หน้าหลัก / LGBTQ+ / เพียงชั่วข้ามคืน / บทที่ 26 ว่าวที่หลุดลอย

แชร์

บทที่ 26 ว่าวที่หลุดลอย

ผู้เขียน: DILEMMA 28
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-03 09:24:16

ตั้งแต่งานเปิดตัวโรงแรมคราวที่แล้วพิพัฒน์ก็ไม่รู้ตัวว่าเขาสวมแหวนแต่งงานวงนี้ติดตัวตลอดสวมจนบริเวณโคนนิ้วนางด้านซ้ายมีรอยวงกลมประดับอยู่เขาถอดมันออกมาจดจ้องก่อนจะสังเกตเห็นตัวอักษรหวัดๆน่าจะภาษาฝรั่งเศสเขาอ่านไม่ออกแต่ก็ถ่ายเอาไว้และใช้แอปพลิเคชันแปลแต่ก็อย่างว่า…แอปฯไม่สามารถแปลได้อย่างสละสลวยแต่ความหมายของมันต้องลึกซึ้งอย่างแน่นอนเขาลองกดดูเข้าไปหาแบรนด์แต่สิ่งที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอทำเอาอึ้งพูดไม่ออก

คิวออนไลน์เปิดให้จองล่วงหน้าไปยันอีกสามปีข้างหน้าเพราะว่าเป็นงานฝีมือที่ประณีตและเป็นการรังสรรค์ผลงานจากช่างชื่อดังชาวฝรั่งเศสรวมไปถึงราคาแปดหลักของมันที่เขาคาดไม่ถึงเมื่อก่อนเขาไม่เคยเห็นค่าของมันแต่ตอนนี้กลับหวงแหนไม่อยากส่งคืนให้ง่ายๆ

เพราะอะไร?

พิพัฒน์นอนคิดอย่างไรก็คิดไม่ตกวันแรกที่แต่งงานกันภาพถ่ายนั้นยังคงจำติดตาใบหน้าของเขาไม่สบอารมณ์ข้างๆก็เป็นใบหน้าของเดนิมที่ยิ้มแหยๆเป็นภาพถ่ายงานแต่งงานที่พิลึกพิลั่นก็ว่าได้บ่าวสาวไม่มีใครยิ้มอย่างปรีดาเลยสักคนแม้แต่ญาติของทั้งสองฝ่ายก็ใบหน้าเรียบตึงไม่บ่งบอกอารมณ์และเขาก็เฝ้ารอให้วันหย่าขาดจากกันมาถึงเร็วๆแต่พอเวลานั้นมาถึงจริงๆกลับรู้สึกโหวง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 27 รู้ว่ามีอยู่ก็สายไป

    พิพัฒน์กลับมาถึงเพนท์เฮ้าส์ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เมื่อก่อนเขาหลีกเลี่ยงที่จะมานอนค้างที่นี่ ยอมนอนโซฟาเบดแข็ง ๆ ที่บริษัทเพราะไม่อยากเห็นหน้าใครบางคน แต่วันนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้นอีกแล้ว เขาอยากได้ยินเสียงตะโกนต้อนรับ อยากทานข้าวร่วมกัน อยากนั่งพูดคุยปัญหาสารพันที่ผ่านมาในหนึ่งวันให้ใครได้ฟัง ดูหนังด้วยกันก่อนนอนสักเรื่องแต่ว่าวันนี้ไม่มีอีกแล้วสายตาคู่นั้นที่จ้องมองเขาด้วยความรักใคร่ใบหน้าที่รอคอยคำตอบยามตัวเองได้ลงมือทำอาหารไว้รอให้เขากลับมาทานเพียงเขาบอกว่าอร่อยใบหน้านั้นก็ฉีกยิ้มด้วยความลิงโลดไม่เพียงปากที่ฉีกยิ้มแต่มันเป็นความยินดีที่เอ่อล้นไปถึงดวงตาและภูมิใจเหมือนได้รางวัลที่หนึ่งอะไรทำนองนั้นทั้งๆที่เป็นคำพูดเพียงไม่กี่คำแต่เหมือนน้ำทิพย์ชโลมจิตใจอันเหี่ยวเฉาของเด็กหนุ่มคนหนึ่งได้เป็นอย่างดีไม่รู้เมื่อไหร่ที่สายตาของเขาเอาแต่เฝ้ารอคอยรอยยิ้มพิมพ์ใจนั้นดวงตาคู่นั้นยามยินดีนัยน์ตามีน้ำสีใสระยิบระยับประดับอยู่ดูมีชีวิตชีวาแต่พอดวงตาเศร้าสร้อยนั้นจ้องมองมาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจกลับเหมือนคลื่นลมที่คอยก่อกวนความรู้สึกของเขาอยู่ตลอดเวลาน้ำตาคลอเบ้ากลิ้งอยู่ขอบตาอยู่รอมร่อแต่ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 28 ยื้อก็เหมือนจะยิ่งเหนื่อย

    ผู้บริหารอย่างพิพัฒน์ออกงานพบปะผู้ร่วมลงทุนบ้างประปรายส่วนงานประมูลแบบนี้เรียกว่านับครั้งได้เขามาในฐานะหนึ่งในผู้บริหารของ SSP GROUP และผู้บริหารของ KA GROUP ด้วยเช่นกันบรรดาข้าวของที่พิธีกรบรรยายรายละเอียดเพื่อดึงความสนใจของเหล่าบรรดานักสะสมทั้งหลายในค่ำคืนนี้แต่ทว่าพิธีกรสาวสวยหรือสิ่งของที่ว่าล้ำค่าหายากไม่ได้เข้าสู่โสตประสาทของเขาเลยแม้แต่น้อยนิ้วมือข้างขวาคลึงแหวนแต่งงานข้างซ้ายอยู่อย่างนั้นคล้ายกับไม่รู้ตัวแต่สายตากลับจ้องมองเสี้ยวหน้าของใครบางคนที่กำลังลุกยืนพูดจายิ้มแย้มเดินออกไปเคียงคู่กับสิบทิวารวมไปถึงชายหนุ่มผมทองอีกหนึ่งคนพิพัฒน์ย่นคิ้วพลางจ้องมองใบหน้าของคนแปลกหน้าที่อยู่กับเดนิมคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอหรือรู้จักแต่ก็จำไม่ได้จะว่าไปมีแต่เดนิมที่รู้จักเขาแต่เขาเองกลับไม่รู้เรื่องอะไรของเดนิมเลยเพราะเขาไม่เคยใส่ใจและไม่คิดว่าจะต้องใส่ใจแม้ว่าพิพัฒน์อยากจะเข้าเดินไปทักทายเดนิมมากแค่ไหนแต่เหมือนผู้คนและบรรยากาศรอบข้างจะไม่เป็นใจ“ได้คุยกับน้องบ้างหรือยังลูก” พิพัฒน์ส่ายหน้า“ยังเลยครับ” มาลินีเองก็ถอนหายใจออกมาเช่นกันก่อนจะตบหลังมือลูกชายเบาๆ“ช่วยไม่ได้นี่นาพัดใจร้ายกับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 29 เวลาคือคำตอบ

    พิพัฒน์เดินออกจากห้องพักผู้ป่วยด้วยสีหน้าไม่สู้ดี แม้แต่สองแฝดที่ทำท่าจะเข้ามาก่อกวนต่างก็มองหน้ากันด้วยความสงสัย แม้ว่าจะหมั่นไส้ไอ้เพื่อนรักมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้เกลียดถึงขนาดจะฆ่าแกงกัน อีกอย่างเรื่องของความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้ อย่างที่เคยบอก ไอ้พัดเพื่อนเขาวางตัวดีมาตลอด รักษาระยะห่างกับเดนิมจนไม่รู้จะรักษาระยะห่างยังไง แต่สุดท้ายคืนหนึ่งชีวิตก็พลิกผัน ได้แต่งงานกับคนที่คอยวิ่งหนีมาตลอดหลายสิบปีแต่วันนั้นที่ริมทะเลเดนีสแน่ใจว่าความรู้สึกของเพื่อนรักได้เปลี่ยนไปเพียงแต่เจ้าตัวแค่ไม่แน่ใจอีกอย่างตอนที่เดนิมยังเด็กไอ้พัดประคบประหงมเดนิมยิ่งกว่าพี่น้องที่คลานตามกันมาอย่างพวกเขาเสียอีกตัวติดกันจนพี่ชายอย่างเขาไว้ใจหากเดนิมอยู่กับพิพัฒน์แต่เพราะวัยเจริญพันธุ์มาถึงรวมถึงเรื่องเพศสภาพจึงทำให้ทั้งสองไม่สามารถสนิทสนมกันได้ตามเดิมจะบอกว่าไอ้พัดเองก็มีใจให้…ก็พูดได้ไม่เต็มปากไม่งั้นจะได้ตำแหน่งว่าที่ลูกเขยในอนาคตของเดนิมเหรอผู้ใหญ่มองออกตั้งนานแล้วว่าอะไรเป็นอะไรมีเพียงเจ้าตัวที่ไม่รู้อะไรเลยหากตอนนั้นไอ้พัดมาสารภาพว่าคิดกับเดนิมเป็นอื่นด้วยวัยเพียงแค่นั้นไอ้พัดคงโดนซ้อมปางตายเป็นแน่แต่พอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 30 เติบโตเป็นไม้ใหญ่

    การเขียนคือหนึ่งในชีวิตประจำวันของเดนิมไปเสียแล้วแม้ว่าเขาจะกล้าพูดกล้าวิจารณ์มากขึ้นแต่การระบายของเสียภายในจิตใจของเขายังเป็นการเขียนอยู่ดีปล่อยสมองและปล่อยใจให้พลิ้วไหวไปตามนิ้วมือที่เคาะลงบนแป้นพิมพ์สภาพจิตใจตอนนี้ของเขาดีขึ้นมากพอไม่ยึดติดก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไปอีกทั้งนิยายเรื่องใหม่ที่เขียนก็เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกเจ็บปวดเหล่านั้นลงไปทีละเล็กทีละน้อยจนตอนนี้ของเสียภายในจิตใจของเขาไม่ได้มากมายเหมือนอย่างแต่ก่อนตอนจบที่เดนิมวางเอาไว้เป็นปลายเปิดมนุษย์เราก็เหมือนเฉกเช่นตัวละครในนิยายบ้างทำเรื่องที่ผิดมหันต์บ้างโง่เขลานักอ่านอ่านในมุมมองพระเจ้ามองเห็นภาพรวมทั้งหมดหากเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเราต่างก็บ้าใบ้และโง่เขลาและอาจกระทำในสิ่งที่ไม่สมควรเหมือนดั่งตัวละครที่เราก่นด่าเพราะฉะนั้นเดนิมจึงปล่อยให้ตัวละครดำเนินเรื่องไปเขาอัพนิยายทุกคืนหากวันไหนมีธุระก็จะแจ้งเตือนล่วงหน้าอัพกลางคืนและใช้เวลาที่นั่งอยู่ในรถตอนเช้าระหว่างเดินทางไปบริษัทฆ่าเวลารถติดที่แสนน่าเบื่อด้วยการอ่านคอมเมนต์และตอบกลับปกติการลงนิยายให้อ่านแต่ละตอนจะเป็นหน้าที่ของทางสำนักพิมพ์แต่ว่าเรื่องนี้เดนิมตัดสินใจที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 31 แฟนไซน์ของคุณนักเขียนคนโปรด

    การอ่านนิยายกลายเป็นหนึ่งในงานอดิเรกของนักธุรกิจชื่อดังอย่างพิพัฒน์ เขาพึ่งค้นพบการเยียวยาหัวใจตัวเอง ก็เหมือนวลี ‘นั่งโง่ ๆ ที่ริมทะเล’ อะไรทำนองนั้น อีกอย่างมันทำให้เขาเข้าใจตัวตนของเดนิมมากขึ้น เมื่อก่อนเขาคิดว่านิยายมันไม่สมจริง ประโลมโลก รู้สึกว่าเสียเวลาชีวิตด้วยซ้ำ แต่พอได้ลองอ่าน ลองวิเคราะห์ตัวละคร หลาย ๆ เรื่องราวจะเห็นได้ว่านิยายไม่เพียงสร้างความบันเทิงหรือเสริมสร้างจินตนาการ แต่บางเรื่องกลับซ่อนเรื่องราวเบื้องหลัง ความฝันบางอย่างที่นักเขียนไม่สามารถลงมือทำมันในชีวิตจริงได้ แต่สามารถทำให้มันสำเร็จได้ในนิยายเรื่องหนึ่งดังเช่นเรื่อง ‘ความรักและกาลเวลา’ ที่เขากำลังอ่านอยู่ตอนนี้จะบอกว่าอินก็คงจะไม่ผิดนักเป็นการบอกเล่าความรักของคนสองคนที่ผ่านอุปสรรคกาลเวลาความเข้าใจผิดและกลับมาพบกันอีกครั้งโดยปลายปากกาของ FALLIN นักเขียนผู้ไม่สมหวังในความรักรวมไปถึงความฝันต่างๆได้ถูกบอกเล่าผ่านตัวอักษรหน้าแล้วหน้าเล่าค่อยๆถ่ายทอดออกมาอย่างถูกจังหวะบางประโยคก็กระแทกใจคนอ่านทำให้นักอ่านรู้สึกคล้อยตามและเห็นใจตัวละครได้ไม่ยากพิพัฒน์ได้เรียนรู้และเข้าใจคนคนหนึ่งเพราะการอ่านนิยาย FALLIN เป็นนามปาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 32 หนังสือเล่มเดิมกับคนอ่านคนเดิม

    ว่ากันว่าหนังสือเล่มเดิมตอนจบไม่ว่าจะอ่านกี่ครั้งก็ยังคงเหมือนเดิม…นั่นก็จริงส่วนหนึ่งแต่ว่าทุกครั้งที่อ่านกาลเวลาไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่คนเราโตขึ้นสังคมสิ่งแวดล้อมแม้ตอนจบในตอนสุดท้ายจะยังคงเหมือนเดิมแต่ทว่าความรู้สึกทุกครั้งที่ได้อ่านไม่มีทางเหมือนเดิมคนเราเองก็เช่นกันทุกคนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาไม่มีใครคงเดิมจะเป็นไรไปหากเราอยากจะหยิบเล่มโปรดขึ้นมาอ่านอีกครั้งแม้ว่าระหว่างทางที่อ่านจะเปียกปอนและเหน็บหนาวไปบ้างแม้ตอนจบจะไม่สมหวังแต่อย่างน้อยเราก็ได้อ่านมันเพื่อเติบโตคนเราไม่ได้เติบโตเพียงร่างกายแต่ความรู้สึกของเราก็เติบโตด้วยเช่นกันเรียนรู้ที่ยอมรับความผิดพลาดแก้ไขและทำให้มันดีขึ้นดังเช่นพวกเขาทั้งสองเริ่มแรกสถานการณ์ไม่เป็นใจพอเวลาผ่านไปทำให้ตกผลึกได้ถึงบางสิ่งบางความรู้สึกที่ไม่แจ่มชัดในตอนแรกนิยามคำว่ารักคนเราไม่เหมือนกันบ้างขอแค่ได้รักบ้างขอให้ได้อยู่ด้วยกันแล้วถ้าหากนิยามรักของพวกเราสองคนไม่ตรงกับคนอื่นล่ะ? พิพัฒน์นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดขับรถไปยังบ้านศศิภักดีตลอดทาง หากผู้ใหญ่ทางบ้านศศิภักดีจะกีดกัน นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก การแต่งงานของพวกเขาทั้งสองในตอนแรกมีแต่ความไม่เข้าใจ ความ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 33 ลิลลี่สีขาวกับความนัย

    “ทำไมนิมถึงให้โอกาสพี่” พิพัฒน์ตัดสินใจถามออกไปไม่รู้สิหากเป็นเขาคงไม่ได้ง่ายดายแบบนี้แต่ความคิดของเดนิมการที่เขาให้อภัยคนตรงหน้าไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้นมันมีระยะเวลาอีกทั้งพี่พัดคงไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่เรียกว่า ‘ง้อขอคืนดี’ ไม่ได้แวะเวียนมาหาหรือขยันสรรหาของมีค่ามาให้แต่การกระทำกลับตรงข้าม“ลิลลี่สีขาวตลอดสามปีที่พี่พัดส่งให้นิมทุกโอกาสก็แฝงความนัยไม่ใช่เหรอครับ”“อ่า” นั่นก็จริงเพราะพิพัฒน์ไม่ใช่คนช่างพูดแต่การกระทำของเขามักจะแฝงความนัยเอาไว้ในสิ่งของต่างๆเสมอไม่ว่าจะดอกลิลลี่สีขาวที่ส่งให้อีกฝ่ายในทุกโอกาสพิเศษต่างๆเดนิมมีพร้อมทุกสิ่งเขาไม่อยากให้ของมีค่าเพื่อกดดันให้อีกฝ่ายรับไว้ดอกไม้อย่างมากสองสัปดาห์ก็เหี่ยวเฉาร่วงโรยไปจะทิ้งก็สมควรเพราะถึงแก่เวลาเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแต่ความจริงแล้วดอกลิลลี่สีขาวพวกนั้นไม่เคยถูกทิ้งสักช่อแม้จะแห้งเหี่ยวไร้กลิ่นไม่เหลือความสวยงามแต่ความหมายยังคงอยู่ยังคงวางอยู่ในกล่องใสเรียงซ้อนกันหลายกล่องภายในโกดังเก็บของแต่เขาไม่บอกพี่พัดหรอก“พี่พัดคงรู้ความหมายของลิลลี่สีขาวดี”ดอกลิลลี่สีขาวแสดงความรักที่บริสุทธิ์และความไร้เดียงสาความเห็นอกเห็นใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทส่งท้าย ปารีสกับความฝันในวันวาน

    เดนิมไม่ได้คาดหวังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ความจริงเขาแทบไม่ต่างอะไรไปจากเดิมเพิ่มเติมคือมีคนคอยรับคอยส่งก็เท่านั้น“ไงไอ้พัดการงานไม่มีทำเหรอไง” เดนีสถามพลางเปิดฝ่ายเปิดประตูให้เดนิมขณะที่รถจอดหน้าบริษัทบริษัทนี้เป็นบริษัทของเดนิมที่แตกย่อยไลน์การผลิตเครื่องดื่มออกมาภายใต้การดูแลของเดนีสวันนี้เขาแวะเข้ามาประชุมในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และเป็นหนึ่งในคณะบริหารด้วยส่วนเลขาข้างหลังนั้นสีหน้าราบเรียบบุคลิกดีแตกต่างจากเจ้านายอย่างสิ้นเชิง“ขอบคุณครับ” เดนิมเอ่ยขอบคุณพี่ชายก่อนจะลงรถมายืนข้างๆ “อ้าวสวัสดีครับคุณวิน”“สวัสดีครับ” วินตราเอ่ยทักทายน้องชายเจ้านายอย่างนอบน้อม“ตอนเย็นพี่มารับนะ”“ครับ”“ตอนเย็นก็กลับกับพี่ไงบ้านเดียวกันกลับด้วยกันประหยัดดีออก”“แล้วคุณวินตรากลับยังไงล่ะครับ” เดนีสสะอึกรถคันโปรดของเขานั่งได้แค่สองคนวันนี้ขับมาเองไม่ได้ให้คนขับมาส่งด้วยเดนีสตีหน้าขรึม “อ้อลืมไปวันนี้มีประชุมตอนบ่ายต่อ” ก่อนจะเดินหนีเข้าไปในตึกพร้อมกับคุณเลขา“ตอนเย็นพี่มารับนะ”“อาจจะเลทหน่อยนะครับช้าสักครึ่งชั่วโมง”“ไม่เป็นไรมีอะไรก็โทรมา”“ครับ” พิพัฒน์รอจนเดนิมเดินหายเข้าไปในตึกเขาถึงเคลื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12

บทล่าสุด

  • เพียงชั่วข้ามคืน   ตอนพิเศษ 2

    เดนิมที่สวมชุดคลุมท้องอยู่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อฟังคุณแม่ลูกสองเล่าถึงเรื่องการคลอดธรรมชาติ“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”“ใช่…ขนาดนั้นแหละแต่ว่านะมนุษย์แม่อย่างเราทนได้เชื่อสิ” วินตราตอบคุณแม่มือใหม่ตรงหน้าที่เหมือนจะกังวลไปเสียทุกอย่างถามนั่นนี่ส่วนเขาที่เคยผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาก่อนก็คอยตอบคำถามน้องสามีอย่างใจเย็น“มะมะ” เดนอนเริ่มพูดคุยสองคำได้แล้วเรียกมามาปาปาทั้งวันไม่ก็หม่ำๆเด็กน้อยเริ่มเดินได้แล้วพอเดินได้ก็เริ่มซนเดินไปทั่วทั้งบ้านตอนนี้วินตราต่างก็ย้ายมาที่บ้านใหญ่ชั่วคราวเพราะลลดาอยากเลี้ยงหลานตอนนี้วินตราก็ท้องลูกคนที่สองได้ 4 สัปดาห์จะเรียกว่าหัวปีท้ายปีก็ไม่ผิดนักวินตรามองสามีตัวเองตาเขียวอยากจะถลกหนังหัวคนทำเพราะตอนนี้เขาก็ย่าง 43 แล้วมาท้องตอนแก่สังขารไม่ไหวแม้ว่าใจจะสู้ก็ตามอีกอย่างก็กังวลโรคทางพันธุกรรมและความผิดปกติทางโครโมโซมที่อาจเกิดขึ้นได้เดนิมอุ้มเด็กน้อยมานั่งตักแล้วสอน “เดนิมเดนิมไหนพูดสิครับ”“เดเด”“เดนิมครับ”“เดเดนิม”“เก่งมาก” เดนิมหอมแก้มยุ้ยๆนั้นฟอดใหญ่อย่างมันเขี้ยว“มีสองคนไล่ๆกันแบบนี้ก็ดีนะครับเหนื่อยทีเดียว” วินตราถอนหายใจพร้อมกับเอ

  • เพียงชั่วข้ามคืน   ตอนพิเศษ 1

    การแต่งงานถูกจัดที่เกาะส่วนตัวของท่านเจ้าสัวเป็นงานใหญ่ที่มีการเลี้ยงฉลองถึง 3 วัน 3 คืนบรรดาแขกเหรื่อที่ตบเท้ารวมงานพันกว่าคนและแน่นอนว่าเจ้าบ่าวถูกมอมเหล้าคอพับทุกคืนเดนิมยืนมองภาพถ่ายฉากหลังริมทะเลฟ้าสวยทะเลสีครามสองบ่าวสาวกำลังสวมแหวนแต่งงานให้แก่กันส่วนภาพอื่นๆก็เป็นภาพที่พวกเขาทั้งสองต่างก็ฉีกยิ้มจนไปถึงดวงตาแตกต่างจากภาพในอดีตอย่างเห็นได้ชัดการแต่งงานครั้งนี้มีแต่ความชื่นมื่น“อื้อ”เดนิมถูกสวมกอดจากทางด้านหลังจมูกก็ซุกไซร้ไปทั่วลำคอระหง“พี่พัด”“ยืนมองรูปนี้อีกแล้วนะเรา” ไม่รู้สิรูปถ่ายพวกนี้ที่เดนิมได้อัดใส่กรอบไว้ติดไว้ในห้องนอนของพวกเขารวมไปถึงห้องนั่งเล่นแต่รูปที่สวมแหวนให้กันมักจะดึงดูดความสนใจของเขามากเป็นพิเศษเป็นภาพที่ทะเลท้องฟ้าเหมือนเป็นใจทุกอย่างลงตัวแถมชุดแต่งงานยังเป็นชุดที่เขาออกแบบเอาไว้เพชรและไข่มุกเปล่งประกายระยิบระยับเมื่อกระทบกับแสงแดดเดนิมยังจำภาพวันงานได้ดีแม้จะผ่านมาร่วมสามเดือนแล้วก็ตามตอนนี้พวกเขาทั้งสองย้ายมาอยู่เพนท์เฮ้าส์หลังเดิมเพียงแต่มีการต่อเติมจัดผังใหม่ห้องนอนใหญ่ถูกขยายให้ใหญ่ขึ้นรวมไปถึงห้องนอนแขกก็ออกแบบใหม่เพื่อรองรับสมาชิกใหม่ในวันหน้า

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทส่งท้าย ปารีสกับความฝันในวันวาน

    เดนิมไม่ได้คาดหวังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ความจริงเขาแทบไม่ต่างอะไรไปจากเดิมเพิ่มเติมคือมีคนคอยรับคอยส่งก็เท่านั้น“ไงไอ้พัดการงานไม่มีทำเหรอไง” เดนีสถามพลางเปิดฝ่ายเปิดประตูให้เดนิมขณะที่รถจอดหน้าบริษัทบริษัทนี้เป็นบริษัทของเดนิมที่แตกย่อยไลน์การผลิตเครื่องดื่มออกมาภายใต้การดูแลของเดนีสวันนี้เขาแวะเข้ามาประชุมในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และเป็นหนึ่งในคณะบริหารด้วยส่วนเลขาข้างหลังนั้นสีหน้าราบเรียบบุคลิกดีแตกต่างจากเจ้านายอย่างสิ้นเชิง“ขอบคุณครับ” เดนิมเอ่ยขอบคุณพี่ชายก่อนจะลงรถมายืนข้างๆ “อ้าวสวัสดีครับคุณวิน”“สวัสดีครับ” วินตราเอ่ยทักทายน้องชายเจ้านายอย่างนอบน้อม“ตอนเย็นพี่มารับนะ”“ครับ”“ตอนเย็นก็กลับกับพี่ไงบ้านเดียวกันกลับด้วยกันประหยัดดีออก”“แล้วคุณวินตรากลับยังไงล่ะครับ” เดนีสสะอึกรถคันโปรดของเขานั่งได้แค่สองคนวันนี้ขับมาเองไม่ได้ให้คนขับมาส่งด้วยเดนีสตีหน้าขรึม “อ้อลืมไปวันนี้มีประชุมตอนบ่ายต่อ” ก่อนจะเดินหนีเข้าไปในตึกพร้อมกับคุณเลขา“ตอนเย็นพี่มารับนะ”“อาจจะเลทหน่อยนะครับช้าสักครึ่งชั่วโมง”“ไม่เป็นไรมีอะไรก็โทรมา”“ครับ” พิพัฒน์รอจนเดนิมเดินหายเข้าไปในตึกเขาถึงเคลื

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 33 ลิลลี่สีขาวกับความนัย

    “ทำไมนิมถึงให้โอกาสพี่” พิพัฒน์ตัดสินใจถามออกไปไม่รู้สิหากเป็นเขาคงไม่ได้ง่ายดายแบบนี้แต่ความคิดของเดนิมการที่เขาให้อภัยคนตรงหน้าไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้นมันมีระยะเวลาอีกทั้งพี่พัดคงไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่เรียกว่า ‘ง้อขอคืนดี’ ไม่ได้แวะเวียนมาหาหรือขยันสรรหาของมีค่ามาให้แต่การกระทำกลับตรงข้าม“ลิลลี่สีขาวตลอดสามปีที่พี่พัดส่งให้นิมทุกโอกาสก็แฝงความนัยไม่ใช่เหรอครับ”“อ่า” นั่นก็จริงเพราะพิพัฒน์ไม่ใช่คนช่างพูดแต่การกระทำของเขามักจะแฝงความนัยเอาไว้ในสิ่งของต่างๆเสมอไม่ว่าจะดอกลิลลี่สีขาวที่ส่งให้อีกฝ่ายในทุกโอกาสพิเศษต่างๆเดนิมมีพร้อมทุกสิ่งเขาไม่อยากให้ของมีค่าเพื่อกดดันให้อีกฝ่ายรับไว้ดอกไม้อย่างมากสองสัปดาห์ก็เหี่ยวเฉาร่วงโรยไปจะทิ้งก็สมควรเพราะถึงแก่เวลาเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแต่ความจริงแล้วดอกลิลลี่สีขาวพวกนั้นไม่เคยถูกทิ้งสักช่อแม้จะแห้งเหี่ยวไร้กลิ่นไม่เหลือความสวยงามแต่ความหมายยังคงอยู่ยังคงวางอยู่ในกล่องใสเรียงซ้อนกันหลายกล่องภายในโกดังเก็บของแต่เขาไม่บอกพี่พัดหรอก“พี่พัดคงรู้ความหมายของลิลลี่สีขาวดี”ดอกลิลลี่สีขาวแสดงความรักที่บริสุทธิ์และความไร้เดียงสาความเห็นอกเห็นใ

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 32 หนังสือเล่มเดิมกับคนอ่านคนเดิม

    ว่ากันว่าหนังสือเล่มเดิมตอนจบไม่ว่าจะอ่านกี่ครั้งก็ยังคงเหมือนเดิม…นั่นก็จริงส่วนหนึ่งแต่ว่าทุกครั้งที่อ่านกาลเวลาไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่คนเราโตขึ้นสังคมสิ่งแวดล้อมแม้ตอนจบในตอนสุดท้ายจะยังคงเหมือนเดิมแต่ทว่าความรู้สึกทุกครั้งที่ได้อ่านไม่มีทางเหมือนเดิมคนเราเองก็เช่นกันทุกคนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาไม่มีใครคงเดิมจะเป็นไรไปหากเราอยากจะหยิบเล่มโปรดขึ้นมาอ่านอีกครั้งแม้ว่าระหว่างทางที่อ่านจะเปียกปอนและเหน็บหนาวไปบ้างแม้ตอนจบจะไม่สมหวังแต่อย่างน้อยเราก็ได้อ่านมันเพื่อเติบโตคนเราไม่ได้เติบโตเพียงร่างกายแต่ความรู้สึกของเราก็เติบโตด้วยเช่นกันเรียนรู้ที่ยอมรับความผิดพลาดแก้ไขและทำให้มันดีขึ้นดังเช่นพวกเขาทั้งสองเริ่มแรกสถานการณ์ไม่เป็นใจพอเวลาผ่านไปทำให้ตกผลึกได้ถึงบางสิ่งบางความรู้สึกที่ไม่แจ่มชัดในตอนแรกนิยามคำว่ารักคนเราไม่เหมือนกันบ้างขอแค่ได้รักบ้างขอให้ได้อยู่ด้วยกันแล้วถ้าหากนิยามรักของพวกเราสองคนไม่ตรงกับคนอื่นล่ะ? พิพัฒน์นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดขับรถไปยังบ้านศศิภักดีตลอดทาง หากผู้ใหญ่ทางบ้านศศิภักดีจะกีดกัน นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก การแต่งงานของพวกเขาทั้งสองในตอนแรกมีแต่ความไม่เข้าใจ ความ

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 31 แฟนไซน์ของคุณนักเขียนคนโปรด

    การอ่านนิยายกลายเป็นหนึ่งในงานอดิเรกของนักธุรกิจชื่อดังอย่างพิพัฒน์ เขาพึ่งค้นพบการเยียวยาหัวใจตัวเอง ก็เหมือนวลี ‘นั่งโง่ ๆ ที่ริมทะเล’ อะไรทำนองนั้น อีกอย่างมันทำให้เขาเข้าใจตัวตนของเดนิมมากขึ้น เมื่อก่อนเขาคิดว่านิยายมันไม่สมจริง ประโลมโลก รู้สึกว่าเสียเวลาชีวิตด้วยซ้ำ แต่พอได้ลองอ่าน ลองวิเคราะห์ตัวละคร หลาย ๆ เรื่องราวจะเห็นได้ว่านิยายไม่เพียงสร้างความบันเทิงหรือเสริมสร้างจินตนาการ แต่บางเรื่องกลับซ่อนเรื่องราวเบื้องหลัง ความฝันบางอย่างที่นักเขียนไม่สามารถลงมือทำมันในชีวิตจริงได้ แต่สามารถทำให้มันสำเร็จได้ในนิยายเรื่องหนึ่งดังเช่นเรื่อง ‘ความรักและกาลเวลา’ ที่เขากำลังอ่านอยู่ตอนนี้จะบอกว่าอินก็คงจะไม่ผิดนักเป็นการบอกเล่าความรักของคนสองคนที่ผ่านอุปสรรคกาลเวลาความเข้าใจผิดและกลับมาพบกันอีกครั้งโดยปลายปากกาของ FALLIN นักเขียนผู้ไม่สมหวังในความรักรวมไปถึงความฝันต่างๆได้ถูกบอกเล่าผ่านตัวอักษรหน้าแล้วหน้าเล่าค่อยๆถ่ายทอดออกมาอย่างถูกจังหวะบางประโยคก็กระแทกใจคนอ่านทำให้นักอ่านรู้สึกคล้อยตามและเห็นใจตัวละครได้ไม่ยากพิพัฒน์ได้เรียนรู้และเข้าใจคนคนหนึ่งเพราะการอ่านนิยาย FALLIN เป็นนามปาก

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 30 เติบโตเป็นไม้ใหญ่

    การเขียนคือหนึ่งในชีวิตประจำวันของเดนิมไปเสียแล้วแม้ว่าเขาจะกล้าพูดกล้าวิจารณ์มากขึ้นแต่การระบายของเสียภายในจิตใจของเขายังเป็นการเขียนอยู่ดีปล่อยสมองและปล่อยใจให้พลิ้วไหวไปตามนิ้วมือที่เคาะลงบนแป้นพิมพ์สภาพจิตใจตอนนี้ของเขาดีขึ้นมากพอไม่ยึดติดก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไปอีกทั้งนิยายเรื่องใหม่ที่เขียนก็เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกเจ็บปวดเหล่านั้นลงไปทีละเล็กทีละน้อยจนตอนนี้ของเสียภายในจิตใจของเขาไม่ได้มากมายเหมือนอย่างแต่ก่อนตอนจบที่เดนิมวางเอาไว้เป็นปลายเปิดมนุษย์เราก็เหมือนเฉกเช่นตัวละครในนิยายบ้างทำเรื่องที่ผิดมหันต์บ้างโง่เขลานักอ่านอ่านในมุมมองพระเจ้ามองเห็นภาพรวมทั้งหมดหากเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเราต่างก็บ้าใบ้และโง่เขลาและอาจกระทำในสิ่งที่ไม่สมควรเหมือนดั่งตัวละครที่เราก่นด่าเพราะฉะนั้นเดนิมจึงปล่อยให้ตัวละครดำเนินเรื่องไปเขาอัพนิยายทุกคืนหากวันไหนมีธุระก็จะแจ้งเตือนล่วงหน้าอัพกลางคืนและใช้เวลาที่นั่งอยู่ในรถตอนเช้าระหว่างเดินทางไปบริษัทฆ่าเวลารถติดที่แสนน่าเบื่อด้วยการอ่านคอมเมนต์และตอบกลับปกติการลงนิยายให้อ่านแต่ละตอนจะเป็นหน้าที่ของทางสำนักพิมพ์แต่ว่าเรื่องนี้เดนิมตัดสินใจที่

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 29 เวลาคือคำตอบ

    พิพัฒน์เดินออกจากห้องพักผู้ป่วยด้วยสีหน้าไม่สู้ดี แม้แต่สองแฝดที่ทำท่าจะเข้ามาก่อกวนต่างก็มองหน้ากันด้วยความสงสัย แม้ว่าจะหมั่นไส้ไอ้เพื่อนรักมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้เกลียดถึงขนาดจะฆ่าแกงกัน อีกอย่างเรื่องของความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้ อย่างที่เคยบอก ไอ้พัดเพื่อนเขาวางตัวดีมาตลอด รักษาระยะห่างกับเดนิมจนไม่รู้จะรักษาระยะห่างยังไง แต่สุดท้ายคืนหนึ่งชีวิตก็พลิกผัน ได้แต่งงานกับคนที่คอยวิ่งหนีมาตลอดหลายสิบปีแต่วันนั้นที่ริมทะเลเดนีสแน่ใจว่าความรู้สึกของเพื่อนรักได้เปลี่ยนไปเพียงแต่เจ้าตัวแค่ไม่แน่ใจอีกอย่างตอนที่เดนิมยังเด็กไอ้พัดประคบประหงมเดนิมยิ่งกว่าพี่น้องที่คลานตามกันมาอย่างพวกเขาเสียอีกตัวติดกันจนพี่ชายอย่างเขาไว้ใจหากเดนิมอยู่กับพิพัฒน์แต่เพราะวัยเจริญพันธุ์มาถึงรวมถึงเรื่องเพศสภาพจึงทำให้ทั้งสองไม่สามารถสนิทสนมกันได้ตามเดิมจะบอกว่าไอ้พัดเองก็มีใจให้…ก็พูดได้ไม่เต็มปากไม่งั้นจะได้ตำแหน่งว่าที่ลูกเขยในอนาคตของเดนิมเหรอผู้ใหญ่มองออกตั้งนานแล้วว่าอะไรเป็นอะไรมีเพียงเจ้าตัวที่ไม่รู้อะไรเลยหากตอนนั้นไอ้พัดมาสารภาพว่าคิดกับเดนิมเป็นอื่นด้วยวัยเพียงแค่นั้นไอ้พัดคงโดนซ้อมปางตายเป็นแน่แต่พอ

  • เพียงชั่วข้ามคืน   บทที่ 28 ยื้อก็เหมือนจะยิ่งเหนื่อย

    ผู้บริหารอย่างพิพัฒน์ออกงานพบปะผู้ร่วมลงทุนบ้างประปรายส่วนงานประมูลแบบนี้เรียกว่านับครั้งได้เขามาในฐานะหนึ่งในผู้บริหารของ SSP GROUP และผู้บริหารของ KA GROUP ด้วยเช่นกันบรรดาข้าวของที่พิธีกรบรรยายรายละเอียดเพื่อดึงความสนใจของเหล่าบรรดานักสะสมทั้งหลายในค่ำคืนนี้แต่ทว่าพิธีกรสาวสวยหรือสิ่งของที่ว่าล้ำค่าหายากไม่ได้เข้าสู่โสตประสาทของเขาเลยแม้แต่น้อยนิ้วมือข้างขวาคลึงแหวนแต่งงานข้างซ้ายอยู่อย่างนั้นคล้ายกับไม่รู้ตัวแต่สายตากลับจ้องมองเสี้ยวหน้าของใครบางคนที่กำลังลุกยืนพูดจายิ้มแย้มเดินออกไปเคียงคู่กับสิบทิวารวมไปถึงชายหนุ่มผมทองอีกหนึ่งคนพิพัฒน์ย่นคิ้วพลางจ้องมองใบหน้าของคนแปลกหน้าที่อยู่กับเดนิมคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอหรือรู้จักแต่ก็จำไม่ได้จะว่าไปมีแต่เดนิมที่รู้จักเขาแต่เขาเองกลับไม่รู้เรื่องอะไรของเดนิมเลยเพราะเขาไม่เคยใส่ใจและไม่คิดว่าจะต้องใส่ใจแม้ว่าพิพัฒน์อยากจะเข้าเดินไปทักทายเดนิมมากแค่ไหนแต่เหมือนผู้คนและบรรยากาศรอบข้างจะไม่เป็นใจ“ได้คุยกับน้องบ้างหรือยังลูก” พิพัฒน์ส่ายหน้า“ยังเลยครับ” มาลินีเองก็ถอนหายใจออกมาเช่นกันก่อนจะตบหลังมือลูกชายเบาๆ“ช่วยไม่ได้นี่นาพัดใจร้ายกับ

DMCA.com Protection Status