อวี๋ผิงเกือบจะคุกเข่าให้มู่หรงยิ่น “ประธานยิ่น ถ้าหากไม่ใช่เพราะหลิน คุณหลินไม่สนใจพวกเรา พวกเราจะใช้แผนการที่โง่เขลาแบบนี้ได้ยังไงกัน! ตระกูลหลิ่วของพวกเราเป็นครอบครัวที่มีศักดิ์ศรี”“ตาแก่หลิ่วคุณพูดซิ ตอนนั้นที่เราเคยอุ้มหลินหยางน่ะ!”หลิ่วเฉิงจื้อถอนหายใจ ส่ายหน้าเล็กน้อยพร้อมกล่าว “เป็นเรื่องในอดีตแล้ว หลังจากที่มนุษย์เจริญรุ่งเรืองก็จะลืมเพื่อนเก่าเมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ของพวกเขา มู่หรงยิ่นก็ยิ้มด้วยความโมโห “พูดแบบนี้ หมายความว่าคุณหลินบังคับให้พวกเธอเข้าหาผู้มีอำนาจงั้นเหรอ?”“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ฉันเพียงแค่รู้สึกว่าตอนนี้คุณหลินได้รับความเคารพนับถือจากผู้คนมากมาย ทำไมถึงได้ปฏิบัติต่อเพื่อนเก่าอย่างพวกเราแบบนี้? ตอนนั้นที่เขาตกอับ ฉันยังลงมือทำกับข้าวให้เขากินด้วยตนเอง ตอนนี้เขากลับรังเกียจเพื่อนเก่า แถมยังขับไล่พวกเราออกจากเมืองลั่วอีก!”อวี๋ผิงกล่าวด้วยความน้อยใจเป็นอย่างยิ่งทันทีที่พูดออกไป ทุกคนก็ฮือฮาขึ้นมา ยังมีคนอีกมากมาย ที่ไม่รู้เรื่องในอดีตของหลินหยางกับตระกูลหลิ่วหลังจากที่หลินหยางเจริญรุ่งเรืองก็ไม่ช่วยเหลือเพื่อนเก่า? เรื่องนี้ทำลายภาพลักษณ์ของหลิน
เธอรีบหันไปส่งสายตาให้กับลูกสาวของตนหลิ่วฟู่อวี่เข้าใจ รีบกล่าวพร้อมบีบน้ำตา “ตอนนั้นคุณพ่อของฉันเห็นว่าคุณตกอับ จะมอบบริษัทให้คุณ แต่คุณกลับดูถูกบริษัทเล็ก ๆ ของพวกเรา!”“ต่อให้คุณดูถูกความหวังดีของตระกูลฉัน คุณก็ไม่ควรโหดร้ายขนาดนี้ ร่วมมือกับประธานยิ่นกลั่นแกล้งพวกเรา!”เธอพยายามบีบน้ำตา เพื่อให้คนที่มามุงดูเห็นใจ หน้าตาของเธอไม่เลว เมื่อร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้ม คนที่มุงดูบริเวณรอบ ๆ มีสีหน้าสงสารอย่างที่คิดไว้จริง ๆผลปรากฏว่าหลินหยางเพียงแค่พูดเสียงเรียบเท่านั้น “ในเมื่อฉันให้เธอไสหัวไป พวกเธอยังไม่ไสหัวไปอีก ยังกล้ามาขอร้องฉัน ทำไม เป็นเพราะไม่เห็นฉันในสายตาใช่ไหม?”ทันทีที่พูดจบ ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปพวกเขาหลายคนไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จของเหลียงเจี้ยนครั้งที่แล้ว จึงไม่รู้เรื่องราวของหลินหยางกับตระกูลหลิ่วในเวลานี้พวกเขาต่างพากันหันมามองหลินหยางด้วยสายตาเหลือเชื่อ ไม่กล้าเชื่อหูของตนเองไม่คิดเลยว่าหลินหยางจะยอมรับตรง ๆ ว่าเขากดดันเพื่อนเก่า?ไม่คาดคิดเลยว่าคุณหลินจะเป็นคนแบบนี้!อวี๋ผิงยืนเซ่อไปแล้ว ปฏิกิริยาตอบโต้กลับของหลินหยางนั้นเกินความคาดหมายของเธอไป
เขากระเด็นออกไปแล้วหล่นลงอย่างแรง กระแทกเข้ากับเฟอร์นิเจอร์เลือดเต็มหน้าของเขา ลืมตาอย่างยากลำบาก จ้องมองหลินหยางอย่างเหลือเชื่อ เขาไม่กล้าเชื่อ ว่าหลินหยางจะลงมือกับตนเองโหดเหี้ยมขนาดนี้!“คุณยังน้อยใจอยู่อีกไหม?” หลินหยางจ้องมองเขาเขม็ง “ในฐานะที่เป็นผู้ชาย คุณจัดการภรรยาของตัวเองไม่ได้ แล้วยังจัดการลูกสาวของตัวเองไม่ได้อีก ให้พวกเธอมาดูถูกผมตามอำเภอใจ!”“ไม่คาดคิดเลยว่าตอนนี้ยังกล้าพูดว่าผมทำร้ายลูกสาวของคุณอีก?”“หรือว่าคุณไม่รู้ว่า การกระทำของพวกเธอในวันนี้ จะส่งผลกระทบอะไรกับผม?”“ถ้าหากพวกเธอกล้าทำตัวไร้มารยาทกับเว่ยจ้ง คุณจะยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน เหมือนกับตอนนี้ได้อยู่ไหม?”เมื่อหลิ่วเฉิงจื้อได้ยินดังนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที แน่นอนว่าเขารู้ดี ภายในใจก็ไม่ได้เห็นด้วยขนาดนั้น แต่นิสัยของเขาอ่อนเกินไป ไม่สามารถโน้มน้าวได้ ทำได้เพียงปล่อยให้พวกเธอทำตามอำเภอใจหลินหยางกลับหันไปมองเขาอย่างเหยียดหยามพร้อมกล่าว “แน่นอนว่าคุณไม่ทำ ถึงอย่างไรคุณก็รู้ดีอยู่แล้วว่า ภรรยาและลูกสาวของคุณไปหาเรื่องเว่ยจ้ง จะต้องตายจริง ๆ แต่เมื่อหาเรื่องผม? หลังจากเกิดเรื่องก็แค่กล่าวขอโทษแค่นั้น ถ
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกไป หลินหยางก็แสดงความเผด็จการออกมาอย่างชัดเจน เขายืนอยู่บริเวณที่สายตาของทุกคนผสานกัน สีหน้าเรียบเฉย พลังอำนาจไม่มีที่สิ้นสุดทุกคนสูดลมหายใจเข้าด้วยความตกตะลึง ถึงได้สติก่อนหน้านี้หลินหยางทำให้ทุกคนประทับใจมากเกินไป ทำให้ผู้คนใช้มาตรฐานของนักปราชญ์ระดับสูงมาเปรียบเทียบเขาโดยไม่รู้ตัว!ทำให้ทุกคนคิดว่าเขาเป็นคนดีที่ถูกรายล้อมไปด้วยคุณธรรมอันสูงส่งโดยไม่รู้ตัว!แต่ความเป็นจริง หลินหยางก็คือปรมาจารย์อันดับหนึ่งของเมืองลั่ว!ปรมาจารย์ไม่อาจดูถูกได้ ความน่าเกรงขามของปรมาจารย์อันดับหนึ่ง ยิ่งรุกรานไม่ได้!อย่างเช่นเรื่องในวันนี้ ถ้าหากเป็นเว่ยจ้ง เขามีเพียงจะลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมยิ่งกว่าหลินหยาง แม้กระทั่งท่ามกลางผู้ชม ถ้ามีใครกล้ามีปัญหากับเขา ก็จะถูกเขาจำกัดทิ้งเช่นกัน!เมืองลั่วยังไม่ได้ความเคารพและความยำเกรงต่อปรมาจารย์อันดับหนึ่งท่านนี้มากพอ!“คุณหลินพูดถูกต้อง พวกนายเก่งมาจากไหน? ถึงได้กล้าแอบอ้างเรื่องคุณธรรมกับคุณหลิน?”ในเวลานี้ คนแก่คนหนึ่งก้าวออกมา หัวของเขาเป็นสีดอกเลา สายตาราวกับเหยี่ยว มีออร่าของความเผด็จการและอำนาจบาตรใหญ่ หันไปมองหลิ่วเฉิงจื้อด
หงชังไฮ่ดีใจขึ้นมาทันที “ขอบพระคุณประธานยิ่น ขอบพระคุณคุณหลิน!Wหลินหยางกล่าว “คุณจัดการเรื่องที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้หน่อย แต่ห้ามให้มีคนตาย”ตนกับพวกเขากหมดสิ้นบุญคุณต่อกันแล้ว ความแค้นก็ให้สิ้นสุดตรงนี้ แต่ตนก็ไม่มีทางมีเจตนาทำร้ายพวกเขาจนตาย ถึงอย่างไรหลิ่วเฉิงจื้อก็คือคนดีที่ห่วยแตกคนหนึ่งเท่านั้น โทษยังไม่ถึงตายหงชังไฮ่ตกตะลึงไปเล็กน้อย รีบตอบรับหลินหยางไม่ได้สนใจอีก กล่าวกับมู่หรงยิ่น “วันนี้ขอบคุณคุณมาก หาเรื่องตระกูลเหยียน เกรงว่าจะนำพาความเดือดร้อนบางอย่างมาให้คุณ”“เรื่องเล็กน้อยน่า แต่ว่าในเมื่อคุณพูดมาแบบนี้แล้ว...”มู่หรงยิ่นหันไปมองหลินหยางพร้อมรอยยิ้มกล่าว “ไม่งั้นเลี้ยงข้าวฉันสักมื้อ?”“แบบนั้นก็ดีเลย”หลินหยางถูกรบกวนแบบนี้ จึงไม่ได้มีความสนใจต่องานเลี้ยงฉลองความสำเร็จเท่าไหร่นัก ไม่สู้หาสถานที่เงียบ ๆ เพื่อพูดคุยกับสาวสวยอย่างมู่หรงยิ่น เพื่อผ่อนคลายสักหน่อยเขาบอกกับเหยียนหรูอวี้เอาไว้แล้ว ว่าจะออกไปกับมู่หรงยิ่นหลังจากที่ทั้งสองคนออกไป หงชังไฮ่กลับกำลังขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ว่าควรจะจัดการลงโทษตระกูลหลิ่วอย่างไร ตามอุปนิสัยของเว่ยจ้งอดีตปรมาจารย์อันดับหนึ่ง
สายตาที่จ้องมองหลินหยางของมู่หรงยิ่นอ่อนโยนขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นก็เชิดหน้าขึ้น กล่าวด้วยความอ่อนโยน “ฉันเชื่อว่า สักวันหนึ่ง คุณจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่ไม่มีใครสามารถเทียบเคียงได้ ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของประเทศหลงหรือแม้กระทั่งของโลก!”หลินหยางจ้องมองมู่หรงยิ่นที่เชื่อมั่นในตัวเองมาตลอด เผยให้เห็นสายตาอ่อนโยนที่เห็นได้ยาก แต่กลับกล่าวอย่างสงสัย “ทำไมผมถึงรู้สึกว่า คุณพูดเหมือนกับว่าจะเป็นการสั่งเสีย? คุณมีเรื่องอะไรปิดบังผมอยู่ใช่ไหม?”มู่หรงยิ่นเพียงแค่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ยังไงคุณก็เข้าใจฉัน อันที่จริงช่วงนี้ฉันหาผู้ช่วยให้คุณจากหนานตู น่าจะสามารถช่วยจัดการเรื่องยุ่งยากบางอย่างของคุณได้ จากนั้นฉันอาจจะต้องกลับไปที่หนานตู นี่ก็ถือว่าเป็นของขวัญชิ้นสุดท้าย ที่ฉันมอบให้คุณก่อนไปก็แล้วกันนะ”“คุณจะไปแล้ว?”หลินหยางกลับไม่ได้สนใจผู้ช่วยคนนั้นสักเท่าไหร่ เพียงแต่รู้สึกมีความเสียดายไม่น้อย ที่สาวสวยคนนี้กำลังจะต้องจากไปอย่างไรก็ตาม เขายังไม่เคยทดลองว่าอุณหภูมิร่างกายของมู่หรงยิ่นคือกี่องศา ก็จะไปแบบนี้แล้ว ค่อนข้างเสียใจเลยทีเดียว“มีเรื่องเล็กน้อยบางอย่างของวงศ์ตระกูลที่ต้องไปจัดการเท่าน
หลินหยางเบะปากอย่างหมดคำพูดไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เหยียนฮ่าวมีแผนชั่วตั้งแต่แรกแล้ว ต้องการใช้ฉินเยียนหรานเป็นที่ระบายเกรงว่าขั้นต่อไป ฉินเยียนหรานจะต้องเสียตัวแล้วแต่คำโบราณพูดเอาไว้ได้ดี ปล่อยวางจริยธรรมการช่วยคนลง เสพสุขกับความสุขของชีวิตโดยเฉพาะเหยื่ออย่างฉินเยียนหราน...ตนจะช่วยเหลือเธอก็ต่อเมื่อเสียสติเท่านั้นตอนที่กำลังจะสาวเท้าเดินไป เสียงของเหยียนฮ่าวก็ดังลอยมา...“คุณยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ใช่ไหม? คุณโตขนาดนี้แล้ว เคยช่วยตัวเองบ้างไหม?”“คุณ คุณพูดเรื่องนี้ทำไม...”ฉินเยียนหรานรู้สึกเขินอาย เธอค้นพบตั้งแต่สมัยเป็นสาววัยรุ่นแล้วว่า ความต้องการของตัวเองไม่น้อย แล้วก็เคยช่วยตัวเองด้วย แต่เป็นเพราะต้องรักษาเยื่อพรหมจรรย์ของหญิงสาวเอาไว้ จึงไม่ได้ทำแรงจนเกินไป ก็เลยไม่ค่อยถึงจุดสุดยอดเท่าไหร่แต่เรื่องที่น่าอายเช่นนี้ จะเอามาพูดได้ยังไง!แต่ว่าเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ เธอกลับรู้สึกว่าตนเองยิ่งร้อนผ่าวขึ้นเรื่อย ๆ ภายในใจก็กระสับกระส่ายขึ้นมา แทบอยากจะรีบกลับบ้านไปแอบเล่นของเล่นในห้อง “เหยียนฮ่าว ฉันต้องไปแล้วจริง ๆ ฉันเหนื่อยแล้ว...”“นั่งอีกสักเดี๋ยวซิ ใช่แล้ว ฉันว่าแม่
ครู่ต่อมา เธอก็หมดสติไปแล้ว“แม่งเอ๊ย ใครมันไม่แหกหูแหกตาวะ!”เหยียนฮ่าวถูกรบกวนเวลาดี ๆ ก็รู้สึกเดือดดาลเป็นอย่างยิ่งเมื่อเขาลืมตามองสีหน้าก็ตกใจทันที เห็นหลินหยางยืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาโมโหขึ้นมาทันที “แกยังกล้ามาเสนอหน้าอยู่ต่อหน้าฉันอีก? แกอย่าคิดว่ามีมู่หรงยิ่นคอยสนับสนุนแกก็กล้าทำตัวอวดดีไม่กลัวใคร! อีกเดี๋ยวฉันกลับไป ฉันมีเป็นร้อยวิธีที่จะใช้จัดการกับแก!”ผลปรากฏว่ามีเสียงดังเพี๊ยะหลินหยางตบฉาดหนึ่ง จนเขาเซล้มลงไปบนโต๊ะกาแฟ ทำให้น้ำสาดกระจายเต็มพื้น“ฉันกำลังถามแก อุบัติเหตุทางรถยนต์ของพ่อฉัน มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!”หลินหยางกล่าวถามพร้อมจ้องมองเขาด้วยสีหน้าจริงจังและเมื่อเหยียนฮ่าวได้ยินประโยคนี้ กลับอึ้งไป เขาหันไปมองหลินหยางด้วยความเหลือเชื่อ “นี่แกเป็นไอ้สารเลวนั่นจริง ๆ เหรอ?”ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาถูกมู่หรงยิ่นไล่ออกมา ในใจก็สงสัยอยู่แล้วว่า หลินหยางอาจจะเป็นคุณหลินท่านจริง ไม่อย่างนั้นตอนที่ตนกำลังเปิดโปงตัวตนของหลินหยาง ทำไมมู่หรงยิ่นต้องเสี่ยงอันตรายเพื่อล่วงเกินตระกูลของตน แล้วก็ไล่ตนออกมาด้วย?และตอนนี้หลินหยางมีท่าทีตอบโต้รุนแรงขนาดนี้ เขามั่นใจในตัวตนของหล
ร่างกายของฮิเดนากะ ยามาโมโตะเหมือนกับระเบิด แฝงไปด้วยพลังมหาศาล!“บ้าเอ๊ย!”จ้าวเจี้ยนชิงรีบจับเอาไว้อย่างรวดเร็ว พยายามรักษาระยะห่างกับหลินหยางแต่ทว่าหลินหยางกลับขยับตัวเข้าไปใกล้! ตามเขาไปอย่างใกล้ชิด!ทันใดนั้น แม้ว่าเป็นพวกคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงก็ไม่กล้าเหนี่ยวไก กลัวว่าจะพลาดทำจ้าวเจี้ยนชิงบาดเจ็บ!“ไสหัวออกไป!”จ้าวเจี้ยนชิงคำรามออกมาพร้อมทั้งสวนหมัดออกไป อยากจะบีบให้หลินหยางถอยออกไปแต่หลินหยางกลับคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ กล่าวพร้อมแสยะยิ้ม “คิดจะหนี? แกหนีพ้นเหรอไง?”จ้าวเจี้ยนชิงสีหน้าตกใจ ออกแรงอย่างบ้าคลั่งพยายามจะทำให้หลุดพ้นแต่ทว่ามือของหลินหยางเหมือนกับคีม ขยับเขยื้อนไม่ได้เลยสักนิด! ในทางกลับกันมีเสียงดังสนั่นกลุ่มหนึ่งลอยมา ทำให้จ้าวเจี้ยนชิงรู้ว่าตนเองราวกับถูกพันธนาการเอาไว้แน่น!“แม่งเอ๊ย แกปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าผู้หญิงขี้ยาพวกนั้น!” จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวข่มขู่ด้วยความโมโหเพี้ยะ!ทันใดนั้นก็ถูกตบหน้าฉาดหนึ่ง!นี่เป็นการโจมตีที่รุนแรงและหนักหน่วง เสียงเปรี้ยงดังขึ้นทำให้หัวของจ้าวเจี้ยนชิงสั่นสะเทือน!“การตบนี้ ตบเพราะแกลืมรากเหง้า!” หลิ
เปรี้ยง!หลินหยางสวนหมัดสังหารออกไปทันที หมัดนี้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า!เขาต้องการจะเอาชีวิตสุนัขของเขา!แต่ทว่าในเวลานี้ ทันใดนั้นที่ประตูใหญ่ของตระกูลเฉิงก็แหลกละเอียด จ้าวเจี้ยนชิงพังประตูออกมา ขวางเอาไว้ที่ด้านหน้าของฮิเดนากะ ยามาโมโตะ สวนหมัดเพื่อโจมตีออกไปเช่นกัน!หมัดทั้งสองปะทะเข้าใส่กัน เกิดเสียงดังเปรี้ยงขึ้นทีหนึ่งแล้วทั้งสองก็ถูกแรงสั่นสะเทือนลอยออกไปพร้อมกันร่างกายของจ้าวเจี้ยนชิงร่นถอยไปหลายก้าวติดต่อกัน เสียงดังเปรี้ยง หินแผ่นหนึ่งถูกบดขยี้อยู่ใต้เท้า“ปรมาจารย์หลิน เรื่องเล็กน้อยนี้ควรค่าที่จะให้คุณต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่คู่ควรหรอกน่า”จ้าวเจี้ยนชิงยืนเอามือไพล่หลัง สายตาที่จ้องมองหลินหยางราวกับกำลังชื่นชม หลินหยางยิ่งโกรธ เขาก็ยิ่งรื่นรมย์ เขาถูกหลินหยางทำให้โมโหจนขาดสติหลายครั้ง ยินดีมากที่จะได้เห็นหลินหยางโมโห“ไม่ผิด!” ฮิเดนากะ ยามาโมโตะกลับกล่าวพร้อมรอยยิ้มเยาะหยัน “พวกเธอเป็นผู้หญิงเสพยาทั้งนั้น ฉันปรารถนาดีหางานให้พวกเธอ ยังจัดการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนั้นให้คุณอีก”“ปรมาจารย์หลินยังจะตำหนิผมอีก ผมนี่มันทำดีแต่ไม่ได้ดีเลยจริง ๆ!”แต่ทว่าทันทีที่พูดจบ
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