ธัญญ่าไม่กล้าส่งเสียง เธอกินมากที่สุดในหมู่คนที่ร้าน ทุกคนกินเพียงกล่องเดียว แต่เธอกินสองกล่องทุกมื้อ…แจ็คสันนั่งลงอย่างเชื่อฟัง ขณะที่ทิฟฟานี่เอื้อมมือของเธอเพื่อเอาอาหารให้เขา เขาก็ถอยออกห่างราวกับกำลังพยายามจะหลบการโจมตีอย่างหนักซึ่งทำให้ทุกคนตะลึงทิฟฟานี่ตกใจเหมือนกัน "คุณกำลังทำอะไร? คุณกำลังทำให้ดูเหมือนว่าฉันทุบตีคุณตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้ว่าคุณต่อสู้ได้ดีแค่ไหน คุณกำลังพยายามทำให้ชื่อเสียงของฉันเสื่อมเสียหรือไง?”แจ็คสันพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมจะไม่มีวันทำอะไรคุณไม่ว่าผมจะต่อสู้เก่งแค่ไหน ต่อให้คุณตีผม ผมก็ไม่กล้าตอบโต้หรอก… ยังไงคุณก็ทุบตีผมเสมอ เมื่อคืนคุณยังถีบผมเลย...”แอเรียนสำลักและไออยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะหายเป็นปกติ “พอได้แล้วทั้งสองคนเลย นี่ไม่ใช่การทะเลาะกัน นี่มันโคตรคลั่งรักเลย เข้าใจไหม? เอาล่ะ ทิฟฟ์ ตอนบ่ายไม่ต้องทำงานนะ อยากทำอะไรก็ไปทำเถอะ เราไม่สามารถรับมื้อกับสิ่งนี้ได้”นายา ธัญญ่า และพนักงานใหม่อีกคนพยักหน้าเห็นด้วย วันนี้พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังดูละครอยู่ หัวใจของพวกเขาไม่สามารถรับมันได้หลังอาหารกลางวัน แจ็คสันดึงทิฟฟานี่ออกไป วิธีที่ดีที่สุดในกา
เมื่อแจ็คสันเอนกายลงบนเธอ ทิฟฟานี่เบิกตากว้าง เธอไม่สามารถระงับความกลัวของเธอได้อีกต่อไป “อย่าแตะต้องตัวฉัน!”แจ็คสันจึงหยุดการเคลื่อนไหวของเขาในขณะนั้น “เป็นอะไรเหรอ?”เธอไม่กล้าแสดงความกลัวออกมา มันน่าสมเพชและน่าขยะแขยง เธอไม่สามารถบังคับตัวเองให้ลืมอดีตได้ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เริ่มน้ำตาคลอเบ้า เธอขอร้องเขา “ได้โปรด… อย่า? ฉัน… ฉันขอร้อง…”เนื่องจากแจ็คสันอยู่ในอารมณ์ จึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะระงับความปรารถนาของตนเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นความกลัวบนใบหน้าของเธอ เขาจับใบหน้าของเธอและวางหน้าผากของเขาบนหน้าผากของเธอ เขามองเธออย่างอ่อนโยนและพูดด้วยน้ำเสียงที่เกลี้ยกล่อมว่า “มองผมสิ ผม แจ็คสัน ไง ความพ่ายแพ้แบบนั้นจะไม่สามารถเอาชนะคุณได้ ไม่มีใครสนใจเรื่องนั้น มันเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้คุณอยู่กับผมแล้ว ผมเป็นผู้ชายของคุณไง ผมคือคนที่รักคุณ มองผมสิ…”เธอฟังเขา เธอมองเขาผ่านดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตา เธอค่อย ๆ สงบลงก่อนที่จะกอดคอเขาด้วยความรู้สึกเจ็บปวดนี่เป็นครั้งแรกที่ทิฟฟานี่ทำมันอย่างจริงจัง เธอจะทนไม่ทำแบบนั้นกับแจ็คสันได้อย่างไรในเมื่อเขามีประสบการณ์กว่าเธอมาก?ในทาง
ทิฟฟานี่ถอนหายใจ “ไม่ ฉันอารมณ์ไม่ดีจริง ๆ แม่ของเขามาร่วมรับประทานอาหารค่ำกับเรา และสายตาของเขาก็เหมือนกับใบมีดที่ไม่ยอมเลิกทิ่มหน้าฉันสักที จนฉันกินไม่ลง ดังนั้นฉันจึงแทบไม่ได้กินอะไรเลย ระหว่างทางไปทานอาหารเย็น แม่ของเขาถึงกับบอกว่าเธอไม่ต้องการให้เขามาที่นี่อีกและขอให้เขาให้ความสำคัญกับบริษัทมากขึ้น เธอคิดว่าฉันกำลังรั้งแจ็คสันไว้หรือเปล่า? แม่ของเขาต้องเกลียดฉันมากยิ่งขึ้นไปอีกแน่เลย”ตอนนั้นแอเรียนไม่ได้อยู่ด้วยเธอจึงไม่สามารถคาดเดาความคิดของซัมเมอร์ได้ เธอทำได้เพียงปลอบทิฟฟานี่ “เลิกคิดมากน้า อย่าทำให้ตัวเองสับสน หัวเธอไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อไขปัญหาที่ซับซ้อน ไว้ค่อยคุยกับแจ็คสันก็ได้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแม่ของเขาต้องการให้เธอกลับไปที่เมืองหลวง? เราคุยกันเรื่องนี้แล้ว เธอควรจะพิจารณามัน”ทิฟฟานี่ชะงัก “ฉันจะไม่กลับไป เธอจะต้องอยู่คนเดียวถ้าฉันจากไป แอริ ฉันจะไม่ทอดทิ้งเธอ ฉันเคยพูดไว้แล้วเหมือนกัน ฉันจะไม่กลับไปจนกว่าเธอจะกลับไปกับฉัน ฉันไม่คิดว่ามาร์คจะปล่อยเธอไปง่าย ๆ ขนาดนี้ แต่มันนานมากแล้ว ทำไมเขาไม่ลงมือทำอะไรสักที?”แอเรียนขมวดคิ้วเมื่อทิฟฟานี่พูดถึงมาร์ค “ทิฟฟ์ หยุดพูด
หัวใจของทิฟฟานี่ได้เอียงไปข้างหนึ่งแล้ว เธอจริงจังกับความสัมพันธ์ของเธอเสมอ ด้วยเหตุนี้ ก่อนหน้านี้เธอจึงลังเลและไม่สามารถลืมอีธานได้ ตอนนี้เธอคบกับแจ็คสันแล้ว เธอรู้ว่าจะต้องเผชิญอะไร เมื่อถึงเวลาจะต้องจากไป เธอก็จะต้องไปเธอไม่ได้บอกแอเรียนว่ามาร์คกำลังมาหาเธอ ท้ายที่สุด เธอสามารถจากไปโดยไม่ต้องกังวลอะไรมากเพราะเธอรู้ว่ามาร์คกำลังจะมาในไม่ช้านี้ “ถ้าอย่างนั้น… ฉันจะไป? ฉันจะอยู่เป็นเวลาครึ่งเดือนและสอนธัญญ่าทำเครื่องดื่มเพื่อที่เธอจะได้เข้ารับตำแหน่งแทนฉันในอนาคต ร้านเป็นของเธอแล้ว ฉันจะมาเยี่ยมเธอบ่อย ๆ เธอต้องสัญญาว่าจะคิดถึงฉัน”แอเรียนรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นทิฟฟานี่ยอมจำนน แม้ว่าจะมีร่องรอยของความไม่เต็มใจก็ตาม “ดีแล้วที่เธอคิดได้ ฉันกลัวว่าเธอจะอยู่ที่นี่เพื่ออยู่เป็นเพื่อนฉัน แบบนั้นแจ็คสันจะเกลียดฉันจนตายแน่ ๆ โอเค เลิกขี้แยได้แล้ว กลับบ้าน อาบน้ำและนอนกันเถอะ ฉันจะตายจากความเหนื่อยล้าอยู่แล้ว”ทิฟฟานี่ปาดน้ำตาแล้วปล่อยแอเรียน “โอเค กลับบ้านกันเถอะ แต่…"แอเรียนมองมาที่เธอ "อะไร? แต่อะไร?"อารมณ์ของทิฟฟานี่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เธอพูดด้วยน้ำเสียงเขินอายเล็กน้อยว่า “ถ้าฉันรู
ก่อนที่นายาจะทันได้พูด ลูกค้ารายนั้นก็ยิ้ม “แอเรียน ฉันไม่นึกเลยว่าเธอจะทำงานในสถานที่แบบนี้ พี่มาร์คที่รักไม่ต้องการเธอแล้วเหรอ? ช่างน่ายินดี! ฉันไม่ได้บอกเธอเหรอว่าเธอจะไม่จบลงอย่างมีความสุขน่ะ”สีหน้าของแอเรียนมืดลง เธอไม่คิดว่าจะได้เห็นแอรี่ที่นี่ “แอรี่ ระวังคำพูดของเธอด้วย ฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เจอเธอที่นี่เช่นกัน เธอไม่สามารถอยู่รอดในเมืองหลวงใช่ไหมล่ะ? ถ้าอยากกินก็กิน ไม่อยากกินก็ออกไปซะ ฉันไม่ต้องการให้บริการเธอ”นี่เป็นครั้งแรกที่นายาได้เห็นด้านที่โหดร้ายของแอเรียน เธอรู้สึกพึงพอใจอย่างมากเมื่อความโกรธของเธอถูกระบายออกไป “นี่คือเจ้านายของเรา พวกเราเป็นพนักงาน”แอรี่ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับแอรียนเพียงเพราะเธอเป็นเจ้าของร้านขายของหวาน “ฉันได้ยินมาว่าร้านขนมที่นี่ไม่เลวเลยเพราะขนมที่นี้มีรสชาติเหมือนฝีมือของเชฟมืออาชีพ ฉันสงสัยว่าจะเป็นใคร แต่ตอนนี้หลังจากที่ได้เห็นเจ้าของร้าน ฉันรู้เลยว่ามันไม่มีอะไรนอกจากกลลวง แม้ว่าเธอจะไม่ใช่พนักงาน เธอก็เป็นแค่เจ้าของร้านขนม มันเป็นเรื่องใหญ่ตรงไหน? ฉันมาที่นี่เพื่อพักผ่อน ฉันจะเป็นเหมือนเธอได้อย่างไร? แอเรียน บอกฉันเร็ว ๆ สิ ว่าเธอถูกไล่
ความโกลาหลปลุกทิฟฟานี่จากการงีบหลับยามบ่ายของเธอเมื่อทิฟฟานี่ออกมาและเห็นสีหน้าของแอเรียนและแอรี่ เธอก็รู้ว่าทุกอย่างถูกเปิดเผยแล้ว “แอริ…”ริมฝีปากของแอเรียนขยับ แต่ไม่มีคำพูดใดออกจากปากของเธอ ดวงตาของเธอดูราวกับว่าพวกเขาจะเจาะรูเข้าไปในแอรี่ซึ่งนอนอยู่บนพื้น แอเรียนกัดริมฝีปากตัวเองก่อนที่จะรวบรวมกำลังทั้งหมดเพื่อเตะแอรี่ให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ "ตายซะ! ทำไมเธอถึงไม่ไปฆ่าตัวตาย? เธอไม่มีอะไรดีนอกจากสร้างแต่ปัญหาถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้! เธอฆ่าลูก ๆ ของฉัน และทำร้ายทิฟฟ์ ฉันไม่น่าทนกับเธอนานขนาดนี้!”ธัญญ่าและนายาที่ได้ยินคำพูดของแอรี่ก็เตะแอรี่เช่นกันทิฟฟานี่ตะโกนออกมาพลางดึงแอเรียนที่ดูเหมือนจะบ้าระห่ำ “แอริ อย่าเป็นแบบนี้! พอแล้ว! เธอจะฆ่าเขา! แจ็คสันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน และเขาไม่สนใจ ฉันมีชีวิตที่ดี ฉันสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ ฉันโอเคจริง ๆ อย่าเป็นแบบนี้เพื่อฉันนะ…”น้ำตาของแอเรียนไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ “ฉันอยากจะฆ่ามัน…” นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่ามีเจตนาฆ่าที่รุนแรงต่อใครบางคน ความเกลียดชังที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเธอถูกกระตุ้นในขณะนี้ เธออาจไม่สามารถฆ่ามดได้ เธ
วันรุ่งขึ้น ร้านขนมเปิดตามปกติตามคำขอของทิฟฟานี่ เธอทำให้ทุกคนลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน รวมทั้งแอเรียนด้วย แต่แอเรียนยังค่อนข้างนอย และไม่มีแรงจูงใจในการเตรียมขนมหวานเหมือนเช่นเคยประมาณสิบโมงเช้า ฌองบุกเข้าไปในร้านอย่างโกรธเคืองกับแอรี่ เมื่อเห็นว่ายังมีลูกค้าคนอื่น ๆ อยู่ในร้าน นายาจึงรักษาความสุภาพ “ให้เราช่วยอะไรไหมคะ?”ฌองดึงแอรี่ที่ได้รับบาดเจ็บไปทั่วร่างกายมาด้านหน้า “พวกคุณทั้งหมดตีลูกสาวผมเหรอ? ทำร้ายเธอคนเดียวทั้ง ๆ ที่พวกคุณอยู่กันเป็นกลุ่ม ผมจะโทรแจ้งตำรวจ!”นายาขมวดคิ้ว “ทำไมคุณไม่ถามลูกสาวของคุณว่าเธอทำอะไร?”“เธอมีหลักฐานเหรอ?” แอรี่ยิ้มเยาะเย้ยนายาพูดไม่ออกเพราะความโกรธของเธอ “เลิกยุ่งกับที่นี่ได้แล้ว!”ฌองคิดแต่จะล้างแค้นให้ลูกสาวในขณะที่เขาประกาศให้ลูกค้าของร้านฟังว่า “นี่เป็นร้านของอันธพาล ลูกสาวของผมมาที่นี่เพื่อซื้อของหวานเมื่อวานนี้และถูกพวกเขาทุบตี พวกเขาถึงขั้นปิดร้านทุบตีเธอ พวกเธอกล้าดียังไงมาอุดหนุนร้านแบบนี้?”ลูกค้าดูพ่อลูกคู่นี้เหมือนดูละคร เนื่องจากพวกเขาเป็นลูกค้าประจำของร้าน ส่วนใหญ่จึงไม่สงสัยในบนิสัยของแอเรียนและลูกจ้างของเธอฌองหน้าแดงด้ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฌองอยู่เบื้องหลังสิ่งนี้ ปมของเรื่องคือมันเกิดขึ้นเร็วมาก ต่างจากที่ก่อนหน้านี้พวกเขาจับเรจิน่าได้ง่ายดาย แต่ครั้งนี้พวกเขาไม่มีหลักฐานว่านี่เป็นการกระทำของฌอง!หลังจากที่พวกเขาอารมณ์สงบลงแล้ว แอเรียนก็โทรหาเฮเลน สายนั้นดังอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะถูกเชื่อมต่อ เสียงง่วงนอนของเฮเลนดังขึ้นจากปลายสาย “แอเรียน? เกิดอะไรขึ้น? นี่มันดึกมากแล้ว มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”เมื่อมองดูความโกลาหลในร้านของเธอ แอเรียนกล่าวว่า “แอรี่มาสร้างปัญหาในร้านของฉัน และฉันก็ทุบตีเธอ เธอพาพ่อของเธอมาที่นี่เพื่อเอาคืนฉันในวันนี้ แต่ฉันไล่พวกเขาออกไปด้วยคำพูดไม่กี่คำ ก่อนที่ฌองจะจากไป เขาขู่ฉันโดยขอให้ฉันรอดู คืนนี้... อันที่จริง มันเพิ่งเกิดขึ้น คนกลุ่มหนึ่งมาทำลายประตูและผนังร้านของฉัน คุณคิดว่าใครเป็นคนทำ?”เฮเลนตื่นขึ้นทันที "ลูกว่าพูดอะไรนะ?! ฌองทำแบบนั้นได้ยังไง?”แอเรียนตอบนิ่ง ๆ “เขาเป็นผู้ชายคนที่คุณเลือก คุณควรจะรู้ไม่ใช่เหรอว่าเขาเป็นคนอย่างไร? ผู้หญิงชอบผู้ชายเลว ๆ แย่จังที่พ่อของฉันเป็นสุภาพบุรุษและไม่ใช่อันธพาลอย่างฌอง ฉันหวังว่าคุณจะจัดการเรื่องนี้ให้จบสักที นั่นคืออดีตสามีและลูก
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง