"เฮอะ! คิดจะเล่นงานคนอย่างพวกฉันได้ง่ายๆ เหรอ?" จ๊ะจ๋าพูด เพราะหลังจากที่โดนผู้ชายสองคนฉุดกระชากไปเธอก็เริ่มต่อสู้ด้วยกระบวนท่าทางเทควันโดสายดำอย่างชำนาญ จนกระทั่งสามารถจัดการผู้ชายตัวโตที่ลากเธอและเพื่อนอีกคนมาจนสลบเหมือดได้แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ทันแล้วเพราะเซญ่าถูกจับขึ้นรถตู้ไปแล้วจะวิ่งตามก็คงไม่ทันเพราะไม่รู้ว่ารถไปทางไหนตู๊ด~( คร้าบ คุณแฟนสุดสวย )"พี่! ไม่มีเวลาเล่นแล้ว อีญ่าโดนจับตัวไปไม่รู้ว่าพาไปที่ไหนพี่บอกคุณไทเลอร์หน่อย พวกฉันอยู่ที่โรงพยาบาลxxx อีญ่าโดนจับตัวขึ้นรถตู้ไปฉันไม่รู้ว่าไปที่ไหน" จ๊ะจ๋ารีบหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาโทรหาแฟนที่เป็นลูกน้องของไทเลอร์ด้วยอาการที่ลนลานเพราะทั้งตกใจและกลัวว่าเพื่อนจะเป็นอะไร แต่ในตอนนี้สิ่งเดียวที่เธอทำได้ก็คือโทรบอกเพราะไทเลอร์จัดการได้ดีกว่า( ได้ๆ เดี๋ยวพี่จะบอกเจ้านายเดี๋ยวนี้แหละพวกเราไม่เป็นอะไรใช่ไหม )"แจ้งตำรวจด้วยนะ เพราะฉันจัดการพวกมันสลบเหมือดอยู่ตรงนี้สองคน"( เดี๋ยวพี่ให้คนของพี่เข้าไป เราสองคนรออยู่ตรงนั้นแหละอย่าไปไหนเข้าใจไหม )"ค่ะ"................"ปล่อยนะฉันบอกให้ปล่อยฉันไง!" เซญ่าพยายามดิ้นอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชเพื่
ปึก! ( เสียงเปิดประตูรถ )ไทเลอร์เข้ามานั่งในรถหลังจากที่เขาเข้าไปจัดการไอ้เสี่ยจอมหื่นนั่นจนเรียบร้อย ก่อนที่เขาจะถูกหญิงสาวโผเข้ากอดด้วยความดีใจ เธอร้องไห้ออกมาโดยที่ไม่แคร์สายตาของคนที่อยู่ตรงนี้เลย“ฉันนึกว่าคุณฮึก...จะไม่มาช่วยแล้ว”“จะไม่มาได้ไง เธอตกอยู่ในอันตรายนะ”“ตะ แต่ว่าเพื่อนของฉันก็โดนจับไปเหมือนกัน”“พวกเพื่อนของเธอปลอดภัยแล้ว คนของฉันเข้าไปช่วยแล้ว”“…..”“ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกงวลอะไรแล้วนะ ทุกคนปลอดภัยแล้ว”“ฮึกค่ะ” เธอพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะโน้มตัวลงไปซบที่หน้าอกของไทเลอร์ตามเดิม ตอนนี้เลือดจากแผลบนหัวที่แตกมันหยุดไหลแล้ว คงเหลือไว้เพียงความเจ็บแสบจากบาดแผล“ไปโรงพยาบาล”“ครับนาย”“คุณทำอะไรเขาเหรอคะ?”“เธอจะอยากรู้ไปทำไม”“ผู้ชายสองคนที่นอนอยู่ตรงนั้นก็ตายแล้ว” ภาพคนสองคนนอนจมกองเลือดมันยังติดตาเธออยู่เลย ไม่รู้ว่าสภาพของไอ้เสี่ยนั่นมันจะเป็นเหมือนกับลูกน้องหรือเปล่า“คนอย่างพวกมันสมควรตาย มันแตะต้องเธอทำให้เธอเจ็บตัว มันก็ต้องได้ไปเฝ้ายมบาล” ไทเลอร์ดูเหมือนว่ายังอารมณ์คุกรุ่นอยู่ เพราะการตอบของเขายังดูเหมือนการข่มเสียงไว้“คุณฆ่าเขาเหรอ?” เธอถามเสียวแผ่ว“ตอนนี้เธอ
เวลาผ่านไปเซญ่าถูกย้ายเข้าไปอยู่ในห้องพิเศษ เธอไม่รู้สึกตัวเลยเพราะยังสลบอยู่ กว่าจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็หลับไปข้ามคืนแล้ว"เธอเป็นยังไงบ้าง" ไทเลอร์รีบเดินเข้ามาดูขณะที่เขากำลังเตรียมอาหารเช้าไว้ให้เธออยู่ เพราะไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานเธอคงหิวมากแน่ๆ"เจ็บแผลค่ะ""เธอปลอดภัยแล้วหมอบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมากเอกซเรย์แล้วตรวจร่างกายทุกอย่างแล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง""ฉันยังไม่ทันได้ทำกับไอ้เสี่ยบ้านั่นหรอก""ฉันรู้""นี่ฉันหลับไปนานเลยเหรอคะ""ก็หลับไปทั้งคืนแหละ ดีแล้วเธอจะได้พักผ่อน""อือ...ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วทำไมถึงได้นอนโรงพยาบาลล่ะคะ?" มองไปรอบๆ ตัวเองก็รู้ว่านี่ไม่ใช่ห้องนอนที่เธอนอนอยู่ทุกวัน และก็เดาได้ไม่ยากเลยว่ามันคือที่ไหน"ฉันเป็นคนให้เธอนอนโรงพยาบาลเองนั่นแหละ เธอยังไม่ฟื้นเลย อีกอย่างถ้าเป็นอะไรขึ้นมาอย่างน้อยเราก็อยู่ใกล้หมอ"".....""ฉันเป็นห่วงเธอมากนะเซญ่า""ขอบคุณนะคะคุณช่วยฉันมาทุกรอบเลยฉันไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงแล้ว""อยู่กับฉันตลอดไปนั่นแหละคือการตอบแทน""....." เธอไม่ได้ตอบอะไรแต่ในใจของเธอมันปริ่มไปด้วยความรู้สึกดีๆ ที่เธอไม่เคยได้รับจากใครเลยเขาเป็นคนแรก
เซญ่า Talkคุณไทเลอร์ให้ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลดูอาการอยู่สองวันพอเห็นว่ามันไม่มีอาการอะไรแทรกซ้อนแล้วฉันก็ได้กลับบ้าน และได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากคนที่บ้าน นี่ก็เป็นครั้งที่สองแล้วสินะที่ฉันต้องเจ็บตัวจนต้องเข้าโรงพยาบาล เพียงแต่ครั้งนี้มันไม่ได้หนักเหมือนกับครั้งก่อนตอนนี้ฉันหมดความรู้สึกรักใคร่กับครอบครัวแล้ว มันเป็นความรู้สึกที่ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวในครอบครัวอีกทั้งที่เป็นครอบครัวของตัวเอง และจากนี้ไปฉันก็จะไม่เชื่อใจใครในครอบครัวของตัวเองอีก ฉันเข็ดแล้วจริงๆ ฉันขอให้คุณไทเลอร์ไม่เอาความอะไรกับแม่ของฉัน แต่ฉันก็จะขอไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนั้นอีก ฉันขอเป็นคนเห็นแก่ตัวยอมถูกเรียกว่าเป็นลูกทรพีเพื่อรักษาชีวิตรักษาความรู้สึกของตัวเอง ในเมื่อไม่มีใครสนใจความรู้สึกของฉันเลยฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใส่ใจความรู้สึกของพวกเขาเหมือนกันจากนี้ไปฉันจะขอตัดขาดจากครอบครัวอย่างถาวร ฉันจะไม่สนใจว่าใครจะเป็นจะตายอีกแล้ว ฉันจะไม่เป็นห่วงอะไรทั้งนั้น จะเป็นจะตายจะรวยหรือจะลำบากฉันก็จะไม่สนใจต่างคนต่างใช้ชีวิตของตัวเองสมมติว่าคุณไทเลอร์เขาไม่ใช่คนร่ำรวย ฉันก็ยังจะอยู่กับเขาเพราะเขาคือคนที่ดีกับฉันแ
และแล้วก็มาถึงวันที่ทั้งสองได้มาเที่ยวบ้านบนเขาด้วยกันอีก ไทเลอร์ให้คนของเขาเข้ามาทำความสะอาดจัดเตรียมของกินของใช้สำหรับคนสองคนที่จะอยู่ด้วยกันหลายวัน เพราะเขาเองก็คิดว่าจะอยู่ที่นี่จนกว่าเซญ่าจะรู้สึกสบายใจขึ้นมา ที่นี่เงียบสงบมากไม่มีผู้คนมาคอยกวนใจเลย เพราะงั้นเธอเลยชอบมากไงล่ะคราวนี้ไทเลอร์ขับรถมาเองเลย ระหว่างทางเซญ่ามองสำรวจตลอด ที่เขาบอกว่าต่อให้เธอหนีก็คงไม่พ้นเพราะต้องเข้ามาลึกมากๆ เลย เดินเท้าทั้งวันก็คงจะไม่ถึงทางออก และตลอดทางที่ไทเลอร์ขับรถเข้ามาเธอไม่เห็นว่าจะมีรถขับสวนทางเลยสักคันเซญ่าเดินออกมาเล่นนอกตัวบ้าน ช่วงยามเย็นๆ บรรยากาศดีมากและก็ไม่มีใครมากวนใจด้วย มันเงียบสงบตามสไตล์ของคนที่ชอบพื้นที่ความเป็นส่วนตัวแบบเธอตอนนี้ไทเลอร์กำลังเตรียมอาหารตอนเย็นอยู่ แค่มีเขาเธอแทบไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะมีเขาเป็นคนทำให้เธอทุกอย่างได้รับการดูแลดุจดั่งเจ้าหญิงในนิยาย เขาโหดร้ายกับทุกคนรอบข้างแต่กับเธอเขาทำทุกอย่างด้วยความอ่อนโยนและใส่ใจมาก“อืม...สดชื่นดีจัง” เธอพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับยืดอกสูดอากาศที่แสนจะบริสุทธิ์เข้าปอดไปให้ได้มากที่สุด มันดีมากๆ เลย อยากจะอยู่แบบนี้ตลอดไปเลยด้วย
ตกดึก....เซญ่านอนอยู่บนแขนของไทเลอร์ พร้อมกับมองออกไปด้านนอกเพราะห้องมันเป็นกระจกที่สามารถมองเห็นข้างนอกได้แต่คนข้างนอกไม่สามารถมองเข้ามาได้เธอกำลังมองไปเรื่อยเพราะเขาก่อนเธอไม่ได้มานอนมองแบบนี้ตกเย็นก็มีอะไรกับเขาอย่างเดียว มีครั้งนี้นี่แหละที่ได้มาพักผ่อนจริงๆ"ตรงโน้นมีแสงวิบวับด้วยนะมันคือแสงอะไรเหรอ?""แสงของหิ่งห้อยน่ะ""หือ? แถวนี้มีหิ่งห้อยด้วยเหรอ?""มีสิ แถวนี้อุดมสมบูรณ์จะตาย ป่าทุกป่าก็มีหิ่งห้อยทั้งนั้นแหละ""คนแถวบ้านเขาบอกกับฉันว่าตรงไหนที่มีหิ่งห้อยตรงนั้นจะมีผีเพราะหิ่งห้อยคือตัวแทนของผี และถ้าหิ่งห้อยบินเข้าจมูกคนจะกลายเป็นผีกระสือ ผู้ชายก็กลายเป็นผีกระหัง""เธอนี่เชื่อคนง่ายจริงๆ นะ หิ่งห้อยมันก็แค่แมลงชนิดนึง มันจะเป็นผีได้ยังไง" ไทเลอร์ไม่ใช่คนที่จะเชื่อเรื่องพวกนี้ง่ายๆ เขาโตมากับครอบครัวที่มีหลักการของวิทยาศาสตร์เป็นหลักไม่ใช่หลักการความเชื่ออย่างที่เซญ่าเล่าให้เขาฟัง"ฉันไม่ได้เชื่อคนง่ายสักหน่อย ก็ตอนเด็กๆ ฉันถูกพูดใส่หูมาแบบนั้น ฉันก็เลยเชื่อแบบนั้นมาตลอด""ผีก็แค่ภาพลวงตาที่สมองของเรามันวาดภาพขึ้นมาให้เรารู้สึกกลัวก็เท่านั้นแหละ""คุณไม่กลัวผีเหรอ?""ถ้ากล
คำว่า ครอบครัว สำหรับไทเลอร์แล้วมันสำคัญมาก เพราะอดีตเขาต้องอยู่ในครอบครัวที่พ่อแม่แสร้งทำเป็นว่ารักกันมากต่อหน้าเขา ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก กลับมีความสุขมากด้วยซ้ำที่ได้เกิดมาอยู่ในครอบครัวที่แสนอบอุ่นนี้ จนกระทั่งเขาได้รู้ทุกอย่าง พ่อแม่ของเขาไม่ได้รักกันตั้งแต่แรกแล้ว แค่แต่งงานกันเพราะความเห็นชอบของผู้ใหญ่ พอเขาเกิดมาแม้พ่อแม่จะรักด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ในฐานะของเด็กคนนึงก็อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์ทุกคนรักกันจริงๆ ไม่ใช่การแสดงเขาจะไม่มีวันทำให้ครอบครัวของตัวเองต้องเป็นแบบนั้นอย่างแน่นอน เพราะเขาจะรักและจริงใจกับคนที่ตัวเองรัก ไม่มีการแกล้งรักเพื่อมีครอบครัว เพราะความไม่สมบูรณ์แบบเขาจึงอยากสร้างความสมบูรณ์แบบเพื่อกลบความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจของตัวเองในวัยเด็ก“เซญ่า”“อะไรคะ?”“เรามาทำลูกกันไหม?”“บอกแล้วไงคะ ว่าฉันยังไม่พร้อม”“เราไม่ได้เอากันแล้วจะท้องเลยสักหน่อย นี่ผ่านมาเป็นปีแล้วก็ไม่เห็นว่าเธอจะท้องเลย แล้วถ้าท้องจริงๆ เธอก็เรียนจบก่อนจะคลอดอีก ไม่ต้องดรอปเรียนเลยด้วยซ้ำนะ”“…..”“เธอยังกลัวอะไร หรือว่ายังไม่ไว้ใจฉันตรงไหนอีกงั้นเหรอ?”“เปล่าหรอกค่ะ ฉันแค่ไม่มั่นใจกับตัวเอง
ตกเย็นวันถัดมา..."ทำไมคุณถึงไม่ไปใส่เสื้อผ้าเนี่ย!""อยากนอนกอด" ไทเลอร์พูดพร้อมกับกอดเธอเอาไว้แน่น แต่ทว่าตรงส่วนนั้นของเขามันกำลังถูไถอยู่กับก้นของเธอ และเธอก็รู้สึกว่ามันกำลังแข็งขึ้นมาด้วย"อะไรเนี่ยนี่เพิ่งจะหัวค่ำเองนะ""หัวค่ำก็เอาได้น้ำของฉันมันปล่อยได้ทุกเมื่อแหละ""....." เซญ่านิ่งให้เขาซุกไซ้ตามเรือนร่างของเธอ ก่อนที่เธอจะถูกเขาขึ้นคร่อมบนตัว เธอแทบจะไม่ต้องถอดเสื้อผ้าเลยเพราะมีเพียงชุดนอนลาตินบางๆ ไร้ชั้นในเท่านั้นที่เธอสวมใส่อยู่"เธอรู้ไหม ว่ากว่าเราจะกลับจากที่นี่ฉันคงหว่านเมล็ดพันธุ์ของฉันเข้าไปในตัวของเธอมากพอที่เมล็ดพันธุ์ของฉันจะเข้าไปเติบโตแล้ว""เมล็ดพันธุ์อะไรของคุณ?""เธอเปรียบเสมือนดิน ส่วนฉันก็เป็นต้นไม้ พอเมล็ดพันธุ์ของฉันร่วงหล่นลงพื้น ดินอย่างเธอก็มีหน้าที่ทำให้เมล็ดพันธุ์ของต้นไม้ของฉันได้เติบโต""เข้าใจจะหาที่เปรียบนะคุณเนี่ย""ถ้างั้นเธอพร้อมที่จะรับเมล็ดพันธุ์จากฉันแล้วหรือยังล่ะ""พร้อมสิฉันพร้อมเสมอ""......" ไทเลอร์ยิ้ม รอยยิ้มของเขานั้นมันเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์จริงๆลำคอขาวเริ่มถูกเขาโลมเลียอย่างบ้าคลั่ง มือทั้งสองข้างบีบเค้นเต้าอวบไปด้วยพร้อมๆ กั
เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงเวลาใกล้คลอดของเซญ่าเต็มทีแล้ว เธอได้ลูกชายทั้งสองคนเลย หรือเรียกง่ายๆว่าแฝดชาย ก็เพิ่งจะมารู้แน่ชัดตอนช่วงใกล้จะคลอด เพราะการอัลตร้าซาวด์มันผลไม่ค่อยตรงคุณหมอบอกว่าเซญ่ามีแนวโน้มว่าจะคลอดก่อนกำหนด แต่ก็อยู่ในช่วงเวลาที่สามารถคลอดทารกออกมาได้แล้ว เพราะเธอท้องใหญ่กว่าคนท้องปกติ เนื่องจากในครรภ์เป็นทารกแฝดส่วนไทเลอร์หลังจากที่หายดีจากอาการแพ้ท้องแทนภรรยา เขาก็หันมาดูแลเธอเป็นอย่างดี ทำอะไรต่อมิอะไรแทนเธอทุกอย่างเท่าที่ทำได้"โอ๊ะ!? อื้อ!" ขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ เซญ่าก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะจู่ๆ ในท้องของเธอมันก็มีอาการปวดตุ๊บๆ และมันก็แรงขึ้นเรื่อยๆ ปวดเหมือนท้องของเธอมันบีบเข้าหากันและแรงขยับแม้จะเป็นเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ไทเลอร์รู้สึกได้ถึงความผิดปกติของคนข้างกาย"เป็นอะไรปวดท้องเหรอ?""อื้อ..." เธอผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ แทนคำตอบ เพราะมันปวดจนเธอไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ไทเลอร์รีบอุ้มภรรยาลงมาเพราะด้านล่างมีคนของเขาคอยสแตนบายรออยู่แล้ว หลังจากนั้นก็รีบพาเธอไปโรงพยาบาลในทันที ก่อนที่เซญ่าจะถูกนำตัวเข้าไปในห้องผ่าตัด เพราะท้องแฝดไม่สามารถคลอดเองได้"ขอพยาบาลเตร
สองเดือนถัดมา“คะ คุณไท!”“อ้วก!! โอกก! โรวัน มะ ม่วงเปรี้ยวได้หรือยังวะ” ไทเลอร์โวยวายเสียงดัง เขาแพ้ท้องหนักมาสองเดือนที่ผ่านมานี้ เป็นอย่างที่คุณหมอพูดเอาไว้ไม่มีผิดเลย ว่าไทเลอร์จะต้องแพ้ท้องเพราะอาการวิตกกังวลที่มีมากไปตอนที่รู้ว่าภรรยากำลังตั้งครรภ์“ใจเย็นๆ ก่อนสิคะคุณไท ตะโกนเสียงดังเดี๋ยวก็เป็นลมเอาหรอกค่ะ” เพราะมีเขาแพ้ท้องแทนเธอจึงไม่เป็นอะไรเลยแม้กระทั่งอาการอยากจะอาเจียน เธอเป็นปกติมาก กินก็ปกติ อาการก็ปกติ และกลับกลายเป็นว่าเธอนั้นต้องคอยดูแลเขาไม่ให้โวยวายใส่อารมณ์กับลูกน้อง“มาแล้วครับๆ ใจเย็นๆ หน่อยสิครับ ผมกำลังปอกอยู่”“ขอบคุณค่ะพี่โรวัน”“ผมสั่งให้คนของเราไปติดต่อเจ้าของสวนมะม่วงเอาไว้แล้วนะครับ หาซื้อตามตลาดมันไม่ค่อยจะมีสดๆ แต่ถ้าซื้อจากสวนเลยมันจะดีกว่า”“…..” ไทเลอร์เอาแต่นั่งกินผลไม้เปรี้ยวที่โรวันเอามาให้ โดยไม่ได้สนใจเลยว่าลูกน้องกำลังพูดอะไรกับตัวเองอยู่ เซญ่าจึงเป็นคนรับรู้ทุกอย่างเองและตอบกลับเองเพราะอาการแพ้ท้องที่หนักหน่วงทำให้ไทเลอร์เอาแต่กินผลไม้เปรี้ยวอย่างเดียว แต่อาหารหลักๆ ก็แทบจะไม่แตะต้องเลย จนลูกน้องต้องไปติดต่อกับเจ้าของสวนผลไม้เพื่อซื้อในจำน
เช้าวันต่อมาคืนวันเกิดของเซญ่าได้จัดขึ้นในที่สุด เพราะไทเลอร์ต้องการจะประกาศให้กัับทุกคนรู้ว่าเขากำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้ว และวันนี้ก็พาเซญ่ามาหาหมอที่โรงพยาบาล เขาตื่นเต้นมากจนแทบจะนั่งไม่ติดเลย ระหว่างที่กำลังนั่งรอคุณหมอไทเลอร์ก็จับมือของเซญ่าแน่น มือของเขาเย็นเฉียบเพราะตื่นเต้นมากกว่าเธอที่อุ้มท้องแทนซะอีก“มือเย็นเชียวนะคุณ”“ฉันตื่นเต้นน่ะ”“ใจเย็นๆ สิคะคุณ มือเย็นแบบนี้ระวังจะช็อคเอานะ”“ไม่หรอก มือเย็นเพราะตื่นเต้นเฉยๆ”“…..” เซญ่าไม่ได้ตอบอะไร เธอจับมือของเขาแล้วบีบไว้แน่นๆ เหมือนให้กำลังใจ เพราะไทเลอร์เหมือนจะคิดมากและเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย นี่เป็นลูกคนแรกของเขาด้วย จึงทำให้เขากังวลได้มากขนาดนี้ทั้งกังวลทั้งตื่นเต้นไปหมดเลย เพราะเขาให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้มาก“เชิญคุณเซญ่าเข้าห้องตรวจได้เลยค่ะ” พยาบาลเดินมาตาม ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในห้องตรวจพร้อมกับไทเลอร์“สวัสดีค่ะคุณหมอ”“ครับ สวัสดีครับ”“สวัสดีครับคุณหมอ”“เชิญนั่งกันก่อนนะครับ หมอขอตรวจร่างกายก่อน ขอเจาะเลือดของคุณทั้งสองเพื่อตรวจโรคด้วยนะครับ”“ครับได้ครับ” ไทเลอร์ตอบ“แล้วฉันต้องทำอะไรอีกคะคุณหมอ?”“ระหว่างรอผลเลือ
หลายเดือนต่อมา“มาเร็วๆ สิ”“โอ๊ย! อะไรของคุณเนี่ย จู่ๆ ก็ลากฉันออกมา มีอะไรก็ไม่ยอมพูด” เซญ่าถูกพาออกมาจากห้องแต่เช้าตรู่ ด้วยความงงบวกกับอาการของคนที่เพิ่งจะตื่นนอนมันเลยทำให้เธอหงุดหงิดอยู่นิดหน่อยช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไรร่างกายของเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อารมณ์ก็หงุดหงิดง่ายมากกับเรื่องเล็กๆ บางทีก็ไม่พอใจใหญ่โต จากที่เคยชอบอะไรก็เปลี่ยนมาเป็นไม่ชอบได้ง่ายๆ เลย“ฉันอยากนอน ไม่ได้อยากมาดูอะไรเลย”“แป๊บเดียวเอง เซอร์ไพรส์ไง”“…..” เธอยอมเดินตามไป เพราะไม่อย่างนั้นก็จะถูกเขาตื๊อจนน่ารำคาญไปหมด เธอไม่ได้อยากเป็นคนที่ทำตัวน่าเบื่อแบบนี้เลย แต่ก็ไม่รู้ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ มันเป็นของมันไปเองทั้งหมดเลย ไอ้อารมณ์แปรปรวนแบบนี้ก็เช่นกันมันเป็นไปเองหมดเลยเธอไม่ได้อยากทำตัวแบบนี้เพราะกลัวเขาจะรำคาญ ถึงเขาจะไม่เคยเป็นแบบนั้นเลยก็ตาม แต่เธอก็ห้ามไม่ได้จริงๆ“ถึงหรือยังคุณ”“ใกล้แล้วๆ”ไม่นานก็เดินมาถึง ด้านหน้าของเซญ่าคือกล่องใบใหญ่คล้ายกล่องของขวัญ มีโบว์สีแดงผูกไว้อยู่ น่าจะเป็นของขวัญอะไรสักอย่างที่ชิ้นต้องใหญ่มากๆ เพราะขนาดกล่องยังใหญ่ได้ขนาดนี้“ข้างในมันคืออะไรเหรอคุณ?”“ลองกระตุกสายนั่นดูสิ”“
ขณะที่กำลังนั่งรถมาเซญ่าก็รู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวเหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะไม่สบายไปด้วยอีกคน รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แปลกๆ ไปหมด พอมาถึงโรงพยาบาลก็ได้นอนโรงพยาบาลพร้อมกันทั้งสองคนเลย ได้อยู่ห้องเดียวกันเพราะไทเลอร์ไม่ยอมแยกห้องให้ตายยังไงเขาก็จะไม่แยกห้องนอนกับเซญ่าเด็ดขาด และหมอก็ต้องเป็นฝ่ายยอมเอง"ความจริงถ้าหากอีกฝ่ายไม่สบายอยู่ไม่ควรจะมีเพศสัมพันธ์เลยนะครับเพราะมันจะติดได้ง่ายเลย""....." ไทเลอร์นั่งหน้าบูดบึ้ง เพราะรู้สึกเหมือนกำลังโดนพ่อบ่นยังไงไม่รู้"หมอคงห้ามไม่ได้ถ้าคุณจะอยู่ที่นี่ แต่ยังไงก็ไม่ควรใกล้ชิดกันเกินไปนะครับ ส่วนเรื่องเพศสัมพันธ์ก็ควรจะงดห่างไปก่อน รอให้หายดีกันทั้งสองคนแล้วค่อยว่ากันอีกทีนะครับ""ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ""ยินดีครับ"ในขณะที่หมอยืนพูดอยู่ไทเลอร์ไม่พูดอะไรเลยเขาเอาแต่นั่งหน้าบูดอย่างเดียว แต่เซญ่านี่สิเขินจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว ถึงจะปฏิเสธไปรอยบนตัวของทั้งสองมันก็ชัดเจนแล้วว่าทั้งสองทำอะไรมาด้วยกัน"ฉันจะบอกให้โรวันเปลี่ยนหมอ หมอคนนี้พูดมาก!""จะบ้าเหรอคุณ ที่หมอเขาพูดก็ถูกนะ เราไม่ควรทำแบบนั้นกัน""แต่ฉันไม่ชอบหมอพูดมาก""หมอเขาไม่ได้พูดมากเข้าแค่แนะนำในฐานะที
เพราะคิดว่าไม่เป็นอะไรทั้งสองจึงมีเซ็กซ์กันเพราะอารมณ์ที่กำลังเร่าร้อนจนหักห้ามใจกันไม่ได้ สุดท้ายก็จบลงด้วยการมีเซ็กซ์ที่แสนจะเร่าร้อนไม่ได้สนใจแล้วว่าตอนนี้กำลังเป็นยังไงกันอยู่“อึกอืม...” เซญ่าโยกขยับตัวเองขึ้นลงอย่างรัวๆ มือสองข้างวางลงบนหัวไหล่ของไทเลอร์หาที่ยึดเกาะไว้ เขาเองก็จับเอวของเธอไว้แน่นเช่นกัน“อะอ่า...เซญ่า” เขาร้องครางพร้อมกับมองคนตรงหน้าที่กำลังหลับตาโยกขยับตัวอยู่ ท่าทางของเธอในตอนนี้มันทำให้เขาแทบคลั่ง เพิ่งจะเคยเห็นเซญ่าอารมณ์รุนแรงแบบนี้เป็นครั้งแรกเลย และเขาก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยนอกจากประคองเอวเล็กๆ ของเธอเอาไว้ไม่ให้เธอหงายหลังลงไปก็เท่านั้น“ดะ ดีจัง อืม..”“แฮ่ก...เซญ่าเธอเป็นอะไร”“ฉันชอบอืม...”“อึก...แอ่นหน้าอกขึ้นหน่อยสิ”“อ๊ะอ๊ะอ๊า...คุณไทฉันอึก...” เธอแอ่นอกขึ้นอีกมากขึ้น พร้อมกับมือที่จับผมตรงท้ายทอยของเขาขยุ้มขณะที่กำลังถูกเขาละเลงลิ้นเลียที่หน้าอกอวบอย่างระรัว มันเสียวจนเธอต้องหยุดขย่มแต่เปลี่ยนขยับเอวเนิบนาบแทนและแอ่นหน้าอกเชิ่ดขึ้นสูงไปอีก“อืม...แม่งจะบ้าให้ได้เลยว่ะ!” ไทเลอร์สบถออกมา ก่อนที่เขาจะขบกัดหัวนมของเธอเล่นเพราะความมันเขี้ยว ยิ่งเธอทำ
“ตัวคุณร้อนนะ กินยาหน่อย” เซญ่าหยิบเอายาที่เตรียมไว้ตรงหัวเตียงใส่ปากให้กับไทเลอร์ อาการของเขาหนักจนเธอต้องโทรให้ลูกน้องของเขามารับจริงๆ เพราะเธอเองก็ขับรถไม่เป็น ขืนปล่อยไว้นานกว่านี้ได้เป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ“อืม...ฉันกลืนน้ำไม่ลง ป้อนหน่อย”“ฝืนหน่อยนะคุณ จะได้หายเร็วๆ”“…..”เซญ่ายกน้ำเทใส่ปากอมไว้ก่อนจะโน้มหน้าลงไปป้อนน้ำใส่ปากของเขา ถ้าเธอไม่ทำแบบนี้เขาก็จะไม่ยอมกลืนยาลงไปแน่ๆ“อืม...ตัวคุณยังร้อนอยู่เลย”“…..”“เช็ดตัวหน่อยไหม?”เซญ่ารีบจัดแจงหากะละมังมาพร้อมกับผ้าสำหรับเช็ดตัว จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าของไทเลอร์ออกเหลือเพียงชั้นในของเขาตัวเดียว เธอเช็ดตัวให้เขาอย่างเบามือเพราะกลัวเขาจะเจ็บ เขาว่ากันว่าคนไม่สบายมักจะมีอาการเจ็บเนื้อขั้นตัวแค่แตะนิดหน่อยก็เจ็บแล้ว เธอจึงไม่อยากทำให้เขาต้องเจ็บ“เป็นยังไงบ้างคุณ”“อือ...เมีย เมียจ๋า...” ไทเลอร์ลุกขึ้นนั่งเอาหน้าซบลงไปบนหัวไหล่ของเซญ่าขณะที่เธอกำลังเช็ดตัวให้กับเขาอยู่ พยายามออดอ้อนเธอเหมือนกับลูกลิงที่แปะอยู่บนตัวของแม่ลิงไม่ปล่อยไอความร้อนจาากตัวของเขามันทำให้เธอสัมผัสได้เลย ไหนจะผ้าที่เอาชุบน้ำเช็ดบนตัวของเขาอีก มันแห้งเร็วมากเพราะดูดซ
เซญ่า Talkเมื่อวานฉันจามอยู่ปาวๆ ก็คิดว่าเช้ามาตัวเองต้องรู้สึกไม่สบายตัวแน่ๆ แต่กลับไม่เป็นอะไรเลย อีกคนโน่นสิที่ต้องนอนจับไข้เพราะตากฝนมาเมื่อวาน สมน้ำหน้าอยากพาฉันตากฝนกลับมาดีนะตัวเองก็เลยป่วยเลย และฉันก็ต้องมานั่งคอยเช็ดตัวเอายาให้กินเนี่ย รถก็ขับไม่เป็นจะพาเขาออกไปจากที่นี่ก็ไม่ได้ นี่ถ้าไม่หายคงได้โทรหาพี่โรวันให้ขับรถมารับนะเนี่ย"คุณตื่นมากินยาก่อน""อือ...""ไม่ต้องมาทำท่าทางเหมือนเด็กเลย ฉันไม่สงสารหรอกนะ คุณอยากดื้อเอง""ใจร้าย..""กินยาก่อนค่ะ ถ้าไข้ยังขึ้นอยู่ฉันจะเช็ดตัวให้""จะหลอกแต๊ะอั๋งฉันเหรอ?""เป็นไข้ขนาดนี้แล้วยังจะมีเวลามาคิดเรื่องแบบนี้อีกนะคุณ!""....." เขาตะแคงตัวมาจับแขนของฉันแล้วเอาหน้าถู เหมือนกับแมวเลยแฮะ เวลาฉันไปเล่นกับแมวพวกแมวมันก็ชอบเอาหน้ามาถูตามแขนของฉันแบบนี้แหละแต่จะพูดไปก็ไม่ได้หรอกเดี๋ยวก็งอนเอาอีกหึงได้แม้กระทั่งแมวคนอะไรก็ไม่รู้"คราวหน้าก็อย่าซ่าอีก""ฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะป่วยนี่""คุณถอดเสื้อคลุมให้ฉันแล้วตัวคุณก็เลยโดนฝนเปียกเต็มๆ ไม่ป่วยให้มันรู้ไปสิ""จะไปไหน?" เขารีบจับแขนของฉันเอาไว้ ทันทีที่ฉันหันหลังให้เขาและจะลุกขึ้น ช่วงนี้ออกห
วันถัดมาเซญ่าชวนไทเลอร์ออกมาเดินเล่นเพราะตั้งแต่ที่เธอมาอยู่ที่นี่เธอยังไม่เคยเดินเล่นแถวๆ นี้เลย ไทเลอร์บอกว่าแถวนี้ไม่มีสัตว์ป่าดุร้ายมาหากิน จะมีก็พวกสัตว์เล็กสัตว์น้อยบ้างประปรายเพราะไม่ใช่ป่าดงดิบอะไร เพราะงั้นไม่ต้องกลัวเลยยกเว้นพวกสัตว์มีพิษตามพื้นเท่านั้นที่ต้องคอยระวัง"ฉันว่าเราน่าจะจำลองเหตุการณ์พระเอกนางเอกหลงป่าด้วยกันนะ แล้วก็เจอฝนตกวิ่งหนีกันจนได้เจอกระท่อมหลังน้อยๆ แล้วพระเอกนางเอกก็มีอะไรกันในนั้น""โว๊ะ! เรื่องแบบนั้นคงมีแต่ในหนังแล้วคุณ ไม่ยักจะรู้ว่าคุณพูดอะไรน้ำเน่าแบบนี้เป็นด้วย""มันไม่ได้น้ำเน่าสักหน่อย""นี่มันชีวิตจริงนะคุณ ไม่ใช่ในละครหรือในนิยายสักหน่อยที่ฝนจะตกแล้ว..."ซ่า~ขณะที่เซญ่ากำลังพูดจู่ๆ ฝนก็ตกลงมาโดยไม่มีท่าทีเตือนก่อนหน้าเลย เธอแหงนหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าก็เห็นเมฆก้อนใหญ่ๆ ที่เป็นก้อนสีดำและก็เป็นต้นเหตุของฝนที่กำลังตกลงมาเป็นเมฆที่ไม่ได้ก้อนใหญ่และเป็นฝนที่ตกไม่ทั่วป่า ตกเฉพาะที่ที่เธอกำลังยืนอยู่เท่านั้น"อะไรเนี่ย มีฝนตกแบบนี้ด้วยเหรอ?""คราวนี้จะเชื่อได้แล้วหรือยังล่ะ?""ใครจะไปเชื่อก็แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นแหละ มายืนหลบใต้ต้นไม้ก่อนคุณ ต