หลังจากพิธานพูดคุยกับพ่อตาจบ คนตัวใหญ่ก็ขยับออกห่าง เขาปล่อยให้ดอกแก้วได้พูดคุยและทำความสะอาดเจดีย์เก็บเถ้ากระดูกของพ่อเงียบๆสุดท้าย... คนเราต่อให้เกิดมาแบบไหน เติบโตมาอย่างไร ยากดีมีจน หรือรวยล้นฟ้ามาจากไหน จุดสิ้นสุดของทุกๆ คนก็มีแค่นี้ไม่มีอะไรที่คงอยู่ได้ตลอดไป และไม่มีใครรู้ว่าช่วงชีวิตของคนเ
"คะ?""แต่งงาน... แต่งงานกับคุณพิธานได้ไหม?"“ค่ะ”“ค่ะอะไร?”“คุณพิธาน...” หญิงสาวโอดครวญเมื่อถูกแกล้งกลับ ใบหน้าแดงก่ำไม่รู้ว่าเพราะร้องไห้หรือเขินอายกันแน่“อยากได้คำตอบชัดๆ นี่นา...”“แต่งค่ะ!” ไม่รอให้พิธานทวงอีกรอบ ดอกแก้วรีบตอบออกไปเสียงดังฟังชัดจนแม้แต่คนที่ยืนอยู่ไกลๆ ก็ได้ยินชัดเจน ก่อนที่
หลังจากงานแต่งงานเล็กๆ จบลง ชาวบ้านต่างก็ช่วยกันเก็บข้าวของก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านตัวเองพิธานไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนได้แต่มองด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ ทุกคนที่มาร่วมงานมาแค่ตัวเปล่า ไม่มีการเอาเงินใส่ซองใดๆ เพราะแม่ดาวเรืองไม่ได้เรียกร้อง แต่เมื่องานจบทุกคนต่างก็ช่วยเจ้าภาพเก็บกวาดจนสถานที่จัดงาน
“ตามิ่ง แกล้งเด็ก!”“ไม่ได้แกล้งนะแม่ ฉันพูดความจริง คนเพิ่งแต่งงานกันก็แบบนี้ ตอนฉันแต่งกับแม่ฉันก็ซัดไข่ลวกตอนเช้าตั้งห้าฟองจำไม่ได้รึ?”“ตามิ่ง!”เสียงโห่แซวของชาวบ้านที่ได้ยินดังจนเมียของลุกมิ่งตีแขนผัวไปหลายที ก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่คนที่ได้ไข่ลวกก็ยังไม่เข้าใจ“ดอกแก้
โลกทั้งใบของพิธานเหมือนถล่มลงมา เมื่อเห็นว่าคนรักล้มลงไปต่อหน้าต่อตา แต่ตัวเองไปรับไว้ไม่ทันใช่... พิธานรับดอกแก้วไว้ไม่ทันแต่ยังโชคดีที่ตรงนี้เป็นสนามหญ้านุ่มๆ ไม่ใช่พื้นปูนร้อนๆ ที่อาจจะทำร้ายดอกแก้วไปมากกว่านี้ แต่ถึงอย่างนั้นพิธานก็ไม่รีรอ เขารีบช้อนร่างที่ไม่ได้สติขึ้นแนบอก“ดอกแก้ว!” เสียงกร
“ต้องพบคุณหมอก่อนค่ะ พยาบาลตอบอะไรไม่ได้” พยาบาลสาวพยายามส่งยิ้มให้พิธานเพื่อให้ญาติเบาใจ ก่อนจะหันไปรับคนไข้ที่มาใหม่ต่อพิธานได้แต่เก็บความกังวลที่มีไว้ในใจ เพียงไม่นานแด๊ดและแม่ดาวเรืองก็ตามเข้ามาสมทบ ทั้งคู่ถามถึงเรื่องของดอกแก้ว แต่พิธานยังไม่ได้ตอบอะไรเพราะยังไม่ได้พบหมอนั่งรอไม่ถึงห้านาทีดอก
สองเท้าเปลือยก้าวเข้ามาในห้องที่ถูกปิดตายไปหลายปี แม้จะถูกเรียกว่าห้องปิดตาย แต่ก็ไร้ซึ่งฝุ่นไรราวกับถูกดูแลอย่างดีอยู่ตลอดเวลาไฟกลางห้องเพียงดวงเดียวถูกเปิดจนสว่าง เผยให้เห็นห้องขนาดใหญ่ที่เคยเป็นห้องนอนของใครซักคนมาก่อน เตียงนอนหลังใหญ่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางห้อง ริมหน้าต่างที่ถูกปิดไว้มีโต๊ะเขียนหนั
ภายใต้รอยยิ้มที่เข้มแข็ง สายตาที่มุ่งมั่น และการทำงานที่ปราดเปรียว ดาวเรืองกลับซ่อนความอ่อนแอไว้มากมายจนประเมินค่าความเจ็บปวดไม่ได้ตั้งแต่โรงพยาบาลจนถึงบ้านดอกแก้วสังเกตว่าดาวเรืองเงียบผิดปกติ ต่างจากคนอื่นที่พูดคุยเรื่องเด็กน้อยที่อยู่ในท้องของเธอไม่หยุด และทันทีที่ถึงบ้าน แม่ก็ขอตัวแยกออกมาจากคนอ
.บ่าวสาวแยกย้ายกันอาบน้ำหลังจากผู้ใหญ่กลับออกไปหมดแล้ว ดอกแก้วที่อาบน้ำก่อนเป่าผมจนแห้งสนิท ก่อนจะปีนขึ้นเตียงและหยิบมือถือขึ้นมากดเล่น ดวงตากวางเบิกกว้างเมื่อเห็นรูปภาพบางอย่างที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นมาก่อน“เจ้น้ำ? แด๊ด?”มันเป็นรูปที่คนสองคนนั่งยิ้มให้กล้องท่ามกลางดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่ดูโรแมนติก เ
“เจ้ดีใจด้วยจริงๆ”“ฉันรู้” ดอกแก้วลูบหลังปลอบคนที่ร้องไห้เหมือนเด็กด้วยความเข้าใจ เพราะเจ้น้ำหวังดีกับเธอเสมอมา เธอจึงเข้าใจว่าทำไมพี่สาวถึงได้ปล่อยโฮออกมาแบบนี้ “ขอบคุณเจ้มากจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้... ดอกแก้วคงไม่ได้เจอคุณพิธาน”“ทุกอย่างมันคงถูกกำหนดไว้อยู่แล้ว” น้ำดันร่างของเจ้าสาวออกห่าง เธอเอ่
ฤกษ์ส่งตัวเข้าหอของพิธานกับดอกแก้วคือสองทุ่มตรง ที่จริงแล้วดาวเรืองหาฤกษ์ที่ดีกว่านี้ได้ แต่เพราะมันดึกเกินไปและพิธานไม่อยากให้คนท้องอ่อนๆ ต้องเข้านอนดึก เขาจึงขอแม่ยายให้หาฤกษ์ใหม่ให้เป็นช่วงหัวค่ำแทน ดังนั้นหลังจากพูดคุยบนเวทีเสร็จแขกที่มาร่วมงานก็ไม่ได้เห็นหน้าบ่าวสาวอีก รวมถึงเด็กๆ ทั้งสองก็มีพี
ส่วนคุณทิม เพื่อนสนิทของพิธานอีกหนึ่งคนก็หลงหลานๆ ไม่ต่างกัน ตอนนี้คุณทิมมีคนรักแล้ว ยังไม่ได้แต่งงานแต่ก็หมั้นกันไว้เรียบร้อย แต่นั่นก็แปลว่าคุณทิมยังปั๊มลูกไม่ได้แม้จะอยากมีใจจะขาด เพราะคุณจี แฟนสาวของคุณทิมขอไว้ว่าอยากทำงานต่ออีกซักหน่อยดอกแก้วมองตัวเองในกระจกแล้วยิ้มออกมา เธอไม่เคยคิดว่าชีวิตขอ
“ครับ แต่งงานที่บ้านของดอกแก้วเขา ไม่ได้จัดอะไรใหญ่โต แค่ผูกข้อไม้ข้อมือ จดทะเบียนสมรส ส่วนงานที่กรุงเทพฯ คราวแรกก็ตั้งใจจัดทันทีที่กลับมาจากเชียงใหม่ แต่ลูกชายมาอยู่ในท้องก่อนเลยต้องเลื่อนออกไป”“แบบนี้คุณดอกแก้วน้อยใจไหมคะ? เพราะเหมือนว่าคุณไม่ได้ถูกเปิดเผยเท่าไหร่ มีแต่ข่าวลือซึ่งไม่มีอะไรมายืนยั
เสียงเปิดประตูห้องน้ำเรียกสายตาจากคนบนเตียงให้หันไปมอง พิธานวางหนังสือที่อ่านอยู่ลง ก่อนจะเดินเข้าไปโอบกอดภรรยาที่ดูอ่อนล้ากว่าปกติหลวมๆ“เหนื่อยมากไหม?”ช่วงนี้เป็นช่วงเตรียมตัวสำหรับงานแต่ง และเพราะงานแต่งที่จะจัดขึ้นไม่ใช่งานเล็กๆ เหมือนที่เชียงใหม่ เพื่อหน้าตาของเจ้าของบริษัทอย่างพิธานจึงทำให้งา
“ดอกแก้วดุเหรอคะ?” หญิงสาวชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง เธอนี่นะดุ จับลูกแรงๆ ซักครั้งยังไม่เคย แค่บอกให้ไปกินข้าวก็แปลว่าเธอดุแล้วอย่างนั้นเหรอ?เธอไม่ได้ดุหรอก แต่พ่ออย่างคุณพิธานนั่นแหละที่ตามใจลูกมากไป“เปล่าจ้ะ” พิธานรีบเข้าไปกอดเอวบางไว้ เสียงทุ้มดัดลงให้เล็กกว่าปกติเพื่อออดอ้อน “ดอกแก้วของคุณพิธานไม่ดุ
จู่ๆ เสียงใสๆ ของลูกสาวก็ร้องขึ้น พิธานหน้าตึงแทบจะทันที ส่วนดอกแก้วก็ได้แต่ยิ้มขำและหันไปคุยกับลูกสาวตัวจ้อย“น้องแมทค่ะ น้องแมทเป็นน้องหนูนะลูก”“แมท!”“น้องดาวคะ-““แมทธิวเกิดหลังน้องดาวแค่ไม่กี่เดือนเอง ถือว่ารุ่นเดียวกันได้” คนเป็นปู่รีบช่วยหลานสาว สำหรับเขาไม่ได้รู้สึกว่าการเรียกชื่อกันเฉยๆ ขอ
สามปีต่อมา.“พี่ดล ไหนกระเป๋าที่คุณยายให้คับ?”“นี่คับ!”“น้องดาว ชุดที่คุณปู่ซื้อให้ไม่อึดอัดเกินไปใช่ไหมคะลูก?”“ม่ายค่า”“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นเราไปรอแด๊ดดี้กับคุณแม่ที่รถกัน”“เย้ๆ”เสียงเจี๊ยวจ๊าวของสองเด็กและสองผู้ใหญ่เงียบหายไป แทนที่ด้วยเสียงหัวเราะของคนเป็นพ่อและแม่ ดอกแก้วที่กำลังเก็บของชิ้น