เมื่อพนักงานในร้านเห็นหญิงสาว ก็รีบแสดงออกอย่างเคารพนบนอบทันที“คุณหนูเฉา มีอะไรครับ?”เฉาเยี่ยนหลิงรีบเดินมาที่หน้าเคาน์เตอร์ กล่าวว่า “เมื่อครู่ ท่านหมอเทวดาฉีพึ่งเขียนใบสั่งยาช่วยชีวิตให้คุณพ่อของฉัน จำเป็นต้องใช้หญ้าน้ำลายมังกร ดังนั้นหญ้าน้ำลายมังกรต้นนี้ฉันเอาแล้ว” “ได้ครับ อย่างนั้นคุณรีบนำไปเถอะ ช่วยท่านอธิบดีเฉาเป็นเรื่องสำคัญ” พนักงานร้านไม่ลังเลแม้แต่น้อย จะยื่นหญ้าน้ำลายมังกรให้เฉาเยี่ยนหลิงหัวคิ้วของหลินหยางขมวดเข้าหากัน ยื่นมือไปกดกล่องยาไว้“เอามือของนายออกไป” เฉาเยี่ยนหลิงเหลือบมองหลินหยางอย่างเย็นชาครั้งหนึ่ง ใช้น้ำเสียงออกคำสั่ง“ผมจ่ายเงินแล้ว ดังนั้น หญ้าน้ำลายมังกรต้นนี้เป็นของผมแล้ว เขาไม่มีสิทธิ์จะมอบหญ้าน้ำลายมังกรต้นนี้ให้คุณ” หญ้าน้ำลายมังกรมีความสำคัญต่อเขามาก ทั่วทั้งเมืองลั่ว ในช่วงเวลาสั้นๆ เกรงว่าคงไม่อาจหาต้นที่สองออกมาได้แล้วหลินหยางจะมอบให้คนอื่นได้อย่างไร“นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?” เฉาเยี่ยนหลิงถามอย่างเย็นชา“ไม่รู้ และผมก็ไม่คิดจะรู้ด้วย” พนักงานของอีซินถังรีบกล่าวว่า “คุณหนูเฉาเยี่ยนหลิงเป็นลูกสาวของผู้อำนวยการเฉา ผู้อำนวยการฝ่าย
เป็นอย่างที่คิดไว้ ทุกคนถูกคำพูดของเฉาเยี่ยนหลิงกระตุ้นอารมณ์ทันที ทำให้หลายคนเกิดความริษยาขึ้นในหัวใจถึงอย่างไรก็เป็นเงินถึงยี่สิบล้านบาท มีคนมากมายที่ทั้งชาติก็หาเงินเท่านี้ไม่ได้“ก็ใช่นะสิ! เจ้าหนุ่มน้อย แกเองก็โลภมากเกินไปแล้ว ได้เงินยี่สิบล้านก็น่าจะพอได้แล้วน่า!”“เรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและโชคชะตา แกอย่าได้กลายเป็นคนแก่เงิน รีบขายให้คุณหนูเฉาเถอะ”“คนประเภทนี้ ทำตัวโลภมากไม่รู้จักพอ เงินยี่สิบล้านยังคิดว่าน้อยไป? ไม่รู้จักพอจริง ๆ”ชั่วพริบตา สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน หลินหยางกลายเป็นเป้าโจมตี ประสบกับการตกเป็นขี้ปากของทุกคน กลายเป็นคนชั่วโลภมากไม่รู้จักพอเฉาเยี่ยนหลิงเห็นดังนั้น ก็ค่อนข้างพึงพอใจมาก จ้องมองหลินหยางอย่างยั่วยุแวบหนึ่งเฉาเยี่ยนหลิงคิดว่าภายใต้สถานการณ์แบบนี้ หลินหยางพ่ายแพ้แล้ว จำต้องขายหญ้าน้ำลายมังกรให้เธอแต่เธอยังรู้จักหลินหยางน้อยไปหลินหยางไม่มีทางใส่ใจว่าคนอื่นจะปฏิบัติหรือประณามเขาอย่างไร ยิ่งไม่ได้รับการอ้างหลักศีลธรรมมาบังคับให้คนคนหนึ่งทำตามที่ตนเอง“เรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและโชคชะตาเกี่ยวอะไรกับผมด้วย? สรุปว่า ผมไม่ขาย มีเ
ทันทีที่กระโจนเข้าไปฉีเทียนหมิงก็แสดงท่าทางทันที มือข้างซ้ายเป็นมือคว้าใหญ่ ส่วนมือข้างขวาใช้พลังมือคว้าเล็ก ส่งพลังไปที่นิ้ว มือสองข้างร่วมมือกัน เข้าโจมตีด้วยเจตนาโหดร้ายถ้าหากถูกเขาจับข้อต่อกระดูก ก็จะถูกบีบแตกภายในพริบตาถึงแม้ว่าตอนนี้หลินหยางจะเป็นปรมาจารย์ระดับเบิกฟ้า แต่ยังขาดประสบการณ์การต่อสู้ กระบวนท่าการต่อสู้หลายท่ายังไม่เข้าใจเมื่อเจอกับนักรบระดับมานะสร้าง สามารถโจมตีครั้งเดียวเอาชนะได้สิบรอบ ก็บดขยี้ได้อย่างง่ายดายแต่ถ้าหากเจอกับปรมาจารย์ระดับเบิกฟ้าแบบเดียวกัน ประสบการณ์ด้านการต่อสู้ก็จะเสียเปรียบมากระดับไม่เท่ากับกำลังรบที่แท้จริง ประสบการณ์และเทคนิคการต่อสู้ ความเข้าใจในกระบวนท่าการต่อสู้รวมทั้งระดับความประณีต ก็ส่งผลต่อปัจจัยสำคัญของกำลังรบที่แท้จริงหลินหยางไม่ได้รีบร้อนที่จะเอาชนะในกระบวนท่าเดียว เขาเห็นว่าพละกำลังของฉีเทียนหมิงไม่เลว พอถู ๆไถๆให้เขาฝึกปรือฝีมือได้ สะสมประสมการต่อสู้จริงสักเล็กน้อยเนตรคู่ของหลินหยาง ตอนนี้ได้เริ่มใช้งานพลังระดับแรกแล้ว สามารถมองเห็นในที่มืด การมองระยะไกล การมองแบบสโลว์โมชั่นการมองแบบสโลว์โมชั่นก็คือการทำให้การโจมตีของ
“ไร้ความสามารถแต่ปากดี”หลินหยางพูดประโยคนี้จบ ก็เดินออกไปด้านนอกร้านอีซินถังทันที“อ๊าก! ฉันจะฆ่าแก ฉันจะฆ่าแก!!”ฉีเทียนหมิงแหงนหน้าแล้วร้องคำรามออกมาอย่างโกรธแค้นเขาที่หยิ่งผยองมาตลอด เดิมทีคิดอยากจะโชว์ฝีมือต่อหน้าเฉาเยี่ยนหลิง โอ้อวด คิดไม่ถึงว่าโอ้อวดไม่สำเร็จแต่ยังถูกเอาคืนอีก ขายขี้หน้าไปถึงต้นตระกูลฉีเทียนหมิงเกลียดหลินหยางเข้ากระดูกดำ แทบอยากจะถลกหนังเขาทั้งเป็นเดี๋ยวนี้หลินหยางเดินอย่างวางมาดออกจากร้านอีซินถัง ไม่มีใครกล้าห้าม ทุกที่ที่เดินผ่าน ฝูงชนก็หลีกทางให้แต่โดยดีเฉาเยี่ยนหลิงไม่สนใจอาการบาดเจ็บของฉีเทียนหมิง หญ้าน้ำลายมังกรเป็นสิ่งของที่สามารถช่วยชีวิตพ่อเธอได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ต้องเอามันมาให้ได้เธอตามออกไปโดยไม่ลังเลเลยสักนิดหลินหยางเปิดประตูรถ กำลังจะขึ้นรถ“เดี๋ยวก่อน!”เฉาเยี่ยนหลิงตามออกมา ขวางอยู่ด้านข้างรถหลินหยางกล่าว “อยากจะลงมือแย่ง?”“ฉันเอาชนะนายไม่ได้หรอก”เฉาเยี่ยนหลิงกลับแสดงความจริงใจ กล่าวอย่างร้อนใจ “สรุปแล้วต้องทำยังไงนายถึงจะยอมเอาหญ้าน้ำลายมังกรให้ฉัน? นายบอกราคามาเถอะ”“ผมบอกแล้ว ไม่ขาย เงินไม่ใช่ปัญหา”เฉาเยี่ยนหลิงร้อ
เฉาเยี่ยนหลิงนั่งอยู่ในรถของหลินหยาง มีความตึงเครียดและกังวลอยู่หน่อย ๆ“โรงพยาบาลไหน?” หลินหยางกล่าวถาม“โรงพยาบาลแห่งที่หนึ่งของเมืองลั่ว”หลินหยางสตาร์ทรถ ขับออกไปด้วยความเร็วเฉาเยี่ยนหลิงเช็ดน้ำตา กล่าวถาม “นายจะช่วยพ่อของฉันยังไงกันแน่? หมอเทวดาฉีบอกว่า จำเป็นต้องใช้หญ้าน้ำลายมังกร”“นั่นเป็นเพราะฝีมือการรักษาโรคของเขาไม่เชี่ยวชาญพอ” หลินหยางกล่าว“หมอเทวดาฉีเป็นแพทย์ที่มือชื่อเสียงที่สุดแห่งเมืองลั่วของพวกเราเลยนะ รักษาโรคที่ยากและซับซ้อนให้หายดีมานับไม่ถ้วน แต่นายกลับพูดว่าฝีมือการรักษาของเขาไม่ชำนาญ?”“ต่อหน้าของฉัน เขายังไม่มีสิทธิ์ที่จะถูกเรียกว่าหมอเทวดา”เฉาเยี่ยนหลิงได้ยินดังนั้น ก็เม้มปาก ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้ไม่กล้าล่วงเกินหลินหยาง เธอก็อยากจะพูดฉีกหน้าหลินหยางออกมาว่าขี้โม้ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นต่ำ“หมายความว่า ฝีมือทางการรักษาของนายล้ำเลิศมาก?”เฉาเยี่ยนหลิงอดที่จะถามไม่ได้“ยังไงก็ดีกว่าฉีอีซินแน่นอน”แน่นอนว่าเฉาเยี่ยนหลิงไม่มีทางเชื่อคำพูดของหลินหยาง“ฉันถามชื่อนายได้ไหม?” เฉาเยี่ยนหลิงกล่าว“หลินหยาง”เฉาเยี่ยนหลิงครุ่นคิดอย่างจริงจังพักหนึ่ง มั่น
ฉีอีซินส่งเสียงกล่าวเป็นคนแรก“แกทำร้ายลูกฉันจนได้รับบาดเจ็บ?”“ถูกต้อง ลูกชายของคุณความสามารถไม่พอ ยังอยากจะยุ่งเรื่องชาวบ้าน ถูกทำร้ายก็เป็นเรื่องปกติมากไม่ใช่หรือไง?” หลินหยางกล่าว“สารเลว! แกกล้าอวดดีขนาดนี้ ที่เมืองลั่ว แม้แต่มหาปรมาจารย์ทั้งสี่ยังใช้เกียรติฉัน แต่แกกลับกล้าทำร้ายลูกชายฉัน?!”ฉีอีซินกล่าวอย่างโมโห“บาดเจ็บแล้ว คุณยังอยากจะเรียกร้องเกียรติให้ลูกชายคุณไหม? ผมต่อได้นะ”หลินหยางเลิกคิ้วทรงกระบี่“แก!”ถึงแม้ว่าฉีอีซินจะมั่นใจว่าฝีมือการรักษาของตนเองล้ำเลิศ แต่เมื่อพูดถึงเรื่องการต่อสู้กลับสู้คนอื่นไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่สามารถทำอะไรหลินหยางเลยสักนิด“ไอ้เด็กสารเลว ฉันจะทำให้แกมีชีวิตรอดไปไม่ถึงวันพรุ่งนี้!”ฉีอีซินกล่าวด้วยแรงอาฆาต“ส่งหญ้าน้ำลายมังกรมาให้ฉัน เรื่องที่แกทำร้ายลูกชายของหมอเทวดาฉีจนได้รับบาดเจ็บ จะไม่เอาความก็ได้”จางซูอวิ๋นยังคงสนใจหญ้าน้ำลายมังกรที่สุด ในระหว่างที่พูดก็ส่งสายตาให้ฉีอีซิน ส่งสัญญาณให้เขาให้ความร่วมมือหน่อยหลินหยางแค่นเสียงหัวเราะ ไม่สนใจจางซูอวิ๋น หันหลังกลับเดินออกไป“ขวางเขาเอาไว้!”บอดี้การ์ดของเฉาเค่อหมิงลงมือกับหลินหยา
เมื่อได้ฟังคำพูดของฉีอีซินและคนอื่นๆ จางซูอวิ๋นก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เขาก็ไม่เชื่อว่าเด็กหนุ่มที่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง จะมีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมอะไรในสายตาของจางซูอวิ๋นแล้ว คำพูดที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำของหลินหยาง ก็คล้ายกับเป็นเรื่องตลก“หลินหยาง ที่แท้นายมีวิธีอะไรมาช่วยพ่อของฉัน นายรีบพูดออกมาสิ” แม้เฉาเยี่ยนหลิงจะมีท่าทีสงสัยเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังคงถามเผื่อออกมา“ถ้าจะรักษาอาการ ก็ต้องให้ฉันได้เจอคนป่วยก่อนกระมัง?” หลินหยางกล่าว“ไม่ต้องแล้ว! นายแค่มอบหญ้าน้ำลายมังกรออกมาก็พอ เรื่องการรักษา ยังไม่ถึงคิวของนาย”จางซูอวิ๋นก็ไม่คิดที่จะเสียเวลาเปลืองน้ำลายกับหลินหยางอีก“แม่คะ ไม่อย่างนั้นก็ให้เขาลองดูเถอะค่ะ?” เฉาเยี่ยนหลิงยังคงคาดหวังแม้จะริบหรี่“คุณหนูเฉา อาการป่วยของคุณพ่อคุณไม่สามารถลากเวลาออกไปได้อีก และก็ไม่มีเวลาให้เขาได้ทดลองแล้ว” ฉีอีซินพูดอย่างประชดประชันเฉาเยี่ยนหลิงลำบากใจต่อทั้งสองฝ่าย ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรดีในเวลานั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา เมื่อเธอหยิบออกมาดู ก็พบว่าเพื่อนส่งข้อมูลของหลินหยางมาให้ทันทีที่เฉาเยี่ยนหลินอ่านก็ขมวดคิ้วทันที สีห
มู่หรงยิ่นกลับเดินตรงไปที่เบื้องหน้าของหลินหยาง จากนั้นยิ้มออกมา“คุณหลิน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะคะ?”“เดิมคิดจะรักษาอาการป่วยให้ผู้อำนวยการเฉา แต่คนอื่นกลับไม่เห็นผมอยู่ในสายตา พอเตรียมจะจากไป พวกเขาก็คิดจะใช้กำลังแย่งชิงของของผม” หลินหยางยักไหล่กล่าวอย่างราบเรียบ“ด้วยวิชาแพทย์ของคิด ทอดสายตามองทั่วทั้งเมืองลั่ว กระทั่งมณฑลหนานตู ยังมีใครกล้าไม่เห็นคุณอยู่ในสายตาอีกหรือคะคำพูดนี้ของมู่หรงยิ่นมิได้ปิดบังแม้แต่นิด พูดออกมาต่อหน้าทุกคนโดยตรง นี่เป็นการไม่ไว้หน้าฉีอีซินกับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นแม้แต่น้อยแต่เธอคือมู่หรงยิ่น ดังนั้นเธอจึงกล้ากล่าวคำพูดนี้ต่อให้พวกฉีอีซินกับคนอื่นๆ รู้สึกไม่พอใจ ไม่ยินยอม ก็ได้แต่อดทน“พี่มู่หรง พี่รู้จักเขาหรือคะ? อีกทั้งยังเรียกเขาว่าคุณหลินด้วย?”เฉาเยี่ยนหญิงรู้สึกยากที่จะเชื่ออยู่บ้างคนอื่นต่างก็งงงวยเหมือนเฉาเยี่ยนหยินเช่นกัน ด้วยฐานะและตำแหน่งของมู่หรงยิ่น เหตุใดจึงให้ความเคารพเจ้าผีพนันนี่ถึงเพียงนี้?“ไม่ใช่แค่รู้จัก! คุณหลินยังเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลเรา และเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของตระกูลมู่หรงเราด้วย”มู่หรงยิ่นพูดด้วยรอยยิ้มคำพู