“เชิญ” น้ำเสียงติดเย็นชาเอ่ยดังขึ้น จางหลงเปิดออกก่อนที่จะเข้าไปรายงานนาย
“ คุณชายครับ หวงจือหลิน มาถึงแล้วครับ คุณชายจะให้เธอเข้ามาเลยไหมครับ” จางหลงเข้ามารายงาน ซือมู่อันพยักหน้าส่งสัญญาณ จางหลงจึงโค้งคำนับก่อนที่จะเดินกลับไปยังที่ประตูแล้วกล่าวเชิญนางเอกสาวชื่อดังเข้ามา “เชิญครับคุณหวง อย่าลืมทำตามสัญญาที่เซ็นไปแล้วด้วยนะครับ คุณชายไม่ชอบให้ผมตามเก็บกวาดทีหลัง” จางหลงบอกหญิงสาวร่างบางก่อนที่จะโค้งคำนับให้และเดินออกห้องไป ดาราสาวสวยยกยิ้ม ในที่สุดวันที่เธอรอคอยก็มาถึง วันที่จะได้ขึ้นเตียงกับคุณชายซือสักครั้ง “ ไปอาบน้ำก่อนเถอะ ฉันไม่ชอบกลิ่นน้ำหอมของเธอ ห้องน้ำอยู่ด้านโน้น ” เสียงเย็นเอ่ยออกมาจากปากหนาสีกุหลาบ ดาราสาวมองเขาอย่างตกตะลึง ตัวจริงเขาหล่อกว่ารูปภาพพวกนั้นอีก ก่อนที่เธอจะทำตามที่เขาต้องการโดยง่าย เธอเดินตรงไปตามทางที่เขาบอก ใช้เวลาผ่านไปไม่นานร่างบางที่มีผ้าขนหนูผืนเดียวห่มกายอยู่ก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำ งานนี้ไม่ใช่งานแรกของดาราสาว เธอร่วมรักกับคนในวงการมาบ้างแล้ว ไหนจะผู้กำกับและพวกผู้จัดละครอีก แต่การมาครั้งนี้มันทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นและยินดีเป็นอย่างมาก สายตาคมจ้องไปที่ร่างบางทรงนาฬิกาทรายสมกับเห็นหุ่นของดาราดัง ความต้องการที่จะปลดปล่อยก็เกิดขึ้น เธอเดินไปนั่งรอเขาอยู่บนเตียงก่อนที่จะปลดผ้าขนหนูสีขาวผืนเดียวออกจนเผยให้เห็นร่างกายเปลือยเปล่า ผิวขาวกับหน้าอกอวบของเธอทำให้เขาเกิดความต้องการได้ไม่น้อย ซือมู่อันค่อยๆถอดชุดของตนออกจนเหลือเพียงอกเปลือยที่โชว์มัดกล้ามที่มีซิกแพกเป็นลอน ดาราสาวมองก่อนที่จะลอบกลืนน้ำลาย เธอเคยเห็นหุ่นแบบนี้กับพวกนายแบบ แต่คู่นอนของเธอน้อยนักที่เธอจะได้เห็นมัดกล้ามที่สวยงามแบบนี้ หญิงสาวส่งยื้มยั่วยวนออกมา ก่อนที่จะอ้าขาออกเชิญชวนให้เขาได้เข้ามาในตัวของเธอเร็วๆ ซือมู่อันถอดกางเกงออกจนเผยให้เห็นแท่งเอ็นร้อนที่ดีดผึ่งขึ้นมา มันพร้อมรบแล้ว คุณชายหนุ่มไม่รอช้าเดินไปหยิบเครื่องป้องกันขึ้นมาสวมใส่ ก่อนที่จะขึ้นไปบนเตียงที่มีสาวสวยร่างขาวเนียนนอนให้ท่ารออยู่ ร่างหนาทับไปตรงกลางของร่างบาง ก่อนที่ปากหนาจะก้มลงงับดอกบัวตูมขนาดใหญ่ ดูดดึงและขบเบาๆ มืออีกข้างก็บีบคั้นอกอวบอีกข้าง สลับไปมาอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะส่งนิ้วหนาลงไปสำรวจช่องทางรักของดาราสาว ทันที่นิ้วของเขาสัมผัสเข้าไปก็ปรากฏว่าร่างบางใต้ร่างหนาของตนนั้นพร้อมพรักแล้ว ซือมู่อันไม่รอช้า เขาไม่เคยเล้าโลมคู่นอนนานๆ มือหนาจับแท่งเอ็นร้อนที่สวมใส่เครื่องป้องกันเรียบร้อยแล้วดุนดันเข้าไปในช่องทางรักของดาราสาวจนสุดลำ เธอจุกจนต้องร้องบอกเขา “อ๊า.............คุณชายซือขา...........ฉันจุกค่ะ คุณชายซือใหญ่ยาวสมคำร่ำลือเลยนะคะ..อ๊ะ..อ๊า...” “อืม....แต่ของเธอไม่ค่อยตอดของฉันเท่าไหร่เลยนะ ไม่เป็นไร” สิ้นคำพูดอันเยือกเย็นของซือมู่อัน ดาราสาวก็ต้องร้องครางออกมาไม่ได้ศัพท์ เธอถูกเขาพลิกร่างไปมาพร้อมทั้งกระแทกจนเธอร่างแทบจะจมลงไปกับที่นอน เสียงหวานที่ครวญครางปะปนกับเสียงของเนื้อกระทบเนื้อกัน เร่งเร้าอารมณ์ชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี “อ๊า......ตับๆๆๆๆๆ.........โอ้ว......ตับๆๆๆๆ..........” “บะ...เบาๆ หน่อยค่ะ อ๊า....