ครืด ครืด~ "ฮัลโหลค่ะคุณแม่" (หนูณัชชารู้รึเปล่าจ๊ะ ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของแม็กซ์เวลล์เขา) "ไม่รู้เลยค่ะ เขาไม่เคยบอก" (ลูกชายคนนี้จริงๆ เลย วันสำคัญทั้งทีแต่ไม่เคยบอกเมียตัวเอง มันน่านัก) "ช่วงนี้เขายุ่งๆ อีกอย่างหนูไม่เคยถามเขาเรื่องนี้ด้วย" (แม็กซ์เวลล์ไม่ชอบฉลองวันเกิดแต่ไหนแต่ไร บอกว่ามัน
(ได้ แล้วหลังจากเลิกงานนายจะไปไหนต่ออีกไหม) "วันนี้ฉันมีนัดกับเพื่อน" (นัดไปไหนกันเหรอ?) "มาเวลล์" (แหม บอกฉันห้ามกลับเกินสี่ทุ่ม แต่ตัวเองกะจะโต้รุ่งถึงเช้าเลยใช่ไหมล่ะ) ปลายสายเริ่มไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย ตอบกลับด้วยท่าทางประชดประชัน "กลับพร้อมเธอ เธอกลับเมื่อไหร่ก็โทรบอกหรือจะให้แวะไปรับก็ได
"ฮึก..." เธอวิ่งร้องไห้ลงมาจากชั้นสองโซนวีไอพีของไนต์คลับ แม้ผู้คนมากมายกำลังมองมายังเธออย่างให้ความสนใจ ทว่านาทีนี้ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว ความอ่อนแอของเธอที่เก็บไว้ได้ปะทุออกมากลายเป็นบ่อน้ำตา ตอนนี้ความจริงที่เพิ่งรับรู้ไม่ต่างอะไรจากมีดเล่มหนึ่งที่กรีดลงกลางหัวใจจนรู้สึกปวดหนึบ แม็กซ์เวลล์รู้ทั้
ดรีมมองเพื่อนสนิทแล้วรู้สึกเห็นใจปนสงสาร เธอเข้ามานั่งลงข้างกายณิชา เอื้อมมือไปลูบแผ่นหลังบางเบาๆ "คุณแม็กซ์เวลล์ เขารู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่" "ก่อนพิธีแต่งงานจะถูกจัดขึ้น" "แล้วแกจะเอายังไงต่อไป" "พรุ่งนี้ฉันจะบินไปต่างประเทศ" "...." "คืนนี้แกช่วยพาฉันไปเก็บของที่คอนโดฉันได้ไหม" "แกตั
วันต่อมา แม็กซ์เวลล์เดินนำคนสนิทสองคนมายังหน้าประตูห้องของคอนโดมิเนียมณิชา ภายนอกที่นิ่งขรึมช่างแตกต่างจากภายในโดยสิ้นเชิง ยอมรับว่าเผลอคิดตามคำพูดของเพื่อนสนิท เขาอาจจะชะล่าใจที่เปิดกรงนกทิ้งเอาไว้ โดยไม่รู้เลยว่านกตัวนั้นจะเลือกอยู่ในกรงทองแสนสบายนั้นต่อหรือเลือกที่จะ...โบยบินไปพร้อมอิสรภาพที่โหย
"...." "ถ้ายัยณิชารู้ คุณคิดว่าเธอจะกลับมาหาคุณไหมคะ?" แม็กซ์เวลล์ค่อยๆ คลายมือที่บีบลำคอดรีมออกพร้อมลดปืนลง การกระทำนั้นทำเอาดรีมถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่าแค่เธอพูดแบบนั้นก็สามารถทำให้แม็กซ์เวลล์อ่อนแอได้ถึงเพียงนี้ "ฉันจะถามอีกครั้ง ณิชาอยู่ที่ไหน" "ฉันไม่รู้ค่ะ ฉันบอกคุณได้แค่ เลิกตามหาณิชาเถอะค่ะ
แม็กซ์เวลล์กลับมาบ้านในสภาพแตกต่างออกไปเช่นทุกวัน นัยน์ตาดำขลับกวาดมองรอบห้องนอนที่เคยมีเจ้าของรอยยิ้มสดใสอยู่ ทว่าตอนนี้กลับเหลือเพียงความว่างเปล่า ร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวนั่งลงโซฟา หยิบบุหรี่ออกมาคาบไว้ในปากก่อนจะใช้ไฟแช็คลนปลายกระบอกจนควันสีเทาคลุ้งกระจาย เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา ทันทีที่เปิดหน้าจอ สิ่ง
หลายวันต่อมา @บริษัท "ยกเลิกการประชุม ยกเลิกงานทุกอย่าง" "ครับ?" "กูยังพูดไม่ชัดเจนอีกรึไง" มาเฟียหนุ่มเงยหน้ามองวินซ์ที่เพิ่งรายงายตารางงานในวันนี้จบหมาดๆ แอบแปลกใจเล็กน้อยเพราะปกติเจ้านายไม่เคยยกเลิกงานมาก่อน นี่เป็นครั้งแรก "แต่วันนี้นายมีนัดคุยงานกับนักลงทุนจากต่างประเทศนะครับ" "เลื่อนออกไ
"...." "ผมไม่เคยคิดจะทิ้งพี่เลยนะ พี่ก็รู้ว่าผมรักพี่มากขนาดไหน" "ก็นายไม่สนใจฉัน" "ถ้าเป็นเรื่องนี้ผมขอโทษ หายงอนผมนะ" "...." "เงียบแบบนี้คือ? ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ผมพาไปกินอาหารญี่ปุ่นเอาไหม" เจเลอร์มองดรีมผ่านกระจกตรงหน้า เธอทำหน้าลังเลเล็กน้อยเมื่อได้ยินเขาพูดถึงอาหารญี่ปุ่นเพราะมันเป็นของโป
"เป็นยังไงบ้าง" "สวยมาก" "นายชอบไหม" "ชอบมาก ชุดนี้สวยเหมาะกับพี่" ดรีมยิ้มพลางเลื่อนมือขึ้นมาเกาท้ายทอยตัวเองด้วยความเขินอาย "เรามาถ่ายรูปคู่กันดีไหม" "พี่อยากถ่ายรูปคู่กับผมเหรอ?" "ใช่ เรายังไม่มีรูปคู่กันเลยนี่หน่า นะๆ พี่คะ รบกวนถ่ายรูปให้เราสองคนหน่อยได้ไหมคะ" "ได้ค่ะ" พนักงานสาวตอบรับด
หลายวันต่อมา "อื้อ...ทำอะไรของพี่เนี่ย" ชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับอยู่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เมื่อโดนคนตัวเล็กเข้ามาปลุกโดยวิธีการจุ๊บแก้มซ้ำหลายๆ รอบ เธอมักเข้ามาปลุกเขาแบบนี้ทุกเช้า "ตื่นเร็วเช้าแล้ว" "ขอนอนต่ออีกห้านาทีนะ ผมเพลียมากเลย" คนฟังทำหน้านิ่ว ทุกครั้งที่เข้ามาปลุก เจเลอร์มักพูดแบ
"ไปกอดต่อบนห้อง" เขาจับมือดรีมให้เดินตามไปยังลิฟต์ สามวันที่ผ่านมาบอกตามตรงว่าคิดถึงเธอมาก แม้จะคุยกันผ่านแชตเป็นประจำแต่มันก็ไม่ทำให้หายคิดถึงเท่าเห็นหน้า ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อถึงชั้นเป้าหมาย เจเลอร์จูงมือดรีมมายังห้องตัวเอง เมื่อเข้ามาข้างในเขาไม่รอช้าที่จะดึงคนตัวเล็กมากอดอีกครั้งด้วยความคิดถึง
สามวันต่อมา "รู้สึกยังไงบ้างที่มีผู้ชายโพสต์รูปลงไอจี" ณิชาที่กำลังเดินคล้องแขนดรีมเลือกซื้อของบนห้างสรรพสินค้าเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม "เดี๋ยวเขาก็ลบออกไปเองแหละ" "การที่ผู้ชายทำแบบนี้ฉันว่ามันชัดเจนแล้วนะว่าเจเลอร์อะ เขาคิดเหมือนกันกับแก" "แต่ว่าเขาไม่เคยพูดว่ารู้สึกยังไงกับฉัน" เธอพูดตัดพ้อออกมา
"อะ" ชายหนุ่มรุ่นน้องปรายสายตามองสร้อยประจำตระกูลที่ดรีมคืนให้เพียงนิด ก่อนจะดึงสายตากลับไปมองวิวตรงหน้าต่อพลางขยับปากพูดกับหญิงสาว "พี่เก็บไว้ใส่เถอะ" "แต่ว่านี่เป็นสร้อยประจำตระกูลของนายเลยนะ จะเอามาให้ฉันเก็บไว้ใส่เองได้ยังไง" "พี่เป็นเมียผมแล้วนะ ของๆ ผัว ก็เหมือนของๆ เมีย" "คะ...ใครเป็นเม
เช้าวันต่อมา แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนสี่เหลี่ยมหรูกระทบเข้ากับเจ้าของใบหน้าสวยหวานที่กำลังนอนหลับปุ๋ยบนเตียง เปลือกตาสีขาวค่อยๆ ปรือขึ้นมาอย่างยากลำบากเพราะมีแสงแดดกำลังแยงตา เธอดึงตัวเองขึ้นจากหมอนใบใหญ่พลางมองไปรอบห้องนอน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือคอนโดของเจเลอร์ แล้วเธอก็นอนที่นี่
"เจเลอร์" เสียงนั้นทำให้เจเลอร์และดรีมพลันสายไปมอง พบว่าเจ้าของเสียงเมื่อครู่คือพิตต้า หล่อนเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม "เจอกันอีกแล้วนะ" "มีอะไร" "ทำไมต้องทำตัวห่างเหินกันด้วยล่ะ เมื่อก่อนเจเลอร์ไม่เป็นแบบนี้นี่หน่า" "เรื่องของเรามันจบไปแล้ว จะพูดถึงทำไมอีก" "เพราะพิตต้ายังรักเจเลอร์อยู่ เราจะไม่
เธอปลีกตัวจากเจเลอร์มาเข้าห้องน้ำเพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหนเขาก็เอาแต่เดินตามราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปไหน หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จเธอก้าวออกมาล้างมือ ก่อนจะหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดมือแล้วทิ้งลงถังขยะ จังหวะกำลังเดินออกไปเป็นต้องชะงัก เมื่อพิตต้า อดีตแฟนเก่าของเจเลอร์ได้เดินเข้ามาในห้องน้ำพอดี เธอและพิตต