คู่ต่อสู้ที่หลินหยางต้องเผชิญแข็งแกร่งเกินไปแล้ว..“จบกัน…."เฉียวจิ่นเอ๋อร์จ้องมองหน้าจอถ่ายทอดสดอย่างเหม่อค้าง สีหน้าซีดขาว เมื่อครู่เธอยินดีกับชัยชนะของหลินหยางเพียงใด ตอนนี้ก็ผิดหวังมากเท่านั้นชื่อเสียงปรมาจารย์อันดับหนึ่งของเว่ยจ้งโด่งดังมานานแล้ว เขากับเจียงไห่เซิงห่างชั้นจนไม่อาจเอามาพูดรวมกันได้ ทั่วทั้งเมืองลั่วต่างก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของเขาหลินหยางยังจะรับมืออย่างไรได้อีก…ในที่ทำการเจ้าเมือง หัวคิ้วของเหยียนหรูอวี้ขมวดเข้าหากัน “ยุ่งยากแล้ว…” หลูอ้าวตงมีแผนสองจริงๆ ตั้งแต่ต้นจนจบเขาก็ไม่มีความคิดที่จะประลองอย่างยุติธรรมเลยต่อให้เธอจะหวังให้หลินหยางชนะเพียงใด แต่เห็นได้ชัดว่า การประลองครั้งนี้ดำเนินมาจนถึงจุดนี้ หลินหยางก็ได้เดินมาถึงทางตันแล้วในคฤหาสน์ของตระกูลมู่หรง บรรยากาศหนักอึ้งเป็นอย่างมาก ดวงตาทั้งคู่ของมู่หรงหว่านเอ๋อร์เต็มไปด้วยน้ำตา สีหน้าก็แสดงความสิ้นหวังส่วนมู่หรงยิ่นทำเพียงแต่จับจ้องไปยังจอถ่ายทอดสด สีหน้าซีดขาว เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ในความคิดของเธอ หลินหยางดูเหมือนจะไม่มีโอกาสชนะเลยส่วนบนเกาะกลางทะเลสาบนั้นหลินหยางจ้องไปที่เว่ยจ้งด้
ในชั่วขณะนั้น ลานประลองก็ตกเข้าสู่ภาวะเงียบสงัด มีเพียงเสียงร้องโหยหวนอันน่าเวทนาของเว่ยจ้งที่สะท้อนไปมาไม่หยุด“เขาชนะแล้ว? ชนะอีกแล้ว?” หลูอ้าวตงมองไปที่หลินหยางอย่างเหม่อค้าง ฉากที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวนี้ ทำให้เขาหลงลืมความโกรธ เหลือเพียงความตกตะลึงเท่านั้นเขาใช่เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น ก็เอาชนะเว่ยจ้งได้แล้ว?เห็นชัดๆ ว่าเมื่อครูตอนประมือกับเจียงไห่เซิงใช้ไปสิบกว่ากระบวนท่าจึงเอาชนะได้ แล้วเหตุใดเมื่อเผชิญหน้ากับเว่ยจ้งที่แข็งแกร่งกว่ากับเอาชนะได้ในกระบวนท่าเดียว?นี่ทันทำไมกัน?“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?” ภายใต้เสียงคำรามด้วยความโกรธที่สูงเทียมฟ้าของเขา จ้าวเจี้ยนชิงกลืนน้ำลายลงไปคำหนึ่งอย่างยากลำบาก พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวจริงๆเขาไม่สามารถอธิบายฉากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้แล้ว หลินหยางชนะอย่างประหลาดเกินไปจริงๆ!นั่นคือเว่ยจ้งเลยนะ ปรมาจารย์อันดับหนึ่งแห่งเมืองลั่ว!ผลคือเมื่ออยู่ในมือหลินหยาง แม้แต่กระบวนท่าเดียวก็ทนรับไม่ไหว ถูกทำให้พิการอย่างหมดจดรวบรัดเช่นนี้!เฉาเค่อหมิงที่อยู่ด้านข้างตะลึงงันไปแล้ว คำรับรองอย่างมั่นใจเมื่อครู่ของเจ้าเจี้ยนชิงคล้ายยังดังอ
“แกหลอกฉัน! ที่แท้แกเอาแต่เก็บซ่อนความสามารถเอาไว้ตลอด!”หลูอ้าวตงจ้องหลินหยางเขม็ง ความโกรธภายในใจพวยพุ่งขึ้นมาราวกับคลื่นลูกใหญ่!เขาโอ้อวดว่าตัวเองเป็นนักวางแผน ผลปรากฏว่าตอนที่สถานการณ์ดำเนินมาถึงตอนจบ หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดใหญ่ บอกเขาว่าสถานการณ์ตอนนี้ ในสายตาของหลินหยางตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นเพียงเรื่องน่าตลก!พละกำลังของเขา เหนือชั้นกว่าเจียงไห่เซิงกับเว่ยจ้งไปตั้งนานแล้ว!สีหน้าของจ้าวเจี้ยนชิงก็ดูแย่เช่นกัน เมื่อเห็นหลินหยางรอดตายหวุดหวิดครั้งแล้วครั้งเล่า เรียกได้ว่าน่าเศร้าเสียยิ่งกว่าฆ่าเขาเสียอีกเขาอดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมองหลูอ้าวตง “นายท่านตง อันที่จริงยังมีหนทาง...”“นายยังคิดจะแนะนำไอ้สวะคนไหนให้ฉันอีก? อยากจะทำให้ฉันขายขี้หน้าไม่เลิกเหรอไง?!”หลูอ้าวตงพลิกหลังมือแล้วตบเข้าไปที่ใบหน้าของจ้าวเจี้ยนชิง สายตาราวกับจะกินคน จ้าวเจี้ยนชิงรับปากมาหลายครั้งว่า สามารถจัดการหลินหยางได้ผลปรากฏว่ากลับทำให้เขาต้องขายขี้หน้าจนหมดสิ้น ในสายตาของเขา จ้าวเจี้ยนชิงควรตายเป็นหมื่นครั้งเช่นเดียวกัน!“ผมหมายความว่า ผมจะลงสนามด้วยตัวเอง เพื่อท้าดวลกับเขาอีกครั้ง! กำจัดหลินหยางเพ
พูดจบ เขาก็วางสายโทรศัพท์ หันไปมองทางด้านหลูอ้าวตงด้วยสายตาเย็นชาพร้อมกล่าว “ฉันช่วยนายมาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าหากนายยังไม่สามารถทำให้หลินหยางเข้าตาจนได้ ถ้าอย่างนั้นนายก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นคนของสี่ตระกูลใหญ่!”และอีกด้านหนึ่งหลูอ้าวตงวางสายโทรศัพท์ แค่นเสียงหัวเราะ “ฉินเจิ้งคุน เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว แกก็ยังต้องมาขอความช่วยเหลือจากฉัน”“นายท่านตง ฉินเจิ้งคุนโทรศัพท์มาตอนนี้ทำไม?”จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวอย่างสงสัยหลูอ้าวตงค้อนเขาอย่างเย็นชาแวบหนึ่งพร้อมกล่าว “แน่นอนว่าต้องมาช่วยตามเช็ดตามล้างให้แกนะสิ มู่หรงยิ่นกับหลินหยางสนิทแนบแน่นกันมากใช่ไหม?”“ตอนนี้รู้ว่าควรทำยังไง ไม่ต้องให้ฉันสอนแล้วใช่ไหม?”“เข้าใจแล้วครับ! เขากับมู่หรงยิ่นสนิทแนบแน่นกันมาก เขาจะต้องตอบตกลงแน่ นายท่านตงฉลาดหลักแหลม!”จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึง จากนั้นก็ดีใจมาก!ถึงแม้ว่าเจียงไห่เซิงกับเว่ยจ้งจะพ่ายแพ้แล้ว ทำให้ตนเองต้องขายขี้หน้ามาก แต่ก็ยังมีข้อดีอยู่ตนสามารถฉีกหลินหยางให้แหลกละเอียดได้ เพื่อแก้แค้นให้ลูกชายด้วยตัวเองปรมาจารย์ระดับหกมีวรยุทธ์ขั้นเสวียนติดตัว สามารถต่อสู้ข้ามระดับได้ แต่ถ้าหากตนชนะละ?ที่มุมปา
ภายในจวนนายกเทศมนตรีเหยียนหรูอวี้นวดหน้าผากเงาแวววาว สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงพลุ่งพล่านขึ้นมาที่ก้นบึ้งของหัวใจทันทีหมู่บ้านตี้เหาตึกห้าลั่วหงอวี๋กำลังมองดูสถานการณ์การรบ เผยให้เห็นรอยยิ้มที่มุมปาก “การท้าประลองครั้งนี้ ยิ่งมีความน่าสนุกมากขึ้นเรื่อย ๆ...”และบรรดาติ่งที่อยู่บนฝั่ง กลับตกอยู่ในความเงียบสงัด อารมณ์ที่สิ้นหวัง ได้แผ่ซ่านไปในหัวใจของทุกคน...บนเกาะกลางทะเลสาบหลูอ้าวตงก็อึ้งไปเล็กน้อยเช่นกัน จากนั้นก็เผยให้เห็นรอยยิ้ม “เยี่ยม ในที่สุดฉันก็มีความรู้สึกประทับใจในตัวแกขึ้นมาบ้างแล้ว แกรู้ความมาก ช่วยกำจัดความยุ่งยากให้ฉันได้มาก”ถ้าหากหลินหยางไม่ตอบรับการท้าดวลครั้งนี้ เขาก็คงทำได้แค่ไม่สนใจกฎระเบียบ เพียงแค่หลังจบเรื่องจำเป็นต้องชดใช้ราคาบางอย่าง อย่างเช่นเสียสละอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ลดตำแหน่งของจ้าวเจี้ยนชิงหนึ่งขั้นถึงแม้ว่าสำหรับตระกูลหลูแล้ว ตำแหน่งข้าราชการของจ้าวเจี้ยนชิงไม่ได้มีความจำเป็น แต่จะทำให้คนนอกรู้สึกว่าตระกูลหลูไม่สามารถปกป้องลูกน้องได้แต่หลินหยางเพียงแค่หันไปมองเขา ส่ายหน้าเล็กน้อย “แกยังไม่เข้าใจ วันนี้แกก่อเรื่องยุ่งยากมากขนาด
“ทำไมเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าตระกูลหลูเป็นยักษ์ใหญ่ ตอนที่พวกมันดูถูกฉัน ฉันถึงได้ตอบโต้กลับ”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ “เพราะในสายตาของฉัน มีสิ่งของที่สำคัญยิ่งกว่าผลประโยชน์”“ของสิ่งนั้นคือศักดิ์ศรี! ของสิ่งนั้นคือขีดจำกัด! ของสิ่งนั้นคือหลักการ!”“แต่พวกแก ไม่สามารถเข้าใจการกำจัดผลประโยชน์ที่เหนือความคาดหมายออกไปได้ ในสายตาหลงเหลือแค่เพียงอำนาจ สถานะ ตำแหน่งเท่านั้น นอกจากของพวกนี้แล้ว พวกแกไม่เชื่อว่า จะมีคนต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิตเพื่อสิ่งอื่น!”“แต่ว่าของสิ่งเหล่านี้ในสายตาของพวกแกก็เป็นแค่สิ่งที่ไม่มีค่าแม้แต่สตางค์แดงเดียว สำหรับฉัน สำหรับในหัวใจของชาวเมืองลั่วส่วนมาก กลับเป็นสิ่งที่ล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากได้รับการดูถูก ก็จะปกป้องด้วยชีวิตของตน!”เมื่อพูดถึงตรงนี้ จ้าวเจี้ยนชิงสีหน้าคาดเดาอารมณ์ไม่ได้ คลายกำปั้นแล้วก็กำอีกครั้งสีหน้าของเฉาเค่อหมิงและคนอื่น ๆ ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ พวกเขาอยากจะโต้แย้งคำพูดของหลินหยาง ดูถูกเขาว่าความตายมาเยือนตรงหน้าเขาแล้ว ยังกล้าจะลงสนามต่อสู้ ก็ไม่ต่างอะไรกับคนโง่!แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พวกเขากลับพูดไม่ออก!และบรรดาติ่งที่กำลังรับชม
ข้อห้ามสังหารเทพ!ว่ากันว่าร่างกายมนุษย์เป็นคลังสมบัติ แต่กลับถูกพันธนาการด้วยข้อห้ามเก้าประการ ทำให้ไม่สามารถดึงศักยภาพของตัวเองออกมาได้เต็มที่!แต่เทพโอสถกลับมีวิชาลับเฉพาะตัว ค้นหาวิธีการใหม่ ๆ สามารถฝ่าทะลวงพันธนาการได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ พัฒนาระดับของตัวเอง ดึงพละกำลังให้สูงขึ้นมากข้อห้ามสังหารเทพมีเก้าข้อห้ามสังหาร หนึ่งข้อห้ามหนึ่งโลก หนึ่งข้อห้ามหนึ่งฟ้าดิน!ตอนนั้นการต่อสู้อันโด่งดังของเทพโอสถ ก็คือการฝ่าทะลวงแปดกฎต้องห้าม ด้วยจุดสูงสุดของระดับสวรรค์เพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับเทพ ระดับไม่มั่นคงเป็นอย่างมาก!และการฝ่าทะลวงเก้ากฎต้องห้าม ไม่เคยมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ!ว่ากันว่าถ้าหากสามารถทำได้ ก็สามารถสังหารเทพได้ด้วยร่างกายของมนุษย์ธรรมดา!และในเวลานี้ หลินหยางทำให้วิชาต้องห้ามที่ไม่เห็นเป็นเวลานานปรากฏในโลกเป็นเวลา ได้ปรากฏขึ้นมาในโลกมนุษย์อีกครั้ง “สังหารเทพข้อห้ามแรก เปิด!”หลินหยางตะโกนเสียงดัง เส้นเลือดทุกเส้นทั่วร่างกายระเบิดออก ราวกับว่าร่างกายหลอมขึ้นมาจากเหล็ก แข็งแกร่งยากเกินจะทำลาย“จ้าวเจี้ยนชิง! มาสู้กัน!”เขาคำราม ทั้งทรงพลังและเผด็จการ ลมปราณเพิ่มขึ้นไปจนถึง
หลินหู่ที่อยู่อีกทางด้านหนึ่งสายตาจดจ้อง “จ้าวเจี้ยนชิงไม่ธรรมดา เขามีหวังที่จะเลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์เสวียน”“หลูอ้าวตงไม่เคยทำธุรกิจที่ขาดทุนมาก่อน ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะยกโทษให้จ้าวเจิ้งฮ่าวที่ทำความผิดได้ง่าย ๆ...”ฉินเจิ้งคุนสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จ้าวเจี้ยนชิงควรค่าแก่การดึงมาเป็นพวกจริง ๆ คนที่มีหวังที่จะได้เลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์เสวียนแบบเขา ในสายตาของตระกูลใหญ่ก็คือค่อนข้างมีมูลค่า“หลินหยางจะถูกจัดการด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวไหม เราจะช่วยเขาทันไหม?”ฉินอี๋หลิงกล่าวอย่างเป็นกังวล“ตอนนี้สิ่งที่ควรเป็นกังวลคือ ไม่ใช่ว่าจะช่วยได้หรือไม่ได้ แต่ว่าควรหรือไม่ควรจะช่วย พ่อว่าเขาไม่เหมือนกับคนที่จะยอมแพ้...”เมื่อฉินอี๋หลิงนึกถึงคำพูดอันฮึกเหิมก่อนหน้านี้ของหลินหยาง สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นเช่นกันและเวลานี้ในระหว่างการต่อสู้ จ้าวเจี้ยนชิงได้สาวหมัดอย่างรวดเร็ว ภายใต้การโจมตี อากาศราวกับถูกฉีกขาดออกจากกัน อยากจะต่อยหลินหยางให้แหลกละเอียด ไม่ให้โอกาสเขาในการดิ้นรนใด ๆ!หลินหยางไม่ยอมแพ้ โบกฝ่ามือเช่นเดียวกัน ทั้งดุร้ายและเผด็จการ ปกคลุมศีรษะของจ้าวเจี้ยนชิง ราวกับว่าจะใช้ขั้นเบิ