“หรือเราจะปั๊มลูกรอตั้งแต่ตอนนี้เลยดี?”เสียงทุ้มกระซิบข้างหูก่อนที่ทั้งคู่จะล้มตัวลงนอน ดอกแก้วชะงักมือที่กำลังยกผ้าห่มขึ้น มองพิธานตาค้าง“คะ?”“ถ้าตรงนี้...” มือหนาวางลงบนหน้าท้องที่ยังแบนราบ ชวนให้ดอกแก้วหลุบตามองตามมือนั้นไปด้วย “มีลูกของเราอยู่ก็คงดี”“คุณพิธาน...” ดอกแก้วอดเรียกอีกฝ่ายให้กลับ
“ง้อยังไงดีน้า”ดอกแก้วจอมยั่วพูดออกมาเหมือนจะถามความเห็น สวนทางกับสะโพกอิ่มที่ยกขึ้นทาบทับความอวบใหญ่ไว้จนมันไม่สามารถดิ้นได้อีกต่อไป“ร้ายนัก” พิธานบีบก้นอวบแรงๆ ไปสองสามที ดอกแก้วก็เป็นงาน เธอส่งเสียงซี้ดเบาๆ กระตุ้นให้อารมณ์ของพิธานลุกโชนยิ่งกว่าเดิม“อื้อ”สะโพกกลมกลึงขยับไปมา เธอจงใจให้ดอกแก้ว
ดอกแก้วลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับความเมื่อยขบ ร่างกายเธอปวดร้าวเหมือนโดนรถเหยียบมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งยังอ่อนเพลียเพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ค่อนคืนเข้าไปแล้ว แต่ความเคยชินก็ปลุกให้เธอตื่นขึ้นมาตอนหกโมงตรงเหมือนทุกวันอยู่ดีแต่ดูเหมือนว่าเธอจะตื่นสายกว่าใครอีกคนที่นอนดึกไม่ต่างกัน ดอกแก้วฝืนร่างกายให้ล
“อืม” พิธานตอบในลำคอ ระหว่างที่ถอยหลังรถเพื่อออกสู่ถนนใหญ่ “ไปหาแม่ยาย แต่ทำตัวเป็นคุณชาย รถยังยอมไม่ขับเอง คุณแม่ยายคงไม่ปลื้ม”“แม่ยายอะไรกันคะ?”“อ้าว แม่ภรรยาไม่ได้เรียกว่าแม่ยายหรอกเหรอ? แล้วเรียกว่าอะไร แม่เขยหรือเปล่า ฉันก็ไม่ค่อยชินกับคำพวกนี้เสียด้วยสิ”“แม่ภรรยาเรียกว่าแม่ยายถูกแล้วค่ะ แต่
แม้จะพิธานจะรับรู้มาว่าที่นี่เป็นหมู่บ้านในอำเภอเล็กๆ แต่เขาก็ไม่คิดว่าหมู่บ้านนี้จะใหญ่ขนาดนี้ขับรถมาอีกกว่าสิบห้านาทีจากจุดที่เจอเด็กชายเอ็มเขาก็เจอกับตลาด ตลอดทางพิธานเห็นบ้านคนตั้งอยู่เรียงราย และที่ตลาดเริ่มมีผู้คนมาเปิดร้านรวงบ้างประปราย ทุกสายตาของชาวบ้านแทบจะมองมาที่รถเขาเป็นตาเดียว พิธานทำ
“สวย แต่สิ้นคิด”“ให้ผู้ชายกอดเอวจับสะโพกกลางห้าง ทั้งๆ ที่ผู้ชายเขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว”“หน้าไม่อายเลยจริงๆ”“ไม่น่าเลยดอกแก้วเอ้ย”หวานใจลอบยิ้มเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยของชาวบ้านที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อทำให้คนพวกนั้นเชื่อได้แล้ว เธอก็หันกลับมาที่ดาวเรืองอีกครั้ง“ทีนี้... เชื่อฉันหรือยัง
“แต่ผมขอบคุณคุณน้านะครับ ที่ส่งดอกแก้วไปอยู่ที่นั่น”“.....”“...จนทำให้ผมได้เจอกับเธอ”พูดจบ พิธานก็กลั้นหายใจ เขาเตรียมใจยอมรับความเจ็บถ้าหากแม่ของดอกแก้วจะตีเขาอีก แต่ผ่านไปหลายนาทีแล้วหลังของเขาก็ยังไม่ถูกฟาดอย่างที่คิดไว้“แม่จ๋า”ดอกแก้วกุมมือมารดาเอาไว้ เธอมองคนที่นั่งอยู่ที่พื้นด้วยความเป็นห
“ถ้าลูกเห็นสายตาของคนในหมู่บ้านที่มองมา ลูกจะไม่พูดแบบนี้”ดอกแก้วสะอึก แววตาของแม่เจ็บปวดจนบาดลึกเข้าไปในหัวใจของเธอด้วย เธอไม่เคยรับรู้ ไม่เคยสนใจว่าคนอื่นจะพูดถึงเธอแบบไหน แต่ไม่ใช่กับแม่ของเธอแม่เธอเป็นคนคิดมาก เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็เก็บมาคิดได้ เธอไม่อยากจินตนาการเลยว่าทุกครั้งที่ชาวบ้านมองมา แม
.บ่าวสาวแยกย้ายกันอาบน้ำหลังจากผู้ใหญ่กลับออกไปหมดแล้ว ดอกแก้วที่อาบน้ำก่อนเป่าผมจนแห้งสนิท ก่อนจะปีนขึ้นเตียงและหยิบมือถือขึ้นมากดเล่น ดวงตากวางเบิกกว้างเมื่อเห็นรูปภาพบางอย่างที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นมาก่อน“เจ้น้ำ? แด๊ด?”มันเป็นรูปที่คนสองคนนั่งยิ้มให้กล้องท่ามกลางดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่ดูโรแมนติก เ
“เจ้ดีใจด้วยจริงๆ”“ฉันรู้” ดอกแก้วลูบหลังปลอบคนที่ร้องไห้เหมือนเด็กด้วยความเข้าใจ เพราะเจ้น้ำหวังดีกับเธอเสมอมา เธอจึงเข้าใจว่าทำไมพี่สาวถึงได้ปล่อยโฮออกมาแบบนี้ “ขอบคุณเจ้มากจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้... ดอกแก้วคงไม่ได้เจอคุณพิธาน”“ทุกอย่างมันคงถูกกำหนดไว้อยู่แล้ว” น้ำดันร่างของเจ้าสาวออกห่าง เธอเอ่
ฤกษ์ส่งตัวเข้าหอของพิธานกับดอกแก้วคือสองทุ่มตรง ที่จริงแล้วดาวเรืองหาฤกษ์ที่ดีกว่านี้ได้ แต่เพราะมันดึกเกินไปและพิธานไม่อยากให้คนท้องอ่อนๆ ต้องเข้านอนดึก เขาจึงขอแม่ยายให้หาฤกษ์ใหม่ให้เป็นช่วงหัวค่ำแทน ดังนั้นหลังจากพูดคุยบนเวทีเสร็จแขกที่มาร่วมงานก็ไม่ได้เห็นหน้าบ่าวสาวอีก รวมถึงเด็กๆ ทั้งสองก็มีพี
ส่วนคุณทิม เพื่อนสนิทของพิธานอีกหนึ่งคนก็หลงหลานๆ ไม่ต่างกัน ตอนนี้คุณทิมมีคนรักแล้ว ยังไม่ได้แต่งงานแต่ก็หมั้นกันไว้เรียบร้อย แต่นั่นก็แปลว่าคุณทิมยังปั๊มลูกไม่ได้แม้จะอยากมีใจจะขาด เพราะคุณจี แฟนสาวของคุณทิมขอไว้ว่าอยากทำงานต่ออีกซักหน่อยดอกแก้วมองตัวเองในกระจกแล้วยิ้มออกมา เธอไม่เคยคิดว่าชีวิตขอ
“ครับ แต่งงานที่บ้านของดอกแก้วเขา ไม่ได้จัดอะไรใหญ่โต แค่ผูกข้อไม้ข้อมือ จดทะเบียนสมรส ส่วนงานที่กรุงเทพฯ คราวแรกก็ตั้งใจจัดทันทีที่กลับมาจากเชียงใหม่ แต่ลูกชายมาอยู่ในท้องก่อนเลยต้องเลื่อนออกไป”“แบบนี้คุณดอกแก้วน้อยใจไหมคะ? เพราะเหมือนว่าคุณไม่ได้ถูกเปิดเผยเท่าไหร่ มีแต่ข่าวลือซึ่งไม่มีอะไรมายืนยั
เสียงเปิดประตูห้องน้ำเรียกสายตาจากคนบนเตียงให้หันไปมอง พิธานวางหนังสือที่อ่านอยู่ลง ก่อนจะเดินเข้าไปโอบกอดภรรยาที่ดูอ่อนล้ากว่าปกติหลวมๆ“เหนื่อยมากไหม?”ช่วงนี้เป็นช่วงเตรียมตัวสำหรับงานแต่ง และเพราะงานแต่งที่จะจัดขึ้นไม่ใช่งานเล็กๆ เหมือนที่เชียงใหม่ เพื่อหน้าตาของเจ้าของบริษัทอย่างพิธานจึงทำให้งา
“ดอกแก้วดุเหรอคะ?” หญิงสาวชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง เธอนี่นะดุ จับลูกแรงๆ ซักครั้งยังไม่เคย แค่บอกให้ไปกินข้าวก็แปลว่าเธอดุแล้วอย่างนั้นเหรอ?เธอไม่ได้ดุหรอก แต่พ่ออย่างคุณพิธานนั่นแหละที่ตามใจลูกมากไป“เปล่าจ้ะ” พิธานรีบเข้าไปกอดเอวบางไว้ เสียงทุ้มดัดลงให้เล็กกว่าปกติเพื่อออดอ้อน “ดอกแก้วของคุณพิธานไม่ดุ
จู่ๆ เสียงใสๆ ของลูกสาวก็ร้องขึ้น พิธานหน้าตึงแทบจะทันที ส่วนดอกแก้วก็ได้แต่ยิ้มขำและหันไปคุยกับลูกสาวตัวจ้อย“น้องแมทค่ะ น้องแมทเป็นน้องหนูนะลูก”“แมท!”“น้องดาวคะ-““แมทธิวเกิดหลังน้องดาวแค่ไม่กี่เดือนเอง ถือว่ารุ่นเดียวกันได้” คนเป็นปู่รีบช่วยหลานสาว สำหรับเขาไม่ได้รู้สึกว่าการเรียกชื่อกันเฉยๆ ขอ
สามปีต่อมา.“พี่ดล ไหนกระเป๋าที่คุณยายให้คับ?”“นี่คับ!”“น้องดาว ชุดที่คุณปู่ซื้อให้ไม่อึดอัดเกินไปใช่ไหมคะลูก?”“ม่ายค่า”“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นเราไปรอแด๊ดดี้กับคุณแม่ที่รถกัน”“เย้ๆ”เสียงเจี๊ยวจ๊าวของสองเด็กและสองผู้ใหญ่เงียบหายไป แทนที่ด้วยเสียงหัวเราะของคนเป็นพ่อและแม่ ดอกแก้วที่กำลังเก็บของชิ้น