แชร์

บทที่ 159

ผู้แต่ง: ด้านนอกด่านประตูห่านป่า
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เลขาหลี่ถาม

“โชคดีที่ปราชญ์แพทยศาสตร์เป็นคนเตรียมใบสั่งยาก่อนจะรักษาโรค หลังจากนั้นโรคก็หมดไปโดยสิ้นเชิง วิธีการรักษายังไม่ได้รับการสืบทอด บัดนี้ในโลกนี้ คนเดียวที่สามารถรักษาโรคนี้ได้คือ ปราชญ์แพทยศาสตร์”

ถังเต้าหมินอธิบาย

“นักปราชญ์แห่งการแพทย์เมื่อร้อยปีที่แล้ว งั้นก็แปลว่าตายไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ?” มู่หรงยิ่นถาม

“เนื่องจากปราชญ์แพทยศาสตร์ถูกเรียกว่านักบุญ แน่นอนว่าเขาเป็นทั้งผู้วิเศษแล้วกลายมาเป็นนักบุญ เขามีอายุยืนยาวเป็นพันปี แล้วจะตายได้อย่างไร ชายชรา ที่เป็นแพทย์คนแรกของโลก”

ถังเต้าหมินลูบเคราของเขา เมื่อพูดถึงนักปราชญ์แห่งการแพทย์ ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความเคารพ

“แล้วจะไปหานักปราชญ์แห่งการแพทย์ได้ที่ไหน?”

เลขาหลี่ถามด้วยความกังวล

“นักปราชญ์แห่งการแพทย์อาวุโสนักบุญแพทย์อาวุโสคือบุคคลที่เปลี่ยนจากคนพิเศษเป็นนักปราชญ์ ดั่งมังกรที่เห็นหัวแต่ไม่เห็นหาง หาตัวได้ไม่ใช่ง่าย ๆ”

หลังจากได้ยินคำพูดของถังเต้าหมิน เลขาหลี่ก็กลายเป็นอัมพาตไปเลย

“ทำไงดี? ฉันควรทำอย่างไรดี?”

มู่หรงยิ่นถามว่า "คุณถัง คุณแน่ใจหรือว่าการวินิจฉัยของคุณไม่มีข้อผิดพลาด? เนื่องจากเป็นโรคที่ถูกค้นพบเมื่อร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 160

    ด้านนอกวอร์ด เลขาหลี่ทราบข่าวร้าย จึงรีบโทรกลับไปรายงานอย่างรวดเร็วฉินหยีหลิงเป็นผู้สืบทอดสายตรงของตระกูลฉิน ผู้ที่มีตำแหน่งสูงสุดในตระกูลฉิน คุณพ่อคุณแม่ของเธอต่างก็เป็นบุคคลสำคัญของตระกูลเช่นเดียวกัน จู่ ๆ ฉินหยีหลิงก็ล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน ก่อนหน้านี้ได้รายงานไปแล้วตระกูลฉินติดต่อกับหมอเทพแห่งเฟิ่งหยางให้รีบมา “คุณชายสิบสาม อาการป่วยของฉีหยีหลิง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ค่ะ”เลขาหลี่ร้องไห้ผ่านโทรศัพท์“ทำไมถึงรักษาให้หายขาดไม่ได้? คุณติดต่อตระกูลมู่หรง แล้วให้เขาจัดเครื่องบินพิเศษ เพื่อส่งฉีหยีหลิงกลับมา แพทย์ธรรมดา ๆ แห่งหนานตูของพวกเขารักษาไม่ดี พวกเราฉินหยางเองก็มีแพทย์ฝีมือดีอยู่เหมือนกัน”ฉินเจิ้งคุนคุณพ่อสุดที่รักของฉินหยีหลิงกล่าวผ่านทางโทรศัพท์เลขาหลี่ร้องไห้และบอกฉินเจิ้งคุนเกี่ยวกับผื่นเม็ดเลือดแดงในอีกด้านหนึ่งของการสนทนา ฉินเจิ้งคุนเงียบไปเป็นเวลานาน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คาดคิดว่าลูกสาวที่รักของเขาจะเป็นโรคร้ายแรงที่หายากเช่นนี้ มันทำให้เขาก็สับสนอยู่พักหนึ่ง“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ส่งหยีหลิงกลับมาเฟิ่งหยางก่อน แม้ว่าสุดท้ายเธอจะจากไปก็ตาม จะไม่ปล่อยให้เธอตาย

