หลังจากวันนั้นทั้งสองคนก็ได้ปรับความเข้าใจกัน และก็ยังต้องแยกย้ายกันไปทำงานเหมือนเดิม เพราะเธอเชื่อใจและมั่นใจว่าธามจะไม่มีวันนอกใจนอกกายเธอไปมีคนอื่นเด็ดขาด"แม่...วันนี้หนูจะไปหาธามที่บริษัทนะ แม่มีอะไรก็บอกหม่ามันนะ ถ้าจะฝากซื้ออะไรก็ให้หม่ามันโทรหาหนูก็ได้""อือๆ ไปเถอะแม่ไม่อยากได้อะไรหรอก""จ้ะแม่" เหมียวหยิบกระเป๋าสะพายใบโปรดของตัวเองขึ้นมาจากนั้นก็เดินออกไปขึ้นรถแท็กซี่ที่หน้าปากซอยไม่นานเธอก็มาถึงยังบริษัทของธาม"สวัสดีค่ะ ธามอยู่ด้านบนใช่มั้ยคะ" เธอเดินเข้าไปถามพนักงานต้อนรับ เพราะถ้าเขายังไม่ว่างเธอก็จะยังไม่ไปรบกวน"ไม่นะคะ ท่านประธานเดินทางไปต่างประเทศได้ 2-3 วันแล้วนะคะ" พนักงานต้อนรับบอก"ไปต่างประเทศ?" เหมียวยืนขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาเดินทางไปต่างประเทศตั้งแต่เมื่อไหร่กันทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย"ใช่ค่ะ ท่านประธานไปพบผู้บริหารบริษัทที่ต่างประเทศน่ะค่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าท่านประธานจะกลับมาเมื่อไหร่""อ่อ ขอบคุณมากๆ นะคะ"เธอเดินกลับมาอย่างงงๆ เพราะอุตส่าห์ตั้งใจมาหาเขาแต่สุดท้ายก็เพิ่งจะมารู้ว่าเขาเดินทางไปต่างประเทศปึก!"โอ๊ะ! ขะ ขอโทษด้วยค่ะฉันเดินไม่ระวังเ
หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยโทรกลับไปหาธามอีกเลย เธอเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องไม่ออกไปกินอะไรไม่พูดคุยกับใครเลย ทั้งแม่และน้องชายเป็นห่วงเธอมากและก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร"พี่สาวของเราเป็นยังไงบ้างหม่า" ลูกหยีเดินเข้ามาในบ้านด้วยความร้อนใจ หลังจากที่รู้ว่าเหมียวเป็นอะไรก็ไม่รู้ไม่ยอมกินข้าวกินปลาไม่ยอมออกมาจากห้อง"ยังไม่ยอมออกมาจากห้องเลยครับ ไปเคาะประตูเรียกก็ไม่ตอบไม่รู้ว่าเป็นอะไร" หม่าตอบ"เดี๋ยวพี่ไปดูเอง เราไปดูแม่เถอะ""ครับพี่หยี"ลูกหยีเดินขึ้นไปด้านบนก่อนจะเคาะประตูห้องของเหมียว แต่ในห้องก็ยังคงเงียบกริบไม่มีเสียงตอบรับอะไรเลย"ฉันเองนะเหมียว มีเรื่องอะไรออกมาคุยกันได้มั้ย แม่กับน้องชายของแกเป็นห่วงแกมากนะที่เห็นแกเป็นแบบนี้""ฉันขออยู่คนเดียวได้มั้ยหยี ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อมจะออกไปหาใคร" เธอตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ลูกหยีที่ได้ยินแบบนั้นก็คิดว่าเหมียวต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ เธอถึงได้ร้องไห้จนน้ำเสียงสั่นขนาดนั้น"ก็ได้แต่แกก็กินอะไรบ้างสิ อย่าเงียบไปแบบนี้"".....""ฉันไม่กวนแกก็ได้ ฉันซื้อของมาให้อยู่หน้าประตูนะแล้วก็ออกมาเอา ดีขึ้นแล้วค่อยมาเล่าให้ฉันฟังก็ได้ว่าเป็นอะไร"ลูกหยีเ
@ผับ"ตกลงแกจะบอกได้หรือยังว่าเป็นอะไรทำไมถึงชวนฉันออกมาดื่ม" ลูกหยีเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง เพราะมาถึงได้เหมียวก็เอาแต่สั่งเครื่องดื่มมานั่งดื่มอย่างเดียวไม่พูดกับใครเลย".....""แกทะเลาะกับธามหรอ?""ไม่ได้ทะเลาะกัน แค่ไม่ยุ่งกันอีกแล้ว""หมายความว่ายังไง เกิดอะไรขึ้น?""ฉันเคยบอกแกไปแล้วไงสังคมของฉันกับธามไม่เหมือนกัน บางทีเราสองคนอาจจะไม่มีอะไรเหมาะสมกันเลยก็ได้ความรักของเราสองคนก็แค่ความรักของเด็กๆ ที่เพิ่งจะหัดมีความรัก ความจริงแล้วมันไม่ใช่ความรักอะไรหรอกก็แค่อารมณ์ชั่ววูบก็เท่านั้นแหละ""....." ลูกหยีนั่งฟังเพื่อนพูดอย่างตั้งใจ"ฉันพยายามเข้าหาเขา พยายามทำทุกอย่างที่จะทำให้ตัวเองเลิกคิดว่าไม่เหมาะสม แต่เหมือนฉันยิ่งพยายามมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งไปไกลมากเท่านั้น จนฉันรู้สึกเหนื่อยไม่อยากตามไม่อยากอะไรอีกแล้ว""มันต้องมีเรื่องมากกว่านั้นสิที่ทำให้แกคิดมากได้ขนาดนี้ ถ้าแกคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมแกคงไม่ถลำลึกกับธามมาจนขนาดนี้""อืม...ธามไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น" เธอพูดเสียงแผ่วพร้อมกับกระดกเหล้าในแก้วขึ้นรวดเดียวเป็นการย้อมใจ"ห๊ะ!? แล้วแกรู้ได้ยังไง""มันคงเป็นเซ้นส์ของผู้หญิงละมั้ง ฉันรู้สึ
ผับxxxเหมียวตัดสินใจทำงานตอนกลางคืนเพราะตอนกลางวันจะได้คอยดูแลแม่ อย่างน้อยก็มีน้องชายคอยดูแลผู้เป็นแม่ในตอนกลางคืนแทนเธอได้และหลังจากวันนั้นเธอก็ไม่เคยได้ติดต่อกับธามอีกเลย แต่ก็ไม่รู้ว่าทางนั้นติดต่อมาทางน้องชายของเธอบ้างหรือเปล่า แต่เธอตัดขาดทุกอย่างจากเขาแล้ว เธอเหนื่อยที่จะต้องวิ่งตามใครทั้งๆ ที่ตัวเองก็รู้ดีว่าไม่มีทางวิ่งตามทัน เธอฝืนตัวเองมาโดยตลอดและตอนนี้เธอไม่อยากฝืนตัวเองอีกต่อไปแล้วหมับ!"โอ้ย!?" จู่ๆ เหมียวก็ถูกใครบางคนดึงออกไปจากผับต่อหน้าต่อตาพนักงานที่กำลังทำงานกันอยู่ "ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะธาม!""ไหนคุยกันแล้วไงว่าเธอจะไม่ทำงาน!""นายเป็นบ้าไปแล้วหรอ ถ้าฉันไม่ทำงานแล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนใช้" เธอเถียงกลับ"ทำไมเธอถึงพูดไม่รู้เรื่อง!?""พูดอะไรของนาย?""ไหนเธอสัญญากับฉันแล้วไงว่าจะไม่มาทำงาน แล้วทำไมเธอถึงทำผิดสัญญา""แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย ฉันกับนายไม่ได้เป็นอะไรกันฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน!""ทำไมเธอถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้เหมียว""เหอะ! เปลี่ยนไปมากนั้นเหรอ?" เธอเค้นหัวเราะพร้อมกับมองหน้าธาม "ฉันว่าฉันควรจะถามคำถามนี้มากกว่านะ นายลองดูดีๆ ว่าใครกันแน่ที่เปลี่ย
วันต่อมาบ้านเหมียว"สวัสดีครับคุณน้า""สวัสดีลูก""นายมาทำไม?" เหมียวเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาในบ้านของเธอ"ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย""แต่ฉันไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับนาย!""ไปคุยกันก่อนเถอะลูก มีเรื่องอะไรมีปัญหาอะไรคุยกันให้จบคุยกันให้ดีๆ""....." เหมียวถอนหายใจอย่างแรง เพราะเธอไม่อยากให้ธามมายุ่งวุ่นวายอีกด้านนอก"มีเรื่องอะไรก็รีบๆ พูดมาฉันจะได้กลับไปดูแลแม่ต่อ""ฉันก็แค่จะมาพูดเรื่องนั้นกับเธอ""ฉันว่าฉันพูดชัดเจนจบไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ ทำไมนายถึงไม่จบอีก""เรื่องแค่นี้เธอโกรธฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันคิดว่าเธอแค่น้อยใจ เธอทำเหมือนกับฉันทำอะไรผิดมามากมายขนาดนั้น"".....""บอกฉันมาสิว่าฉันไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจอีก ถ้าเธอไม่บอกฉันก็ไม่รู้หรอกนะ""ฉันว่านายน่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจนะ ไม่ต้องให้ฉันคอยบอกอะไรหรอกมั้ง""แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ?""นายไปเอากับใครไว้ล่ะ!""ห๊ะ!? เอากับใคร? เธอพูดอะไรของเธอฉันไม่เข้าใจ""นายกับเลขาของนายมีอะไรกันแล้วไม่ใช่เหรอ?""เธอไปเอาข่าวบ้าพวกนี้มาจากไหน ฉันกับเลขาไม่เคยคิดอะไรกัน และก็ไม่คิดที่จะทำเรื่องแบบนั้นด้วย""ก็ผู้หญิงของนายเป็นคนบอกกับฉันเองทั้งวั
วันต่อมาที่บริษัทธามเดินเข้าไปในบริษัทตามปกติของเขา แต่สิ่งที่เขาตั้งใจจะทำวันนี้ไม่ใช่งาน สิ่งที่เขาตั้งใจจะทำในวันนี้ก็คืนไล่เลขาของตัวเองออก เพราะสิ่งที่เธอทำมันเกินหน้าที่ของคำว่าเลขาไปมาก และเขาก็ไม่ชอบคนที่มายุ่งวุ่นวายในเรื่องครอบครัวหรือเรื่องส่วนตัวของเขา"กล้องวงจรปิดในห้องทำงานของผมที่ให้หาเรียบร้อยใช่มั้ย""เรียบร้อยค่ะท่านประธาน" ผู้จัดการยื่นไฟล์คลิปที่คัดลอกมาจากกล้องวงจรปิดให้กับธามเขาต้องการหาหลักฐานว่าเลขาเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับของส่วนตัวของเขาจริงๆ และมันก็จะเป็นหลักฐานมัดตัวในการไล่เธอออก"ขอบใจ ไปทำงานกันต่อเถอะ""ค่ะท่านประธาน"เวลาต่อมาก๊อก ก๊อก ก๊อก"ขออนุญาตค่ะบอส ฉันเอากาแฟมาให้""....." เขามองหน้าเลขานิ่งๆ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป"มองหน้าพิมมีอะไรหรือเปล่าคะ?""....." เขาหยิบซองสีขาวยื่นให้กับเธอ ซึ่งด้านในเป็นเช็คเงินเดือนล่วงหน้า 3 เดือน และใบที่บ่งบอกว่าเธอพ้นสถานะจากการเป็นพนักงานที่นี่แล้ว"นะ นี่มันเรื่องอะไรกันคะ?""ฉันไม่ชอบคนที่เข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัว เธอน่าจะรู้ดีนะว่าเธอทำอะไรไว้บ้าง""ทะ ทำอะไรคะ พิมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ""ฉันก็คิดไว้แล้วว่าเธอจะต้อ
บ้านเหมียว"ฉันรู้ว่าเธอจะไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ถ้าไม่มีหลักฐานฉันได้หลักฐานมาให้เธอดูแล้วว่าฉันกับพิมเราไม่ได้มีอะไรกัน เธอก็แค่จะปั่นหัวให้เราสองคนทะเลาะกัน""แล้วยังไง?" เหมียวเอ่ยถามเสียงเรียบ ถึงจะมีหลักฐานมากมายแค่ไหนมันก็ไม่สามารถดึงความรู้สึกที่เสียไปแล้วของเธอกลับมาได้ เพราะเธอไม่ได้เสียความรู้สึกกับเขาแค่เรื่องเดียว"กลับมาดีกันเถอะนะตอนนี้ฉันไล่ผู้หญิงคนนั้นออกไปแล้ว ไม่มีใครกล้ายุ่งวุ่นวายกับเธออีกแล้วนะ""ไม่" เหมียวปฏิเสธกลับด้วยน้ำเสียงห้วนๆ"ฉันรู้ว่าฉันผิด แต่ตอนนี้ฉันพิสูจน์ตัวเองให้เธอเห็นแล้วว่าฉันไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีแบบนั้นเลย ฉันไม่เคยนอกใจเธอ ไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงคนไหนนอกจากเธอ ฉันรักเธอแค่คนเดียวนะเหมียว""นายกลับไปเถอะ แล้วอย่ามาที่บ้านของฉันอีก""เหมียว...""ฉันไม่อยากกลับไปจมอยู่กับความรู้สึกแบบเดิม ฉันเหนื่อยที่จะต้องพยายามทำอะไรให้มันถูกใจคนอื่น"".....""เพราะนายไม่เคยพยายามเหมือนฉันไงนายก็เลยไม่รู้ว่าความรู้สึกของคนที่พยายามมันเป็นยังไง นายลองพยายามทำเหมือนฉันดูสิ พยายามเข้าหาคนที่นายรักพยายามเข้าถึงตัวตนของเขาให้ได้มากที่สุด นายลองทำดูสิแล้วนายก็จะรู้สึกไม่
หลายวันผ่านไป"ฉันซื้อขนมมาฝาก ร้านที่เธอชอบกินประจำไง" ธามเดินเข้ามาในบ้านของเหมียวอย่างเงียบๆ ซึ่งเขาเห็นเธอกำลังนั่งเขียนอะไรอยู่คนเดียวตรงม้าหินอ่อนข้างบ้าน"ขอบใจ แต่เอาวางไว้ตรงนั้นแหละ ฉันไม่ว่างกิน" เธอตอบแต่ตายังคงจดจ่ออยู่กับหนังสือตรงหน้า"เธอทำอะไรอยู่เหรอ ดูหน้าตาเครียดเชียว""เรื่องของฉันน่า""อ่อ...""แล้วไม่ไปทำงานหรือไง ถึงได้มาวุ่นวายอยู่กับฉันที่นี่ได้""ไม่อะ วันนี้พักผ่อนก็เลยมาหาเธอที่บ้าน""....." ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะมีวันพักผ่อนเหมือนคนอื่นด้วย เพราะเห็นแต่ทำงานทุกวันเวลาว่างกินข้าวก็แทบจะไม่มี"ตอนเย็นเธอไปทำงานที่ผับอีกหรอ""อือ..""แล้วทำไมถึงไม่ไปนอนพักผ่อนล่ะ เดี๋ยวก็ไปทำงานไม่ไหวหรอก""ฉันชินแล้วแค่นี้ไม่เป็นอะไรหรอก"เธอชินกับการทำงานหนักและพักผ่อนน้อยแล้ว อาจจะเป็นเพราะร่างกายของเธอมันเริ่มปรับตัว"กินขนมมั้ย เดี๋ยวฉันเอาใส่ถ้วยให้""ไม่เป็นไรฉันยังไม่หิว""ขนมอันนี้ซื้อมาแล้วต้องกินเลยนะถ้าปล่อยไว้นานมันจะไม่อร่อยเอา""ถ้านายกลัวว่ามันจะไม่อร่อยนายก็กินเองสิฉันยังไม่ว่าง!" เธอหันไปตอบอย่างหงุดหงิด เพราะไม่ชอบให้เขามาเซ้าซี้แบบนี้"....." ธามลุกขึ้
หนึ่งปีต่อมาหลังจากที่เหมียวคลอดลูกคนที่สี่และพักฟื้นจนร่างกายหายเป็นปกติดีธามก็กลับไปทำงานที่บริษัทอีกครั้ง เพราะสามแฝดก็พูดรู้เรื่องบ้างแล้วและไม่ดื้อซนเหมือนตอนเด็กๆ เขาก็เลยสามารถกลับไปทำงานที่บริษัทได้ แต่ก็ต้องกลับมาก่อนเวลาเพื่อไปรับสามแฝดที่ศูนย์เด็กเล็ก เพราะเหมียวต้องคอยดูแลลูกน้อยอยู่ที่บ้าน จึงไม่สามารถไปรับลูกชายทั้งสามคนได้“แม่ค้าบ…มาแล้วค้าบ…” เสียงพี่ชายฝาแฝดคนโตดังมาแต่ไกลก่อนที่สามแฝดจะวิ่งแข่งกันเข้ามาในบ้านเสียงเอะอะดังลั่น“อย่าเสียงดังกันสิครับพี่ๆ น้องนอนหลับอยู่นะ”“ขอโทษครับ”“ลูกหลับไปนานแล้วหรอเหมียว”“เพิ่งหลับไปได้สักพักเอง วันนี้แกเป็นอะไรก็ไม่รู้งอแงทั้งวันเลย กว่าจะกล่อมให้นอนหลับได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน”“ฮันนี่ไม่สบายหรือเปล่าเหมียว”“ไม่รู้สิ แต่เท่าที่ดูแกก็ไม่ได้เป็นอะไรผิดปกติตรงไหนนะ ก็คงจะเหมือนพี่ชายของแกนั่นแหละตอนที่ยังอายุเท่ากันก็งอแงไม่แพ้กันแบบนี้เลย”“…..” ธามเดินไปดูลูกสาวที่นอนอยู่ในเปล “ลองพาไปหาหมอดูมั้ย เผื่อว่าแกจะไม่สบาย”“ตามใจสิ แต่แกนอนหลับอยู่ ขืนไปปลุกตอนนี้ได้อาละวาดเต็มบ้านแน่”“จริงด้วย”“นายพาสามแฝดไปอาบน้ำเปลี่ยนเส
5 เดือนต่อมา“ไหวเปล่าธาม…”“ไหวสิ แค่นี้เอง”เพราะตอนนี้เหมียวท้องใหญ่ขึ้นมากความรับผิดชอบในการเลี้ยงลูกก็เลยตกไปอยู่ที่ธามเพียงคนเดียว ไม่ว่าจะมีพี่เลี้ยงมากี่คนก็ไม่สามารถกำราบความดื้อของลูกชายทั้งสามคนได้เลยพวกแกทั้งดื้อซนและไม่เอาใครขนาดปู่กับย่าที่คิดว่าสามารถกำราบเด็กดื้อให้อยู่หมัดได้ก็ไม่สามารถเอาสามแฝดได้ลงเลย“เป็นไงบ้าง เจ้าตัวเล็กดื้อหรือเปล่า” ธามปล่อยสามแฝดไปวิ่งเล่นด้วยกัน ส่วนเขาก็มานั่งอยู่ข้างๆ ภรรยาพร้อมกับใช้มือลูบท้องของเธอไปมาอย่างอ่อนโยน ท้องนี้เธอได้ลูกสาวและก็คงจะสมใจคนเป็นพ่ออีกเช่นกัน เพราะธามอยากได้ลูกสาวเป็นลูกคนเล็กสุดท้องและก็คงไม่เอาอีกแล้ว เพราะเหนื่อยบวกกับกลัวว่าร่างกายของเหมียวจะรับไม่ไหวถ้าปล่อยให้ท้องติดๆ กันหลายครั้ง“ไม่ดื้อเลย น่ารักมาก” ท้องนี้เหมียวไม่มีอาการแพ้ท้องไม่มีอาการอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เธอกินได้ตามปกติไม่เหม็นหรือไม่รู้สึกอยากกินอะไรที่แปลกๆ อาหารของเธอก็กินเหมือนกับที่เคยกินทุกวัน“โตมาอย่าดื้อเหมือนพี่ๆ สามคนนะลูก หนูต้องเป็นเด็กดีคอยกำราบพี่ๆ นะ”“พูดอะไรแบบนั้น สามแฝดยังเด็กอยู่ก็ต้องดื้อเป็นธรรมดาตามประสาเด็ก เดี๋ยวพวกแกโตข
สามเดือนถัดมา“มีอะไรหรือเปล่าลูกหนูเหมียว”“นั่นสิ ทำไมถึงเรียกทุกคนมาเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ล่ะ มีเรื่องพิเศษอะไรหรอ?”พ่อกับแม่ของธามเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับมองหน้าของเหมียวด้วยความสงสัย“หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกทุกคนค่ะ หนูคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับทุกคนมาก” คำพูดของเธอทำให้ทุกคนขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย แล้วก็อยากรู้ว่าเป็นเรื่องอะไรที่เหมียวบอกว่ามันเป็นเรื่องสำคัญและน่าตื่นเต้นสำหรับพวกเขา“เหมียว…มันไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดใช่มั้ย” ธามถามขึ้น“อ่าห๊ะ…นายเข้าใจถูกแล้ว” เหมียวหันไปมองหน้าธามพร้อมกับยิ้มจนตาหยีสิ่งที่เขาเข้าใจมันถูกแล้ว เธอกำลังจะมีลูกให้กับเขาอีกคนนึง และเธอก็เพิ่งจะมารู้ตัวเมื่อเช้าเองเพราะรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกายตัวเอง ก็เลยลองซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจดูเอง แล้วก็พบกับข่าวดีว่าเธอกำลังมีลูกอีกคนไม่คิดว่ามันจะติดง่ายขนาดนี้ เพราะเธอกับธามมีอะไรกันแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวเอง และก็ป้องกันอย่างดีด้วย“ต๊าย…นี่แม่กำลังจะได้หลานอีกคนแล้วเหรอเนี่ย คราวนี้จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายอีกนะ หรือจะได้แฝดอีก”“โอ้วว…ผมขอเป็นลมก่อนนะครับคุณแม่”ธามถึงกับแข้ง
หนึ่งปีถัดมา“เหมียวจ๋า…” ธามเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเปล่งน้ำเสียงอ่อยภรรยาสาวที่กำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง“ว่าไงหืม…คอแห้งเหรอคะ”“ครับ คอแห้ง อดอยากมานานแล้ว ไม่ทราบว่าคุณภรรยาจะใจดีหรือเปล่า”“แหม…ให้ฉันนับหน้าเจ็ดหลังเจ็ดขนาดนั้น คงไม่ต้องถามแล้วละมั้งว่าฉันอนุญาตมั้ย”“แหะๆ ฉันยังไม่อยากให้มีตอนนี้อ่ะดิ เข็ดกับสามแฝดมากเลย”ร่างหนาค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ๆ ภรรยาแล้วคลานขึ้นไปหาเธอบนเตียง พร้อมกับหยิบถุงยางที่ใส่ไว้ในลิ้นชักออกมาสองสามชิ้น เป็นถุงยางที่เขาซื้อมาไว้ตั้งแต่คบกับเธอแรกๆ จนถึงตอนนี้มันก็ยังอยู่ที่เดิม ถ้าไม่ได้ใช้ก็ไม่เคยเอาออกไปไหน“นับหน้าเจ็ดหลังเจ็ดยังไม่พอ ต้องป้องกันด้วย รอให้สามแฝดโตกว่านี้อีกนิดเราค่อยมีลูกคนที่สี่กันเนอะ”“สามคนก็พอแล้วมั้ง”“ขอลูกผู้หญิงคนสุดท้ายอีกคนนะ แต่รอให้สามแฝดก่อนก็แล้วกัน”“ตามใจ”ชุดนอนที่เหมียวใส่มันเป็นเพียงชุดนอนกระโปรงผ้าลาตินห์บางๆ และแทบจะไม่ต้องถอดชุดเลยกึด~“อึ๊…ธะ ธามมันแสบจัง อยะ อย่าดันลึกได้มั้ย”“มันคับอะ แน่นด้วย ยัดไม่เข้าเลย”เพราะทั้งสองคนห่างหายจากเรื่องอย่างว่ามานาน นี่เป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่ทั้งสองเพิ่งจะมี
8 เดือนต่อมา“ธามลูกร้องเสียงดังนายไม่ได้ยินหรอ” เหมียวเดินเข้ามาในบ้านเพราะได้ยินลูกร้องเสียงดัง ขณะที่เธอกำลังตากผ้าของพวกแกอยู่หลังบ้าน“อือ…ฉันพึ่งได้นอนเองนะ เมื่อคืนทั้งคืนก็ไม่ได้นอนเลย” ธามตอบอึมอำ ดีนะที่ฝาแฝดที่เหลือไม่ได้ตื่นเพราะเสียงร้องด้วย“เดี๋ยวฉันดูลูกเองนายนอนไปเถอะ”“อ่า…โอเค ฝากแป๊บนึงนะ”จากนั้นธามก็นอนหลับไปอีกทันที ช่วงนี้เขาเหนื่อยกับสามแฝดมากเพราะพวกแกไม่เอาใครเลยนอกจากธามคนเดียว แม้กระทั่งเหมียวที่เป็นแม่ อาจจะเป็นเพราะธามเลี้ยงและดูแลพวกแกมาตั้งแต่เด็กๆ จนถึงปัจจุบันก็เลยติดพ่อมากกว่าแม่“จุๆ เล่นอยู่กับแม่นะครับให้พ่อนอนหลับนะ” เธอพาลูกชายคนเล็กที่ตื่นก่อนเพื่อนออกมานั่งเล่นที่สนามหญ้านอกบ้าน ขณะที่เธอกำลังตากผ้าอยู่กับแม่บ้าน เพื่อไม่ให้รบกวนพี่ชายฝาแฝดทั้งสองคนที่กำลังนอนหลับอยู่“คุณหนูตื่นเร็วจังเลยนะคะ ป้าเห็นว่าเพิ่งจะหลับไปเอง”“คนนี้นอนหลับแป๊บเดียวเองค่ะป้า ไม่เหมือนพี่ชายของเขา แต่ถ้าตื่นมาพร้อมกันก็พากันวุ่นวายจนไม่ได้ทำอะไร”“ธรรมดาของเด็กวัยกำลังอยากรู้อยากเห็นค่ะ”เหมียวปล่อยลูกให้คลานเล่นไปบนพื้นสนามหญ้า ส่วนเธอก็รีบไปช่วยแม่บ้านตากผ้าต่อ มั
สองเดือนถัดมาธามแทบจะไม่ได้กลับไปทำงานที่บริษัทเลย เพราะต้องคอยช่วยเหมียวดูแลลูกๆ ถึงจะมีพี่เลี้ยง มีแม่บ้าน แต่เขาก็ไม่ได้ไว้ใจให้ใครดูแลมากนัก และเหมียวเองก็ยังไม่หายดี เธอยังทำอะไรไม่ได้มากทุกอย่างเลยตกไปอยู่ที่เขาคนเดียว การเลี้ยงลูกน้อยแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และบวกกความเหนื่อยไปอีกคูณสามงานไม่ได้ทำวันๆ ยุ่งอยู่กับลูกแฝดสามของตัวเอง“อึกแง้ แง้ แง้” เสียงแฝดคนกลางร้องออกมาลั่นบ้าน จากนั้นแฝดอีกสองคนก็พากันร้องออกมาตามๆ กันมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะให้แฝดทั้งสามคนนอนหลับพร้อมกัน เพราะถ้าคนใดคนหนึ่งร้องขึ้นมาคนที่เหลือก็จะร้องตามทันที ทำเอาคนเป็นพ่อถึงกับหัวหมุนเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าจะโอ๋คนไหนก่อน“แอ้ แอ้ แอ้”“ง้าก ง้าก ง้าก”“โอ๋ๆ ใจเย็นๆ กันก่อนนะลูก พ่อไม่รู้จะโอ๋คนไหนแล้วเนี่ย”“มีอะไรหรือเปล่าธาม ทำไมสามแฝดถึงพากันร้องดังแบบนี้ล่ะ” เหมียวที่นอนอยู่ไฟอยู่ด้านนอก เข้ามาดูด้วยความสงสัยเพราะได้ยินเสียงลูกชายสามคนร้องดังไปถึงนอกบ้าน“เหมือนเดิมแหละ ร้องคนนึงคนที่เหลือก็พากันร้องตาม” ธามตอบ“มาเดี๋ยวฉันช่วย”“ไม่ต้องๆ เธอไม่ต้องทำอะไรหรอกเดี๋ยวจะเจ็บแผลเอา ไปนอนพักเถอะเดี๋ยวฉ
8 เดือนต่อมาเหมียวต้องผ่าคลอดเพราะเธอไม่สามารถคลอดเองได้ และเพื่อลูกเธอก็พร้อมที่จะยอมเจ็บ ส่วนธามก็คอยให้กำลังใจอยู่ใกล้ๆ กับเธอตลอดเวลาขณะที่คุณหมอกำลังทำการผ่าคลอดธามก็พยายามชวนคุยเพื่อไม่ให้เธอรู้สึกวิตกกังวล ทำใจให้สบายระหว่างที่คุณหมอกำลังทำการผ่าตัดคลอดลูกชายทั้ง สามคนของเธอและไม่นานก็ได้ยินเสียงเด็กร้องระงมอยู่ในห้องคลอด"ทารกทั้งสามคนปลอดภัยแข็งแรงสมบูรณ์ดีนะครับ""ผู้ชายทั้งหมดเลยใช่หรือเปล่าครับ?""ครับ ผู้ชายทั้งหมดเลย""....." ถึงจะเก่งมากแค่ไหนแต่เรื่องแบบนี้ก็ทำให้ผู้ชายเข้มแข็งอย่างธามมีน้ำตาได้เหมือนกัน มันเป็นน้ำตาที่เต็มไปด้วยความดีใจ และไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำพูดได้"เดี๋ยวทางหมอจะเย็บแผลให้กับคุณแม่ก่อนนะครับแล้วถึงจะพาออกไประหว่างนี้คุณพ่อออกไปรอด้านนอกก็ได้ครับ""ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่ได้ผมอยากอยู่ข้างๆ เธอ""ได้ครับ"ธามไม่อยากปล่อยให้เหมียวนอนอยู่คนเดียว ไม่อยากให้เธอคิดว่าตัวเธอเหลืออยู่คนเดียว เวลานี้เป็นเวลาที่ผู้หญิงต้องการผู้ชายมากที่สุดคือมีคนรักคอยอยู่ข้างๆ ตอนที่เธอกำลังเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดสุดชีวิต แต่ก็เป็นความเจ็บปวดที่แลกมาด้วยความรักเวลาผ่านไป
@โรงพยาบาล"นี่นายจะพาฉันมาโรงพยาบาลทำไมเนี่ย ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่อยากมาโรงพยาบาล คนมันเยอะฉันไม่ชอบ""เอาหน่ามากับฉันแป๊บเดียวเอง เดี๋ยวพาแวะซื้อมะม่วงเปรี้ยวๆ อีก""จริงนะ""อืม.."อารมณ์ของเธอเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันทีเมื่อธามยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจให้กับเธอ"เธอไปนั่งรอก่อนก็ได้นะเดี๋ยวฉันไปจองคิวแป๊บนึง""อือ.."ธามเดินไปที่หน้าเคาน์เตอร์เพื่อที่จะรับบัตรคิวและเข้าตรวจร่างกาย"สวัสดีค่ะไม่ทราบว่าเป็นอะไรมาคะ""ผมไม่ได้เป็นหรอกครับ คนที่เป็นคือภรรยาของผมต่างหาก พอดีว่าช่วงนี้เธออารมณ์แปรปรวนบ่อยนะครับ แล้วก็กินแต่ของเปรี้ยวๆ ครับ ผมก็เลยจะมาตรวจร่างกายของเธอกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร""อ๋อ...ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรหรอกค่ะ เป็นเรื่องปกติของครอบครัวอยู่แล้ว""ครับ?" ธามทำหน้างง"นี่บัตรคิวค่ะ ห้องตรวจอยู่ทางซ้ายมือนะคะ นั่งรอเรียกชื่อแล้วเข้าห้องตรวจได้เลยค่ะ""อ๋อ...ขอบคุณมากครับ"เขาพาเหมียวไปนั่งรออยู่ที่ห้องตามที่พยาบาลบอก"นายพาฉันมาตรวจร่างกายทำไม ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย""ก็ไอ้ที่เธอเป็นอยู่นี่แหละมันแปลก ฉันก็เลยต้องพาเธอมาหาหมอตรวจร่างกายสักหน่อย เผื่อว่าเป็นอะไรขึ้นมาจะไ
หกเดือนต่อมา"นี่ธาม! ทำไมนายถึงใส่กระเทียมมาในนี้ล่ะ ฉันไม่ชอบกลิ่นกระเทียมเลยนะมันเหม็น!" เหมียวหันไปโวยวายใส่ เพราะได้กลิ่นกระเทียมที่ธามใส่มาในอาหารของเธอแล้วรู้สึกเหม็นจนหงุดหงิด"เธอชอบกินกระเทียมไม่ใช่หรอ ฉันก็ใส่ให้ตามปกติเหมือนที่เธอเคยกินไง""แต่ตอนนี้ฉันเหม็น เอามันออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!""อ่าๆ โอเคๆ เอาออกไปเดี๋ยวนี้แหละ" ธามยกจานอาหารของเหมียวออกไปอย่างงงๆ เมื่อจู่ๆ เธอก็อารมณ์เสียใส่เขาทั้งๆ ที่เรื่องมันก็แค่นี้เอง อีกอย่างเหมียวก็ชอบกินกระเทียมอยู่แล้วด้วยไม่ว่าจะเป็นกระเทียมชนิดไหนเธอก็ชอบกินหมด"แล้วเธอจะกินอะไร ฉันจะได้ทำให้""อยากกินมะม่วงเปรี้ยวๆ" เธอตอบ"แต่นี่มันดึกแล้วนะ เธอจะไปหาซื้อที่ไหนได้ล่ะ ไม่มีร้านผลไม้ที่ไหนเปิดอีกแล้วนะ""ก็ฉันอยากกินอะ นายถามฉันเองว่าฉันอยากกินอะไร พอฉันบอกว่าอยากกินมะม่วงเปรี้ยวๆ นายก็มาพูดแบบนี้ แล้วจะมาถามทำไมว่าฉันอยากกินอะไร!" เธอหันไปพูดกับธามด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด"ก็ถ้าเธออยากกินอย่างอื่นฉันก็จะได้ขับรถออกไปที่ร้านสะดวกซื้อให้ไง แต่ร้านสะดวกซื้อมันไม่มีผลไม้สดขายนะ กินอย่างอื่นไปก่อนได้มั้ยเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะออกไปซื้อให้แต่เช้