หลังจากที่วางสาย ทิฟฟานี่ที่ตื่นตระหนกก็เริ่มเดินวนเป็นวงกลมเพราะการรอได้ทรมานเธอเธอไม่รู้ว่าเธอรอไปนานแค่ไหนแล้ว แต่อนิจจา รถของแจ็คสันก็ปรากฏตัวขึ้นในสายตาของเธอ เมื่อเขาขับมาใกล้ขึ้นเธอก็รีบเดินเข้าไปหาเขา “ขึ้นมา”ทิฟฟานี่เปิดประตูและขึ้นไปนั่งบนเบาะข้างคนขับอย่างเร่งรีบและถามเซ้าซี้ “คุณติดต่อเบคเค็ตได้ไหม? ฉันไม่มีเบอร์เขาและธัญก็ไม่รับสายและ โอ้พระเจ้า ฉันกลัว!” แจ็คสันนวดหน้าผากของตนเพื่อบรรเทาอาการปวกหัว “ก่อนอื่น คาดเข็มขัดก่อน ผมจะโทรหาไอ้เบคเค็ตนั้นเดี๋ยวนี้แหละ”มือของทิฟฟานี่สั่นเมื่อเธอพยายามบังคับมือตัวเองให้คาดเข็มขัด ธัญญ่าเป็นเด็กกำพร้าผู้โดดเดี่ยวและไม่มีญาติที่ยังมีชีวิตอยู่เหลือเลย หากเกิดอะไรขึ้นกับธัญญ่า ทิฟฟานี่จะต้องรู้สึกผิดไปจนตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเหตุการณ์ครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่ตัวทิฟฟานี่เองในกรณีที่แย่ที่สุด เธอจะต้องทำตามข้อเรียกร้องของเขา เธอจะต้องยอมรับว่าเธอลอกงานของเบคเค็ตแจ็คสันเห็นได้จากอาการตัวสั่นของเธอว่าเธอกลัวแค่ไหน เขาจึงช่วยเธอคาดเข็มขัด “ใจเย็น ๆ ก่อนทิฟฟานี่ ให้ผมหาตำแหน่งที่ชัดเจนของเบคเค็ตก่อนนะ ธัญญ่าต้องอยู่กับเขาแน่นอน
”คุณไม่ได้เชื่อจริง ๆ ใช่ไหมว่าการอยู่ที่บ้านของผมจะอันตรายกว่าการโดนลักพาตัว?” แจ็คสันเหน็บ “ฟังนะ ผมแค่ไม่ต้องการให้อะไรเกิดขึ้นกับคุณก่อนที่เราจะแก้ไขปัญหาของธัญญ่าได้ เข้าใจไหม? เพราะสิ่งสุดท้ายที่ผมต้องการคือปัญหาที่ทับซ้อนกัน หากคุณกังวลว่าผมจะทำอะไรคุณขนาดนั้น ก็ได้ ผมจะไปส่งคุณที่บ้านผมแล้วผมจะไปนอนที่ออฟฟิศ”ข้อยินยอมที่ชัดเจนของเขาทำให้ทิฟฟานี่ยากที่จะปฏิเสธข้อเสนอของเขาได้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะที่จริงแล้วเธอกลัวที่จะกลับบ้าน ถ้าเบคเค็ตเห็นว่าเขาสามารถทำอะไรกับธัญญ่าได้อย่างไม่มีปัญหา เขาก็จะสามารถซุ่มโจมตีทิฟฟานี่ในคอนโดมิเนียมของเธอได้เช่นกันและถ้าเขาจับเธอได้… แม้ว่าเธอจะออกมาจากเงื้อมมือของเขาทั้งเป็นได้ แต่เธอก็คงจะต้องเย็บแผลมากมายแน่นอน“อะ-เอ่อ ถ้าคุณยืนยัน… งั้นขอโทษที่ต้องรบกวนด้วย” ทิฟฟานี่ยอมอ่อนข้อแจ็คสันไม่ตอบอะไร ทิฟฟานี่ไม่เคยพูดกับเขาอย่างเป็นทางการมาก่อน ดังนั้นตอนนี้เขาจึงปรับตัวเข้ากับมันได้ยากรถหยุดก่อนถึงทางเข้าของไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่า เมื่อจำรถของแจ็คสันได้ รปภ.จึงยกตัวกั้นขึ้นทันทีแจ็คสันเลื่อนกระจกลงและมองไปที่ชายคนนั้น “โย่ นี่คือแฟนของผม จำ
ดวงตาของแจ็คสันฉายแววของความดีใจ เขาลุกขึ้นและตามทิฟฟานี่กลับเข้าไปในห้องนอนเธอถอดแจ็กเก็ตออก โดยเหลือเสื้อชั้นในและกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ไว้ก่อนจะปีนขึ้นบนที่นอน ในขณะเดียวกัน แจ็คสันซึ่งใส่ชุดนอนมองมาที่เธอและถามว่า “นี่คุณจะไม่ถอดกางเกงยีนส์นั้นจริง ๆ เหรอ? ผมจะไม่พูดถึงว่ามันสกปรกแค่ไหนหลังจากที่ใส่มันมาแล้วทั้งวัน แต่คำถามของผมคือ มันไม่อึดอัดและจะทำให้คุณนอนไม่สบายเหรอ?”เธอจ้องหน้าเขา “หึ พยายามได้ดีนะ แต่ฉันจะไม่ถอดมันออก! ถ้าคุณคิดว่ามันสกปรกก็ไม่ต้องนอนกับฉันสิ!”จากนั้น หลังจากที่จำได้ว่านี่คือบ้านของเขา ทิฟฟานี่ที่อายก็รวบรวมความสำนึกในตนเองมากพอที่จะพูดว่า “คุณยืนยันว่าจะให้ฉันมาที่นี่เองหนิ!”แจ็คสันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าด้วยความรำคาญเล็กน้อยและโยนเสื้อสเวตเตอร์สีขาวบาง ๆ ของเขาให้เธอ “ผมหมายถึงว่าคุณควรจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นที่จะทำให้นอนหลับสบายขึ้นมาก ไม่ต้องกังวล เสื้อของผมยาวพอที่จะคลุมถึงหัวเข่าของคุณเลยแหละ”ความเงียบของทิฟฟานี่เป็นหนึ่งในข้อตกลงโดยปริยาย เธอคว้าเสื้อสเวตเตอร์และมุ่งหน้าเข้าห้องน้ำหลังจากที่เธอเปลี่ยนเสื้อเสร็จ เธอก็ตกใจมากที่เห็นว่าแจ็คสันไม่ไ
ธัญญ่าขมวดคิ้ว “คุณทำอะไร… คุณทำอะไรในขณะที่ฉันเมา? ฉันเคยคิดว่าคุณเป็นคนท้องถิ่นในเมืองหลวง แต่คุณไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยเหรอ? ฟังนะ ฉันเข้าใจ คุณอยากประสบความสำเร็จ ฉันก็เหมือนกัน ฉันต้องการหยั่งรากในเมืองนี้และเติบโตขึ้น แต่ฉันก็รู้ด้วยว่าคุณต้องยืนบนพื้นให้ได้ก่อนถ้าคุณต้องการที่จะหยั่งราก! ไม่ว่าคุณกำลังวางแผนอะไรในตอนนี้ มันจะทำลายคุณเท่านั้น!“คุณเป็นเรื่องราวแห่งความสำเร็จสำหรับฉันแล้วนะเบคเค็ต คุณเป็นเจ้าของรถ บ้าน และงานที่มีรายได้สูง คุณฉลาด มีความรู้ มีการศึกษา! คุณมีสิ่งเหล่านี้แล้ว ทำไมคุณถึงยังทำอย่างนี้ล่ะ?”“ทั้งหมดนั่นเป็นภาพลวงตา! ผมบ้านหลังนั้น! รถคันนี้ก็ซื้อผ่านเงินกู้! และงานของผมอาจได้ค่าตอบแทนสูง แต่ 10 ปีก็ยังคงไม่เพียงพอสำหรับดาวน์อะไรในเมืองนี้!” เบคเค็ตกัดฟัน “ผมมองไม่เห็นอนาคตของตัวเองและผมเกลียดมัน! เกลียดที่ไม่รู้ว่าชีวิตจะพลิกผันเมื่อไร! แล้วก็คุณ… คุณเป็นตั๋วที่พระเจ้ามอบให้เพื่อให้หลุดพ้นจากเรื่องนี้และผมจะไม่ปล่อยคุณไปง่าย ๆ! คุณไม่รู้เหรอว่าเมืองที่มีกลิ่นเหม็นนี้ไม่ได้ขาดคนขี้โกงอย่างผมเลย ใครกันที่ไม่ดีกว่าหรือแย่กว่ากัน? ผมจะยืนอยู่เหนือฝูงชน
ธัญญ่าเป็นคนอ่อนโยนโดยธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่สามารถโกรธได้ “โอ้ ไม่ คุณไม่ได้ทำสิ่งเลวร้ายที่สุดกับฉัน แต่คุณปฏิเสธที่จะให้เสรีภาพฉันในการลงจากรถที่เหม็นอับคันนี้ไม่ใช่เหรอ? ซึ่งมันถือว่าเป็นการกักขังโดยมิชอบด้วยกฎหมายไหม? ฮะ? แล้วเจ้าหนุ่ม ความจริงที่ว่าคุณข่มขู่ทิฟฟานี่ด้วยการใช้ฉันล่ะ?!”เบคเค็ตเปิดประตูทันที “เอางี้ เราจะแสร้งทำเป็นว่ามันเป็นเรื่องตลกขบขัน ตกลงไหม? แค่โทรหาทิฟฟานี่แล้วบอกเธอว่าคุณโอเค สบายดี ครบ 32 ผมจะส่งคุณกลับทันที ตกลงไหม? แค่แสร้งทำเป็นว่านี่ผมเมาจนเลื้อน โอเค๊?“เถอะนะธัญ.. ผมพยายามที่จะประสบความสำเร็จในเมืองหลวงมาเป็นเวลาสิบปี สิบปี! ผมแค่อารมณ์เสียไปหน่อย โอเคนะ? อย่าเอาผิดผมเลย ได้โปรด!” เขาลดเสียงลงเมื่ออ้างดังนั้น “ถ้าผมลงเอยในคุก ผมจะต้องตายแน่ ๆ อนาคตของผมก็จบลงแล้ว! ได้โปรด พ่อแม่ผม… พ่อแม่ผมยังคงรอผมที่บ้านเกิด รอให้ผมนำชื่อเสียงและความภาคภูมิใจกลับบ้าน แต่ผมก็ยังล้มเหลวกับพวกเขา ผมเลยไม่ได้กลับบ้านมาหลายปีแล้ว…”เมื่อครั้งหนึ่งเราเคยถูกกัดแล้ว ครั้งที่สองเราก็จะเขินอาย ธัญญ่ากลัวว่าจะโดนหลอกอีก เธอจึงถามต่อว่า “แต่ที่ผ่านมาคุณ
ธัญญ่าประหลาดใจเล็กน้อย “คุณไม่ได้อยู่บ้านหรอกเหรอ?”ทิฟฟานี่ตอบอย่างเหม่อลอยว่า “เปล่า ฉันอยู่ที่บ้านแจ็คสัน…”ธัญญ่าตกใจเล็กน้อย “คุณ… กลับไปอยู่กับเขาแล้วเหรอ?”ทิฟฟานี่ไม่สามารถอธิบายตัวเองได้ “โอ้ แก้ไขปัญหาของตัวเองก่อนเถอะ กลับบ้านเลยนะ โทรหาฉันเมื่อเธอถึงบ้านแล้วด้วย! ฉันจะพาเธอไปที่สถานีตำรวจเพื่อปิดคดีเอง”หลังจากที่วางสาย ทิฟฟานี่ก็สังเกตเห็นว่าตอนนี้ยังไม่เจ็ดโมงด้วยซ้ำและเธอก็ค่อนข้างง่วงนอน เธอกลับไปที่เตียงและนอนลงอีกครั้ง เธอต้องการจะนอนต่ออีกสักสิบนาทีโดยถือโทรศัพท์ไว้ในมือ พลางรอโทรศัพท์จากธัญญ่าเมื่อเธอกลับถึงบ้านทันใดนั้น แจ็คสันก็เอามือมาโอบเอวเธอ ในความสะลึมสะลือของเธอ เธอขอให้เขาอย่ามายุ่งกับเธอด้วยการไม่สนใจเขา จากนั้นแจ็คสันก็ขยับมือไปที่หน้าอกของเธอด้วยความเคยชิน เขายังบีบหน้าอกเธอถึงสองครั้งด้วยซ้ำ เธอหันกลับไปมองเขาด้วยความตกใจ เมื่อสังเกตเห็นว่าเขายังหลับอยู่ เธอจึงระงับความรู้สึกที่อยากจะตบเขา เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะขยับมือของเขาออกไปวินาทีถัดมา เขาขยับร่างกายเพื่อมาพิงเธออย่างใกล้ชิดก่อนที่เขาจะโอบกอดเธอแน่น โดยปราศจากความรู้สึกอับอายเขายังใช