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 161

    หานลี่ฉินพูดตามจริง“ไม่ว่าเขาจะรักษาได้หรือไม่ รีบเรียกคนคนนี้มาเดี๋ยวนี้เลย” เลขาหลี่กลับไม่สนใจอะไรมาก ยังไงเสียก็แทบจะหมดหวังแล้ว ลองรักษาดูก็ไม่มีอะไรเสียหาย เขาไม่อาจพลาดโอกาสใดแม้เพียงเศษเสี้ยวหานลี่ฉินกล่าวอย่างลำบากใจว่า “คุณหลินบอกว่าเขาไม่ว่าครับ” “ช่างวางท่าเหลือเกิน! ขอเพียงเขาสามารถรักษาไอ้โรคประหลาดนี่ได้ ตระกูลฉินไม่มีทางผิดต่อเขาแน่ จะให้เขาได้ทั้งชื่อเสียงและผลประโยชน์อย่างแน่นอน” เลขาหลี่ทำงานอยู่ข้างกายฉินอี๋หลิงจึงเคยชินกับการวางตัวสูงส่ง คอยบงการผู้อื่นอย่างหยิ่งผยอง เมื่อได้ยินว่าหลินหยางถึงกับไม่ยอมมา จึงชักสีหน้าพูดออกมาหานลี่ฉินรู้สึกลำบากใจต่อทั้งสองฝ่าย แต่เขาก็ไม่กล้าไปรบกวนหลินหยางอีก“อย่างไรกัน? ผอ.หาน คนคนนี้คุณสั่งการไม่ได้อย่างนั้นหรือ?” เลขาหลี่ถาม“เลขาหลี่ ขอไม่ปิดบังคุณ คุณหลินไม่ใช่หมอของโรงพยาบาลเรา ทักษะการแพทย์ของเขายอดเยี่ยมอย่างน่าอัศจรรย์ ผอ.ตัวเล็กๆ แบบผมเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณหลินแล้วก็ไม่มีน้ำหนักแม้แต่น้อย ผมเชิญมาไม่ได้จริงๆ ครับ” “คุณไปบอกคนคนนั้นว่าตระกูลฉินแห่งเมืองเฟิ่งหยางสั่งให้เขามารักษาโรคให้คนที่โรงพยาบาล ไม่อนุญาตใ

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 162

    เมื่อมู่หรงยิ่นเห็นเลขาหลี่มีทัศนคติเช่นนี้ ก็ส่ายศีรษะและเผยสีหน้าเย็นชาออกมา“หากท่าทีของคุณเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องโทรศัพท์ครั้งนี้แล้ว คุณหลินไม่มีทางยื่นมือมาช่วยเหลือแน่” “ตระกูลฉินแห่งเฟิ่งหยางให้เขารักษา เขากล้าไม่ทำตามหรือ? ต่อให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา แต่เมื่ออยู่เบื้องหน้าตระกูลฉิน เขาก็ต้องก้มหัวลู่หางทำตามคำสั่ง!" เลขาหลี่เลิกคิ้วเรียวของเขา ไม่แก้ไขท่าทีเชิดหน้าสั่งการอย่างเย่อหยิ่งโดยไม่เห็นใครอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย“มู่หรงยิ่น ผมขอสั่งให้คุณโทรศัพท์เดี๋ยวนี้ คุณอย่าได้ลืมฐานะของตัวเอง ถ้าคุณหนูฉินเป็นอะไรไปในเมืองลั่วขึ้นมา คุณก็ยากจะหนีความรับผิดชอบได้เหมือนกัน คุณเป็นเพียงคนรับผิดชอบสาขาเล็กๆ ของตระกูลมู่หรงเท่านั้น ต่อให้เป็นตระกูลมู่หรงแห่งหนานตู เมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลฉินของพวกเรา ก็เป็นเหมือนมดปลวกเท่านั้น” เลขาหลี่แสดงท่าทีของสุนัขที่แอบอ้างบารมีเจ้านายออกมาอย่างเต็มที่ อ้าปากปิดปากก็เป็นตระกูลฉินแห่งเฟิ่งหยางดวงตาอันงดงามของมู่หรงยิ่นเกิดประกายเยียบเย็นวาบผ่าน“คนที่ลืมฐานะของตัวเองคงจะเป็นคุณมากกว่า คุณเป็นแค่เลขาคนหนึ่งเท่านั้น วางท่าอะไรกัน?

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 163

    ฉินอี๋หลิงกล่าวกับมู่หรงยิ่น“คุณหนูครับ คุณไม่รู้ว่าเจ้าคนแซ่หลินนี่วางท่ามากเหลือเกิน เพราะเรื่องนี้ผมถึงได้เกิดการโต้เถียงกับคุณมู่หรตำรับขึ้นมา สามารถทำการรักษาให้คนตระกูลฉินได้ สำหรับคนนับไม่ถ้วนถือว่าเป็นโอกาสยิ่งใหญ่เทียมฟ้า แต่เขากลับยังกล้าวางท่าอีก” หลีเหยียนยังคงไม่เปลี่ยนท่าทีสูงส่งเหนือผู้คนนั่น“หุบปาก!” ฉินอี๋หลิงตำหนิ“ถ้าหมอเทวดาหลินท่านนี้สามารถรักษาโรคนี้ได้จริง ก็เท่ากับว่าเขาเป็นหมอเทวดาตัวแท้จริง นายรู้หรือเปล่าว่าหมอเทวดามีฐานะแบบไหน ต่อให้เป็นตระกูลฉินของพวกเรา ก็ยังต้องเคารพให้เกียรติ ยกย่องเป็นแขกกิตติมศักดิ์ ไม่มีใครเต็มใจล่วงเกินหมอเทวดาที่แท้จริงหรอกนะ นายรีบของขมาคุณหนูมู่หรงเดี๋ยวนี้เลย” ไม่เสียทีที่ฉินอี๋หลิงเป็นทายาทสายตรงของตระกูลฉิน การอบรมเลี้ยงดูที่ได้รับไม่เหมือนกัน สายตาที่ใช้มองสิ่งต่างๆ ก็ย่อมแตกต่างเช่นกัน เธอเข้าใจดีว่าหมอเทวดาผู้หนึ่งมีฐานะเช่นใดหลี่เหยียนถึงกับกล้าเสียมารยาทแบบนี้ หากล่วงเกินหมอเทวดาขึ้นมาจนไม่ยินดีจะรักษาให้ แบบนั้นเธอก็จะต้องตายอย่างแน่นอนฉินอี๋หลิงทรมานมากพอแล้ว ไม่อยากทนรับความเจ็บปวดเช่นนี้อีกต่อไปแล้วหลี

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 164

    มู่หรงยิ่นมิได้สนใจคำพูดที่แสดงถึงความดูแคลนอย่างชัดเจนของถังเต้าหมินกลับเป็นหลี่เหยียนผู้เป็นเลขาที่กล่าวว่า “คุณหนูมู่หรง พวกเราทำตามความต้องการของคุณแล้ว คำขอโทษก็พูดไปแล้ว หวังว่าหมอเทวดาแซ่หลินคนนี้จะมีความสามารถรักษาโรคนี้ได้จริง ไม่อย่างนั้น เหอะ…” แม้หลี่เหยียนจะไม่ได้กล่าวจนจบ ทว่าท่าทีข่มขู่ที่อยู่ในคำพูดนั้นก็เด่นชัดเป็นอย่างมาก เขายังคงรู้สึกแค้นเคืองต่อเรื่องที่ถูกบังคับให้ขอโทษเมื่อครู่“ฉันกลับอยากรู้จริงๆ ว่า คุณหวังให้เขารักษาโรคนี้ได้หรือไม่อยากให้เขารักษาได้กันแน่?” มู่หรงยิ่นถาม“ไร้สาระ! แน่นอนว่ารักษาได้ย่อมดีที่สุด” หลี่เหยียนพูดโดยไม่ต้องคิด“ถ้าอย่างนั้นคุณก็หุบปากไปซะ คำพูดไร้สาระของคุณนั้นมากที่สุดเลย ถ้าไม่พูดก็ไม่มีใครว่าคุณเป็นใบ้หรอก” มู่หรงยิ่นตอกจนหลี่เหยียนพูดอะไรไม่ออกอีกครั้ง แต่เนื่องจากเวลานี้มีเรื่องต้องร้องผู้อื่น หลี่เหยียนจึงได้แต่กล้ำกลืนความโมโหไว้มู่หรงยิ่นเดินออกจากห้องผู้ป่วย โทรศัพท์ไปหาหลินหยาง เล่าอาการของฉินอี๋หลิงอย่างละเอียด“เป็นผื่นพิษโลหิตอย่างที่ผมคิดไว้จริงๆ"หลินหยางกล่าว“คุณหลินคะ โรคนี้คุณรักษาได้ไหมคะ?” มู

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 165

    มู่หรงยิ่นเก็บโทรศัพท์มือถือลงไป วนเวียนไปมาอยู่นอกห้องผู้ป่วยครู่หนึ่ง จึงเดินกลับเข้าไปหลี่เหยียนรีบถามอย่างอดทนรอไม่ไหว “หมอเทวดาหลินคนนั้นจะมาเมื่อไหร่กัน?” หยี่เหยียนรู้สึกว่าบนร่างของตนคันเล็กน้อย ที่มือเริ่มมีจุดแดงเล็กๆ ผุดขึ้นมา นี่เป็นสัญญาณการกำเริบของผื่นพิษโลหิต ตัวเขาในตอนนี้หวาดกลัวจะตายอยู่แล้ว“รบกวนพวกคุณช่วยออกไปก่อน ฉันต้องการคุยกับคุณหนูฉินสักสองสามประโยค” มู่หรงยิ่นกล่าว“คุณก็บอกพวกเรามาให้ชัดเลยดีกว่าว่าที่แท้เขาจะมาไหม แล้วรักษาได้หรือเปล่า? คุณจะไล่พวกเราออกไปทำไม?” หลี่เหยียนคว้ามือของมู่หรงยิ่นไว้แล้วเค้นถาม“หลี่เหยียน! ระวังพฤติกรรมของนายด้วย!” แม้ฉินอี๋หลิงจะนอนป่วยอยู่บนเตียง ทว่าความน่ายำเกรงของเธอยังคงอยู่ เพียงประโยคเดียวก็ทำให้หลี่เหยียนปล่อยมือออกและไม่กล้าพูดมากอีก“พวกนายออกไปให้หมด” คนทั้งหลายต่างตามกันออกไปจากห้องผู้ป่วย เหลือเพียงฉินอี๋หลิงกับมู่หรงยิ่นเท่านั้น“คุณหนูมู่หรง มีอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ ฉันอยากรู้เพียงว่า หมอเทวดาหลินคนนี้สามารถรักษาโรคของฉันให้หายได้หรือเปล่าเท่านั้น?"ฉินอี๋หลิงถาม“รักษาได้ค่ะ” “คุณแน่ใจไหมคะ?”

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 166

    ส่วนทางโรงพยาบาล มู่หรงยิ่นกำลังช่วยฉินอี๋หลิงวิเคราะห์เบาะแส จะต้องตรวจหาสาเหตุของการติดโรคให้เจอโดยเร็วที่สุดณ หมู่บ้านตี้เหา หลินหยางกำลังนั่งขัดสมาธิ ในสมองกำลังวิเคราะห์เบาะแสไม่หยุดก่อนเทพโอสถผู้เป็นอาจารย์จะสิ้นลมได้เคยกำชับไว้ว่า ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นบรรลุเทพ ไม่อาจเปิดเผยฐานะว่าตนเป็นผู้สืบทอดของเทพโอสถอย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะชักนำเภทภัยถึงชีวิตมาและตัวหลินหยางในเวลานี้ ยังห่างไกลจากระดับบรรลุเทพอีกมาก ดุจดั่งวิมานในสรวงสวรรค์ ห่างออกไปแสนไกลเกินเอื้อมถึงระดับบรรลุเทพ นั่นเป็นระดับในตำนานที่เล่าขานกันกระทั่งมีคนจำนวนมากที่ไม่เชื่อถึงการคงอยู่ของระดับบรรลุเทพ คิดว่าระดับท่องสวรรค์ก็เป็นขีดจำกัดขั้นสูงสุดของมนุษย์แล้วระดับแรกคือ ‘ระดับมานะสร้าง’ หลังบรรลุระดับมานะสร้างได้ก็จะเข้าสู่ระดับที่สอง ‘ระดับเบิกฟ้า’ ซึ่งเป็นการสั่งสมลมปราณแท้จนกลั่นตัวเป็นจุดตันเถียนระดับขั้นที่สามของการฝึกยุทธ์คือ ‘ระดับเขตลับแห่งอิสรภาพ’ เป็นระดับที่สามารถปลดปล่อยปราณแท้ออกมา ควมคุมเป็นรังสีดาบกระบี่และรัศมีคุ้มครองกายที่แข็งแกร่งประดุจเหล็กกล้า สำหรับผู้ที่อยู่ในระดับนี้ กิ่งไม้ใบหญ้าล้

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 167

    เจิ้งหนานซวี่กล่าวอย่างตื่นเต้น“คืนนี้ฉันมีธุระ ไม่ไปเล่นเป็นเพื่อนนายแล้ว เปลี่ยนเป็นวันอื่นแล้วกัน” หลินหยางตัดสินใจว่าคืนนี้จะไปที่บ้านของฉินโม่หนง เพื่อลองเชิงเรื่องอุบัติเหตุรถยนต์ของพ่อแม่เขา ดูว่าจะสามารถถามเบาะแสอะไรจากปากของฉินโม่หนงได้หรือไม่ในส่วนลึกของจิตใจ เขาหวังอย่างยิ่งว่าฉินโม่หนงจะไม่เกี่ยวข้องกับการตายของพ่อแม่เขา“อย่างนั้นก็ได้ ถูกแล้ว หวังเซิ่งหลานไม่ได้มาหาเรื่องพี่ใช่ไหม? เรื่องนั้นฉันช่วยอะไรไม่ได้เลย รู้สึกผิดจริงๆ” “หล่อนมาแล้วและก็ไปแล้วล่ะ นายวางใจเถอะ เรื่องพวกนี้ฉันรับมือคนเดียวก็พอ นายแค่ทำกิจการของนายให้ดีๆ” หลินหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม“สวรรค์ประทานโอกาสล้ำค่ามาให้แล้ว ฉันต้องไม่ผิดต่อมันแน่” เจิ้งหนานซวี่ในตอนนี้ ยามพูดจาจะมีกระแสความฮึกเหิมสายหนึ่งหมู่บ้านตี้เหา วิลล่าสกุลหลิ่วเหลียงควนออกจากโรงพยาบาลแล้ว เพียงแต่บาดแผลบนในหน้ายังไม่หายดีทั้งหมด ทว่าเขาไม่อาจทนรอที่จะไปแก้แค้นหลินหยางเหลียงควนขับรถไปที่บ้านสกุลหลิ่วก่อนเมื่อเห็นเหลียงควนมาเยือน อวี๋ผิงก็รู้สึกยินดีอย่างมาก ปฏิบัติต่อเขาอย่างมีมารยาท คอยสอบถามสารทุกข์สุกดิบและประจบปร

บทล่าสุด

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 600

    เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 599

    “แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 598

    “ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 597

    เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 596

    แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 595

    ก็แค่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งเท่านั้น เขาไม่สนใจอยู่แล้วแต่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งไม่คิดเลยว่าจะมาเป็นยามให้หลินหยาง เขาไม่สามารถเข้าใจได้!แม้ว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์ระดับเก้าก็ยังไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้!จ้าวเจิ้งฮ่าวและคนอื่น ๆ ต่างก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงสถานการณ์ตรงราวกับเป็นภาพลวงตาเลยทีเดียว!ไอ้หมอนี่หัวสมองมีปัญหาเหรอไง? ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เป็นปรมาจารย์ระดับหก แต่กลับมาเป็นยามให้คนที่มีระดับเจ็ดอย่างหลินหยาง?!“นับว่าแกพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่การรับใช้คนที่กำลังจะตาย เป็นการทำให้ตัวเองเสื่อมถอยแท้ ๆ เลย!”จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “หลินหยางทำลายการค้าระหว่างกองทัพกับชาวตงอิ๋ง ฉันมาเพื่อค้นหาหลักฐาน”“ตอนนี้ฉันให้โอกาสแกกลับตัวกลับใจหนึ่งครั้ง สวามิภักดิ์ต่อฉัน! ไม่อย่างนั้น จะถือว่าแกขัดขวางการสอบสวน! ฝ่าฝืนกฎหมายระดับประเทศ! ฉันจะประหารชีวิตแกทันที”เขามีความคิดที่จะชักจูงคนคนนี้ถึงอย่างไรปรมาจารย์ระดับหกในเมืองลั่วก็นับว่าเป็นยอดฝีมือ ฆ่าไปก็น่าเสียดายแต่ทว่าอาต้ากลับกล่าวเสียงเย็นชา “รับเลี้ยงฉัน? แกคู่ควรเหรอ! ไสหัวไป!”“แกคิดให้ดี ๆ กล้าขัดขวาง

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 594

    เจียงรั่วหานกล่าวโต้เถียงด้วยสีหน้าแดงก่ำแต่นี่ก็คือเรื่องจริงถึงอย่างไรตนก็ไม่ได้ขึ้นเตียงกับหลินหยาง แต่ทว่าทำในรถ...“ไม่ต้องรีบ นั่งลงคุยกัน...” ซ่งหว่านอวี๋ท่าทางสบาย ๆ พูดจาปลอบโยนอย่างมีเลศนัย “เป็นเพราะพี่กลัวเธอถูกหลินหยางหลอกเอา หลินหยางนั่นบังคับให้พี่ทำเรื่องแบบนั้น เขาไม่ใช่คนดีอะไร!”“พี่หว่านอวี๋พี่ไม่เข้าใจเขา!”เจียงรั่วหานกลับวางแก้วกาแฟลง รีบพูดขึ้นว่า “อันที่จริงหลินหยางเป็นคนดีคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่เขาทำแบบนั้นกับพี่ อัน อันที่จริงเป็นเพราะจ้าวเจิ้งฮ่าวเป็นต้นเหตุ!”“ฉันบอกเขาแล้ว ว่าต่อไปห้ามแตะต้องพี่อีก!”ไม่แตะต้องฉัน?ฉันต้องการให้เธอช่วยเหลือเรื่องนี้เหรอ?เธอกินอิ่มแล้วไม่กะจะไม่เหลือไว้ให้ฉันกินสักคำเลยเหรอไง!ซ่งหว่านอวี๋สีหน้าดูแย่เล็กน้อย เธอกินอาหารทะเลมื้อหรูจนเคยชินแล้ว จะกินอาหารจืดชืดลงได้ยังไงอีก?“พี่หว่านอวี๋ ต่อไปฉันคงต้องอาศัยพี่คอยเป็นที่กำบังให้ฉันแล้ว ครอบครัวนี้ ฉันทนอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่วันเดียวแล้ว!”เจียงรั่วหานยังหันหน้าไปมองซ่งหว่านอวี๋ด้วยท่าทางขอร้อง“เรื่องเล็กน้อย...”ซ่งหว่านอวี๋กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ไม่ว่าจะพู

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 593

    ฉินเจิ้งคุนกลับส่งสัญญาณมือให้เงียบเอาไว้“เรื่องพวกนี้ห้ามเอาไปพูดข้างนอกส่งเดช! การต่อสู้ของบุคคลใหญ่โตไม่ใช่สิ่งที่พวกเราวิจารณ์ได้!”เขากล่าวเตือนด้วยท่าทีขึงขังถึงแม้ว่าตระกูลฉินจะมีชื่อเสียงโด่งดังในหนานโจว แต่ในสายตาของตระกูลใหญ่ที่ล้ำลึกจนไม่อาจคาดเดาของซานโจวบนพวกนั้น วงศ์ตระกูลบ้านนอกอย่างตระกูลฉิน ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึงการต่อสู้ระดับนั้น เพียงแค่ควันหลง ก็มากพอที่จะทำให้ทั้งตระกูลฉินตายไร้ที่ฝังศพแล้ว!ฉินอี๋หลิงรีบหุบปากทันทีเช่นกันไม่กล้าส่งเสียงดัง เพราะหวาดกลัวว่าคนบนฟ้า!“หลินไร้ศัตรูแอบรายงานแต่ละวงศ์ตระกูลใหญ่แห่งหนานโจวอย่างลับ ๆ ให้ช่วยเขาตามหาหลานชายของเขา ถ้าหากใครหาเจอ เขาก็จะยอมรับคำขอร้องของคนนั้นหนึ่งข้อ” ฉินเจิ้งคุนค่อย ๆ พูด“จริงเหรอคะ?”ฉินอี๋หลิงสีหน้าตื่นเต้นดีใจ หัวใจไฟลุกโชนถึงแม้ว่าวงศ์ตระกูลของหลินไร้ศัตรูจะล่มสลายไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สิ้นอำนาจโดยสมบูรณ์!คำมั่นสัญญาของเขาหนึ่งข้อ สามารถตัดสินว่าใครจะได้ครอบครองตำแหน่งหัวหน้าตระกูลฉิน!“มีเบาะแสของหลานชายคนนั้นของเขาแล้วเหรอยัง!”เธอรีบกล่าวถาม“ง่ายแบบนั้นซะที่ไหน...”ฉินเจิ้งคุนส่ายหน้

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 592

    ตนในตอนนี้ ต่อสู้ข้ามสามระดับชั้นก็ไม่เป็นปัญหา มีลูกน้องไม่กี่คน ตนก็ไม่ต้องโดนรุมโจมตีอีกบ่อย ๆมีสิทธิ์แสร้งทำเป็นเก่ง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทำแต่ทว่าหลี่หรูเยว่กับปรมาจารย์ทั้งสี่คนมีความปรับตัวให้เข้ากับสไตล์แบบนี้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่หลูอ้าวตงว่าอวดดีมากพอแล้ว แต่เมื่อเทียบกับหลินหยาง นั่นก็เป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อยเท่านั้น...“ไปกันเถอะ กลับไปที่บ้านให้ฉันรักษาอาการบาดเจ็บให้พวกแกก่อน อีกเดี๋ยวไปกับฉันฆ่าคนของจ้าวเจี้ยนชิงให้เรียบ”หลินหยางเดินลงจากภูเขาแต่หลี่หรูเยว่และคนอื่น ๆ อีกห้าคนกลับสบตากันแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าตกใจจากนัยน์ตาของอีกฝ่ายหลินหยางพูดจาสบาย ๆ มาก ราวกับว่าในสายตาของเขา การฆ่าหัวหน้ากองทหารรักษาการณ์ ง่ายเหมือนกับซื้อผักพวกเขากลับไม่ทันได้คิดมาก รีบตามหลินหยางลงจากเขา คอยตามปรนนิบัติ...อีกด้านหนึ่งภายในห้องหนังสือสไตล์โบราณแห่งหนึ่งฉินเจิ้งคุนกระแทกโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ พูดด้วยความโมโห “ไอ้สารเลวนี่อวดดีมาก! แม้แต่สายโทรศัพท์ของฉันกล้าตัดทิ้ง!”ฉินอี๋หลิงที่อยู่ด้านข้างสีหน้าดูแย่เช่นกัน บทสนทนาเมื่อครู่นี้เธอได้ยินหมดแล้วหลินหยางไม่ให้เกียรติเลยแม้แต

DMCA.com Protection Status