อีธาน เขาไม่เพียงแต่เป็นต้นเหตุที่อยู่เบื้องหลังการล้มละลายของครอบครัวเธอและการจากไปของพ่อของเธอในช่วงแรกเท่านั้น แต่ตอนนี้ เพราะเขา เธอจึงถูกลดสถานะลงเช่นนี้! ตอนแรกเธอคิดว่าแอรี่อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง แต่ตอนนี้เธอก็นึกได้ว่าครอบครัวของแอรี่ก็ล้มละลายเช่นกัน เธอคงไม่มีเงินจ่ายสำหรับสิ่งนี้ มันเป็นอีธานมาตลอด!เพียะ!เสียงตบดังเพี๊ยะ แอรี่จ้องไปที่ชายตรงหน้าเธอด้วยความประหลาดใจ “คุณตบฉันทำไม?”เธอถูกตบอีกครั้ง หน้าอกของชายผู้นั้นเพิ่มขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็วจากความโกรธที่รุนแรงของเขาแอรี่กลัวเกินกว่าจะพูดในตอนนี้ “เธอทำอะไรเขา?” ชายคนนั้นถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมแอรี่หลบสายตาของเขา เธอจับแก้มของเธอขณะที่เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่เงียบงันว่า “ฉันไม่ได้ทำ… พวกมันต่างหาก… เมื่อฉันมาถึงพวกมันก็เริ่มแล้ว นั่นไม่ใช่ส่วนหนึ่งของคำสั่งของคุณเหรอ? ภาพที่คุณให้มาไม่ชัดเจนพอ พวกมันจับผู้หญิงมาผิดคนเพราะพวกมันไม่ได้เห็นใบหน้าของแอเรียนอย่างชัดเจน”น้ำเสียงของชายผู้นั้นเย็นชายิ่งขึ้นไปอีก “เธอกำลังจะบอกว่าฉันผิดเหรอ? ได้เลย แอรี่ อย่าบอกว่าฉันไม่เคยให้โอกาสเธอนะ เธอเป็นคนที่ปล่อยให้มันหลุดมือไป” จ
เธอกดกริ่งที่ประตูต่อไปประมาณห้านาทีก่อนที่ในที่สุดประตูจะถูกเปิด แจ็คสันที่อยู่ในชุดนอนจ้องมาที่เธออย่างง่วง ๆ “คุณมาทำอะไรที่นี่?”เธอตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ทิฟฟ์… ทิฟฟ์ออกไปซื้อเบียร์แต่ยังไม่กลับบ้าน ฉันตามหามานานมากแล้วแต่ไม่พบเธอเลย… มันผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว; ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมาที่นี่…”ความง่วงนอนของแจ็คสันหายไปทันทีเมื่อได้ยินว่าทิฟฟานี่หายตัวไป “รอตรงนี้นะ ผมจะไปคว้ากุญแจรถ!”ทั้งคู่ขับรถไปรอบ ๆ ถนนใกล้ ๆ บ้านของทิฟฟานี่สองสามครั้ง จนกระทั่งท้องฟ้าค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นแสงแดด “โทรแจ้งตำรวจ” ในที่สุดแจ็คสันก็แนะนำแอเรียนกำลังเบิกตากว้าง แจ็คสันตระหนักด้วยว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? บอกผมมาให้หมด"เธออธิบายเรื่องนี้อย่างละเอียด แจ็คสันเบ้ปากและเงียบไป เขารู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าแอเรียนจะค้นพบเมื่อพวกเขาลงจอดจากซานย่า ตอนนี้สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการตามหาทิฟฟานี่ เขาดึงโทรศัพท์ออกมาแล้วกด 911 อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะทันได้กดโทรหาเบอร์นั้น ข้อความจากมาร์คก็โผล่มาแจ้งเตือนบนหน้าจอของเขา: อีธานจับทิฟ
แอเรียนทำอะไรไม่ถูก เธอออกจาก คฤหาสน์ เทรมอนต์อย่างกะทันหันและตอนนี้ก็ไม่แน่ใจว่าจะไปที่ไหนดี “ฉัน… ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี… ไปส่งฉันที่โรงแรมก็ได้ ฉันจะไปเอากระเป๋าสัมภาระของฉันจากบ้านทิฟฟานี่และพักที่โรงแรมชั่วคราว”แจ็คสันเม้มปากแน่น เขาหยุดคิดแล้วแนะนำว่า “ไปอยู่บ้านผมก่อน การเข้าพักในโรงแรมด้วยตัวเองอาจมีความเสี่ยง แบบนี้มันก็ดูไม่ค่อยเหมาะสมนัก แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์มันก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดที่เรามีในตอนนี้”เธอพยักหน้า ในเวลาแบบนี้เธอไม่ต้องการสร้างปัญหาให้แจ็คสันอีกต่อไป ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอในโรงแรม แจ็คสันก็จะต้องเป็นห่วงเธอเช่นกันใน คฤหาสน์ เทรมอนต์ มาร์คยืนอยู่หน้าหน้าต่างฝรั่งเศสในห้องนั่งเล่นพลางมองดูแอเรียนขณะที่เธอเดินตามแจ็คสันเข้าไปในรถของเขาแล้วหายไปจากสายตา สายตาของเขาจ้องมองเป็นเวลานาน ในเวลาแบบนี้ เขาเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้เธอ…หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งข้อความถึงแจ็คสัน: ดูแลเธอแทนฉันด้วยทันใดนั้น ก็มีบางสิ่งที่นุ่มและขนฟูมาแตะขาของเขา เขาก้มศีรษะลง มันคือข้าวปั้นที่ถูขากางเกงของเขาพลางอ้อนเพื่อความโปรดปรา
หญิงวัยกลางคนคนนึงรีบเข้ามาหยิบชามนั้น อีธานยกแขนขึ้นเพื่อลูบหลังทิฟฟานี่ แต่เขาก็วางมันลงอีกครั้งและย้ายกล่องทิชชู่ไปยังที่ที่เธอเอื้อมถึง “นั่นคือมาเรีย ต่อจากนี้ไปเขาจะดูแลความต้องการในชีวิตประจำวันของเธอ ดังนั้นเธอแค่บอกเขาว่าอยากกินอะไร”ในตอนนี้ทิฟฟานี่ไม่ได้มีความอยากอาหารเลย มันจึงเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอที่จะค่อนข้างหงุดหงิด เธอเพิกเฉยต่อคำพูดของอีธานและเพียงสวดอ้อนวอนขอให้เขาจากไปในไม่ช้า เธอไม่อยากเจอเขาหรือผู้ชายคนไหนในตอนนี้!เมื่ออีธานมาพบเธอในวันรุ่งขึ้น เธอก็ขอคุยกับแอเรียน ท้ายที่สุดแอเรียนจะต้องตื่นตระหนกจากการหายตัวไปของเธอแน่นอน ในเมื่อเธอยังต้องอยู่ที่นี่อีกประมาณสองสัปดาห์ เธอจึงไม่อยากทำให้คนอื่นเป็นห่วงอีธานดูเหมือนเขาเพิ่งจะรีบมาที่นี่ หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อขณะที่เขาถอดเสื้อสูทออกแล้วพาดมันไว้บนขอบเตียง “ฉันได้ติดต่อและแจ้งพวกเขาว่าเธออยู่กับฉันแล้ว ฉันนำหนังสือมาให้เธอด้วย เดี๋ยวมาเรียจะเอามาให้เธอในภายหลัง เธอสามารถอ่านมันได้หากเธอเบื่อ ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบอ่าน ฉันจึงนำหนังสือที่น่าสนใจมาให้ ฉันยังมีบางเรื่องที่ต้องจัดการ แต่ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอตั้งแ
เธอส่ายหัวอย่างสิ้นหวังขณะที่น้ำตาร่วงจากหางตาและซึมเข้าไปในผ้าปูที่นอน “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน… อย่ามาแตะตัวฉัน!”อีธานจับหน้าเธอให้เงยหน้าขึ้นและบังคับให้เธอมองมาที่เขา “เราควรจะทำมันตั้งนานแล้ว เราชดเชยสิ่งที่เราพลาดไปในอดีตของเราได้ไหม? หลังจากครึ่งเดือน ฉันจะปล่อยเธอไปถ้าเธอต้องการที่จะไป ถ้าเธอเลือกที่จะอยู่ เราจะแต่งงานกัน ฉันจะไม่บังคับเธอ แต่ความอดทนของฉันก็มีขีดจำกัด ฉันรู้ว่าเหตุการณ์นี้ทำให้เธอบอบช้ำมาก แต่เธอต้องเอาชนะความกลัวให้ได้ ฉันกำลังช่วยเธออยู่!”ในสายตาของทิฟฟานี่ อีธานเป็นคนบ้าอย่างไม่ต้องสงสัย เขาเป็นคนจัดการเรื่องบ้าเหล่านั้นซึ่งทำให้เธอชอกช้ำอย่างมากด้วยตัวเอง และตอนนี้เขาต้องการทำสิ่งเดียวกันกับเธอเพื่อชดเชยเรื่องในอดีต ไม่เพียงเท่านั้น เขายังต้องการให้เธออยู่และแต่งงานกับเขา เขาเป็นคนที่กำลังสูญเสียสติของเขาหรือเธอ?เธอพึมพำทั้งน้ำตา “ฉันไม่ได้ชอกช้ำ… ฉันไม่มีความกลัวที่จะต้องเอาชนะ และฉันก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนายด้วย! ฉันสัญญาอะไรก็ได้ที่นายต้องการ ตราบใดที่นายไม่แตะต้องตัวฉัน! แค่ครึ่งเดือน… ครึ่งเดือนก็เพียงพอแล้ว… ปล่อยฉันไป… อีธาน… อย่าทำให้ฉันรู้
เมื่อมาเรียรับงานนี้ เธอรู้อยู่แล้วว่ามันจะไม่ง่าย ดังนั้นเธอจึงได้เตรียมใจให้พร้อมตั้งแต่ต้น เธอเริ่มทำความสะอาดบ้านทันทีอีธานรู้ว่าเขาควรจะออกไปด้วย เขาไม่คิดว่าพวกเขาจะตามเจอสถานที่นี้เร็วขนาดนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถพาทิฟฟานี่ไปด้วยได้ ถึงกระนั้น บางทีพวกเขาทั้งสองก็ต้องใช้เวลาห่างกันเพื่อคลายความตึงเครียดระหว่างพวกเขาเขาไปที่ห้องนอนและลังเลที่ประตูครู่หนึ่งก่อนจะผลักมันออก ทิฟฟานี่ดูเหมือนจะหลับอยู่ในห้องนอน แต่จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้หลับ กลโกงเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ไม่สามารถหลอกเขาได้ เขารู้ว่าจริง ๆ แล้วเธอแค่ไม่อยากเจอหน้าเขา ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เปิดโปงเธอ อีธานไปที่เตียงและกระซิบว่า “ฉันมีวิดีโอ ฉันเชื่อว่าเธอรู้ว่าเธอควรหรือไม่ควรทำอะไรเมื่อเธอออกจากที่นี่” หลังจากพูดจบ เขาก็จ้องไปที่เธออย่างลึกซึ้งแล้วหันหลังกลับและปิดประตูมาเรียทำความสะอาดทุกจุดที่อาจมีรอยนิ้วมือ และกำจัดขนทุกเส้นในบ้าน เมื่อทำความสะอาดเสร็จ เธอก็หอบเหนื่อยอย่างหนัก “คุณชาย ฉันทำความสะอาดเสร็จแล้ว เราไปกันได้”อีธานสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ “ไปกันเถอะ”เมื่อแจ็กสันมาถึงพร้อมกับคนของเขา เพลน เมาน์เท็น ครีก วิลล่า
ทิฟฟานี่พยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำ เธอถอดชุดนอนผ้าไหมสีดำออกแล้วโยนมันลงในถังขยะด้วยท่าทางรังเกียจ เธอไม่สามารถรักษารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอได้อีกต่อไป เธอสามารถแสดงความโศกเศร้าและปล่อยให้น้ำตาของเธอไหลอย่างอิสระเมื่อเธออยู่คนเดียวเท่านั้นเธอขัดผิวจนผิวเธอเริ่มแดงก่อนที่จะใส่ชุดนอนแล้วเข้าไปนอนในห้องรับแขก แอเรียนปิดไฟแล้วเข้าไปกอดเธอ “ทิฟฟ์ ฉันเห็นรอยฟกช้ำบนตัวเธอ อีธานตีเธอเหรอ? เธอไม่ต้องบอกฉันถ้าเธอไม่สะดวก ทุกอย่างมันจบลงแล้ว”ในความมืดมิดนั้นทิฟฟานี่กำลังกลั้นน้ำตาไว้อย่างสิ้นหวัง “ฉันไม่มีอะไรให้พูดมากนัก… เพราะ… มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ อีธานแค่อารมณ์เสียเพราะฉันทิ้งเขาและต้องการแก้แค้นฉัน ถ้าพวกเธอหาฉันไม่เจอ เขาจะปล่อยฉันไปในอีกไม่กี่วัน ฉันเหนื่อยจะตายแล้ว นอนเถอะ”แอเรียนแทบจะไม่ได้นอนเลยในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา หลังจากเธอฮัมเสียงตอบกลับ เธอก็ผล็อยหลับไปแทบจะทันทีทิฟฟานี่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพึมพัมกับตัวเอง “ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้โกหกตอนที่บอกฉันว่าครั้งแรกจะเจ็บเหมือนตกนรก…”แอเรียนยังไม่ได้หลับลึกขนาดนั้น แต่เธอได้ยินไม่ชัดเช่นกัน “หืม…?”
“แจ็คสัน…?” แอรี่ตะลึงเล็กน้อย ในเวลาเดียวกัน เธอยังสงสัยเกี่ยวกับจุดประสงค์ของการมาเยี่ยมของเขาอย่างกะทันหัน นอกจากมาร์คแล้ว แจ็คสันยังเป็นผู้ชายที่น่าดึงดูดมากอีกคน ท้ายที่สุดไม่มีใครจะไม่ชอบผู้ชายที่ร่ำรวยและหล่อเหลาชายคนนั้นทำท่าทางไร้อารมณ์ให้เธอขึ้นไปบนรถ แอรี่เปิดประตูรถด้านผู้โดยสารด้วยความดีใจและเข้าไปข้างใน “ไม่เจอกันตั้งนานเลยนะแจ็คสัน! ว่าไง?"แจ็คสันเป็นผู้ชายที่ไม่เคยแตะต้องผู้หญิงของเพื่อนสนิทของเขา ในอดีตเขาเคยสุภาพกับแอรี่เพียงเพราะเห็นแก่มาร์ค เหตุผลที่เขามาเยี่ยมอย่างกะทันหันคือเพื่อค้นหาทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับทิฟฟานี่จากแอรี่ “บอกทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากที่อีธานมาหาคุณ”ใบหน้าของเธอดูผิดหวังเมื่อเธอตระหนักว่าแจ็คสันไม่ใช่ผู้ชายที่ยอมให้เธอทำตัวเหมือนเด็กน้อยเวลาอยู่รอบตัวเขาอีกต่อไป เขาเลือกเข้าข้างแอเรียนและทิฟฟานี่ เธอน่าจะรู้ว่า ทันทีที่มาร์คทิ้งเธอ เธอจะถูกไล่ออกจากแวดวง“ถ้าฉันไม่อยากบอกคุณล่ะ?” แอรี่เปลี่ยนทัศนคติและน้ำเสียงของเธอ ทำไมแอเรียนและทิฟฟานี่มักจะเป็นจุดสนใจในขณะที่เธอต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง?แจ็คสันกดปุ่มและล็อคประตู “คุณไม่อยากบอกผมเหรอ?
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง