้าสวยบิดเบ้ ดวงตาคู่สวยยามนี้มันพร่าเลือนไปด้วยม่านน้ำตาที่ไหลไม่ขาดสาย และสิ่งที่ชัดเจนที่สุดเวลานี้มีเพียงแค่ความเจ็บปวดตรงส่วนนั้น มันเจ็บจนเธอแทบบรรยายไม่ออก สวบ ตับ ตับ ๆ ๆ ยิ่งเธอร้องไห้ระงมเพราะความเจ็บ อีกฝ่ายก็ยิ่งชอบและยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น “ซี้ด...อ๊ะ ๆ ๆ” ร่างสูงคำรามลั่น บั้นเอวหนายังคงออกแรงกระแทกถี่และหนักหน่วงขึ้นตามแรงอารมณ์ที
ตอนที่ 7 ร่างกายที่อ่อนแอเม็ดทรายนอนขดตัวอยู่บนเตียงที่ยังคงเต็มไปด้วยคราบเลือดและน้ำกามของชายหนุ่ม ทั้งในช่องคลอดยังมีน้ำกามของเขาหลงเหลืออยู่อีกเยอะ ความเจ็บปวดที่ได้รับครั้งแรกยังผ่านพ้นไปได้ไม่ถึงชั่วโมงดี แอลฟ่าก็เดินกลับมาที่เตียง พร้อมกับใช้มือแยกเรียวขาของเธอให้อ้าออกกว้างอีกครั้ง ปากหยักคาบบุหรี่ร้อนเอาไว้ สูดสารนิโคตินเข้าปอดหนัก ๆ มือหนาสาวรูดแกนกายใหญ่เตรียมนำมาจ่อที่ช่องทางรักของเธออีกครั้ง ในขณะที่สายตาของเขาจดจ่ออยู่ที่หน้าจอทีวีซึ่งกำลังถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลแมตช์ใหญ่อยู่“อย่าทำเลยนะ ฉันไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้วจริง ๆ นะคุณ” เม็ดทรายยกมือไหว้ขอร้องเขาทั้งน้ำตาอีกครั้ง “เงียบ!! ฉันดูบอลไม่รู้เรื่อง” เขาชี้หน้าว่าให้เธอก่อนจะจับท่อนรักยัดเข้าไปในโพรงรักที่บอบช้ำของเธออีกครั้งท่อนเอ็นที่ยังไม่แข็งเต็มที่ในตอนแรกค่อย ๆ ขยายตัวใหญ่และแข็งขึ้นภายในร่องรักสาว แอลฟ่าโยกเอวเข้าใส่ร่างบางหนัก ๆ ไม่ยั้งแรงอีกครั้ง ควันบุหรี่ถูกพ่นออกมาเป็นระยะ ๆ จนคละคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง พร้อมกับสะเก็ดไฟจากบุหรี่ที่ปลิวออกมาจนโดนผิวเนื้อบอบบางของเม็ดทรายจนเธอกรีดร้องเสียงลั่น“อะ...โอ๊ย ๆ ๆ
ตอนที่ 8 ไร้ความเป็นคน NC(ฮัลโหล...ใครครับ) เสียงที่กรอกมาตามสาย ทำเอาเม็ดทรายแทบกลั้นเสียงร้องไห้เอาไว้ไม่อยู่“พ่อ...หนูเองนะ”(เม็ดทรายเหรอลูก งานยุ่งเหรอ ไม่เห็นโทร. มาหาพ่อเลย) เสียงของอนันต์ฟังดูดีใจมาก เพราะตลอดสองวันเขารอสายจากลูกสาวมาตลอด ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง (เป็นยังไงบ้างลูก) “เม็ดทรายถึงภูเก็ตแล้วนะคะ งานที่นี่สบายกว่าที่เม็ดทรายคิดอีกค่ะ ที่พักก็สบายมากเลย แถมผู้จัดการที่ร้านยังใจดีมาก ๆ เลยค่ะพ่อ” เม็ดทรายพยายามทำน้ำเสียงให้ร่าเริง และโกหกออกไปคำโต เพื่อไม่ให้เผยพิรุธใดจนผู้เป็นพ่อสงสัย แม้ว่าตอนนี้เธอจะต้องปาดน้ำตาไปด้วยก็ตาม(ถ้าเป็นแบบนั้นพ่อก็หายห่วง...เม็ดทรายดูแลตัวเองดีๆ นะลูก) อนันต์ย้ำคำอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงลูกสาวคนเดียวของเขา“คะ... ค่ะพ่อ งะ... งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ เม็ดทรายต้องรีบไปทำงานแล้ว เม็ดทรายรักพ่อนะคะ” เม็ดทรายรีบตัดบท และทันทีที่ผู้เป็นพ่อตอบกลับเธอก็รีบวางสายทันที หญิงสาวยกมือทั้งสองขึ้นปิดปาก และปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่อีกต่อไปทว่าเธอกลับไม่รู้ตัวเลยว่า ขณะที่เธอกำลังร้องไห้อย่างหนัก มีใครบางคนกำลังยืนกอดอกมองเธออยู่ตั้งแต่ต
ตอนที่ 9 เต็มปากเต็มคำ NC“ฝังเข็มยาคุมมาแล้วใช่ไหม?” มือหนาชักรูดแกนกายรีดน้ำกามที่หลงเหลือออกมาก่อนจะป้ายลงบนหน้าท้องแบนราบของเม็ดทรายที่นอนหมดเรี่ยวแรงอยู่ตรง หญิงสาวไม่ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้าเบา ๆ“เชื่อฟังดีนี่ แต่ถ้าเธอท้องมันก็ไม่ได้ยากอะไร เธอก็แค่ต้องทนเจ็บหน่อยตอนไปเอาเด็กออกเท่านั้นเอง” แอลฟ่าเอ่ยแบบนิ่ง ๆ แล้วเดินจากไปปล่อยให้เม็ดทรายที่ไร้เรี่ยวแรงนอนสะอื้นไห้อยู่เพียงลำพังณ บนดาดฟ้า ชั้น 71 โรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนได้เป็นอย่างดี แสงไฟสีส้มจากสะพานสาดส่องกระทบผิวน้ำดูระยิบระยับ และบรรยากาศมันคงจะโรแมนติกมากหากได้มากับคนรัก ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่สำหรับเธอและเขาที่มาด้วยกัน“เราขึ้นมาบนนี้ทำไมเหรอคะ” เม็ดทรายเอ่ยถามอย่างงุนงง เพราะวันนี้แอลฟ่าบังคับให้เธอแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีแดงสด ซึ่งตัวเขาก็อยู่ในชุดสูทหรูไม่ต่างกัน“เธอเนี่ยถามเยอะจนน่ารำคาญเลยจริง ๆ นะ” แอลฟ่าบ่นออกมาพลางเดินนำเม็ดทรายเข้าไปด้านใน ซึ่งมีพนักงานและบริกรรอต้อนรับอยู่แล้วเม็ดทรายกวาดตามองรอบ ๆ บนดาดฟ้าแห่งนี้ก็พบว่าไม่มีลูกค้าโต๊ะอื่นเลย นอ
ตอนที่ 10 กินกลางโต๊ะอาหารท่ามกลางแสงเทียนและแสงจันทร์ที่ส่องแสงสลัว พร้อมกับสายลมเย็น ๆ ที่พัดเข้ามาพาให้เรือนร่างอรชรเปลือยเปล่าสะท้านเฮือก ยิ่งปลายนิ้วที่งอกระดิกอยู่ภายในครูดไปกับผนังเนื้อนิ่ม ยิ่งพาให้รู้สึกมวนท้องขึ้นมา แอลฟ่าไล่สายตามองเรือนร่างขาวผ่องของอาหารบนโต๊ะ ก่อนเขาจะถอนปลายนิ้วออกช้า ๆ เผยให้เห็นคราบน้ำหวานที่เลอะชโลมปลายนิ้วออกมา ชายหนุ่มจงใจถ่างนิ้วออกจนเห็นเป็นเส้นสายที่ยืดย้วยไม่ขาดออกจากกัน แล้วจุ่มคราบเมือกสีใสลงไปคน ๆ ในแก้วเหล้าของตัวเอง ก่อนจะยกแก้วขึ้นมาสูดดมกลิ่นเหล้านั้นราวกับมันหอมชื่นใจ จากนั้นก็กระดกดื่มมันเข้าไปจนหมดพร้อมกับกดท่อนรักขนาดยักษ์ดันเข้าไปในตัวของเธอทีละนิด ๆสะสวบบบบ...ตับ!! แรงกดกระแทกที่หนักหน่วงทำให้โต๊ะอาหารโยกคลอน ขาโต๊ะครูดไปกับพื้นกระเบื้องหรู ก่อนจะวางแก้วกระแทกลงกับโต๊ะเสียงดัง “ซี้ด...อ่าส์...เธอนี่มันสุดยอดจริง ๆ” เขาพูดพร้อมกับบีบเอวของเธอแน่น แล้วจึงออกแรงถาโถมแท่งรักเข้าหาร่องรักที่คับแน่นของเธออย่างไม่มียั้งเสียงหยาบโลนจากการตอกตรึงดังก้องไปทั่วดาดฟ้า จังหวะกระแทกจากเนิบช้าก็เปลี่ยนเป็นค่อย ๆ รุนแรงและหนักหน่วงขึ้น พาใ
ตอนที่ 11 การกลับมา“คุณ?” เม็ดทรายรีบวางโทรศัพท์ด้วยท่าทีลุกลน เพราะไม่อยากโดนเขาลงโทษที่เธอใช้โทรศัพท์ทั้งที่เขายังไม่อนุญาตอีก ทว่าภาพของชายหนุ่มตรงหน้าทำเอาเธอเบิกตาโพรงและชะงักไปเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลายามนี้ดูอิดโรยและเหนื่อยล้าราวกับคนไม่ได้พักผ่อน เธอมองเขาเดินคุยโทรศัพท์เข้ามา ก่อนจะไล่สายตามองไปตามร่างกายก็เห็นว่าตรงแขนเขามีคราบเลือดบางส่วนที่แห้งไปแล้วติดอยู่ และยังมีเลือดสด ๆ บางส่วนไหลลงมาตามท่อนแขน หยดติ๋ง ๆ ลงพื้น จนกลิ่นคาวเลือดอวลคลุ้งไปทั่วห้องจนเธอเบ้หน้าเล็กน้อย“คะ...คุณเป็นอะไรรึเปล่า?” “เก็บของของเธอให้เรียบร้อย เราจะเดินทางกันคืนนี้” แอลฟ่าเอ่ยสั่งเม็ดทรายเสียงเรียบหลังจากที่เขาวางสายจากใครบางคน“คะ?” เม็ดทรายงุนงงเมื่อได้ยินคำสั่งนั้น“ฉันสั่งให้เก็บก็เก็บสิ จะสงสัยอะไรนักหนาฮะ?” เมื่อเห็นแอลฟ่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เม็ดทรายจึงรีบเดินไปจัดการเก็บข้าวของอันน้อยนิดของเธอลงกระเป๋า“ซี้ด...อ่า” แอลฟ่านั่งลงบนโซฟาพลางร้องครางเบา ๆ ด้วยความเจ็บผ่านไปครู่หนึ่งเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น แอลฟ่าจึงเดินไปเปิดพบว่าเป็นลูกน้อง “รถพร้อมแล้วครับนาย”แอลฟ่าพยักหน้า ก่อนจ
ตอนที่ 12 เกาะสวาทสามชั่วโมงต่อมาหลังจากเครื่องบินลงจอดบนเกาะกลางทะเลแห่งหนึ่งของภาคใต้ แรงกระแทกของการลงจอดทำให้หญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นมาในทันที เธอนั่งอยู่บนเบาะที่นั่ง และคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างดี ขณะที่แอลฟ่าก็นั่งจิบกาแฟไปพลาง ๆ ทำให้พอจะเดาได้ว่าเขาคงเป็นคนจัดการให้ทั้งหมดหลังจากที่เครื่องลงจอดสนิท ทั้งคู่ก็เดินลงจากเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว“...” เม็ดทรายที่เดินตามหลังชายหนุ่มลงมาก็กวาดตามองไปรอบ ๆ เกาะแห่งนี้ด้วยความตกตะลึงในความสวยงามและความสงบของมัน เธอไม่เคยได้เห็นหรือได้สัมผัสอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต เพราะที่ผ่านมานอกจากไปโรงเรียนแล้ว เธอก็แทบไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนเลย“ยินดีต้อนรับกลับสู่เกาะไข่มุกครับคุณแอลฟ่า” “อืม” แอลฟ่าพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินตรงไปยังบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเกาะด้วยใบหน้านิ่ง ๆ “เกาะไข่มุกงั้นเหรอ?” เม็ดทรายทวนชื่อเกาะนั้นเบา ๆ ในใจบรรยากาศรอบ ๆ เต็มไปด้วยผืนทรายละเอียดสีขาวราวไข่มุก และน้ำทะเลสีครามสวยลอบรอบกว้างไกลออกไปจนสุดลูกหูลูกตา และนอกจากความสวยงามและความสงบแล้ว กลิ่นอายยังสดชื่นอาจจะเพราะธรรมชาติทุกอย่างยังดูสมบูรณ์ บนเกาะมีเพีย
ตอนที่ 30 วันที่รอคอยแอลฟ่าไม่ได้พูดอะไร ทันทีที่เธอโผล่เข้ากอด ร่างสูงก็ยกมือโอบกอดเธอไว้แนบกายในทันที เขาปล่อยให้เม็ดทรายร้องไห้จนพอใจ มือหนาค่อยๆ ยกขึ้นลูบผมของเธอเบาๆ ราวกับปลอบประโลมในวินาทีนั้น เม็ดทรายรู้สึกเหมือนมีใครสักคนอยู่เคียงข้างเธอ แม้เธอจะทั้งกลัว ทั้งโกรธ ทั้งเคืองเขาในหลายเรื่อง แต่ในตอนนี้คนที่อันตรายและใจร้ายที่สุดอย่างผู้ชายคนนี้นี่แหละ ที่เธออยากจะโผล่เข้ากอดและร้องไห้ ปล่อยความอ่อนแอออกมาทั้งหมดอย่างไม่อายอีกต่อไปแล้วแอลฟ่ายืนแน่นิ่ง ปล่อยให้ร่างเล็กในอ้อมแขนสะอื้นไห้จนตัวโยน มือของเขายกขึ้นช้า ๆ ลูบไล้ลงบนแผ่นหลังของเธอเบา ๆ ร่างบางสั่นสะท้านราวกับไม่อาจแบกรับความเจ็บปวดไว้ได้อีกแล้ว“ฉันได้คุยกับพ่อแค่ไม่กี่คำเอง...อะ...ฉันเพิ่งกอดเขาเองอะ” เม็ดทรายพึมพำทั้งน้ำตา ซุกใบหน้ากับแผงอกแกร่งของเขา ความร้อนจากร่างกายของเขาทำให้เธอรู้สึกอุ่นขึ้น แม้จะรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่ทำร้ายเธอมาโดยตลอด แต่ในตอนนี้ เขากลับเป็นที่พึ่งสุดท้ายที่เธอมีแอลฟ่ายกมือขึ้นลูบผมของเธอช้า ๆ ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ปล่อยให้เธอปลดปล่อยความเสียใจออกมาเต็มที่ ดวงตาคมมองไปข้างหน้าอย่างว่าง
ตอนที่ 29 อ้อมกอดซาตานไม่มีคำปลอบโยนใดในวินาทีนั้นจะช่วยบรรเทาความปวดร้าวในใจเม็ดทรายได้ เธอผูกพันกับพ่อมากเพียงใด ตั้งแต่จำความได้เธอก็มีแค่พ่อ พ่อเคยบอกว่าที่เธอสวยและมีหน้าคล้ายลูกครึ่งแบบนี้ เป็นเพราะแท้จริงแล้ว แม่ของเธอเป็นสาวรัสเซียที่ทำงานในบาร์แห่งหนึ่ง และเคยคบกับพ่อในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนจะคลอดเธอทิ้งไว้และหนีไปโดยตามหาตัวไม่เจออีกเลยนับจากนั้น ซึ่งพ่อก็ไม่คิดจะทิ้งเธอ แม้ว่าเธอจะไม่ได้เกิดจากความรัก แต่พ่อก็อดทนเลี้ยงดูเธอมาอย่างสุดความสามารถ ของผู้ชายที่เสเพลคนหนึ่ง ที่พยายามจะปรับเปลี่ยนทุกอย่างเพื่อลูกสาว แต่ก็ไม่ได้มากพอที่จะเป็นพ่อที่ดีที่สุดได้แต่เขาก็ภูมิใจที่เลี้ยงเม็ดทรายมาได้จนถึงวันที่เม็ดทราย พึ่งพาตัวเองได้แล้วแบบทุกวันนี้“หนูรักพ่อนะ...หวังว่าพ่อจะรับรู้ได้” เม็ดทรายร้องไห้และพึมพำเบา ๆ ...เสียงสะอื้นของเม็ดทรายดังก้องอยู่ในห้องโถงผู้ป่วย แม้จะมีผู้คนเดินผ่านไปมา แต่ราวกับโลกทั้งใบหยุดนิ่ง เธอรู้สึกเหมือนหัวใจแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ไม่มีคำใดจะบรรยายความเจ็บปวดที่เธอรู้สึกได้และทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหนักแน่นก็ดังขึ้นใกล้ๆ เม็ดทรายเงยหน้าขึ้นมอง ทั้งน้ำตาพร่าม
ตอนที่ 28 การสูญเสียบนเครื่องบินส่วนตัวเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มอีกครั้งเมื่อนักบินเร่งเครื่องขึ้นสู่ท้องฟ้า เม็ดทรายนั่งกอดกระเป๋าใบเล็กที่มีของใช้เล็กน้อย พวกยาแก้แพ้ท้อง ยาดมต่าง ๆ สายตาคู่นั้นเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง เบื้องล่างคือท้องทะเลงดงามที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตนางบำเรอของเธอ ทว่าเวลานี้มันกลับเป็นเพียงฉากหลังที่เหมือนตอกย้ำว่าชีวิตเธอไม่สามารถคาดหวังอิสรภาพได้ง่าย ๆ “วันนี้ฉันต้องไปคุยงาน...ส่วนเธอถ้าเยี่ยมพ่อเสร็จแล้วก็รอที่นั้น เสร็จงานแล้วฉันถึงจะมารับเอง” เขาเอ่ยขึ้นสั้น ๆ พอเครื่องแตะรันเวย์สนามบินดอนเมืองก็มีรถยนต์คันดำสุดหรูมาจอดรอรับ ทั้งสองแยกขึ้นคนละคัน โดยเขาก็ไม่ลืมที่จะสั่งการให้ลูกน้องสองคนพาเม็ดทรายไปส่งที่โรงพยาบาลและจับตาดูเธอแบบไม่คาดสายตา เพราะ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ไปด้วยแต่เธอก็ไม่มีสิทธิ์หนีหรือมีอิสระอะไรอยู่ดีโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่งเธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามทางเดินที่คุ้นเคยไปยังห้องพักฟื้นผู้ป่วยระยะสุดท้าย เสียงฝีเท้าเร่งเร้าของเธออาจไม่ดังมากนัก แต่กลับรู้สึกว่ามันสะท้อนกึกก้องในอก วินาทีแรกที่เธอเห็นพ่อของตัวเอง เธอแทบจะจำเขาไม่ได้เล
ตอนที่ 27 ท้องไม่รู้ตัวสามวันผ่านไปขณะที่เม็ดทรายกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง อาการไข้ของเธอทุเลาเบาลงเยอะ และเธอยังต้องทานยาบำรุงมากมายที่ทางหมอและพยาบาลจัดเตรียมาให้ หลังจากที่เม็ดทรายรู้ว่าตัวเองกำลังท้องขึ้นมาจริง ๆ เธอก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัวแอลฟ่ามากขึ้นทุกที แต่ตั้งแต่ที่เธอตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลนี้ เธอก็ไม่เห็นหน้าของเขาอีกเลยเช่นกัน“คุณตื่นแล้วเหรอคะ พอดีเลยคุณหมออนุญาตให้คุณออกจากโรงพยาบาลได้วันนี้” พยาบาลสาวเข้ามาประคองเม็ดทรายเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ ก่อนจะพาเธอกลับมานั่งบนวีลแชร์ และเข็นเธอออกจากห้องพักเพื่อนำไปส่งที่รถตู้สีดำที่จอดรออยู่ตรงหน้า“ฉันจะต้องไปที่ไหนคะ” เม็ดทรายหันไปถาม เพราะจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่กำลังเผชิญเท่าไรนัก“กลับบ้านไงคะ... สามีของคุณ ให้คนรถขับมารอแล้ว” เม็ดทรายได้ยินก็นิ่งคิดชั่วครู่ เธอไม่กล้าที่จะขึ้นไปบนรถ เพราะกลัวว่าแอลฟ่าจะพาเธอไปทำร้ายมากกว่า “เออ...ฉันไม่ไปได้ไหม?” เม็ดทรายทำท่าจะเดินหันหลังกลับ แต่พอหันกลับไปทางคุณพยาบาลก็เดินหายไปแล้ว เหลือแค่เพียงลูกน้องของแอลฟ่าเพียงเท่านั้น“ไม่ได้ครับ...นายรออยู่” เขาเดินมาดักหน้า
ตอนที่ 26 จมลงทะเลริมชายหาดผ่านไปไม่กี่นาทีลูกน้องสองคนก็ล็อกแขนหิ้วปีกเจย์ อดีตลูกน้องคนสนิท ที่มาในสภาพถูกบอบช้ำอย่างหนักหน่วง ฟุ่บ!! ทันทีที่เจย์เห็นแอลฟ่าเขารีบคลานเข้าไปหาเขาในทันที“มึงบอกว่ามึงไม่ได้ทำ แล้วใครเป็นคนตัดสายกล้องวงจรปิดในบ้าน ใครเป็นคนลบข้อมูลทั้งหมดออกไป...ใคร?? ถ้าไม่ใช่มึง?” แอลฟ่ากำหมัดแน่นและถามอย่างพยายามใจเย็นมากที่สุด“ผมไม่รู้นาย...ผม” เจย์ส่ายหน้าอย่างไม่รู้มาก่อนจริง ๆ เพราะในบ้านหลังนี้มีเขาเป็นคนดูแลที่สูงสุดรองจากแอลฟ่า ผัวะ แอลฟ่าสะบัดเจย์ออก ก่อนจะเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อแล้วต่อยหนัก ๆ จนเจย์ล้มลงบริเวณมุมปากที่มีรอยช้ำเดิมอยู่แล้วก็แตกอีกครั้งจนมีเลือดสีสดซิบออกอีกครั้ง“มึงไม่ยอมรับเรื่องกล้อง...ก็ไม่เป็นไร” แอลฟ่าหยิบมีดเล่มสั้นที่เขาเคยให้เจย์ไว้เป็นของขวัญขึ้นมาจ่อที่ใบหน้าของเขา“งั้นกูจะถามมึงอีกครั้งว่า… มึงแอบทำแบบนี้กับคนของกูกี่ครั้งแล้ว?” น้ำเสียงหนาเอ่ยถามแบบหน้าตาย “นาย...ผมสาบานได้ ผมไม่เคยล่วงเกินเม็ดทรายเลย...ผมไม่เคยทำอะไรเธอเลยจริง ๆ นาย” เจย์เอ่ยเช่นเดิมซ้ำ ๆ นั่นกลับทำให้แอลฟ่ายิ่งโกรธ มือสากกระชากคอเสื้อเจย์ลากลงไปในทะเ
ตอนที่ 25 บทลงโทษของคนทรยศเสียงคลื่นทะเลยามบ่ายสาดกระทบชายฝั่งขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่า น้ำทะเลวันนี้ขึ้นสูงกว่าปกติ ลมทะเลเองก็พัดแรงขึ้นราวกับกำลังมีพายุลูกใหญ่สายลมเย็นแรง ๆ พัดกระทบใบหน้าสวยปลุกให้คนที่กำลังหลับรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในทันที ก่อนที่คลื่นลูกใหญ่จะซัดปะทะเข้าร่างบางจนแผ่นหลังสวยของเธอพาดไปกับขอนไม้ใหญ่ที่รั้งอยู่“อื้อ...อื้อ...พอ...พอแล้ว หนูเจ็บ...อื้อ” หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาสู้แสงแดดจ้าอย่างช้า ๆ กระทั่งเมื่อภาพทุกอย่างตรงหน้าเริ่มชัดเจนมากขึ้น เธอถึงได้รู้ว่าตอนนี้ตัวเธอกำลังถูกมัดอยู่กับเสาไม้ต้นใหญ่ที่ปกติใช้ผูกเรือตกปลาเล็ก ๆ แต่ตอนนี้กลับใช้มันล่ามตัวของเธอเอาไว้แทน“นี่มันอะไรกัน...ทำไมถึงอยู่ตรงนี้ได้…อื้อ” เม็ดทรายเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าเต็มทน เชือกหนาผูกมัดรอบกายของเธอและเมื่อเธอกวาดสายตาหันมองรอบ ๆ หญิงสาวก็แทบจะเป็นลมไปอีกครั้ง เพราะเธอถูกจับมามัดที่กลางทะเลจริง ๆ และระดับน้ำมันก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ “ชะช่วย...ด้วย...ช่วยด้วย” เม็ดทรายพยายามเปล่งเสียงที่แผ่วเบาออกไป สายตาของเธอมันแทบมองไม่เห็นอะไรเลยเพราะแดดที่ร้อนจ้าและคลื่นที่ซัดเข้าใบหน้าของเธอแทบไม่ได้ห
ตอนที่ 24 คนทรยศ“นะนาย?” ดาวที่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านอยู่ พอหันไปเห็นหน้าของแอลฟ่า ก็ปล่อยสายยางหลุดจากมือและก้มหน้าหลบตาของเขาอย่างผิดสังเกต“ไหนนายบอกว่าจะกลับพรุ่งนี้ไงเหรอคะ?” ดาวทำทีตกใจ ทั้งทีเธอรู้อยู่แล้วว่าแอลฟ่าจะกลับมาวันนี้ เพราะงานทั้งหมดมันเสร็จก่อนกำหนดแล้ว“ฉันจะกลับวันนี้พรุ่งนี้ มันหนักหัวเธอรึไง?” แอลฟ่าหัวเสียเรื่องงานมาเล็กน้อย และหันไปเหวี่ยงใส่ดาวที่ถามไม่เข้าหู“เปล่าค่ะ ดาวแค่...เอ่อ...คิดว่านายจะไม่กลับ” ดาวทำท่าทีตะกุกตะกักแบบชัดเจนเพื่อให้แอลฟ่ารู้สึกสงสัย“เป็นอะไรของเธอน่ะ?” น้ำเสียงเข้มขรึมเอ่ยถามดาวขึ้น เมื่อเดินเข้ามาหน้าประตูแล้วเห็นดาวกำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่“เอ่อคือว่า…ปะ...เปล่าคะ...เปล่า” ดาวยังคงแสดงท่าทีมีพิรุธอย่างชัดเจนเรียกร้องให้แอลฟ่าสงสัยมากขึ้น“...” แอลฟ่าถอดสูทตัวนอกออกก่อนจะถอนหายใจออกมาเหมือนรำคาญใจ ดวงตาคู่คมหรี่มอง คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน เมื่อเห็นดาวมีสีหน้าที่ดูเหมือนกับกำลังกังวลอะไรอยู่ ไหนจะท่าทีอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ นั่นอีก“แล้ววันนี้เม็ดทรายเป็นยังไงบ้าง กินข้าวได้ปกติดีไหม?” แอลฟ่าเอ่ยถามและกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ซึ่งเขาก็แอบแปลก
ตอนที่ 23 สิ่งที่ไม่อยากได้ยินเช้าวันต่อมา ภายในห้องซึ่งมีแสงแดดสาดส่องเข้ามาสลัว ๆ แอลฟ่าและเม็ดทรายยังคงหลับอยู่บนเตียงกว้าง ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้นปลุกให้เปลือกตาสีสวยค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมามองบานประตูห้องเปิดออกช้า ๆ และเพราะประตูห้องไม่ได้ล็อก ดาวจึงเปิดประตูเข้ามาทันทีที่เคาะประตูเสร็จ ใบหน้าหญิงสาวที่แม้จะมีบาดแผลแต่ก็ยังคงยิ้มแย้ม ในมือมีถาดอาหารกลิ่นหอมฟุ้งลอยเข้ามาเตะปลายจมูก ทว่ากลิ่นของมันกลับกำลังทำให้เม็ดทรายต้องเบือนหน้าหนี “ขอโทษที่เข้ามารบกวนนะคะ ฉันนำอาหารเช้าเข้ามาให้” ดาวเอ่ยใบหน้ายิ้มกริ่ม ก่อนที่แอลฟ่าจะตื่น ชายหนุ่มหันมองดาวเดินเข้ามาแบบนิ่ง ๆ ไม่ได้ว่าอะไร“ฉันตั้งใจทำเองเลยนะคะ หวังว่าจะชอบ” ดาวเอ่ยพร้อมกับวางอาหารลงบนโต๊ะ“เอาวางแล้วก็…ออกไปได้แล้ว” แอลฟ่าเอ่ยสั่งดาวเสียงเรียบ เธอจึงยิ้มบาง ๆ แล้วหันสายตาไปมองเม็ดทรายแบบยิ้มผ่านม่านตาแล้วเดินออกจากห้องไป หลังจากผ่านเหตุการณ์เสี่ยงตายวันนั้น เม็ดทรายก็รู้ดีว่า ดาวไม่ได้ดีอย่างที่เห็น แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะเล่าอะไรออกไป เพราะเธอเองก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่า แอลฟ่าจะเชื่อเธอมากแค่ไหน เพราะดาวเองก็คือนางบำเ
ตอนที่ 22 ไม่...อย่าทำ...อย่าหลายวันต่อมาแสงแดดอ่อน ๆ สาดส่องลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาในห้องนอนขนาดใหญ่ นเตียงนอนขนาดคิงไซซ์ปรากฏร่างของหญิงสาวที่ยังคงนอนหลับสนิท ร่างกายของเธอยังคงรู้สึกอ่อนล้าจากเหตุการณ์ระทึกขวัญในคืนนั้น ภาพความโหดร้ายของกลุ่มโจรยังคงติดตา เสียงกรีดร้องของแก้วที่บอกให้เธอหนียังคงก้องอยู่ในหูความรู้สึกผิดปะปนกับความหวาดกลัวกัดกินหัวใจของเธอไม่อาจจางไปจากใจได้เลย แก้วต้องตายเพราะเธอ ส่วนดาวกลับทรยศเธออย่างเลือดเย็น และ...“ไม่...ไม่ อย่าทำ...อย่าทำ” เม็ดทรายนอนกระสับกระส่ายเพ้อออกมาซ้ำ ๆ ทั้งที่ยังคงหลับตาอยู่“คุณคะ... คุณ” เสียงของใครบางคนพยายามเรียก และเขย่าตัวเธอให้ตื่นขึ้น“ไม่...ไม่” เม็ดทรายกรีดร้องลั่นก่อนจะสะดุ้งสุดตัวลืมตาตื่นขึ้นมาทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงมือที่แตะต้องตัวเธอ แรงสะดุ้งทำให้ร่างกายที่ยังคงระบมเจ็บร้าวจนใบหน้าสวยเหยเก “คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ?” พยาบาลที่ยืนอยู่ข้างข้างเตียงเอ่ยถามเธอทันทีที่เธอลืมตาตื่นขึ้นเม็ดทรายเหลือบมองไปเห็นรอยฟกช้ำตามแขนและขาของเธอ ซึ่งเป็นร่องรอยจากการต่อสู้และการหลบหนีในคืนนั้น ภาพเหตุการณ์นั้นยังคงชัดเจนราวกับเพิ่ง