จือหลินจะไม่ไหวแล้วค่ะ อู้ย.....อ๊าๆๆๆๆ....” “ตับๆๆๆๆๆๆ....อ๊า............ตับๆๆๆๆอ้าก............” จังหวะหนักหน่วงที่กระหน่ำเข้าออกไม่หยุดจนร่างบางหัวสั่นหัวคลอน หวงจือหลินสัมผัสได้เลยว่าคุณชายซือผู้นี้มีบทรักที่เร่าร้อนจนเธอแทบจะหายใจไม่ทันกันเลยทีเดียว ร่างบางปลดปล่อยน้ำรักออกมาไม่รู้จักกี่ครั้งกี่หน ขณะที่คนคุมเกมส์ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุด “ฮะ..แฮกๆๆ... อ๊า...คุณชายขา ยังไม่เสร็จอีกหรอคะ จือหลินจะไม่ไหวแล้วค่ะ อ๊า.....” เสียงแหบแห้งเอ่ยขึ้นขณะที่ยังนอนคว่ำโก่งโค้งให้เขาได้จ้วงแทงช่องทางรักจากทางด้านหลังจนหัวสั่นหัวคลอนอยู่ “อืม.....................” เสียงทุ้มครางราวกับว่ารำคาน ก่อนที่จะกระแทกเข้าออกอีกสี่ถึงห้าที น้ำราคะที่กักเก็บไว้ก็ถูกปลดปล่อยออกมาจนเต็มถุงยาง ซือมู่อันถอดถอนแท่งเอ็นร้อนของตนออกจากช่องทางรักของดาราสาวก่อนที่จะถอดเอาเครื่องป้องกันออกแล้วทิ้งลงไปในถังขยะใกล้ๆเตียง แล้วลุกจากที่นอนไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายโดยที่ไม่ได้สนใจร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงอีกเลย ดาราสาวได้แต่มองตามก่อนที่จะคิดในใจ ‘เย็นชาสมกับที่ได้ฉายามาจากคู่นอนคนอื่นๆจริงๆเลย ให้ตายสิ’หลังจากการปลดปล่อยเมื่อครู่ที่ผ่านมา ซือมู่อันก็เดินเข้าห้องน้ำไปชำระล้างร่างกาย ก่อนที่จะเดินออกมาในชุดคลุมสีขาว สายตาของดาราสาวนั้นยังคงมองไปที่ชายหนุ่มอย่างหลงใหล หากเธอได้ครอบครองเขาคงจะดีไม่น้อย เพราะเขาทั้งหล่อ ทั้งรวย และเร้าใจ ความคิดด้านมืดทำให้เธอลืมคิดถึงผลที่จะตามมา“ไปอาบน้ำใส่เสื้อผ้าซะสิ อะนี่ ที่ตกลงกันไว้” ซือมู่อันบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนที่จะส่งเช็คให้กับดาราสาวที่เพิ่งจะร่วมเตียงกันไปก่อนหน้า “จะมีโอกาสที่จือหลินจะได้มารับใช้คุณชายอีกไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นขณะที่มือบางยื่นออกไปรับเช็คมาจากมือหนาของเขา ชายหนุ่มชะงัก ก่อนที่จะส่งสายตาเย็นชาแต่ดุดันมองไปที่เธอ “ถ้าเธออ่านสัญญา เธอจะรู้ดีว่าฉันไม่นิยมกินใครซ้ำ ต่อให้เด็ดขนาดไหนก็ไม่มีวัน” ชายหนุ่มประกาศกร้าวจนหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงต้องสะดุ้ง รีบคว้าเช้คมาก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำแล้วกลับออกมาในชุดเดิมเหมือนตอนที่เพิ่งมาถึงเรียบร้อย คุณชายซือไม่แม้แต่จะหันมามองหรือพูดคุยอะไรกับเธออีก สาวสวยอดที่จะเสียฟอร์มไม่ได้ ด้วยรูปร่างหน้าตา ที่ผ่านมาเธอทำให้คู่นอนคนก่อนๆ หลงใหลได้อยู่ไม่น้อย แต่รู้สึกว่าคงไม่ใช่ก
“อ้อ หลินหลิน ข่าวอะไรหรอ” ต้าฉินเอ่ยถามนักข่าวสาวเพื่อนสมัยเรียน “ก็เป็นรูปคุณชายซือกับดาราชื่อดังในโรงแรมน่ะ ดูๆ แล้วแม่ดารานี่น่าจะเซลฟี่เองนะเนี่ย จากมุมภาพ ไม่น่าจะโดนแอบถ่าย แถมยังเป็นในห้องนอนด้วย คุณชายซือรู้ตัวหรือเปล่าเนี่ย” หลินหลินบอกก่อนจะเอ่ยถาม “ขอบใจนะที่เธอโทรมาบอก เดี๋ยวเราจัดการเอง อย่าให้ข่าวนี้หลุดออกไปนะ เธอก็รู้ว่าคุณชายซือท่านไม่ชอบเป็นข่าวกับผู้หญิงคนไหน” ต้าฉินเอ่ยขอบคุณก่อนที่จะบอกเพื่อนสาวด้วยความหวังดี “อืม ก็ว่ามันแปลกๆ แหละเลยโทรมาถามก่อน แค่นี้แหละ ดูแลตัวเองด้วยนะนายน่ะ” หลินหลินวางสายไป หัวใจเย็นชาของบอดี้การ์ดหนุ่มรู้สึกอุ่นวาบ ก่อนที่แววตาจะวาวโรจน์ขึ้นมาด้วยความโกรธ ดูเหมือนว่าคู่นอนของนายคืนนี้จะโลภมากซะแล้ว เขาต้องรีบไปรายงานเรื่องนี้ให้คุณชายได้รู้ “บัดซบ!!! สงสัยไม่อยากจะอยู่ในวงการบันเทิงอีกแล้วสินะ หวงจือหลิน!!!!!” เสียงเกรี้ยวกราดดังออกมาจากปากหนาสีกุหลาบ หลังจากได้รู้เรื่องนี้จากบอดี้การ์ดมือขวาของตน เขารังเกียจที่สุดสำหรับผู้หญิงที่คิดจะจับเขาด้วยวิธีแบบนี้ “ใจเย็นๆ ก่อนนะครับคุณชาย เดี๋ยวเรื่องนี้ผมจะจัดการให้เอง เบื้องต้นจะไม่ม
หนึ่งปีผ่านไป ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยในปีแรกของหลิวถิงถิงกับอีกสองสาวเพื่อนรักนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะกับหลิวถิงถิง ตั้งแต่วันนั้นที่แม่เลี้ยงมหาภัยของเธอโผล่มาบังคับข่มขู่ให้เธอลาออกจากมหาวิทยาลัย ซึ่งเธอก็ยืนกรานว่าจะไม่ออกแน่นอน เพราะนี่มันคืออนาคตของเธอ และคือทั้งหมดในชีวิตของเธอ เธอแอบงงอยู่ไม่น้อยที่แม่เลี้ยงใจร้ายของเธอยอมรามือแต่โดยดี ซึ่งมันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ อันที่จริงบิดาของเธออาจจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่แม่เลี้ยงของเธอทำก็ได้ คิดได้แบบนั้นหลิวถิงถิงก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ อย่างน้อยบิดาก็ยังเห็นใจเธอบ้าง ส่วนพี่ชายของเธอนั้นเขาโทรมาหาเธอหลังจากที่แม่เลี้ยงมาหาเธอได้เพียงสองวันว่าเขามีงานทำแล้ว เป็นการ์ดอยู่ที่ผับแห่งหนึ่ง สร้างความดีใจให้กับสาวน้อยได้เป็นอย่างดี ที่พี่ชายหันหลังให้การพนันและหันหน้ามาทำงานทำการ “ปีนึงแล้วนะถิงถิง เธอยังไม่เคยเจอคุณชายซืออีกหรอ” เพื่อนคนหนึ่งในคณะเอ่ยถามขึ้น “อืม ทำไมเค้าต้องมาเจอเราด้วยล่ะ เราไม่ใช่คนสำคัญขนาดนั้นสักหน่อย ที่สำคัญเราก็เป็นแค่เด็กที่อยู่ภายใต้การอุปการะของเขาก็เท่านั้นเอง” หลิวถิงถิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่สนใจ เธอได้ยินคำถา
เมื่อได้เวลาประชุม ผู้บริหารทุกระดับของโรงแรมต่างเข้าร่วมประชุมครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน ไม่มีใครกล้าที่จะมาสายเลยสักครั้ง หากมีประกาศออกมาว่า คุณชายซือเปิดการประชุม ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันอยู่ประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดออกโดยสองบอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่ไม่แพ้ผู้เป็นนาย ก่อนที่ร่างสูงสง่าของซือมู่อันจะก้าวเดินเข้ามาอย่างสง่างาม “สวัสดีครับ/ค่ะ คุณชายซือ” เสียงผู้บริหารทั้งชายหญิงทักทายประธานหนุ่มขึ้นพร้อมกัน “สวัสดีครับ ผู้บริหารทุกท่าน เชิญนั่งตามสบายครับ” เสียงเยือกเย็นแต่สุภาพเอ่ยขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาหากแต่เฉยชานั้นเป็นบุคลิกของคุณชายซือมู่อันที่พวกเขารู้จักมาตั้งแต่ต้น หากวันไหนที่มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าคมนี้ คงจะเป็นวันที่ถ้าฝนไม่ตกใหญ่ก็คงแห้งแล้งไปทั้งปีอย่างแน่นอน “ที่ผมเรียกประชุมวันนี้ เพราะมันคือปัญหาที่สะสมมานาน ผมอยากจะทราบถึงเหตุผลว่า ทำไมอยู่ๆยอดจองเข้าพักของโรงแรมแห่งนี้ถึงได้ลดน้อยลง” เสียงราบเรียบเอ่ยถามออกไปจากปากหนาสีกุหลาบ“คือ โรงแรมของเราโดนลูกค้าคอมแพลนมาหลายครั้งมากแล้วครับ แล้วส่วนมากลูกค้าก็จะเป็นกลุ่มคนเดิมๆ” ผู้บริหารคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “กลุ่มเดิมๆ” เสียงสู
สนามยิงปืนขนาดใหญ่ในเมืองแอล “แกร๊ก ปังๆๆๆๆ .....ปัง ปัง ปัง ปัง” เสียงบรรจุกระสุนและเสียงลั่นไกดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากว่าไม่ใส่หูฟังสำหรับเก็บเสียงแล้วล่ะก็ หูของทั้งคนยิงและคนที่อยู่ใกล้ๆ คงจะดับอย่างแน่นอน อารมณ์โกรธเคืองที่เกิดจากเรื่องราวภายในห้องประชุมที่มีก่อนหน้าเริ่มผ่อนคลายลงจากการที่ได้ระบายออกมา ร่างสูงสง่าถอดหูฟังออกจากศีรษะ ก่อนที่จะหันไปคุยกับบอดี้การ์ดมือขวา “แกว่าใครที่มันกล้ามาเล่นกับตระกูลซือ ต้าฉิน” “ผมว่า ต้องเป็นคนที่ทำธุรกิจเดียวกับคุณชายแน่นอนเลยครับ อีกไม่นานจางหลงคงจะสืบได้เรื่อง รอสักหน่อยเถอะครับ” ต้าฉินเป็นบอดี้การ์ดที่มีความใจเย็นและคอยเตือนสติซือมู่อันอยู่เสมอ “มันกล้ามากที่มาลองดีกับตระกูลซือ!!” เสียงกร้าวดังมาจากปากหนาสีกุหลาบ เขาหันหลังกลับไปก่อนที่จะหยิบหูฟังมาสวมใส่ไว้ที่ศีรษะเช่นเดิม มือหนาบรรจุกระสุนอย่างคล่องแคล่วชำนาญ ก่อนที่มือหนาจะจับกระบอกปืนจนมั่นและสาดกระสุนออกไปส่งเสียงดังไปทั่วทั้งบริเวณ หากแต่กระสุนทุกลูกที่ถูกยิงออกไปนั้นกลับเข้าเป้าจนเป้ากระดาษตรงกลางฉีกขาดจนโบ๋ คนที่เห็นต่างตกตะลึงในฝีมือของคุณชายซือ นักธุรกิจหนุ่มพันล้าน
ในกลุ่มรูมเมทของจ้าวซือซือไม่มีใครเลยที่ไม่สวย เรียกได้ว่ากลุ่มเบ้าหน้าฟ้าประทานทั้งสามคน แต่เพื่อนทั้งสองก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ ที่สามสาวต่างคณะนั้นยังไม่มีใครเลยที่มีแฟน หลายๆ คนเลยได้ให้ฉายาของกลุ่มหลิวถิงถิง จ้าวซือซือและเฉินเหม่ยหาน ว่าเย็นชาไร้หัวใจ แต่ทุกคนหารู้ไม่ว่าทั้งสามสาวนั้นมีเป้าหมายในชีวิตของแต่ละคนอยู่“ซือซือพูดจริงๆนะ ถ้าถึงวันนั้นแล้วพี่ยังไม่มีใครและยังไม่เปลี่ยนใจ ซือซือจะให้โอกาสพี่แน่นะครับ” หลินเจียอีเอ่ยถามอย่างดีใจ จ้าวซือซือพยักหน้าน้อยๆ “เธอสองคนเป็นพยานให้พี่ด้วยนะ” เขาหันไปบอกสองสาวร่วมคณะของจ้าวซือซือ ซึ่งสองสาวที่กำลังนั่งอึ้งก็พยักหน้าขึ้นลงกันเป็นสัญญาณ นั่นแหละเลยทำให้หนุ่มหล่อรุ่นพี่ปี4คณะวิศวะเดินหน้าบานกลับออกไป“เฮ้ย เอาจริงดิ ถ้าเธอเรียนจบแล้วได้เป็นดาราดังแกจะยอมคบพี่เจียอีจริงๆ หรอ ฉันนี่ไม่อยากจะเชื่อนี่ถ้าได้ยินคนอื่นเล่าให้ฟังฉันคงจะไม่เชื่ออย่างแน่นอนว่าแก๊งนางฟ้าเย็นชาไร้หัวใจอย่างแกจะให้โอกาสใครเป็น” เพื่อนสาวคนแรกถามอย่างไม่อยากเชื่อ“อืม จริง จะกลัวไปทำไม ใจคนมันเปลี่ยนกันง่ายจะตาย กว่าจะถึงวันนั้น พี่เจียอีคงแต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้
งานที่ซือมู่อันสั่งให้สองบอดี้การ์ดจัดการเป็นไปอย่างเรียบร้อย คนที่เข้ามาสร้างความวุ่นวายให้กับทางโรงแรมถูกจับกุมและฟ้องร้องชดใช้ค่าเสียหายที่ทำให้ชื่อเสียงของโรงแรมเสียหายโดยหลักฐานทุกอย่างจางหลงกับต้าฉินเป็นฝ่ายส่งให้ตำรวจ ส่วนโฮมสเตย์ของนายทุนต่างถิ่นถูกร้องเรียนเนื่องจากห้องพักไม่ได้มาตรฐาน ความสะอาดติดลบ และความปลอดภัยต่ำ เมื่ออาทิตย์ก่อนมีลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการที่โฮมสเตย์ดังกล่าว ปรากฏว่ามีทรัพย์สินบางอย่างหายไป ซึ่งตรวจสอบแล้วจับมือใครดมไม่ได้ สุดท้ายทางโฮมสเตย์ต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ ลูกค้าที่เกิดเรื่องจึงคอมแพลนและฟ้องร้องทางโฮมสเตย์เรียกร้องค่าเสียหายไปพอสมควร จึงต้องปิดตัวลงหลังจากการโดนร้องเรียน และถูกทางการเข้ามาตรวจสอบ เรียกได้ว่างานนี้สองบอดี้การ์ดแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย ทางด้านเจินถงต้าพอรู้ตัวว่ากำลังโดนเจ้าถิ่นเล่นงานกลับจึงยอมถอยแต่โดยดี ก่อนหน้านี้เขาแค่เคยได้ยินชื่อเสียงของตระกูลซือมาบ้าง หากแต่วันนี้ได้เห็นกับตาได้เจอกับตัวแล้ว นั่นก็เป็นเพราะเขาเล่นสกปรกกับอีกฝ่ายก่อนเอง เพราะคิดว่าหากทำเช่นนั้นแล้ว จะสามารถดิสเครดิตอีกฝ่ายได้ ทำให้แบ่งแขกจากที่นั่นมาพักที่โฮมสเ
มหาวิทยาลัยแอลขณะที่หลิวถิงถิงกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่กับเพื่อนสนิทสาวทั้งสองที่โต๊ะไม้หินอ่อนที่หน้าคณะ ก็ได้ยินเสียงข้อความดังขึ้นจากสมาร์ทโฟนเครื่องเล็กของตน มือบางวางหนังสือเล่มที่อ่านอยู่ลงก่อนที่จะหยิบสมาร์ทโฟนของตนขึ้นมาเปิดดูข้อความ ก่อนที่ดวงตากลมจะเบิกโพลงอย่างตกใจกับเนื้อหาในนั้น ‘พรุ่งนี้ฉันจะเข้าไปเยี่ยมเธอที่มหาวิทยาลัย จากซือมู่อัน’ “คุณชายซือ” เสียงหวานครางชื่อเขาออกมาเบาๆ แต่สองสาวที่นั่งอยู่ใกล้ๆกันนั้นต่างได้ยินกันเต็มสองหู “ห๊า...อะไร ใครนะ” จ้าวซือซือเอ่ยถามอย่างตกใจปนตื่นเต้น “นั่นสิ ฉันเหมือนได้ยินเธอครางชื่อคุณชายซือออกมาเลย” เฉินเหม่ยหานเอ่ยถามขึ้นเช่นกัน “อืม ก็ใช่น่ะสิ เขาส่งข้อความมาบอกว่าพรุ่งนี้จะเข้ามาเยี่ยมฉันที่มหาวิทยาลัย” หลิวถิงถิงบอกเนื้อหาของข้อความที่ได้รับให้เพื่อนสนิททั้งสองฟัง สองสาวต่างตาโตอย่างตกใจ โดยเฉพาะจ้าวซือซือ “ห๊า....จริงอะ ผ่านมาเป็นปีเพิ่งจะมาเจอเธอนี่นะ แต่จะช้าจะเร็วเธอก็ต้องได้เจอเขาอยู่ดี อุ๊ย ฉันล่ะอดตื่นเต้นแทนแกไม่ได้เลยยัยถิงถิง” จ้าวซือซือเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น เธอเองก็อยากที่จะเห็นคุณชายซือตัวเป็นๆเหมือนกัน“ใช่ ยังไง
วันต่อมา หลังจากจัดการเตรียมสถานที่สำหรับการเซอร์ไพร้ส์ขอแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตเรียบร้อยแล้ว วันนี้ก็เป็นวันที่เขาตัดสินใจจะขอว่าที่ภรรยาสาวแต่งงาน แต่ในตอนเช้าเขานั้นมีแพลนว่าจะพาเธอไปตรวจครรภ์และฝากครรภ์กับแพทย์หญิงที่เขานั้นรู้จัก เธอเป็นภรรยาของเพื่อนต่างเมืองแต่เธอนั้นย้ายมาประจำอยู่ที่เมืองแอลตั้งแต่เมื่อสามเดือนก่อน“สวัสดีเจียวมี่ เธอสบายดีนะ ลู่เพ่ยเป็นยังไงบ้าง เขายอมย้ายตามเธอมาหรือยัง” เสียงเข้มติดเย็นชาเอ่ยทักทายภรรยาของเพื่อนที่เป็นสูตินรีแพทย์ประจำโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงของเมืองแอลแห่งนี้“สบายดีมู่อัน ลูเพ่ยเขาก็เป็นแบบนั้นแหละ ไม่ย้ายมาหรอกแต่ขอบอกว่ามาหาบ่อยมากคิกๆๆ” แพทย์หญิงเอ่ยทักทายเพื่อนสามีกลับเช่นกัน ก่อนที่จะหลี่ตามองสาวน้อยหน้าหวานข้างๆ เพื่อนของสามีด้วยแววตาสงสัย “อ้อ......นี่ถิงถิงว่าที่ภรรยาของฉันเอง วันนี้ฉันพาเธอมาตรวจครรภ์ พร้อมฝากครรภ์กับเธอไปด้วยเลย” คำบอกเล่าแนะนำแม่สาวน้อยข้างกายของเพื่อนสามีทำเอาคุณหมอสาวตกใจแบบไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่หวงความโสดแบบคุณชาย
การวางแผนของซือมู่อันและคนสนิทของหลิวถิงถิงเป็นไปอย่างลับๆ โดยที่หลิวถิงถิงไม่รู้เรื่องเลย ทางด้านคุณนายซือที่ออกไปพบกับบิดาของหลิวถิงถิงก็อดที่จะทำให้ฝ่ายนั้นตกอกตกใจไม่ได้ แต่พอได้รู้ว่าผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้มาสู่ขอบุตรสาวของตนให้กับบุตรชาย ใบหน้ากังวลจึงแปรเปลี่ยนเป็นยินดี “ขอบพระคุณคุณนายกับคุณชายซือนะครับที่ให้เกียรติลูกสาวของผม ถ้าถิงถิงตกลงผมก็ไม่ขัดข้องอะไรหรอกครับ” ใบหน้าเหี่ยวย่นไปตามวัยเปื้อนรอยยิ้มแห่งความสุข ใครจะไปคิดว่าบุตรสาวของตนจะได้แต่งเข้าไปในตระกูลที่ยิ่งใหญ่และมีอิทธิพลของเมืองแอล “อย่าพูดอย่างนั้นเลยค่ะ เพราะลูกชายของดิฉันทำอะไรข้ามขั้นตอนไปมาก การมาสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่ควรแล้วค่ะ” ซือหลินซู่เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ข้ามขั้นตอน หมายความว่ายังไงครับ ผมไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าลูกสาวของผมชอบพออยู่กับคุณชาย อาจจะเป็นเพราะผมไม่ใช่พ่อที่ดีมากด้วยแหละครับ ถึงไม่ค่อยจะรู้เรื่องส่วนตัวของลูกๆ” น้ำเสียงงุนงงในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นสลดลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ใช่พ่อที่ดีที่ใส่
เมื่อเธอก้าวเท้าเข้าไปในห้องนอนที่มารดาของว่าที่สามีเตรียมไว้ให้ก็ต้องตกตะลึงกับความกว้างขวางใหญ่โต ดวงตากลมโตมองไปที่เตียงกว้างขนาดหกฟุตซึ่งมีทั้งตุ๊กตา หมอนหนุนสีหวานและหมอนข้างแสนนุ่มวางอยู่บนเตียง ก่อนที่ขาเรียวจะพาร่างระหงของเธอตรงไปที่เตียง เพราะเมื่อคืนตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเลยทำให้เธอรู้สึกง่วงเป็นอย่างมาก ร่างบางปีนป่ายขึ้นไปนอนบนเตียงนุ่มที่มีผ้าปูสีชมพูแสนหวานแล้วล้มตัวลงนอนเปลือกตาบางค่อยๆ ปิดลงโดยที่ไม่รู้สึกตัวอีกเลย“อะไรกันมู่อัน ไปพาน้องมาแต่ไม่ขอน้องแต่งงานเนี่ยนะ แม่ถามลูกจริงๆ ลูกพาน้องกลับมาบ้านในฐานะอะไร แม่ของลูก ผู้ที่หญิงที่รัก หรือแค่ผู้หญิงที่มีไว้เพื่อมีทายาทให้เท่านั้น” คำถามของผู้เป็นมารดาทำเอาซือมู่อันตกตะลึงก่อนที่จะเพิ่งคิดได้ ใช่สิ เขาต้องขอแต่งงานให้ถูกต้องและการแต่งงานของเขาจะต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่ให้สมกับการที่ตระกูลเขาเป็นตระกูลใหญ่ของเมืองแอล“ผมนึกไม่ถึงครับคุณแม่ว่าต้องขอเธอด้วย ตอนแรกก็กะจะจัดงานเลย แต่ก็เหมือนว่าผมทำข้ามขั้นตอนไปอีกตามเคย คือผมต้องขอน้องแต่งงานก่อนใช่ไหมครับ” ซือมู่อันนั่งปรึกษากับมารดาพอดี เขา
มือบางชื้นเหงื่อขึ้นมาทันทีที่รถตู้คันหรูเลี้ยวเข้ามาภายในอาณาจักรของตระกูลซือในพื้นที่เกือบร้อยไร่ใจกลางเมืองแอล ซือมู่อันหันไปมองใบหน้าหวานที่ซีดเผือดของคนข้างๆ ก็พอจะดูออกทันทีว่าแม่สาวน้อยภรรยาทางพฤตินัยของเขากำลังกังวล เพราะนี่คือการพาเธอไปแนะนำให้ครอบครัวเพียงคนเดียวของเขาได้รู้จัก มือหนาคว้ามือบางมากุมไว้ก่อนที่จะบีบเบาๆ หลิวถิงถิงหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาของสามีทางพฤตินัยก็พบว่าเขากำลังส่งยิ้มบางๆ มาให้กับเธอ หญิงสาวจึงยิ้มตอบแล้วผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ “ไม่ต้องกังวลนะที่รัก แม่พี่ใจดี อีกอย่างตอนที่ท่านรู้ว่าหนูกำลังจะมีหลานคนแรกให้ท่าน ท่านดีใจจนร้องไห้เลยล่ะ” ซือมู่อันปลอบเธอ และสิ่งที่เขาบอกเธอนั้นเป็นความจริงทั้งหมด ตอนที่เขารู้ว่าเธอตั้งครรภ์เขาก็รีบโทรปรึกษามารดาทันที และเมื่อมารดาได้ฟังเรื่องที่เขาเล่าแล้วเธอก็รีบกดวางสายแล้วเปลี่ยนเป็นวิดิโอคอลหาเขา ท่านร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ โดยที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าท่านจะมีหลานที่กำลังจะได้ลืมตามาดูโลกในเร็วๆ นี้ “จริงหรือคะ ท่านจะไม่ว่าจริงๆ ใช่ไหมที่หนูท้องก่อนแต่ง” เสียงหวานเอ
มู่หลินไม่ได้รู้สึกยินดีเท่าไหร่นักที่ต้องไปไกลถึงเมืองอื่น แต่หากจะให้เลือกตกงานกับยังมีงานทำ เธอขอเลือกอย่างหลังมากกว่า และข่าวที่มู่หลินถูกสั่งย้ายไปอยู่สาขาต่างเมืองก็ดังไปทั่วทั้งตึก หลายๆ คนรู้สึกโล่งใจและสบายใจที่มู่หลินจอมแสบนั้นถูกย้ายไปไกล แต่บางคนก็ยังรู้สึกว่ามันไม่พอกับการกระทำที่แสดงออกต่อพนักงานใหม่ ถ้าเมื่อวานผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ภรรยาของหุ้นส่วนท่านประธานก็ไม่รู้ว่าวันนี้เธอจะยังได้รับความยุติธรรมอยู่ไหมซือมู่อันให้จางหลงไปรับหลิวถิงถิงมาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เพราะเขาจองโต๊ะสำหรับมื้อกลางวันเอาไว้แล้ว และรู้ดีว่าเด็กสาวอยากจะเลี้ยงขอบคุณเพื่อนสนิทที่อยู่ที่นี่ของเธอก่อนที่เธอจะกลับไปพร้อมกับเขา “ขอบคุณนะคะที่ทำเพื่อหนูมากขนาดนี้” เสียงหวานเอ่ยขึ้นหลังจากที่โดนเขาดึงไปสวมกอดภายในร้านอาหารโดยไม่แคร์สายตาของคนอื่นๆ ที่มองมาอย่างอิจฉา มือหนากอบกุมมือบางเอาไว้ก่อนที่จะจับจูงเธอให้เดินตามไปที่โต๊ะ เขาเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย หัวใจก็รู้สึกมีความสุข หลังจากที่ร
หลิวถิงถิงใช้เวลาอยู่กับคุณชายซือทั้งคืนโดยในตอนสายๆ เพื่อนที่พักอยู่ร่วมห้องของเธอก็โทรเข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงและตกใจ “ถิงถิง สรุปเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่ แล้วที่เธอไม่กลับห้องทั้งคืนเพราะออกไปกับหุ้นส่วนของท่านประธานจริงๆ ใช่ไหม แล้วไหนเธอบอกว่าไม่เคยมีแฟนยังไงล่ะ ทำไมจู่ๆ หุ้นส่วนของท่านประธานถึงมาบอกทุกคนว่าเธอคือภรรยาของเขา สรุปไอ้อาการอาเจียนเป็นเพราะเธอกำลังท้องใช่ไหม” ลี่หลินซักไซ้เพื่อนสาวเสียยืดยาวด้วยความเป็นห่วงและอยากรู้“คือฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณชายซือจะเป็นหุ้นส่วนของท่านประธาน อันที่จริงฉันน่ะเคยเป็นเด็กในอุปการะของคุณชายซือมาก่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนแรกก็ไม่ได้มีอะไรหรอก แต่มาตอนหลังๆ เขาก็...คิดไม่ซื่อกับฉันมั้ง” ที่หญิงสาวกล้าตอบไปแบบนั้นเพราะเช้านี้ซือมู่อันออกไปจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นที่ทำงานให้กับเธอ เขาไม่อยากให้เธอเครียดและคิดมาก และพรุ่งนี้เขาจะให้คนของเขาไปขนของออกจากหอพักที่เธอพักอยู่กับลี่หลินเพื่อกลับเมืองแอลพร้อมกัน“อ้าว จริงหรอ สรุปว่าคุณชายซือ หุ้นส่วนของท่านประธานคือพ่อของลูกในท้อ
“เพราะพี่รักหนูยังไงล่ะเด็กโง่ แค่นี้ก็มองไม่ออกหรอว่าพี่รู้สึกอย่างไรกับหนู หนูคิดว่าถ้าพี่ไม่รักหนูแล้วพี่จะหลอกหนูว่าพี่เป็นหมันเพื่อที่จะให้หนูท้องลูกของพี่เพื่ออะไร แล้วคนอย่างพี่ถ้าไม่รู้สึกดีหรือรู้สึกว่าใครพิเศษพอพี่จะไม่พบเจออีกเป็นครั้งที่สองหรอกนะ พี่รักหนู ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นแล้ว” คำสารภาพของชายหนุ่มทำเอาว่าที่คุณแม่น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ หากแต่ครั้งนี้มันเป็นน้ำตาแห่งความสุข ในที่สุดคำที่เธออยากฟังมานานจากคนเย็นชาคนนี้ก็ดังออกมาจากริมฝีปากสีกุหลาบที่แสนร้ายกาจของเขาเสียที วงแขนเรียวโอบกอดเขาตอบใบหน้าชุ่มน้ำตาก็ซบซุกลงบนหน้าอกหนั่นแน่นของเขา“หนูก็รักพี่ค่ะฮึก... พี่มู่อัน หนูรักพี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้ว แต่หนูไม่กล้าที่จะพูดออกมาเพราะหนูไม่ใช่ผู้หญิงที่เหมาะสมหรือคู่ควรกับพี่เลยสักนิด ความฝันที่จะได้เคียงข้างพี่มันไกลเกินไปสำหรับหนูจริงๆ ฮึก.. ขอบคุณนะคะสำหรับความรักที่พี่มอบให้ หนูสัญญาจะรักษาและดูแลมันเป็นอย่างดีฮึก...” หญิงสาวสารภาพรักออกมาให้ชายหนุ่มได้ฟังเช่นกัน มือหนาลูบลงบนผมนุ่มและแผ่นหลังของหญิงสาวที่เขาเพิ่
เมื่อรถตู้คันหรูเคลื่อนเข้าไปจอดที่หน้าโรงแรมหรูของเมืองเอ็ม สองหนุ่มสาวก็ก้าวลงจากรถและเดินเคียงข้างกันเข้าไปในโรงแรม หญิงสาวในชุดยูนิฟอร์มของบริษัทถูกสาวๆ ทั้งที่เป็นแขกและพนักงานในโรงแรมมองมาที่เธอเป็นตาเดียว ร่างระหงค่อยๆลด ความเร็วแล้วเยื้องย่างตามหลังชายหนุ่มไปอย่างเจียมตัว เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นตัวประหลาด แต่ก็คงไม่แปลกนักถ้าเธอไม่สวมชุดพนักงานห้างธรรมดาๆ มาเดินกับคนที่มีชื่อเสียงอย่างคุณชายซือทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดออก ร่างของสองหนุ่มสาวก็แทบจะถูกดึงดูดเข้าหากันโดยที่หลิวถิงถิงยังไม่ทันห้ามปรามอะไร ปากเรียวสีกุหลาบของชายตรงหน้าก็ตะโบมจูบมาจนเธอแทบจะหายใจไม่ทัน มือบางยกขึ้นก่อนที่จะตีลงไปบนหน้าอกหนั่นแน่นของชายหนุ่มเพื่อเป็นการเตือนสติ ถึงแม้เธอจะคิดถึงเขามากแค่ไหน แต่เธอก็ยังอยากที่จะคุยกับเขาให้เข้าใจก่อนว่าที่ผ่านมันคืออะไรกันแน่ แล้วเขาหลอกเธอว่าเขาเป็นหมันจริงๆ ใช่ไหม ซือมู่อันถอนจูบออกจากปากบางของหญิงสาวอย่างแสนเสียดาย แต่ไม่เป็นไรรอคุยกับเธอให้เข้าใจแล้วค่อยฟัดเธอให้หายคิดถึงก็ได้ มือหนาจับจูงมือบางให้เดินตามไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาวก่อนที่เขาจะทรุด
วงแขนอบอุ่นผละออกจากร่างระหงของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาทางพฤตินัยที่เขามาตามหาถึงเมืองนี้ เธอก้าวเดินไปตรงหน้าของมู่หลิน ก่อนที่จะออกคำสั่งให้สองบอดี้การ์ดซ้ายขวาของคุณชายซือให้ประคองเธอขึ้นมา เรื่องอะไรที่สองหนุ่มจะไม่ทำตามคำสั่งของว่าที่คุณนายซือ ทั้งต้าฉินและจางหลงเข้าไปประคองร่างอวบอัดของมู่หลินให้ยืนขึ้น สองเท้าเล็กก้าวเข้าไปใกล้ๆก่อนที่จะทำในสิ่งที่ทุกคนในแผนกไม่คาดคิด แม้แต่ไม่ไยดีอันเองก็ไม่คาดคิดว่าเด็กสาวตัวน้อยนั้นจะกล้าตบผู้หญิงที่ดูจัดจ้านกว่า “เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!” มือบางฟาดลงบนใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะอย่างสุดแรงถึงสามทีจึงหยุดมองก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยความพอใจท่ามกลางสีหน้าตกใจของสองบอดี้การ์ด พนักงานทุกคนที่กำลังมองดูเหตุการณ์หรือแม้กระทั่งซือมู่อันหริอแม้แต่หญิงสาวที่เพิ่งถูกกระทำเอง “เป็นไงคะ เวลาที่เราไม่มีทางสู้แล้วโดนกระทำอะไรแบบนี้ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง อย่าคิดว่าลูกน้องทุกคนที่เขายอมคุณเพราะเขารักหรือเคารพในตัวคุณ แต่เพราะเขากลัวที่จะมีปัญหากับคุณจนทำงานที่นี่ไม่ได้มากกว่า แต่ขอโทษนะคะ เพราะว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น!!” เสียงหว