หลังจากยั่วโมโหคุณป๋าสำเร็จแล้ว ฉันก็บอกไปว่าจะออกไปหาที่รถ แต่ก็ยังไม่ได้รีบร้อนเดินออกไปหาคุณป๋าซะทีเดียว เพราะฉันเลือกที่จะนั่งดื่มต่อที่โต๊ะก่อน“อารมณ์ดีอะไรมา ตอนแรกเห็นทำหน้าบึ้ง ตอนนี้กลับเอาแต่ยิ้ม” เอวาถามฉัน “แกไม่ต้องรู้หรอก ^_^” ฉันยิ้มให้เอวาก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ติ่ง~ เสียงแชตเด้งเข้าโทรศัพท์ ทำให้ฉันรีบก้มดูทันที และรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นข้อความจากคุณป๋าแน่ๆ คุณป๋า: สิบนาทีคุณป๋า: เธอทำอะไรอยู่ห๊ะ!! สรุปจะให้ฉันเข้าไปลากตัวเธอออกมาใช่มั้ยฉันยกเหล้าดื่มอีกแก้วก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะโดยมีสายตาของเอวาและฟาร์นจับจ้องอยู่ “จะไปไหนอีกเมล เธอเป็นคนชวนมานะ” ฟาร์นถาม “ไปธุระแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวฉันกลับเข้ามา” “แน่นะเมเบล ?” เอวาทำหน้าไม่เชื่อ “เธอต้องแอบซ่อนผู้ชายเอาไว้แหงๆ เลย ท่าทางมีพิรุธแบบนี้”“บ้าหรอ!! ไร้สาระ” ฉันตอบแบบขอไปทีก่อนจะฉีกยิ้มให้เพื่อนแล้วเดินออกไปจากคลับ สายของคุณป๋าโทรเข้ามาเป็นสายที่สองแล้ว แต่ฉันไม่ได้กดรับ ตอนนี้กำลังยืนอยู่ที่ด้านหน้าคลับแล้วมองหารถของคุณป๋าอยู่ ไม่นานสายตาของฉันก็เพ่งไปเจอกับรถของคุณป๋าที่กำลังจอดอยู่ ไม่รอช้าฉันรีบเดินไปเปิดประต
เมื่อท่อนเอ็นลำใหญ่ถูกสอดใส่เข้ามาในร่องแคบ แทนที่ฉันจะผลักไสแต่ร่างกายมันกลับตอบรับเป็นอย่างดี ข้างในตัวมันร้อนระอุและกำลังจะแตกออกเป็นเสียงๆ เมื่อถูกคุณป๋าที่นอนราบอยู่ตรงเบาะกระแทกเอวสอบสวนขึ้นมา “อ๊า อ๊า อ๊าง~” ฉันครางออกมาเสียงดังก่อนจะกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ปัก ปัก ปัก เสียงจากแรงกระแทกของคุณป๋าดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของฉันสั่นกระเพื่อมอย่างรุนแรงจนหัวกระแทกเข้ากับพื้นด้านบนของรถหลายต่อหลายครั้ง “อ๊า ซี๊ด” คุณป๋าครางออกมาอย่างพึงพอใจก่อนจะใช้นิ้วใหญ่มาบดขยี้ติ่งเกสรของฉันไปพร้อมๆ กับกระแทกท่อนเอ็นรัวเข้ามาในร่องแคบ “อึก อ๊า บะ เบาๆ อื้อ” เสียงกระท่อนกระแท่นของฉันเอ่ยบอกไปด้วยความรู้สึกที่จุกบริเวณท้องน้อย เมื่อถูกคุณป๋ากระแทกท่อนเอ็นสวนขึ้นมารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ “ฉันกำลังลงโทษเธออยู่ อ๊า” มือหนาข้างที่ยังว่างอยู่ของคุณป๋าถูกยื่นขึ้นมาบีบเค้นหน้าอกทั้งสองเต้าของฉันสลับกัน ไม่นานคุณป๋าก็ดันตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วใช้ริมฝีปากตะโบมดูดดุนหน้าอกของฉันอย่างหื่นกระหาย ความรุนแรงของการกระแทกท่อนเอ็นยังคงทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ คุณป๋าไม่ได้ฟังสิ่งที่ฉันอ้อนวอนเลย ในขณะที่ร่างกายของฉันสั
1 เดือนผ่านไป ฉันกำลังนั่งเครียดคิดไม่ตกในขณะที่กำลังเรียนอยู่สมองมันก็เอาแต่คิดหนัก ก็เพราะว่าประจำเดือนของฉันน่ะสิ ยังไม่มาเลยตั้งแต่เดือนที่แล้ว ทั้งที่กินยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว จริงๆ การที่ประจำเดือนมันจะไม่มาหนึ่งเดือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากนัก เพราะฉันก็เคยเป็นบ่อยๆ ที่บางเดือนประจำเดือนก็เว้นไป แต่!!! ที่ต้องมานั่งเครียดก็เพราะคุณป๋านั่นแหละ ถ้าวันนั้นคุณป๋าไม่ปล่อยใน ฉันก็คงไม่ต้องมาเครียดแบบนี้ “เมเบล เมเบล!!” “อ่ะ ห๊ะๆ ว่าไงเอวา” “แกเหม่ออีกแล้วนะ ช่วงนี้เอาแต่นั่งเหม่อทุกวัน มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” เอวาถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงฉันเอามากๆ “เปล่าหรอกๆ” ฉันรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “อื้อ พักนี้ทำไมฉันเห็นอาหิรัญมาที่ห้องแกบ่อยจัง ?” เฮือก!! จู่ๆ ก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเจอคำถามของเอวา “เป็นอะไรไปอีกหน้าซีดเชียว” ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้เอวาถึงถามมากจัง แล้วแต่ละคำถามก็ทำเอาฉันหนักใจทั้งนั้น “ฉะ ฉันปวดหัวนิดหน่อยน่ะ เรียนเสร็จแล้วกลับกันเถอะ” ฉันเห็นว่าอาจารย์เดินออกจากห้องไปแล้วจึงพูดเบี่ยงเบนความสนใจของเอวา เอวาพยักหน้ารับก่อนจะเก็บปากกาใส่กระเป๋า วันนี้ฟาร์นไม่ได้มาเรียน
เวลาล่วงเลยผ่านมาจนถึงมหาวิทยาลัยใกล้จะปิดเทอม ความสัมพันธ์ของฉันกับคุณป๋าเป็นไปได้ด้วยดี ตั้งแต่วันแรกที่ฉันตัดสินใจคบกับคุณป๋าจนถึงวันนี้ ฉันก็ยังรู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจถูกแล้ว เพราะเวลาที่คุณป๋าอยู่กับฉันจะทำตัวน่ารักมาก และตอนนี้ฉันก็เริ่มคิดแล้วว่าจะบอกความสัมพันธ์ของเราให้กับคนอื่นรู้ ถ้าเกิดว่ามีใครถามฉันก็จะตอบไปตรงๆ ว่าฉันกับคุณป๋าเป็นอะไรกัน แต่ถ้าไม่มีใครถามฉันก็ไม่จำเป็นต้องพูดบอกใครมาจนถึงวันนี้เอวากับฟาร์นก็ยังไม่รู้ว่าระหว่างฉันกับคุณป๋าลึกซึ้งกันขนาดไหน หลังจากเลิกเรียนฉันแยกกับเพื่อนไปหาคุณป๋าที่บริษัท เพราะว่าช่วงนี้ฉันเรียนหนักยิ่งใกล้จะสอบก็ยิ่งไม่ค่อยมีเวลาเจอคุณป๋าเลย และที่สำคัญฉันสั่งห้ามคุณป๋าว่าไม่ต้องมาหาฉันที่คอนโด ตั้งแต่วันนั้นคุณป๋าก็ไม่ได้มาหาฉันที่คอนโดอีกเลย จะมีแค่ฉันที่เป็นฝ่ายไปหาคุณป๋า อาจจะเป็นที่บ้านหรือไม่ก็มาเจอที่บริษัท แบบวันนี้ #บริษัทพี่กล้าเป็นคนมาส่งที่บริษัทและก็ต้องรอรับฉันกลับด้วย เพราะฉันมาไม่นาน พอมาถึงฉันก็ตรงไปยังห้องทำงานของคุณป๋าทันที เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่าคุณป๋ากำลัวนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ และกำลังก้มหน้าอ่านเอก
ผู้หญิงที่กำลังยืนทำอาหารอยู่เมื่อได้ยินเสียงของฉันท้วงขึ้นเธอก็ค่อยๆ หันมา ใบหน้าของเธอสวยแถมยังหุ่นดี เธอยิ้มให้ฉันก่อนจะพูด “ฉันเป็นแม่บ้านคนใหม่ค่ะ แล้วเธอเป็น….” เธอมองสำรวจฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า “เป็นแม่บ้านเหมือนกันหรอ ?”นี่การแต่งตัวและท่าทางของฉันมันดูเหมือนกับแม่บ้านขนาดนั้นเลยหรือไงกัน เธอถึงได้บอกมาแบบนั้น “ฉันเป็นลูกเลี้ยงของคุณหิรัญ”“คะ คุณหนู คือว่าฉันไม่ได้มีเจตนาจะพูดแบบนั้น…” พอเธอรู้ว่าฉันเป็นใครก็หน้าเสียไปทันที “บ้านหลังนี้ไม่เคยมีแม่บ้านผู้หญิงแล้วทำไมเธอถึง…” ฉันมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างใช้ความคิด ก่อนจะนึกโกรธที่คุณป๋าไม่ยอมบอกว่ามีผู้หญิงในบ้านด้วย ฉันไม่ได้คุยอะไรกับผู้หญิงคนนั้นต่อ ก่อนจะเดินแยกตัวขึ้นไปยังชั้นสอง เพื่อไปรอคุณป๋าในห้อง ระหว่างที่กำลังนั่งรออยู่บนปลายเตียงในห้องของคุณป๋า ใจของฉันมันก็ร้อนรนกระวนกระวาย สมองคิดไปต่างๆ นาๆ บอกตามตรงว่าฉันไม่สบายใจเลยที่มีผู้หญิงอยู่ในบ้านแบบนี้ และฉันก็อยากจะรู้เหตุผลว่าทำไม ทำไมคุณป๋าถึงต้องรับผู้หญิงคนนี้เข้ามาทำงานในบ้าน สามชั่วโมงผ่านไป เป็นสามชั่วโมงที่ฉันนั่งรออยู่ที่เดิม ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มเศษๆ ภ
เวลา 19:30 บนโต๊ะอาหาร“จริงๆ ลูกน้องมีเยอะแยะให้คนพวกนั้นยกอาหารมาเสริฟก็ได้นะคะ ไม่เห็นต้องให้เธอเป็นคนยกมาเสริฟด้วยตัวเองเลย” ฉันพูดขึ้นอย่างไม่ลอบใจเมื่อเห็นว่าผู้หญิงที่เจอในครัวเป็นคนยกอาหารมาเสริฟ คำพูดของฉันทำให้คุณป๋าเงยหน้าขึ้นมามอง สายตาไม่บ่งถึงความรู้สึกยินดียินร้ายอะไร “หนูหมายถึงแค่งานในครัวก็คงจะหนัก” “ไม่หนักหรอกค่ะคุณหนู” ทั้งที่ฉันยังพูดไม่จบ แต่หล่อนก็รีบพูดแทรกขึ้นมาซะก่อนเหมือนกลัวว่าจะถูกขัดอย่างไงอย่างนั้น ฉันพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะวางช้อนกระแทกจานแรงๆ เพื่อแสดงออกว่าไม่พอใจ “ไม่ต้องยืนเฝ้าหรอก จะออกไปไหนก็ไปเถอะกินเสร็จแล้วค่อยมาเก็บ” ฉันบอกผู้หญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ไม่ยอมออกไปไหน“เมเบล” คุณป๋าเรียกชื่อฉันเสียงดุ “หรือคุณป๋าอยากให้มีคนอยู่ด้วยล่ะคะ ?” ฉันถลึงตาใส่คุณป๋า ทำให้คุณป๋าถึงกับส่ายหน้าไปมาเล็กน้อยก่อนจะมองไปยังผู้หญิงคนนั้น “ออกไปได้แล้ว” “อย่าลืมนะคะที่บอกว่าจะรีบหาพ่อบ้านคนใหม่” ฉันพูดย้ำ “รู้แล้วๆ” คุณป๋าส่ายหน้าไปมาแล้วยิ้มเล็กน้อย “ให้หนูไปนั่งกินข้าวใกล้ๆ มั้ยคะ” คุณป๋าเหล่ตามองไม่ตอบอะไรแต่ฉันรู้ดีว่าคำตอบจะเป็นยังไงจึงลุกขึ้นเดินไปนั่งล
เช้าวันใหม่…สัมผัสร้อนผ่าวแตะลงมาบนพวงแก้มของ ทำให้ฉันที่กำลังนอนหลับอยู่สะลึมสะลือลืมตาขึ้นมอง เห็นคุณป๋ากำลังใช้ปลายจมูกโด่งของตัวเองก่อกวนพวงแก้มของฉันอยู่ “อื้อ คุณป๋าอย่าเพิ่งกวนสิคะ” ฉันใช้มือดันอกแกร่งให้ออกห่าง “ตื่นได้แล้ว” “เช้าอยู่เลยค่ะ ขอนอนต่ออีกหน่อย….อื้อ” ริมฝีปากหนากดจูบลงมาทำให้ฉันไม่สามารถพูดอะไรต่อได้ “อยากได้อะไร วันนี้ฉันจะตามใจเธอทุกอย่าง” พอถอนจูบออกคุณป๋าก็บอกเสียงหวาน“หนูไม่อยากได้อะไรแล้ว หนูอยากนอน” ฉันตอบไปด้วยน้ำเสียงงัวเงีย“ถ้าเธอนอนต่อฉันจะปล้ำเธอ” ตาของฉันเปิดกว้างทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของคุณป๋า “ไม่นอนแล้วค่ะๆ” คุณป๋าเค้นหัวเราะในลำคอก่อนจะมองค้อนฉัน ไม่รู้ว่าไปมีอารมณ์มาจากไหนมากมายขนาดนั้น เมื่อคืนกว่าฉันจะได้นอนก็ปาไปเกือบตีสาม ถ้าเช้านี้ทำเรื่องอย่างว่าอีกคงได้นอนซมอยู่บนเตียงไปไหนไม่ได้แน่ๆ “จะพาหนูไปไหนดีคะ ^_^” ฉันลุกขึ้นจากเตียงแล้วสวมกอดคุณป๋าด้วยท่าทางออดอ้อน “วันนี้คุณป๋าไม่ต้องเข้าบริษัทหรอ ?”“ไม่! เวลาของฉันวันนี้เป็นของเธอ…” คำพูดแสนหวานของคุณป๋าถูกพ่นออกมา มันทำให้คนที่ได้ฟังแบบฉันเขินไม่เป็นท่า “หนูไม่อยากไปไหนเลยค่ะ อยากอย
คุณป๋าไม่แม้แต่จะตอบคำถามของฉันแถมยังก้าวขาเดินขึ้นบันได ฉันกำหมัดแน่นรู้สึกไม่พอใจที่คุณป๋าเลือกที่จะไล่ให้ฉันกลับแทนที่จะคุยกันดีๆ “ถ้ามันไม่มีอะไรก็แค่อธิบาย แต่นี่คุณป๋าเลือกที่จะไล่หนู!!” ฉันตะเบ็งเสียงดังพูดไล่หลังของคุณป๋า ทำให้คุณป๋าหยุดเดินแล้วค่อยๆ หมุนตัวมามองฉันที่กำลังยืนอยู่ช้าๆ “ให้ฉันอธิบายแต่เธอไม่ฟัง แล้วทำไมฉันต้องพูดเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ” คำพูดที่ดูเหมือนห่างเหินทำให้ตอนนี้ฉันคิดไปต่างๆ นาๆ ว่าคุณป๋ากำลังจะตีตัวออกห่างจากฉัน ถึงมันจะเป็นแค่ความคิดบ้าๆ แต่กลับสร้างความเจ็บปวดในใจไม่น้อย “….เบื่อหนูแล้วหรอคะ” คุณป๋าพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะตอบ “ฉันไม่ชอบที่เธองี่เง่าขนาดนี้” “….รักหนูมั้ยคะ”“ทำไมฉันจะไม่รักเธอ ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เธอคิดว่าฉันแค่สนุกหรือไง!!” “นั่นสิคะ ทำไมหนูถึงมีความคิดแบบนั้น…”“ฉันไม่อยากทะเลาะไปมากกว่านี้” คุณป๋าเบือนหน้าหนีไปทางอื่นหลังจากที่พูดจบ“หนูผิดหรอคะ คุณป๋าเป็นผู้ชายของหนู หนูมีสิทธิ์หวง ไม่ใช่หรอคะ…” ฉันพยายามกลั้นน้ำเสียงสั่นเครือของตัวเองเอาไว้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ตอนนี้มันอยากจะร้องไห้เอามากๆ “กลับไปก่อน ใจเย็นกว่านี้แล้วค่
คุณป๋ายืนกอดอกทำหน้ายักษ์ไม่รับมุกที่ฉันส่งไปให้ ใจคอจะตีฉันด้วยไม้เรียวนี่จริงๆ หรือไง“เลือกได้หรือยัง” คุณป๋าถามเสียงเข้ม สมองของฉันคิดอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องอย่างว่า ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหยุดตรงหน้าของคุณป๋า“เลือกได้แล้วค่ะ” “เลือกอันไหนก็หยิบขึ้นมา”ฉันวางมือลงบนแผงอกแกร่ง แล้วค่อยๆ เลื่อนมือลงช้าๆ ลูบไล้ซิกแพ๊คแน่นๆ กำยำของคุณป๋าลงมาคลำตรงเป้ากางเกง“หนูเลือกอันนี้ค่ะ ^_^” “เมเบล!!” คุณป๋าดุฉันอีกแล้ว คอยดูเถอะจะทำให้ครางลั่นห้องเลย “ก็เลือกแล้วนี่คะ เอามันมาฟาดหนูสิ” ฉันปล่อยมือออกจากเป้ากางเกงของคุณป๋า ก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงอย่างเชื้อเชิญให้คุณป๋าอดใจไม่ไหว คุณป๋ามองเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของฉันตาไม่กระพริบ พร้อมกับขบกรามแน่นเพื่อระงับอารมณ์กามของตัวเอง “นิ่งอยู่ทำไมล่ะคะ ไม่อยากตีหนูแล้วหรอ”“จะดื้อไปถึงไหนห๊ะ!!”“หนูเปล่าดื้อสักหน่อย” คุณป๋าเดินตรงมาหาฉัน ก่อนจะกดร่างของฉันให้นอนราบไปกับที่นอนแล้วขึ้นมาคร่อม “ชอบแบบนี้ ?” “ใครบ้างอยากโดนตีล่ะคะ” ฉันยกมือขึ้นคล้องคอของคุณป๋าเอาไว้ “อยากโดนคุณป๋าปู้ยี่ปู้ยำมากกว่า ^
3 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ฉันแต่งงานกับคุณป๋าแล้ว แต่งแบบงงๆ ในตอนนั้นที่คุณป๋าคุกเข่าขอฉันแต่งงาน หลังจากนั้นสองอาทิตย์เราทั้งคู่ก็จูงมือกันเข้าหอ จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ผ่านมสฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคุณป๋าดูแลฉันดีมาก และซื่อสัตย์กับฉันอย่างที่เคยสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ทำให้ฉันเสียใจ แต่!!! หนึ่งเรื่องที่ฉันไม่ชอบเลยคาอเรื่องห้าม ห้ามใส่สั้น ห้ามมองผู้ชาย ห้ามไปเที่ยวคลับ ในตอนนี้ฉันแทบจะเก็บกดตายอยู่แล้ว “เมเบลดื่มดิวะ แมลงวันลงไปวางไข่ในแก้วแล้วมั้งนั่น” ฟาร์นบอกพร้อมกับโยกตัวไปมาตามเสียงเพลง ในตอนนี้ฉันอยู่ที่คลับกับฟาร์นและเอวา ไม่ต้องแปลกใจว่าฉันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง ก็เพราะว่าคุณป๋าไปธุระที่ต่างประเทศน่ะสิ ไปหนึ่งอาทิตย์ แน่นอนว่าฉันที่เก็บกดมานานสามปีต้องไม่พลาดโอกาสทองแบบนี้แน่ ฉันออกมาดื่มกับเพื่อนทุกวันหลังจากที่คุณป๋าบินไปต่างประเทศ คิดดูสิว่าเก็บกดมากขนาดไหน แล้วฉันก็กำชับพวกลูกน้องของคุณป๋าเอาไว้แล้วทุกคนว่าห้ามปริปากฟ้องเรื่องที่ฉันมาเที่ยว ไม่อย่างนั้นจะไล่ออกให้หมด แน่นอนว่าทุกคนเชื่อฟัง เพราะในตอนนี้ฉันก็เปรียบเสหมือนคุณหญิงของบ้านฉันยกแก้วข
ในตอนนี้ฉันกำลังนั่งทำแผลให้กับคุณป๋าอยู่ คิดแล้วก็ขำ ใครจะไปคิดว่าคุณป๋าจะมีมุมที่อ่อนแอแบบนี้ ความรักมักทำให้คนอ่อนแอเสมอ “ห้ามโดนน้ำนะคะเดี๋ยวแผลจะอักเสบ” “เป็นหมอหรือไง” คุณป๋าทำหน้ามุ่ยใส่ฉัน “เป็นเมียคุณหิรัญค่ะ ^_^” พอฉันพูดแบบนั้นคุณป๋าก็หน้าแดงขึ้นมาเฉียบพลัน ก่อนที่จะคว้ามือมาดึงตัวฉันไปสวมกอด เสียงหัวใจของคุณป๋ามันกำลังเต้นรัว ทำให้ฉันอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ในตอนนี้บรรยากาศภายในห้องเงียบสนิท มีเพียงเสียงหัวใจของฉันกับคุณป๋าที่มันกำลังเต้นรัวแข่งกัน “คุณป๋าเคยคิดจะแต่งงานบ้างมั้ยคะ…” ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ฉันเอ่ยถามคำนี้ออกไป “ทำไมจะไม่เคย แต่พอมาคิดๆ ดูแล้วงานแต่งงานมันก็ไม่ได้สำคัญไปมากกว่าที่วันนี้เธออยู่กับฉัน” พูดจบคุณป๋าก็ผละกอดออก มือหนาช้อนปลายคางของฉันให้เงยขึ้นมองตัวเอง “ถามแบบนี้แปลว่าเธออยากแต่งงาน ?”“มะ ไม่หรอกค่ะ หนูยังไงก็ได้ตามใจคุณป๋า เพราะสถานะของเราด้วย คงยากที่คนอื่นจะยอมรับ” ฉันยื่นริมฝีปากไปหอมแก้มคุณป๋า “แค่ตอนนี้คุณป๋ารักและซื่อสัตย์กับหนู หนูก็ดีใจมากกว่าการได้ใส่ชุดเจ้าสาวอีกค่ะ” “พรุ่งนี้จะมีงานจัดเลี้ยงของบริษัท ไปกับฉันนะ ในฐานะเ
ถึงจะคิดว่าคุณป๋าไม่ได้อยู่หน้าประตูแล้วแต่ฉันก็ยังโวยวาย เอาแต่ทุบประตูห้องอยู่แบบนั้นเผื่อคุณป๋าจะเห็นใจกลับมาเปิดให้ “อื้อ หนูทุบประตูจนมือแดงหมดแล้วนะคะ” ฉันแสร้งทำเป็นพูด ถ้าคุณป๋าแอบฟังอยู่คงจะเห็นใจ นี่ฉันเป็นเมียเชียวนะ จะใจดำขนาดนั้นหรือไง แต่!!! ไร้สัญญาณใดๆ จากด้านนอก เงียบกริบไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น “คุณป๋าหนูปวดฉี่ ฉี่จะลาดแล้ว” ปังๆๆๆๆ พูดจบฉันก็ทุบประตูห้องรัวๆ “คุณป๋าหนูพูดจริงๆ นะ เปิดประตูให้หน่อย หนูจะไม่ทำแล้ว ไม่ดื้อแล้ว” ไม่ว่าจะตะเบ็งเสียงออกไปเท่าไหร่ก็ไร้วี่แววจากนั้นด้านนอก ถ้าคุณป๋าคิดจะขังฉันไว้ในห้องนี้ถึงเช้าจริงๆ ฉันจะหักเงินจากวันละสามร้อยให้เหลือวันละร้อยห้าสิบเลยคอยดูเถอะ!!ฉันนั่งลงที่พื้นอย่างหมดแรง ทั้งแหกปากตะโกนทั้งทุบประตูห้องผ่านไปครึ่งชั่วโมงทุกอย่างยังคงเงียบ ฉันก้มหน้าลงดูมือของตัวเองทั้งสองข้างที่แดงเถือกจากกับเคาะประตูรัวๆ ติดกันเป็นเวลานาน“ไม่คิดเลยว่าคุณป๋าจะใจดำได้มากขนาดนี้” ฉันพัดพ้อออกมาเพราะความโกรธ ใช่! ฉันเองที่ผิดไปยั่วโมโหคุณป๋าทำให้ฟิวขาด แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคุณป๋าจะมาขังไว้แบบนี้ ที่คิดไว้มันคนละแบบกันเลย ป่านนี้ไม
น้ำเสียงอำมหิตของคุณป๋าทำให้ขนทั้งตัวของฉันมันลุกซู่ คืนนี้คงจะเจอศึกหนักอีกแล้วสินะ ไหนๆ ก็จะเจอศึกหนักแล้วขอแกล้งหน่อยแล้วกัน อยากเห็นจังว่าเวลาคนแก่หึงมากๆ จะเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นหรอกเพราะปกติคุณป๋าก็ขี้หึง แต่ครั้งนี้อยากทำให้หึงสุดๆ ไปเลย แล้วก็ไปจบที่เตียง คืนนี้ฉันคงต้องร้องขอชีวิตกับคุณป๋าอีกแน่ๆ “นี่เอวาไปเข้าห้องน้ำกัน ^_^” เอวามองฉันอย่างแปลกใจที่จู่ๆ ฉันก็ชวนไปห้องน้ำ คุณป๋าที่ได้ยินฉันพูดจึงกระตุกแขนเบาๆ แล้วพูดเสียงเข้ม “ถ้าอยากไปเข้าห้องน้ำ ฉันจะพาไป” “ไม่เอาค่ะ หนูอยากไปกับเอวามากกว่า” ฉันรีบปฏิเสธ ขืนให้ไปด้วยก็ไม่สนุกสิ ฉันตั้งท่าจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่คุณป๋าไม่ยอมปล่อยมือที่รั้งเอวของฉันอยู่ ฉันจึงหันไปทำหน้าดุใส่ “ปล่อยนะคะ” คุณป๋าพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ดูก็รู้ว่าไม่อยากให้ฉันลุกขึ้นจากตักของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมปล่อยมือออก ฉันจับมือเอวาให้ลุกขึ้น ก่อนจะจูงมือพาเดินเข้ามาในบ้าน “เดี๋ยว! ห้องน้ำอยู่ทางนั้นแกจะไปไหนเมเบล” เอวาชี้ไปทางห้องน้ำชั้นล่างของบ้าน“ใครบอกว่าฉันอยากจะมาเข้าห้องน้ำจริงๆ ล่ะ”“หื้อ อะไรของแกเนี่ยเมเบล” “ตามมาเถอะน่า ถามเยอะจริ
เลิกเรียน ฉันนัดกับเพื่อนและพี่กินให้มาที่บ้านของฉันตอนหนึ่งทุ่ม พอขึ้นมาบนรถฉันก็รีบบอกคุณป๋าไว้ก่อนว่าวันนี้เพื่อนจะมาที่บ้าน “วันนี้หนูนัดเอวากับฟาร์นให้มาปาร์ตี้ที่บ้านนะคะ” ฉันบอกแต่บอกไม่หมด เพราะไม่ได้บอกว่าพี่ดินจะมาที่บ้านด้วยเหมือนกัน“ปาร์ตี้ ?” คุณป๋ามองหน้าฉันแล้วขมวดคิ้วเป็นปม “ก็ใช่ไงคะ ขอไปคลับคุณป๋าก็ไม่อนุญาต หนูเลยชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้าน”“ทำไมถึงไม่ถามฉันก่อน ?” “ทำไมล่ะคะ หนูไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรตามใจตัวเองเลยหรือไง ต้องขออนุญาตทุกครั้งเลยใช่มั้ยคะ” คุณป๋าถอนหายใจออกมาเบาๆ “มันไม่ใช่แบบนั้น ฉันก็แค่อยากให้เธอบอกก่อน”“นี่ไง หนูก็บอกคุณป๋าอยู่นี่ไงล่ะคะ” ทั้งฉันและคุณป๋าต่างก็ทำเงียบใส่กัน อยากจะงอนก็งอนไปเถอะวันนี้ฉันไม่ง้อหรอก ไม่ยอมให้ฉันไปเที่ยวดีนัก อีกอย่างฉันก็แค่ชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้านเอง นี่แหละ ฉันกับคุณป๋ามักจะงอนกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องประจำ พอมาถึงบ้านคุณป๋าก็เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้น เดินมาเปิดประตูรถให้ แต่ยังฟอร์มอยู่ “ฝากบอกให้พี่กล้าจัดเตรียมของที่สระว่ายน้ำด้วยนะคะ เดี๋ยวหนูจะขึ้นไปอาบน้ำ” ฉันออกคำสั่ง “ห้ามใส่บิกินี่” คุณป๋าชี้หน้าฉันออกคำสั
ฉันนั่งหน้าบึ้งภายในรถโดยมีคุณป๋าเป็นคนมาส่งที่มหาวิทยาลัย จะให้หน้าบึ้งได้ไงล่ะ ก็เพราะคุณป๋าน่ะสิ หยิบกระโปรงตัวที่ยาวคลุมตาตุ่มมาให้ใส่ คิดแล้วก็ไม่น้าเก็บกระโปรงตัวนี้เอาไว้เลย คอยดูเถอะกลับบ้านไปฉันจะเผามันทิ้งซะ!!“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย” คุณป๋าหันหน้ามาบอกในขณะที่กำลังขับรถอยู่ “ไม่ต้องมาพูดกับหนูเลย!!” “แค่ให้ใส่กระโปรงยาวแค่นี้ ต้องโกรธฉันมากขนาดนั้นเลยหรือไง”“ยาวแค่นี้ พูดมาได้ไงว่ายาวแค่นี้ อีกนิดเดียวก็จะลากดินอยู่แล้วนะคะ” “มันก็ดูเหมาะกับเธอดี” คุณป๋าทำหน้ากวน เหอะ! เหมาะอะไรล่ะ “มีผัวแล้วจะใส่สั้นๆ ไปอ่อยใคร!!” เอ้า! จู่ๆ คุณป๋าก็ทำเสียงดุใส่ฉันเฉยเลย แถมยังทำหน้าบึ้งอีกด้วย “อื้อ กระโปรงยาวแบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะคะ ใส่สบายด้วย ^_^” ต้องเป็นฉันที่เป็นฝ่ายยอมอ่อนข้อให้ เพราะไม่อยากจะทะเลาะกันให้ยืดยาว “อยู่เป็น” คุณป๋าพึมพำออกมาเบาๆ ทำให้ฉันจิ๊ปากใส่ แต่ก็แอบๆ ทำเพราะเดี๋ยวจะงอนอีก ยิ่งช่วงนี้คนแกยิ่งชอบอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ด้วย #มหาวิทยาลัย“หื้อ! เอวาเธอช่วยฉันดูทีว่าไม่ได้ตาฟาดไปใช่มั้ย วันนี้เมลมันใส่กระโปรงแทบจะลากดินเลยว่ะ” พอมาถึงฟาร์นมันก็พูดล้อฉันขึ้นมาทันท
เวลาล่วงเลยมาจนถึงวันที่มหาวิทยาลัยของฉันเปิดภาคเทอม…วันนี้คุณป๋าจะต้องไปส่งฉันที่มหาวิทยาลัยด้วยตัวเองและไปรับ นี้ไม่ใช่กฏที่ตัวฉันตั้งขึ้น แต่เป็นกฏของคุณป๋าเองต่างหาก แถมยังสั่งห้ามไม่ให้ฉันมองผู้ชายคนไหนอีกด้วย “ขอยกเว้นพี่ดินสักคนไม่ได้หรอคะ” ฉันอ้อนคุณป๋าในขณะที่กำลังแต่งตัวอยู่ พี่ดินคือพี่ชายที่แสนดีคนหนึ่ง เขาเคยช่วยฉันในหลายเรื่อง จะให้ฉันทำเมินใส่เขาคงไม่ได้“ไม่ได้!!” คุณป๋าตอบเสียงแข็ง“หัดมีเหตุผลบ้างสิคะ” “จะใส่ใจมันทำไมนักหนา!!” อีกแล้ว พูดถึงพี่ดินทีไรก็ทักจะมีปากเสียงกันตลอด ล่าสุดฉันขอไปกินข้าวกับพี่ดิน อย่กจะเลี้ยงขอบคุณเขาก็ถูกห้ามแล้วก็มีปากเสียงกันใหญ่โต “เขาเป็นคนดีนะคะ”คุณป๋าเงียบทำเมินไม่สนใจคำพูดของฉัน ก็ได้ถ้าอยากจะเมินใส่กันแบบนี้ ฉันเอื้อมมือหยิบกระโปรงนักศึกษาตัวที่สั้นที่สุดในตู้เสื้อผ้าออกมา แล้สสวมใส่มัน หลังจากที่ใส่กระโปรงแล้วก็หันกลับมามองคุณป๋า เห็นว่าตอนนี้คุณป๋ากำลังจ้องหน้าฉันตาเขม็งอยู่ “ไปส่งหนูได้แล้วค่ะ จะสายแล้ว”“ไม่คิดบ้างหรือไงว่ากระโปรงที่ใส่อยู่มันจะขัดหูขัดตาฉันขนาดไหน” คุณป๋าตวัดสายตาจ้องเขม็งมองกระโปรงของฉัน“หนูก็ใส่แบบนี้
เฮือก!! ใจมันกระตุกวูบทันทีเมื่อได้ยินคำพูดที่รู้ทันแผนการของคุณป๋า ใบหน้าของฉันซีดเผือดพร้อมกับมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมา ฉันหลับตาลงแล้วนับหนึ่งถึงสามในใจ ก่อนจะลุกขึ้นจากตักแกร่งแล้ววิ่งหนี แต่!! ทำได้เพียงแค่ลุกขึ้น ร่างของฉันก็ถูกคุณป๋าคว้าจับที่เอวเอาไว้ออกแรงดึงให้กลับมานั่งลงบนตักของตัวเองเหมือนเดิม บ้าที่สุด!! “คิดจะหนี มันง่ายไปหรือเปล่า” ฉันค่อยๆ หันหน้ามองคุณป๋าที่กำลังทำหน้ายักษ์ใส่ ก่อนจะตัดสินใจถาม “พะ พี่กล้าบอกหรอคะ” คุณป๋าส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ ได้ไง! ถ้าพี่กล้าไม่บอกแล้วคุณป๋าจะรู้ได้ยังไง “ฉันแอบฟังเธอคุยกับมัน” เฮือก!! ให้ตายเถอะ สรุปคือฉันพลาดที่ไม่ได้สังเกตอะไรให้ดีๆ ก่อนใช่มั้ย “ส่วนยานั่นที่เธอคิดว่าเป็นยานอนหลับ มันเป็นแค่ยาบำรุง” มือหนาจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้น “ฉันเป็นคนสั่งให้ไอ้กล้าเปลี่ยน”“……” ฉันค่อยๆ เม้มปากเข้าหากันแน่น ไม่รอดแน่ ถึงจะชอบเวลาที่มีอะไรกับคุณป๋า แต่ฉันไม่ค่อยชอบเลยเวลาที่ต้องถูกลงโทษ เพราะนั่นหมายความว่านอกจากคืนนี้จะไม่ได้ไปคลับแล้ว ฉันยังจะไม่ได้นอนอีกทั้งคืน คุณป๋ากดจูบหนักๆ ลงมาบนริมฝีปากของฉันเพื่อเป็นการลงโทษ ริมฝีปากมั