เมื่อเฮนรี่เดินเข้าไปในบ้าน เขาไม่ได้มาคนเดียวเพราะคนที่เดินตามหลังเขามาติด ๆ นั้นคือ เฮเลน เธอไม่ได้วางแผนว่าจะมาเซอร์ไพรส์แต่อย่างใด เธอเพียงแต่บังเอิญเจอกับเฮนรี่ที่รั้วบ้าน แอเรียนที่อุ้มสมอร์อยู่ในอ้อมอกเข้ามาทักทายเธอ “ที่รัก ทักทายคุณยายหน่อยสิ”สายตาที่เฮเลนมองสมอร์นั้นเต็มไปด้วยความรัก ทว่าเธอไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะเข้าไปกอดหรืออุ้มเขาเลย คงจะเป็นเพราะเธอกลัวว่าแอเรียนอาจจะไม่พอใจกับสิ่งนั้น “น่ารักจังเลย! เขาหน้าเหมือนลูกแต่มีสีหน้าของมาร์ค” แอเรียนยิ้ม “เชิญนั่งก่อนสิ ในที่สุดก็มีเวลาว่างแล้วเหรอคะ?”เฮเลนนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นและพึมพำขอบคุณแมรี่ผู้นำน้ำดื่มใส่แก้วมาให้เธอ “แม่กำลังจะไปทำธุระและผ่านมาทางนี้พอดี แม่คิดว่าตอนนี้ลูกน่าจะอยู่บ้าน แม่ก็เลยแวะมาเยี่ยมหาสักหน่อย”“ผ่านมาทางนี้พอดี?” ไม่มีทางที่คฤหาสน์เทรมอนต์จะเป็น "ทางผ่าน" ของเส้นทางการเดินทางใคร ๆ เพราะที่ตั้งของมันไม่ได้อยู่ใกล้ทางด่วนหรือถนนที่พลุกพล่าน มันเป็นเพียงขอแก้ตัวของเฮเลน แต่แอเรียนเลือกที่จะมองข้ามมัน “แล้วเป็นอย่างไรบ้างคะ? ที่บริษัทของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?” เฮเลนชะงักชั่วครู่ก่อนที่จะ
แอเรียนพยายามหยิบจี้คืนจากสมอร์ ทว่ามือของเขากำหมัดแน่นอย่างดื้อรั้นโดยไม่ยอมปล่อยไม่ว่าเธอจะพยายามงัดมันมากแค่ไหนก็ตาม ด้วยความกลัวว่าเธออาจจะทำให้เขาเจ็บโดยไม่ตั้งใจได้ แอเรียนจึงยอมแพ้และยอมจำนน "ก็ได้ เราจะไม่ได้มันกลับมาจนกว่าเขาจะเบื่อมัน โอ้ นั่นทำให้ฉันนึกถึง... เอ่อ เรื่องที่ว่า แอรี่เป็นอย่างไรบ้าง?”หากเธอมีทางเลือก แอเรียนจะไม่มีวันพูดถึงแอรี่เด็ดขาด แต่ ณ ตอนนี้เธอหมดเรื่องที่จะคุยกับเฮเลนโดยสิ้นเชิง เธอไม่อาจจะปล่อยให้ “ช่วงสนทนา” ที่เหลือของทั้งคู่กลายเป็นการจัองตากันไปมาได้ใช่ไหมล่ะ?เฮเลนเองก็ไม่นึกว่าแอเรียนจะพูดถึงแอรี่ขึ้นมาด้วยตัวเอง หลังจากที่เธอหายตะลึง เธอจึงตอบว่า “ก็ดีนะ ตอนนี้เธอกำลังเรียนอยู่ที่ต่างปกระเทศ แม่โล่งอกที่เธอดูเหมือนจะกลับไปตั้งใจเรียนเหมือนเมื่อก่อน คือ แม่หาครอบครัวอุปถัมภ์ที่แม่ได้สร้างความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดด้วยให้เธอเพื่อที่แม่จะได้เฝ้าติดตามทุกการเคลื่อนไหวและทุกสถานการณ์ของแอรี่จากที่นี่ จริง ๆ แล้วแค่แอรี่กลับไปตั้งใจเรียนและเลิกคิดที่จะทำลายชีวิตตัวเอง คนเป็นแม่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องหมดหวังในตัวลูกสาวของตัวเองแล้ว ลูกว่าไหม? แต่แน
มุมปากของมาร์คขยับเป็นร้อยยิ้ม แต่แววตาของเขากลับไม่ได้ยิ้มด้วยเลย มันเป็นเพียงการสวมร้อยยิ้มปลอม ๆ“คุณไม่ได้จะบอกให้ผมไปตามหาที่ดินที่คุณสมมุติขึ้นมานั้นเองใช่ไหม?” เขากล่าวขึ้น “ทุกคนที่สมองยังใช้งานได้ต่างสามารถฝันถึง ‘ทางออก’ ที่ง่ายขนาดนี้ได้! เหตุผลที่ผมเรียกพวกคุณมาประชุมก็เพราะว่าผมต้องการผลลัพธ์และความคืบหน้าจริง ๆ แต่คุณกลับ… ถามผมราวกับว่าคุณกำลังขออนุญาต ถามจริง? คุณพิจารณาเองสักนิดไม่เป็นเลยเหรอ?! ก็ได้ เยี่ยมเลย งั้นผมเดาว่าผมควรจะเริ่มนับถอยหลังรอวันที่บริษัทของผมพังทลายได้เลย” ผู้บริหารหนุ่มรีบเก็บแฟ้มเอกสารของตัวเองทันทีราวกับว่าเขากำลังจะออกจากห้อง “ครับ ครับ! ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลยครับ ผมสัญญาว่าคราวหน้าผมจะทำให้คุณภูมิใจ!”มาร์คนวดหน้าผากตัวเอง “พระเจ้าช่วย พวกคุณก็ต่างโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้วนะ ทำไมถึงไม่ลงมือทำงานทันทีที่คิดว่าตัวเองมีวิธีแก้ปัญหาดี ๆ บ้างเลย? ทำไมต้องรอให้ผมอนุมัติก่อนด้วย หื้มม? เลิกขออนุญาตผมทุกเรื่องได้แล้ว โดยเฉพาะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ สมองคุณจะฝ่อเอานะถ้าจะไม่ใช้มันเลยน่ะ คุณรู้ไหมว่าผมอยากได้ยินว่าอะไร? ผมอยากได้ยินว่า ‘คุณเทรมอนต์ครับ ผมเจอที
เจตต์ส่ายหัว “บ้า ไม่ต้องหรอก ที่นี่ก็น่าอยู่ดีออก เห็นไหม? มีตั้งสองห้องนอนแหนะ ห้องหนึ่งของเธอ ห้องหนึ่งของฉัน ฉันจะได้มาค้างที่นี่ตอนที่สะดวกได้ด้วย” เขากล่าว “และเธอไม่จำเป็นต้องออกไปทำงานเลย งานฉันเลี้ยงเราสองคนได้สบาย อย่างน้อยก็ก่อนที่เด็กนั้นจะคลอด แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เราสองคนอาจจะไม่ได้มีอนาคตร่วมกัน แต่เด็กนั้นเป็นลูกฉันเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอย่ากังวลเกินไปและทำตามที่ฉันบอกก็พอ นี่ ถ้ามองข้ามเรื่องที่เราไม่ได้คบกันจริง ๆ ฉันว่าเราดูเหมือนสามีภรรยากันจริง ๆ นะ” ธัญญ่ารู้สึกกระเทือนในหน้าอกราวกับว่ากำแพงที่ปิดล้อมหัวใจเธอได้พังทลายลง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพิจารณาเจตต์อย่างรอบคอบ… และพบว่าความปรารถนาของเธอที่มีต่อแจ็คสันลดลงเธอหวังเพียงเสี้ยววินาทีว่าข้อตกลงระหว่างเธอกับเจตต์นั้นเกิดขึ้นด้วยความยินยอมโดยสุจริตและเที่ยงแท้ เธอต้องการมีครอบครัวเป็นของตัวเอง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรจริงเลย พวกมันเป็นเพียงบทบาทที่พวกเขาต้องเล่นตามเพื่อความอยู่รอดความอึดอัดที่อัดแน่นในหน้าอกของเธอทำให้เธอหายใจลำบากขึ้นเล็กน้อย “ฉัน… อ้อ ผ้ากอซจะหมดแล้ว” เธอประกาศ “ฉันจะลงไปร้านขายยาข้างล่างแ
เจตต์ซุกบัตรนั้นไว้ในกระเป๋าของเขาอย่างลังเล “คุณก็รู้ว่าถ้าหากคุณทำอะไรมากเกินไป นายท่านจะสงสัยคุณเอาได้นะครับ”อเลฮานโดรยิ้ม “เรื่องนั้นมันน่าสงสัยตรงไหนเหรอ? หรือเขาสงสัยว่าฉันอาจจะไม่ใช่หลานชายสุดที่รัก อเลฮานโดร สมิธของเขาจริง ๆ? นั่นมันเป็นความสงสัยของนายท่านหรือของนายกันแน่? แล้วถ้าฉันบอกนายว่า ฉันไม่ใช่อเลฮานโดรล่ะ?”เจตต์ก้มศีรษะลงต่ำกว่าเดิม เสียงของเขาเอื่อยเฉื่อยจนแทบจะเหมือนหุนยนต์ตอนที่เขาตอบ “สำหรับผม คุณสมิธก็คือคุณสมิธวันยังค่ำ ความเป็นไปได้อื่นใดไม่สำคัญ แม้ว่าคุณจะทำสิ่งที่ตลกหรือน่าสงสัยอยู่ก็ตาม” อเลฮานโดรดูเหมือนจะอารมณ์ดี “ฮ่า เพราะแบบนี้ไงฉันถึงชอบนายและอยากให้นายอยู่ข้างฉัน นายรู้ไหม… ธัญญ่าอาจจะไม่ได้ฉลาดมากนักแต่เธอค่อนข้างหน้าตาดีเลยนะ นายควรจะลองพิจารณาเธอดูดี ๆ” “คนอย่างผมจะไม่มีวันมีชีวิตที่ปลอดภัยและมั่นคง” เจตต์ตอบอย่างสงบ “สิ่งสุดท้ายที่ผมต้องการคือการต้องลากคนอื่นเข้ามาเสี่ยงกับผม ถ้าผมทำได้ ผมอยากจะคืนอิสรภาพให้เธอมากกว่า”อเลฮานโดรดูเหมือนจะตะลึงกับความตรงไปตรงมาของเขา “หึ แค่นั้นก็ทำให้นายมีมนุษยธรรมมากกว่าคนอื่น ๆ ที่ทำงานให้กับครอบครัวนี
หัวใจของแอเรียนสั่นสะท้าน“ไม่ว่านายจะทำอะไร ห้ามกลับเข้าไปในโรงแรมเด็ดขาด หาที่ซ่อนแถว ๆ นั้นและอย่าให้พวกมันหานายเจอ ส่งที่อยู่มาให้ฉันด้วย ฉันจะพากำลังเสริมไปช่วย!” แอเรียนตอบขณะที่สั่นสะท้าน หลังจากที่วางสายเธอก็รีบไปที่ห้องนอนทันที มาร์คเพิ่งจะลงไปแช่น้ำแบบโป๊เปลื่อย เขายิ้มเมื่อเธอเปิดประตูเข้าไปในห้องน้ำ “จะทำอะไรเหรอ? ฉันว่าฉันพอจะมีแรงอยู่นะ ถ้าเธอต้องการมันขนาดนั้น…” ถึงจุดนี้เธอไม่อาจสนใจที่จะรู้สึกเขินอีกต่อไป “ไม่ใช่อย่างนั้น มีบางอย่างเกิดขึ้นกับฮาร์วีย์ ฉันคิดว่าพวกลักพาตัวน่าจะบุกไปที่โรงแรม มันต้องมีอะไรแน่ ๆ คุณจะต้องไปกับฉันและเรียกกำลังเสริมมาด้วย ฉันกลัวจริง ๆ นะคุณ! เรากำลังพยายามจะสืบว่าอีธานอยู่เบื่องหลังทั้งหมดนี้หรือเปล่าไม่ใช่เหรอ? เร็วเข้า ออกมาจากอ่างได้แล้ว!” รอยยิ้มของมาร์คจางหายไป เขาทำหน้าเคร่งขรึมและลุกออกจากอ่างอย่างไม่เต็มใจก่อนที่จะดึงเสื้อคลุมมาคลุมตัว “ไปเอาเสื้อผ้ามาให้ฉันหน่อย ฉันจะโทรหาเฮนรี่”แอเรียนหันหลังกลับและเดินไปที่ห้องเสื้อผ้าก่อนที่จะสุ่มหยิบเสื้อผ้ามาหนึ่งชุด “คุณใส่เสื้อผ้าเลยเดี๋ยวฉันโทรหาเฮนรี่เอง บอดี้การ์ดต่างเตรียมพ
แอเรียนผิดหวัง เธอหวังจะได้เห็นพวกที่ลักพาตัวฮาร์วีย์เผื่อว่าเธออาจจะได้เบาะแสอะไรที่จะสามารถนำไปหาอีธานได้ แต่สุดท้ายพวกเขาก็มาช้าเกินไปพวกเขาพาทุกคนขึ้นไปที่ชั้นบนและพบว่าประตูห้องของโซอี้และคุณแฮร์ริสถูกเปิดทิ้งไว้ ข้างในห้องเลอะเทอะมาก เจ้านายหญิงของโรงแรมกำลังคำนวณค่าเสียหายขณะที่ดุพวกเขาด้วยคำพูดที่เจ็บปวด ทั้งคู่ยังคงอยู่ในอาหารช็อก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย พวกเขาเพียงแต่ยืนรับคำวิจารณ์ของเจ้านายหญิงคนนั้น โซอี้ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร แต่กลับกันกับสามีของเธอที่ดูราวกับว่าโดนทุบตีมาอย่างหนัก แอเรียนก้าวเข้าไปหยุดเจ้านายหญิง “พอได้แล้ว เดี๋ยวฉันชดเชยให้ เฮนรี่ ลงไปข้างล่างกับเธอและให้เธอคำนวณค่าเสียหายมาให้หมด ชำระอะไรที่ยังค้างคาให้หมดเลย” เจ้านายหญิงที่เห็นจำนวนคนที่แอเรียนพามาด้วยกลัวเกินกว่าจะโวยวายต่อ เธอเพียงแต่เดินตามเฮนรี่ไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆโซอี้เหลือบมองฮาร์วีย์และเข้าใจทันทีว่าแอเรียนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร “พวกเราไม่ได้เป็นอะไร ฉันขอโทษที่ทำให้เธอต้องเดือดร้อนขนาดนี้ พวกเราทุกคนปลอดภัยดี” “ฉันรู้” แอเรียนตอบอย่างสงบ “ฉันเห็นแล้ว ตาฉันยังใช
ไบรอันหุบยิ้มทันที “ครับนายท่าน มันมีเหตุผลที่ผมยังไม่มีแฟนจริง ๆ อย่างเช่น ตารางงานที่ยุ่ง ไม่มีเวลาว่าง และอื่น ๆ …”“งั้นนายอยากจะลาพักร้อนยาว ๆ ไหมล่ะ?” มาร์คถามอย่างนุ่มนวล “หรือบางที่นายอาจจะอยากเกษียณเร็วขึ้นประมาณยี่สิบสามสิบปี?”ไบรอันส่ายหัวอย่างรุนแรง “ไม่ครับ ไม่ครับ ผมยินดีที่จะรับใช้คุณ แม้ว่าผมจะเกษียณผมก็ยังยินดีที่จะขับรถให้คุณต่อเป็นสิบ ๆ ปีตราบใดที่ผมยังสามารถขับไหวครับ”…ณ คฤหาสน์เวสต์ซัมเมอร์ป่วยติดเตียงตั้งแต่ที่ถูกธัญญ่าบีบคอและจะมีไข้เป็นครั้งคราว คุณหมอสรุปว่ามันเป็นผลจากอาการช็อกและเธอจะหายดีหลังจากที่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ด้วยเหตุนี้แจ็คสันถึงได้กลับมาเยี่ยมหาที่คฤหาสน์เวสต์บ่อยขึ้น ส่วนใหญ่เพราะเขารู้สึกผิดและเพราะว่าเขาสงสารแม่ตัวเอง เจตคติของเขาต่อแอตติคัสก็ได้เปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังจากที่เขาเห็นว่าแอตติคัสดูแลเอาใจใส่และเป็นห่วงซัมเมอร์มากแค่ไหน แม้ว่าแจ็คสันยังคงปฏิเสธที่จะทักทายหรือคุยกับแอตติคัสก่อน แต่อย่างน้อยแจ็คสันก็ไม่ได้กลับมาบ้านด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป“แจ็คสัน ลูกไม่ต้องห่วงแม่หรอก แม่มีพ่อคอยดูแลอยู่ แม่ไม่ได้เป็น
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง