ตอนนั้นเติ้งจินขุยก็คิดว่าหลินหยางเป็นบุคคลใหญ่โตที่ไม่ควรไปหาเรื่องด้วยอย่างแน่นอน ตอนหลังเขาจึงไปสืบข่าวกับฉีอีซินเติ้งจินขุยเป็นคนส่วนน้อยที่รู้ตัวตนของหลินหยางตอนที่เขากระโดดเข้ามาแล้วเห็นว่าคนที่เผชิญหน้าด้วยคือหลินหยาง สีหน้าของเติ้งจินขุยสดใสมาก แทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี หรือไม่ก็หันหน้าแล้วกลิ้งตัวหนีออกไป“คุณเติ้ง เจอหน้ากันอีกแล้ว”หลินหยางกล่าวเสียงเรียบเติ้งจินขุยกลืนน้ำลายดังเอื๊อกกล่าว “ใช่...ใช่ครับ”“การประลองเมื่อครั้งก่อน เหมือนว่ายังไม่รู้ว่าใครแพ้หรือชนะเลยนี่นา? ในเมื่อมีวาสนากันขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็สู้กันให้รู้แพ้รู้ชนะ ตัดสินว่าจะรอดหรือจะตายไปเลยเถอะกันไปเลยเถอะ”ในระหว่างที่หลินหยางพูด นัยน์ตาก็เปล่งประกายแสงเย็นยะเยือก เติ้งจินขุยตกใจจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว ความหนาวเย็นกลุ่มหนึ่งวิ่งพุ่งขึ้นมาจากปลายเท้าจนถึงกลางกระหม่อมตัดสินแพ้ชนะ ตัดสินว่าจะรอดหรือตาย ความหมายในคำพูดนั้นก็คือจะให้เขาตายอยู่ที่นี่ เติ้งจินขุยจะไม่รู้สึกกลัวได้อย่างไร“คุณหลินกล่าวเกินไปแล้ว ผมยอมแพ้ เดิมทีก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณเลยด้วยซ้ำ ยังจำเป็นที่จะต้องตัดสินแพ้ชนะอะไรอีกล
เติ้งจินขุยในเวลานี้ไม่อยากจะสนใจเหลียงควน ยิ่งคร้านจะโต้แย้งกับเหลียงควน เขาคิดแค่ว่าอยากได้รับการยกโทษจากหลินหยางเท่านั้น จากนั้นรีบออกไปจากที่นี่ ไม่อย่างนั้นหากไม่ระวังเพียงนิดเดียว ก็คงจะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่“คุณหลิน คุณเองก็ได้ยินแล้ว ผมไม่รู้จริง ๆว่าคนที่ต้องจัดการจะเป็นคุณ ขอโอกาสคุณสักครั้ง ไว้ชีวิตผมสักครั้งเถอะ”แรงอาฆาตในดวงตาของหลินหยางค่อย ๆ จางหายไป กล่าว “นายทำให้กระเบื้องของบ้านฉันพัง ต้องชดใช้”“ผมยินดีชดใช้! ขอเพียงแค่คุณหลินได้โปรดเข้าใจ คุณว่ามาเลยว่าต้องชดใช้เท่าไหร่ ผมก็จะชดใช้เท่านั้น เติ้งจินขุยพูดอย่างตรงไปตรงมา“นายคิดว่าฉันขาดเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้หรือไง?” หลินหยางกล่าว“ถ้าอย่างนั้น...คุณคิดว่าผมควรจะชดใช้ยังไง?”เติ้งจินขุยถามอย่างหวาดกลัวหลินหยางครุ่นคิดครู่หนึ่ง “ชดใช้ฉันด้วยหญ้าน้ำลายมังกรหนึ่งร้อยปีก็แล้วกัน”เติ้งจินขุยค่อนข้างสนิทกับฉีอีซิน แน่นอนว่ารู้ว่าหญ้าน้ำลายมังกรเป็นสมุนไพรล้ำค่า หาได้ยากมากเติ้งจินขุยสีหน้าลำบากใจ การมาที่นี่ของตนเอง ไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลย ตอนนี้ยังต้องมาชดใช้ด้วยหญ้าน้ำลายมังกรหนึ่งต้นอีก เขาไม่รู้ว่าจะต้อง
ถึงแม้ว่าเลขาเหอไม่รู้ว่าทำไมวันนี้เติ้งจินขุยถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้ แต่เขามั่นใจว่าตนเองไม่ได้รับมาผิดคนแน่“เขาคือเติ้งจินขุยจริง ฉันเคยเห็นตัวจริงเขามาก่อน”อวี๋ผิงในเวลานี้ก็เอ่ยปากพูดเช่นกัน“เป็นไปไม่ได้! เติ้งจินขุยตัวจริง เป็นยอดฝีมือระดับแปด เป็นไปได้ยังไงที่กลัวหัวหดต่อหน้าของหลินหยาง ผมไม่เชื่อ! ผมไม่เชื่อ!!”อันที่จริงในใจของเหลียงควนในเวลานี้ชัดเจนมาก เพียงแต่เขาไม่สามารถยอมรับได้ ไม่ยินดีที่จะยอมรับคนที่เข้าใจหัวอกของเขา ยังมีหลิ่วฟู่อวี่ สายตาของเธอที่มองไปทางหลินหยาง เต็มไปด้วยความซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย“หลินหยาง นาย...นายเป็นใครกันแน่?”ในที่สุดหลิ่วฟู่อวี่ก็ถามประโยคนี้ออกมาอย่างอดไม่ได้“ฉันเป็นใคร เธอไม่จำเป็นต้องรู้ แล้วก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้ด้วย”หลินหยางสีหน้าเย็นชา ไม่ไว้หน้าหลิ่วฟู่อวี่กับอวี๋ผิงอีกต่อไปประโยคนี้ของหลินหยาง ราวกับคมมีด แทงเข้าไปที่หัวใจของหลิ่วฟู่อวี่อย่างรุนแรง ทำให้เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่รุนแรง สีหน้าซีดขาวไร้เรี่ยวแรง“หลินหยาง ฉันไม่กลัวแกหรอกโว้ย! ฉันจะบอกแกให้นะ พ่อของฉันเป็นผู้อำนวยการของสมาคมการ
เหลียงควนเจ็บจนเหงื่อเต็มหน้าผาก ใบหน้าซีดขาว แต่หลินหยางได้บีบที่ไหล่อีกข้างของเขาแล้วเหลียงควนเกือบตกใจจนฉี่เกือบราด ถ้าหากไหล่ทั้งสองข้างถูกบีบแตกละเอียดหมด ถ้าอย่างนั้นเขาก็ต้องกลายเป็นคนพิการโดยสมบูรณ์แบบจริง ๆแล้ว“หลินหยาง ฉันขอร้องนายช่วยเมตตา ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอรับรองว่า ต่อไปฉันจะไม่กล้ามาหาเรื่องนายอีกแล้ว”“เมื่อกี้นายอวดดีบอกว่าจะเหยียบฉันให้จมดิน จะกระทืบฉันให้เกือบตายไม่ใช่เหรอไง? ตอนนี้ฉันก็แค่จะทำให้แขนข้างหนึ่งของแกพิการเท่านั้นเอง แค่นี้แกก็รับไม่ไหวแล้วเหรอไง?”หลินหยางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา“แกอยากจะจัดการฉันยังไง ฉันก็แค่เอาคืนแกกลับทุกอย่าง นี่ถึงจะเรียกว่ายุติธรรม”“ฉันผิดไปแล้ว! ขอโทษ ฉันผิดแล้ว! เมื่อกี้เป็นฉันที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง พูดจาอวดดีเอง”“หลินหยาง ฉันโขกหัวให้นาย นายก็ถือว่าฉันเป็นแค่หมาตัวหนึ่งปล่อยฉันไปเถอะ”เหลียงควนไม่สนใจความเจ็บปวดที่แขนข้างซ้ายกระดูกหัก รีบโขกหัวให้หลินหยาง โขกจนหัวแตกเหลือไหลก็ไม่กล้าหยุดโขกเหลียงควนกลัวตายนี่นา เขาเข้าใจเหตุผลที่ว่าตราบใดที่ยังมีชีวิต ก็ย่อมต้องมีความหวัง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องมีชีวิตรอดออกไปจา
หลินหยางพูดจบ ก็เดินมุ่งหน้าเข้ามาหาอวี๋ผิงกับหลิ่วฟู่อวี่“อย่า!”หลิ่วฟู่อวี่ตกใจจนร้องเสียงหลง เธอกลัวแขนหักยิ่งกว่าอวี๋ผิงเสียอีก“หลินหยาง เสิ่นลี่หมินก็เป็นแค่อดีตคนขับรถคนหนึ่งของตระกูลเธอเท่านั้น แต่พวกเราสองตระกูลมีความสัมพันธ์แบบไหน? ฉันเห็นเธอเติบโตมาตั้งแต่เด็ก เคยอุ้มเธอ เคยทำอาหารให้เธอ เคยป้อนนมเธอ!”“วันนี้เป็นความผิดของพวกเรา แต่เธอจะลงมือกับพวกเราอย่างโหดร้าย เพียงเพื่อคนรับใช้คนหนึ่งจริง ๆหรือ?”อวี๋ผิงทำได้แค่เพียงหงายไพ่ความสัมพันธ์“ถึงแม้ว่าอาเสิ่นจะเป็นคนใช้ ฐานะตัวตนสู้พวกน้าไม่ได้ แต่เขากลับมีสิ่งที่พวกน้าไม่เคยมี แค่ข้อนี้ พวกน้าก็ไม่ควรจะเอาตัวเองมาเทียบกับเขาแล้ว”“เขามีอะไร? แค่คนใช้คนหนึ่ง เขาจะมีอะไรได้?” อวี๋ผิงกล่าวอย่างไม่พอใจ“คุณธรรม!”“เขาคุณธรรม พวกน้าไม่มี! พวกน้าก็แค่คนเนรคุณ ลืมบุญคุณ เห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเอง พวกน้าสุญเสียแม้กระทั่งคุณธรรมพื้นฐานที่สุดของการเป็นมนุษย์ไป ยังมีหน้ามาเยาะเย้ยคนอื่น น่าขำจริง ๆ!”“หมาตัวหนึ่ง ให้กระดูกมันไม่กี่ชิ้น ให้ข้าวมันกินสักครั้ง มันก็ยังรู้จักกระดิกหางเพื่อขอบคุณ แต่พวกน้า เย็นชาไร้ยางอายถึงขนาด
ในใจของอวี๋ผิงคำนวณเรื่องพวกนี้ แน่นอนว่าหลินหยางมองแวบเดียวก็รู้แล้ว“ในเมื่อน้าสำนึกผิด ถ้าอย่างนั้นก็ทำเหมือนกับเหลียงควน รับราคาของการทำผิดเถอะ”สำหรับอวี๋ผิง หลินหยางกลับไม่ได้ทำให้แขนของเธอหักทันที แต่สะกดจุดบนตัวของเธอสองสามจุด ด้วยวิธีกดจุดที่เฉพาะ ปิดกั้นตำแหน่งลมปราณทั้งสามจุดของอวี๋ผิงจุดลมปราณสามจุดนี้ไม่ถึงแก่ชีวิต แต่จะทำให้อวี๋ผิงอาการกำเริบทุกวันวันละครั้ง ทุกครั้งที่อาการกำเริบ จุดลมปราณสามจุดเจ็บราวกับถูกเข็มเงินทิ่ม ความเจ็บปวดแบบนี้ไม่สามารถผ่อนคลายได้ด้วยการใช้ยา“เอาละ พวกเธอสองคนรีบหายไปจากตรงหน้าของฉันเดี๋ยวนี้ ต่อไปห้ามไม่ให้เข้ามาเหยียบในบ้านของฉันแม้แต่ก้าวเดียว”หลินหยางพูดจบ หันหลังกลับแล้วเข็นวีลแชร์ของเสิ่นลี่หมินกลับไปเมื่ออวี๋ผิงเห็นหลินหยางแค่สะกดจุดไม่กี่จุดบนตัวของเธอ เธอก็ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใด ๆ แต่ก็มีสิ่งที่คาดคิดไม่ถึงอยู่เล็กน้อย“แค่...แค่นี้ก็ไม่มีอะไรแล้วเหรอ?”อวี๋ผิงกล่าวอย่างประหลาดใจ“ไม่มีอะไรก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอคะ พวกเรารีบไปกันเถอะ!”หลิ่วฟู่อวี่ลากอวี๋ผิง ไม่กล้าหยุดชะงักแม้แต่ครู่เดียว ออกจากสวนดอกไม้ก็รีบขับรถกลับบ้านท
อวี๋ผิงในเวลานี้ยังเป็นห่วงเหลียงควนลูกเขยแห่งชาติอยู่อีก“หนูไม่อยากไป”หลิ่วฟู่อวี่กล่าว“ทำไม? นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดที่จะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ของพวกลูก ถ้าหากลูกทำตัวดี ก็จะได้เป็นลูกสะใภ้ของตระกูลเหลียงได้อย่างมั่นคงไม่ใช่หรือไง?” อวี๋ผิงกล่าว“แม่! ตอนที่เหลียงควนหนี ไม่แม้แต่จะหันมามองพวกเราเลยแม้แต่แวบเดียว ไม่สนใจความเป็นความตายของพวกเราเลยแม้แต่น้อย หมายความว่าเขาไม่ได้ชอบหนูจริง ๆเลยสักนิด”หลิ่วฟู่อวี่ยากที่จะได้สติ ไม่ได้ถูกล้างสมองไปเสียทีเดียว“ตอนนั้นสถานการณ์แบบนั้น เขาตกใจจนกระทั่งฉี่ราด คงทำได้แค่เพียงเป็นห่วงตัวเองเท่านั้น ไม่มีเวลามาสนใจพวกเราหรอก! เสียวอวี่ ชอบหรือไม่ชอบจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ อิทธิพลและเส้นสายของตระกูลเหลียง สำคัญมากสำหรับพวกเรา”อวี๋ผิงกล่าวเตือน“แต่เขาแขนหักหนึ่งข้าง กลายเป็นคนพิการแล้ว แม่อยากจะให้หนูแต่งงานกับคนพิการเหรอคะ?”ในใจของหลิ่วฟู่อวี่ขัดแย้งเป็นอย่างยิ่ง ได้เกิดความรังเกียจต่อเหลียงควนแล้ว ก็เหมือนกับที่รังเกียจหลินหยางตอนที่เขาตกอับ“ตอนนี้โรงพยาบาลพัฒนาไปมาก ไม่แน่ว่าจะอาจจะสามารถประสานกระดูกได้ เอาเป็นว่า ไม่ว่าจะยังไ
“โสมคนร้อยปีสองต้น? ไอ้บ้าเอ๊ย รังแกกันเกินไปแล้ว!”ทันทีที่เหลียงเจี้ยนได้ยิน ก็โมโหทันที ไม่เพียงทำร้ายลูกชายของเขา คิดไม่ถึงว่ายังกล้าข่มขู่รีดไถเขาอีก อดทนไม่ได้อย่างเด็ดขาด“แกไปผ่าตัดก่อน เรื่องนี้พ่อจะจัดการเอง อยากจะขี้รดหัวตระกูลเหลียงของพวกเราอีก กล้าหาญเหลือเกิน ฉันไม่สนว่ามันจะมีภูมิหลังอะไร ฉันจะทำให้มันไม่ได้ตายดี”เมื่อเหลียงควนได้ยินคำพูดของเหลียงเจี้ยน ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาทันทีเขารู้ว่า ถ้าพ่อของเขาเกิดโมโหขึ้นมาจริง ๆ เจ้าหลินหยางนั่นต้องตายแน่นอนหลิ่วฟู่อวี่เองก็ดึงมือของเหลียงควนมาแล้วพูดปลอบใจเขา “พี่ควน พี่ผ่าตัดให้สบายใจเถอะ ฉันจะอยู่ข้างรอพี่ออกมาจากห้องผ่าตัด”“ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนพวกเธออยู่ที่นี่เป็นเพื่อนลูกชายผมทำการผ่าตัดด้วย โรงพยาบาลแห่งแรกของเมืองยังมีบุคคลใหญ่โตที่สำคัญมากอยู่อีกท่านหนึ่ง คุณหนูใหญ่มู่หรงก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน ผมต้องไปหาหน่อย”เหลียงเจี้ยนบอกกับอวี๋ผิงและหลิ่วฟู่อวี่“ประธานเหลียง ฉันได้ยินมาว่าหวังเจียเฉียนรองหัวหน้าสมาคมของสมาคมการค้าวั่นเหาโดนปลดออกจากตำแหน่ง ฉันขอแสดงความยินดีที่คุณจะได้ขึ้นตำแหน่งรองหัวหน้าสมาคมล่วงหน้า ต่อ
“ผม ผมยินดีเป็นพยานที่มีความผิด ประณามและฟ้องร้องจ้าวเจี้ยนชิง! ในมือของผมมีข้อมูลอยู่ร้อยชุด สามารถเป็นหลักฐานที่แสดงว่าจ้าวเจี้ยนชิงได้กระทำความผิด!”เขารู้ดีแก่ใจว่า ชีวิตของตนในตอนนี้ถูกกุมอยู่ในกำมือของหลินหยาง ดังนั้นจึงรีบเคลียร์ความสัมพันธ์ให้ชัดเจน หวังว่าหลินหยางจะไว้ชีวิตตนเองสักครั้งแต่ทว่าในเวลานี้ ยังไม่ทันที่หลินหยางจะพูด เฉิงหว่านฉิงกลับพูดขึ้นมาทันทีว่า “ปรมาจารย์หลินอย่าเชื่อพ่อของฉัน! เขาแค้นคุณมานานมากแล้ว! เขายังจับตาดูคุณ ภายใต้คำสั่งของหลูอ้าวตง!”“อีกทั้งข้อมูลในมือของเขา ไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งร้อยชุด อย่างน้อยต้องมีถึงสามร้อยชุด! เขาไม่ซื่อสัตย์กับคุณเลยแม้แต่นิดเดียว!”“อย่างนั้นเหรอ?” หลินหยางหันหน้าไปมองเธอด้วยสีหน้าประหลาดใจเมื่อเฉิงคั่วได้ยินดังนั้น กลับโมโหจนแทบกระอักเลือด “แม่งเอ๊ย ทำไมฉันถึงได้มีลูกสาวอกตัญญูอย่างแก่! ไม่นึกเลยว่าแม้แต่พ่อของตัวยังทรยศได้! ตอนนั้นฉันควรจะยิงแกให้ติดกำแพง!”แต่ทว่าเฉิงหว่านฉิงกลับไม่สะทกสะท้าน ในทางกลับกันดวงตาคู่งามนั้น จ้องมองหลินหยางด้วยสีหน้ากังวลใจพร้อมกล่าววิงวอน “ขอเพียงแค่ปรมาจารย์หลินไว้ชีวิตฉันสักครั้ง ฉัน
เปรี้ยง!ตอนที่ยาเสพติดมากมายปรากฏขึ้น ทุกคนต่างพากันอ้าปากค้างตกตะลึง?!“ไม่นึกเลยว่าจ้าวเจี้ยนชิงยังสมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด!”“ยาเสพติดเหล่านี้ มากพอที่จะทำให้ทั้งตระกูลตายหลายพันรอบ!”แต่ท่ามกลางเสียงร้องตกใจเหล่านั้นจ้าวเจี้ยนชิงก็จ้องมองยาเสพติดเหล่านั้นด้วยความตกตะลึง กล่าวด้วยใบหน้าที่ยากจะเหลือเชื่อ “เป็น เป็นไปได้ยังไง?”ยาเสพติดพวกนี้ตนเก็บเอาไว้ในสถานที่ที่เป็นความลับ จะถูกตรวจเจอได้ยังไง?เขาหันหน้าไปมองหลินหยางทันทีกล่าว “แกซื้อตัวคนของฉัน?!”“อย่าพูดจามั่วซั่วสิ ฉันไม่ได้จ่ายแม้แต่สตางค์แดงเดียว”หลินหยางมองบน ตนไม่ได้จ่ายแม้แต่สตางค์แดงเดียวจริง ๆเห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าฉันใช้แรงกายบนเตียงเพื่อให้ได้มาต่างหาก!“พ่อครับ ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี?”จ้าวเจิ้งฮ่าวตกใจจนเสียงสั่นเครือ สีหน้าตกใจและหวาดกลัวทำยังไงดี?จ้าวเจี้ยนชิงกลับหัวเราะด้วยความเจ็บปวด เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังจะทำอะไรได้อีก?!เขาคุกเข่าลงให้หลินหยางเสียงดังตึ้งอย่างรวดเร็ว กล่าวอย่างสิ้นหวัง “ปรมาจารย์หลิน ผมขอโทษคุณ ผมไม่ควรหาเรื่องคุณ ผมไม่ขอร้องให้คุณไว้ชีวิตผม แต่ปล่อยคนในครอบครัวข
“ปรมาจารย์หลินปิดบังเก่งนี่นา! แม้แต่กรมอัยการสูงสุดแห่งหนานตูยังเชื่อฟังคำสั่งของปรมาจารย์หลิน?!”“น่าตลก จ้าวเจี้ยนชิงนั่นยังใช้อำนาจและอิทธิพลข่มเหงผู้คน! อำนาจและอิทธิพลของปรมาจารย์หลินมากกว่าเขาไม่รู้ตั้งกี่เท่า!”“ไอดอล...เก่งมาก!”หานเซวี่ยอิ๋งอ้าริมฝีปากแดงเล็กน้อย จ้องมองหลินหยางที่สีหน้าเรียบเฉยด้วยความตื่นตะลึง ในใจไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีจ้าวเจี้ยนชิงที่อวดดีจนถึงขนาดไม่มีใครเทียบได้ ไม่นึกเลยว่าจะถูกจับกุมแบบนี้?“นายพลจ้าว ช่วยพวกเราด้วย! ฉันไม่อยากตาย!”และในเวลานี้ เฉิงหว่านฉิงกลับถูกเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายจับกุม ใส่กุญแจมือ เธอหันหน้าไปมองจ้าวเจี้ยนชิงอย่างขอร้องด้วยสีหน้าตื่นตระหนกและหวาดกลัวถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแม่ม่ายดำ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ใหญ่เกินไป เกือบจะทำให้เธอฉี่ราด ตอนนี้ทำได้เพียงฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่จ้าวเจี้ยนชิง?จ้าวเจี้ยนชิงในเวลานี้กลับหันไปมองเหยียนฮ่าวด้วยสีหน้าไม่ดีพร้อมกล่าวเสียงเย็นยะเยือก “คุณชายเหยียน! คุณไม่ได้รับสายโทรศัพท์ของคุณพ่อคุณเหรอ นายท่านตงกับคุณพ่อของคุณสัญญากันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าจะเก็บหลินหยาง!”หลังจากเกิดเรื่องต
“แกพูดจาเหลวไหล! พวกเราทุกคนเห็นกันหมดแล้ว เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าแกสมคบคิดกับชาวตงอิ๋ง รังแกคนประเทศหลงของพวกเรา!”“ชาวตงอิ๋งนั่นบอกว่าพวกเราเป็นไอ้ขี้ยาแห่งเอเชียตะวันออก ทำไมแกถึงยังปกป้องเขาอยู่อีก! เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าแกควรจะปกป้องเมืองลั่ว!”“ทำแต่เรื่องชั่วช้าสามานย์!”ทันใดนั้น บรรดาฝูงชนที่มุงดูเกิดอารมณ์ขุ่นเคืองขึ้นมา พยายามปกป้องหลินหยาง การกระทำที่กลับดำเป็นขาวของจ้าวเจี้ยนชิงทำให้พวกเขาโมโหจนสำลัก พากันหยิบมือถือขึ้นมาอัดวิดีโอเอาไว้เป็นหลักฐานแต่ทว่าเสียงปังดังขึ้นทันที!บรรดาคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงลงมือทันที ราวกับเสือกระโจนเข้าฝูงแกะ ทำให้ฝูงชนที่มามุงดูพวกนั้นถูกเตะล้มลงไปบนพื้น โทรศัพท์มือถือของบรรดาแฟนคลับถูกเหยียบแตกละเอียด!ทั้งหมดเต็มไปด้วยความวุ่นวาย!“หลินหยาง ฉันยอมรับว่าฉันเอาชนะแกไม่ได้ แต่นั่นแล้วยังไง ฉันจะจัดการกับคนเจ้าเล่ห์อย่างแก ก็ยังคงง่ายเหมือนกับปอกกล้วยเข้าปาก!”ถึงแม้ว่าจ้าวเจี้ยนชิงจะถูกหลินหยางบีบคอเอาไว้ แต่สีหน้ากลับไม่แสดงความกลัวเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันยังเต็มไปด้วยความเย้ยหยันและเหยียดหยาม!“ข่มขู่ฉัน?” หลินหยางกลับยิ้มออกมา“ฉันจะข่
ร่างกายของฮิเดนากะ ยามาโมโตะเหมือนกับระเบิด แฝงไปด้วยพลังมหาศาล!“บ้าเอ๊ย!”จ้าวเจี้ยนชิงรีบจับเอาไว้อย่างรวดเร็ว พยายามรักษาระยะห่างกับหลินหยางแต่ทว่าหลินหยางกลับขยับตัวเข้าไปใกล้! ตามเขาไปอย่างใกล้ชิด!ทันใดนั้น แม้ว่าเป็นพวกคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงก็ไม่กล้าเหนี่ยวไก กลัวว่าจะพลาดทำจ้าวเจี้ยนชิงบาดเจ็บ!“ไสหัวออกไป!”จ้าวเจี้ยนชิงคำรามออกมาพร้อมทั้งสวนหมัดออกไป อยากจะบีบให้หลินหยางถอยออกไปแต่หลินหยางกลับคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ กล่าวพร้อมแสยะยิ้ม “คิดจะหนี? แกหนีพ้นเหรอไง?”จ้าวเจี้ยนชิงสีหน้าตกใจ ออกแรงอย่างบ้าคลั่งพยายามจะทำให้หลุดพ้นแต่ทว่ามือของหลินหยางเหมือนกับคีม ขยับเขยื้อนไม่ได้เลยสักนิด! ในทางกลับกันมีเสียงดังสนั่นกลุ่มหนึ่งลอยมา ทำให้จ้าวเจี้ยนชิงรู้ว่าตนเองราวกับถูกพันธนาการเอาไว้แน่น!“แม่งเอ๊ย แกปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าผู้หญิงขี้ยาพวกนั้น!” จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวข่มขู่ด้วยความโมโหเพี้ยะ!ทันใดนั้นก็ถูกตบหน้าฉาดหนึ่ง!นี่เป็นการโจมตีที่รุนแรงและหนักหน่วง เสียงเปรี้ยงดังขึ้นทำให้หัวของจ้าวเจี้ยนชิงสั่นสะเทือน!“การตบนี้ ตบเพราะแกลืมรากเหง้า!” หลิ
เปรี้ยง!หลินหยางสวนหมัดสังหารออกไปทันที หมัดนี้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า!เขาต้องการจะเอาชีวิตสุนัขของเขา!แต่ทว่าในเวลานี้ ทันใดนั้นที่ประตูใหญ่ของตระกูลเฉิงก็แหลกละเอียด จ้าวเจี้ยนชิงพังประตูออกมา ขวางเอาไว้ที่ด้านหน้าของฮิเดนากะ ยามาโมโตะ สวนหมัดเพื่อโจมตีออกไปเช่นกัน!หมัดทั้งสองปะทะเข้าใส่กัน เกิดเสียงดังเปรี้ยงขึ้นทีหนึ่งแล้วทั้งสองก็ถูกแรงสั่นสะเทือนลอยออกไปพร้อมกันร่างกายของจ้าวเจี้ยนชิงร่นถอยไปหลายก้าวติดต่อกัน เสียงดังเปรี้ยง หินแผ่นหนึ่งถูกบดขยี้อยู่ใต้เท้า“ปรมาจารย์หลิน เรื่องเล็กน้อยนี้ควรค่าที่จะให้คุณต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่คู่ควรหรอกน่า”จ้าวเจี้ยนชิงยืนเอามือไพล่หลัง สายตาที่จ้องมองหลินหยางราวกับกำลังชื่นชม หลินหยางยิ่งโกรธ เขาก็ยิ่งรื่นรมย์ เขาถูกหลินหยางทำให้โมโหจนขาดสติหลายครั้ง ยินดีมากที่จะได้เห็นหลินหยางโมโห“ไม่ผิด!” ฮิเดนากะ ยามาโมโตะกลับกล่าวพร้อมรอยยิ้มเยาะหยัน “พวกเธอเป็นผู้หญิงเสพยาทั้งนั้น ฉันปรารถนาดีหางานให้พวกเธอ ยังจัดการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนั้นให้คุณอีก”“ปรมาจารย์หลินยังจะตำหนิผมอีก ผมนี่มันทำดีแต่ไม่ได้ดีเลยจริง ๆ!”แต่ทว่าทันทีที่พูดจบ
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา