**สัปดาห์ก่อน**ชายร่างสูงใหญ่ ผมสีแดงสด และดวงตาสีฟ้าใส ยืนอยู่กลางห้องทำงานของเอ็ดเวิร์ด“ดีใจที่ได้พบคุณอีกครั้ง ไรเนอร์” เอ็ดเวิร์ดทักทาย“ผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้าง” ไรเนอร์ทักทายกลับอย่างล้อเลียน…“ผู้หญิงคนนั้นน่าจะหมายถึงคุณหนูนาตาลี หรือคุณนาตาลีสำหรับคุณ” เอ็ดเวิร์ดตอบอย่างติดตลก“ยัยแห้งคนนั้นโตแล้วเหรอ? ผมไม่ได้เจอเธอมาเป็นสิบปีแล้ว” ไรเนอร์นึกถึงครั้งแรกที่ได้พบกับนาตาลี ก่อนที่เธอจะถูกรับมาเลี้ยงในครอบครัวโรเซนฮอลในฐานะลูกสาวของลูเชียน“คุณมีอะไรจะบอกผมมั้ย?เรื่องที่จะให้ผมไปเป็นบอดี้การ์ดของเธอ” ไรเนอร์ถามตรงประเด็น“นาตาลีมีคู่รักอย่างน้อยหนึ่งคน ผมต้องการให้คุณจับตาดูเธอและสืบว่าเขาเป็นใคร” เอ็ดเวิร์ดอธิบาย“รวมตัวคุณด้วยหรือป่าว” ไรเนอร์ถามอย่างมีวาทศิลป์สัญชาตญาณไรเนอร์สัมผัสได้ว่าอารมณ์ของเอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนไปทันทีจนน่ากลัว“แทงใจดำล่ะสิ คุณดูหมกมุ่นกับเธอหลังจากเหตุการณ์นั้น” ไรเนอร์พูดขณะยิ้มให้เอ็ดเวิร์ด“ผมต้องการให้คุณดูแลเธอให้ปลอดภัย นาตาลีโตแล้วและผมไม่รู้จริงๆ ว่าพวกผู้อาวุโสมีแผนอะไรกับเธอ หรือมีอันตรายอะไรรอเธออยู่รึป่าว” เอ็ดเวิร์ดอธิบาย“คุณคิดจะทำอะไรก
“คู่เดตของอาสวยสง่ามาก!” เอ็ดเวิร์ดอุทาน ขณะที่มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าพวกเราต้องไปร่วมงานกาล่าดินเนอร์กับหุ้นส่วนทางธุรกิจคืนนี้ ฉันจึงต้องแต่งชุดราตรีแบบเป็นทางการ เอ็ดเวิร์ดเจ้ากี้เจ้าการเลือกชุด หาช่างแต่งหน้า ช่างทำผม สั่งให้ทุกอย่างออกมาสวยงามหรูหราที่สุด ส่วนตัวแล้วฉันรู้สึกว่ามันมากไปหน่อยแต่งตัวไปงานแค่งานกินเลี้ยงกาล่าดินเนอร์ ครั้งสุดท้ายที่ฉันแต่งตัวเต็มยศขนาดนี้คือตอนที่ฉันไปงานเปิดตัวภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์เรื่องที่แซคเป็นสปอนเซอร์ชุดที่ฉันใส่เป็นเดรสยาวสีชมพูกุหลาบผ่าสูงตั้งแต่ต้นขาซ้ายจนเกือบไปถึงสะโพก รองเท้าส้นสูงหัวหมุดสีทองและกระเป๋าคลัตช์คาเวียร์สีดำใบโปรดของฉัน ผมถูกมัดเป็นมวยอย่างมีสไตล์พร้อมกับการแต่งหน้าในโทนสีโรสโกลด์ ตอนเห็นตัวเองในกระจกฉันยังคิดว่ามันดูดีมากทั้งเอ็ดเวิร์ดและอาร์อยู่ในชุดทักซิโด้ งานนี้คงยิ่งใหญ่และสำคัญกว่าที่คิดไว้ ฉันกับเอ็ดเวิร์ดนั่งอยู่ด้านหลัง ขณะที่อาร์ขับรถเบนท์ลีย์พาเราไปที่งาน ฉันกังวลกับการสะดุดรองเท้าส้นสูงหกล้มมากกว่าการจะได้พบปะกับลูกค้าในงานซะอีก เอ็ดเวิร์ดต้องเป็นคนเลือกให้แน่ ๆ เลย“ลูกค้าในงานวันนี้เป็น CEO หุ้นส่วนรายใหญ่ของ
มื้อค่ำจบลงอย่างสมบูรณ์แบบ อาหารอร่อยและเอ็ดเวิร์ดก็เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะที่ดี ไรเนอร์ยืนห่างจากเราพอสมควร ฉันเหลือบมองเขาสองสามครั้งระหว่างนั้น แต่เขากลับไม่วอกแวกเลยแม้แต่น้อยสมเป็นมืออาชีพมาก และตอนนี้เห็นทีฉันต้องกลับบ้านได้แล้ว“เอ็ดเวิร์ด ขอบคุณมากสำหรับวันนี้ ถึงเวลาที่ฉันต้องกลับแล้ว” ฉันเอ่ยปากขอตัว“จะรีบไปทำไม อายังมีเรื่องจะคุยกับเธออีก” เอ็ดเวิร์ดตีหน้าเศร้า“ขอโทษทีครับคุณเอ็ดเวิร์ด อย่างที่คุณนาตาลีบอก นี่มันก็ดึกมากแล้ว” ไรเนอร์พูดขณะที่มายืนข้างฉัน“ไปรอข้างนอก 20 นาที ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาตาลีตามลำพัง” เอ็ดเวิร์ดกึ่งพูดกึ่งสั่ง ไรเนอร์หันมามองหน้าฉันเพื่อขออนุญาตความจริงฉันเองก็มีเรื่องจะถามเขาเป็นการส่วนตัวเหมือนกัน ฉันพยักหน้าให้ไรเนอร์เล็กน้อยเป็นสัญญาณให้เขาปล่อยเราไว้ตามลำพัง ไรเนอร์ยอมเดินออกจากห้องโดยไม่พูดอะไร“อาอยากคุยเรื่องอะไร” ฉันเอ่ยปากถามแบบไม่อ้อมค้อม ฉันก็มีเรื่องสองสามอย่างที่อยากจะถามเขาเหมือนกัน“ไม่ได้มีเรื่องอะไรสำคัญหรอก อาแค่คิดถึงเธอ...” เอ็ดเวิร์ดตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะพาฉันไปนั่งที่โซฟา“ไม่ต้องมาปากหวาน ความจริงอาคงไม่มีเรื่องอะไรจะคุยก
พระอาทิตย์กำลังตกดิน ทำให้ความมืดปกคลุมแผ่นฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย?คนอื่นไปไหนกันหมด? ฉันหลงทางอยู่เหรอ?รอบตัวมีแต่ต้นไม้ใหญ่ลักษณะเหมือนกันเต็มไปหมด ฉันควรเดินไปทางไหนดี?แล้วฉันกำลังจะไปไหนล่ะความมืดครอบคลุมจนมองไม่เห็นอะไรเลย มีเพียงแสงจันทร์ที่ช่วยนำทางน้ำหยดลงบนผมฉัน ฝนตก?ฉันต้องรีบออกจากป่าแห่งนี้ฉันวิ่งเร็วที่สุดท่ามกลางความมืด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังมุ่งหน้าไปถูกทางหรือเปล่า กิ่งไม้และใบไม้ขีดข่วนตามตัว ขณะที่วิ่งผ่านมันไป ฉันรู้สึกกลัวมาก…ฝนตกหนักมากจนตัวฉันเปียกโชกไปหมด พื้นดินลื่นมากขึ้น"ใครก็ได้…ช่วยฉันด้วย!” ฉันกรีดร้องจนสุดเสียง เสียงสะอื้นของตัวเองทำให้รู้ว่ากำลังร้องไห้อยู่เสียงฝนและฟ้าร้องจากเบื้องบนกลบเสียงร้องขอความช่วยเหลือจนหมดสิ้นใครก็ได้ช่วยฉันที ช่วยฉันด้วย ฉันได้แต่อธิษฐาน.ตอนนี้ฉันไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะวิ่งหรือเดินอีกต่อไป สายฝนกระหน่ำตกลงมาอย่างไร้ความปรานี ฉันล้มลงกับพื้น ความมืดรอบตัวทำให้ฉันกลัวไปหมด แถวนี้ต้องมีสัตว์ป่าแน่ๆ นี่ฉันจะ…ตายที่นี่เหรอ?หลังจากนั้นฉันก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย“นาตาลี!” เสียงชายคนหนึ่ง กับมืออุ่นๆ เขย่าเบาๆ บนแขนฉัน
“รู้มั้ยว่านี่เป็นครั้งแรกที่เรามีอะไรกันบนเตียง?อยากฉลองด้วยท่าคลาสสิกมั้ย” เอ็ดเวิร์ดผลักฉันลงบนเตียง ดึงชุดที่สวมอยู่ออกจนหมด แทรกตัวเข้าตรงหว่างขาฉัน นิ้วของเขาเริ่มบีบและถูคลึงปุ่มกระสันอย่างแรง"อา! เอ็ดเวิร์ด…อย่า…” ฉันร้องเสียงหลง ความสุขจากการถึงจุดสุดยอดก่อนหน้านี้ทำให้เม็ดทับทิมที่ยังบวมอยู่มีความรู้สึกไวมากกว่าปกติ“เธอยังแฉะอยู่เลย น่าจะพร้อมสำหรับรอบต่อไป” เขาสังเกตน้องสาวของฉันก่อนจะขยับตัวเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น หัวมังกรที่บวมเป่งรุกล้ำเข้าไปในโพรงถ้ำร้อน ส่วนหัวของมันสัมผัสทุกพื้นผิวภายในช่องสวาท ฉันเริ่มทนไม่ไหวกับการหยอกล้อของเขา อยากจะสัมผัสความยาวทั้งหมดของเขาลึกเข้าไปในตัว“เข้ามาให้สุดเลยค่ะ…” ฉันมองลึกเข้าไปในดวงตาสีเขียวคู่สวย เขายิ้ม ขณะใช้มือจับสะโพกไว้มั่นก่อนจะดันท่อนเนื้อแกร่งลงในร่องรักที่มีน้ำหล่อลื่นชุ่มฉ่ำ ในที่สุดมังกรของเอ็ดเวิร์ดก็ฝังอยู่ในตัวฉันจนรู้สึกแน่นไปหมด“กางขาออก” เอ็ดเวิร์ดสั่งให้ฉันถ่างขาออกจากกันมากขึ้น ฉันรีบทำตามคำสั่ง เอ็ดเวิร์ดตอบสนองด้วยการดันเอ็นเนื้อให้ลึกและเร็วขึ้น แรงผลักแต่ละครั้งให้ความรู้สึกที่ดีมาก โพรงเนื้อบีบแท่งหนาทุกครั้งท
หลังจากลูเซียนกลับไปไม่นาน พวกเราก็ออกจากโรงแรมกัน ฉันแปลกใจมากที่เอ็ดเวิร์ดกลับออกไปก่อน เขาอ้างว่ามีธุระต้องไปจัดการ ไรเนอร์จึงเป็นคนพาฉันกลับบ้าน“เตรียมอ่างอาบน้ำให้คุณนาตาลีด้วย” ไรเนอร์สั่งแม่บ้านทันทีที่เราก้าวเท้าเข้าไปในคฤหาสน์ ฉันอยากอาบน้ำมากและคิดว่าเขาคงคิดเหมือนกันแม่บ้านบอกเรื่องที่ฉันรู้อยู่แล้วว่าลูเชียนออกไปทำงาน ถึงจะเป็นพี่น้องที่ดูแตกต่างกันมากแต่ทั้งคู่มีนิสัยบ้างานแบบเดียวกัน ก็ดีเหมือนกันเพราะอยากอยู่เงียบๆ มากกว่า หลังอาบน้ำเสร็จฉันว่าจะไปเดินเล่นในสวน จำได้ว่าไม่ได้ไปมานานแล้ว ถ้าลูเซียนไม่พูดถึงมันก่อนหน้านี้ฉันคงลืมไปแล้ว จะได้พาไรเนอร์เดินดูรอบบ้านด้วย เขาน่าจะยังไม่เคยไป“อ่างอาบน้ำพร้อมแล้วค่ะ คุณนาตาลี” ลอร่าแม่บ้านส่วนตัวของฉันเข้ามาบอก เธออยู่ที่นี่มาประมาณ 6 ปีแล้ว เราค่อนข้างสนิทกัน เธอเป็นมืออาชีพมาก ดูแลฉันทุกอย่างรวมทั้งช่วยเตรียมน้ำให้ฉันอาบด้วยฉันเปลือยกายอยู่ในห้องน้ำรอให้ลอร่าเข้ามา ปกติฉันไม่ต้องการคนช่วย ยกเว้นบางครั้ง เช่นวันนี้“คุณนาตาลี ผมกำลังเข้าไปครับ”ไร…ไรเนอร์?! เดี๋ยวก่อน ฉันเปลือยทั้งตัวอยู่!"เดี๋ยวก่อน!" ฉันตะโกนแต่ประตูเปิด
ไรเนอร์หยิบเสื้อยูนิเฟอร์ของเขาแล้วขอตัวกลับห้องอ้างว่าเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกหลังจากอาบน้ำให้นาตาลี หากความจริงแล้วเขาต้องการอยู่คนเดียว อยู่ห่างจากนาตาลี เขาเข้าห้องแล้วรีบล็อคประตูก่อนจะเอนตัวหลังพิงประตูห้อง“นาตาลี…” เขาพึมพำชื่อเธอระหว่างหลับตา ปลดเข็มขัดและรูดซิปกางเกงลงเพื่อปลดปล่อยท่อนเนื้อขนาดมหึมาออกจากเสื้อผ้าที่ปกปิดมันไว้ สิ่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์แรงปรารถนาที่มีต่อนาตาลี การแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไรระหว่างสัมผัสร่างเปลือยเปล่าอันอ่อนนุ่ม ส่งผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจของเขาจนต้องรีบหนีออกมาก่อนที่จะต้านทานความต้องการของตัวเองต่อไปไม่ได้นี่เพิ่งจะวันที่สองเอง ผมก็อยากนอนกับเธอแล้ว ถึงแม้จะพยายามรักษาคำพูดแต่เมื่อเธอร้องขอผมก็ทนไม่ไหวใช้นิ้วทำให้เธอจนเสร็จ ผมแปลกใจมากที่ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจตัวเองได้ การได้ยินเธอตะโกนชื่อเอ็ดเวิร์ดตอนพวกเขาร่วมรักกันอย่างบ้าคลั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้ผมโกรธมาก การพยายามรักษาระยะห่างถูกทำลายลงเพียงแค่จินตนาการตอนเธอครางชื่อผมออกมาอย่างเร่าร้อน มันยากกว่าที่ตั้งใจไว้มาก เข้าใจแล้วว่าทำไมเอ็ดเวิร์ดถึงไม่สามารถต้านทานความต้องการตัวเองได้
ลูเซียนนั่งรอที่โต๊ะอาหารเย็นก่อนที่ฉันกับไรเนอร์จะเดินเข้ามา บรรยากาศอึมครึมน่าอึดอัดมากจนแทบหายใจไม่ออก ลูเซียนดูเกร็งและเครียดมากวันนี้ “นั่งลง” ลูเซียนสั่งเสียงแข็ง ฉันรีบทำตามทันที เห็นได้ชัดว่าลูเซียนอารมณ์ไม่ดี ไรเนอร์ยืนที่กำแพงทำตัวเหมือนเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นกับเราด้วย “วันนี้คุณกลับบ้านเร็วจัง” ฉันตอบเสียงหวานที่คิดว่าเหมาะกับสถานการณ์แบบนี้ “ฉันตัดสินใจแล้ว ยกเลิกการฝึกงานกับเอ็ดเวิร์ด” เขาพูดขณะเขี่ยอาหารในจานไปมา ความจริงฉันก็กินไม่ลงเหมือนกัน “ฉันเรียนรู้อะไรที่นั่นเยอะเลยนะ…” ฉันอธิบาย “กับเอ็ดเวิร์ดน่ะเหรอ” ลูเซียนตัดบทตอบแทนฉัน ถึงแม้นั่นจะไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการจะพูด แต่ดูเหมือนลูเซียนกำลังโกรธ ฉันจึงไม่กล้าพูดอะไรต่อ “จากนี้ไปเธอต้องอยู่บ้าน ห้ามไปไหนโดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้าจะออกไปต้องมีไรเนอร์ไปด้วยทุกครั้ง” เขาเน้นย้ำทุกคำกับนโยบายใหม่ของเขา “ลูเชียน ฉันต้องเรียนและหางานทำ…” ชีวิตผู้ใหญ่ของฉันเพิ่งเริ่มต้น...จะให้อยู่บ้านอย่างเดียวคงไม่ได้ “เธอไม่จำเป็นต้องเรียน ไม่จำเป็นต้องทำงาน ถึงทำงานไปก็ไม่ได้มีผลอะไรกับครอบครัวเรา แค่อยู่บ้านและไม่สร้างปัญหาก็พอ!" ลูเซ
การทักท้วงจบลงทันทีเมื่อแซคจูบฉันต่อหน้าไรเนอร์ ฉันไม่สามารถผลักเขาออกไปได้ การใช้เวลาร่วมกันมาหลายปีทำให้ร่างกายและจิตใจฉันไม่สามารถต้านทานแซคได้ ฉันละลายในอ้อมแขนอันอบอุ่นของเขา ริมฝีปากและลิ้นร้อนๆ ยังคงหยอกเย้าในปาก ฉันเริ่มครางด้วยความพอใจเมื่อมือเขาลูบไล้สะโพกแซคปล่อยฉันในที่สุด ฉันหายใจไม่ออก รู้สึกอายในความอ่อนแอของตัวเองจนไม่กล้าสบตาไรเนอร์ ความผูกพันที่ฉันมีต่อแซคลึกซึ้งเกินกว่าใครจะเข้าใจ ฉันไม่แปลกใจเลยถ้าเรื่องระหว่างเรายังคงเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต แซคเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของฉัน“ฉันคิดถึงเธอมากเลยรู้มั้ย” แซคพูด เขากอดเอวฉันจากด้านหลังด้วยความรัก ชั่วขณะนึงฉันลืมไปว่าไรเนอร์ยังคงยืนดูพวกเราอยู่“ไรเนอร์ ฉัน…” ฉันอยากอธิบาย แม้ว่ายังไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี“เสียใจด้วยนะไรเนอร์ ไม่มีใครดีพอจะมาแทนที่ผมได้ แม้แต่คุณ” แซคพูด ก่อนถอนหายใจเสียงดังใส่ไรเนอร์“คุณแซค…คุณนาตาลีไม่ใช่ของเล่นของคุณ ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้…” ไรเนอร์พูดเสียงเข้ม“นาตาลี ไม่ใช่ของเล่น ผมเคยบอกคุณไปแล้วว่านาตาลีคือรักแท้ของผม คุณบอกให้ผมปล่อยเธอ…เรื่องนั้นผมเข้าใจ แต่ถามนาตาลีก่อนว่าเธอเต็มใจปล่อยผมไปมั้ย” แซคพูดอ
ไรเนอร์กับฉันเดินออกจากห้องทันเวลาเพื่อดูการเผชิญหน้าระหว่างพี่น้อง ได้แต่คิดว่านี่เป็นจังหวะเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ฉันยืนนิ่งโดยมีไรเนอร์ยืนอยู่ข้างๆ ระหว่างรอให้คำทักทายสั้นๆ นี้จบลง“นาตาลี!” เสียงของแซคเรียกชื่อฉันอย่างร่าเริงขัดจังหวะบรรยากาศตึงเครียด ถ้ามีผู้ชายที่ไม่เคยสนใจสถานการณ์รอบด้าน มักจะเป็นเจ้าชายแซคเสมอ“แซค” ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงดีใจพร้อมโบกมือให้เขาแซคแต่งตัวราวกับเจ้าชายในชุดเป็นทางการ ส่วนมาดามฟรานเชสก้าเหมือนราชินีแก่ผู้ชั่วร้ายยืนอยู่ข้างๆ ฉันกลืนน้ำลายพลางหลบสายตา ต่างจากแซคที่ไม่เคยกลัวแม่ของตัวเองและรู้วิธีรับมือกับเธอ ฉันรู้สึกตัวเล็กและไร้ค่าเหมือนเม็ดทรายเวลาอยู่ต่อหน้าเธอ“ลูเชียน…เอ็ดเวิร์ด” มาดามฟรานเชสก้าพูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม ระหว่างทักทายน้องชาย“มาดามฟรานเชสก้า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณมาร่วมงานแต่งของผม” ลูเซียนตอบอย่างเป็นทางการ ก่อนจะโค้งคำนับเล็กน้อย เนื่องจากมาดามฟรานเชสก้ามีศักดิ์เป็นพี่คนโต ปฏิกิริยาของลูเซียนดูสมเหตุสมผลมาก ฉันรีบโค้งคำนับตามลูเซียน ขณะที่ไรเนอร์โค้งตาม“แฟรงกี้ แฟรงเกนสไตน์! พี่เป็นยังไงบ้าง” เอ็ดเวิร์ดทักทา
“ฉันทำตามที่ครอบครัวและผู้อาวุโสต้องการมาโดยตลอด แลกเปลี่ยนกับการที่พวกเขาจะดูแลให้เธอปลอดภัย วันหนึ่งฉันจะกลายเป็นผู้อาวุโสและฉันจะปกป้องเธอเอง ไม่ว่าคนอื่นจะพูดยังไง ความปลอดภัยของเธอเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ฉันรักเธอ… และจะไม่ยอมสูญเสียเธอไปเหมือนที่ฉันสูญเสียแม่ของเธอ” ลูเซียนพูดอย่างจริงจัง ฉันไม่เคยเห็นลูเซียนเป็นแบบนี้มาก่อนฉันไม่รู้จะตอบยังไง เหตุผลที่ลูเซียนแสดงท่าทีปกป้องและหวงแหนฉันมากเกินไปเป็นเพราะกลัวที่จะสูญเสียฉันไป เขาเชื่อว่าฉันอาจได้รับบาดเจ็บ…หรือแย่กว่านั้น เขาเสียสละมากมายเพื่อแม่และฉัน ทำไม…'ฉันไม่เสียใจเลย ฉันมีสิ่งคุ้มค่าแก่การปกป้อง เธอเห็นมั้ย...เราทั้งคู่มีสิ่งที่อยากจะปกป้องและเป็นคำสัญญาที่เราต้องรักษา’ คำพูดของลูเซียนย้อนกลับมาหาฉันเขาสัญญาอะไรและกับใคร?“ลูเซียน…ฉัน…” ฉันเริ่มพูด; แต่ไม่แน่ใจว่าควรจะพูดอะไรกับเขาในสถานการณ์นี้“เธอต้องอยู่กับฉันต่อไป ตราบใดที่ฉันยังไม่แน่ใจว่าเธอมีความสุขและปลอดภัย ฉันจะไม่ปล่อยเธอไป” ลูเซียนพูดเสียงแข็งจนรับรู้ได้ว่าไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับการต่อรองหรือเจรจา“เธอดูสวยมาก…” ลูเซียนพูด ก่อนจูบปอยผมฉันในที่สุดวันแต่งงานก็มา
“มันไม่สำคัญหรอก …ยังไงเธอไม่กลับมาอีกแล้ว” ฉันตอบพร้อมกัดฟันแน่น“ฉันมีเรื่องอยากจะบอกเยอะมากนาตาลี เยอะจนไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนหรือจะบอกอะไรกับเธอก่อนดี เพราะเธอเจ็บปวดมามากพอแล้ว…” ลูเซียนสารภาพตามจริง ขณะมองไปทางทะเลอันมืดมิด"คุณหมายความว่ายังไง…?" ฉันถาม.ลูเซียนนั่งนิ่งคิดว่าจะเล่าให้ฉันฟังอย่างไรดี ในขณะที่ฉันแทบบ้าตาย“ลูเซียน…ได้โปรด…” ฉันอ้อนวอน พร้อมกับจับมือเขามาบีบ“มันจะทำร้ายเธอ…มากกว่าที่ทำร้ายฉันตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา” ลูเซียนพูด เขามองกลับมาที่ฉัน“ฉันพร้อมแล้ว…ช่วยบอกฉันที” ฉันพูดอย่างหนักแน่น"บางทีเธออาจจะเข้มแข็งพอแล้ว นาตาลี แม่ของเธอ…ถูกฆ่าตาย” ลูเซียนพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดแม่ของฉัน…ถูกฆ่าตาย?!เป็นไปไม่ได้ ฉันคิดระหว่างที่น้ำตาไหลอาบหน้า...“เป็นไปไม่ได้!” ฉันกรีดร้องพร้อมลุกขึ้นจากที่นั่ง“เสียใจด้วยที่ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง… ฉันก็รู้สึกแบบเดียวกับเธอตอนรู้เรื่องนี้” ลูเซียนตอบเบาๆ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่“ฉันอ่านข่าวการเสียชีวิตของแม่ฉันตั้งเยอะ มันเป็นข่าวใหญ่มากในตอนนั้น...แต่ไม่มีการพูดถึงการฆาตกรรมเลย ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ” ฉันพูดจำได้ว่าฉันตั
อาหารค่ำถูกเสิร์ฟตรงระเบียงกลางแจ้ง ดินเนอร์ใต้แสงเทียนริมทะเลที่มีลมพัดปะทะใบหน้าและเส้นผม บรรยากาศโรแมนติกไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ฉันนึกถึงคืนบนหอดูดาวที่เอ็ดเวิร์ดบอกความจริงเรื่องที่เขาเป็นคนช่วยฉันในป่าเมื่อหลายปีก่อน ฉันรู้สึกว่าคืนนี้ฉันอาจจะได้รู้ความจริงที่ซ่อนอยู่ซึ่งจะเปลี่ยนชีวิตฉันอีกครั้งบรรยากาศคล้ายกับมื้อค่ำที่ฉันทานกับเอ็ดเวิร์ดในครั้งนั้น รสชาติอาหารเหมือนทรายแห้งๆ บนลิ้น โชคดีที่ลูเซียนไม่อ้อมค้อม หลังจากที่สาวใช้ปล่อยให้เราอยู่ตามลำพัง ลูเซียนก็เริ่มพูดทันที“เล่าให้ฉันฟังหน่อยว่าก่อนที่ฉันจะเจอเธอกับแม่ ชีวิตเธอเป็นยังไงบ้าง…” ลูเซียนถามอย่างลังเล“ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้ล่ะ?ฉันคิดว่าแม่น่าจะเล่าให้คุณฟังหมดแล้ว” ฉันตอบ มันไม่ปกติที่เขาจะพูดเรื่องนี้ ถามเกี่ยวกับวัยเด็กของฉันให้ได้อะไร?“ใช่ แม่เธอเล่าแล้ว แต่ฉันอยากฟังจากปากเธอมากกว่า” ลูเซียนตอบหนักแน่น“คุณต้องการรู้อะไร…เป็นพิเศษ?” ฉันถามเขากลับ“สภาพความเป็นอยู่ของเธอสองคนเป็นยังไง?แม่ของเธอทำงานรึเปล่า เธอไปโรงเรียนแบบไหน เรื่องทั่วๆ ไป อะไรก็ได้ที่เธอนึกออก” ลูเซียนตอบ“ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงถามฉันเรื่องน
เรามาถึงบ้านพักริมทะเลซึ่งตั้งอยู่บนชายหาดส่วนตัวที่ลูเซียนเป็นเจ้าของ เราเรียกมันว่าบ้านพักแต่สุดท้ายแล้วมันก็คือคฤหาสน์ขนาดใหญ่อีกหลังหนึ่ง ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ถ้าลูเซียนไม่มีทายาท ฉันคงได้รับมรดกทั้งหมดของเขารวมถึงชายหาดส่วนตัวนี้ด้วยฉันนั่งอยู่บนผืนทรายในชุดบิกินี่สีแดง แหงนหน้ามองท้องฟ้าสีฟ้าสดใสพร้อมหรี่ตาลง ฉันควรจะสนุกกับการเดินทางครั้งนี้ แต่สิ่งเดียวที่คิดคือจะเริ่มคุยกับลูเชียนยังไงดี ทันใดนั้นทรายใต้ตัวฉันขยับระหว่างที่ลูเซียนนั่งลงข้างๆ ฉัน เรานั่งข้างกันโดยไม่พูดอะไร ยังคงมองออกไปยังทะเลด้านหน้า“ตื่นเต้นกับงานแต่งงานมั้ยคะ” ฉันล้อเล่น นึกไม่ออกว่าจะชวนคุยเรื่องอะไรดี“ใช่…แต่ด้วยเหตุผลอื่นที่เธอเดาไม่ถูก” ลูเซียนตอบพร้อมกับโอบหลังฉันและขยิบตาให้ ฉันหัวเราะเล็กน้อยเป็นคำตอบขณะเอนศีรษะซบไหล่เขา“ฉันไม่เดาดีกว่า…” ฉันตอบ ระหว่างถอนหายใจออกมาเรากลับไปมองดูทิวทัศน์รอบตัวอย่างเงียบๆ หวังว่าจะไม่ถูกแดดเผา มันคงเป็นเรื่องตลกถ้าเจ้าบ่าวผิวลอกในงานแต่งงาน“เธอคิดถึงอนาคตของเธอบ้างหรือยัง” ลูเซียนถาม สายตาเขายังคงจับจ้องที่ขอบฟ้าไกลทำไมเขาถึงถามเรื่องนี้?ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้
“อาร์…ฉัน…หยุดไม่ได้……ฉันเสร็จอีกแล้ว!” ฉันร้องออกมาเมื่อร่างกายสูญเสียการควบคุมอีกครั้ง มันรุนแรงมากจนทำให้ฉันกลัว ร่างกายสั่นสะท้าน ฉันเริ่มร้องสะอื้นอย่างเงียบๆ ระหว่างซุกหน้าลงบนผ้าห่ม“ผมใกล้เสร็จแล้วเหมือนกัน…ผมเสร็จแล้ว…นาตาลี!” ไรเนอร์ร้องครางราวกับสัตว์ป่า มันทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขมาก หัวมังกรขนาดใหญ่กระตุกรุนแรงก่อนที่น้ำกามร้อนพุ่งลึกเข้าไปในโพรงสวาท รู้สึกร้อนรุ่มภายในขณะที่น้ำรักอุ่นๆ ล้นทะลักออกมาเต็มมดลูก เขาดันแท่งร้อนดันเข้าออกเล็กน้อยทำให้น้ำกามกระฉูดในตัวฉันมากขึ้น มันรู้สึกมหัศจรรย์มากแต่เหมือนร่างกายฉันถูกใช้จนเกินขีดจำกัด“คุณยังโอเคอยู่มั้ย” ไรเนอร์กระซิบ เขาจ้องมองใบหน้าที่อ่อนล้าและร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรง แทบจะตั้งสติไม่อยู่ ฉันคงดูเหมือนตายไปแล้วเพราะตัวเองก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ“คุณคิดว่า…เป็นความผิดของใคร……?” ฉันพูดเบาๆ ระหว่างพยายามหายใจ“อย่าโทษผมเลย...คุณเป็นคนขอเองไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้…” ไรเนอร์ตอบพร้อมหัวเราะเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ ถอนท่อนร้อนออกจากช่องรักที่เปียกท่วมน้ำรักของเราไหลออกมาทันที เตียงของไรเนอร์ต้องเปรอะไปหมดแน่ แต่ฉันไม่มีเวลามากังว
“โอบขาคุณรอบสะโพกผม” ไรเนอร์สั่ง สมองฉันแทบจะไม่ทำงานในช่วงเวลานี้ ต้องใช้เวลาสักครู่เพื่อทำตามคำสั่งเขาอย่างช้าๆหลังจากโอบแขนรอบคอเขา ไรเนอร์ก็ค่อยๆ ยืนขึ้น มันน่าทึ่งมากที่เขาสามารถยกตัวฉันขึ้นมาได้ การที่ตัวเขาใหญ่กว่าฉันมากมันมีข้อดีอย่างนี้นี่เอง“ไม่ต้องห่วง ผมจะกอดคุณไว้…ผมไม่ปล่อยให้คุณหล่นแน” ไรเนอร์ยืนยัน มือขนาดใหญ่โอบประคองบั้นท้ายฉันไว้อยากจะบอกเขาว่าฉันไม่กลัวว่าจะตก แต่ฉันกลัวว่าช่องรักถูกฉีกออกจากกันเพราะความสุขที่เขากำลังมอบให้ฉัน รู้สึกได้ถึงท่อนร้อนที่แข็งเป็นหินของไรเนอร์ฝังลึกอยู่ในตัวฉัน ฉันหลั่งมาหลายครั้งแล้วแต่เขายังไม่ถึงจุดสุดยอดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผู้ชายคนนี้อึดเหลือเกิน…ฉันได้แต่พยักหน้ารับอย่างเงียบๆ พร้อมยิ้มให้เขาไรเนอร์ยิ้มกลับด้วยดวงตาสีฟ้าที่อ่อนโยนมาก ก่อนเขาจะดึงเจ้ามังกรยักษ์ออกจากโพรงสวาทแล้วดันมันกลับเข้าไปข้างในอีกครั้ง เขาทำอย่างนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าระหว่างที่จับสะโพกฉันไว้ในมือ ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้กระทั่งเคลื่อนไหวสะโพกหรือร่างกาย สิ่งที่ฉันทำได้คือสนุกไปกับมันและตะโกนเรียกชื่อเขาอย่างบ้าคลั่งระหว่างที่เขากระแทกโพรงสวาทอย่างแรงไม่
"คุณโอเคมั้ย?" ไรเนอร์ถามพร้อมกับจูบที่หน้าผากฉัน“ค่ะ…คุณอยู่ลึกมากข้างใน…” ฉันตอบพร้อมกับพยักหน้าช้าๆ ไม่สามารถหยุดตัวเองจากการสำลักความสุขตอนนี้ความเป็นลูกผู้ชายของเขายืดและเติมเต็มฉันอย่างที่สุด มันรู้สึกดีมาก ร่างทั้งร่างสั่นจนควบคุมไม่ได้ ฉันร้องครางออกมาเหมือนคนโดนผีสิง“คุณเพิ่งหลั่งตอนผมใส่มันเข้าไปรึเปล่า” ไรเนอร์ถามพร้อมกับหัวเราะออกมาร่างกายสั่นไม่หยุดระหว่างที่สะโพกยังอยู่ใต้ตัวเขา ช่องรักบีบรัดรอบแท่งร้อนอย่างบ้าคลั่ง ฉันเพิ่งหลั่งอย่างที่เขาพูดจริงๆ เพียงแค่เขาดันเข้ามาในตัวฉันอย่างนั้นเหรอ?ความคิดนี้ทำให้ฉันกลัวเพราะเราเพิ่งจะเริ่มกันเอง“…ผมจะขยับต่อแล้วนะ” ไรเนอร์พูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนขณะดึงสะโพกกลับไรเนอร์ดันหัวเห็ดขนาดใหญ่เข้ามาในตัวฉันอย่างช้าๆ ฉันใช้หลังมือปิดปากยับยั้งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดผสมกับความสุข มันเจ็บแต่ก็เริ่มรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน ไม่สามารถหยุดผนังช่องรักบีบรัดท่อนเอ็นเนื้อของเขาได้“พยายามผ่อนคลาย นาตาลี ช่องรักคุณบีบผมแน่นมาก… จนมันขยับยาก…” ไรเนอร์กระซิบ เขาจับต้นขาฉันแยกออกจากกันให้กว้างขึ้นกว่าเดิมฉันหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง พยายามผ่อนคลาย