เมื่อหลินหยางได้ยินอย่างนี้แล้ว ก็ไม่ยอมวางมือ แล้วพูดอย่างใจเย็น "เรื่องอื่น ผมยังไว้หน้าคุณเลย แต่ลูกสาวคุณล้ำเส้นผม ถ้าหากไม่ใช่การเชือดไก่ให้ลิงดู อย่างนั้นต่อไปศัตรูของตนจะไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่างเหรอ?”เฉิงคั่วกัดฟันพูด “ผมได้เก็บเห็ดหลินจือห้าร้อยปีไว้ ยินดีที่จะให้ท่านปรมาจารย์หลินเพื่อเป็นการแสดงถึงความสำนึกผิด”เห็ดหลินจือนี้ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้อยู่ในเงื้อมมือได้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่า วางแผนไว้ว่าหากโตไปอายุเยอะแล้ว จะใช้มันเพื่อยืดอายุแต่ในตอนนี้เพื่อชีวิตของลูกสาวแล้ว จึงต้องอดกลั้นเสียสละความรักนี้ไป แล้วเปลี่ยนเป็นชีวิตของเฉิงหว่านฉิงแทน หลังจากที่หลินหยางได้ยินเช่นนี้ ก็ค่อย ๆ คลายมือลง “ได้ อย่างนั้นผมจะไว้หน้าคุณเหล่าเฉิง”ทั่วทั้งใบหน้าแดงของเฉิงหว่านฉิง ไอออกมาอย่างรุนแรง หายใจสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเฮือกใหญ่ ๆ รอยนิ้วมือสีแดงสดใสปรากฏบนคอของเธอ เธอไม่ได้ห่างจากอาการกลัวความตายมานานนัก “ขอบคุณมากครับท่านปรมาจารย์หลิน”เฉิงคั่วอดทนต่อความเจ็บปวดทั้งกำมัดแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ขอตัวก่อนนะครับ”หลินหยางไม่พูดพร่ำ จึงเดินไปที่ประตู แล้วพูดกับหลินหยี่โม่ “
หลินหย่วนจื้อกล่าว“ได้ครับ งั้นพวกคุณก็กลับไปรอก่อนเถอะครับ รอผมหาให้ได้ครบพันล้านแล้วจะเอามาให้พวกคุณ”หลินหยางกล่าว“ดีเลย ผมรู้ว่าคนอย่างคุณเสี่ยวหลินทั้งใจกว้างและมากความสามารถ หากว่าเสี่ยวโม่จากตระกูลเราได้แต่งกับคุณแล้ว ก็แปลว่าหาคนที่ใช่เจอแล้วจริง ๆ อย่างนั้นผมจะกลับไปรอข่าวดีจากคุณนะครับ” หลินหย่วนจื้อยิ้มจนปากจะฉีกถึงรูหู แล้วพาหลินไห่เต๋อกับซุนหงเสียแยกตัวออกไปก่อน ทางหลินหยางก็พาหลิยหยี่โม่เข้ามานั่งในรถ ส่วนหน้าของรถถูกทุบ แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบใด ๆ ต่อการขับ “หลินหยาง นายอย่าให้เงินเยอะแยะขนาดนั้นกับพ่อฉันเลย ถ้าครั้งนี้นายให้ไปพันล้าน ครั้งต่อไปต้องของมากกว่านี้แน่ ๆ ”หลินหยี่โม่รีบชวนคุย “ฉันให้เงินพ่อเธอ เธอไม่มีความสุขหรือไง?”หลินหยางยิ้มด้วยความสนใจ“นายช่วยฉันไว้เยอะมากแล้ว แล้วยังมาขอเงินนายอีก อย่างงั้นฉันจะกลายเป็นตัวอะไรล่ะ? สรุปคือ เงินนี้นายไม่ต้องให้” หลินหยี่โม่กล่าวหลินหยางยกมือขึ้นมาลูบหัวหลินหยี่โม่ ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เธอเห็นว่าฉันเป็นคนใช้เงินแบบไม่คิดเหรอ? ถ้าพ่อเธอยากจะได้สักกี่สิบล้าน ฉันก็ให้ไปแล้ว แต่นี่พูดว่าพันล้าน
เนตรคู่ของหลินหยางพัฒนาไปสู่ขั้นที่สองได้สำเร็จ แต่พวกเขายังคงต้องฝึกฝนต่อไปหากเนตรคู่ต้องการแสดงพลังที่แท้จริงออกมา จะยังต้องฝึกต่อจนถึงขั้นสามแน่นอน นั่นคือการพัฒนาศักยภาพ ลั่วหงอวี๋ก็ปรากฏตัวออกมาเช่นเคย หลังจากที่ปราณสีม่วงสลายไป หลินหยางก็ศึกษากับลั่วหงอวี๋อีกครั้ง มีข่าวลือในโลกแห่งยุทธจักร ว่าลั่วหงอวี๋คือผู้ที่อ่อนแอที่สุดในบรรดามหาปรมาจารย์ทั้งสี่ แต่ดูจากการต่อกรในช่วงนี้แล้ว หลินหยางมั่นใจได้ว่าความแข็งแกร่งของลั่วหงอวี๋เหนือชั้นกว่าเฉิงคั่วอย่างแน่นอน แม้แต่เจียงไห่เซิงปรมาจารย์ระดับหก ก็มิอาจเป็นคู่ต่อสู้ของลั่วหงอวี๋ได้ “ฝ่ามือแปดอัฏลักษณ์ คุณเรียนตั้งแต่เมื่อไร?”ลั่วหงอวี๋เห็นว่าหลินหยางใช้ฝ่ามือแปดอัฏลักษณ์ จึงถามออกมาด้วยความสงสัย “เมื่อวานแอบไปต่อกรกับเฉิงคั่วมานี่”หลินหยางเผยยิ้มตอบลั่วหงอวี๋พยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวว่า "ฝ่ามือแปดอัฏลักษณ์ของคุณ คู่ควรกับท่าร่างวิชาตัวเบาแห่งวิชาอสนีบาตสามสหัสสะ เก่งกาจกว่าเฉิงคั่วเสียอีก อยากจะทำให้เฉิงคั่วโกรธเหรอ?"“ผมเคลื่อนไหวแค่กระบวนท่าเดียว ก็มั่นใจว่าเขาแพ้แล้ว” หลินหยางกล่าว“โอ้ะ? กระบวนท่าไหน?” ลั
หลินหยี่โม่ยู่ปากพยักหน้า แล้วเบิกตากว้างก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า "ฉันหิวแล้วจริงๆ เธออย่าเพิ่งคิดมิดีมิร้ายนะ ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้ว"หลินหยางหัวเราะแล้วพูดว่า “งั้นเธอก็รีบไปอาบน้ำซะสิ ฉันเองก็จะอาบเหมือนกัน แล้วอีกแป๊ปนึงเดี๋ยวเราออกไปกินข้าวเช้ากัน”ทั้งสองมาถึงร้านอาหารเช้า ต่างก็กินไปคุยกันไป หลินหยี่โม่หยิบทิชชู่ออกมาเช็ดเศษอาหารบนปากให้หลินหยาง ในช่วงเวลานี้เองครอบครัวของหลิ่วเฉิงจื้อก็เดินเข้ามาในร้านอาหาร แล้วบังเอิญพบกันเข้า “เสี่ยวหยาง…”ถึงแม้ว่าเมื่อวานจะไม่มีความสุขอยู่บ้าง แต่ในใจของหลิ่วเฉิงจื้อยังคงรู้สึกอยากขอโทษหลินหยางอยู่ อวี๋ผิงจ้องไปที่หลิ่วเฉิงจื้อครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “สนิทกับแกมากไหม? ทักอะไรกัน?”ตอนนี้อวี๋ผิงยังคงภาคภูมิใจ เนื่องจากเมื่อวานนี้ เหลียงเจี้ยนได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรองประธานสมาคมการค้าวั่นเหา และอวี๋ผิงเองก็ถูกเลื่อนให้เป็นกรรมการผู้จัดการอีกด้วย ตระกูลหลิ่วเองก็ได้ตั้งหลักในสมาคมการค้าวั่นเหา ซึ่งการพัฒนาหลังจากนี้จะนับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ เพียงแค่ทั้งอวี๋ผิงและหลิ่วเฉิงจื้อต่างก็ไม่รู้ ว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงเพราะมู่หรงยิ่นทำเพื่อห
เมื่ออวี๋ผิงเตือน หลิ่วเฉิงหวี่ก็ใจเย็นขึ้น จนเกือบจะแสดงออกมากเกินไปด้วยซ้ำ หลิ่วฟู่อวี่เองก็รู้ เกี่ยวกับพลังที่แข็งแกร่งอย่างมากของหลินหยางในตอนนี้ หากว่าเธอลงมือจริง ๆ จะต้องแบกทุกข์ไว้กับตัวเองอย่างแน่นอน “ฉันจะจำแกไว้ ฝากไว้ก่อนเถอะ ในไม่ช้าก็เร็วฉันจะมาฉีกปากเน่า ๆ ของแกออก แล้วให้แกขอโทษฉัน”หลิ่วฟู่อวี่พ่นคำพูดที่รุนแรงออกมาเมื่อวานนี้ที่เหลียงเจี้ยนแสดงความเห็นที่โรงพยาบาล จะต้องให้คนมาตามล้างแค้นหลินหยางอย่างแน่นอน เขาคงจะดิ้นรนเอาตัวรอดได้อีกแค่ไม่กี่วัน หลิ่วฟู่อวี่ก็อยู่ด้วยในเวลานั้น ทำได้เพียงแค่อดทน“หลิ่วฟู่อวี่ แกก็ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่างกับตอนที่อยู่โรงเรียนเลยนะ หยิ่ง ยโส แต่เพราะตอนแรกมีหลินหยางคอยปกป้องอยู่ ซึ่งในตอนนี้เขาเป็นแฟนฉันแล้วย่ะ ไม่มีเขาคอยปกป้องแล้ว แกยังจะกล้าทำอะไรตามอำเภอใจได้อยู่เหรอ?”หลินหยี่โม่พูดเบา ๆ“หลินหยาง? ตอนนี้ฉันให้นายปกป้องเหรอ? นายเองก็รู้ว่าแฟนคนปัจจุบันของฉันเป็นใครใช่ไหม? เหลียงควนไงล่ะ นายเองก็น่าจะรู้จักนะ ตอนนี้พ่อของเขากลายเป็นรองประธานสมาคมการค้าวั่นเหาไปแล้ว แล้วอย่างนี้หลินหยางจะเทียบกับเหลียงควนยังไงได้?”
คาดไม่ถึงเลยว่าที่บ้านจะเกิดเรื่องขึ้น และแผนการของเธอก็ถูกยกเลิกไป “แต่ว่า……”“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น รับไปเถอะ ถ้าไม่พอค่อยบอกฉันอีก”หลินหยางยัดบัตรเข้าไปในมือของหลินหยี่โม่ “ขอบใจนะ ตอนแรกฉันอยากเริ่มธุรกิจด้วยตัวเอง แต่ที่บ้านฉันไม่มีใครเห็นด้วยเลยสักคน ในสายตาของพวกเขา ความฝันของฉันไม่ได้สำคัญอะไร แม้แต่ความคิดของฉันเองก็ไม่สำคัญ”ดวงตาของหลินหยี่โม่ชื้นขึ้นเล็กน้อยทั้งคุณปู่และคุณพ่อของเขาต่างก็เป็นพวกที่ให้ความสำคัญกับเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง ซึ่งมักจะลำเอียงไปทางน้องชายของเขาหลินเว่ยเสียงมาโดยตลอด หลินหยี่โม่ก็อยากจะพิสูจน์ตัวเองมากเช่นกันในความคิดของเธอ เธอเชื่อว่าคนที่บ้านของเธอไม่ใช่ว่าไม่รู้ เพียงแค่ไม่สนใจมากกว่า จึงมีเพียงแค่หลินหยางที่ยังใส่ใจ และสนับสนุน“ทางด้านฉันเอง อุดมคติกับความคิดขอเธอก็สำคัญมาก แม้แต่ตัวเธอเองก็สำคัญมากเช่นกัน ลงมือทำซะ หากเจอเรื่องอะไรที่ยากลำบากก็บอกฉันมา”หลินหยี่โม่โผลเข้ากอดหลินหยางไว้แน่น ความรู้สึกสับสนวุ่วายไปหมดหลินหยี่โม่ไม่ได้ตามหลินหยางกลับไปที่หมู่บ้านตี้เหา ถือเงินห้าสิบล้านนี้ไว้ แล้วเธอก็เข้าสู่โหมดการทำงานทันท
เมื่อได้ยินอย่างนี้หลินหยางก็รู้สึกดี คิดไม่ถึงว่าของขวัญชิ้นใหญ่จากเฉิงหว่านฉิงจะเป็นผู้หญิง แถมยังเป็นผู้หญิงที่มาจากญี่ปุ่นซะด้วย ใครกันบ้างที่ยังไม่เคยดูหนังญี่ปุ่น? หลินหยางเองก็ไม่ได้มีข้อยกเว้นอะไร อีกทั้งความจริงแล้วเขาเองก็มีความคาดหวังบางอย่างกับผู้หญิงญี่ปุ่นเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครู่นี้ที่เขาฝึกวิชาทำให้ปราณหยางของเขาก้าวหน้าเกินไป ซึ่งเป็นปกติที่ต้องการเวลาเพื่อให้หยินและหยางปรับตัวทัดเทียมกัน ของขวัญนี้จากเฉิงหว่านฉิง ให้มาได้อย่างถูกต้อง และถูกเวลา ทำให้หลินหยางใจเต้นอยู่ครู่หนึ่ง “ฮุ่ยจื่อเต็มใจที่จะติดตามนายท่านไปจนตาย สำหรับนายท่านแล้วยอมทำได้ทุกอย่าง”ฮุ่ยจื่อยังแสดงมารยาทการโค้งคำนับแบบญี่ปุ่นด้วย หากว่าเปลี่ยนให้เธอสวมชุดกิโมโนสไตล์ญี่ปุ่น แล้วให้พูดภาษาญี่ปุ่นออกมาสักสองสามประโยคล่ะก็ ความน่าดึงดูดใจของเธอก็จะยกระดับขึ้นไปอีกอย่างแน่นอนแม้ว่าหลินหยางจะต้องการอย่างมากในขณะนี้ก็ตาม แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นขึ้นสมอง“ผมไม่ได้สนใจเขาหรอก แต่ผมกลับสนใจเธอขึ้นมาบ้างแล้วสิ”หลินหยางจับเฉิงหว่านฉิงอย่างเกรี้ยวกราด วางแขนของเขาโอบรอบเอวของเธอไว้ แล้วยกคางเธอข
หลินหยางพูดพึมพำอย่างเย็นชากับตัวเองเมื่อทั้งสองกลับมาถึงที่รถ ใบหน้าทั้งใบของเฉิงหว่านฉิงก็เย็นชาลง “ไอ้ผู้ชายสารเลวมันสมควรตาย กล้าดียังไงมาแทะโลมฉัน น่าขยะแขยงจริง ๆ ไม่ช้าก็เร็วฉันจะสับมือหมูนั่นออกเป็นชิ้น ๆ เลย!”เฉิงหว่านฉิงรู้สึกว่าส่วนที่ถูกหลินหยางลูบคลำไปนั้นทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัวอย่างมาก เกลียดจนแทบจะอยากรีบไปทำความสะอาดทันที “ประธานเฉิง ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งของบุคคลนี้เท่านั้นที่ไม่ควรมองข้าม ทั้งความคิดและไอคิวของเขาก็ไม่ควรประเมินค่าต่ำไป เหมือนกับเด็กหนุ่มทั่วไป แต่ลักษณะนิสัย ไม่ธรรมดาเลย”ฮุ่ยจื่อกล่าวว่า“เขาเป็นคนไม่ธรรมดาจริง ๆ ต้องรีบกำจัดคนนี้ทิ้งซะ ฉันไม่อยากให้ในเมืองลั่วมีคนที่เก่งกาจอย่างนี้หลงเหลืออยู่”ดวงตาของเฉิงหว่านฉิงเต็มไปด้วยแรงอาฆาต“ฆ่าเขาไม่ยากหรอก แต่เบื้องหลังเขายังคงมีปรมาจารย์เสวียนนี่สิค่อนข้างยุ่งยาก” ฮุ่ยจื่อกล่าวเฉิงหว่านฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ดูเหมือนว่าแผนของเราจะต้องก้าวหน้ามากกว่านี้ เดิมทีอยากจะให้ค่อยเป็นค่อยไป แต่จู่ ๆ เฉิงเหย่าจินก็ออกมา ฉันมีลางสังหรณ์ว่า คนคนนี้จะเป็นตัวแปร"“เอาล่ะ ฉันจะรายงานต่อเบื้อง
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย
ก็แค่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งเท่านั้น เขาไม่สนใจอยู่แล้วแต่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งไม่คิดเลยว่าจะมาเป็นยามให้หลินหยาง เขาไม่สามารถเข้าใจได้!แม้ว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์ระดับเก้าก็ยังไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้!จ้าวเจิ้งฮ่าวและคนอื่น ๆ ต่างก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงสถานการณ์ตรงราวกับเป็นภาพลวงตาเลยทีเดียว!ไอ้หมอนี่หัวสมองมีปัญหาเหรอไง? ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เป็นปรมาจารย์ระดับหก แต่กลับมาเป็นยามให้คนที่มีระดับเจ็ดอย่างหลินหยาง?!“นับว่าแกพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่การรับใช้คนที่กำลังจะตาย เป็นการทำให้ตัวเองเสื่อมถอยแท้ ๆ เลย!”จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “หลินหยางทำลายการค้าระหว่างกองทัพกับชาวตงอิ๋ง ฉันมาเพื่อค้นหาหลักฐาน”“ตอนนี้ฉันให้โอกาสแกกลับตัวกลับใจหนึ่งครั้ง สวามิภักดิ์ต่อฉัน! ไม่อย่างนั้น จะถือว่าแกขัดขวางการสอบสวน! ฝ่าฝืนกฎหมายระดับประเทศ! ฉันจะประหารชีวิตแกทันที”เขามีความคิดที่จะชักจูงคนคนนี้ถึงอย่างไรปรมาจารย์ระดับหกในเมืองลั่วก็นับว่าเป็นยอดฝีมือ ฆ่าไปก็น่าเสียดายแต่ทว่าอาต้ากลับกล่าวเสียงเย็นชา “รับเลี้ยงฉัน? แกคู่ควรเหรอ! ไสหัวไป!”“แกคิดให้ดี ๆ กล้าขัดขวาง
เจียงรั่วหานกล่าวโต้เถียงด้วยสีหน้าแดงก่ำแต่นี่ก็คือเรื่องจริงถึงอย่างไรตนก็ไม่ได้ขึ้นเตียงกับหลินหยาง แต่ทว่าทำในรถ...“ไม่ต้องรีบ นั่งลงคุยกัน...” ซ่งหว่านอวี๋ท่าทางสบาย ๆ พูดจาปลอบโยนอย่างมีเลศนัย “เป็นเพราะพี่กลัวเธอถูกหลินหยางหลอกเอา หลินหยางนั่นบังคับให้พี่ทำเรื่องแบบนั้น เขาไม่ใช่คนดีอะไร!”“พี่หว่านอวี๋พี่ไม่เข้าใจเขา!”เจียงรั่วหานกลับวางแก้วกาแฟลง รีบพูดขึ้นว่า “อันที่จริงหลินหยางเป็นคนดีคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่เขาทำแบบนั้นกับพี่ อัน อันที่จริงเป็นเพราะจ้าวเจิ้งฮ่าวเป็นต้นเหตุ!”“ฉันบอกเขาแล้ว ว่าต่อไปห้ามแตะต้องพี่อีก!”ไม่แตะต้องฉัน?ฉันต้องการให้เธอช่วยเหลือเรื่องนี้เหรอ?เธอกินอิ่มแล้วไม่กะจะไม่เหลือไว้ให้ฉันกินสักคำเลยเหรอไง!ซ่งหว่านอวี๋สีหน้าดูแย่เล็กน้อย เธอกินอาหารทะเลมื้อหรูจนเคยชินแล้ว จะกินอาหารจืดชืดลงได้ยังไงอีก?“พี่หว่านอวี๋ ต่อไปฉันคงต้องอาศัยพี่คอยเป็นที่กำบังให้ฉันแล้ว ครอบครัวนี้ ฉันทนอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่วันเดียวแล้ว!”เจียงรั่วหานยังหันหน้าไปมองซ่งหว่านอวี๋ด้วยท่าทางขอร้อง“เรื่องเล็กน้อย...”ซ่งหว่านอวี๋กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ไม่ว่าจะพู