มาร์คบังคับตัวเองให้สงบลง “ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น… ผมคิดว่าเธอล้มหรืออะไรประมาณนั้น… มันไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ถ้าไม่มีอะไรใหญ่เกิดขึ้น”หลังการตรวจ แพทย์บอกว่า “มีสัญญาณของการคลอดก่อนกำหนด ตอนนี้คุณต้องระวัง เงื่อนไขเหล่านี้ถูกคาดการณ์ไว้แล้วและยังมีความเสี่ยงที่จะรักษาเด็กคนนี้ไว้ได้ ตอนนี้เธอจะต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อปกป้องทารกในครรภ์ เราจะต้องคอยสังเกตเธอ กรณีที่เลวร้ายที่สุด เธอจะต้องอยู่ในโรงพยาบาลจนคลอด โอกาสในการคลอดก่อนกำหนดมีสูงมาก แต่ตราบใดที่ทารกยังมีชีวิตอยู่จนถึงเดือนที่เจ็ด โอกาสที่ลูกจะรอดก็จะสูงมากเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไปนะ แน่นอนว่ายิ่งเราเก็บทารกในครรภ์ไว้นานเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น”มาร์คได้เตรียมจิตใจไว้สำหรับเรื่องนี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงสงบใจกับเรื่องนี้มาก “ก็ได้ ผมจะจัดการกับขั้นตอนการเข้าโรงพยาบาล ผมต้องการห้องวีไอพีด้วย ผมได้กำหนดมันแล้ว”หมอพยักหน้า “ตกลง เราจะไปเตรียมการที่จำเป็นทั้งหมดให้”แอเรียนรู้สึกหดหู่ใจเมื่อต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างกะทันหัน “ฉันหัวเราะหนักเกินไปหรือเปล่า? ทำไมฉันต้องอยู่โรงพยาบาลด้วย...”“เธอทำให้ฉันตกใจ” ทิ
ทิฟฟานี่เปิดประตูพร้อมกับเครื่องประดับของซัมเมอร์ในมือ เมื่อเธอเห็นแจ็คสัน เธอก็จงใจดึงหน้า “คุณคงอารมณ์ดีสินะถึงได้มาทำธุระให้แม่แบบนี้”เขายกคางขึ้นและจ้องมองไปที่เธอ “ผมบังเอิญมีเวลาว่าง คุณมีปัญหาเหรอ?"เธอยื่นกล่องเครื่องประดับให้เขา “นี่ อันนี้แหละ”เขาเลิกคิ้ว “จะไม่ชวนผมเข้าไปข้างในหน่อยเหรอ? กลัวว่าผมจะพบว่าคุณเปลี่ยนบ้านของคุณให้เป็นถ้ำสุนัขหรือไง?”เขาประสบความสำเร็จในการดึงความโกรธแค้นของเธอออกมา “คุณอยากโดนตบไหมแจ็คสัน เวสต์? อยากเหรอ?"ธัญญ่าได้ยินความโกลาหลและโผล่หัวออกมาจากห้องนอน “ใครเหรอพี่ทิฟฟ์?”“แฟนเก่าของฉันเอง!” ทิฟฟานี่กัดฟันตอบธัญญ่าอ้าปากค้าง "โอ้… โอเค พวกพี่คุยกันเลย ฉันจะกลับไปอ่านหนังสือต่อ ฉันไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น!”แจ็คสันยังคงยั่วยุต่อไปหลังจากที่ธัญญ่าปิดประตูห้องนอน “อ้อ ใช่ ผมลืมไป คุณอยู่กับธัญญ่า คุณจึงทรมานเธอให้ทำความสะอาดที่นี่แทนคุณ คุณไม่ได้ตกลงที่จะออกไปพบอเลฮานโดรในสุดสัปดาห์นี้หรอกเหรอ? เกิดอะไรขึ้น? ยกเลิกแผนของคุณแล้วเหรอ?”ทิฟฟานี่วางมือบนสะโพกของเธอขณะที่เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะว่า “นั่นเป็นเรื่องของคุณเหรอ? การนัดเดทควรเป็
แจ็คสันเดินเข้ามาหาทิฟฟานี่อีกครั้ง “เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ? เรากลับมาคบกันงั้นเหรอ?”เธอเริ่มระวังและถอยกลับ “ฉันแค่ตั้งสมมติฐาน!”เขามองเธออย่างไม่ใส่ใจ “คุณไม่สามารถตั้งสมมติฐานได้ มันจะไม่เป็นพิธีการแต่อย่างใด คุณต้องฟังอย่างจริงจัง เราจะกลับมาคบกันแล้วผมจะเลิกกับคุณ แบบนั้นมากกว่า”เธออดทนกับเขาและพูดอย่างจริงจังว่า “ก็ได้ ตอนนี้เรากลับมาคบกันอย่างเป็นทางการแล้ว ทีนี้ก็ตาคุณเลย”วินาทีถัดมา แจ็คสันก็จูบเธอ เธอตกตะลึง ในไม่ช้าเธอก็ถูกโอบล้อมด้วยกลิ่นที่คุ้นเคยของเขา หัวใจของเธอสั่นไหวและเธอก็น้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อยเช่นกัน หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เธอก็ฟื้นคืนสติและพยายามผลักเขาออกไป แต่เธอถูกเขาโอบกอดไว้แนบแน่นมาก จูบของเขารุนแรงและเร่าร้อน นั่นทำลายการป้องกันของเธอได้อย่างง่ายดายสุดท้ายเขาก็ปล่อยเธอไป เธอจ้องมองเขาทั้งน้ำตาที่คลอเบ้า "คุณกำลังทำอะไรอยู่? คุณกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของฉันเหรอ?”เขาดูจริงจัง "ไม่ เราเพิ่งกลับมาคบกันไม่ใช่เหรอ? มันเป็นแค่การจูบ มันแปลกตรงไหน?”เธอพูดไม่ออก การกลับมาคบกันของพวกเขาควรจะเป็นแค่เรื่องสมมุติ...เธอไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับเขา หลังจา
ธัญญ่ารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย “อย่างนั้นเหรอ? แต่… เขาบอกว่าเขายุ่งอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม เขาจะตอบกลับข้อความของหนูภายในสิบนาทีเสมอ ไม่ว่าหนูจะส่งข้อความถึงเขาช้าแค่ไหน ถ้าเขาไม่สนใจหนู เขาคงไม่ตอบข้อความของหนูอย่างแน่นอน เขาเป็นแบบนั้นเสมอ บางทีเขาอาจจะช้าในการใกล้ชิดกับผู้คน อย่าทำให้หนูหมดความมั่นใจสิ หนูแค่อยากพบเขาและเลี้ยงอาหารเขาเพราะหนูค่อนข้างอยากรู้เกี่ยวกับเขาเฉย ๆ”ทิฟฟานี่รู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมที่จะกีดกันธัญญ่าเมื่อเธอพูดอย่างนั้น ทิฟฟานี่ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้างั้นก็ลองถามเขาโดยตรงเลย ดูสิว่าเขายินดีที่จะพบกับเธอหรือไม่ อย่าตีรอบพุ่มไม้”ธัญญ่าจึงรวบรวมความกล้าและส่งข้อความหาฮัช เขาดูเหมือนจะไม่กระตือรือร้นในการตอบกลับของเขา มันเป็นอย่างที่เธอพูด คำตอบของเขามักจะมาในเวลาประมาณสิบนาที เขาจะไม่ตอบข้อความของเธอภายในไม่กี่วินาที ดูเหมือนว่าเขาเพียงจะตอบข้อความของเธอเมื่อเขาว่างเท่านั้นหลังจากผ่านไปประมาณเก้านาที ฮัชก็ตอบกลับข้อความของธัญญ่า “ทำไมเราต้องมาเจอกันด้วย? ผมไม่คิดว่ามันจำเป็นนะ หากคุณมีอะไรที่ไม่แน่ใจ อย่าลังเลที่จะถามผม ผมจะช่วยชี้แจงข้อสงสัยของคุณ
เมื่อทิฟฟานี่นึกถึงแจ็คสัน เธอก็ปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว “ไม่ ฉันไม่ได้คิดถึงเขา! ฉันจะไปกินข้าวกับคุณ แต่ให้ฉันพูดตรง ๆ กับคุณนะ คุณต้องจ่าย ฉันเป็นแค่พนักงานธรรมดา ๆ ที่ค่อนข้างยากจน ค่าเช่ารายเดือนก็ค่อนข้างแพงด้วย…”อเลฮานโดรยิ้ม “ขึ้นรถเถอะ”ธัญญ่าที่ไม่รู้จักอเลฮานโดรจึงดูกังวลและเก็บตัว ทิฟฟานี่ขอให้เธอไปนั่งที่เบาะหลังกับอเลฮานโดร ธัญญ่าจึงรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากในทางกลับกัน ทิฟฟานี่ไปนั่งบนที่นั่งผู้โดยสารข้างคนขับ คนขับก็คือเจตต์ เธอเคยพบเขาสองสามครั้งแล้ว ดังนั้นเธอจึงทักทายเขาแบบสบาย ๆ "สวัสดี! เจอกันอีกแล้วนะ”เจ็ตต์ยิ้มอย่างสุภาพให้เธอก่อนจะหันกลับไปสนใจท้องถนนและขับรถออกไปอเลฮานโดรไม่ใช่คนช่างพูดและตอนนี้คนอื่น ๆ ก็เช่นกัน ดังนั้นในรถจึงค่อนข้างเงียบ ในที่สุด ทิฟฟานี่ก็เริ่มสงสัย “เราจะไปกินข้าวกันที่ไหนเหรอ? ให้ฉันพูดตรง ๆ กับคุณนะ ฉันชอบตอบแทนน้ำใจของผู้คน ฉันไม่สามารถให้คุณเลี้ยงข้าวฉันได้เสมอหรอก ฉันต้องเลี้ยงข้าวคุณบ้างด้วย ดังนั้น คุณไม่ควรพาฉันไปที่ร้านอาหารหรู ๆ และสั่งอาหารราคาแพง ๆ เพราะคราวหน้าฉันอาจจะไม่สามารถเลี้ยงอาหารประเภทเดียวกันนี้ให้คุณได้ ฉันไม่ชอบ
ธัญญ่ามองลงอย่างเขินอาย “คุณปู่ของฉันเคยชอบทำสวน ฉันได้เรียนรู้เคล็ดลับบางอย่างในขณะที่ทำสวนกับเขาในอดีต”อเลฮานโดรไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็นคนที่ดูแลดอกไม้นั้น เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เมื่อดอกไม้บาน ผมจะบอกความลับให้คุณฟัง”ทิฟฟานี่พูดติดตลก “หมายความว่าฉันจะไม่รู้ว่าความลับนั้นคืออะไรถ้าดอกไม้นั้นตายเหรอ?”อเลฮานโดรไม่ตอบ เขาหยิบแก้วน้ำที่เจตต์ส่งมาให้เขาแล้วจิบเล็กน้อยในระหว่างมื้ออาหาร ทิฟฟานี่ก็เงยหน้าขึ้นมองโดยไม่รู้ตัวและเหลือบมองที่ประตูร้านเป็นครั้งคราว เพราะเธอกลัวว่าแจ็คสันจะปรากฏตัวที่นั่นกะทันหันเธอยังคงกังวลโดยไม่รู้ตัวว่าแจ็คสันอาจจะเข้าใจเธอผิดแม้ว่าเธอจะเลิกกับเขาแล้วก็ตาม เธอกังวลว่าเขาอาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอเลฮานโดรโดยคิดว่าอาจมีบางสิ่งที่ผิดปกติระหว่างพวกเขา…มันเป็นจุดอ่อนของเธอ เธอมองโลกเป็นสีขาวดำเสมอและเธอไม่อยากถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ ด้วยทันใดนั้นอเลฮานโดรก็พูดขึ้นว่า “อย่ามองที่ประตูอีกเลย แจ็คสันจะไม่มาที่นี่หรอก เขาอยู่ที่ร้านซีโร่ ดีกรีซ์กับผู้หญิงคนอื่น”ทิฟฟานี่ชะงักเล็กน้อย เธอรู้ว่าสถานที่เช่น ซีโร่ ดีกรีซ์คืออะไร มัน
อเลฮานโดรและเจตต์ไม่ได้จากไปนานเมื่อทิฟฟานี่และธัญญ่าตัดสินใจกลับไปเช่นกัน นอกจากนี้อเลฮานโดรได้จ่ายเงินเพื่อให้พวกเขาได้เพลิดเพลินกับอาหารโดยไม่ต้องกังวล พวกเขาค่อนข้างอิ่มเมื่อลุกขึ้นจากไปพวกเขามองหน้ากันและยิ้มพร้อมกัน ธัญญ่าจับเอวของทิฟฟานี่และกระซิบว่า “อาหารที่นี่อร่อยจริง ๆ ไม่ว่าคุณเวสต์จะส่งวัตถุดิบมาเท่าไหร่เราก็ยังคงทำอาหารอร่อย ๆ แบบนี้ไม่ได้… ตอนนี้หนูอิ่มมากจนมันค่อนข้างน่าละอาย แล้วคุณไม่เสียใจที่เลิกกับแจ็คสันเลยเหรอ? เขาทำอาหารเก่งนะ”ทิฟฟานี่พูดอย่างหมดความอดทน “ฉันต้องการผู้ชาย ไม่ใช่เชฟ ฉันจะทนถูกเขานอกใจเมื่อเห็นเขาจูบผู้หญิงคนอื่นได้อย่างไร? หากเป็นกรณีนี้ ฉันเต็มใจที่จะละทิ้งของอร่อย ๆ พวกนั้น! มีความนับถือตนเองหน่อยสิ! มา! กลับบ้านไปพักผ่อนกันเถอะ!”ธัญญ่าขมวดคิ้วทันที “ไม่ หนูต้องไปห้องน้ำก่อน หนูไม่สามารถอั้นมันอีกต่อไป หนูจะฝากกระเป๋าและโทรศัพท์ไว้กับคุณนะ ช่วยดูมันให้หนูและรอหนูที่นี่นะ”ทิฟฟานี่พยักหน้าและนั่งลงอีกครั้งทันใดนั้น เธอก็เห็นร่างที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นที่ประตูจากหางตาของเธอ ในไม่ช้าเธอก็รู้สึกราวกับว่าเธอถูกฟ้าผ่า เธออุทานในใจว่า 'แจ็คสัน! เ
ทิฟฟานี่หน้าเสียทันที “คุณ… คุณทำแบบนั้นได้อย่างไร?! นั่นไม่ใช่โทรศัพธ์ฉันนะ!” ตอนนี้เองที่แจ็คสันตระหนักได้ว่าจริง ๆ แล้วนั่นไม่ใช่โทรศัพธ์ของเธอ ถึงแม้ว่ามันจะสีเดียวกันกับของเธอก็ตาม...ธัญญ่าเดินออกมาจากห้องน้ำและกลับมานั่งที่ เธอตกตะลึงมากเมื่อเห้นแจ็คสัน “พี่แจ็คสัน… คุณมาทำอะไรที่นี่?”ทิฟฟานี่จ้องแจ็คสันตาเขม็งก่อนที่เธอจะคืนโทรศัพธ์ให้ธัญญ่า “นี่ โทรศัพธ์เธอ แสงจันทร์สีขาวเพิ่งส่งข้อความมาให้เธอเมื่อกี้… มัน… ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันนะ!”แจ็คสันเลิกคิ้วขึ้นเบา ๆ เขาตัดสินใจที่จะเผ่นหนีออกจากสถานการณ์นี้ “ผมมาเอาของบางอย่าง ผมจะกลับแล้วล่ะ พวกคุณตามสบายเลยนะ!”ธัญญ่ามองดูข้อความที่ฮัชส่งมาและคำตอบที่ถูกส่งไป สีหน้าของเธอเสียเล็กน้อย ทิฟฟานี่ตื่นตระหนกมากจนตัวเธอเหงื่อเย็นอาบซม ปกติธัญญ่าจะนิสัยดีเสมอและมักจะไม่ค่อยโกรธใคร แต่นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงค่อนข้างน่ากลัวหากเธอจะโกรธเคือง“คือ… แจ็คสันเข้าใจผิดว่านั่นเป็นโทรศัพธ์ฉัน เขาเลย… ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันจะอธิบายให้ฮัชเอง!”ธัญญ่าเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างเหม่อ ๆ “ไม่… เป็นไร หนูเปลี่ยนใจว่าจะไม่ไปพบเข้าแล้ว หนูไม่คิดว่าอยู่ ๆ เข
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง