ชิ!...คำแก้วบิดปาก หญิงสาวล่ะหมั่นไส้พ่อเลี้ยงหนุ่มผู้หล่อเหลาที่เธออยากจะเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดแทนแม่เลี้ยงตัวจริงเสียนี่ คิดพลางก็ยกถาดใส่สำรับเดินตรงไปที่พักของคนงาน กระทั่งถึงกระท่อมหลังหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากเรือนไม้สักออกมาไกลที่ประตูเปิดอ้าอยู่
“อ้าว!...คำแก้ว วันนี้มีอะไรมาถึงที่นี่ได้”
เสียงที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวหันกลับไปมอง หนุ่มไทยแท้แต่รูปร่างก็สูงใหญ่กำยำแม้จะเล็กกว่าไซส์ฝรั่งเล็กน้อยทว่าหน้าตาก็หล่อเหลาคมเข้มเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าหญิงสาว
“พ่อเลี้ยงให้ฉันเอากับข้าวมาให้น่ะจ้ะ ไผ่”
ชายหนุ่มที่คำแก้วเรียกว่าไผ่ก้มลงมองอาหารที่วางเรียงบนถาดในมือของหญิงสาวแล้วยิ้มกว้าง
“ขอบใจนะ...เอ...แต่เนื่องในโอกาสอะไรน่ะ”
“จะโอกาสอะไร ก็พ่อเลี้ยงมัวแต่ไประเริงรักกับเมียอยู่ที่น้ำตกน่ะซิ!”
คำแก้วว่าพลางเดินสะบัดก้นเข้าไปด้านในกระท่อมและวางถาดอาหารลงบนโต๊ะไม้เก่า ๆ ซึ่งภายในนั้นนอกจากโต๊ะที่เธอวางถาดอาหารก็มีเพียงแคร่ไม้ยาวไว้นอนเท่านั้น
“แหม...พ่อเลี้ยงศาสตรานี่ไม่เบาเลยนะ ทั้งหล่อทั้งล่ำแบบนั้น เป็นผู้หญิงที่ไหนก็ต้องรักต้องหลงเป็นธรรมดา แล้วแม่เลี้ยงอีกล่ะ คุณบัวชมพู เธอสวยมากเลยนะบัว”
“ก็แน่ล่ะสิ!...เลยหลงกันซะขนาดนั้น ฉันขี้เกียจจะพูด เห็นตอนแรกทำเหมือนไม่อยากจะได้เมีย”
“เขารักกันน่ะดีแล้ว...ว่าแต่คำแก้วเถอะ เป็นสาวเต็มตัวแล้วนี่นะ รู้ตัวรึเปล่าว่าคำแก้ว...ก็สวยไม่แพ้คุณบัวชมพูเขาเลยนะรู้มั้ย”
คำแก้วสะดุดลมหายใจตัวเอง หญิงสาวปรายตาไปทางคนงานหุ่นกระชากใจใบหน้าหล่อเหลาอย่างไผ่ เธอช้อนตามองเขาและอมยิ้มขณะที่ชายหนุ่มเองก็ออกอาการเขินเหมือนกัน
“บ้าซี...แต่ว่า...ไผ่พูดจริงหรือ?”
หญิงสาวซึ่งอายุของเธอรุ่นราวคราวเดียวกับชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ไผ่ยิ้มและตอบ
“ไผ่ไม่เคยโกหกคำแก้วนะ ก็คำแก้วสวยจริง ๆ นี่”
“ฉันจะรีบกลับล่ะ” หญิงสาวรีบตัดบทแต่ก่อนจะเดินพ้นออกไปจากประตูเธอก็ได้ยินเสียงของเขาดังตามหลัง
“ว่าง ๆ มาเที่ยวที่นี่อีกนะ คำแก้ว”
บทที่ 20 แค่รักและเข้าใจ
“ท่าทางคำแก้วจะเป็นห่วงคุณมากเลยนะคะ ซีนิธ”
บัวชมพูกล่าวขึ้นหลังจากที่เดินเข้าไปในห้องนอนอันโอ่อ่าพร้อมกับสามีของเธอ ศาสตราเดินไปหยุดตรงมุมหนึ่งของห้องก่อนจะถอดเสื้อและกางเกงที่เปียกชื้นออกจนหมด
“คำแก้วเขาก็เป็นของเขาอย่างนี้แหละ”
“คุณพูดเหมือนรู้จักเธอดีนะคะ”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วขณะปรายตามองหญิงสาว เขาเห็นสีหน้าของบัวชมพูไม่ดีนักตั้งแต่เมื่อครู่และก็รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร
“ผมเพิ่งกกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่นาน ยังไม่รู้จักใครที่นี่ดีหรอก”
ว่าพลางก็เดินเข้ามาหยุดตรงหน้าหญิงสาว บัวชมพูอดที่จะหายใจอย่างตื่นเต้นไม่ได้เมื่อสามีของเธอซึ่งอยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่าอีกครั้งมายืนตรงหน้า
เขาแข็งแกร่ง กำยำ และแก่นกายก็กำลังผงาดง้ำขึ้นมาอีก ศาสตราเกลี่ยปอยผมที่ต้นคอของหญิงสาวก่อนจะเลื่อนลงมาที่กระดุมเสื้อของเธอและปลดมันออกทีละเม็ดอย่างนุ่มนวล
“แต่สิ่งที่ผมรู้คือคนที่ปางไม้ของคุณพ่อและคุณแม่ล้วนแต่เป็นคนดี ชอบช่วยเหลือเกื้อกูลกันทั้งคนงานทั้งแม่บ้าน ผมในฐานะเจ้าของที่นี่และต้องปกครองพวกเขาจะเป็นคนใจร้อน ไม่ชอบขี้หน้าใครก็ไล่เขาไปไม่ได้”
“บัวไม่ได้พูดให้คุณรู้สึกว่าบัวอยากให้เป็นอย่างนั้นนะคะ”
หญิงสาวพูดเสียงขัด ๆ เมื่อเสื้อเชิ้ตหลุดลงไปกองบนพื้นและตามด้วยบราเซียตัวสวยที่ยังชื้นน้ำ
“ผมก็ไม่ได้ว่าคุณอย่างนั้น แต่ผมอยากพูดให้เมียตัวเองฟัง เพราะคุณก็ต้องมามีส่วนร่วมในการปกครองคนในปางนี้กับผมด้วย”
พ่อเลี้ยงหนุ่มกล่าวพลางก็เลื่อนมือลงต่ำไปจรดที่ขอบเอวกางเกงรัดรูปของหญิงสาว สายตาคู่คมจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าแสนหวาน ประกายลึกซึ้งหวานฉ่ำยังฉาบอยู่ในดวงตาสีน้ำเงินแกมเขียว เขายิ้มกับเธอ เป็นรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ที่หญิงสาวหัวใจหวั่นไหวทุกครั้ง
“บัว...ผมอยากบอกคุณนะว่า...ตอนนี้ผมแทบไม่คิดถึงผู้หญิงคนอื่นเลย ไม่ว่าจะเป็นพี่สาวของคุณหรือผู้หญิงคนไหนก็แล้วแต่”
“แต่ว่า...ซีนิธคะ...บัวอยากถามคุณจริง ๆ นะคะว่า...”
“หืมม์...คุณอยากถามอะไรผม?”
เขาทำเหมือนไม่สนใจคำพูดของหญิงสาวมากนักขณะเลื่อนกางเกงของเธอให้มันร่นลงไปกองที่ปลายเท้า ตามด้วยจีสตริงตัวสวยก่อนจะขยับตัวเข้าไปชิดและลูบไล้บั้นท้ายงอนงามของเธอราวกับหลงใหล
“ถ้าเกิดวันหนึ่ง...พี่บี...เอ้อ...กลับมา...คุณจะว่ายังไงคะ”
“ถ้าวันหนึ่งบีกลับมาอย่างนั้นหรือ?”
เขาทวนคำถามนั้นแต่ก็เหมือนยังไม่ใส่ใจ ไม่แสดงอาการกราดเกรี้ยวหรือไม่พอใจอย่างที่บัวชมพูหวั่นเกรง ตรงข้ามเขากลับรัดรึงเอวบาง รั้งร่างเล็กเขาไปแนบลำตัวของเขา เสียดสีความแข็งแกร่งกับหนน้าท้องของเธอเบา ๆ และจูบติ่งหูของหญิงสาวก่อนกระซิบ
“ถ้าวันหนึ่งบีกลับมา...เธอก็จะได้รับรู้ว่า ผมรักน้องสาวของเธอมากแค่ไหน”
“ซีนิธ” บัวชมพูครางออกมาและเบียดกายเข้าหาพร้อมทั้งเกี่ยวกระหวัดแขนเรียวรอบตัวเขา
“และเมื่อถึงวันนั้นบีก็คงจะมีลูกหรืออาจมีความสุขกับผู้ชายที่เธอเลือกแล้ว ไม่รู้สิ...แต่ผมก็แน่ใจอย่างหนึ่งว่าทุกอย่างไม่อาจกลับไปเหมือนเดิม”
“แต่คุณก็เคยรักพี่บีมากนี่คะ”
“นั่นอาจเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกระมัง ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยว่าผมอยู่เมืองนอกมาตั้งนานทำไมถึงไม่มีใครสักที แต่พอกลับมาที่นี่พ่อกับแม่ก็อยากให้ผมมีครอบครัวเพราะท่านอยากฝากกิจการของปางไม้ที่นี่ให้ผมดูแล ท่านอยากให้ผมมีเพื่อนคู่คิด และคู่ครองก็เป็นลูกของคนที่พวกท่านรู้จัก ผมพบบี รู้จักกับบีไม่ถึงสามเดือน จริง ๆ แล้วพี่สาวของคุณน่าจะบอกผมตั้งแต่แรกว่าเธอไม่เต็มใจแต่งงาน”
“พี่บีไม่กล้าขัดใจคุณพ่อกับคุณแม่หรอกค่ะ”
“แต่เธอก็กล้าหาญในวินาทีสุดท้าย หนีไปกับผู้ชายที่เธอรัก”
“ซีนิธ...คุณคงผิดหวังมากใช่ไหมคะ?”
บัวชมพูเงยหน้ามองชายหนุ่ม ดวงตาคู่นั้นรื้นน้ำขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ เธอรู้สึกสับสนเกินกว่าจะอธิบายทุกอย่างให้เขาฟังในตอนนี้ โดยเฉพาะความรู้สึกที่เธอมีต่อเขา ศาสตราจ้องลึกลงไปในดวงตากลมโตคู่นั้น เขาลูบไล้ไปบนแผ่นหลังของเธอเหมือนจะถ่ายเทความอบอุ่นและความรู้สึกในส่วนลึกที่เขากำลังจะเปิดเผย
“ผมผิดหวังในตอนแรก แต่รู้สึกว่าตอนนี้มันกลับกลายเป็นโชคของผม”
บัวชมพูเลิกคิ้ว “โชค...อย่างนั้นหรือคะ”
“โชคดีที่ผมได้เจ้าสาวอีกคนที่ผมแน่ใจว่าเธอจะไม่หลอกผม ทำให้ผมเสียใจ เพราะถ้าเธอทำอย่างนั้นก็เท่ากับทำร้ายความรู้สึกของตัวเอง”
“คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเจ้าสาวของคุณคนนี้กันล่ะคะ”
“สิ่งที่ผมรู้ คือเธอรักผม”
ชายหนุ่มพูดก่อนประทับรอยจูบลงบนแก้มนวลของหญิงสาว รัดรึงตัวเธอด้วยแขนแกร่งที่กอดกระหวัดรอบเอวบางก่อนเลื่อนริมฝีปากมาประทับรอยจุมพิตแสนหวานที่กลีบปากอิ่มนุ่มสั่นระริก
“ซีนิธ...บัว...อืม...รักคุณค่ะ...บัวรักคุณจริงๆ “
หญิงสาวพูดเสียงอู้อี้อยู่ที่ปากของเขา แต่ศาสตราก็ได้ยินมันชัดเจน ชายหนุ่มเลื่อนใบหน้าหล่อเหลาออกทว่าเขาก็ยังส่งเสียงกระซิบอยู่กับริมฝีปากของเธอที่เผยอออกอย่างยั่วยวน
“ผมก็รักคุณนะ...เมียจ๋า...”
บัวชมพูแก้มแดงเอียงอายแต่เธอก็ตอบเขากลับไป “บัวก็รักคุณนะคะ...ผัวขา...สุดที่รักของบัว”
ศาสตรายิ้มกริ่ม เป็นรอยยิ้มทรงอำนาจที่บัวชมพูไม่อาจปฏิเสธเสน่ห์อันล้นเหลือนั้นได้เลย หนุ่มสาวต่างแลกจุมพิตกันอีกครั้งเมื่อโคมทองคล้อยต่ำ รอเวลาราตรีแสนหวานจะห่มคลุมไปทั่วปางที่ร้อนไปด้วยกระไอรักของเธอและเขาไปอีกตราบนานเท่านาน
อวสาน
กรัชเพชรนามปากกาสำหรับนิยายอีโรติกเร่าร้อนและเพื่อผู้เปี่ยมความรักในหัวใจค่ะสอนรักให้เธอร้อนอาเธอร์ – กัญชลิกาหมอบอกว่าเธอตายด้าน!กัญชลิกา เลยต้องจ้าง อาร์เธอนักเต้นหนุ่มกล้ามล่ำและร้อนแรงที่สุดบนเวทีให้มาช่วยสอนกลเม็ดเด็ดพรายเรื่องรักและพิสูจน์ว่าเธอ ก็ ร้อน ไม่น้อยหน้าผู้หญิงคนไหน ๆ ในโลกเช่นกัน“อู๊ว...อ๊า...ซี๊ด...อา...อาร์เธอ...อา...อา”&nb
แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของอาร์เธอมากกว่านั้นคือเนินอกแสนสวยที่อวบล้นออกมาจากคอเสื้อสายเดี่ยวคว้านกว้าง กัญชลิกาก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาแต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกรุ่มร้อนขึ้นมาเล็กน้อยยามเมื่อเธอย่างกรายเข้ามาใกล้หญิงสาวร่างเล็กบอบบางนั่งในท่าไขว่ห้าง เธอประสานมือไว้บนตักแสดงท่าทีเหมือนกำลังอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ในขณะที่อาร์เธอยังเยือกเย็นทั้งที่ข้างในของเขากำลังร้อนขึ้นมาทีละน้อย“เอ้อ...อาร์เธอคะ...คือ...ที่เราตกลงกันคืนนั้น”“ผมโอเคครับ พีชชี่”อาร์เธอแทรกขึ้น เขารู้สึกคอแห้งผากขึ้นมาในทันใดแต่แล้วรอยยิ้มจางทว่าทรงเสน่ห์ก็ผุดขึ้นที่มุมปากหยักได้รูปบนใบหน้าหล่อเหลา“ที่คุณบอกกับกับผมว่า จะว่าจ้างให้ผมมาสอนคุณเพื่อพิสูจน์ว่าคุณไม่ได้เป็นอย่างที่หมอวินิจฉัยว่า...”“ฉันตายด้าน” กัญชลิกาไหวไหล่เล็กน้อย “ฉันรู้ว่าคุณอาจจะรู้สึกแบบว่า...เอ้อ...ประดักประเดิด...แต่ฉันก็อยากพิสูจน์ตัวเองว่าฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้น”กัญชลิกาอธิบายด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นคงนัก ใช่...เธอเข้าพบจิตแพทย์เมื่อไม่นานมานี้จ
“นะ...นั่งลงก่อนซี”“ข้าง ๆ คุณรึเปล่า?”เธอถามแล้วเขาพยักหน้า กัญชลิกาพาร่างอ้อนแอ้นเย้ายวนเข้ามาหย่อนตัวลงนั่งข้างเขา เธอก็รู้สึกประหม่าไม่แตกต่างจากชายหนุ่ม ก็แค่เริ่มบทเรียน รัก นี่นะ หญิงสาวคิดและหันมายิ้มอวดฟันเรียบขาวสะอาดกับเขา“คุณต้องไม่ยิ้มกว้างแบบนี้ พีชชี่”พอเขาสั่งหญิงสาวก็หุบปาก เธอนิ่วหน้าอย่างสงสัย“คุณต้องเซ็กซี่อย่างมาริลีน มอนโร...ใช่...เธอยิ้มแต่ไม่อวดฟันขาว เธอยื่นปากออกมานิด ๆ ไม่อ้ากว้าง ทำให้มันดูเย้ายวน”อาร์เธออธิบายต่อ และกัญชลิกาก็พยายามทำอย่างเขาว่า มันดูเหมือนบทเรียนแสนยากสำหรับเธอ ไม่เคยทำเซ็กซี่แบบนี้ต่อหน้าผู้ชายคนไหนมาก่อนในชีวิตปากอิ่มจิ้มลิ้มเคลือบกลอสสีแดงอมชมพูยื่นออกมาเล็กน้อย มันดูเซ็กซี่มากพอแล้วสำหรับชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ และจ้องมองดูดวงหน้าสวยหวานซึ่งเขาคิดว่า กัญชลิกาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมากพอตัว“โอเค...ต่อไป...” เขาว่าพลางเอียงตัวเข้าหาหญิงสาว เธอทำปากให้เป็นปกติ แต่หน้าอกหน้าใจที่กำลังดันชุดลูกไม้อยู่ใกล้เขานี่ซี มัน
“คุณต้องเรียนรู้มัน...เรียนรู้วิธีการที่จะทำให้ผมรู้สึกร้อน เพราะเมื่อไหร่ที่ผมเริ่มจะร้อน นั่นก็คือคุณ...จะไม่ใช่เจ้าหญิงน้ำแข็งอย่างที่หมอบอก” เขาเลิกคิ้วน้อย ๆ และขยับเข้าใกล้ร่างเล็กซึ่งเธอยังกุมกล้วยหอมไว้ในมือ อาร์เธอใช้มืออีกข้างค่อย ๆ ปอกเปลือกกล้วยหอมสีเหลืองนวลขนาดเขื่องลงมาประมาณครึ่งผลก่อนจะสั่งเธอด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล “ผมอยากให้คุณลอง...เอิ่ม...กินมันอย่างเซ็กซี่ ผมยังไม่สอนให้คุณเล่นกับตัวเอง แต่อยากให้คุณเรียนรู้วิธีการเล่นกับสิ่งที่อยู่รอบข้าง” “แบบนี้หรือคะ?” หญิงสาวถามเขาด้วยเสียงแหบเบาและโน้มใบหน้าสวยหวานลงไปหากล้วยหอมในมือของเธอที่อาร์เธอยังกอบกุมไว้ ดวงตาคู่งามยังจับจ้องอยู่ที่เขาแต่กลีบปากอิ่มสวยและชุมฉ่ำอ้าออก&n
กล้ามเนื้อสีแทนของเขาดูแวววาวยามสะท้อนแสงไฟราวกับมันฉาบด้วยน้ำผึ้งที่หญิงสาวแอบกลืนน้ำลายเหมือนกับว่าเธอเริ่มกระหายหิว รูปร่างของอาร์เธอสมส่วนและสมบูรณ์แบบ นัยน์ตาทรงเสน่ห์สีน้ำตาลบรูเน็ตกำลังเชิญชวนหญิงสาวอย่างเปิดเผยกล้ามเนื้อทุกมัดของเขาเหมือนกำลังตื่นเต้น แต่สิ่งที่ทำให้กัญชลิการู้สึกเขินอายจนแก้มแดงเพราะเลือดสูบฉีดคือกล้ามเนื้อส่วนที่อยู่ตรงกลางร่างกายของเขาเธอไม่เคยเห็นผู้ชายในสภาพกึ่งเปลือยต่อหน้าเลยสักหน ไม่ใช่แค่มัดกล้ามเนื้อของเขาเท่านั้นที่เคร่งเครียด แต่บ๊อกเซอร์ของเขามีบางอย่างที่กำลังดันตัวขึ้นมาจนเป้าตุงเห็นเป็นรูปร่างชัดเจน และมันทำให้เธอคิดถึงกล้วยหอมที่เธอลิ้มเลียมันเมื่อครู่กัญชลิกาเลียปากของเธอที่เริ่มแห้งผาก เธออยากพิสูจน์ตัวเองไม่ใช่หรือว่าเธอก็ทำให้ผู้ชายร้อนได้เช่นกัน เมื่อคิดดังนั้นร่างเล็กในชุดกระโปรงผ้าลูกไม้ซีทรูสุดเซ็กซี่จึงโน้มลำตัวลงไปหาร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน เริ่มต้นด้วยการจูบเขาก่อน บนริมฝีปากหนาได้รูปและบนคางสากระคายด้วยขนสั้น ๆ เรื
เป็นคำพูดที่มาจากความรู้สึกจริง ๆ ของเขา แต่ทำให้หญิงสาวเขินจนหน้าแดงอีกครั้ง “แล้วถ้าคุณเห็นมันชัด ๆ คุณจะร้อนรึเปล่าคะ?” “ผมก็อยากรู้เหมือนกัน” “ถ้าอย่างนั้น...” หญิงสาวเว้นคำพูดไว้ก่อนละมือจากขอบบ๊อกเซอร์และเลื่อนไล้ไปที่ขอบคอเสื้อลูกไม้ซีทรูคว้านกว้าง มันเป็นผ้าสแปนเด็กซ์ที่ยืดหยุ่นมากพอที่หญิงสาวจะสามารถรั้งคอเสื้อลงไปใต้ฐานของทรวงสวยอวบใหญ่และแน่นตึง ปล่อยให้มันดีดเด้งออกมาอวดสายตาของอาร์เธอที่มองความอลังการบนเรือนร่างแสนสวยอย่างตกตะลึง “พระเจ้า...พีชชี่...มัน...ใหญ่มากจริง ๆ”
“ผมรู้ว่าคุณทำได้ยอดเยี่ยม” เขาให้กำลังใจ ยิ้มทรงเสน่ห์ของเขากำลังละลายความรู้สึกของเธอ อาร์เธอละมือออกจากแท่งเนื้อกลางลำตัวของเขาและประสานมือทั้งสองไว้ที่ท้ายทอย เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้กัญชลิกาได้มองเห็นความยาวและใหญ่นั่นชัดเจน ใช่...มันทั้งยาวและใหญ่เกินบรรยาย กัญชลิการู้สึกร้อนขึ้นมาที่ซอกขา มันทั้งอบอุ่นและชุมชื้นขึ้นมาอย่างน่าอับอาย แต่หญิงสาวก็ลองลูบไล้ความเป็นชายของเขาที่ผงาดสู้มือ ลูบขึ้นลงเพื่อสัมผัสความอุ่นร้อนจากเนื้อหนังที่เต็มไปด้วยเส้นเอ็นปูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด มันกระตุกเป็นจังหวะในอุ้งมือเรียวบาง เหยียดขยายและพองตัวทุกครั้งเมื่อมือของเธอสัมผัส ส่วนปลายเรียบลื่นและเบ่งบานนั่นต่างหากที่กำ
ชายหนุ่มครวญครางจนหน้าแดง เขาไม่เคยรู้สึกซ่านเสียวมากขนาดนี้มาก่อน เขาเคยผ่านผู้หญิงมา แต่ไม่ใช่หลายคน ถึงเขาจะเป็นแดนเซอร์โชว์ความเซ็กซี่ แต่อาร์เธอก็ไม่ชอบการมีคู่นอนพร่ำเพรื่อ ชายหนุ่มยอมรับกับตัวเองอย่างหนึ่งว่าเขาสะดุดตากับใบหน้าสวยหวานของกัญชลิกาตั้งแต่แรกเห็น และการที่เขายอมรับข้อเสนอของเธอ มาเป็นครูสอนเรื่องรักให้ มันก็มาจากหัวใจของเขาที่เรียกร้อง ไม่ใช่เพียงเพราะค่าตอบแทนบทที่ 7&nb
แล้วร่างอรชรก็ค่อยเลื่อนบั้นท้ายลงจากเก้าอี้ เธอเปลี่ยนท่าเป็นหันหลังให้เขา ย้ายสะโพกไปตามเสียงเพลงพร้อม ๆ กับเขาและก้มลงบนเก้าอี้ที่เธอนั่งเมื่อครู่บั้นท้ายงอนงามและก้นกอยหนั่นแน่นโด่งขึ้นและดูเหมือนเจ้าตัวตั้งใจส่ายไปมาอย่างเย้ายั่ว กลีบสีแดงแยกออกเผยให้เห็นร่องสวาทจากทางด้านหลังเธอกำลังเชิญชวนเขา อาร์เธอคิดในใจ และเมื่อมาถึงตอนนี้อาจารย์หนุ่มสอนรักก็ไม่อาจหักห้ามความรู้สึกที่มันพลุ่งพล่านขึ้นมาได้อีกต่อไป เขายังเต้นไปตามจังหวะเสียงเพลงแต่ขยับเขข้าไปชิดบั้นท้ายงอนเด้งที่ส่ายไหวไปมาตรงหน้า“พีชชี่.”“อูววว...อาร์เธอ...ฉันอยากให้กล้วยหอมของคุณ...เข้ามาอยู่ในตัวฉัน”เธอบอกเขาเสียงสั่นขณะที่ชายหนุ่มถอนใจและกลืนน้ำลายลงคอเบา ๆ ในเมื่อมันมาถึงขนาดนี้แล้วเขาก็จำเป็นต้องสอนบทเรียนสุดท้ายให้ลูกศิษย์สาวแสนสวยอย่างไม่อาจเลี่ยง“พีชชี่...โอ...คุณสวยงามมาก”
ชายหนุ่มครวญครางจนหน้าแดง เขาไม่เคยรู้สึกซ่านเสียวมากขนาดนี้มาก่อน เขาเคยผ่านผู้หญิงมา แต่ไม่ใช่หลายคน ถึงเขาจะเป็นแดนเซอร์โชว์ความเซ็กซี่ แต่อาร์เธอก็ไม่ชอบการมีคู่นอนพร่ำเพรื่อ ชายหนุ่มยอมรับกับตัวเองอย่างหนึ่งว่าเขาสะดุดตากับใบหน้าสวยหวานของกัญชลิกาตั้งแต่แรกเห็น และการที่เขายอมรับข้อเสนอของเธอ มาเป็นครูสอนเรื่องรักให้ มันก็มาจากหัวใจของเขาที่เรียกร้อง ไม่ใช่เพียงเพราะค่าตอบแทนบทที่ 7&nb
“ผมรู้ว่าคุณทำได้ยอดเยี่ยม” เขาให้กำลังใจ ยิ้มทรงเสน่ห์ของเขากำลังละลายความรู้สึกของเธอ อาร์เธอละมือออกจากแท่งเนื้อกลางลำตัวของเขาและประสานมือทั้งสองไว้ที่ท้ายทอย เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้กัญชลิกาได้มองเห็นความยาวและใหญ่นั่นชัดเจน ใช่...มันทั้งยาวและใหญ่เกินบรรยาย กัญชลิการู้สึกร้อนขึ้นมาที่ซอกขา มันทั้งอบอุ่นและชุมชื้นขึ้นมาอย่างน่าอับอาย แต่หญิงสาวก็ลองลูบไล้ความเป็นชายของเขาที่ผงาดสู้มือ ลูบขึ้นลงเพื่อสัมผัสความอุ่นร้อนจากเนื้อหนังที่เต็มไปด้วยเส้นเอ็นปูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด มันกระตุกเป็นจังหวะในอุ้งมือเรียวบาง เหยียดขยายและพองตัวทุกครั้งเมื่อมือของเธอสัมผัส ส่วนปลายเรียบลื่นและเบ่งบานนั่นต่างหากที่กำ
เป็นคำพูดที่มาจากความรู้สึกจริง ๆ ของเขา แต่ทำให้หญิงสาวเขินจนหน้าแดงอีกครั้ง “แล้วถ้าคุณเห็นมันชัด ๆ คุณจะร้อนรึเปล่าคะ?” “ผมก็อยากรู้เหมือนกัน” “ถ้าอย่างนั้น...” หญิงสาวเว้นคำพูดไว้ก่อนละมือจากขอบบ๊อกเซอร์และเลื่อนไล้ไปที่ขอบคอเสื้อลูกไม้ซีทรูคว้านกว้าง มันเป็นผ้าสแปนเด็กซ์ที่ยืดหยุ่นมากพอที่หญิงสาวจะสามารถรั้งคอเสื้อลงไปใต้ฐานของทรวงสวยอวบใหญ่และแน่นตึง ปล่อยให้มันดีดเด้งออกมาอวดสายตาของอาร์เธอที่มองความอลังการบนเรือนร่างแสนสวยอย่างตกตะลึง “พระเจ้า...พีชชี่...มัน...ใหญ่มากจริง ๆ”
กล้ามเนื้อสีแทนของเขาดูแวววาวยามสะท้อนแสงไฟราวกับมันฉาบด้วยน้ำผึ้งที่หญิงสาวแอบกลืนน้ำลายเหมือนกับว่าเธอเริ่มกระหายหิว รูปร่างของอาร์เธอสมส่วนและสมบูรณ์แบบ นัยน์ตาทรงเสน่ห์สีน้ำตาลบรูเน็ตกำลังเชิญชวนหญิงสาวอย่างเปิดเผยกล้ามเนื้อทุกมัดของเขาเหมือนกำลังตื่นเต้น แต่สิ่งที่ทำให้กัญชลิการู้สึกเขินอายจนแก้มแดงเพราะเลือดสูบฉีดคือกล้ามเนื้อส่วนที่อยู่ตรงกลางร่างกายของเขาเธอไม่เคยเห็นผู้ชายในสภาพกึ่งเปลือยต่อหน้าเลยสักหน ไม่ใช่แค่มัดกล้ามเนื้อของเขาเท่านั้นที่เคร่งเครียด แต่บ๊อกเซอร์ของเขามีบางอย่างที่กำลังดันตัวขึ้นมาจนเป้าตุงเห็นเป็นรูปร่างชัดเจน และมันทำให้เธอคิดถึงกล้วยหอมที่เธอลิ้มเลียมันเมื่อครู่กัญชลิกาเลียปากของเธอที่เริ่มแห้งผาก เธออยากพิสูจน์ตัวเองไม่ใช่หรือว่าเธอก็ทำให้ผู้ชายร้อนได้เช่นกัน เมื่อคิดดังนั้นร่างเล็กในชุดกระโปรงผ้าลูกไม้ซีทรูสุดเซ็กซี่จึงโน้มลำตัวลงไปหาร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน เริ่มต้นด้วยการจูบเขาก่อน บนริมฝีปากหนาได้รูปและบนคางสากระคายด้วยขนสั้น ๆ เรื
“คุณต้องเรียนรู้มัน...เรียนรู้วิธีการที่จะทำให้ผมรู้สึกร้อน เพราะเมื่อไหร่ที่ผมเริ่มจะร้อน นั่นก็คือคุณ...จะไม่ใช่เจ้าหญิงน้ำแข็งอย่างที่หมอบอก” เขาเลิกคิ้วน้อย ๆ และขยับเข้าใกล้ร่างเล็กซึ่งเธอยังกุมกล้วยหอมไว้ในมือ อาร์เธอใช้มืออีกข้างค่อย ๆ ปอกเปลือกกล้วยหอมสีเหลืองนวลขนาดเขื่องลงมาประมาณครึ่งผลก่อนจะสั่งเธอด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล “ผมอยากให้คุณลอง...เอิ่ม...กินมันอย่างเซ็กซี่ ผมยังไม่สอนให้คุณเล่นกับตัวเอง แต่อยากให้คุณเรียนรู้วิธีการเล่นกับสิ่งที่อยู่รอบข้าง” “แบบนี้หรือคะ?” หญิงสาวถามเขาด้วยเสียงแหบเบาและโน้มใบหน้าสวยหวานลงไปหากล้วยหอมในมือของเธอที่อาร์เธอยังกอบกุมไว้ ดวงตาคู่งามยังจับจ้องอยู่ที่เขาแต่กลีบปากอิ่มสวยและชุมฉ่ำอ้าออก&n
“นะ...นั่งลงก่อนซี”“ข้าง ๆ คุณรึเปล่า?”เธอถามแล้วเขาพยักหน้า กัญชลิกาพาร่างอ้อนแอ้นเย้ายวนเข้ามาหย่อนตัวลงนั่งข้างเขา เธอก็รู้สึกประหม่าไม่แตกต่างจากชายหนุ่ม ก็แค่เริ่มบทเรียน รัก นี่นะ หญิงสาวคิดและหันมายิ้มอวดฟันเรียบขาวสะอาดกับเขา“คุณต้องไม่ยิ้มกว้างแบบนี้ พีชชี่”พอเขาสั่งหญิงสาวก็หุบปาก เธอนิ่วหน้าอย่างสงสัย“คุณต้องเซ็กซี่อย่างมาริลีน มอนโร...ใช่...เธอยิ้มแต่ไม่อวดฟันขาว เธอยื่นปากออกมานิด ๆ ไม่อ้ากว้าง ทำให้มันดูเย้ายวน”อาร์เธออธิบายต่อ และกัญชลิกาก็พยายามทำอย่างเขาว่า มันดูเหมือนบทเรียนแสนยากสำหรับเธอ ไม่เคยทำเซ็กซี่แบบนี้ต่อหน้าผู้ชายคนไหนมาก่อนในชีวิตปากอิ่มจิ้มลิ้มเคลือบกลอสสีแดงอมชมพูยื่นออกมาเล็กน้อย มันดูเซ็กซี่มากพอแล้วสำหรับชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ และจ้องมองดูดวงหน้าสวยหวานซึ่งเขาคิดว่า กัญชลิกาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมากพอตัว“โอเค...ต่อไป...” เขาว่าพลางเอียงตัวเข้าหาหญิงสาว เธอทำปากให้เป็นปกติ แต่หน้าอกหน้าใจที่กำลังดันชุดลูกไม้อยู่ใกล้เขานี่ซี มัน
แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของอาร์เธอมากกว่านั้นคือเนินอกแสนสวยที่อวบล้นออกมาจากคอเสื้อสายเดี่ยวคว้านกว้าง กัญชลิกาก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาแต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกรุ่มร้อนขึ้นมาเล็กน้อยยามเมื่อเธอย่างกรายเข้ามาใกล้หญิงสาวร่างเล็กบอบบางนั่งในท่าไขว่ห้าง เธอประสานมือไว้บนตักแสดงท่าทีเหมือนกำลังอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ในขณะที่อาร์เธอยังเยือกเย็นทั้งที่ข้างในของเขากำลังร้อนขึ้นมาทีละน้อย“เอ้อ...อาร์เธอคะ...คือ...ที่เราตกลงกันคืนนั้น”“ผมโอเคครับ พีชชี่”อาร์เธอแทรกขึ้น เขารู้สึกคอแห้งผากขึ้นมาในทันใดแต่แล้วรอยยิ้มจางทว่าทรงเสน่ห์ก็ผุดขึ้นที่มุมปากหยักได้รูปบนใบหน้าหล่อเหลา“ที่คุณบอกกับกับผมว่า จะว่าจ้างให้ผมมาสอนคุณเพื่อพิสูจน์ว่าคุณไม่ได้เป็นอย่างที่หมอวินิจฉัยว่า...”“ฉันตายด้าน” กัญชลิกาไหวไหล่เล็กน้อย “ฉันรู้ว่าคุณอาจจะรู้สึกแบบว่า...เอ้อ...ประดักประเดิด...แต่ฉันก็อยากพิสูจน์ตัวเองว่าฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้น”กัญชลิกาอธิบายด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นคงนัก ใช่...เธอเข้าพบจิตแพทย์เมื่อไม่นานมานี้จ
กรัชเพชรนามปากกาสำหรับนิยายอีโรติกเร่าร้อนและเพื่อผู้เปี่ยมความรักในหัวใจค่ะสอนรักให้เธอร้อนอาเธอร์ – กัญชลิกาหมอบอกว่าเธอตายด้าน!กัญชลิกา เลยต้องจ้าง อาร์เธอนักเต้นหนุ่มกล้ามล่ำและร้อนแรงที่สุดบนเวทีให้มาช่วยสอนกลเม็ดเด็ดพรายเรื่องรักและพิสูจน์ว่าเธอ ก็ ร้อน ไม่น้อยหน้าผู้หญิงคนไหน ๆ ในโลกเช่นกัน“อู๊ว...อ๊า...ซี๊ด...อา...อาร์เธอ...อา...อา”&nb