เขาก้มศีรษะลงและดูดคอเธออย่างหลงใหล “ถ้าคุณไม่พูดความจริงกับผม ผมจะไม่ปล่อยคุณไป นอกจากนี้… ครั้งนี้ผมจะทำมันอย่างแน่นอน ผมจะนับถึงสิบ ถ้าคุณไม่เริ่มพูดก่อน ผมจะเริ่ม… หนึ่ง สอง สาม…”เมื่อเขานับถึงขวบ ทิฟฟานี่ก็ไม่สามารถรั้งตัวเองไว้ได้อีกต่อไป “ฉันจะพูด! ฉัน… ตอนนี้ฉันไม่มีความรู้สึกกับคุณแล้วจริง ๆ!” เธอโกหกโดยสิ้นเชิง เธอไม่สามารถเปิดเผยความคิดภายในที่น่าขยะแขยงและน่าสมเพชของเธอแก่เขาได้ รวมทั้งความนับถือตนเองที่ต่ำของเธอ ความสิ้นหวังของเธอ...เห็นได้ชัดว่าแจ็คสันไม่เชื่อเธอ เขาเอื้อมมือออกไปและเอาชนะการป้องกันครั้งสุดท้ายของเธอ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ลดร่างกายของเขาลงเธอกรีดร้องและสูดลมหายใจเย็น ๆ เข้าเนื่องจากความเจ็บปวด ถึงกระนั้น… เธอยังคงปฏิเสธที่จะบอกความจริงกับเขา เธอตัดสินใจปล่อยให้มันเป็นไป...เขาใช้กำลังทั้งหมดที่มีกับเธอและสนุกกับทุกช่วงเวลาของมัน เขายังจูบเบา ๆ บนแก้มที่แดงก่ำของเธอด้วย “บอกความจริงมา… บอกผมเดี๋ยวนี้… ทำไม? ถ้าคุณไม่รักผมแล้ว ทำไมร่างกายของคุณถึงตอบสนองต่อสัมผัสของผมแบบนี้ล่ะ? คุณไม่โกหกผมไม่ได้หรอก…”เธออดทนและกัดฟันแต่ยังคงนิ่งเงียบ เขาเริ่มโกรธและ
เมื่อไปถึงที่สถานีตำรวจ พวกเขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการถูกตำรวจดุได้ พวกเขาได้แจ้งความกับตำรวจเมื่อคืนก่อนและตำรวจก็ทำงานหนักตลอดทั้งคืน ทันใดนั้น พวกเขาก็อ้างว่ามันเป็นแค่ความเข้าใจผิด แน่นอนว่าพวกเขาจะถูกดุสำหรับเรื่องนั้นเมื่อพวกเขาปิดคดีและออกจากสถานีตำรวจ ในที่สุดธัญญ่าก็ตัดสินใจที่จะเปิดใจกับทิฟฟานี่ “พี่ทิฟฟานี่ หนูขอโทษ หนูโกหกคุณ อันที่จริง… เบคเค็ตต้องการใช้หนูเพื่อข่มขู่คุณ เขาไม่ได้เมาอะไรเลย แต่หลังจากที่เขารู้ว่าผลที่ตามมาจะเลวร้ายแค่ไหน เขาก็ขอร้องให้หนูปล่อยเขาไป นอกจากนี้ เขาไม่ได้ทำอะไรหนูเลย หนูก็เลยใจอ่อน… หนูแค่รู้สึกว่าเขาคล้ายกับหนู เราเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคนที่ทำงานหนักอย่างขยันขันแข็งในเมืองนี้ เรามองไปข้างหน้าเพื่ออนาคตของเรา แต่ในความเป็นจริงเรากลับต้องทุกข์ทรมานอย่างมาก ชีวิตเราไม่ได้ง่าย ถ้าหนูไม่ยกโทษให้เขา ทั้งชีวิตของเขาจะถูกทำลายโดยการถูกขังอยู่ในคุก หนูขอโทษนะพี่ทิฟฟานี่”ทิฟฟานี่ไม่แปลกใจเลย “เธอคิดว่าพี่โง่เหรอ? พี่ดูออกนานแล้ว แต่พี่มีเรื่องจะขอจากเธอแค่เรื่องเดียว อย่าติดต่อเขาอีกเลย เขาไม่ใช่คนดี นอกจากนี้ หากเธอต้องการมีความสัมพันธ์ที่จริงจัง
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง