คาแลนมองคนรักด้วยสายตาที่หวานเยิ้ม เขาค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างเบามือ จนร่างบางเปลือยเปล่า จากนั้นก็จัดการเสื้อผ้าของตัวเองเมื่อทั้งสองไร้ซึ่งปราการปิดคลุมผิวกายบทรักที่ร้อนแรงก็เริ่มต้นขึ้น ฝ่ามือหนาบีบเคล้นไปตามตัวของมิลาอย่างหลงใหล ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเรือนร่างนี้ก็ยังทำให้เขาคลั่งไคล้ได้เสมอ“อ๊า~” เสียงครางหลุดออกมาจากคนตัวเล็กที่กำลังนอนบิดเร่าร่างกาย ทุกสัมผัสของคาแลนทำให้มิลาร้อนวูบวาบ“ฮะ... เฮีย อ๊า~”“แค่สัมผัสมันทำให้น้ำหนูเยิ้มขนาดนี้เลยเหรอหืม”“อึก~ อื้อ” คนตัวเล็กที่ถูกท้วงรีบเบือนหน้าหนีอย่างเขินอาย“บอกมาสิว่าตอนนี้หนูอยากให้เฮียทำอะไร”เรียวนิ้วกรีดกรายจากลำคอระหงส์ลงมาผ่านหน้าอก ลากลงเรื่อย ๆ จนมาหยุดบนหน้าท้องแบนราบ มิลาหอบ หายใจโรยรินเพียงเท่านี้เธอก็รู้สึกอ่อนยวบยาบแขนขาไร้เรี่ยวแรง“ชะ... ช่วยทำให้มิลารู้สึกดี”“แบบนี้ดีไหมคะ”เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มมุมปากเมื่อเห็นคนตัวเล็กดิ้นพล่านในตอนที่นิ้วใหญ่แตะขยี้บนจุดกระสัน กลีบสีชมพูอ่อนที่เปียกแฉะทำให้คาแลนอยากจะก้มลงไปชิมน้ำหวานที่กำลังไหลเยิ้มออกมาเรียวขาเล็กถูกจับขึ้นมาพาดไว้บนบ่าแกร่ง จากนั้นคนตัวสูง
ห้าวันต่อมาไม่มีวันไหนเลยที่หลับสนิท ฉันเอาแต่พะวงห่วงน้องสาว บางคืนก็ฝันว่ามินถูกมาลิคทำร้าย เหมือนคืนนี้ที่ฉันสะดุ้งตื่นกลางดึกแล้วสะอื้นร้องไห้“ฮึก~”“หนู ร้องไห้ทำไม” คนที่นอนอยู่ข้าง ๆ ตื่นเพราะเสียงสะอื้นของฉัน เขาตกใจรีบเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟข้างเตียง“มะ... มิลาฝันเห็นน้อง ฮึก~ มินถูกทำร้าย”“มันก็แค่ความฝัน อย่าคิดมากคนของเฮียเฝ้าอยู่ตลอดเวลา”“ฮึก~ เฮียมั่นใจได้ยังไงว่าเขาจะไม่ทำ”“เพราะมีข้อแลกเปลี่ยนเป็นพี่สาวมันไง วาริสอยู่กับเรามาลิคมันไม่กล้าแน่ ๆ” หลายครั้งที่คาแลนยืนยันแต่ฉันก็ยังกลัว ไม่ไว้ใจมาลิคเลยจริง ๆ“วาริสเป็นคนมีความสามารถ ถึงมาลิคมันจะไม่เคยสนใจชีวิตใครแต่ไม่ใช่กับวาริสแน่ ๆ เพราะนอกจากจะเป็นพี่สาว ตัวยาที่เธอคิดค้นมันสร้างรายได้ให้มันมหาศาล มันไม่กล้าเสี่ยงแลกหรอก”“ฮึก~ รีบพามินออกมานะคะ มิลาใจไม่ดีเลย”“เฮียสัญญาว่ากลับไปรอบนี้จะมามินออกมาให้ได้”คาแลนดึงฉันมาสวมกอดจากนั้นเขาก็กดจูบลงบนหน้าผากอย่างอ่อนโยน“เฮียรักหนูนะ สัญญาได้ไหมว่าจะไม่ตัดสินใจทำอะไรโดยที่ไม่บอกกัน”“ค่ะ มิลาสัญญา”“นอนเถอะคนดี ร้องไห้มาก ๆ มันจะปวดหัวเอานะ”“อื้อ”มือหนายกขึ้นมาเช็ดครา
เพิ่งรู้ว่าพี่เจตอยู่ที่นี่ด้วยเพราะที่ผ่านมาไม่เจอเลย หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จฉันก็ออกมาเดินเล่นสูดอากาศด้านนอกบ้าน“อย่าเดินไปไกลนะครับ” พี่เจตบอก“ทำไมอาทิตย์ที่ผ่านมามิลาไม่เห็นพี่เจตเลย”“นายเพิ่งสั่งให้มาเฝ้าคุณมิลาที่นี่ครับ”“อ๋อ จริง ๆ เรียกมิลาว่าน้องอย่างที่เคยเรียกก็ได้นะคะ” เมื่อก่อนพี่เจตจะแทนตัวเองว่าพี่แล้วเรียกฉันว่าน้อง“ไม่ดีกว่าครับ นายได้ยินคงไม่พอใจ”“…” เหมือนพี่เจตยังไม่ไว้ใจฉันเท่าไร ไม่แปลกหรอกเคยทำให้เจ้านายเขาเสียใจนี่“ผมจะไปประชุมการ์ด อย่าเดินไปไหนไกลนะครับ”“ค่ะ มิลาจะเดินเล่นแถวนี้สักแป๊บเดี๋ยวก็กลับเข้าบ้านแล้ว”พี่เจตพยักหน้าแล้วเดินห่างออกไป ส่วนฉันก็เดินเล่นตามทางไปเรื่อยจนมาถึงโรงบ่มไวน์ กำลังจะเดินกลับแล้วแต่เหลือบไปเห็นทางเดินลงไปใต้ดิน วันนั้นที่มาไม่ได้สังเกตเลยว่ามีอุโมงค์ตรงนั้นด้วยเดินไปดูคงไม่เป็นไรหรอกมั้งฉันเดินตามทางไปในอุโมงค์บรรยากาศค่อนข้างน่ากลัวจนคิดอยากจะถอยหลังกลับ ที่นี่มีไว้ทำอะไรไม่เคยได้ยินคาแลนพูดถึงเลยขณะที่กำลังลังเล สองขาก็ก้าวไปข้างหน้าไม่ยอมหยุด ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นว่าตรงหน้าคือกรงเหล็กหนากั้นไว้เหมือนคุกแถมในนั้นยังม
เคย์เดนเดินออกไป ส่วนฉันก็มองจอโทรศัพท์อยู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจรับสาย(เฮียโทรไปตั้งนานทำไมหนูเพิ่งรับสาย)“คือ…”(มีอะไรหรือเปล่า หืม)ฉันเม้มปากแน่นหัวใจเต้นรัวเพราะความกลัว กลัวจะถูกดุ กลัวถูกโกรธ กลัวหมดทุกอย่างเลย(มิลาเป็นอะไรบอกเฮียได้ไหมคะคนดี)“มะ... มิลาติดต่อมิน”(…) พอพูดแบบนั้นคาแลนก็เงียบไป หากไม่ได้ยินเสียงหายใจคงคิดว่าเขาตัดสายไปแล้วแน่ ๆ“เฮียพูดอะไรกับมิลาหน่อยได้ไหม”(…)“เฮียอย่าเงียบมิลาขอโทษ”(ทำไมหนูไม่เชื่อฟังเฮียเลย)“มิลาขอโทษ” ตอนนี้ฉันรู้สึกผิดจริง ๆ ยิ่งคาแลนเงียบมันยิ่งกลัว ทุกครั้งที่เขาเงียบนั่นแปลว่าโกรธจริง ๆ(เอาไว้ค่อยคุยกันนะ เฮียต้องเปลี่ยนแผน)“… เพราะมิลาเหรอคะ”(เอาไว้หนูพร้อมที่จะเชื่อใจเฮียแล้วเราค่อยคุยกัน)“… เฮีย”สายถูกตัดไปก่อนที่ฉันจะทรุดตัวลงร้องไห้ ยิ่งคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย คาแลนต้องเผชิญหน้ากับอันตราย ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะฉันคนเดียวครั้งนั้นทำให้เขาเจ็บปวดเจียนตาย ครั้งนี้ก็ยังเป็นฉัน ไม่ได้เรื่องอะไรเลย แย่ที่สุด“เอาโทรศัพท์มา” ไม่รู้ว่าเคย์เดนเข้ามาตอนไหนเพราะฉันมัวแต่ร้องไห้“ฮึก~” ฉันเงยหน้าขึ้นมองค
Talk - มิลาสามคืนแล้วที่นอนไม่ค่อยหลับ ไม่รู้เลยว่าตอนนี้คาแลนเป็นยังไง ไหนจะมินลี่อีก สถานการณ์เป็นยังไงบ้างฉันไม่รู้อะไรเลย เคย์เดนก็ไม่พูดอะไรเวลาคาแลนโกรธเขาน่ากลัวและก็ทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้“คาแลนไม่โทรมาเลยเหรอคะ” ฉันถามเคย์เดนขณะนั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน“มันยุ่ง ๆ กับงานที่บริษัท”“แล้วเรื่องมิน… คืบหน้าบ้างไหม”“มาลิคมันระวังตัวมากขึ้น แถมยังประกาศว่าเธอถูกลักพาตัวไป ตอนนี้ทำอะไรลำบาก”“…” ไม่คิดว่ามาลิคจะทำแบบนั้น เขาคงอยากได้ตัวฉันกลับไปจริง ๆ แน่นอนสิมันมีประโยชน์กับเขานี่“เดี๋ยวมันก็ติดต่อมา”“มิลาขอโทรไปหาเขาได้ไหม” ฉันเอ่ยขอด้วยความประหม่า ก่อนจะถูกสายตาคมคู่นั้นจ้องมอง “พูดตามตรงว่าฉันไม่ไว้ใจเธอ”“นะคะ มิลาสัญญาว่าจะโทรหาแค่คาแลน”“อืม” เคย์เดนพยักหน้าจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ายื่นให้ ฉันยิ้มพร้อมกับเอื้อมมือรับมาด้วยความดีใจ“ติดต่อแค่คาแลนเท่านั้น คุยเสร็จแล้วเอาโทรศัพท์ไปคืนฉันที่ห้องทำงาน”“ขอบคุณนะ”“ฉันไม่ได้อยากใจร้ายแต่สถานการณ์ตอนนี้มันต้องระวังตัวให้มากที่สุด ถ้ารู้อะไรเกี่ยวกับมาลิคเธอก็ควรบอก อยู่กับมันตั้งหลายปีไม่รู้อะไรเลยคงเ
วันต่อมา วันนี้ฉันตื่นเช้ากว่าปกติเพราะคาแลนบอกว่าจะกลับ อยากเข้าครัวเตรียมของโปรดไว้ให้ดูเหมือนว่าวันนี้ฉันจะอารมณ์ดีหลังจากที่ทุกข์ใจเกือบอาทิตย์“คาแลนคงดีใจที่รู้ว่าเธอเข้าครัวเตรียมของโปรดมันไว้ให้”ฉันเงยหน้ามองเคย์เดนที่เดินเข้ามาหยิบน้ำกินในครัว วันนี้สายตาคู่นั้นไม่ได้มองแบบดุ ๆ อย่างทุกที“ค่ะ”“เธอกับน้องสาวสนิทกันมากไหม?”“เรามีกันแค่สองคน ถ้ามินเป็นอะไรไปมิลาคงอยู่ไม่ได้”“เผื่อใจเอาไว้บ้าง”“คะ?” ฉันขมวดคิ้วงุนงงกับคำพูดนั้น เคย์เดนต้องการจะสื่ออะไรกันแน่“รอให้คาแลนเป็นคนพูดกับเธอคงดีกว่า”“มิลาไม่เข้าใจ”“มันคงใกล้จะถึงแล้ว รีบ ๆ ทำอาหารเถอะ”ร่างหนาเดินออกไปจากห้องครัว ทิ้งความสงสัยเอาไว้ ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรถึงถามและพูดจาแปลก ๆ อย่างนั้น หรือมินเป็นอะไร“โอ้ย!!!” ฉันอุทานออกมาเสียงดังรู้สึกเจ็บจี๊ดที่นิ้วชี้ เพราะไม่ทันระวังทำให้ถูกบาด รีบคว้าเอาทิชชู่มาซับเลือดที่กำลังไหลไม่ได้เข้าลึกมากแต่เลือดไหลออกเยอะเลย ซุ่มซ่ามจริง ๆ เพราะมัวแต่คิดอะไรฟุ้งซ่านจนไม่ทันระวังพอเห็นว่าเลือดหยุดไหลแล้วฉันก็ทำอาหารต่อ แต่พอจับนู่นจับนี่เลือดก็ไหลอีกก็เลยหยุดทำก่อน“กลิ่นหอมไปถึง
เช้าวันต่อมาฉันลืมตามองคนที่กำลังนอนหลับอยู่ข้าง ๆ นานเท่าไรแล้วไม่รู้ที่เอาแต่จ้องมองอยู่แบบนี้ ไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของเรามันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ การที่คาแลนทำแบบนี้ฉันดีใจแต่ก็รู้สึกผิดมาก ๆ เหมือนกันที่เคยทำร้ายเขา เคยทำให้ความสัมพันธ์ของเราจบลง‘เลือกมาสิระหว่างน้องสาวกับคนรัก’‘ฉันจะพาเธอไปอยู่ต่างประเทศ น้องสาวของเธอจะไม่เป็นอะไร’‘เธอต้องทำงานให้ฉัน แลกกับยาของน้องสาว’คำพูดเหล่านั้นของมาลิคมันผุดเข้ามาในหัว ในทุก ๆ วันฉันพยายามไม่คิดมากแต่มันก็เอาแต่คิดตลอดเลย“หนูตื่นนานหรือยัง” คาแลนลืมตาขึ้นมาถามทำให้ฉันที่เหม่อลอยได้สติ“เมื่อกี้เองค่ะ”ปลายจมูกโด่งแตะลงมาบนพวงแก้มของฉันแล้วหอมฟอดใหญ่ ถึงจะชอบทำหน้าดุ ขึมเวลาอยู่กับลูกน้อง วางมาดสุขุมเวลาอยู่ในลุคนักธุรกิจ แต่พออยู่กับฉันคาแลนเหมือนแมวขี้อ้อน“ปวดตัวไหม เมื่อคืนเฮียรุนแรงไปหรือเปล่า”ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าวเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยถามแบบนั้น เรื่องที่ทำเมื่อคืนผุดเข้ามาในหัวเป็นฉาก ๆ บทลงโทษของคาแลนทำฉันไม่ได้นอนเกือบถึงเช้า“เฮียมิลา อ๊า ไม่ไหว”“แต่เฮียยังอยากเอาหนู ซี๊ด อยากกระแทกไปเรื่อย ๆ”เวลาเขามีอารมณ์ป่าเถื่อนมันทำให้ฉั
หลังจากอ่านที่มาลิคส่งมาก็รีบลบแชตทั้งหมดและบล็อกเขา แน่นอนว่าฉันไม่ต้องการให้คาแลนรู้เรื่องนี้เสียงเปิดประตูห้องน้ำออกมาทำให้ฉันสะดุ้งรีบกดปิดหน้าจอโทรศัพท์ทันที“เป็นอะไร?”“เปล่าค่ะ”ฉันมองร่างกายกำยำที่เต็มไปด้วยลอนกล้ามเรียงสวย คาแลนกำลังเช็ดผมเพราะเพิ่งสระมา หยดน้ำจากเส้นผมที่หล่นกระทบไหล่กว้างมันทำให้เวลานี้เขาดูน่าดึงดูดชวนมอง“มองขนาดนี้กินเฮียเลยไหม”“ทำไมเฮียถึงรักมิลาคะ”คนที่ถูกตั้งคำถามพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ ร่างหนาเดินมาหยุดตรงหน้าก่อนจะย่อตัวคุกเข่าลง“มีอะไรไม่สบายใจบอกเฮียได้ไหม” ฝ่ามือใหญ่จับมือของฉันขึ้นก่อนจะก้มลงมาจูบแผ่วเบา เขาแสนดีแบบนี้มาตั้งแต่แรก ขัดกับบุคลิก“แค่อยากรู้เฉย ๆ ค่ะ ทั้งที่มิลาก็ไม่ได้ดีอะไรทำไมถึงถูกเฮียรักขนาดนี้”“ใครพูดว่าหนูไม่ดี?”“ไม่ ๆ แค่เปรียบเทียบไงคะ”“เวลาเฮียป่วยหนูดูแลไม่ห่างทั้งป้อนยาเช็ดตัว หนูชอบทำอาหารไว้รอเวลาเฮียกลับมาจากงานเหนื่อย ๆ ก็คอยถามตลอด ที่สำคัญเวลาอยู่บนเตียงหนูขี้อ้อน เฮียต้านไม่ไหวจริง ๆ”แปะ!! จบประโยคสุดท้ายนั้นฉันก็ฟาดมือลงบนไหล่กว้างอย่างแรง อุตส่าห์ตั้งใจฟังยังติดเล่นอีก“เฮียพูดอะไรผิด”“ชอบพูดเรื่องบนเตีย
วันเวลาผ่านไปเนิ่นนานจนฉันคลอดลูกคนที่สองให้กับคาแลน รอบนี้ได้ลูกสาวเขาดีใจมากเลยนะ เพราะเจ้าตัวได้คนโตเป็นลูกชายสมใจแล้วเจ้าหญิงตัวน้อยวัยหกเดือนของเรามีชื่อว่าเมลร่า ฉันกับคาแลนชอบชื่อลูกมาก ๆ เพราะมันเหมาะกับหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มอย่างลูกสาวฉันที่สุดเผลอแป๊บเดียวมาคัสในก็ได้เป็นพี่ชายคน แถมยังเห่อน้องมากอีกด้วย ถ้ามีโอกาสหรือมีจังหวะมาคัสก็จะคอยช่วยฉันเลี้ยงน้องตลอด“มามี๊น้องตื่นหรือยังครับ” หมอบอกว่ามาคัสฉลาดรอบรู้ และมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ที่ดีเยี่ยมฉันปลื้มใจมากที่เห็นลูกเติบโตมาอย่างดี“ยังเลยลูก ไว้รอน้องตื่นแล้วค่อยไปเล่นกับน้องนะ”“ครับ วันนี้มาคัสมีนิทานจะมาเล่าให้น้องฟังด้วย” ได้ยินแบบนั้นคนเป็นแม่อย่างฉันก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้“จริงเหรอครับ มาคัสของมามี๊เก่งที่สุดเลย ขอบคุณนะลูก” ฉันก้มลงกอดลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพร้อมกับหอมหัวเบา ๆ หนึ่งที ฉันกับคาแลนมักจะพูดขอบคุณลูกบ่อย ๆ ในเวลาที่เขาทำสิ่งดี ๆ“มาคัสรักน้อง อยากดูแลน้องครับ”“ลงมาได้ยินประโยคนี้ทำเอาปาปี๊ชื่นใจที่สุดเลยลูก” ระหว่างนั้นคาแลนก็เดินลงมาจากชั้นสองพอดี เขากำลังเตรียมตัวไปทำงาน“ปาปี๊~” พอเห็นพ่อเดินลงมามาคั
สามเดือนผ่านไป ฉันกับคาแลนเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล วันนี้คุณหมอนัดไปตรวจและอัลตราซาวนด์ดูเพศลูกสภาวะแท้งคุกคามตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ด้วยอายุครรภ์ที่มากขึ้นด้วยไม่ต้องเฝ้าระวังอย่างตอนแรก“ทำหน้าขมวดคิ้วตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วนะคะ เป็นอะไรบอกมิลาหน่อย” ฉันถามสามีที่กำลังทำหน้าเครียดตั้งแต่รู้เพศลูก “เฮียไม่อยากให้ลูกเราเป็นผู้หญิงเหรอคะ”ฉันเม้มปากเบา ๆ ไม่ได้อยากคิดแต่ท่าทางของคาแลนทำให้ต้องถามไปอย่างนั้น เขาแปลกไปเมื่อรู้เพศทั้งที่ก่อนหน้าเราตั้งชื่อลูกไว้แล้วทั้งชายและหญิง“ลูกเฮียนะหนู ถามแบบนั้นได้ยังไง”“ก็เฮียทำหน้าเครียด”“เฮียแค่คิดว่าตัวเองต้องหวงลูกมากแน่ ๆ”ระบายยิ้มออกมาบนใบหน้าพร้อมโล่งใจทันทีที่ได้ยินคำตอบนั้น นึกว่าไม่ชอบใจซะอีกที่แท้ก็หวงลูกสาวนี่เอง“คงต้องให้การ์ดเฝ้าตั้งแต่เด็ก ให้เข้าโรงเรียนหญิงล้วนนะหนู”“แบบนี้ถ้ายัยหนูจะมีแฟน…” ยังพูดไม่จบประโยคคนตัวสูงก็รีบขัด “อย่าเพิ่งคิดไปถึงขั้นนั้นสิหนู เฮียใจหาย”“กับมาคัสเฮียไม่เห็นห่วงเลย”“มาคัสเป็นผู้ชาย”“คุณพ่อขี้หวงคิดมากตั้งแต่ลูกยังไม่คลอดออกมาเลยนะคะ” ฉันแซวพร้อมยกนิ้วขึ้นเกลี่ยแก้มอย่างหยอกล้อ คาแลนเอามือมาจับมื
อาทิตย์ผ่านไป ฉันกับคาแลนจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้เราคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายตอนนี้คาแลนกำลังนอนหนุนอยู่บนตักของฉันแล้วใช้มือลูบท้องไปมาอย่างนั้นนานหลายนาทีแล้ว“อยากรู้แล้วว่าลูกจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” ใบหน้าคมคายเงยขึ้นมองฉันแล้วพูดต่อ “ถ้าได้ผู้หญิงเฮียคงหวงมากแน่”ฉันยิ้มกว้างให้กับคำพูดนั้นของคนที่หนุนตักอยู่ ก่อนจะเอามือลูบผมเขาเบา ๆ“หวงได้แต่อย่าไปกำหนดชีวิตของลูกมากเกินไปนะคะ”“เฮียไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนหนูสบายใจได้”คาแลนจับมือของฉันไปจูบเบา ๆ ช่วงนี้ชีวิตคู่ของเรามันลงตัวมาก ๆ ไร้อุปสรรคเหมือนอย่างก่อนหน้า ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกรักผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรก“อาทิตย์หน้าเฮียว่าง ไปเที่ยวกันนะครับ”“เที่ยวที่ไหนเหรอคะ” ฉันมองคนบนตักที่กำลังยิ้มหวาน“หนูมีที่ไหนที่อยากไปไหม”“ทุกที่ที่มีเฮีย มิลามีความสุข”“เฮ้อ เฮียรักหนูจะตายแล้วมิลา”ร่างหนาหยัดตัวขึ้นนั่ง แล้วยกมือมาประคองใบหน้าของฉันพร้อมจ้องด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ก่อนจะโน้มลงมาเรื่อย ๆ ระยะห่างระหว่างใบหน้าค่อย ๆ แคบลงจนกระทั่งริมฝีปากกดซับลงมา“อื้อ~”รสจูบที่อบอวลไปด้วยความอ่อนโยนและนุ่มนวล
วันต่อมา ตื่นมาไม่เห็นคาแลนอยู่ในห้องแล้ว มาคัสก็หายไปจากห้องของเขาเหมือนกัน ฉันค่อย ๆ เดินลงจากบันไดอย่างเชื่องช้าลงมาที่ชั้นล่าง ก่อนจะนั่งบนรถเข็นเพราะถ้าคนตัวสูงเห็นฉันเดินคงถูกดุแน่ ๆรถเข็นจะเป็นแบบขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยใช้มือบังคับปุ่มบนที่พักแขน ได้ยินเสียงแว่วมาจากทางครัวจึงไปดูภาพที่เห็นคือคาแลนกับลูกชายอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อน ทั้งคู่กำลังช่วยกันทำอาหาร มาคัสดูท่าจะชอบช่วยพ่อเขาทำใหญ่เลย ฉันกำลังทอดสายตามองสองพ่อลูกด้วยรอยยิ้ม“มามี๊” อุตส่าห์แอบตรงมุมแล้วแท้ ๆ แต่ลูกชายตัวน้อยหันมาเจอจนได้ คาแลนหันมองตามเสียงเรียกของลูก ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “หนูลงมายังไงคะ?”น้ำเสียงที่เอ่ยถามอย่างนุ่มนวลนั้นต่างจากแววตาที่กำลังจ้องแบบดุ ทำเอาฉันไม่กล้าตอบร่างหนาที่ใส่ชุดกันเปื้อนเดินมาหยุดตรงหน้าแล้วนั่งลงเอามือมาลูบวนบนท้องของฉันพร้อมกับฟ้องลูก“ดูมี๊สิ ดื้อเดินลงมาเองแบบนี้ปาปี๊ขอดุได้ไหม”“ลูกบอกว่าไม่ได้ค่ะ”“ลูกหรือแม่ครับ?”“เฮียอย่าดุมิลาสิ” ฉันเบ้ปากส่งสายตาออดอ้อนทำให้ คาแลนส่ายหน้าไปมาช้า ๆ ด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม เห็นแบบนั้นก็รู้ว่ารอดแล้ว“คราวหลังไม่เอาแบบนี้นะมิลา เฮียเป็นห
1 เดือนผ่านไปฉันได้ออกจากโรงพยาบาลมาพักรักษาตัวที่บ้าน เราย้ายมาอยู่บ้านหลังที่ซื้อไว้ในตอนนั้นแล้ว เพิ่งตกแต่งเสร็จเมื่ออาทิตย์ก่อนส่วนใหญ่ฉันจะนอนอยู่บนเตียงเวลาจะไปเข้าห้องน้ำหรือเดินไปไหนคาแลนจะช่วยประคอง ถ้าออกไปข้างนอกต้องนั่งรถเข็น เพราะคุณหมอสั่งห้ามเรื่องไม่ควรขยับร่างกายเยอะมาคัสได้แยกไปนอนอีกห้องสมใจคุณพ่อของเขาแล้ว เพราะคาแลนกลัวว่าลูกจะนอนดิ้นมาโดนท้อง แต่ตัวลูกชายไม่งอแงแล้วก็อยากแยกห้องเหมือนกัน แหงสิพ่อเขาจัดห้องเตรียมไว้ถูกใจขนาดนั้น“พรุ่งนี้มีประชุม เฮียคงกลับมาตอนบ่ายนะมิลา”“ไหวเหรอคะ ช่วงนี้เฮียอาการไม่ค่อยดีเลย” มองคนตัวสูงอย่างเป็นห่วง เขาแพ้ท้องแทนฉันหนักมาก เรียกได้ว่าเหม็นอาหารทุกอย่าง กินอะไรเข้าไปก็อ้วกออกหมด กินได้แค่ของเปรี้ยวเห็นแล้วนึกเห็นใจมาก ๆ เพราะเคยผ่านมาก่อนรู้ว่าทรมานขนาดไหน ใบหน้าหล่อตอนนี้ซูบผอมลงไปค่อนข้างเยอะ“ประชุมผู้ถือหุ้นประจำเดือนยังไงก็ต้องไปครับ” คาแลนก้มลงมาจูบหน้าผากของฉันแผ่วเบา ตอนนี้กำลังนั่งดูทีวีอยู่ชั้นล่างของบ้าน“คันเลนจะมาส่งมาคัสกี่โมงคะ”“คงสองทุ่ม กินมื้อเย็นที่บ้านใหญ่ก่อน” วันนี้ลูกชายงอแงอยากไปเล่นกับน้องคีย์และ
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาข่าวของคาแลนกับคุณหนูลี่กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง เพราะทั้งคู่ต่างมีหน้าตาทางสังคม คาแลนให้พี่ชายช่วยเรื่องปิดข่าวทั้งหมดให้เร็วที่สุดส่วนฉันก็พยายามไม่ดูข่าวห่างจากมือถือเพราะมันทำให้เครียดไม่เป็นผลดีเท่าไร ยิ่งตอนนี้มีอาการแท้งคุกคาม“ตอนเย็นคัลเลนจะพามาคัสมาที่โรงพยาบาลนะหนู” คนที่กำลังนั่งปลอกผลไม้เอ่ยบอก เราไม่ได้พูดคุยเรื่องนั้นเพราะต่างรู้ดีว่ามันไม่มีอะไร และฉันก็ไม่ได้ถามว่าเขาจะจัดการกับผู้หญิงอย่างลี่เว่ยหลินยังไง“ลูกงอแงไหมคะ” ฉันเป็นห่วงลูกชายตัวน้อยกลัวจะงอแงแต่ถ้าจะให้มาอยู่ที่โรงพยาบาลคงไม่ได้“ที่บ้านใหญ่มีเพื่อนเล่นลูกไม่งอแงเลย”“มาคัสรู้ไหมคะว่ากำลังจะมีน้อง”“ยังครับ ถ้ารู้คงดีใจที่จะมีเพื่อนเล่น”“เฮียไม่เข้าบริษัทเลย ไม่ต้องเฝ้ามิลาตลอดก็ได้” สามวันแล้วที่ฉันนอนติดเตียงที่โรงพยาบาลส่วนคาแลนไม่ได้เข้าบริษัทเลย“เฮียเอางานที่บริษัทมาทำที่นี่ดีกว่าทิ้งให้หนูอยู่คนเดียว” เขาปลอกผลไม้เสร็จพอดีจากนั้นก็ยกจานมานั่งเก้าอี้ข้าง ๆ เตียงแล้วป้อนฉัน“พรุ่งนี้เฮียจะออกไปจัดการปัญหากับเว่ยหลิน”“ค่ะ”“ทางนั้นเรียกร้องให้รับผิดชอบที่ทำลูกสาวเขาเสียห
Talk - คาแลนตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน สองมือกำแน่นก้มหน้าก้มตา ภาพเลือดที่ไหลออกมาจากตรงนั้นยังติดตา เกือบสติหลุดที่เห็นมิลาหมดสติไป“มิลาเป็นอะไร” คัลเลนเพิ่งมาถึงโรงพยาบาลมันรีบเดินมาถาม ผมได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้มตอนนี้ผมกำลังกลัว กลัวทุกอย่าง“จู่ ๆ ทำไมถึงเกิดเรื่องขึ้น”“ลี่เอาเหล้ามาให้กู ใครจะไปคิดว่าเธอใส่ยาลงไปในแก้วนั้น” ผมบอกพร้อมมือที่กำแน่นกว่าเดิมหลังจากโดนยาลี่พยายามยัดเยียดตัวเองให้กับผม โชคดีที่ตอนนั้นยังพอมีสติเอาตัวเองออกมาจากห้องน้ำได้ แต่ตอนทำกับมิลาในรถผมไม่รู้ตัวเลยว่ารุนแรงไปขนาดไหนเลือดถึงได้ไหลออกมาเยอะขนาดนั้น“ผู้หญิงคนนี้แม่งน่ากลัวฉิบหาย!!”“จัดการถอนหุ้นและยุติงานในเครือเว่ยหลินให้หมด ครั้งนี้ต่อให้คุณเฉียงมาอ้อนวอนกูจะไม่ให้อภัย”“อืม เดี๋ยวกูจัดการให้มึงไม่ต้องห่วง ตระกูลนี้ถูกจดลงบัญชีดำแน่ ๆ”“อาการมิลาเป็นยังไงบ้างคะ” เกลลินเอ่ยถามผมด้วยท่าทางเป็นห่วง“เลือด… มีเลือดไหลออกมา” ผมตอบเสียงสั่นสองมือกำแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นขณะที่นั่งรอผ่านไปครู่ใหญ่ประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกผลักพร้อมหมอที่แทรกตัวออกมายืนด้านหน้า ผมรีบลุก
ริมฝีปากบางถูกบดขยี้อีกครั้ง มิลาพยายามดันตัวเองออกเพราะเจ็บกับสัมผัสดูดดึงของคนตัวสูงที่ขาดสติ เมื่อถูกขัดใจเธอก็ถูกคนตัวโตใช้สายตาคมจ้องเขม็งยาปลุกเซ็กส์ทำให้คาแลนไม่ใช่ผู้ชายอ่อนโยนอีกต่อไป อารมณ์ของเขาเต็มไปด้วยความรุนแรงอยากจะฉีกเสื้อผ้าของว่าที่ภรรยาคนสวยออกเป็นชิ้น ๆมือหนาเปิดประตูรถยนต์ก่อนจะจับร่างบางยัดเข้าไปข้างในตรงเบาะหลัง“เฮียมีสติหน่อยได้ไหมคะ”เสียงหวานพยายามเตือนสติแต่ไม่ได้ผล เมื่อประตูรถปิดลงร่างหนาก็นั่งลงข้าง ๆ เร่งปลดหัวเข็มขัดและตะขอกางเกง เห็นแบบนั้นทำให้มิลากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่คว้ามือกำเส้นผมนุ่นแล้วกดลงมาตรงเป้ากางเกง ใช้แท่งเนื้อร้อนถูเบา ๆ บนกลีบปากกระจับ“ช่วยทำให้มันสงบลงหน่อย” เสียงทุ้มกระเส่ามองใบหน้าสวยที่กำลังหวาดกลัวจากกระกระทำที่รุนแรงมิลาค่อย ๆ ลดตัวนั่งลงด้านล่างแทรกตรงกลางท่อนขาแกร่ง และใช้ปากของตัวเองตามคำสั่งของคนที่โดนยา เธอรู้ว่าเขากำลังทรมานและเต็มใจช่วย“หนู ซี๊ด~”ริมฝีปากบางดูดดุนแท่งเนื้อขนาดใหญ่คับปากจนเปื้อนน้ำลายสีใส ยิ่งเอาเข้าไปลึกจนสุดลำคอก็ยิ่งถูกใจอีกคน“เธอทำอะไรเฮียบ้าง” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาถามพร้อมใช้มือชักรูดแก่นกายใหญ่ไ
งานเลี้ยงตระกูลเว่ยหลิน ฉันอยู่ในชุดราตรีลายลูกไม้สีครีมเดินเข้ามาในงานคู่กับคาแลนที่อยู่ในชุดสูทสีขาวน้ำเงินงานจัดขึ้นยิ่งใหญ่สมเกียรติมีแขกมากหน้าหลายตาเดินหลั่งไหลเข้ามาภายในงานรวมทั้งนักข่าวที่รัวแสงแฟลชถ่ายภาพราวกับคนที่มาร่วมงานนี้เป็นดาราชื่อดังยิ่งตอนคาแลนเดินคู่กับฉันมีเสียงฮือฮาของคนที่ได้พบเห็นดังขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากเหตุการณ์ที่เขาหายไปเหมือนคนที่ตายแล้ว ไม่มีใครคิดว่าจะกลับมา คนที่ได้เจอตัวเป็น ๆ ถึงกับยกมือขึ้นป้องปากทำตาโตอย่างเหลือเชื่อ“เป็นเกียรติมากเลยค่ะที่พี่คาแลนกับว่าที่ภรรยามาร่วมงานในวันนี้” คุณหนูลี่เดินมาต้อนรับเราสองคน ก่อนจะพาเดินมายังโต๊ะที่จัดเตรียมเอาไว้ให้เป็นโต๊ะที่อยู่ติดหน้าเวที คุณคัลแลนและภรรยาก็มางานนี้เหมือนกัน รวมถึงคุณพ่อของเขาด้วยแต่ท่านนั่งแยกอีกโต๊ะร่วมกับตระกูลเว่ยหลินที่อยู่ใกล้ ๆ กันนั่งรอที่โต๊ะไม่นานคัลเลนและภรรยาก็มาถึง เราไม่ได้พาลูกมาด้วยเพราะเป็นงานใหญ่ไม่เหมาะที่จะพาเด็ก ๆ มา“คุณเกลลินสวยมากเลยค่ะ” ฉันเอ่ยชมคุณเกลที่อยู่ในชุดราตรีสีขาว เธอสวยมาก ๆ ตอนเดินตีคู่มากับคัลเลนยิ่งเห็นว่าทั้งสองเหมาะสมกันมากจริง ๆ“คุณมิลาก็สวยมาก ๆ เ