คำทักทายของฉันทำให้คุณป๋าถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะผายมือไปที่ดอกกุหลาบช่อโตตรงหน้า “เธอว่ากุหลาบช่อนี้สวยมั้ย” “ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นก็คงจะตอบว่าสวยสินะคะ แต่สำหรับหนูมันไม่สวยเลยสักนิด” ฉันตอบปัดๆ อย่างขอไปที ก่อนจะเดินผ่านหน้าคุณป๋าเพื่อจะเข้าไปในห้องนอน “ฉันซื้อมาให้เธอ” เสียงคุณป๋าพูดขัดไว้ก่อน ทำให้ฉันหยุดเดินแล้วหมุนตัวกลับไปมองคุณป๋า ในตอนนี้คุณป๋าลุกขึ้นยืนพร้อมกับถือดอกไม้เอาไว้ในอ้อมแขน “ซื้อมาให้หนูทำไมหรอคะ ?” หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวแต่เมื่อนึกถึงภาพที่ผู้หญิงคนนั้นนวดให้คุณป๋ามันก็ทำให้ฉันโกรธขึ้นมาอีกครั้ง คุณป๋าเดินมาหาฉันพร้อมกับกุหลาบช่อโต “แทนคำขอโทษจากฉัน”พูดจบคุณป๋าก็ยื่นช่อกุหลาบมาให้ แต่ฉันไม่ได้รับไว้และทำเมินใส่เหมือนไม่ได้สนใจช่อกุหลาบตรงหน้าสักเท่าไหร่ “ขอโทษทำไมหรอคะ คุณป๋าทำอะไรผิด?” ฉันกอดอกถาม คุณป๋าถอนหายใจออกมาเบาๆ “ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วทำไมเธอถึงโกรธฉัน” “ใครโกรธคะ หนูหรอ เปล่านะคะหนูไม่ได้โกรธ” ฉันเบือนหน้าหนีไปทางอื่นหลังจากพูดจบ แต่จู่ๆ ก็ถูกมือหนาจับปลายคางให้หันหน้ามาทางคุณป๋าอีกครั้ง “ฉันไม่ชอบที่จะต้องมาคอยเอาใจผู้หญิงคนไหน…”“แล้ว
ทั้งฉันและคุณป๋าต่างมองตากัน บรรยากาศภายในห้องเงียบสนิทเงียบสะจนได้ยินเสียงของเครื่องปรับอากาศ ริมฝีปากหนากดจูบลงมาบนริมฝีปากของฉัน และบดขยี้ก่อนจะค่อยๆ ดันลิ้นร้อนๆ เข้ามาสำรวจภายในโผลงปากอย่างดูดดื่ม“อื้ม~” เสียงทุ้มของคุณป๋าครางในลำคออย่างพึงพอใจที่ฉันยอมเปิดปากให้ เนิ่นนานที่ฉันกับคุณป๋าจูบกัน จนทุกอย่างมันกำลังจะเลยเถิด ฉันจึงเป็นฝ่ายผละริมฝีปากออกก่อน “ทำไม…” คุณป๋าถาม ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความต้องการ “คุณป๋าคิดยังไงกับหนูหรอคะ บอกก่อนได้มั้ย…” ฉันตั้งหน้าตั้งตารอฟังคำตอบ แต่คุณป๋ากลับเงียบไปเป็นเวลานาน ทำให้ฉันพอจะเดาได้แล้วว่าคำตอบคืออะไร “หนูไม่อยากรู้…”“ฉันชอบเธอ” คุณป๋าพูดขัดขึ้นมา ก่อนจะหลบสายตาของฉันที่จ้องมองอยู่ทันทีที่พูดจบ “และฉันก็ไม่สนว่าเธอจะเคยอยู่ในสถานะลูกเลี้ยงของฉันมาก่อน” ฉันตกใจราวกับว่าตอนนี้โลกทั้งใบมันกำลังค่อยๆ หยุดหมุน หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัว ได้แต่เฝ้าถามตัวเองในใจว่าเมื่อกี้ที่ฉันได้ยิน มันคือเรื่องจริงใช่มั้ย “ฉันคงไม่ต้องถามว่าเธอคิดยังไง เพราะอาการเธอมันฟ้องว่าเธอก็คิดไม่ต่างจากฉัน” คุณป๋าพูดออกมาอย่างมั่นใจ และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ฉันคิดไ
เช้าวันใหม่…กับความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปแสงแดดยามเช้าเล็ดลอดผ่านช่องผ้าม่านลาดส่องเข้ามาในห้อง ทำให้ฉันที่นอนหลับอยู่บนท่อนแขนแกร่งของคุณป๋าค่อยๆ ลืมตาขึ้น สานตาของฉันโฟกัสมองเห็นคุณป๋าเป็นคนแรก ทำให้หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัว เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันตื่นขึ้นมาแล้วเจอคุณป๋าที่นอนอยู่ข้างๆ และนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันยิ้มให้คุณป๋าที่กำลังนอนหลับอยู่อย่างมีความสุขฉันพลิกตัวไปหยิบโทรศัพท์เพื่อมาดูเวลา เห็นว่าเหลือเวลาอีกสามชั่วโมงกว่าจะไปมหาวิทยาลัย ฉันจึงค่อยๆ พยุงร่างเปลือยเปล่าของตัวเองลุกขึ้นนั่งช้าๆ เพราะกลัวคุณป๋าตื่น หมับ!! ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ลุกออกไปจากเตียง แขนแกร่งของคุณป๋าก็คว้าเอวฉันเอาไว้ซะก่อน “จะหนีฉันไปไหน” เสียงทุ้มเอ่ยถามทั้งที่ยังหลับตาอยู่“หนูจะไปอาบน้ำ ไม่ได้จะหนีค่ะ” “เดี๋ยวค่อยอาบพร้อมกัน นอนลงก่อน” ไม่พูดเปล่า คุณป๋าใช้แขนกดตัวฉันให้นอนราบลงไปข้างๆ ตัวเองอีกต่างหาก แถมยังกำชับกอดแน่นอีกด้วย“ไม่ให้อาบน้ำด้วยแล้วนะคะ” “ทำไม” ครั้งนี้คุณป๋ายกหัวขึ้นจากหมอนแล้วมองฉันตาเขม็ง “ก็กว่าจะได้อาบน้ำ ตัวเปื่อยหมดพอดี ไม่เอาแล้วค่ะ”“ฉันยังไม่ได้พูดเลยนะว่าจะทำ….”“ปกติเว
หลังจากเรียนเสร็จแยกย้ายกับเพื่อน ฉันก็บอกให้พี่กล้ามาส่งที่บ่อนคาสิโน จะมาเช็คดูสักหน่อยว่าคุณป๋าจะเลิกยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นได้จริงหรือเปล่า ถ้าเกิดว่าฉันเห็นอะไรที่ไม่ชอบมาพากลนะ คุณป๋าได้เจอดีแน่ๆ ในตอนนี้ฉันยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงานของคุณป๋า ทำใจสักครู่ใหญ่กว่าจะค่อยๆ เอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูแง้มๆ มองดูภายในห้อง แต่!!! ดันสบตาเข้ากับคุณป๋าที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงาน กำลังเงยหน้ามามองฉันอยู่พอดี ฉันจึงยิ้มแห้งแก้เก้อ ก่อนจะค่อยๆ แทรกตัวเข้าไปในห้องทำงานของคุณป๋า“ทำไมไม่บอกว่าจะมา ?” คุณป๋าเลิกคิ้วขึ้นถามก่อนจะวางปากกาในมือลง “หรืออยากมาแอบดูว่าฉันยุ่งกับผู้หญิงคนไหนหรือเปล่า”ฉันยิ้มให้คุณป๋าที่พูดออกมาอย่างรู้ทัน ก่อนจะเดินไปหย่อนก้นนั่งลงบนตักแกร่งอย่างถือวิสาสะ พลางยกมือขึ้นคล้องคอคุณป๋าไว้ แล้วกดจมูกลงบนแก้มของคุณป๋าเบาๆ มือหนาของคุณป๋าคล้องมากอดเองของฉันเอาไว้แบบหลวมๆ “ไม่คิดว่าที่หนูมาที่นี่ เพราะว่าหนูคิดถึงคุณป๋าบ้างหรอคะ”“ท่าทางของเธอมันฟ้องว่าเธอกำลังจับผิดฉันอยู่” “หรอคะ…” ฉันค่อยๆ ใช้มือลูบไล้แผงอกแกร่งเบาๆ อย่างยั่วยวน “ไปนั่งรอก่อน ฉันยังตรวจเอกสารไม่เสร็จ” คุณป
“จริงๆ เรื่องที่เราทะเลาะกันมันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยนะคะ ทำไมถึงต้องโมโหขนาดนี้” “ถ้าเธอยอมเปิดเผยกับทุกคนว่าเป็นอะไรกับฉัน ฉันก็จะอารมณ์ดี” “พักเรื่องนี้ไว้ก่อนดีกว่านะคะ” ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน แต่ถ้าความคิดเห็นยังไม่ตรงกันเราก็ไม่ควรเอามาพูดให้ทะเลาะกันไม่ใช่หรือไง “มันหน้าอายมากใช่มั้ย ?” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินไปหาคุณป๋า แล้วหย่อนก้มนั่งลงบนตักแกร่ง พร้อมกับซบหน้าลงบนแผงอกด้วยท่ามางที่ออดอ้อน “มันไม่ใช่เรื่องหน้าอายเลยค่ะ หนูแค่ยังไม่พร้อมเท่านั้นเอง” “แล้วเมื่อไหร่เธอจะพร้อม” “ขอเวลาหน่อยสิคะ ตอนนี้หนูก็ยังบอกไม่ได้…” ลมหายใจร้อนผ่าวของคุณป๋ากระทบลงมาโดนผิวเนื้อของฉัน ทำให้รับรู้ได้ว่าตอนนี้คุณป๋ายังไม่ได้ใจเย็นลงเท่าไหร่ “เราอย่าพูดถึงเรื่องนี้กันอีกเลยนะคะ” ทันทีที่จบคำพูดของฉัน คุณป๋าก็ยกตัวฉันลอยขึ้น แล้ววางลงตรงที่นั่งข้างๆ ตัว ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ฉันจะกลับบ้าน” ฉันรีบคว้ามือคุณป๋าเอาไว้ก่อนที่จะเดินไปยังประตูห้อง “ไม่นอนด้วยกันหรอคะ” “ไม่มีอารมณ์!!” คุณป๋าตอบอย่างหงุดหงิด คนแก่นี่ทำไมเอาแต่ใจขนาดนี้นะ แถมยังเอาใจยากอีกต่างหาก “…ถ้าหนูบอ
หลังจากยั่วโมโหคุณป๋าสำเร็จแล้ว ฉันก็บอกไปว่าจะออกไปหาที่รถ แต่ก็ยังไม่ได้รีบร้อนเดินออกไปหาคุณป๋าซะทีเดียว เพราะฉันเลือกที่จะนั่งดื่มต่อที่โต๊ะก่อน“อารมณ์ดีอะไรมา ตอนแรกเห็นทำหน้าบึ้ง ตอนนี้กลับเอาแต่ยิ้ม” เอวาถามฉัน “แกไม่ต้องรู้หรอก ^_^” ฉันยิ้มให้เอวาก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ติ่ง~ เสียงแชตเด้งเข้าโทรศัพท์ ทำให้ฉันรีบก้มดูทันที และรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นข้อความจากคุณป๋าแน่ๆ คุณป๋า: สิบนาทีคุณป๋า: เธอทำอะไรอยู่ห๊ะ!! สรุปจะให้ฉันเข้าไปลากตัวเธอออกมาใช่มั้ยฉันยกเหล้าดื่มอีกแก้วก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะโดยมีสายตาของเอวาและฟาร์นจับจ้องอยู่ “จะไปไหนอีกเมล เธอเป็นคนชวนมานะ” ฟาร์นถาม “ไปธุระแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวฉันกลับเข้ามา” “แน่นะเมเบล ?” เอวาทำหน้าไม่เชื่อ “เธอต้องแอบซ่อนผู้ชายเอาไว้แหงๆ เลย ท่าทางมีพิรุธแบบนี้”“บ้าหรอ!! ไร้สาระ” ฉันตอบแบบขอไปทีก่อนจะฉีกยิ้มให้เพื่อนแล้วเดินออกไปจากคลับ สายของคุณป๋าโทรเข้ามาเป็นสายที่สองแล้ว แต่ฉันไม่ได้กดรับ ตอนนี้กำลังยืนอยู่ที่ด้านหน้าคลับแล้วมองหารถของคุณป๋าอยู่ ไม่นานสายตาของฉันก็เพ่งไปเจอกับรถของคุณป๋าที่กำลังจอดอยู่ ไม่รอช้าฉันรีบเดินไปเปิดประต
เมื่อท่อนเอ็นลำใหญ่ถูกสอดใส่เข้ามาในร่องแคบ แทนที่ฉันจะผลักไสแต่ร่างกายมันกลับตอบรับเป็นอย่างดี ข้างในตัวมันร้อนระอุและกำลังจะแตกออกเป็นเสียงๆ เมื่อถูกคุณป๋าที่นอนราบอยู่ตรงเบาะกระแทกเอวสอบสวนขึ้นมา “อ๊า อ๊า อ๊าง~” ฉันครางออกมาเสียงดังก่อนจะกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ปัก ปัก ปัก เสียงจากแรงกระแทกของคุณป๋าดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของฉันสั่นกระเพื่อมอย่างรุนแรงจนหัวกระแทกเข้ากับพื้นด้านบนของรถหลายต่อหลายครั้ง “อ๊า ซี๊ด” คุณป๋าครางออกมาอย่างพึงพอใจก่อนจะใช้นิ้วใหญ่มาบดขยี้ติ่งเกสรของฉันไปพร้อมๆ กับกระแทกท่อนเอ็นรัวเข้ามาในร่องแคบ “อึก อ๊า บะ เบาๆ อื้อ” เสียงกระท่อนกระแท่นของฉันเอ่ยบอกไปด้วยความรู้สึกที่จุกบริเวณท้องน้อย เมื่อถูกคุณป๋ากระแทกท่อนเอ็นสวนขึ้นมารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ “ฉันกำลังลงโทษเธออยู่ อ๊า” มือหนาข้างที่ยังว่างอยู่ของคุณป๋าถูกยื่นขึ้นมาบีบเค้นหน้าอกทั้งสองเต้าของฉันสลับกัน ไม่นานคุณป๋าก็ดันตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วใช้ริมฝีปากตะโบมดูดดุนหน้าอกของฉันอย่างหื่นกระหาย ความรุนแรงของการกระแทกท่อนเอ็นยังคงทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ คุณป๋าไม่ได้ฟังสิ่งที่ฉันอ้อนวอนเลย ในขณะที่ร่างกายของฉันสั
1 เดือนผ่านไป ฉันกำลังนั่งเครียดคิดไม่ตกในขณะที่กำลังเรียนอยู่สมองมันก็เอาแต่คิดหนัก ก็เพราะว่าประจำเดือนของฉันน่ะสิ ยังไม่มาเลยตั้งแต่เดือนที่แล้ว ทั้งที่กินยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว จริงๆ การที่ประจำเดือนมันจะไม่มาหนึ่งเดือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากนัก เพราะฉันก็เคยเป็นบ่อยๆ ที่บางเดือนประจำเดือนก็เว้นไป แต่!!! ที่ต้องมานั่งเครียดก็เพราะคุณป๋านั่นแหละ ถ้าวันนั้นคุณป๋าไม่ปล่อยใน ฉันก็คงไม่ต้องมาเครียดแบบนี้ “เมเบล เมเบล!!” “อ่ะ ห๊ะๆ ว่าไงเอวา” “แกเหม่ออีกแล้วนะ ช่วงนี้เอาแต่นั่งเหม่อทุกวัน มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” เอวาถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงฉันเอามากๆ “เปล่าหรอกๆ” ฉันรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “อื้อ พักนี้ทำไมฉันเห็นอาหิรัญมาที่ห้องแกบ่อยจัง ?” เฮือก!! จู่ๆ ก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเจอคำถามของเอวา “เป็นอะไรไปอีกหน้าซีดเชียว” ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้เอวาถึงถามมากจัง แล้วแต่ละคำถามก็ทำเอาฉันหนักใจทั้งนั้น “ฉะ ฉันปวดหัวนิดหน่อยน่ะ เรียนเสร็จแล้วกลับกันเถอะ” ฉันเห็นว่าอาจารย์เดินออกจากห้องไปแล้วจึงพูดเบี่ยงเบนความสนใจของเอวา เอวาพยักหน้ารับก่อนจะเก็บปากกาใส่กระเป๋า วันนี้ฟาร์นไม่ได้มาเรียน
คุณป๋ายืนกอดอกทำหน้ายักษ์ไม่รับมุกที่ฉันส่งไปให้ ใจคอจะตีฉันด้วยไม้เรียวนี่จริงๆ หรือไง“เลือกได้หรือยัง” คุณป๋าถามเสียงเข้ม สมองของฉันคิดอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องอย่างว่า ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหยุดตรงหน้าของคุณป๋า“เลือกได้แล้วค่ะ” “เลือกอันไหนก็หยิบขึ้นมา”ฉันวางมือลงบนแผงอกแกร่ง แล้วค่อยๆ เลื่อนมือลงช้าๆ ลูบไล้ซิกแพ๊คแน่นๆ กำยำของคุณป๋าลงมาคลำตรงเป้ากางเกง“หนูเลือกอันนี้ค่ะ ^_^” “เมเบล!!” คุณป๋าดุฉันอีกแล้ว คอยดูเถอะจะทำให้ครางลั่นห้องเลย “ก็เลือกแล้วนี่คะ เอามันมาฟาดหนูสิ” ฉันปล่อยมือออกจากเป้ากางเกงของคุณป๋า ก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงอย่างเชื้อเชิญให้คุณป๋าอดใจไม่ไหว คุณป๋ามองเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของฉันตาไม่กระพริบ พร้อมกับขบกรามแน่นเพื่อระงับอารมณ์กามของตัวเอง “นิ่งอยู่ทำไมล่ะคะ ไม่อยากตีหนูแล้วหรอ”“จะดื้อไปถึงไหนห๊ะ!!”“หนูเปล่าดื้อสักหน่อย” คุณป๋าเดินตรงมาหาฉัน ก่อนจะกดร่างของฉันให้นอนราบไปกับที่นอนแล้วขึ้นมาคร่อม “ชอบแบบนี้ ?” “ใครบ้างอยากโดนตีล่ะคะ” ฉันยกมือขึ้นคล้องคอของคุณป๋าเอาไว้ “อยากโดนคุณป๋าปู้ยี่ปู้ยำมากกว่า ^
3 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ฉันแต่งงานกับคุณป๋าแล้ว แต่งแบบงงๆ ในตอนนั้นที่คุณป๋าคุกเข่าขอฉันแต่งงาน หลังจากนั้นสองอาทิตย์เราทั้งคู่ก็จูงมือกันเข้าหอ จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ผ่านมสฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคุณป๋าดูแลฉันดีมาก และซื่อสัตย์กับฉันอย่างที่เคยสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ทำให้ฉันเสียใจ แต่!!! หนึ่งเรื่องที่ฉันไม่ชอบเลยคาอเรื่องห้าม ห้ามใส่สั้น ห้ามมองผู้ชาย ห้ามไปเที่ยวคลับ ในตอนนี้ฉันแทบจะเก็บกดตายอยู่แล้ว “เมเบลดื่มดิวะ แมลงวันลงไปวางไข่ในแก้วแล้วมั้งนั่น” ฟาร์นบอกพร้อมกับโยกตัวไปมาตามเสียงเพลง ในตอนนี้ฉันอยู่ที่คลับกับฟาร์นและเอวา ไม่ต้องแปลกใจว่าฉันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง ก็เพราะว่าคุณป๋าไปธุระที่ต่างประเทศน่ะสิ ไปหนึ่งอาทิตย์ แน่นอนว่าฉันที่เก็บกดมานานสามปีต้องไม่พลาดโอกาสทองแบบนี้แน่ ฉันออกมาดื่มกับเพื่อนทุกวันหลังจากที่คุณป๋าบินไปต่างประเทศ คิดดูสิว่าเก็บกดมากขนาดไหน แล้วฉันก็กำชับพวกลูกน้องของคุณป๋าเอาไว้แล้วทุกคนว่าห้ามปริปากฟ้องเรื่องที่ฉันมาเที่ยว ไม่อย่างนั้นจะไล่ออกให้หมด แน่นอนว่าทุกคนเชื่อฟัง เพราะในตอนนี้ฉันก็เปรียบเสหมือนคุณหญิงของบ้านฉันยกแก้วข
ในตอนนี้ฉันกำลังนั่งทำแผลให้กับคุณป๋าอยู่ คิดแล้วก็ขำ ใครจะไปคิดว่าคุณป๋าจะมีมุมที่อ่อนแอแบบนี้ ความรักมักทำให้คนอ่อนแอเสมอ “ห้ามโดนน้ำนะคะเดี๋ยวแผลจะอักเสบ” “เป็นหมอหรือไง” คุณป๋าทำหน้ามุ่ยใส่ฉัน “เป็นเมียคุณหิรัญค่ะ ^_^” พอฉันพูดแบบนั้นคุณป๋าก็หน้าแดงขึ้นมาเฉียบพลัน ก่อนที่จะคว้ามือมาดึงตัวฉันไปสวมกอด เสียงหัวใจของคุณป๋ามันกำลังเต้นรัว ทำให้ฉันอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ในตอนนี้บรรยากาศภายในห้องเงียบสนิท มีเพียงเสียงหัวใจของฉันกับคุณป๋าที่มันกำลังเต้นรัวแข่งกัน “คุณป๋าเคยคิดจะแต่งงานบ้างมั้ยคะ…” ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ฉันเอ่ยถามคำนี้ออกไป “ทำไมจะไม่เคย แต่พอมาคิดๆ ดูแล้วงานแต่งงานมันก็ไม่ได้สำคัญไปมากกว่าที่วันนี้เธออยู่กับฉัน” พูดจบคุณป๋าก็ผละกอดออก มือหนาช้อนปลายคางของฉันให้เงยขึ้นมองตัวเอง “ถามแบบนี้แปลว่าเธออยากแต่งงาน ?”“มะ ไม่หรอกค่ะ หนูยังไงก็ได้ตามใจคุณป๋า เพราะสถานะของเราด้วย คงยากที่คนอื่นจะยอมรับ” ฉันยื่นริมฝีปากไปหอมแก้มคุณป๋า “แค่ตอนนี้คุณป๋ารักและซื่อสัตย์กับหนู หนูก็ดีใจมากกว่าการได้ใส่ชุดเจ้าสาวอีกค่ะ” “พรุ่งนี้จะมีงานจัดเลี้ยงของบริษัท ไปกับฉันนะ ในฐานะเ
ถึงจะคิดว่าคุณป๋าไม่ได้อยู่หน้าประตูแล้วแต่ฉันก็ยังโวยวาย เอาแต่ทุบประตูห้องอยู่แบบนั้นเผื่อคุณป๋าจะเห็นใจกลับมาเปิดให้ “อื้อ หนูทุบประตูจนมือแดงหมดแล้วนะคะ” ฉันแสร้งทำเป็นพูด ถ้าคุณป๋าแอบฟังอยู่คงจะเห็นใจ นี่ฉันเป็นเมียเชียวนะ จะใจดำขนาดนั้นหรือไง แต่!!! ไร้สัญญาณใดๆ จากด้านนอก เงียบกริบไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น “คุณป๋าหนูปวดฉี่ ฉี่จะลาดแล้ว” ปังๆๆๆๆ พูดจบฉันก็ทุบประตูห้องรัวๆ “คุณป๋าหนูพูดจริงๆ นะ เปิดประตูให้หน่อย หนูจะไม่ทำแล้ว ไม่ดื้อแล้ว” ไม่ว่าจะตะเบ็งเสียงออกไปเท่าไหร่ก็ไร้วี่แววจากนั้นด้านนอก ถ้าคุณป๋าคิดจะขังฉันไว้ในห้องนี้ถึงเช้าจริงๆ ฉันจะหักเงินจากวันละสามร้อยให้เหลือวันละร้อยห้าสิบเลยคอยดูเถอะ!!ฉันนั่งลงที่พื้นอย่างหมดแรง ทั้งแหกปากตะโกนทั้งทุบประตูห้องผ่านไปครึ่งชั่วโมงทุกอย่างยังคงเงียบ ฉันก้มหน้าลงดูมือของตัวเองทั้งสองข้างที่แดงเถือกจากกับเคาะประตูรัวๆ ติดกันเป็นเวลานาน“ไม่คิดเลยว่าคุณป๋าจะใจดำได้มากขนาดนี้” ฉันพัดพ้อออกมาเพราะความโกรธ ใช่! ฉันเองที่ผิดไปยั่วโมโหคุณป๋าทำให้ฟิวขาด แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคุณป๋าจะมาขังไว้แบบนี้ ที่คิดไว้มันคนละแบบกันเลย ป่านนี้ไม
น้ำเสียงอำมหิตของคุณป๋าทำให้ขนทั้งตัวของฉันมันลุกซู่ คืนนี้คงจะเจอศึกหนักอีกแล้วสินะ ไหนๆ ก็จะเจอศึกหนักแล้วขอแกล้งหน่อยแล้วกัน อยากเห็นจังว่าเวลาคนแก่หึงมากๆ จะเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นหรอกเพราะปกติคุณป๋าก็ขี้หึง แต่ครั้งนี้อยากทำให้หึงสุดๆ ไปเลย แล้วก็ไปจบที่เตียง คืนนี้ฉันคงต้องร้องขอชีวิตกับคุณป๋าอีกแน่ๆ “นี่เอวาไปเข้าห้องน้ำกัน ^_^” เอวามองฉันอย่างแปลกใจที่จู่ๆ ฉันก็ชวนไปห้องน้ำ คุณป๋าที่ได้ยินฉันพูดจึงกระตุกแขนเบาๆ แล้วพูดเสียงเข้ม “ถ้าอยากไปเข้าห้องน้ำ ฉันจะพาไป” “ไม่เอาค่ะ หนูอยากไปกับเอวามากกว่า” ฉันรีบปฏิเสธ ขืนให้ไปด้วยก็ไม่สนุกสิ ฉันตั้งท่าจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่คุณป๋าไม่ยอมปล่อยมือที่รั้งเอวของฉันอยู่ ฉันจึงหันไปทำหน้าดุใส่ “ปล่อยนะคะ” คุณป๋าพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ดูก็รู้ว่าไม่อยากให้ฉันลุกขึ้นจากตักของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมปล่อยมือออก ฉันจับมือเอวาให้ลุกขึ้น ก่อนจะจูงมือพาเดินเข้ามาในบ้าน “เดี๋ยว! ห้องน้ำอยู่ทางนั้นแกจะไปไหนเมเบล” เอวาชี้ไปทางห้องน้ำชั้นล่างของบ้าน“ใครบอกว่าฉันอยากจะมาเข้าห้องน้ำจริงๆ ล่ะ”“หื้อ อะไรของแกเนี่ยเมเบล” “ตามมาเถอะน่า ถามเยอะจริ
เลิกเรียน ฉันนัดกับเพื่อนและพี่กินให้มาที่บ้านของฉันตอนหนึ่งทุ่ม พอขึ้นมาบนรถฉันก็รีบบอกคุณป๋าไว้ก่อนว่าวันนี้เพื่อนจะมาที่บ้าน “วันนี้หนูนัดเอวากับฟาร์นให้มาปาร์ตี้ที่บ้านนะคะ” ฉันบอกแต่บอกไม่หมด เพราะไม่ได้บอกว่าพี่ดินจะมาที่บ้านด้วยเหมือนกัน“ปาร์ตี้ ?” คุณป๋ามองหน้าฉันแล้วขมวดคิ้วเป็นปม “ก็ใช่ไงคะ ขอไปคลับคุณป๋าก็ไม่อนุญาต หนูเลยชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้าน”“ทำไมถึงไม่ถามฉันก่อน ?” “ทำไมล่ะคะ หนูไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรตามใจตัวเองเลยหรือไง ต้องขออนุญาตทุกครั้งเลยใช่มั้ยคะ” คุณป๋าถอนหายใจออกมาเบาๆ “มันไม่ใช่แบบนั้น ฉันก็แค่อยากให้เธอบอกก่อน”“นี่ไง หนูก็บอกคุณป๋าอยู่นี่ไงล่ะคะ” ทั้งฉันและคุณป๋าต่างก็ทำเงียบใส่กัน อยากจะงอนก็งอนไปเถอะวันนี้ฉันไม่ง้อหรอก ไม่ยอมให้ฉันไปเที่ยวดีนัก อีกอย่างฉันก็แค่ชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้านเอง นี่แหละ ฉันกับคุณป๋ามักจะงอนกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องประจำ พอมาถึงบ้านคุณป๋าก็เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้น เดินมาเปิดประตูรถให้ แต่ยังฟอร์มอยู่ “ฝากบอกให้พี่กล้าจัดเตรียมของที่สระว่ายน้ำด้วยนะคะ เดี๋ยวหนูจะขึ้นไปอาบน้ำ” ฉันออกคำสั่ง “ห้ามใส่บิกินี่” คุณป๋าชี้หน้าฉันออกคำสั
ฉันนั่งหน้าบึ้งภายในรถโดยมีคุณป๋าเป็นคนมาส่งที่มหาวิทยาลัย จะให้หน้าบึ้งได้ไงล่ะ ก็เพราะคุณป๋าน่ะสิ หยิบกระโปรงตัวที่ยาวคลุมตาตุ่มมาให้ใส่ คิดแล้วก็ไม่น้าเก็บกระโปรงตัวนี้เอาไว้เลย คอยดูเถอะกลับบ้านไปฉันจะเผามันทิ้งซะ!!“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย” คุณป๋าหันหน้ามาบอกในขณะที่กำลังขับรถอยู่ “ไม่ต้องมาพูดกับหนูเลย!!” “แค่ให้ใส่กระโปรงยาวแค่นี้ ต้องโกรธฉันมากขนาดนั้นเลยหรือไง”“ยาวแค่นี้ พูดมาได้ไงว่ายาวแค่นี้ อีกนิดเดียวก็จะลากดินอยู่แล้วนะคะ” “มันก็ดูเหมาะกับเธอดี” คุณป๋าทำหน้ากวน เหอะ! เหมาะอะไรล่ะ “มีผัวแล้วจะใส่สั้นๆ ไปอ่อยใคร!!” เอ้า! จู่ๆ คุณป๋าก็ทำเสียงดุใส่ฉันเฉยเลย แถมยังทำหน้าบึ้งอีกด้วย “อื้อ กระโปรงยาวแบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะคะ ใส่สบายด้วย ^_^” ต้องเป็นฉันที่เป็นฝ่ายยอมอ่อนข้อให้ เพราะไม่อยากจะทะเลาะกันให้ยืดยาว “อยู่เป็น” คุณป๋าพึมพำออกมาเบาๆ ทำให้ฉันจิ๊ปากใส่ แต่ก็แอบๆ ทำเพราะเดี๋ยวจะงอนอีก ยิ่งช่วงนี้คนแกยิ่งชอบอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ด้วย #มหาวิทยาลัย“หื้อ! เอวาเธอช่วยฉันดูทีว่าไม่ได้ตาฟาดไปใช่มั้ย วันนี้เมลมันใส่กระโปรงแทบจะลากดินเลยว่ะ” พอมาถึงฟาร์นมันก็พูดล้อฉันขึ้นมาทันท
เวลาล่วงเลยมาจนถึงวันที่มหาวิทยาลัยของฉันเปิดภาคเทอม…วันนี้คุณป๋าจะต้องไปส่งฉันที่มหาวิทยาลัยด้วยตัวเองและไปรับ นี้ไม่ใช่กฏที่ตัวฉันตั้งขึ้น แต่เป็นกฏของคุณป๋าเองต่างหาก แถมยังสั่งห้ามไม่ให้ฉันมองผู้ชายคนไหนอีกด้วย “ขอยกเว้นพี่ดินสักคนไม่ได้หรอคะ” ฉันอ้อนคุณป๋าในขณะที่กำลังแต่งตัวอยู่ พี่ดินคือพี่ชายที่แสนดีคนหนึ่ง เขาเคยช่วยฉันในหลายเรื่อง จะให้ฉันทำเมินใส่เขาคงไม่ได้“ไม่ได้!!” คุณป๋าตอบเสียงแข็ง“หัดมีเหตุผลบ้างสิคะ” “จะใส่ใจมันทำไมนักหนา!!” อีกแล้ว พูดถึงพี่ดินทีไรก็ทักจะมีปากเสียงกันตลอด ล่าสุดฉันขอไปกินข้าวกับพี่ดิน อย่กจะเลี้ยงขอบคุณเขาก็ถูกห้ามแล้วก็มีปากเสียงกันใหญ่โต “เขาเป็นคนดีนะคะ”คุณป๋าเงียบทำเมินไม่สนใจคำพูดของฉัน ก็ได้ถ้าอยากจะเมินใส่กันแบบนี้ ฉันเอื้อมมือหยิบกระโปรงนักศึกษาตัวที่สั้นที่สุดในตู้เสื้อผ้าออกมา แล้สสวมใส่มัน หลังจากที่ใส่กระโปรงแล้วก็หันกลับมามองคุณป๋า เห็นว่าตอนนี้คุณป๋ากำลังจ้องหน้าฉันตาเขม็งอยู่ “ไปส่งหนูได้แล้วค่ะ จะสายแล้ว”“ไม่คิดบ้างหรือไงว่ากระโปรงที่ใส่อยู่มันจะขัดหูขัดตาฉันขนาดไหน” คุณป๋าตวัดสายตาจ้องเขม็งมองกระโปรงของฉัน“หนูก็ใส่แบบนี้
เฮือก!! ใจมันกระตุกวูบทันทีเมื่อได้ยินคำพูดที่รู้ทันแผนการของคุณป๋า ใบหน้าของฉันซีดเผือดพร้อมกับมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมา ฉันหลับตาลงแล้วนับหนึ่งถึงสามในใจ ก่อนจะลุกขึ้นจากตักแกร่งแล้ววิ่งหนี แต่!! ทำได้เพียงแค่ลุกขึ้น ร่างของฉันก็ถูกคุณป๋าคว้าจับที่เอวเอาไว้ออกแรงดึงให้กลับมานั่งลงบนตักของตัวเองเหมือนเดิม บ้าที่สุด!! “คิดจะหนี มันง่ายไปหรือเปล่า” ฉันค่อยๆ หันหน้ามองคุณป๋าที่กำลังทำหน้ายักษ์ใส่ ก่อนจะตัดสินใจถาม “พะ พี่กล้าบอกหรอคะ” คุณป๋าส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ ได้ไง! ถ้าพี่กล้าไม่บอกแล้วคุณป๋าจะรู้ได้ยังไง “ฉันแอบฟังเธอคุยกับมัน” เฮือก!! ให้ตายเถอะ สรุปคือฉันพลาดที่ไม่ได้สังเกตอะไรให้ดีๆ ก่อนใช่มั้ย “ส่วนยานั่นที่เธอคิดว่าเป็นยานอนหลับ มันเป็นแค่ยาบำรุง” มือหนาจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้น “ฉันเป็นคนสั่งให้ไอ้กล้าเปลี่ยน”“……” ฉันค่อยๆ เม้มปากเข้าหากันแน่น ไม่รอดแน่ ถึงจะชอบเวลาที่มีอะไรกับคุณป๋า แต่ฉันไม่ค่อยชอบเลยเวลาที่ต้องถูกลงโทษ เพราะนั่นหมายความว่านอกจากคืนนี้จะไม่ได้ไปคลับแล้ว ฉันยังจะไม่ได้นอนอีกทั้งคืน คุณป๋ากดจูบหนักๆ ลงมาบนริมฝีปากของฉันเพื่อเป็นการลงโทษ ริมฝีปากมั