ปึก! ปึก! ปึก!ร่างหนาถาโถมแก่นกายใหญ่เข้าร่องแคบอย่างรัวๆ พร้อมกับใช้ไม้ตีที่ก้นของเธอเป็นจังหวะ จนก้นสีขาวเนียนแดงเถือกไปหมด"อ๊ะอ๊ะอ๊า ธะ ธามอย่าตีสิ ฉันเจ็บ!" เธออยากจะขัดขืนเพราะตัวเองเจ็บ แต่ก็ถูกพันธนาการไว้ทำให้ไม่สามารถขัดขืนได้เลย"อืม....อ่าาส์...." เขาได้แต่เปล่งเสียงครางพร้อมกับกระแทกเอวอย่างแรงๆ ไม่ได้ฟังสิ่งที่เธอกำลังร้องขอเลยแม้แต่น้อยหางแมวของเธอมันสั่นกระเทือนทุกครั้งที่ถูกเขากระแทก บวกกับความรู้สึกอีกแบบที่มีสิ่งนั้นอยู่ในร่องก้นของเธอมันไม่ได้เจ็บแต่เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มันรู้สึกดีมากจริงๆ และก็รู้สึกเจ็บที่ถูกธามตี"อ๊าา...อร๊างอร๊ายย!! ธาม..." เธอสั่นเกร็งพร้อมกับปล่อยน้ำบางอย่างไหลพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วจนเลอะเต็มโซฟา"เสียวขนาดนั้นเลยเหรอ หืม.." ธามยกขาของเธอขึ้นพาดกับขอบโซฟาด้านข้าง ก่อนจะยึดสะโพกของเธอไว้แน่นแล้วกระแทกอย่างรัวๆ จนร่างเล็กสั่นสะท้านไปทั้งตัวตับ! ตับ! ตับ!"อื้ออ....ธาม...อ๊าอร๊างง!!""ครางแบบนี้อยากโดนเอาจนเดินไม่ได้เหรอ?""ฉะ ฉันเสียว....จะเสร็จอื้ม!""ก็เสร็จสิ แต่ฉันยังไม่เสร็จ ก็ยังไม่หยุดอยู่ดี" เขากระแทกอย่างรัวๆ จนรู้สึกได้ว่าภ
สามปีต่อมาธามเข้ามาทำงานที่บริษัทเต็มตัวแล้วแต่เหมียวไม่ได้มาทำงานด้วย เพราะต้องคอยดูแลแม่ที่ไม่ค่อยสบาย ก็เลยจะแวะมาหาธามบ้างทุกครั้งที่มีเวลาว่าง และไม่ค่อยได้ติดต่อกันเพราะต่างคนก็ต่างทำงานของตัวเองก๊อก ก๊อก ก๊อก"ขออนุญาตค่ะบอส""เชิญ""เอาน้ำส้มเย็นๆ มาส่งค่ะบอส" เลขาสาวเดินตรงเข้ามาหาพร้อมกับวางแก้วน้ำส้มลงตรงหน้าของเขา เธอก้มโค้งจนเสื้อห้อยลงมาติดโต๊ะ เห็นลึกเข้าไปจนถึงบราสีแดงสดด้านในชุดที่ใส่เป็นชุดเดรสสั้นๆ และรัดมากส่วนเสื้อก็คอกว้างจนก้มแล้วเห็นเครื่องในหมด"ขอบใจเอาวางไว้ตรงนั้นแหละเดี๋ยวฉันกินเอง""บอสเหงาหรือเปล่าคะ อยากได้คนช่วยคลายเหงาหรือเปล่า""ไม่" เขาตอบแต่ตาที่ยังจับจ้องอยู่ที่เอกสารตรงหน้า"ฉันเห็นบอสนั่งหน้าเครียดทำงานทุกวันเลย อยากให้ช่วยคลายเหงาก็เรียกฉันได้เลยนะคะ ฉันทำได้ทุกอย่างเลย" เธอพูดพร้อมกับส่งสายตายั่วยวนไปให้คนตรงหน้า แต่สิ่งที่ได้ตอบรับคือความนิ่งเฉยไม่สนใจและก็ไม่ได้หลงใหลกับสิ่งยั่วยวนตรงหน้าด้วย"กลับไปทำงานของคุณเถอะ มีหน้าที่อะไรก็ทำไป ส่วนอะไรที่มันไม่ใช่หน้าที่ก็ไม่ต้องทำ""ค่ะบอส"เธอเดินหันหลังออกไปด้วยอารมณ์ที่ค่อยไม่ดีเท่าไหร่ เพราะเ
วันต่อมา"สวัสดีค่ะบอส" หญิงสาวกล่าวทักทายตามปกติพร้อมกับวางแก้วกาแฟลงตรงหน้าของประธานหนุ่ม แต่เขาก็ยังทำเฉยเมยไม่ได้สนใจอยู่ดีชุดในวันทำงานของเธอก็เหมือนกันทุกๆ วัน ชุดเดรสสั้นและรัดสัดส่วน"บอสต้องการอะไรเพิ่มหรือเปล่าคะ?""ไม่ล่ะ""ค่ะ ถ้าบอสอยากได้อะไรเพิ่มก็แยกฉันได้ตลอดเวลาเลยนะคะ""....." ธามนั่งทำงานเงียบๆ เขาได้ยินทุกคำพูดของหญิงสาว แต่เขาตั้งใจที่จะไม่ตอบอาจจะเป็นเพราะบุคลิกภายนอกที่ดูเย็นชาไม่ค่อยสนใจคนรอบข้าง ซึ่งถ้าใครไม่รู้จักดีก็อาจจะคิดว่าผู้ชายคนนี้หยิ่งและการกระทำของเขามันก็ปกติเหมือนเดิมในทุกๆ วัน จะคุยเล่นสนุกด้วยเฉพาะคนที่สนิทและคนในครอบครัวเท่านั้นครืด ครืด ครืด>ธามมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์พร้อมกับทำท่าจะเลื่อนมือไปหยิบโทรศัพท์มา แต่แล้วก็มีงานเข้าซะก่อน"แย่แล้วค่ะท่านประธาน โรงงานของเรามีปัญหาค่ะ" ผู้จัดการเดินเข้ามาบอกด้วยท่าทางที่เร่งรีบและตกใจ"มีปัญหาอะไร!?""ถังผลิตมีสารเคมีรั่วไหลค่ะ""....." ธามรีบลุกเดินออกจากห้องไปทันทีโดยที่ลืมไปเลยว่าเขากำลังจะรับโทรศัพท์คนรัก แต่แล้วมันก็มีงานด่วนเข้ามาทำให้เขาต้องไปสนใจกับงานก่อนโทรศัพท์
@บริษัทธาม"สวัสดีค่ะไม่ทราบว่ามาติดต่อเรื่องอะไรคะ?" พนักงานฝ่ายบริการเอ่ยถามเหมียว ขณะที่เธอกำลังยืนหันมองซ้ายขวาอยู่เหมือนกับว่ากำลังคิดว่าจะไปทางไหนดี เธอเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรก"มาหาธามค่ะ""ใครคือธามหรอคะ เขาทำงานอยู่ที่นี่หรอ?" พนักงานถามกลับอย่างงงๆ น้อยคนที่จะรู้จักชื่อเล่นของธามในที่นี่ ส่วนใหญ่จะรู้จักในชื่อเต็มๆ และเรียกกันว่าท่านประธานมากกว่า"คนนี้ค่ะ" เธอเปิดรูปที่ถ่ายคู่กับธามให้พนักงานดู พนักงานสาวถึงกับหน้าเหวอไปเลย "พอจะทราบมั้ยคะว่าจะไปหาเขาได้ที่ไหน""ท่านประธานทำงานอยู่ชั้นบนสุดเลยค่ะขึ้นลิฟท์ไปได้เลย ให้แจ้งท่านประธานก่อนไหมคะว่ามีคนมาหา""ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ"เหมียวรีบเดินตรงไปขึ้นลิฟท์ตามที่พนักงานบอกทันที ไม่นานลิฟท์ก็เปิดออกด้านหน้าเธอมีเพียงความว่างเปล่าไม่พบใครเลย ทั้งๆ ที่มีโต๊ะทำงานอยู่ที่หน้าห้องแกร้ก!เธอเปิดประตูเข้าไปเพราะคิดว่าทำคงทำงานอยู่ด้านในและอยากจะเซอร์ไพรส์เขาเพราะนานๆ ครั้งจะได้เจอกันสักทีทว่าภาพตรงหน้าทำเอาเธอเซอร์ไพรส์มากกว่า เพราะธามกับผู้หญิงอีกคนกำลังยืนอยู่ใกล้ๆ กัน แถมธามก็ถอดเสื้อตัวนอกออกด้วยเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวด้า
หลายวันผ่านไปจากนั้นเธอก็ไม่เคยโทรไปหาธามอีกเลย เธอกลัวว่าโทรไปแล้วจะมีคนอื่นรับอีก ความรู้สึกของเธอในตอนนี้มันกลัวไปหมดกลัวอย่างบอกไม่ถูก และมันก็ไม่แปลกที่เธอจะระแวงเขา"เป็นอะไรวะ ทำไมถึงนัดมาที่นี่ได้" ลูกหยีเอ่ยถามขึ้น เมื่อเหมียวโทรเรียกให้มาเจอกันที่ผับเธอแค่อยากหาคนที่ให้คำปรึกษากับเธอได้ คนที่เข้าใจความรู้สึกของเธอจริงๆ"ฉันไม่รู้จักพูดปรึกษากับใครดี""เรื่องอะไร?" ลูกหยีถาม"ฉันกับธาม""เกิดอะไรขึ้น?""ไม่รู้สิ ตอนนี้ฉันรู้สึกระแวงไปหมดเลย เราสองคนห่างกันมาได้สักพักแล้วไม่ค่อยได้ติดต่อกันไม่ค่อยได้ไปหากัน ฉันเองก็ต้องคอยดูแลแม่ ส่วนเขาก็ต้องทำงาน""แล้วแกระแวงเรื่องอะไร?""หลายวันก่อนฉันโทรไปแล้วมีผู้หญิงรับสาย หลังจากวันนั้นฉันก็พยายามโทรไปอีกแต่เขาก็ไม่ยอมรับสายเลย เมื่อวานก่อนฉันไปหาเขาที่บริษัทเจอเขากับผู้หญิงคนนั้นอยู่ในห้องด้วยกัน..." เริ่มเล่าถึงเหตุการณ์ที่มันเปลี่ยนแปลงให้กับเพื่อนสนิทฟัง"เฮ้ย!?""ฉันไว้ใจธามนะแต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันฉันถึงต้องมาระแวงเขาแบบนี้""เหมียว...""ฉันแค่อยากให้แกเป็นที่ปรึกษาให้ ฉันไม่รู้ว่าฉันควรทำยังไงต่อดี""ทำไมแกถึงไม่บอกธามไปตรงๆ
เวลาผ่านไปอีกเรื่อยๆ"เหมียว..." เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของหญิงสาวขณะที่เธอกำลังยืนเช็ดโต๊ะอยู่ ทำให้เธอหยุดชะงักและค่อยๆ หันกลับไปมองและก็พบว่าธามยืนอยู่ข้างหลังเธอพร้อมกับผู้หญิงคนนั้น"มีอะไร?""เธอมาทำงานที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?""สักพักแล้ว""ทำไมเธอถึงมาทำงาน เงินที่ฉันให้ทุกเดือนมันไม่พอหรอ?"".....""เหมียว""นายเคยสนใจด้วยหรอว่าฉันจะไปไหนทำอะไรกับใคร ฉันก็เห็นนายสนใจอยู่กับงานของตัวเองอย่างเดียว" เธอพูดพร้อมกับหันหลังกลับไปเช็ดโต๊ะเหมือนเดิม"อย่าประชดกันแบบนี้สิเหมียว เธอก็รู้ว่าฉันต้องทำงาน""ฉันก็ต้องทำงานเหมือนกันอย่ามารบกวนเวลางานของฉัน""ทำไมเธอ...ถึงดูห่างเหินกับฉันจัง""....." เธอหัวเราะเบาๆ โดยที่ไม่ให้เขาได้ยิน ความจริงเธออยากจะพูดออกไปแล้วด้วยซ้ำว่าใครกันแน่ที่ทำตัวห่างเหิน เธอพยายามเข้าหาเข้าถึงเขาตลอด จะมีก็แต่เขาที่พยายามทำตัวออกห่างจากเธอ"กลับบ้านไม่ต้องทำงาน เดี๋ยวฉันจะให้เงินเดือนเธอเพิ่มเอง""ฉันจะทำงาน""เธออยากได้เท่าไหร่เงินเดือนของเธอ แลกกับการที่เธอไม่ต้องมาทำงานที่นี่ฉันจะให้เธอเอง" เสียงของธามทำให้คนที่อยู่รอบๆ เริ่มหันมามองและให้ความสนใจ แต
หลังจากวันนั้นทั้งสองคนก็ได้ปรับความเข้าใจกัน และก็ยังต้องแยกย้ายกันไปทำงานเหมือนเดิม เพราะเธอเชื่อใจและมั่นใจว่าธามจะไม่มีวันนอกใจนอกกายเธอไปมีคนอื่นเด็ดขาด"แม่...วันนี้หนูจะไปหาธามที่บริษัทนะ แม่มีอะไรก็บอกหม่ามันนะ ถ้าจะฝากซื้ออะไรก็ให้หม่ามันโทรหาหนูก็ได้""อือๆ ไปเถอะแม่ไม่อยากได้อะไรหรอก""จ้ะแม่" เหมียวหยิบกระเป๋าสะพายใบโปรดของตัวเองขึ้นมาจากนั้นก็เดินออกไปขึ้นรถแท็กซี่ที่หน้าปากซอยไม่นานเธอก็มาถึงยังบริษัทของธาม"สวัสดีค่ะ ธามอยู่ด้านบนใช่มั้ยคะ" เธอเดินเข้าไปถามพนักงานต้อนรับ เพราะถ้าเขายังไม่ว่างเธอก็จะยังไม่ไปรบกวน"ไม่นะคะ ท่านประธานเดินทางไปต่างประเทศได้ 2-3 วันแล้วนะคะ" พนักงานต้อนรับบอก"ไปต่างประเทศ?" เหมียวยืนขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาเดินทางไปต่างประเทศตั้งแต่เมื่อไหร่กันทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย"ใช่ค่ะ ท่านประธานไปพบผู้บริหารบริษัทที่ต่างประเทศน่ะค่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าท่านประธานจะกลับมาเมื่อไหร่""อ่อ ขอบคุณมากๆ นะคะ"เธอเดินกลับมาอย่างงงๆ เพราะอุตส่าห์ตั้งใจมาหาเขาแต่สุดท้ายก็เพิ่งจะมารู้ว่าเขาเดินทางไปต่างประเทศปึก!"โอ๊ะ! ขะ ขอโทษด้วยค่ะฉันเดินไม่ระวังเ
หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยโทรกลับไปหาธามอีกเลย เธอเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องไม่ออกไปกินอะไรไม่พูดคุยกับใครเลย ทั้งแม่และน้องชายเป็นห่วงเธอมากและก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร"พี่สาวของเราเป็นยังไงบ้างหม่า" ลูกหยีเดินเข้ามาในบ้านด้วยความร้อนใจ หลังจากที่รู้ว่าเหมียวเป็นอะไรก็ไม่รู้ไม่ยอมกินข้าวกินปลาไม่ยอมออกมาจากห้อง"ยังไม่ยอมออกมาจากห้องเลยครับ ไปเคาะประตูเรียกก็ไม่ตอบไม่รู้ว่าเป็นอะไร" หม่าตอบ"เดี๋ยวพี่ไปดูเอง เราไปดูแม่เถอะ""ครับพี่หยี"ลูกหยีเดินขึ้นไปด้านบนก่อนจะเคาะประตูห้องของเหมียว แต่ในห้องก็ยังคงเงียบกริบไม่มีเสียงตอบรับอะไรเลย"ฉันเองนะเหมียว มีเรื่องอะไรออกมาคุยกันได้มั้ย แม่กับน้องชายของแกเป็นห่วงแกมากนะที่เห็นแกเป็นแบบนี้""ฉันขออยู่คนเดียวได้มั้ยหยี ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อมจะออกไปหาใคร" เธอตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ลูกหยีที่ได้ยินแบบนั้นก็คิดว่าเหมียวต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ เธอถึงได้ร้องไห้จนน้ำเสียงสั่นขนาดนั้น"ก็ได้แต่แกก็กินอะไรบ้างสิ อย่าเงียบไปแบบนี้"".....""ฉันไม่กวนแกก็ได้ ฉันซื้อของมาให้อยู่หน้าประตูนะแล้วก็ออกมาเอา ดีขึ้นแล้วค่อยมาเล่าให้ฉันฟังก็ได้ว่าเป็นอะไร"ลูกหยีเ
หลังจากที่ร่างกายของเหมียวกลับมาหายเป็นปกติดีแล้ว เธอก็กลับไปทำงานตามปกติของเธอ และก็ไม่ค่อยมีเวลาจะได้คุยกับธามเท่าไรงานของเธอที่กำลังทำอยู่ตอนนี้มันกำลังไปได้สวยมาก มีเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าอีกหลายๆ แบรนด์ที่ติดต่อมาให้เธอไปเป็นนางแบบให้ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีเข้ามาให้เห็นบ่อยๆ เหมียวเลยรีบคว้าโอกาสนี้ไว้เธอจะได้มีเงินเก็บ มีเงินเอาไปไว้เป็นค่ารักษาพยาบาลของแม่ ไหนน้องชายจะต้องเข้าเรียนมหาลัยอีกครืด ครืด ครืดโทรศัพท์ของเหมียวดังขึ้นขณะที่เธอกำลังถ่ายแบบอยู่ แต่เพราะเธอไม่มีเวลาไปรับสายก็เลยต้องปล่อยให้สายที่โทรเข้ามาตัดไปจนกระทั่งถ่ายแบบเสร็จชุดแรกเธอถึงได้นั่งพัก"เหมียว...""นายมาที่นี่ได้ยังไง?" เธอมองหน้าคนที่เรียกชื่อเธอด้วยความสงสัย เขาตามเธอมาถึงที่นี่ได้ยังไงในเมื่อเธอไม่ได้บอกกับเขาเลยว่าเธอทำงานอยู่ที่ไหน"ฉันซื้อของกินมาให้น่ะ เห็นเธอทำงานหนักแบบนี้คงจะหิวแน่ๆ" ธามวางถุงอาหารที่ซื้อมาลงบนโต๊ะตรงหน้าของเหมียว"ตามสบายเลยนะคะน้องเหมียว ประมาณอีกครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวค่อยเริ่มถ่ายแบบต่อ""ค่ะพี่"หลังจากที่ผู้ช่วยเดินออกไปพนักงานที่อยู่ในนี้ก็พากันยืนมองการกระทำของทั้งสองคน พากัน
เวลาผ่านไปร่างกายของเหมียวเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลา โดยมีธามคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และตอนนี้ก็ใกล้จะกลับมาหายดีเป็นปกติแล้ว"ถ้าเธอหายดีแล้วเธอจะกลับทำงานต่อหรอ""อืม ถ้าไม่ทำงานแล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนใช้ล่ะ แค่สภาพเป็นแบบนี้รายได้ก็หดหายไปเยอะมากพอแล้ว""เหมียว...""อือ..""เราสองคนกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย ฉันไม่อยากเห็นเธอทำงานหนักแบบนี้อีกแล้ว"".....""เถอะนะเหมียว" ธามเลื่อนมือไปกุมมือของเหมียว แต่เธอกลับดึงมือของตัวเองออกไป"ทำไม""ไม่รู้สิ ฉันแค่รู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อมกับเรื่องพวกนี้""ฉันสัญญาว่าฉันจะดูแลใส่ใจเธอให้มากกว่าเดิม ฉันจะไม่ให้เธอต้องพยายามอยู่ฝ่ายเดียวอีกต่อไปแล้ว"".....""แล้วฉันต้องรออีกนานเท่าไร เราสองคนถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้""ไม่รู้สิ ฉันแค่ยังไม่พร้อม ฉันอยากใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองแบบนี้""....."เพราะเขาละเลยเธอมามากจนเธอไม่กล้าที่จะกลับไปเพราะกลัวว่าจะเจ็บแบบเดิม การที่คนเรารักกันแล้วคนใดคนหนึ่งต้องพยายามอยู่ฝ่ายเดียวมันเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยมากๆ แต่พอถึงจุดที่เราบอกกับตัวเองว่าเราพอแล้วเราเหนื่อยมากแล้ว เราจะหยุดและไม่วิ่งตามต่อไม่พยายามอีกต่อไป
สามวันต่อมาธามยังคอยเฝ้าดูแลเหมียวอยู่ทุกวันจนตอนนี้อาการของเธอเริ่มดีขึ้นมากแล้ว หลังจากที่สอบปากคำเสร็จเรียบร้อยแล้วศาลก็ตัดสินคดีให้เหมียวไม่มีความผิด เพราะเธอแค่ป้องกันตัวจากการถูกทำร้าย ส่วนคนที่ทำก็ได้รับผลกรรมของตัวเองไปแต่ตัวเธอกลับรับไม่ได้และคิดว่าเป็นเพราะตัวเองเลยทำให้พิพิมต้องถึงแก่ความตาย เธอไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้น และก็ไม่คิดอยากให้ใครตายเลยด้วยถึงแม้ทุกคนจะพยายามพูดให้เธอคลายความกังวล แต่เธอก็ยังคิดมากอยู่ดี"อย่าคิดมากสิหนูเหมียว มันเป็นแค่อุบัติเหตุจริงๆ นะลูก" แม่ของธามบอก พร้อมกับลูบหัวไหล่ของเธอเป็นการปลอบใจ"นั่นสิหนูเหมียว อย่าคิดมากไปเลยนะไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นหรอก" พ่อของธามก็ช่วยพูดอีกแรง"พ่อแม่ของเธอต้องเสียใจมากแน่ๆ ที่รู้ว่าลูกของตัวเองตาย""ผู้หญิงคนนั้นไม่มีครอบครัวหรอก ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใครมาจากไหนเพราะเธอเปลี่ยนชื่อบ่อย แทบจะทุกปีเลยด้วยมั้งการเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลเนี่ย ขนาดตำรวจยังตามตัวที่มาของเธอไม่ได้เลย" ธามบอกภาพที่พิพิมถูกรถชนมันยังติดตาของเธออยู่เลย เหมียวพยายามที่จะไม่คิดไม่นึกถึงแต่ก็ไม่รู้ทำไมภาพเหล่านั
"กรี๊ดด!!" เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังขึ้น ก่อนที่รถใหญ่จะพุ่งเข้ามาชนเธออย่างเต็มแรงจนกระเด็นไปไกลต่อหน้าต่อตาของเหมียวเธอผลักพิพิมออกไปขณะที่เธอกำลังจะโดนน้ำกรดสาดหน้า แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีรถพ่วงใหญ่ขับผ่านมาพอดีจนทำให้ร่างของพิพิมถูกชนและกระเด็นลอยไปไกล ในขณะที่รถพ่วงก็หนีไปเลย ไม่ลงมาจอดดูพิพิมที่นอนจมกองเลือดอยู่บนถนนเหมียวมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตกใจ อยากจะวิ่งเข้าไปช่วยแต่ร่างกายของเธอก็สะบักสะบอมไม่น้อยเลยเหมือนกัน"ฮะ ฮึก...." ภาพที่พิพิมถูกรถชนทำเอาเธอตกใจและช็อคมาก เธอเห็นคนตายต่อหน้าต่อตา และเป็นการตายที่น่าสยดสยองมากเลยด้วยไม่นานก็มีรถกู้ภัยและตำรวจมา ส่วนธามที่ได้รับแจ้งเหตุก็รีบมาเลยทันทีเช่นกัน"เหมียว....เธอเป็นยังไงบ้าง" เขามองเห็นร่างกายของคนรักที่ถูกทำร้ายจนบอบช้ำไปทั้งตัว รอยแผล รอยเลือดทำเอาเขาใจหายวาบ และอยากเจ็บแทนเธอมาก"ไปโรงพยาบาลก่อนนะ"ธามรีบหาเหมียวไปโรงพยาบาลทันที และเธอก็ได้นอนให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาล และก็ไม่รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นอีกเลย สภาพจิตใจของเธอในตอนนี้เหมือนคนที่กำลังสติเลื่อนลอย ไม่ว่าใครจะเข้ามาไม่ว่าใครจะคุยด้วยเธอก็ไม่มีท่าทีตอบรับเ
หลายวันผ่านไปครืด ครืด ครืดเสียงโทรศัพท์ของเหมียวดังขึ้นมาขณะที่เธอกำลังนั่งดูภาพในนิตยสารที่เธอเป็นนางแบบถ่ายให้ หลังจากที่เธอเริ่มมีคนติดต่อมาให้ไปเป็นนางแบบโปรโมทเสื้อผ้าก็มีเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าอีกหลายๆ แบรนด์ติดต่อมาให้เธอไปเป็นนางแบบให้ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพราะผลตอบรับมันค่อนข้างดีและเงินก็ได้รวดเร็วทันใจ ถึงชุดมันจะออกดูแนวโป๊ไปบ้างแต่นั่นก็เป็นดีไซน์ของเสื้อผ้า"ฮัลโหล"( เหมียววันนี้เธอจะไปถ่ายแบบใช่มั้ย )"อืม มีไร?"( แล้วเธอจะไปทำงานที่ผับหรือเปล่า )"ไม่แล้วล่ะฉันลาออกแล้ว"( ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปรอรับเธอที่บ้านนะ)"ไม่ต้องฉันนั่งรถไปเองมันสะดวกกว่า วันนี้ฉันมีไปถ่ายแบบหลายที่นายทำงานของนายไปเถอะ"( ฉันทำงานเสร็จแล้วเดี๋ยวตอนเย็นไปรับ )"บอกว่าไม่ต้องก็คือไม่ต้องไงนายพูดไม่รู้เรื่องหรอ ทำไมชอบเซ้าซี้อยู่เรื่อยเลย!"( ...... ) ปลายสายเงียบไปเมื่อถูกเธอตะคอกด้วยความหงุดหงิด"แค่นี้นะฉันไม่ว่าง"เธอกดวางสายทันทีก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน อีกสองชั่วโมงเธอมีนัดถ่ายแบบที่โรงแรมแห่งหนึ่งแล้วต้องเดินทางไปอีกประมาณสามแห่ง เธอไม่อยากให้เขาเสียเวลางานเดินทางไปมาอยู่กับเธอเหมีย
หลายวันผ่านไป"ฉันซื้อขนมมาฝาก ร้านที่เธอชอบกินประจำไง" ธามเดินเข้ามาในบ้านของเหมียวอย่างเงียบๆ ซึ่งเขาเห็นเธอกำลังนั่งเขียนอะไรอยู่คนเดียวตรงม้าหินอ่อนข้างบ้าน"ขอบใจ แต่เอาวางไว้ตรงนั้นแหละ ฉันไม่ว่างกิน" เธอตอบแต่ตายังคงจดจ่ออยู่กับหนังสือตรงหน้า"เธอทำอะไรอยู่เหรอ ดูหน้าตาเครียดเชียว""เรื่องของฉันน่า""อ่อ...""แล้วไม่ไปทำงานหรือไง ถึงได้มาวุ่นวายอยู่กับฉันที่นี่ได้""ไม่อะ วันนี้พักผ่อนก็เลยมาหาเธอที่บ้าน""....." ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะมีวันพักผ่อนเหมือนคนอื่นด้วย เพราะเห็นแต่ทำงานทุกวันเวลาว่างกินข้าวก็แทบจะไม่มี"ตอนเย็นเธอไปทำงานที่ผับอีกหรอ""อือ..""แล้วทำไมถึงไม่ไปนอนพักผ่อนล่ะ เดี๋ยวก็ไปทำงานไม่ไหวหรอก""ฉันชินแล้วแค่นี้ไม่เป็นอะไรหรอก"เธอชินกับการทำงานหนักและพักผ่อนน้อยแล้ว อาจจะเป็นเพราะร่างกายของเธอมันเริ่มปรับตัว"กินขนมมั้ย เดี๋ยวฉันเอาใส่ถ้วยให้""ไม่เป็นไรฉันยังไม่หิว""ขนมอันนี้ซื้อมาแล้วต้องกินเลยนะถ้าปล่อยไว้นานมันจะไม่อร่อยเอา""ถ้านายกลัวว่ามันจะไม่อร่อยนายก็กินเองสิฉันยังไม่ว่าง!" เธอหันไปตอบอย่างหงุดหงิด เพราะไม่ชอบให้เขามาเซ้าซี้แบบนี้"....." ธามลุกขึ้
บ้านเหมียว"ฉันรู้ว่าเธอจะไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ถ้าไม่มีหลักฐานฉันได้หลักฐานมาให้เธอดูแล้วว่าฉันกับพิมเราไม่ได้มีอะไรกัน เธอก็แค่จะปั่นหัวให้เราสองคนทะเลาะกัน""แล้วยังไง?" เหมียวเอ่ยถามเสียงเรียบ ถึงจะมีหลักฐานมากมายแค่ไหนมันก็ไม่สามารถดึงความรู้สึกที่เสียไปแล้วของเธอกลับมาได้ เพราะเธอไม่ได้เสียความรู้สึกกับเขาแค่เรื่องเดียว"กลับมาดีกันเถอะนะตอนนี้ฉันไล่ผู้หญิงคนนั้นออกไปแล้ว ไม่มีใครกล้ายุ่งวุ่นวายกับเธออีกแล้วนะ""ไม่" เหมียวปฏิเสธกลับด้วยน้ำเสียงห้วนๆ"ฉันรู้ว่าฉันผิด แต่ตอนนี้ฉันพิสูจน์ตัวเองให้เธอเห็นแล้วว่าฉันไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีแบบนั้นเลย ฉันไม่เคยนอกใจเธอ ไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงคนไหนนอกจากเธอ ฉันรักเธอแค่คนเดียวนะเหมียว""นายกลับไปเถอะ แล้วอย่ามาที่บ้านของฉันอีก""เหมียว...""ฉันไม่อยากกลับไปจมอยู่กับความรู้สึกแบบเดิม ฉันเหนื่อยที่จะต้องพยายามทำอะไรให้มันถูกใจคนอื่น"".....""เพราะนายไม่เคยพยายามเหมือนฉันไงนายก็เลยไม่รู้ว่าความรู้สึกของคนที่พยายามมันเป็นยังไง นายลองพยายามทำเหมือนฉันดูสิ พยายามเข้าหาคนที่นายรักพยายามเข้าถึงตัวตนของเขาให้ได้มากที่สุด นายลองทำดูสิแล้วนายก็จะรู้สึกไม่
วันต่อมาที่บริษัทธามเดินเข้าไปในบริษัทตามปกติของเขา แต่สิ่งที่เขาตั้งใจจะทำวันนี้ไม่ใช่งาน สิ่งที่เขาตั้งใจจะทำในวันนี้ก็คืนไล่เลขาของตัวเองออก เพราะสิ่งที่เธอทำมันเกินหน้าที่ของคำว่าเลขาไปมาก และเขาก็ไม่ชอบคนที่มายุ่งวุ่นวายในเรื่องครอบครัวหรือเรื่องส่วนตัวของเขา"กล้องวงจรปิดในห้องทำงานของผมที่ให้หาเรียบร้อยใช่มั้ย""เรียบร้อยค่ะท่านประธาน" ผู้จัดการยื่นไฟล์คลิปที่คัดลอกมาจากกล้องวงจรปิดให้กับธามเขาต้องการหาหลักฐานว่าเลขาเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับของส่วนตัวของเขาจริงๆ และมันก็จะเป็นหลักฐานมัดตัวในการไล่เธอออก"ขอบใจ ไปทำงานกันต่อเถอะ""ค่ะท่านประธาน"เวลาต่อมาก๊อก ก๊อก ก๊อก"ขออนุญาตค่ะบอส ฉันเอากาแฟมาให้""....." เขามองหน้าเลขานิ่งๆ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป"มองหน้าพิมมีอะไรหรือเปล่าคะ?""....." เขาหยิบซองสีขาวยื่นให้กับเธอ ซึ่งด้านในเป็นเช็คเงินเดือนล่วงหน้า 3 เดือน และใบที่บ่งบอกว่าเธอพ้นสถานะจากการเป็นพนักงานที่นี่แล้ว"นะ นี่มันเรื่องอะไรกันคะ?""ฉันไม่ชอบคนที่เข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัว เธอน่าจะรู้ดีนะว่าเธอทำอะไรไว้บ้าง""ทะ ทำอะไรคะ พิมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ""ฉันก็คิดไว้แล้วว่าเธอจะต้อ
วันต่อมาบ้านเหมียว"สวัสดีครับคุณน้า""สวัสดีลูก""นายมาทำไม?" เหมียวเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาในบ้านของเธอ"ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย""แต่ฉันไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับนาย!""ไปคุยกันก่อนเถอะลูก มีเรื่องอะไรมีปัญหาอะไรคุยกันให้จบคุยกันให้ดีๆ""....." เหมียวถอนหายใจอย่างแรง เพราะเธอไม่อยากให้ธามมายุ่งวุ่นวายอีกด้านนอก"มีเรื่องอะไรก็รีบๆ พูดมาฉันจะได้กลับไปดูแลแม่ต่อ""ฉันก็แค่จะมาพูดเรื่องนั้นกับเธอ""ฉันว่าฉันพูดชัดเจนจบไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ ทำไมนายถึงไม่จบอีก""เรื่องแค่นี้เธอโกรธฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันคิดว่าเธอแค่น้อยใจ เธอทำเหมือนกับฉันทำอะไรผิดมามากมายขนาดนั้น"".....""บอกฉันมาสิว่าฉันไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจอีก ถ้าเธอไม่บอกฉันก็ไม่รู้หรอกนะ""ฉันว่านายน่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจนะ ไม่ต้องให้ฉันคอยบอกอะไรหรอกมั้ง""แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ?""นายไปเอากับใครไว้ล่ะ!""ห๊ะ!? เอากับใคร? เธอพูดอะไรของเธอฉันไม่เข้าใจ""นายกับเลขาของนายมีอะไรกันแล้วไม่ใช่เหรอ?""เธอไปเอาข่าวบ้าพวกนี้มาจากไหน ฉันกับเลขาไม่เคยคิดอะไรกัน และก็ไม่คิดที่จะทำเรื่องแบบนั้นด้วย""ก็ผู้หญิงของนายเป็นคนบอกกับฉันเองทั้งวั